แชร์ประสบการณ์ Work&Travel อันยากจะลืมเลือนค่ะ Vol.1

สวัสดีค่ะ จริงๆเนื้อหาในกระทู้ก็เก่าพอสมควร เนื่องจากกลับมาตั้งแต่ เดือนมิถุนายนแล้ว แต่ว่าเพิ่งจะพอมีเวลาน่ะค่ะ ก็เลยมาเล่าประสบการณ์ที่ได้พบเจอให้ทุกท่านฟังนะคะ


เนื่องจากตอนที่เราได้ไป เวิร์ดที่อเมริกา ได้ความรุ้ และอะไรต่อมิอะไรจากในห้องนี้เยอะพอสมควร ก็เลยคิดว่าอยากทำอะไรให้มีประโยชน์ต่อคนอื่นบ้าง ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมากก็ตามนะคะ


เกริ่นมานาน ขอเข้าเรื่อง เลยละกานค่ะ
จขกท. ตอนแรกสมัครไปเวิร์คกะทาง oversea น่ะค่ะ แต่เนื่องจากว่าการลงทะเบียนเลือกที่ทำงานทางอินเทอร์เน็ตของกลุ่มเรา ไม่เรียบร้อยดีน่ะค่ะ ประมาณว่า ทั้งกลุ่มเนี่ยมี อยู่ 6 คนค่ะ แต่ว่าได้ที่ทำงานที่ตอนแรกต้องการเนี่ย เพียงสองคน เราก็เลยย้าย เอเจนซี่ค่ะ ไป กับทาง acadex แทน


สถานที่เลือกทำงานของพวกเราก็คือ ร้าน IHOP Restaurant ค่ะ ตั้งอยู่ที่เมือง Charlottesville รัฐ เวอร์จิเนียค่ะ เนื่องจากว่าเพื่อนของ จขกท เข้าไปดูเว็บไซด์ของทางร้านแล้ว อยากกินน่ะค่ะ เหตุผลตะกละสุดๆ ลองเข้าไปดูก็ได้นะคะ //www.ihop.com


ทุกขั้นตอนการสมัครของพวกเราก็เป็นไปได้ด้วยดีค่ะ ไม่มีปัญหาอะไรราบรื่นมาก แต่ด้วยความขี้เกียจของพวกเราค่ะ ( แนะนำว่าอย่าทำอย่างนี้นะคะ ) จึงไม่ได้หาตั๋วเครื่องบินเองอย่างที่คนอื่นเค้าทำกัน พวกเราเลยฝากทาง agency จองให้อะไรเรียบร้อยเลยค่ะ ซึ่งทำให้เกิดปัญหามากมายเลยค่ะ ไว้จะเล่าให้ฟัง ตอนช่วงเดินทางกลับละกันนะคะ


Eva air ค่ะ 53000 บาท จาก BKK >> TAIPEI >> SANFRAN >> RICHMOND ค่ะ เพราะว่าเราเลือกที่จะ stop over ที่ sanfrancisco ค่ะ กะว่าจะไปเที่ยวก่อนกลับ จะได้ประหยัดคาเครื่องบินไปในตัว


จะไม่ขอกล่าวถึงรายละเอียดของที่จำเป็นต้องเตรียมไปนะคะ เพราะว่ากระทุ้อื่นก็คงมีคำแนะนำไว้อยุ่แล้ว เพราะทุกคนก็เตรียมไปเหมือนๆกันน่ะค่ะ


ส่วนที่พัก พวกเราก็ของ่ายไว้ก่อนอีกค่ะ ฝากทาง agency จองให้ค่ะ เป็น hotel 3 ดาว ไม่ไกลจากที่ทำงานสักเท่าไรนัก รู้สึกว่าจะประมาน 400 $ ต่อห้องต่อสัปดาห์ค่ะ ซึ่งกลุ่มของเราไปกัน ชายสาม หญิงสามค่ะ เลยลงตัว


เริ่มปัญหาแรกที่เกิดขึ้นเลยนะคะ เมื่อเหยียบย่างลงสุ้พื้นดินเมือง richmond ค่ะ โทรไปหานายจ้างค่ะ เพื่อให้เค้ามารับ แต่ปรากฏว่าเค้าไม่สนใจค่ะ เค้าบอกว่าให้เราหาทางมาเอง ไอ่เรากะเหรี่ยงหกตัวก็หงอยสิคะ เพราะว่าจากเมือง richmond ไป charlottesville ก็ประมานสอง ชม น่ะค่ะ ก็เลยนั่ง taxi 2 คัน เค้าเหมาค่ะ 200 $ ต่อคัน เค้าบอกว่าถ้ามิเตอร์เกิน 200 เค้าจะไม่คิดเงินเพิ่มค่ะ แต่อย่าลืมนะคะ มาอเมริกา ต้องทิปด้วย


แต่ก่อนขึ้น taxi ไป เนื่องจากว่ามีพี่อีกคนมาจากอีก เอเยนต์นึงติดมาด้วย กระเป๋าเดินทางโดน ตม. อเมริกาทำแตกค่ะ ก็เลยพาพี่เค้าไปเคลมที่เคาเตอร์ของ american airline ถ้าเพื่อนๆโดนอย่างนี้ก็ไปเคลมได้นะคะ เพราะเค้าส่งกระเป๋าเดินทางใหม่มาให้ ใบใหญ่กว่าเดิม แถมยี่ห้อดังด้วยค่ะ

มาพอถึงที่พักที่จองไว้นะคะ RED CARPETS INN เป็นโรงแรม สาม ดาว ที่แพงพอสมควรเลยนะ แถมจากโรงแรม ก็ต้องเดินไปที่ทำงานด้วย ไม่มีทางอื่น หรือจะเป็นจักรยานก็พอไหว แต่ว่าเนื่องจากมันเป็นโรงแรมไง อะไรๆก็ไม่สะดวกเลยค่ะ จะต้มมาม่าก็ต้องไปที่ lobby ขอยืมใช้ไมโครเวฟ ถ้าหิวตอนดึกๆก็ลำบากอีก ช่วงแรกๆที่ลำบากค่ะ

แล้วเราก็ไปรายงานตัวที่ร้าน ihop เลยค่ะ เดินไป ไกลพอสมควร ทางร้านก็ต้อนรับอย่างดีค่ะ มีอาหารฟรีให้ด้วยมื้อนึง ให้เลือกสั่งเอาจากเมนูเลยค่ะ

แล้วเค้าก็ให้เรากรอกเอกสารต่างๆค่ะ ให้เมนูร้านมา แล้วก็ให้คู่มือการทำงานมาค่ะ เราไปถึงวันอังคารมั้ง ถ้าจำไม่ผิด เนื่องจากว่าเราไปกันเยอะไงคะ เค้าก็เลยแยกกะทำงานค่ะ แล้วก็ให้เริ่มคนละวัน ช่วง training ได้ ประมาน 5 $ กว่าๆค่ะ ต่อหนึ่ง ชม แล้วทางร้านก็จะมี employee meal ให้ค่ะ โดยหักจากค่าแรงซึ่งเดิมเป็น 2.13 $ หักไป 0.5 $ ต่อชม ค่ะ เน้นว่าต่อชม

ลืมอธิบายไปค่ะ อาจจะเห็นว่าค่าแรงนี่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ก็เพราะว่าเราเลือกมาทำงานเป็น server ค่ะ ทุกคน rate เท่านี้หมด ทางร้านจะมีโตีะประมาน 50 โต๊ะ ได้มั้งคะ แบ่งการทำงานออกเป็นสามช่วง 9 -3 , 3-10 , 10- 6 ค่ะ เพราะทางร้านเปิด 24 ชม ค่ะ แล้วก็จะแบ่งเขตการดูแลรับผิดชอบของ server แต่ละคนค่ะ ถ้ากะเช้าก็จะแบ่งถี่หน่อย ประมาณคนละ 3 โต๊ะ แต่ของตัวเรา ทำกะบ่าย.ค่ะ ได้ 6 โต๊ะ เนื่องจากมีจำนวน serverน้อยกว่าค่ะ แล้วเราได้โซนไหน ลูกค้าตรงโซนเรา เราต้องเป็นคนดูแลทั้งหมดค่ะ ได้ทิปเท่าไรก็เท่าน้น เก็บมาได้หมดเลยค่ะ

ตอนช่วงเทรนนิ่งก็ไม่มีอะไรค่ะ ทุกคนยังปรับตัวด้านภาษาไม่ค่อยได้ เค้าให้เราเดินตามเด็กเสิร์ฟฝรั่งค่ะ คอยเรียนรู้งาน ช่วยได้มากเลยค่ะ เนื่องจาก trainer ของเราเก่งค่ะ ฉายาเจ๊ตาคม เราแอบเรียกอย่างนั้นน่ะค่ะ เพราะ she แก สวยค่ะ ตานี่กรีดมาคมทุกวันเลยค่ะ เราก็เลยเลียนแบบ step เค้าค่ะ

คือ 1. เมื่อลูกค้านั่งที่โต๊ะ เราก็เข้าไป Hi ! How are you doing? My name is ... . I will be your server today ค่ะ แล้วเค้าก็จะทักตอบกลับมา เราก็ถามต่อไปค่ะ what would you like to drink ? ซึ่งตอนที่ลูกค้านั่งโต๊ะ hostess เค้าจะวาง เมนู ไว้ให้แล้วนะคะ

2. พอลูกค้าสั่งน้ำเรียบร้อย เราก็ไปทำตามที่เค้าสั่งค่ะ หยิบแก้ว กดน้ำแข็ง เติมน้ำ กลับมา เสิร์ฟค่ะ แล้วถามต่อว่า Are you ready to order ? แต่ถ้าดูแล้วเค้ายังเลือกไม่ได้ก็ถามเค้าไปค่ะ ว่า Or you need some more minutes ?

3. ถ้าเค้าพร้อมเราก็พร้อมจดค่ะ แต่ถ้าไม่ เราก็ค่อยกลับมาใหม่ภายหลังค่ะ แต่ไม่ควรจะเร่งเร้าเค้ามากเกินไป เพราะเดี๋ยวเค้าวีนคะ

4. อาหารเสร็จเราก็พร้อม serve ค่ะ จากนั้นควรให้เค้าทานไปสักพอประมาณก็เข้าไปถามค่ะ everything is gonna be ok? เผื่อให้ดูว่าเราใส่ใจลูกค้านะ

5. จากนั้น ถ้าเค้าทานจะเสร็จแล้ว เราก็เอาบิลไปวางที่โต๊ะค่ะ แล้วเค้าก็จะทิ้งทิปไว้ให้เราบนโต๊ะ หรือ อาจจะให้กับมือ ถ้าเค้าปลืมเรา หรือ ก็อาจจะให้ใน เครดิตค่ะ ซึ่งจะมีช่องให้ลูกค้ากรอก ตอนจ่ายตัง ว่าจะให้เท่าไร แล้วพอเราเลิกงาน manager จะมาเอาเงินสดให้เองค่ะ

ที่กล่าวมาคือที่เราดูมาจาก trainer เรานะ แล้วก็เอาไปปรับปรุง ประยุกต์อีกที เพราะถ้าจะให้พูดแบบเดิมทุกโต๊ะๆ ก็เบื่อน่ะค่ะ แต่ก็ประมาณนี้แหละ

ตามปกติทางร้านจะให้เราเทรนเนอร์ 5 วันค้่ะ เพื่อนๆคนอื่นๆก็ได้เทรน 5 วัน แต่ตัวเราเทรนแค่ 3 วันเอง สงสัยเพราะเทรนเนอร์ขี้เกียจ และเ manager ขี้เกียจให้สอบหลายรอบค่ะ

คือพอพ้นการเทรน เค้าจะมีการสอบค่ะ ไม่ยากอะไร เพราะมีคุ่มือมาให้แล้ว อีกอย่าง คำถามก็เปน common sense น่ะค่ะ ประมาณว่า การตักน้ำแข็ง ทำไมถึงห้ามใช้แก้วตัก ถึงต้องใช้ที่ตักน้ำแข็ง อารายยังงี้ แล้วก็สอบเมนูค่ะ อันนี้ยาก max เมนูของร้านนี่เป้นล้านค่ะ ให้บอกส่วนประกอบทั้งหมดค่ะ แล้วก็จานที่ใช้ใส่ เพราะทางร้านใช้จานหลายแบบ แล้วเราก็ต้องเลือกใช้ให้ถูกค่ะมีทั้ง underliner , soup bowl , salad bowl , service plate ประมาณนี้ค่ะ แต่ว่าคุนเพื่อนฝรั่งทั้งหลายก็ใจดี ตอนสอบก็แอบเดินมาบอกบางข้อ สุดท้ายก็ผ่านค่ะ


พักจากเรื่องร้านอาหารนะคะ กลับมาที่ที่พักค่ะ ตอนนั้นเป็นสถานการณ์ตึงเครียดสุดๆค่ะ เริ่มตั้งแต่ตอนที่เราไปตามหาร้านซักรีดแถวที่พักค่ะ ขออ้างอิง Regina ค่ะ เป็นเจ้าของร้านซักรีดค่ะ ชาวไต้หวัน พอพวกเราเข้าไปสอบถามเค้าค่ะ เรื่องราคา เค้าก็เป้นกันเองสุดๆค่ะ เค้าถามว่า พวกเราเป้นคนไทยใช่ไหม มาทำ ihop ล่ะสิ พักที่ red carpet inn หรอ ที่นั่นน่ะ แพงสุดๆ เค้าน่ะรุจัก เด็ก work ปี่ที่แล้ว เค้าแนะนำที่อยู่ใหม่ให้ชื่อ autumn hill apartment คะ แต่ว่าไม่รับเด็กไทย เพราะว่าเด็กปีก่อนๆทำไว้แสบมากค่ะ มีเรื่องชกต่อยจนผนังห้องพัง พรมขาด เค้าเลยไม่รับเด็กไทย พอปีที่ผ่านมา เรจิน่าเค้าก็เลยแนะนำรุ่นก่อนว่า บอกไปว่าเป็นคนไต้หวัน เป็นญาติของเรจิน่า แล้วอย่าพูดภาษาไทย ไอ่เราก็เด็กกะเหรี่ยงค่ะ กล้าๆกลัวๆ เค้าก็ถามว่าเนี่ยลองไปเจรจาดู ส่งคนที่ฟังรู้เรื่องไปนะ ขอเป็น ผู้หญิงด้วยจะได้มีปัญหาน้อยกว่า แล้วก็บอกว่าอยู่แค่ 2 คนพอนะ ไม่งั้นเค้าจะคิดแพง เราก็ถูกส่งไปค่ะ แสร้งทำเป้นคนไต้หวัน ถามว่าตอนนั้นกลัวไหม ? กลัวมากค่ะ ว่าจะโดนจับได้ เราก็เข้าไปค่ะ michelle เป็นเจ้าหน้าที่ที่พาเราดูค่ะ ที่ apartmentนี้เยี่ยมไปเลยค่ะ ปลื้มมากๆ 2 ห้องนอน เพราะเราบอกไปว่าอยู่ สองคนค่ะ แต่ว่าทุกอย่างพร้อมหมด แล้วเราก็กลับไปประชุมกันค่ะ

วาระการประชุม ก็คือเรื่องของ เรจิน่า แหละค่ะ เพราะว่าเค้าดีเกินไปจนน่ากลัว เป็นใครก็ต้องหวาดระแวงจริงมั้ยคะ ตอนนั้นยังเคยมาโพสขอคำปรึกษาในนี้อยุ่เลย กลัวมากค่ะ กลัวหลายเรื่องทั้งเรื่องที่ไปโกหกเค้าว่าจะพักกันสองคน มีแต่ผู้หญิง แล้วยังเรื่องต้องหลอกว่าเป็นคนไต้หวันอีก เครียดมากค่ะ แต่ที่พักที่นั่นก็ดีกว่าที่นี่เยอะมาก แล้วถ้าเราจะไปอยู่ เราก็ต้อง break contact แล้วก็จะมีปัญหาอีก ค่ะ ก็เลยไปถาม manager ว่ามีที่พักไหนบ้างมั้ยที่ดีดี ทางmanager ก็ให้นามบัตรคนนึงมาค่ะ บอกว่าเป็นคนจีนที่เคยไปอยู่ในเมืองไทย น่าจะพอช่วยเหลือเทอได้นะ

พอกลับมาถึงที่พักค่ะ เราก็ถูกใช้งานอีกค่ะ โทรไป Mr.Chester ค่ะ เราก็อธิบายไปว่าเรามีปัญหายังไง มีเรื่องเรจิน่า แล้วเค้าก็ถามเราว่าเราพักที่ไหน ห้องอะไร เดี๋ยวอีก ชม เค้ามาหาค่ะ

พอวางสายไปปุ๊ป ช็อคค่ะ ชักศึกเข้าบ้านอีกแล้วชั้น เราก็เลยไปชุมนุมกันในห้องผู้ชายค่ะ รอเค้ามา และแล้วเค้าก็มาถึงคะ ตรงเวลาเด๊ะ เชสเตอร์ เป็นคนจีนที่เคยทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ทีเมืองไทยมาปีกว่าค่ะ มีลูกสาวบุญธรรมด้วย เป็นคนไทยค่ะ ทำงานแล้ว เชสเตอร์มีอาชีพเป็นนักบุญค่ะ เราจึงวางใจว่าเค้าไม่โกหกค่ะ รู้สึกดีใจมากๆค่ะที่ได้รูจัก คุนลุงคนนี้ ขอเรียกว่าคุณลุงละกันนะคะ ถ้าพวกเราไม่ได้รู้จักกับเค้าพวกเราคงแย่น่ะค่ะ

เค้าก็พูดจาตามประสานักบุญค่ะ ว่าเราไม่ควรโกหกนะ แล้วก็จะไปโกงเค้า เช่าห้องสองคน แต่อยุ่กัน เจ็ดคน น่ะมันไม่ได้ ผิดกฏหมาย พวกเราก็ไม่รุ้จะทำยังไงค่ะ ก็คุยกันหลายๆเรื่อง เค้าก็แนะนำนุ่น แนะนำนี่ เค้าก็บอกว่าที่เมืองนี้นะมี bus นะ ถ้าจะเดินทางก็สะดวก แล้วเค้าก็โทรไปถามทางบริษัท bus ค่ะ ว่า ถ้ามีบัตร isic มีส่วนลดอะไรมั้ย แล้วก็ได้ค่ะ เมืองนีเป้นเมืองมหาลัยค่ะ University f virginia ดังนั้น นักศึกษาขึ้นฟรีค่ะ คุยๆกันไปแล้วเค้าก็จากไปค่ะ ทิ้งพวกเราให้นั่งประชุมกันต่อว่าเอายังไง

วันรุ่งขึ้น ก็ตัดสินใจกันค่ะ โทรไปหา เชสเตอร์ ให้เค้าช่วยไปพูดทาง apartment ค่ะ เพราะเราติดปัญหาเรื่องเป็นคนไทยค่ะ แล้วก็สัญญา 6 เดือน คราวนี้เราไปแบบเปิดเผยค่ะ แต่ตัวเราไม่ได้ไปด้วย เพราะกลัวเค้าจำได้ค่ะว่าเคยมาแล้วแล้วบอกว่าเป็นคนไต้หวัน ส่งเพื่อนๆไปกะเชสเตอร์แทน ปรากฏว่า สำเร็จค่ะ นอกจากจะได้ที่พักห้องนั้นแล้ว ก็ยังได้ สัญญา 3 เดือนด้วยค่ะ เนื่องจากเชสเตอร์อธิบายให้เค้าฟังว่าเรามาโครงการแลกเปลี่ยนอยู่แค่ สามเดือน เอง แล้วอีกอย่างช่วงนั้น เศรษฐกิจมันก็ไม่ดีใช่มั้ยคะ เค้าก็เลยยอมด้วย ห้องที่เราได้นะคะ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีห้องครัว ห้องทานอาหารเย็น แล้วก็ห้องนั่งเล่นค่ะ ใหญ่มากๆ ที่สำคัญ มีเตาแก๊สกับตู้เย็นให้ด้วย 900 $ ค่ะต่อเดือน ไม่รวม น้ำ ไฟ โทรศัพท์ค่ะ


พอวันที่ต้องไปเซ็นสัญญาค่ะ เราก็เปลี่ยนลุคสุดฤทธิ์ ใส่แว่นกันแดดอันหนาๆ ทำผมใหม่ แต่ปรากฏว่า michelle จำได้ค่ะ แต่เจ๊ไม่ว่าอะไร คงเพราะตอนนั้นที่เค้าถามเรามามาจากไหนเราตอบว่า Taiwan แบบ ออกสำเนียงก้ำกึ่ง น่ะค่ะ มันจะคล้ายๆ Thailand นิดนึง จะต้องมีมัดจำด้วยค่ะ 1000 $ เค้าจะคืนให้หลังจากที่เราย้ายออกโดยส่งกลับมาให้ที่ไทยค่ะ

ค่าไฟ ค่าแก๊ส และ ค่าโทรศัพท์เค้าให้เราติดต่อเองค่ะ เราก็ถูกใช้งานอีกแล้วค่ะ กับเพื่อนผู้ชายอีกคนที่ภาษาพอๆกัน ไปนั่งคุยโทรศัพท์ค่ะ ถามรายละเอียด ต้องช่วยกันฟัง เพราะว่า การคุยโทรศัพท์ด้วยภาษาอังกฤษนี่ยากมากค่ะ เพราะมันจะไม่มีภาษามือไงคะ สุดท้าย เราก็มีใช้ค่ะ มีน้ำร้อนด้วยนะคะ ที่นี่ จ่ายอยู่ใน ค่าแก๊สค่ะ แล้วก็มีค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอเนต เนตเร็วค่ะ ขอย้ำ แล้วก้อต้องติดต่อไปรษณีย์อีก การเช่า apartment อยู่เองก้อลำบากอย่างเนี้ยแหละ แต่ก้อได้ประสบการณ์ดีนะคะ

รูปทื่พักตอนแรกค่ะ




ซูมมม



อพาร์ตเม้นค่ะ




Create Date : 29 ตุลาคม 2552
Last Update : 29 ตุลาคม 2552 20:28:47 น. 0 comments
Counter : 246 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 
 

iamdiablo
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add iamdiablo's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com