Love is a good thing, but it's who you choose to give it to and knows how to cherish that love.
Group Blog
 
All blogs
 

ลิงกับจระเข้


credit : www.familyweekend.co.th







 

Create Date : 21 มกราคม 2552    
Last Update : 21 มกราคม 2552 14:57:03 น.
Counter : 1012 Pageviews.  

วัวขาวหางดำ

วัวขาวหางดำ


วัวตัวหนึ่งมีสีขาวทั้งตัว แต่มีสีดำติดอยู่ตรงปลายหางนิดหนึ่ง ควายอีกตัวมีสีดำทั้งตัว ทั้งวัวและควายสองตัวนี้ต่างก็อยู่ในคอกเดียวกันและเป็นเพื่อนรักกันมานาน
วันหนึ่งควายพูดกับวัวว่า...
“นี่ วัวจ๋า ฉันมีเรื่องอยากบอกเธอมานานแล้วล่ะ แต่กลัวเธอจะว่าเอา”
วัวบอกควายว่า “มีอะไรหรือควาย เราเป็นเพื่อนกันนะ เพราะฉะนั้นพูดมาได้เลยจ๊ะ”
ควายจึงโล่งใจ และพูดขึ้นว่า “นี่แน่ะวัว ตัวเธอน่ะมีสีขาวสวยงามมากจริงๆนะ สวยกว่าวัวทุกตัวที่ฉันเคยเห็นเลยล่ะ เสียอยู่หน่อยหนึ่งเท่านั้นเอง
“อะไรหรือ” วัวถาม
“ก็ปลายหางของเธอน่ะดำปี๋เลย ดูแล้วไม่สวย เธอไม่น่าจะมีสีดำตรงนั้นเลยนะ”
วัวบอกควายว่า “ก็จะให้ทำอย่างไรล่ะจ๊ะควาย สีดำตรงนั้นมันติดตัวฉันมาตั้งแต่เกิดแล้วนี่นา”
“ก็นั่นน่ะสิ ไม่รู้จะมีมาทำไมนะ ทำให้เธอเป็นวัยที่มีตำหนิ ไม่สวยเลยล่ะ” ควายยังแสดงความคิดเห็นต่อ ส่วนวัวไม่ได้พูดอะไรอีก มันก้มลงเล็มหญ้า
หลังจากวันนั้น ควายก็ยกเอาเรื่องปลายหางสีดำของวัวขึ้นมาพูดทุกวัน
“สีดำตงปลายหางเธอนี่ไม่สวยเลยนะ”
“ดูกี่ทีๆ ก็เหมือนมีรอยตำหนิล่ะ”
“ถ้าเธอไม่มีรอยดำตรงปลายหาง เธอต้องสวยกว่านี้แน่”
“สีดำนั้นดำมากเลยนะ เธอไม่น่ามีมันเลยล่ะ”
ในที่สุดวัวก็ทนไม่ไหว พูดกับควายว่า
“พอที ทำไมเธอต้องมามองแต่จุดดำของฉัน ไม่สังเกตบ้างหรือไงว่า เธอน่ะดำหมดทั้งตัวเลย”

















เ ธ อ ทั้ ง ห ล า ย. . .


คนเราก็มักเป็นอย่างควายในเรื่องนี้ คือเมื่อมองเห็นแต่จุดดำหรือข้อผิดพลาดของคนอื่นมากกว่าจุดดีๆ หรือสิ่งดีๆ ในตัวเขา ที่แย่กว่านั้นคือคนแบบนี้มักจะไม่ค่อยย้อนมองตนเอง จึงไม่รู้ว่าตนเองมีส่วนที่เป็นสีดำมากกว่าและแย่กว่าจุดดำเล็กๆ ที่คนอื่นมีเสียอีก คนเรานั้นไม่มีใครดีพร้อมหรอก ทุกคนต่างก็มีจุดบกพร่องและเรื่องไม่ดีเล็กๆน้อย แซมอยู่ในตนเอง ไม่เว้นแม้แต่ตัวเรา ถ้าเขาเป็นคนดี การคบเขาก็เป็นเรื่องที่ถูกที่ควรแล้ว ส่วนข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ นั้น เมื่อสนิทชิดเชื้อพอที่จะเตือนกันได้ ก็ค่อยเตือนเขาให้ปรับปรุง ซึ่งถือเป็นหน้าที่หนึ่งของเพื่อนแท้ จำไว้ว่าอย่าเพิ่งประเมินใครในแง่ร้ายจนกว่าจะได้รู้จักคนๆ นั้นจริงๆ เพราะเธออาจจะเสียโอกาสที่จะได้รู้จักคนดีที่สุดในชีวิตไปเลยก็ได้...

เธอก็รู้นี่ว่าในชีวิตของเรา จะมีโอกาสเจอคนดีๆ อย่างนั้นได้สักกี่ครั้งกันเชียว





 

Create Date : 19 มกราคม 2552    
Last Update : 19 มกราคม 2552 16:37:12 น.
Counter : 427 Pageviews.  

ขออีก 1 นาที

ขออีก 1 นาที   Smiley


          ครอบครัวหนึ่งมีลูกชายชื่อ "เจี๊ยบ" เป็นเด็กที่ไม่ค่อยกระตือรือร้นทำอะไรชักช้า และค่อนข้างขี้เกียจ ทุกๆ เช้าเมื่อแม่เรียกให้ตื่นไปโรงเรียน เจี๊ยบจะงัวเงียบอกว่า "ขออีก 1 นาทีนะครับแม่" พอลงมาข้างล่างแทนที่จะรีบกินข้าวเช้าก็ไปเปิดโทรทัศน์นั่งดูการ์ตูน  พอแม่เรียนกให้มากินข้าวก็บอกว่า "เดี๋ยวแม่ ขออีก 1 นาที" จนแม่เอ่ยปากว่าจะทำโทษนั้ล่ะ เจี๊ยบจึงจะมานั่งกินข้าวที่โต๊ะอาหารได้สักที


          "คอยดูเถอะเจี๊ยบ" พ่อซึ่งมองลูกชายคนเดียวอย่างระอาพูดขึ้น "สักวันแกจะต้องเจอเรื่องที่แม้ 1 นาทีก็ให้ไม่ได้ ถ้าถึงวันนั้นแล้วแกจะรู้สึก"


          การขอเวลา 1 นาททำให้เจี๊ยบไปโรงเรียนสายทุกวัน และการทำโทษให้วิ่งรอบสนามก็ไม่ได้ทำให้เจี๊ยบจดจำเลยแม้แต่น้อย  เขากล้าต่อรองเวลาแม้แต่ครู


          "ไปเข้าห้องเรียนได้แล้วเจี๊ยบ"  ครูร้องเตือนเมื่อเห็นเจี๊ยบยังเดินเอ้อระเหยลอยชายอยู่ในสนามหญ้า ทั้งๆ ที่ออดเรียกเข้าชั้นเรียนดังไปพักหนึ่งแล้ว


          "ขออีก 1 นาทีครับครู" เจี๊ยบบอกโดยไม่ทุกข์ร้อน


          วันหนึ่งเป็นวันหยุด แม่บอกเจี๊ยบตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าจะไปเยี่ยมยายที่บ้านสวน เจี๊ยบชอบบ้านสวนของยายจึงขอตามแม่ไปด้วย แต่พอรุ่งเช้าเจี๊ยบก็ตื่นสาย ไม่ว่าแม่จะขึ้นไปปลุกกี่ครั้ง เจี๊ยบก็พูดว่า "ขออีก 1 นาที...ขออีก 1 นาที"  ตลอด จนในที่สุดแม่ก็ตัดสินใจไปบ้านสวนของยายคนเดียว เพราะถ้าออกช้ากว่านั้นจะหารถโดยสารไปยาก


          สักพักเจี๊ยบก็เดินงัวเงียลงมาจากห้องนอน เมื่อไม่เห็นแม่อยู่ในบ้านจึงถามพ่อว่า "แม่ล่ะครับพ่อ"


          "แม่ไปบ้านยายแล้ว" พ่อบอก


          "อ้าว ทำไมไม่รอผม" เจี๊ยบร้อง เขาอยากไปบ้านสวนของยายมาก


          "แม่รอแกจนรอไม่ได้อีกแล้ว รู้รึเปล่าว่าแค่ 1 นาทีที่แกขอก็ทำให้แม่ตกรถได้ นี่ยังไม่รู้เลยว่าแม่จะได้นั่งรถอะไรไป ถ้าโชคดีก็ได้ไปรถสายประจำ แต่ถ้าไปไม่ทันก็ต้องขึ้นรถที่วิ่งเป็นทางผ่าน แล้วรถสายนั้นน่ะขับอันตรายจะตายชัก" พ่อบ่นเจี๊ยบด้วยความเป็นห่วงแม่


          "แหม ไม่แย่ขนาดนั้นหรอกน่าพ่อ" เจี๊ยบบอก


          ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงขณะที่เจี๊ยบกำลังอาบน้ำอยู่ เขาได้ยินเสียงพ่อร้องเอะอะอยู่ชั้นล่าง จึงรีบวิ่งลงมาดู หน้าของพ่อเขาซีดขาวราวกับกระดาษ


          "รถที่แม่นั่งประสบอุบัติเห แม่อาการสาหัส เราต้องไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้" พ่อพูดเสียงแตกพร่า


          เจี๊ยบตกใจจนหน้าซีดตามพ่อไปอีกคน  เขารีบขึ้นไปแต่งตัวโดยไม่มีคำว่า "ขออีก1 นาที" เหมือนเช่นทุกครั้ง


         ทันที่ที่สองพ่อลูกไปถึงโรงพยาบาลก็ช่วยกันตามหาแม่ในห้องฉุกเฉิน มีคนเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้หลายคน นอนร้องโอดโอยอยู่บนเตียง พ่อกับเจ๊ยบเดินเข้าไปดูหน้าคนเจ็บที่แต่ละเตียงด้วยความใจหาย  แล้วก็พบแม่นอนแน่นิ่งอยู่ที่เตียงในสุด เลือดสีแดงไหลอาบอยู่เต็มหน้าแม่ และพยาบาลกำลังจะเข็นแม่ไป


          "แม่ แม่" เจี๊ยบร้องเรียกแม่เสียงดังลั่น น้ำตาเอ่อล้นทะลัก บุรุษพยาบาลเข้ามากันเขาไว้เพราะเกรงว่าจะกีดขวางทางของรถเข็น


          "แม่ แม่ ตื่นสิแม่ ผมอยู่นี่ อยู่ตรงนี้" เจี๊ยบยังคงร้องเรียกแม่เขาต่อไป และทุบตีบุรุษพยาบาลที่จับตัวเขาไว้ "ปล่อยผม ผมจะไปหาแม่"


          พยาบาลคนหนึ่งหันมาบอกพ่อของเจี๊ยบซึ่งยืนกุมมือแม่อยู่ว่า "เราต้องพาภรรยาของคุณไปผ่าตัดด่วน เธอเสียเลือดไปมากจากอุบัติเหตุครั้งนี้"


          คำพูดนั้นทำให้เจี๊ยบรู้ทันทีว่าเขาจะไม่ได้เห็นหน้าแม่อีก "เดี๋ยวครับขอเวลาให้ผมอยู่กับแม่สัก 1 นาที ได้โปรดให้ผมได้บอกแม่ว่าผมรักแม่ ให้ผมได้กอดแม่อีกสักครั้ง" เจี๊ยบร้องอ้อนวอนอย่างน่าเวทนา


          แต่ไม่มีใครฟังเสียงของเด็กชายเจี๊ยบ พยาบาลและบุรุษพยาบาลเข็นเตียงของแม่เข้าห้องผ่าตัดและไปในนั้นเป็นเวลานาน ก่อนที่แพทย์จะออกมาแจ้งข่าวร้าย...แม่ของเจี๊ยบเสียชีวิตในระหว่างการผ่าตัด


          เจี๊ยบมารู้อีกในภายหลังว่ารถคันที่แม่นั่งไปประสบอุบัติเหตุนั้นไม่ใช่รถแมล์สายประจำไปบ้านยาย แต่เป็นรถสองแถวที่ขับโดยคนขับรถที่ขาดความรับผิดชอบ คนๆ นั้นอยากได้เงินมากๆ แต่ไม่สนใจความปลอดภัยของผู้โดยสาร  แม่ของเจี๊ยบมาคนสุดท้ายจึงต้องนั่งเบียดอยู่นอกสุด และกระเด็นออกไปไกลเมื่อรถประสบอุบัเหตุ...พ่อโกระคนขับรถมาก บอกจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แต่เจี๊ยบไม่โกรธคนขับรถเลย เขาโกรธและเกลียดตัวเอง ด้วยเพิ่งเข้าใจว่าเวลา 1 นาที่ที่เขาเคยขออย่างพร่ำเพรื่อนั้นมีค่ามากมายเพียงไร เพราะ 1 นาทีที่ได้มาในวันนี้ต้องแลกกับเวลาทั้งหมดในชีวิตของแม่ ถ้าเจี๊ยบตื่นทันทีที่แม่เรียก ถ้าเขาไม่ขอแค่ 1 นาทีเพื่อให้ได้นอนต่อ แม่ก็คงไม่ตกรถประจำทางจนต้องไปนั่งรถปีศาจคันนั้น กระทั่งถึงคราวที่เจี๊ยบต้องการเวลาจริงๆ เขากลับไม่มีแม้เพียง 1 นาทีที่จะได้อยู่กับแม่...ไม่มีแม้เพียงวินาทีด้วยซ้ำไป...ไม่มีเลย...











=

                                                 เ ธ อ ทั้ ง ห ล า ย ...



          เงยหน้ามองเข็มวินาทีอันเล็กๆ   ที่เดินอยู่ในนาฬิกาสิ...นั่นล่ะ  คือ
เวลาในชีวิตของคนเรา
        ทันทีที่เธอคิดว่า 'เดี๋ยว ขอเวลาอีกหน่อย' หรือ 'เดี๋ยว เอาไว้ทำวันหลัง'
รู้ไว้เลยว่าเธอกำลังสูญเสียสิ่งดีๆ    ในชีวิตไปมากมาย    คนที่ตื่นแต่เช้ามา
ทำงานย่อมทำงานได้มากกว่าคนนอนตื่นสายอย่างไม่ต้องสงสัย  เด็กที่ทำ
การบ้านเสร็จมาจากโรงเรียนก็ได้วิ่งเล่นในตอนเย็นกับเพื่อนอย่างเต็มที่ คน
ที่รู้คุณค่าของเวลามักได้เปรียบคนอื่นและเสียสิ่งดีๆ  ในชีวิตไปน้อยมาก
แน่นอนว่าชีวิตของคนแบบนี้ย่อมปรีดิ์เปรมไปด้วยความสุขสมหวัง
          เข็มวินาทีเดินเร็วกว่าจังหวะการหายใจเสียอีก ชีวิตของคนเราก็เป็น
อย่างนั้น มักมีอะไรเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา  และบางทีก็
เกิดขึ้นเร็วเสียจนตั้งตัวไม่ทัน     เราไม่มีทางรู้เลยว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร
แต่ถ้าวันนี้เราไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่พูดว่า 'เดี๋ยว' และใช้เวลาอย่างคุ้มค่า
ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นเช่นไร เราก็ไม่กลัวที่จะรับมือกับมัน และไม่ต้องตั้งคำถาม
ที่ไร้ประโยชน์ในภายหลังว่า "เมื่อวานเรามัวทำอะไรอยู่"









 

Create Date : 13 มกราคม 2552    
Last Update : 18 มกราคม 2552 10:22:03 น.
Counter : 221 Pageviews.  


iamlily
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




hits
Friends' blogs
[Add iamlily's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.