Group Blog
 
All blogs
 

DAY2::: Garden by the bay+Bakeria Restaurant

กลับมาแล้วค่า ตอนนี้สอบเสร็จแล้ว กลับมาประจำการที่บ้านเรียบร้อยค่า : )


ต่อจากคราวที่แล้วเลยเนอะ หลังจากที่ช้อปปิ้งที่ ViVo City เสร็จก็มด mrt อีกรอบเพื่อไป garden by the bay คราวนี้มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น!! ฮ่าๆ 

คือตอนที่กระโดดขึ้นขบวนรถ ประตูมันใกล้ปิดแล้ว ทีนี้แนนน้อยกระโดดทันพอดี แล้วประตูก็ปิดฉับ อ้าววว เอาแล้ววว ตอนนั้นได้แต่ทำตาพริบๆแล้วรีบชี้มือไปข้างๆ ปากพงาบๆบอกแนนน้อยว่า สถานนีหน้าๆ รอสถานนีหน้า แนนน้อยพยักหน้าว่าเข้าใจเราก็โอเคโล่ง แล้วก็นั่งรอขบวนต่อไป พอมาแล้วก็กระโดดขึ้น พอถึงสถานนีถัดไปก็เรียกแนน้อยกลับขึ้นขบวน 555 ตลกดีอ้ะ เกือบคลาดกันซะแล้ว ดีนะที่แนนน้อยอ่านปากออก ไม่อย่างนั้นนี่พลัดกันแน่ๆ  

ทางเดินของmrt สวยมากค่ะ ให้เข้าธีม อิอิ 

พอโผล่ออกมาปุ๊ป เจอแดดร้อนๆยามบ่ายนี่ไม่ไหวค่ะ รีบเดินอย่างเดียวเลยยย >< 

เห็น super tree grove อยู่ขวามือลิบๆ ซ้ายมือเป็น marina bay hotel 

เห็นเรือข้างบนใช่มั้ยคะ เราไม่ได้ขึ้นน้าา งบหมด 555 เอาไปกินขนมดีกว่าา 

อยู่ไม่ไกลแล้วรีบจ้ำเท้ากันอย่างไว เพราะเมื่อย+เหนื่อยมาก  
สวนต่างๆก็จะจัดเป็นของแต่ละประเทศค่ะ ติดๆกันไปเลย แต่เราสองคนเหนื่อยกันลแล้วร้อนด้วย อยากไปอยู่ในโดมเย็นๆใจจะขาด 55 

Chinese Garden ค่า มีแต่สีแดงๆ 

ฮัดช่าาา แนนโน้ยขอถ่ายกับสวยสะหน่อย 

บัตรเข้าชมจะมีให้ฉีกสองข้างนะค้า อันนี้่ถ่ายหลังจากเข้าแล้ว มีสองโดมให้เลือก คือ Cloud Forest กับ Flower Dome ค่า แล้วเราก็ตัดสินใจเลือกเข้าไปหาความชุมช่ำ น้ำเย็นๆก่อน 55
The Fall ค่า สวยมั้ยย : ) เข้ามาปุ๊ปเจอละออกปะทะหน้ากันเลยทีเดียว 
เย็นชื่นใจมากก แล้วก็เดินหาลิฟท์เพื่อไปชั้นบนสุดกันเล้ยย ! 

Sky walk ข้างบนคือเป้าหมาย 55 พอเดินแล้วมันจะไล่ระดับให้โดยอัตโนมัติค่ะ สวยมาก แต่ไม่เท่าบ้านเรานะ บ้านเราสวยกว่าเยอะ 

ถึงด้านบนละค้าา เดินๆ เห็นวิวทะเล เมือง สิงคโปร์ไฟลเออร์ก็เห็นนะค้าา สวยมากก 


สือการเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมต่างๆน่ารักมากค่ะ มีทั้งโมเดล ทั้งชาร์ต เป็นการปลูกฝังให้รักสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เด็กๆเลย เยียมมากค่ะ อยากให้บ้านเรามีแบบนี้เยอะจังเลยย 

พอออกจากคลาวน์โดมก็หิวแล้วว หาอะไรทานกัน แต่ร้านอาหารที่ใกล้ๆโดมมีแค่ไม่กี่ร้านเองค่ะ ไฟท์บังคับมาก แต่ละร้านราคาแพงด้วยย 55 แต่ก็หิว จะให้เดินก็ไม่ไหวแล้ว โดมดอกไม้ก็ยังไม่ได้เข้า เลยตกลงปลงใจกับร้าน Bakeria ค่ะ 

น่านั่งมั้ยค่าา : )
เปิดเมนูแล้วสั่งเลยจ้า คาโบนาร่าของโปรด 

มาแล้ววว คาโบนาร่าของข้าาา 

ตามมาด้วยของเพื่อน 

อร่อยมากค่ะ กินกันอย่างรวดเร็วเพราะหิวมากก 555 พร้อมไดเอทโค้กอีกหนึ่งกระป๋อง เมนูของหวานร้านนี้ก็น่าทานหลายอย่างนะคะ แต่เราตกลงกันว่า เอาไปกินร้านอื่นดีกว่า เลยได้แต่สอยภาพขนมน่ารักๆมาฝากแทนค่ะ พนักงานก็ใจดี : )
ชีสเค้ก มูสเค้ก มาให้พร้อม 

ทำเป็นบาร์แท่งยาวๆเก๋ดีค่ะ 

มีมาการองด้วยน้าา แต่เค้าห้ามถ่ายติดป้ายราคาเสียดายจัง 

พอเดินออกร้านมาก็ไปโลดดค่ะ เข้าโดมกันต่อเลยดีกว่า แต่อยากบอกว่าตัดสินใจผิดมากที่ทานอาหารก่อน เพราะโดมดอกไม้ควรเข้าาตอนที่ฟ้ายังไม่มืดจะได้เห็นดอกไม้สวยๆชัดๆ เราสองคนเลยได้แต่เดินเซงๆ ไปๆมาๆในโดม รูปน้อยหน่อยนะคะ อิอิ 

โอ้ยย อายจังถือของพะรุงพะรังกันเลยทีเดียว >< 

ตรงนี้เป็นสวนดอกกุหลายจ้า 




เดินไม่ถึงชั่วโมงก็พากันออกมา ไปหา Super tree grove กันดีกว่าาา 

เดินมาได้สักพัก เห็นร้านอาหาร กับร้านขนม อร๊ายยย ฉันพลาดอีกแล้ว ร้านน่านั่งมากค่ะ แต่งโทนมีขาวเขียวสวยมาก แต่ทานของคาวมากันแล้ว เลยขอแวะทานของหวานดีกว่า : ) 


แบ่งเป็นอีกตอนนะคะ Super tree grove กับร้านคาเฟ่ แถมร้านซุปเปอร์มาเก็ตที่ชอบมากๆเข้าถูกวันให้ด้วยน้าาา 

p.s. ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านนะคะ 





 

Create Date : 22 มีนาคม 2557    
Last Update : 25 มีนาคม 2557 16:16:27 น.
Counter : 660 Pageviews.  

DAY2::: Universal Studio Singapore

กลับมาเขียนต่อแล้วค่าา ส่วนสาเหตุคือ ช่วงนี้สอบเครียดเลยมาเขียนบล๊อคแก้เครียด -.- มันใช่เรื่องมั้ยเนี่ยยย 555 พรุ่งนี้ก็มีสอบตอน 9.00 แต่ตอนนี้ขอเบรกตัวเองก่อนแบบ ไม่ไหวแล้ววว @.@ ตาลาย 


หลังจากที่เข้าที่พัก อาบน้ำ คุยไลน์ ดูรูป ตกลงกันว่าพรุ่งนี้ จะออกจากโรงแรมสัก 9.00 โมง สรุป กว่าจะพากันขุดจากเตียงได้ก็ปาไป 8.45 แล้วจ้า เราก็ชิลกันต่อ 555 ม่ายรีบ ตอนเช้าแบบนี้ จัดค่ะ กาแฟ กับนมที่ซื้อมาเมื่อวาน ฮี่ๆ กล่องใหญ่สะใจมากก อร่อยด้วยย import from Australia ค่า 


คือเป็นคนที่ตื่นนอนตอนเช้าต้องมีอะไรรองท้องก่อนทานข้าวเช้า 555 พอเปลี่ยนชุดเสร็จ ออกมาทักเจ๊แหม่มน่ารัก แล้วก็พากันเดินเลาะมาที่ฟู้ดคอร์ทตรงโรงแรม V lavender ข้าง MRT พากันหาข้าวเช้าทาน 


Kaya Toast แบบชาวสิงคโปร์สักหน่อยย 
กาแฟรสชาติแบบโกปี้บ้านเราเลยค่ะ ขมๆหวานๆ แต่ไม่มันนะคะ ไข่ลวกนี่ทานยากหน่อยสำหรับคนที่ทานของคาวๆไม่ได้ต้องเหยอะพริกไทย ซึ่งเจ้าพริกไทยก็ไม่เหมือนบ้านเรา ไร้ความเผ็ดร้อนใดๆทั้งสิน 555 กับซอสหวานๆ ก็ใส่เข้าไปค่ะ ขนมปังปิ้งใส่สังขยาก็บิ แล้วจิ้มไข่ขนเเข้าปาก มันก็จะหวานๆ คาวๆ เคี้ยวๆแล้วซดกาแฟขมๆหวานๆเข้าไป มันจะพอดีกัน : ) ลองดูนะคะ 

ส่วนแนน้อยทานโจ๊กสักอย่าง ลืมถ่ายรูปมาขอโทษนะค้าา เค้าลืมจริงๆ ตอนนี้รีบกลัวป USS ไม่ทัน 55 ทานเสร็จก็กระโดดขึ้น mrt ยาวๆจ๊ะ ไปที่ห้าง ViVo กันเลยย 

พอไปถึงก็ขึ้นไปชั้นบนสุดเพื่อขึ้นรถรางข้ามไปเกาะSentosa เสียค่ารถรางไป 3 USD ค่ะ ถ้ามีบัตร EZ-link ก็easyสมชื่อ แป๊ะบัตรเข้าไปได้เลยค่า ไม่ต้องซื้อบัตร อิอิ หน้าตาขบวนก็น่ารักๆดี 


โว้วววว Welcome to USS นะค้าา แหมม ป้ายคาสิโนนี่เด่นเชียว 

ที่เห็นไกลๆนั่น Candylicoius ค่ะ เล็งไว้ตอนกลับเสร็จพี่แน่น้องง 

ใครมาก็ต้องถ่ายกับ เมอไลอ้อนหลากสีตัวนี้ น่ารักเนอะ : ) 


เห้นประตูทางเข้าลิบๆ คนมากันเยอะแล้วค่ะ ขนาดตอนนี้ 10.30 เองน้า 

อันนี้ก็ไฮไลท์  กรี๊ดกร๊าดถ่ายรูปกันใหญ่ มีนักท่องเที่ยวมาขอให้ถ่ายรูปเยอะเลยเพราะส่วนมากแว่นถ่ายให้เพื่อน 555 คนเยอะ ขึ้เกียจเบียดคน แต่เพื่อนก็ลากให้ถ่ายจนได้ อิอิ 

Welcome ของจริงค่าา พอพ้นที่ตรวจบัตรก็จะเจอแบบนี้ พานอรามานิดนึ่ง แต่รูปเล็กจัก ฮื้ออ ไม่มีความสามารถในการลดรูปค่ะ 55   

เดินเรื่อยๆถ่ายรูปข้างทาง แว่นก็ยกถ่ายบ้างไม่ค่อยเยอะ ตอนเด็กๆเคยไปUniversal ที่California แล้วตอนนั้นจำได้ว่าตื่นเต้นมากก สนุกสนาน ตอนนี้เป็นไกด์แทน 
วันนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหรนะคะ ส่วนมากจะเป็นเด็กๆมาทัศนศึกษา พูดภาษาจีนกันใหญ่ เจ้ฟังม่ายรู้เรื่องค่าา แต่เนียนๆตามเด็กน้อยไปน่ารักดี ชอบมองเด็กๆเวลามองแล้วมันสบายใจ : ) 


อยากกินป๊อปคอร์นนน 

อ๊าา ร้านเบเกอรี่่ ตอนบ่ายยเจอกันจ๊ะ เล็งไว้ๆ 

ถังขยะสวยๆ 555 อย่าเพิ่งว่านะค้าา มีอะไรให้ถ่ายเยอะแยะเธอถ่ายถังขยะทำไมยะ? 
แหมม ก็เรียนEnvi.Health แล้วอดไม่ได้ค่ะ เรื่องขยะๆนี่ชอบบ ถ้าไม่มีขยะก็เรียนไม่จบ ฮี่ๆ 

ถึงทางแยก เลี้ยวซ้ายขวาเลือกจ้าา แต่สวนมากคนจะวนขวาค่ะ เพราะไปเจอ transformer ก่อน
ยูนิเวอร์เซลเริ่มจัดพร๊อพเตรียมงาน Halloween party ตอนเย็นค่ะ อยากมาจังง แต่ค่าบัตรแพ๊งแพง ม่ายมีเงินแล้วจ้าาา 

Mail box จ้าาา สวยเนอะะ น่าเขียนจดหมายมาหย่อนบ้าง 

ร้านรวงต่างๆ เป็นฉากตามทางค่ะ 

อ๊ะ ร้านอะไร Tearoom ค่า 

ร้านคุ้กกี้ >< 

แวะทานพิซซ่าสักถาดมั้ยคะ? 

โอ๊ะ ซิมซันก็มานะฮ้าาา 

พอโค้งตรงซิมซัน เดินไปอีกนิด ขวามือก็เป็น Transformer แล้วค่าา ช้าอยู่ใดด เข้าแถวโลดด

ระหว่างทางที่เข้าไปก็จะมีการบิ้วท์อารมณ์กันนิดหนึ่งงง อิอิ

พอออกแล้วแล้วเพื่อนชอบ บอกสนุกดี เราก็โอเคค จัดรายการต่อไป แกก มัมมี่เดอะไรด์เนอะแก อันนี้เหวี่ยงกระจุยสนุกนะ หลอกล่อเพื่อนเต็มที่ 555 เพราะตัวเองเคยเล่นแล้วชอบ เลยอยากเล่นอีก  เพื่อนก็ดี๊ดี เอาสิแก ไว้ใจเต็มที่! จัดแจงเอากระเป๋าฝากล็อกเกอร์ ถอดแว่น เข้าไปเล่น 

สรุป ! แทบอ้วกค่าา เพื่อนบอก ไม่เอาแล้วแก ไม่เล่นแล้ว ไม่ไหว ไม่เอาหวาดเสียวแบบนี้แล้ว โอ้ยยตายยย พาเพื่อนมาลำบาก เลยประคองเพื่อนไปนั่งฟู้ดคอร์ทหาอะไรกินกันดีกว่า 

พอเดินออกมาถัดไปจะเป็น treasure กับ Jurassic park ค่ะตามลำดับ ฟู้ดคอร์ทจะอยู่ตรงหน้าทางเข้า จูราสสิคเลย คราวนี้ได้ใช้คูปองอาหารแล้ววว จัดปายย 

เป็นอาหารเซตของจูราสิคค่ะ จำชื่อไม่ได้ได้แล้วว T.T 
แอมเบอร์เกอร์ไก่อบเครื่องเทศค่ะ แต่มันรสไม่จัดนะคะ เลยแปลกๆ สีแดงน่ากลัวเชียว 

พอทานเสร็จเข้าห้องน้ำ เพื่อนก็ได้นั่งพัก เราก็ถามไถ่ ไหวป่าวแก ไม่ไหวบอกนะ เพื่อนก็โอเคๆ แล้วมันมีอะไรให้เล่นอีก แต่ไม่เอาแบบตะกี้แล้วนะ เราก็ได้ๆ งั้นไปปราสาทกันดีกว่าแก ไปดู 4D น่ารักๆ ชิลๆ แล้วเราก็พากันเดินต่อค่าา แต่ใจก็อยากเล่นจูราสสคนะ เย็นดีโดนน้ำตู้มมม 55 แต่เพื่อนไม่ไหว เราก็โอเคไม่ซีเรียสเพราะทริปนี้ ตั้งใจจะพาเพื่อนเที่ยว ให้เพื่อนได้เที่ยวสนุก 


Far Far away Castle จ๋าา พี่มาแล้วจ้าา เห็นอยู่ไกลๆ เดินๆ : )

มาถึงแล้วจ๊ะ เข้าไปเลยยย 

ถังขยะ แห่ง Farfar away castle น่ารักม่ายยย : ) 

นั่งดู 4 D เกือบๆ ชั่วโมงได้ อิ่มเอมออกมาถ่ายรูปปราสาทต่อ อิอิ เรื่องน่ารักมากค่ะ 

แวะร้านของฝากที่ของน่ารักมากกก แต่ราคาซื้อไม่ลง เก็บเงินไปกินขนมดีกว่าาา 

แก้วพลาสติกลายเจ้าหญิงน่ารักๆ 

มีน้ำใสๆ กับกากเพชรด้วย ชอบมากคือ พี่สาวแว่นเค้าชอบอะไรแบบนี้ อ้ะ แนวซานริโอ้ ประมาณนั้นตอนแรกคิดอยู่นานว่าจะซื้อดีมั้ยน้า แต่เห็นราคาแล้ว ถ่ายรูปไปให้ดูอย่าเดียวดีกว่า 555 เราก็เดินเรื่อยๆค่ะ เที่ยงกว่าๆแดดร้อนมาก เดินพักเดินพัก เลยตกลงว่าจะไปนั่งกินขนมดีกว่าเนอะ 
ทีแบบนี้ ไม่มีใครห้ามใคร พยักหน้าหงึกๆ รีบจ้ำค่าา 

ท้าดาาาาา ถึงแล้วค่ะ ลุยยยย 

ขนมมมมม อิอิ มี monster เยอะเลยย 

เค้กกก เน้นๆ อิอิ 

อ้ะ ลองOscar cupcake สักหน่อยย ซื้อเพราะความน่ารักอย่างเดียวเลย 555 กับโกโก้ 
ถามเรื่องรสชาติแบบ รู้งี้กินเค้กอีกว่า ไม่น่าเห็นแก่เพราะมันน่ารักเลยยย แต่โกโก้อร่อยดีนะคะ ราคาก็เอาเรื่องอยู่ สองอย่างนี้รวมกันเกือบยีสิบเหรีญ 

เสร็จแล้วก็เดินออกมาค่ะ เข้าเฮอร์ชี่หาช็อกโกแลตกันดีกว่าาา 


อ๊าาาา นี่มันสวรรค์ชัดๆ ถ่ายไปรูปเดียวก็เห็นป้าย No photo,please ก็ได้แค่หันไปขอโทษพนักงานที่มองมา อิอิ ซอรี่ ค่าาา 

ตามมาด้วยแคนดี้ลิเชียสสส M&M หลากรส อยากได้อะไร กดเอาเลยค่ะ ชั่งน้ำหนักแล้วคิดเงิน  

Candy Candy Candy สวยยยย มีเยอะมาก กดไม่ถูกเลย 

ได้ขนมกลับไปฝากแบบจุใจมาก

หลังจากกวาดขนมนมเนยมากันเรียบร้อยเราก็ออกมาไปเดินเล่น ViVo city จุดประสงค์หลักคือ H&M จ้าา มีเพื่อนฝากซื้อของไหนๆก็ไหนๆ แวะโลดดด 

ถังขยะะะะ อิอิ ถังขยะที่สิงคโปร์สวยค่ะ ทำได้น่ารัก ระบุประเภทชัดเจน แล้วคนของเค้ามีระเบียบวินัยกันด้วย เชคได้จากขยะในถัง เพราะชะโงกหน้าเข้าไปดูเรียบร้อยแล้วจ้าา แยกประเภทถูกไม่มี ทิ้งมั่วซั่วค่ะ ทำให้ ถ้าเราแยกขยะถูก การจัดการขยะส่วนกลางก็ทำได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันประเทศของเรา ยังคงมีปัญหานี้อยู่นะคะ แยกถังแล้ว แต่ขยะไม่ได้แยกตาม เทศบาลหรือหน่วยงานที่ทำหน้าที่ต้องมาแยกซ้ำ ทั้งเสียเวลา และ งบประมาณค่ะ  : ) 


สวยๆตรงเค้าเตอร์ H&M ค่า เห็นน่ารักดี 

แล้วเจอกันตอนหน้ากับ Garden By the bay นะค้าาา : )






 

Create Date : 07 มีนาคม 2557    
Last Update : 17 มีนาคม 2557 14:15:29 น.
Counter : 602 Pageviews.  

DAY1 ::: Sweet Things At THE TIRAMISU HERO

ทริปนี้เราตั้งใจจะมากินกันเพราะฉะนั้นคืนแรกก็ประเดิมด้วยร้านน่ารักๆ ใกล้ๆโฮสเทลของเราสองคนนั้นคือ The Tiramisu Hero เป็นร้านที่ทำทีรามิสุอร่อยมากกก ร้านน่ารักเป็นแหล่งสังสรรค์ชิลๆของวัยรุ่นสิงคโปร์เลยก็ว่าได้

หลังจากที่เรากระโดดขึ้น mrtRaffle มาลง mrt Lavender ก็เดินผ่านมาข้างหน้าโรงแรมVlavenderมาเรื่อยๆ จนสุดถนนเห็นเซเว่นตรงแยกให้เลี้ยวซ้ายก็เจอร้านแล้วค่ะ

ด้านหน้าร้านเป็นสนามหญ้ามีเก้าอี้สองชุด มีม้านั่งยาวขนาบทางเดิน


เปิดประตู้ร้านเข้าไปเจอบาร์รับออเดอร์ซ้ายมือเป็นโต๊ะบาร์สูงๆนั่งสำหรับมาคนเดียวหรือว่ามารอรับขนม ทางขวาตกแต่งเก๋ไก๋เดินเข้าไปก็เป็นตู้ขนมเรียงราย โต๊ะมีที่นั่งหลายแบบค่ะ ดูรูปแล้วกันเนอะอธิบายไม่ถูก อิอิ

สำหรับคืนนี้เราประเดิมด้วย StrawberrySort cake และ  Vanilla latte พริ้มมากสตอเบอร์รี่ลูกโตๆ ลาเต้หอมอุ่นๆ คืนนี้หลับสบายยย

ตอนเดินเข้าไปในร้านเป็นจุดสนใจมากกก ฮ่าๆเพราะหิ้วถูกValueprice เข้าไปแล้วในร้านก็มีแต่วัยรุ่นนั่งเม้าท์กันเหมือนบ้านเรา ในร้านกาแฟปกติค่ะเค้าก็มองแปลกๆ

พอนั่งปุ๊ป พนักงานก็จะเสริฟน้ำกับแฟ้มเมนูน่ารักๆแบบนี้ให้ค่า 


มีป้ายโต๊ะให้ด้วย เป็นเลขเรียกรายการค่ะ 


ชั้นคลูเลอร์ใส่น้ำเย็นๆและแก้วพร้อมบริการ อยู่มุมร้าน ใครใจร้อนลุกเสริฟน้ำให้ตัวเองได้เลยค่า 


ระหว่างรอ ก็ถ่ายรูปไป ความจริงโต๊ะสีน้ำตาลมีกลุ่มวัยรุ่นนั่งอยู่นะคะ ตอนนี้เค้าย้ายไปนั่งโต๊ะนอกร้านแล้ววว 



มีมุมถ่ายรูปน่ารักเยอะมากๆๆ หัวตุ๊กตานั่น เราสามารถมุดหัวเราเขาไปได้นะคะ อิอิ  



ตู้เค้กกก ชอตเค้กนั้นเราสอยไปแล้วค่ะ เหลือแต่ทีรามิสุเป็นขวดๆ ด้านล่าง แบบชั้น แล้วก็ไวท์เค้กค่ะ 


มุมด้านในสุดของร้านค่ะ 


โต๊ะด้านหน้าร้านค่ะ น่ารักอีกแล้ววว 


พออิ่มก็พากันจ่ายเงินแล้วแบกพุงน้อยๆของเรากลับที่พักค่า 

หมดค่าเสียหายของหวานไป ทั้งหมด 18.15 SGD 






 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2557    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2557 21:44:22 น.
Counter : 2975 Pageviews.  

DAY1:::China Town-Merlion-Marina Bay (Night1)

หลังจากเก็บของ ชื่นชมห้องจนพอใจแล้วก็พากันออกมาจากโรงแรม มองmap รถไฟฟ้าแล้วก็ตัดสินใจจะไปขึ้นที่สถานนี Farrer Park สายม่วง เพราะจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนสถานนี ChinatownMRT อยู่สายสีม่วงค่ะ เดินไปจากโรงแรมก็ไม่ไกล ก็เดินลัดเลาะตามทางกันเรื่อยๆ 



สวนที่หญ้าแห้งๆ กำลังปรับปรุงค่า มีป้าย Let's makes Singapore our garden ตลอดเลย 
เป็นเมืองที่รักต้นไม้จริงๆนะคะ อากาศที่นี้ดีมาก เดินทั้งวันผมไม่เหม็นเลย อากาศสะอาดจริงๆ คอนเฟิร์ม! 


เดินไปเดินมาถึงแบบมึนๆ ตอนแรกก็กางแผนทีมองหากันใหญ่เลยมันอยู่ตรงไหนเนี่ยย แล้วก็ยืนอยู๋ตรงแยก หันหลังกับมา โอ๊ะ! ถึงแบบไม่รู้ตัว มาถูกแบบมึนมาก คือแผนที่มันดูไกลกว่าความเป็นจริงค่ะ เดินนิดเนียวก็เป็นอีกล็อคแล้ว วันต่อมาเลยม่พกอะไรเลยนอกกจากแผนที่คราวๆแผ่นพับเดียว 555 

สถานนี Farrer Park จะอยู๋ติดกับ City Square ถ้าเจอแล้วก็แปลว่าถึงค่ะ เข้ามาข้างในห้างเลยก็ได้ค่ะ มันเชื่อมกันเลย 

นั่งมาสักพักก็ถึงค่ะ โผล่มาChina Townแล้วว ตึกฟ้าๆนั้นคุ้นตากันแล้วใช่ไหมคะ มันเป็นจุดขายย 
ใครมาก็ต้องถ่าย 55 


มีเรื่องsurprise อีกแล้ว ตอนที่รอรถไฟฟ้าอยู่ใน farrer park แนนน้อยยกน้ำดื่มค่า แว่นก็ดูแผนที่อยู่ ก็ไม่ได้สักเกตว่าเพื่อนทำอะไร แล้วก็มีแสงเฟลชว๊าบบ ไอ้เราก็นึกว่านักท่องเที่ยวคงถ่ายรูปมั้ง เงยหน้าขึ้นมาเจอเพื่อนทำหน้าตื่น เลยถาม
"เป็นไรแก ไมทำหน้างั้น" แนนน้อยมองซ้ายมองขวา เกาะแขนแว่น
"แก ฉันดื่มแล้ว " แว่นก็อื้ม แล้วไงอ้ะ เงยหน้ามาเห็นกล้องวงจรปิดแล้วถึงบางอ้อ เค้าห้ามทานอะไรในชานชลาค่าา กล้องวงจรที่นี้ก็ทำงานไว๊ไว 
"กล้องมันถ่ายฉันอ้ะ จะเป็นไรป่าวแก " หน้าแนนวิตกกังวลมาก เลยปลอบเพื่อนไป
"ไม่เป็นไรหรอกแก เนี่ยถือแผนที่อยู่คงเข้าใจว่านักท่องเที่ยว อย่างมากน่าจะแค่เข้ามาเตือน " แต่เพื่อนก็ยังไม่สบายใจนัก มองซ้ายมองขวากลัวมีตำรวจมาจับตลอดทางเลย 

พอเดินออกมาจาก China town MRT ถึงได้โล่งใจกันทั้งคู่ แหมม ถ้าโดนปรับนี่ 500 ดอลล่าร์เลยนะคะ ใครไปก็อย่าลืมน้าา ครั้งนี้ถือว่าเป็นโชคดีของแว่นและเพื่อนมากๆ  ใจแป๊วกันเลยทั้งคู่ 

พอขึ้นมาแล้วก็ติดกับตึก People park เลยค่ะ เข้าไปขึ้นลิฟท์กดชั้นสาม มองหาร้านป้ายเขียวๆ sea wheel จัดแจงซื้อตั่ว Universal Studio 65 SG (เป็นตั๋วเข้าและคูปองอาหารและของฝากค่ะ)+5 SG (จ่ายเพิ่ม5ดอลล่าร์ได้คูปองอาหารเพิ่ม10 SG ) ค่าตั๋วเข้า Garden by the bay 20SG ค่ะ สรุปแล้วเสียเงินไปคนนะ 90 SG  เสร็จภาระกิจล่าตัวสำหรับวันรุ่งขึ้น ผ่านวินาทีระทึกกลัวตำรวจจับ กระเพาะก็ร้องหาอาหารแล้วค่ะ หิววววว 55 เลยดินออกมาจากห้าง ข้ามฝั่งไปเดินChinatown แนนน้อยบอกตั้งแต่ก่อนออกจากเมืองไทย "แก มื้อแรกขอเป็นข้าวมันไก่นะ " จัดไปค่ะ ตามหาข้าวมันไก่กินกัน 


เดินข้ามถนนแล้วค่า ข้างบนยังมีสวนนั่งพักด้วย น่ารักจริงๆ 

มาแล้ววววว ถึง Chinatown แล้วค่ะ เริ่มมืดแล้วด้วย   

แล้วเราสองคนก็รีบจ่ำเท้าเดินหาร้านข้าวค่ะ หิวมากก ถ่ายรูปยังไม่ได้ถ่ายเลย ร้านที่ทานก็เป็นร้านธรรมดาๆเนี่ยหละค่ะ ข้าวมันไก่จานละ 3 SG พออิ่มกันคนละจาน ทานแล้วแล้วค่อยเดินย่อยเบาๆ ทีนี้แนนน้อยตั้งเป้าไว้ว่า จะต้องเห็นเมอร์ไลออน เราก็โอเคไปกัน เดินไปเนอะ ชมเมืองด้วย ช่างกล้ากันมากสองสาว กระหน่ำเดินตั้งแต่วันแรกที่ไปถึง 555 

รูปใน Chinatown ขาดแคลนมากไม่ได้ถ่ายจริงๆค่ะ มีแค่รูปเดียว >< บรรยากาศลืมถ่ายเลย 

เดินผ่าน Chinatown MRT เลี้ยวขวา เลียบถนนมาเรื่อยๆค่ะ 
ข้ามถนนมาแล้วว ตึกสวยๆ ตรงข้าม Chinatown Point ค่ะ

เดินเลียบห้าง Chinatown point มาเรื่อยๆ ค่ะดูวิวข้างทางไปคุยกันไป 
Furama City Center สวยเชียว  

รถหรู หาได้ทั่วไปตามท้องถนนสิงคโปร์ค่ะ 

ว๊าววว Clarke Quay Central เป็นแป้ปๆ จากไชน่าทาวน์ถึงคลาร์กคีย์แล้วค่าา  
ตอนนี้ยังชิลกันอยู่ค่ะ 55 เห็นเสาขาวๆขวามือมั้ยคะ นั้นคือBus stop ค่ะ ถัดไปก็ไป Clarke Quay MRT  
พอถึงสะพานก็เลี้ยวขวาลงมาเดินทางเลียบข้างแม่น้ำค่ะ ผ่านร้านจัมโบ้ เจ้าดังที่หลายคนต้องมาชิม คนเยอะ เต็มร้านเลยค่ะ 

เดินมาเรื่อยๆ เจอบริดจ์อีกแล้วว เลี้ยวซ้ายค่ะคราวนี้ ข้ามสะพาน ข้ามถนน แล้วเดินตรงไป
ตอนนี้อยู่ถนน North Bridge Rd. แล้วค่ะ เราก็เดืนเลียบไปเรื่อยๆ 

น่าลองหยดเหรียญกดเนอะ ในตู้ส่วนมากเป็นของ Kirin ค่ะ ยี่ห้อนี้ชอบชาเกือบทุกแบบเลย 

ส้มสดๆค่ะ เก๋มากก บ้านเรายังไม่เห็นแมชชีนแบบนี้ 

อันนี้ก็เก๋ ถาดล่างสุดเป็นผลไม้รวมปลอกเปลือกหั่นอย่างดีค่ ที่นี้ดีจัง เจอตู้ก็หาผลไม้ทานได้ง่ายๆเลย 

วิวย่าน Clarke Quay ค่าา 

  พอเราเดินมาถึงแยก St. Andrew's Cathedral ก็ข้ามถนนค่ะ เดินเลียบไปเลยยย โบสถ์สวยมาก ประดับแสงไฟยามค่ำคืนยิ่งสวย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เสียดายจัง T.T 


เธอเห็นอะไรนั้นมั้ยยย เย้เย้ ! หลังหาตึกทุเรียน 55 (Esplanade Theatre)  Singapore Flyer Marina Bay Sands ใกล้ถึงแล้ววว รีบข้ามถนนกันอย่างว่องไว  

ตึก Esplanade Theater ค่าา ข้ามถนนโลดด

สวยๆ ; )
ข้าม Esplanade Park มาแล้วก็เดินเข้ามาเลยค่ะ ข้างๆ Esplanade จะมีระเบียงริมแม่น้ำให้นั่งชม เราสองคนก็ถือโอกาสนั่งพักขา ดูแสงดีกันก่อน แล้วค่อยเดืนเลียบสะพานไปหาเมอร์ไลออน  


แสงสีหมดแล้ว เหลือ Merlion โดดเด่นเป็นสง่า เห็นชานที่ยื่นออกไปมั้ยคะ คนเต็มเลย เยอะมากๆ 


ไหนนน ขอถ่ายหน่อยสิ 555 แล้วเราสองคนก็นั่งพักขา อีกแล้วว เริ่มเมื่อความล้าเริ่มสะสม ก่อนจะเริ่มเดินต่อ  
ก่อนจะเดินบันไดขึ้นไป อ๊ะ สายตาแว่นไปเจออะไรเขียวๆใต้สะพาน เรียกแนนน้อยอย่างไว "แกๆมาทางนี้ๆ "    

Starbucks ค่า เก็บร้านแล้วว  

แล้วเราก็เดินขึ้นมาไดมาฝั่ง Fullerton Hotel อันหรูหา มาเจอ Roof top bar กรี๊ดกร๊าดมากจริงๆ ชอบบบบ 

สวยง่ะ จริงๆน้าาา แต่ถ้าจะเข้าต้องสวมเดรสงามๆ แต่งหน้าสวยๆ สภาพตอนนี้เข้าไม่ได้ค่ะ 555 

ประตูใหญ่ สวยเนอะ ชอบการออกแบบจัง 

อีกสักรูปป เอาหลายๆมุม ถ้าคราวหน้ามาต้องแวะมาให้ได้ อยากลองขึ้นไปนั่งค่ะ บรรยากาศคงสวยน่าดู เห็นวิวทั้งอ่าวมาริน่าเลย ดนตรีเพราะๆ โอ้ยยพริ้มมม 555 


หลังจากกรี๊ดกร๊าเสร็จก็เดินข้ามมาด้านหน้า Fullerton Hotel แล้วเดินเลียบไปเรื่อย คุยกันว่ากลับเนอะ ตอนแรกนั่งอยู่ Bus stop ว่าจะลองนั่งกลับ นั่งรอสักพักไม่มาสักที เริ่มหิวแล้วด้วยเลยชวนกันเดินต่อ แวะเซ่เว่นหาอะไรทานกันกัน แว่นได้น้ำแอปเปิ้ลผสมอโรเวร่า ส่วนแนนน้อยซื้อนมเปรี้ยว 

ราคา 1.2 SG ค่า

ตอนเข้าร้านก็ซื้อโลชั่นไว้ใช้ เป็นวาสลีนขวดเล็กราคา 1.2 SG แล้วก็บราวนี่เอามาไว้ทานเล่นกันค่ะ 

อร่อยมากกกก เพิ่งจะได้ทานกันตอนรอขึ้นเครื่องกลับค่ะ ใครมาอยากให้ลองทาน นุ่มมากกก >< 


พอได้น้ำให้ชื่นใจกันแล้วก็เดินเรื่อยๆหาที่นั่งทานกันเป็นกิจลักษณะก็เจอสวนดีไซน์เก๋ๆแบบนี้ เดินมาก็บ่นไปเมื่อไหรจะถึง Raffle MRT เนี่ย 

ยืนถ่ายรูปด้วยซะหน่อยย แล้วก็นั่งดื่มน้ำกันสบายใจ : )


แล้วก็นั่งชมวิวกันแบบนี้ มองตึกระฟ้า ย่านราเฟิล ตึกแหล่งเงินทุนชั้นนำต่างๆของสิงคโปร์ ลมพัดเย็นๆ อากาศกำลังดีค่ะ พอทานเสร็จก็มองหาถังขยะทิ้ง ก่อนแว่นจะไปสะดุดโถงสวยๆ เห็นป้ายสถานนีMRT 

"แก คือว่าเรามาถึง Raffle MRT นานแล้วอ้ะ เนี่ยอยู่ข้างๆเลย " แนนน้อยหันไปตามที่แว่นชี้แล้วก็ตาโต 
"เห้ยยย แกบ่นตั้งนานว่าเมื่อไหรจะถึง ถึงแบบไม่รู็ตัวอีกแล้ว " แล้วเราสองคนก็หัวเราะกันแบบตลกๆ คือไม่ทันได้สังเกตจริงๆค่ะ ว่าไอ้ข้างๆที่นั่งพักกันเนี่ยเป็น MRT ตอนแรกนึกว่าเป็นโถงของตึกอะไรสักอย่าง ปล๊าวว มันคือทางเข้า MRT แม่เจ้า! พอจะเจอก็พอแบบไม่ทันตั้งตัว พอทิ้งกล่องน้ำแล้วก็เดินลงไปเลยจ้าา 

เจอวัยหนุ่มสาวแต่ชุดสูท ชุดทำงานกันเรียบร้อย สะพายกระเป๋าเอกสาร แลปท้อปบ้าง เป็นเวลากลับบ้านของเค้า เวลาตอนนั้นประมาณสามทุ่มแล้วค่ะ คนวัยทำงานเต็ม Raffle MRT เลย เราสองคนก็เบียดๆคนเข้าไปแตะบัตรผ่ายเข้าชานชลา นั่งมาอีกแค่ 2สถานนีก็ถึง Lavender แล้วค่ะ แป๊ปเดียวเองประมาณ 10 นาทีได้ 

พอขึ้นมาจาก MRT ก็ชวนกันแวะ Guardian ซื้อครีมอาบน้ำโดฟค่ะ ตอนนั้นจัดราคาโปรโมชั่นอยู่ แล้วก็แวะ Fair Price ซื้อ แว่นซื้อนมกล่องใหญ่เลย ไว้ดื่มตอนเช้าราคา 2.85 SG แนน้อยซื้อน้ำเปล่า แล้วเราก็ซื้อส้มไว้ทานเล่นกันคนละลูกราา 0.45 SG  

นมค่ะกล่องใหญ่มากก ทานทุกเช้าเลย แล้วแทบจะกรี๊ดเมื่อเจอน้ำผมไม้อยู่ห้อ Peel Fresh ซื้อที่7-11 กล่องละ 1.2 SG ที่นี่ขายแค่ 0.9 SG เองง >< หลังจากที่ได้มาสำรวจราคาแล้วก็แวะซื้อที่นี้ตลอดค่ะ 7-11 แพงง่ะ ไม่เข้าแล้ววว 


ถือถุงพลาสติกกลมกลืนกับชาวสิงคโปเรียนแล้วก็พากันไปหาของหวานๆทานต่อ เพราะตอนออกจากโรงแรมสะดุดตาอยู่ร้านหนึ่งคือ The Tiramisu Hero ร้านน่ารักมากกก มาดูกันค่ะ 


ขอขึ้นตอนใหม่นะค้าา รูปเยอะเริ่มโหลดช้าแล้วว : ) 
ป.ล. รูปทั้งหมดในทริปมาจาก iphone5 และ HTC one M7 นะค้า บางรูปอาจไม่ชัดเท่าไหร มือใหม่นัดแปลงไฟล์รูปค่ะ เพราะไฟล์บางภาพใหญ่มากจริงๆ 





 

Create Date : 22 ธันวาคม 2556    
Last Update : 22 ธันวาคม 2556 22:12:16 น.
Counter : 3861 Pageviews.  

DAY1:::Fly to SINGAPORE

ฮัลโหลวววว กว่าจะได้มาเขียนบันทึกการเดินทาง ดองเค็มซะนานเลยหลังจากกลับมาก็เพิ่งว่างค่า เลยรีบมาเขียนก่อนที่จะต้องอ่านหนังสือสอบมิดเทอมอีกแล้ววว ทริปนี้ 4 วัน 3 คืน (Thu24Oct-Sun27Oct) บินด้วยนกเล็กสีส้มสายการบินโลว์คอสอย่าง Jetstar airway สนนราคารวมค่าโหลดกระเป๋า 20 กิโลขากลับ ตกอยู่ที่ เกือบ 4,000 ต่อคน ทริปนี้สองสาว(เป็นสาวแล้วหรอ?) แว่นกับแนนโน้ยย(เพื่อนชื่อแนนค่ะ แต่ตัวเล็กเลยเรียกกันติดปากว่า แนนน้อย แต่ขอวิบัติเสียงนิดหนึ่ง 555 นางเป็นสาวแอคบาร์ที่มอชอ ป.ล.แอคบาร์คือ คณะบัญชีค่ะ เด็กมอชอเค้าเรียกอย่างนั้น อิอ ส่วนแว่นเป็นสาวสุขภาพพพ 55 เป็นเด็กสาสุข มธ.ค่า)   


แนนน้อยขึ้นรถทัวร์มาจากเชียงใหม่มานอนค้างบ้านญาติก่อนวันเดินทาง ส่วนแว่นก็ไปเที่ยวอีสานกับพ่อและแม่ก่อนจะนั่งรถกลับมาม.แถวๆทุ่งรังสิตจากอุบลฯวันที่ 25 ส่วนพ่อและแม่ก็หนีไปเที่ยวปากเซต่อแอบอยากไปด้วยเบาๆ แต่มีทริปของตัวเองแล้วก็ไว้คราวหน้าละกันนะคะป๊า  วันพฤหัส เครื่องออก 11.40 เที่ยวบิน 3K520 ที่สุวรรณภูมิ นัดเจอกัน 9.30น.เลยสะดวกดี แว่นก็รีบเก็บของภายในคืนเดียว55 เมทที่ห้องก็ไม่มีใครอยู่สักคนกลับบ้านกันหมด นั่งรถตู้มธ.-ฟิวเจอร์ ตอน8.00 โมงเช้า นั่งรถตู้ฟิวเจอร์-สุวรรณภูมิต่อเลย ถึงเกือบ 10 โมงง ฮ้าาาเพื่อนรอเลย T.T ส่วนแนนน้อยคุณป้ามาส่ง พอเจอแล้วป้าก็กลับเหลือเราอยู่กันสองคนเลยรีบเชคอินเพราะหิวแล้วว ยังไม่ได้ทานอะไรมาเลย  


(สัมภาระก่อนไปค่าา เอาขึ้นเครื่องหมดเลย )

เชคอินปกติค่ะกราวด์สต้าฟใจดีมาก ยิ้มแย้มให้อย่างดี สองสาวก็ลากกระเป๋าผ่านตม.แบบชิวๆ พอเข้าเกทก็มองหาของกินกัน สรุปลงท้ายที่Burger's King เพราะใกล้เกทสุดหละ จัดไปนักเก็ท เบอร์เกอร์และน้ำโค้ก จัดการเรียบร้อยก็นั่งรอที่เกทสักพักแอร์ก็เรียกตรวจ Boarding pass เรียบร้อย ไม่ตื่นเต้นอะไรเลยยย เพราะมีแต่คนไทย 55 หันไปเจอเพื่อนร่วมทริปเยอะ คาดดว่าน่าจะรุ่นๆเดียวกันคือเด็กมหาลัย ไปกันเป็นคู่ มีฝรั่งนิดหน่อย ก็เดินไปขึ้น Shuttle bus ไปขึ้นเครื่องค่ะ เบียดเสียดกันมาก รถเต็มเลยใครไปไฟท์ 3K520 BKK-SIN วันที่ 24 หาเราสองคนไม่อยากค่ะ เด็กแว่นหน้าเอ๋อๆ(เราเอง)กับคนตัวเล็กๆผิวขาวๆหน้าจีนๆ เกาะหนึบกันอยู่สองคน ตอนขึ้นเครื่องแนนน้อยกรี๊ดกร๊าดมากก ส่วนสูง 150 cmกว่าๆของเพื่อนแว่นไม่สามารถยกกระเป๋าไว้ได้สะดวกนัก เอาจริงๆคือยกไม่ถึง พี่แอร์ผู้ชาติรีบปรี่เข้ามาช่วยเลยย>< เพื่อนกรี๊ดไปตลอดไฟท์ ส่วนแว่น 160กว่าๆ ชิวๆเป็นสาวถึกยกเองค่ะ พี่แอร์เหวอไปหน่อยแหมม หนูแค่อยากเคยชินกับการช่วยตัวเอง ค่ะ ยกกระเป๋าแค่นี้สบายมากก55 เสร็จแล้วก็นั่งสงบเสงี่ยมที่ตัวเอง มีคุณลุงฝรั่งนั่งข้างๆ ที่นั่งเป็นแถวละหกค่ะ ฝั่งละสามค่ะ ตอนที่กรอกใบตม.ขาเข้ายืมปากกาคุณลุงด้วยย ไม่ได้พกขึ้นเครื่องมากันเลย 

(เธอเห็นท้องฟ้านั่นมั้ยยยย ใกล้แล้ววว)


เฮนโหลวววว เห็นส่วนแลนด์แล้ว กรี๊ดกร๊าดใกล้ถึง 55  


2.20 hr. นกเล็กสีส้มก็พาเรามาถึง เมืองลอดช่องแล้วจ้าาา ฮริ้วววว เจ้าสายการบินJetstar ลงTerminal2 แต่ MRT เข้าเมืองอยู่Terminal3 จัดไปค่ะ ลงเครื่อง มองป้ายTerminal3 ลากกันโลดดด นานมากกก กว่าจะถึง ตม.ก็หน้าดุ๊ดุ แล้วแนนน้อยก็หันมาหา ด้วยความกังวลนิดหน่อย เพราะภาษาอังกฤษนางอ่อนกว่าแว่น แต่นางพูดจีนได้นะ แว่นพูดไม่ได้สักคำ ทริปนี้มีมึนแน่ๆๆ 

"แกยิ้มๆเข้าไว้ เค้าถามไรมาก็ตอบไป ฟังไม่ทันก็บอก สโลว์ลี่พลีสส ไม่ก็หันมาหาฉัน " แนนน้อยพยักหน้าแล้วแยกแถวเข้าหาพี่ตม.  ส่วนแว่นก็เข้าแถว พอถึงคิวก็ยื่นpassport กับใบเข้าประเทศ 
ตม.มองหน้าก็ถามเรื่อยๆ มาเที่ยวกี่วัน กลับวันไหน ก็ตอบแบบชิลๆ นึกว่าจะผ่านละ สุดท้าย ก่อนส่งพาสปอร์ตคืน ลุงก็ดุว่า เครื่องลงเทอมินัลสองให้ออกทอมินัลสองนะคราวหน้า เราลยขอบคุณแล้วเก็บพาสปอร์ตอย่างไว หยิบลูกอมมาแล้วรีบเดิน 55 แหมม หนูไม่รู้ค่าอย่าดุหนูเยอะ หนูมาหาMRT เข้าเมืองค่า  

ความจริงคือเราลงTerminalไหนก็ออกตม.ที่Terminalนั้นนะคะ จะมีSkytrain มาที่Terminal3 เพื่อนั่งMRTเข้าเมืองค่ะ

ส่วนแนนน้อยหันมาถามเรื่องเซ็นลายเซ็น แค่นิดหน่อยแล้วก็ผ่านไปได้แบบตุ่มๆต่อมๆ ป่ะต่อไป หา EZ-link เข้าเมืองกันนน 

ลากกระเป๋าตามป้ายเรื่อยๆจนถึงสนานที ต่อแถวซื้อตั๋วกับเครื่องแมชชีน แล้วก็มึนน 
"แก ทำไมมันเป็นตั๋วรอบเดียวอ้ะ "
"แก เราจะซื้อ EZ-linkกัน มันกดตรงไหนเนี่ย มองหาเร็ว " 
คุยกันวุ่นวายหน้าเครื่องกันอยู่สองคน เพราะตอนแรกที่กดก็กดสนาทีปลายทางเป็น Lavender ที่จะไป แต่หาที่กดซื้อ EZ-link ไม่ได้ สุดท้ายก็เลยถอยออกมาเพราะเกรงใจคนต่อแถว ลากกระเป๋าไปที่ Counterขายตั๋ว แว่นก็เข้าแถวส่วนแนนน้อยยืนเฝ้ากระเป๋าข้างๆ 

" two ez-link card and top-up 10 dollars for each please " แว่นก็ยิ้มหวานให้พี่เจ้าหน้าที่คนงาม แล้วบอกเรียบร้อย เจ้คนงามไม่ยิ้มให้ พยักหน้าแล้วกรอกหน้าคอมแกรกๆ 

"แกจ่ายแยกมั้ยหรือว่าไง " แนนน้อยส่งเสียงบอกมาข้างหลัง แว่นเลยบอกเจ้แกต่อ 

"Could i separate paying? " เจ้ทำหน้าบึงๆแล้วบอก 
"Not enough change"  โอเคๆ เงินทอนไม่พอก็โอเค 

"แกเดี๋ยวออกให้ค่อยค่อยคิดเงินกันทีหลัง เจ้แกบอกเงินทอนไม่พอ " หันไปบอกแนน้อย ส่งเงินให้เจ้ รับเงินทอนกั้บez-link แล้วเดินออกมา 

"หน้าบึงเนอะแก ไม่ยิ้มเลย " แนนน้อยเม้าา ไอ้เราก็รีบเสริม "จริงแก เจ้แกคงเมื่อย ช่างเถอะ" 
พอแตะบัตรผ่านมาแล้ว แล้วก็ไปยืนต่อแถวสวยๆ  mrt ที่นี้ไม่ต่างกับเมืองไทยค่ะ ไปแล้วไม่งง แค่ดูให้แน่ใจว่าขึ้นฝั่งไหนก็โอเคแล้วค่าา ไม่ต้องกลัวหลง ขึ้นผิดก็นั่งกลับมาใหม่ 555 

แล้วเราสองคนก็ได้นั่งmrt สายเขียวอย่างสบายใจ เพราะนั่งยาวๆ ตอนแรกคิดอย่างงี้ แต่คิดผิด เพราะมันเป็นแค่รถไฟออกจากแอร์พอร์ตแค่นั้นเอ๊งงเป็นCircle line แต่ในแผนที่มันเป็นเส้นเขียวเราเลยมโนกันเองว่านั่งยาวค่ะ  เราต้องเปลี่ยนสายอีกทีเพื่อต่อเป็นรางที่ไปในเมือง  ตอนแรกเจอคุณป้าคนไทยหันมาถามทางไป mrt Chinatown ใหญ่เลยเพราะเค้ามาเป็นครอบครัวพาคุณตามาเที่ยวเราก็คุยไป ฮี่ๆ หนูมนุษย์สัมพันธ์ดีค่ะ 555 พอถึง mrt Tanah Merah คนจากแอร์พอร์ตก็กรูกันลุกออกไปเหลือเรานั่งเฉยกันสองคน ยังไม่รู้ตัวจ้าา จนอาแป๊คนหนึ่งขึ้นขบวนมามองกระเป๋าเดินทางแล้วถาม แกก็ไม่รู้จะพูดภาษาอะไรกับเรามั้ง เพราะแนน้น้อยหน้าจีน แว่นก็หน้าไม่ค่อยเหมือนคนไทยกระเดียดไปทางคนฟิลิปินส์มากกว่า เลยเลือกพูดจีนอยู่ แนนน้อยก็ยังมึนๆ แกเลยถามภาษาอังกฤษว่าเข้าเมืองใช่มั้ย ลงสถานนีนี้ ไอ้เราก็งง เอ้าก็มันสายเขียวจะให้ลงทำไมเลยบอกว่า 
"i'll going to Lavender station Green line. It's a green line,right?"  
อาแป๊ะเกาหัวแกร๊กๆ พยายามนึกคำพูด บอกเป็นคำๆ " circle line back to airport not go to city " 
ไอ้เราก็อ้อออ แล้วรีบเก็บกระเป๋า ไม่ลืมขอบคุณอาแป๊ะ "เซี๊ยะๆ ค่า " แล้วออกมาอย่างไวก่อนประตูจะปีด 

พอขบวนมาทีนี้ก็เข้าไปนั่ง แล้วมองแผนมี่สายรถที่มีในขบวน ที่นี้จะมีไฟสีแดงๆกะพริบบอกสถานีบอก ก็สบายไป คราวนี้นั่งได้สบายใจหละค่า 30 นาทีถึง mrt lavender   พอแตะบัตรผ่านออกมาคราวนี้มองหน้ากันอีก ลืมดูmap ว่าออกทางไหน ซ้ายหรือขวาดี? ยืนอยู่หน้าร้าน Guardian  กัน ซ้ายเนอะ พอขึ้นมาก็ลุ้นน เห็นป้าย V lavender ก็ยิ้มออกและ มาถูกแล้วอ้ะ 555  

เราก็เดินผ่านร้านไก่ทอด Wendy's ศุนย์อาหาร ร้านขนม มาถนนหน้าข้าง V lavender ดูแผนที่โรงแรม แล้วเดินถามถนนค่ะ ไม่ยากเดินตรงไปจนถึงแยกตรง French streetก็อุ่นใจละ 
(เห็น Supermarket แล้วแว่นลั้นล้าค่ะ เป็นคนที่ชอบเข้ามากก ชอบดูของแปลกๆที่บ้านเราไม่มี 
แล้วตลอดทริปต้องมาแวะเจ้า Fair price ทุกวันก่อนเข้าโรงแรมเลย 55 ของถูกกว่า 7-11 ค่ะ ใครมาแนะนำให้มาซื้อของที่นี้ค่ะ ) 
มีแกลลอรี่ จิววรี่ด้วยยย ตึกสวยดีคะ ด้านร้านเป็นบาร์นั่งชิลตอนเย็น น่าเข้ามากก ยังไม่มีโอกาสได้นั่งสำหรับทริปนี้ กิกิ 


เดินมาเรื่อยๆค่ะ ผ่านแยกอีก สองแยก ผ่านสนามกีฬา จนเจอ 7-11 แล้วเลี้ยวขวา ผ่านร้าน Anything'Z Cafe แล้วก็ถึงง เย้! ตอนเดินมาเห็นคาเฟ่กาแฟหลายร้านเราสองคนดีใจใหญ่ เพราะทริปนี้มาเพื่อ ของหวาน 555 ดีใจมาก ต้องเก็บให้หมด 

Lobby น่ารักๆค่าาา Welcome to Blanc Inn 

(ประตูห้องนอนค่าา ต้องมีpassword ถึงเข้าไปได้ ) 

พอมาถึงก็เจอฝรั่งผู้หญิงน่ารัก เป็นพนักงาน เชคอิน จ่ายเงินเรียบร้อย ขอเรียกเจ้แหม่มนะค้า ก็ให้พาสเวิร์ดเข้าตึก พาสเวิร์ดเข้าห้องเรียบร้อย แล้วพาทัวร์ห้อง ทัวร์ห้องน้ำ เอาของมาเก็บแล้วปล่อยให้เราสองคนลั้นลากับเตียงกันใหญ่ นุ่มและก็สะอาดมากค่ะ น่ารักมาก ชอบที่นี้มากจริงๆ ไม่วุ่นวาย สงบ ไร้กลิ่นบุหรี่ อบอุ่นมาก ถ้ามาสิงคโปร์อีกก็จะมาพักที่นี้ค่ะ มีหลายเหตุผลมากก คือชอบจริงๆ ทำเลเยี่ยมคือไม่อยู่ในย่านท่องเที่ยวที่คนบึืมม เสียงไม่ดัง เป็นย่านที่คนสิงคโปร์เค้าอยู่ไปไหนมาไหนสะดวกด้วย แต่ราคาทีนี้สูงกว่าโฮลเทลทั่วไปนะคะ แต่สะอาดแล้วก็สงบกว่าเยอะ 

เปิดประตูเข้ามาก็เจอบนไดซ้ายขวาขึ้นไป Alcove ชั้นบน ส่วนด้านซ้ายขวาก็จะเป็นม่านกั้น
พอเปิดเข้าไปก็เป็นห้องของเราค่ะ น่ารักมาก 


ม่านแบบนี้ค่ะ เราเรียกห้องให้ม่านว่า Alcove ห้องของแว่นกับแนนอยู่ด้านล่างขวาค่ะ 

ห้องค่ะ ของรกแล้ว 55 เพิ่งมาถ่ายตอนกลางคืนค่ะ เตียงเดี่ยวแต่ลากออกมาก็จะมีอีกเตียง
แว่นนอนเตียงล่าง แนนนอนเตียงบน นิ่มมากกกก ขอบอกก สะอาดด้วย ในห้องมีตู้เล็ก ก็โต๊ะที่ของว่างเยอะๆแหละค่ะ จะมีเซฟอยู่ข้างใน เอาของมีค่าใสไว้ได้ ตรงส่วนบนของม่านมีช่องเก็บกระเป๋าเดินทางของเรา หรือจะเก็บไว้ใต้บันไดก็ได้นะคะ มีโซ่ล็อคให้พร้อมเลย  ลืมถ่ายห้องนั่งเล่นกับห้องน้ำมาให้ดูเลย T.T แต่ห้องหน้าสะอาดค่ะเป็นสัดส่วนดี มีแชมพูกับครีมอาบบน้ำให้ แว่นเลยไปซื้อครีมนวดมาใข้เพราะขาดไม่ได้จริงๆ แล้วก็ซื้อครีมอาบน้ำด้วยเพราะตอบแรกคิดว่าเป็นครีมโรงแรมธรรมดา กลัวแพ้ แต่พออาบน้ำตอนเย็นแล้วแหมม เค้ามี โชกุบุสึให้ใช้ค่าา หอบบเชียว  

มาเล่าต่อออ เราสองคนก็เอาของเก็บ สะพายกระเป๋าเล็กแล้วก็ออกเที่ยว คือจะไปซื้อตั๋วเข้า Universal และ Garden by the bay ที่ร้าน sea wheel ห้าง people Chinatown แล้วก็ตะลุยChinatownกันก่อนเลยยย ตอนเราลงเครื่องต้องปรับเวลาลดลง 1 hr. เพราะเวลาที่สิงคโปร์ช้ากว่าค่ะ 

กว่าจะผ่านตม. นั่งmrt เดินมาถึงโรงแรมก็ 4.30 กลิ่งเล่นบนที่นอน จัดของได้ฤกษ์ออกจากโรงแรมก็ปาไป 5 โมงกว่าแล้วค่า 

ขึ้นบทใหม่นะค้า เม้าเยอะอยากเล่า อยากเขียนไว้กลับมาอ่านแล้วก็นั่งอมยิ้ม : )  แว่นจะพยายามเขียนเรื่อยๆ ให้เสร็จ 




 

Create Date : 21 ธันวาคม 2556    
Last Update : 22 ธันวาคม 2556 13:02:22 น.
Counter : 815 Pageviews.  

1  2  

Glasses_Fille
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




<*center><*img border="0" src="http://designyoutrust.com/wp-content/uploads/2012/09/Pixar-750x375.jpg"<*/center>
Friends' blogs
[Add Glasses_Fille's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.