Group Blog
 
All blogs
 

เรียนญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

เรื่องที่สรุปลงมาเขียนนี่เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ทำไปแล้ว เรามีเวลาอยู่หน้าคอมมาก คิดว่าการเรียนภาษาออนไลน์น่าจะเป็นไปได้ แต่ติดที่ว่า เราไม่มีเน็ตความเร็วสูงที่บ้านนี่สิ มาที่ทำงานก็ไม่มีเวลาขนาดนั้น ส่วนใหญ่จะเป็น search เพื่อหาข้อมูลมากกว่าน่ะค่ะ

1. เริ่มแรกเลยนะคะ เคยเดินร้านหนังสือแล้วเห็นหนังสือเรียนภาษาต่างๆ ด้วยตัวเอง ไอ้แบบที่มีซีดีประกอบอ่ะ คิดว่า เราน่าจะลองซื้อมาอ่านดูก่อน ได้เล่มนี้มาค่ะ



Hi! Japan 1
เนื่องจากคำโปรยด้านหลังน่าสนใจมาก ตอนได้มา เปิดๆ เล่น หน้าแรกเป็นเรื่องตัวอักษร ฟังชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ก้อฟังไปเขียนภาษาไทยไป จดเป็นดินสอไว้ที่คำนั้นๆ



เปิดอ่านตัวอักษร คำศัพท์ พอถึงบรรทัดไหน ก็หยุดซีดีไว้ เปิดกลับไปหน้าตัวอักษรแล้วก้อเขียนคำอ่านเป็น romanji ไว้ข้างบน ช่วงนี้เป็นช่วงที่ยากมาก เพราะยังจำตัวอักษรไม่ได้ ก็ต้องเปิดกลับไปกลับมา...เห่อได้สัก 3 เดือน ก็วางพับไป ศัพท์จำได้บ้างคำที่เป็นคำแรกๆ ของหนังสือ

ตอนที่หัดเองก็ว่ายากแล้วนะ สุดท้ายก็กลับมาตายรัง Hi! Japan นี่แหละ มันอ่านได้ด้วยตัวเองจริงๆ (ถึงแม้จะไม่เหมือนครูสอนก็ตามเถอะ)



ภาคของการคัดตัวอักษร ก็ซื้อสมุดคัดเอาไว้เป็นตัวอย่างเล่มนึง หัดคัดในกระดาษเรื่อยๆ เปื่อยๆ ไป ไม่ได้มีครูสอนนิ ผิดถูกอย่างไร ก็ดูๆ จำๆ สังเกตเอา




อ้อ !! ช่วงนั้น เราเปิดหาข้อมูลเรียนด้วยตัวเองในเน็ตด้วย ก็โหลดตัวอักษรญี่ปุ่นเอาไว้ติดฝาบ้าน อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง เอาไว้มองๆ

2. หลังจากไปเที่ยวญี่ปุ่นกลับมาแล้ว เริ่มรู้สึกว่า ถ้าเราอ่านคำญี่ปุ่นเป็นบ้าง ชีวิตคงสบายขึ้น ช่วงนั้นซื้อหนังสือเที่ยวญี่ปุ่น โตเกียวไว้หลายเล่มเหมือนกัน ว่างๆ จะมานั่งรีวิว

ก็เอาหนังสือ Hi! Japan เล่มเดิมของเรามาเปิดๆ ดู หัดใหม่ตั้งแต่ต้น เริ่มอ่านตัวอักษรมากขึ้น เริ่มอ่านคำง่ายๆ กระดาษ ฉลากของเครื่องสำอาง ขนม ที่มาจากญี่ปุ่นก็เอาเก็บไว้หมดเลย คิดว่า สักวัน คงมีวันที่เราอ่านได้รู้เรื่อง (ขนม หรือเครื่องสำอาง มีตัว hiragana, katagana และ kanji เต็มไปหมด อ่านยังไงก็ไม่ออก)
ช่วงนี้มีหนังสือซื้อมาประกอบเพิ่มเลย เช่น



รวมคำศัพท์ มินนาโนะ นิฮงโกะ เอาไว้เปิดอ่านดู มีทั้งคำศัพท์เรียงตามอักษร ศัพท์เป็นหมวดหมู ท้ายเล่มมีเหมือนดิค Romanji เราอ่าน หรือได้ยินคำ romanji มาอย่างไร จะมีเลขหน้าไปหน้าที่มีคำศัพท์ หนังสือนี้ดีมากๆ เลย



หนังสือเรียน มินนาโนะ นิฮงโกะ พื้นฐานเล่ม 1 ตอนซื้อไม่ได้เปิดดูข้างใน มันเปิดไม่ได้นี่ เห็นเป็นยี่ห้อ สสท. กลับมาบ้าน ลมแทบจับ หนังสือเป็นญี่ปุ่นเกือบหมด หนังสือเรียนจริงๆ ที่ต้องมีครูสอน ... มีซีดี กับแบบฝึกหัดด้วย เห็นแล้วเหนื่อย เลยเอาเก็บพักไว้ก่อน ไปอ่าน Hi! Japan เหมือนเดิม




หัดพูดญี่ปุ่น พร้อมไฟล์ mp3 อันนี้ดูยาก ฟังยากไปนิดนึง เหมาะเอาไว้เปิดคลอตอนขับรถ ฟังเพลินๆ แต่เปิดไปอ่านไปยากเหมือนกัน ตัวหนังสือมันเล็ก



เรียนคำศัพท์ อันนี้ก้อซื้อไว้อ่านวิธีการออกเสียง นอกนั้นเป็นคำศัพท์ ถ้าเรียนที่โรงเรียนแล้ว อันนี้คงไม่ต้องซื้ออ่ะ นอกจากอยากจะขยันท่องศัพท์เป็นพิเศษ เราเอาไว้พกติดตัวเวลานั่งว่างๆ ไม่มีอะไรอ่านเล่น

การหัดเรียนเองของเราช่วงนี้ พยายามให้เวลากับการฟังซีดี พร้อมเปิดหนังสืออ่านไปด้วย วันละชั่วโมง สองชั่วโมง ปกติ ถ้าไม่ได้ทำอะไร มันก้อเพลินๆ เวลาผ่านไปเร็วมาก รู้สึกว่าไม่ได้ยากเลย อ่านน่ะพอได้แล้ว แต่ว่าแปลว่าอะไร นั่นอีกเรื่องหนึ่ง
ตอนนี้เราหัดอ่าน หัดเขียนเอง พอจะอ่าน และเขียน hiragana ได้แล้ว ... katakana ยังไม่ได้ลองอ่านเลย ว่างๆ ก็เปิดอักษร ลองผสมคำเป็นชื่อ นามสกุล ชื่อเล่นของตัวเอง เป็น katakana ตามความเข้าใจของเราไป...

แล้วต้นปีนี้เอง เราเลยหาที่เรียนภาษาญี่ปุ่นจริงจังสักที อักษร katakana เลยยังไม่ได้เริ่ม กะว่าไปเรียนเอาในห้องเรียน (จริงๆ แล้ว เราฝึกไปมากๆ ยิ่งเป็นผลดีนะคะ เรียนกับโรงเรียนวันละไม่กี่ชั่วโมง ที่เหลือต้องตัวเราเองช่วยเยอะเลยค่ะ)
ตอนหน้า จะเริ่มเข้าโรงเรียนกันแล้วค่ะ




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2553 12:03:45 น.
Counter : 3583 Pageviews.  

ที่มาที่ไป กับการเริ่มต้น


สวัสดีค่ะ เราไม่ได้เขียนบลอคนานมากๆ ละ จริงๆ บลอคเปิดเพื่อใช้ในงาน แต่พอทำเข้าจริงๆ เรื่องงานไม่ควรปนกับเรื่องส่วนตัว เลยไม่ได้เขียนต่อ ตอนนี้อยากจะเขียนเรื่องที่เป็นของตัวเราจริงๆ สักที เลยขอเขียนเรื่องที่กำลังสนใจอยู่แล้วกัน

เราเป็นคนชอบเรียนภาษา ถนัดเรียนภาษา การใช้ภาษาอังกฤษไม่ถึงกับ expert แต่ก็ไม่มีปัญหา เคยคิดไว้นานแล้วว่าจะเรียนภาษาที่สามต่อ แต่ยังไม่ได้เริ่ม
นิสัยส่วนตัว ==> เวลาจะไปเที่ยวประเทศไหน จะพยายามศึกษาภาษาของประเทศนั้นไปก่อนบ้าง เพื่อไว้สื่อสารง่าย ตอนไปเยอรมัน ก้อซื้อหนังสือมาหัดพูดเอง พอจะพูดตัวเลขเพื่อสื่อสารได้...

ส่วนประเทศญี่ปุ่น ก็เป็นประเทศที่ใฝ่ฝันอยากจะไปเที่ยวมานาน แต่เพิ่งจะมีโอกาสได้ไป ทั้งไปกับทัวร์ และไปเอง ... ความรู้สึกที่ได้สัมผัสประเทศนี้ บอกได้เลยว่า ชอบมาก การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ถ่อมตัว ความสะดวกสบายของการใช้ข้อมูล เป็นสิ่งที่ทำให้หลงรักประเทศนี้มากๆ

เราเริ่มซื้อหนังสือหัดเรียนภาษาญี่ปุ่นมาเมื่อปี 51 กะว่าที่บ้านจะไปเที่ยว หัดอ่าน เขียนอักษร แต่ก้อร้างๆไป เพราะปีนั้นอดไปญี่ปุ่น...เก็บหนังสือขึ้นหิ้งไป

ปีที่แล้ว ปี 52 ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นสมใจ...แต่ไม่ได้หัดภาษาไปเลย มัวแต่เตรียมรีวิวที่ท่องเที่ยว (ขลุกอยู่ห้อง blue planet นานมาก) จนกลับมาจึงเริ่มมีความคิดอะไรบางอย่าง....

เรียนภาษาญี่ปุ่นละกันเรา !!!!

บล็อกเรา รวมๆ จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ตอนที่ฝึกเรียนเอง และก็บทเรียนที่ไปเรียนแต่ละสัปดาห์ละกันนะคะ




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2553 23:44:35 น.
Counter : 335 Pageviews.  


คุณคนที่ใส่เสื้อสีชมพูนั่นน่ะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นชาวพันทิปที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ห้องโต๊ะแป้งนะคะ รักเครื่องสำอาง รักการช้อปปิ้ง กาแฟ เค้ก ท่องเที่ยวและถ่ายรูป

ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ
Background.MyEm0.Com
Friends' blogs
[Add คุณคนที่ใส่เสื้อสีชมพูนั่นน่ะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.