...Hello WORld...How do you do? ...I'm so fine...
Group Blog
 
All blogs
 

ร้านโปรดที่ 1 Giant Yakiniku



เรารู้จัก Giant Yakiniku เป็นครั้งแรกเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา...
ก็รู้จักจากเว็บพันทิปนี้หละ...พอได้เปิดอ่าน review ดูแล้วอยากกินมากมาย
อ่านเจอวันนั้น ก้อไปกินกันวันนั้นเลย...ด้วยความที่ไม่เคยไปและไม่รู้
เราไม่ได้จองที่ไว้ล่วงหน้า เพราะคิดว่าเป็นวันธรรมดากลางเดือน กลางสัปดาห์ ไม่คิดว่าคนจะเยอะ...แต่...คนเยอะมากกกกกกกกก

เราไปถึงที่ร้านทุ่มครึ่ง...ได้โต๊ะตอน 3 ทุ่ม แต่ก้อรอนะ ไหนๆ ก้อมาหละ
พอได้กินเท่านั้นหละ....โดนมาก อร่อยสมการรอคอย!!!

หลังจากนั้นก้อเลยกลายเป็นลูกค้าประจำ...กินมันทุกเดือนเลย
แต่ตอนนี้เพลาๆ ลง เพราะกินกันจนอ้วน น้ำหนักขึ้นมาหลายอยู่...

ไปกินมาครั้งล่าสุดเลยได้ฤกษ์เปิดตัวร้านโปรดใน blog ของเราซะที

มาดูบรรยากาศหน้าร้านและเมนูของร้านกันก่อน
วันธรรมดาจะเป็นบุฟเฟ คนละ 450 บาท (Net)
ถ้าเป็นช่วงเวลา 19.30-20.00 น. จะมีคนมายืนรอคิวหน้าร้านไม่น้อย
คือเราไปที่รัยก้อไม่เคยเห็นว่างเลยอ่ะ



น้ำจิ้ม และพริก กระเทียม ที่สดใหม่....เราว่าอร่อยก้อตรงนี้ด้วยหละ
เวลากินก้อจิ้มน้ำจิ้มและกินพร้อมกับผักแกล้มให้ครบสูตร



เราขอเสนอเครื่องเคียงก่อน เสริฟ main course หละกัน
อันนี้ขึ้นอยู่ว่าจะสั่งอะไรกันมาบ้าง...ที่เราสั่งไปก้อมี...
...คิมูจิ หรือ กิมจิ...
...ผักกาด ทุกที่จะเป็นผักกาดหอม คราวนี้ได้ผักกาดแก้ว
...ข้าวเผ็ดกระเทียม...
...มิโซะซุป...



มาที่จากหลักกันบ้าง....เราสั่ง...
เห็ดเออริงจิ...เนื้อติดมัน...เนื้อลาย...(ที่จริงเราไม่กินเนื้อ แต่ว่าคุณแฟนโปรดมากก้อจัดไป กินเตาเดียวกันได้ไม่มีปัญหาสำหรับเราอ่ะนะ)




ต่อด้วย...หมู...ไก่...ปลาแซลมอน





และกุ้ง...แบบ before & after...พร้อมจัดเรียงกันลงไปในเตาย่าง




เมื่อกินของหนักกันเต็มที่แล้วก้อปิดท้ายด้วยของหวาน...เย็น...ชื่นใจ



นับว่าเป็นร้านอาหารที่ไปทานบ่อยมากๆ ค่ะ
พนักงานบริการดีทุกคนด้วยอ่ะค่ะ...
ใครจะเรียกเอาอะไรรับ order ได้ตลอด ถึงแม้จะเสริฟแบบถูกบ้างผิดบ้าง
ก้อไม่เป้นรัยค่ะ...เข้าใจว่าคนเยอะมีงงกันได้...

เอาเป็นว่าอร่อยถูกปาก พูดจาดีโดนใจ อะไรก้อปลื้มค่ะ




 

Create Date : 08 มิถุนายน 2552    
Last Update : 8 มิถุนายน 2552 15:56:54 น.
Counter : 305 Pageviews.  

การทำงาน คือ การเรียนรู้




....หลังจากเรียนจบปริญญาโท ด้านนิเทศศาสตร์-โฆษณา
ชีวิตการทำงานที่แท้จริงก้อได้เริ่มต้นขึ้น...

ตั้งแต่ตอนเรียนเราอยากทำงานกับบริษัทผู้จัดและนำการแสดง
จากต่างประเทศมาจัดที่เมืองไทยมากมาย
เรียกว่าชอบและอยากทำงานด้านนี้ ไปเขียนใบสมัครหลายครั้ง
แต่ยังไม่ได้สักที...ก้อไม่ท้อนะสมัครกันต่อไป!!!

ระหว่างที่ยังไม่ได้งานที่หวัง...ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้ทำหรือป่าว...
เราก้อลองสมัครที่อื่นๆ ไปด้วย
และแล้วก้อมาได้ทำงานในส่วน E-business
เป็นพนักงานการตลาดที่ดูแลโครงการ CRM ของบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่มากแห่งหนึ่งของเมืองไทย
เรียกว่าถ้าเดินห้างสรรพสินค้าจะต้องเจอแบรนด์สินค้าของบริษัทแห่งนี้ไม่ต่ำกว่า 10 รายการ....ด้วยความที่ต้องการรักษากลุ่มลูกค้าไว้...
การทำแคมเปญ CRM จริงเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ
โครงการนี้มีชื่อว่า " His and Her Plus Point "



ตอนที่เราเข้าไปทำเป็นช่วงเริ่มต้นของโครงการเลย...
หน้าที่หลักๆ จะดูแลเรื่อง printing material ไม่ว่าจะเป็น ใบสมัครสมาชิก แคตตาล็อคที่ให้ข้อมูลการแลกของรางวัล รวมทั้งการจัดอบรมพนักงานเพื่อสามารถสื่อสารข้อมูลกับลูกค้าของบริษัทฯ ได้ถูกต้อง ครบถ้วน...

เราได้เรียนรู้กระบวนการทำ printing material แบบปฏิบัติจริงก็ที่นี่หละ
รวมทั้งการทำงานกับพนักงานระดับต่างๆ แผนกต่างๆ มากมาย...
และการได้ออกไปสำรวจตลาด ซึ่งเราสามารถรับรู้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงได้เป็นอย่างดีเลย...

มันสอนเราให้รู้ว่าการที่ต้องปฏิบัติงานจริงๆ มันมีสิ่งต่างๆมากมายที่ไม่ได้เป็นตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในระเบียบแบบแผน ซึ่งการรับรู้ปัญหาเหล่านี้ทำให้เรานำไปปรับปรุงระบบการทำงานของเราให้ดีขึ้นต่อๆ ไปได้อีก...
นี่หละบทเรียนแรกของการทำงาน...

หลังจากทำงานไปได้ระยะหนึ่ง...เราก็ได้รับการเรียกไปสัมภาษณ์งานกับบริษัทที่เราหวังไว้ในตอนแรก...ถึงแม้จะไม่ใช่ในส่วนงานที่อยากจะทำ
แต่เราก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น...

เราได้รับเลือกเข้าทำงานให้ส่วนงานขายสถานที่เพื่อให้เช่าจัดงาน event ต่างๆ หรือที่เค้าใช้ศัพย์ว่า VENUE สถานที่ที่เราต้องทำงานและเป็นตัวแทนของบริษัทเพื่อนำเสนอข้อมูลให้ลูกค้ามาเช่าจัดงานนั้น เป็นอดีตสถานที่จัดงานใจกลางกรุง เป็นสถานที่ที่เคยได้จัดงานใหญ่ๆ ต่างๆ มากมาย...
ที่นั่นคือ...BEC TERO Hall...



ด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอย 3,000 ตร.ม. ภายใน Main Hall และห้องฟังก์ชั่นรอบด้านภายในตัวอาคาร และการที่มีเพียงฮอลล์เดียวการจัดงานจึงเป็นงานเฉพาะของลูกค้าเท่านั้น ไม่มีงานอื่นๆ มาปะปน เรียกได้ว่าไม่ต้องใช้พื้นที่ร่วมกับใครเลย จัดกันให้เต็มที่....

การที่พื้นที่ภายในฮอลล์เป็นพื้นที่โล่งทำให้รองรับงานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น concert หรือ show ต่างๆ งานมอบรางวัล งานประกวดประชัน งานนิทรรศการ งานเปิดตัวสินค้า ประชุม สัมมนา หรือ ปาร์ตี้ จัดเลี้ยง ต่างๆ นานา
...ถ้าพื้นที่ใช้สอยพอเพียงกับขนาดของงาน...ยินดีต้อนรับเสมอ....



ระยะเวลา 2 ปีเต็มกับการทำงานที่นี่ งานที่เรารับผิดชอบต้องติดต่อกับลูกค้าทั้งแบบองค์กรและบริษัทออแกนไนเซอร์ที่รับจัดงานให้กับลูกค้าอีกต่อหนึ่ง คือเรียกได้ว่าติดต่อทั้งระดับองค์กรใหญ่ขนาดพนักงานมากกว่า 400 คน ไปจนถึงบริษัทขนาดเล็กที่ทำงานกันไม่ถึง 50 คน เราให้ความสำคัญเหมือนกันหมด เพราะลุกค้ายังงันก้อคือลูกค้านั่นหละนะ...

แต่ใช่ว่าเราจะเอาแต่ขายเพียงอย่างเดียว ช่วงเวลามีงาน event เราจะลงมาช่วยดูแลและประสานงานให้กับลูกค้าจนกว่างานจะเสร็จเรียบร้อย...
เที่ยงคืน ตี 1 ก้ออยู่กันมาแล้ว...งานลูกค้าเลิกเมื่อไหร่ เราถึงเลิกงาน
อันนี้เป็น spirit ส่วนตัวนะ คือจริงไม่จำเป็นต้องอยู่ก้อได้เพราะเจ้าหน้าที่ส่วนอื่นอยู่ปฎิบัติงานอยู่แล้ว...
แต่เป็นความคิดของเราเองที่จะต้องอยู่เป็นเพื่อนลูกค้าอ่ะ เผื่อเวลามีปัญหาหน้างานจะได้ช่วยอำนวยความสะดวกได้อีกแรง...
แต่ก่อนที่จะได้ทำงานที่นี่ก้อคิดว่าจะได้มีโอกาสเจอนักร้อง ดารา ที่เราปลื้มพอมาทำจริงๆ คนที่ปลื้มไม่เจอ แต่ที่เจอก็ใช่กระจอก เราว่าสำหรับบางกลุ่ม บางคน ตอนที่เราได้เจอพวกเค้านั้น ยังดังและดูดีน้อยกว่าตอนนี้อีกอ่ะ...เสียดาย

และในเวลาทำงานจะมาตาพอง ปลาบปลื้มออกนอกหน้าไม่ได้
ทำได้แค่เก็บไว้ในความทรงจำเป็นความสุขเล็กๆ ในใจเท่านั้นหละ

ที่สำคัญกว่านั้น ในช่วงที่งานกำลังดำเนินไป...เราและทีมงานทุกคนมีความต้องการอย่างเดียวกันคือ ขอให้งานจบไปด้วยความเรียบร้อย ทุกคนกลับบ้านไปพร้อมความสุข รอยยิ้ม และปลอดภัย...

...แต่ใช่ว่าจะเป็นอย่างงั้นทุกงานไป การทำงานที่นี่ทำให้เราได้เรียนรู้มากมายจริงๆ โดยเฉพาะการจัดงาน event ที่สร้างสีสัน ความสนุกสนานให้ผู้คนมากมาย แต่จริงๆ มันเป็นงานที่ท้าทาย เสี่ยง และ สดแบบ live มากๆ
ถ้าคุณพลาดนั้นคือคุณไม่มีโอกาสกลับมาแก้ตัวใหม่ได้อีกแล้ว ทำได้ต่อคือการแก้ปัญหาที่เกิดเฉพาะหน้าล้วนๆ เป็นงานที่เหนื่อยแต่สนุกมากมาก
...เป็นการทำงานที่ประทับใจที่สุดแล้วหละสำหรับชีวิตการงานในตอนนี้

และแล้ววาระแห่งการอวสานของ BEC TERO Hall มาถึง...
พนักงานแต่ละคนก้อมีที่ไปของตัวเอง...เราและเพื่อนอีกคนได้โอกาสมาทำงานด้านการจัดโชว์...คราวนี้มาเป็นผู้จัดงานบ้างแล้ว

งานนี้เป็น Family Show จัดเพื่อเด็กๆ ได้บันเทิงกันบ้าง
เรารับหน้าที่ดูแลการสื่อสารการตลาดเพื่อโปรโมทตัวโชว์ให้เป็นที่รู้จักและชักชวนให้กลุ่มคนซื้อบัตรมาดูโชว์กันเยอะๆ

เรามารับหน้าที่ตอนช่วงก่อนที่โชว์จะจัดขึ้นอีกประมาณ 1 เดือนข้างหน้า....นับว่าเป็นช่วงการโปรโมทที่สั่นมากๆ ต้องดูแลจัดการเรื่องการทำ poster, leaflet, banner และอื่นๆ

และนอกจากนี้เราได้รับมอบหมายให้ดูแลจัดกิจกรรม road show ไปตามโรงเรียนอนุบาลต่างๆ เพื่อชักชวนให้เด็กๆ อยากไปดูการแสดง นอกจากโรงเรียนแล้วก้อมีไปจัดกิจกรรมร่วมกับ partner ที่ห้างตามสาขาต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เรียกว่าทำงานทุกวันเลย ในการจัดกิจกรรม road show เราได้ทำ postcard แจกให้กับเด็กและผู้รวมกิจกรรม เป็น special promotion ส่วนลดในการซื้อบัตรด้วย



ใช่ว่าจะมีแต่ road show เราจะต้องพาพระเอกของโชว์ไปอัดรายการ TV ต่างๆ นานา เรียกว่าเดินสายโชว์ตัวกันเป็นดาราเลยหละ...
ทุกคนทำงานกันเต็มที่...ถึงแม้บัตรการแสดงจะขายได้ไม่เต็มทุกรอบ
แต่ก็มีผู้ชมมาดูมากกว่าครึ่งทุกรอบการแสดง...ทุกๆ โชว์ไม่มีเหงา...

การทำงานที่นี่ทำให้เรารู้ว่าการสื่อสารแบบ face to face มีพลังมากๆ
เการที่ราจัด road show ซึ่งเป็นการสื่อสารโดยตรงไปถึงกลุ่มเป้าหมายของโชว์นั่นก็คือ เด็กๆ ถึงแม้ว่าเด็กๆ จะไม่ได้เป็นคนซื้อบัตรด้วยตัวเอง
แต่พวกเค้าจะพาสารของเราพร้อมความอยากดูไปถึงคุณพ่อคุณแม่และขอร้องให้พาเค้ามาดูโชว์เป็นแน่แท้

การที่เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของเราได้ทำให้เราสามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนและสร้างความสนใจ กระตุ้นให้เกิดความต้องการได้มากพอที่มีคนเอา postcard ส่วนลดที่เราแจกไปมาซื้อบัตรที่เคาน์เตอร์จำหน่ายได้เลยที่เดียว...นี่หละอีกหนึ่งการเรียนรู้อานุภาพแห่งการสื่อสาร...

...เหนื่อยมากมายแต่สนุกนะ...แต่เหนื่อยมากไปก้อไม่ไหวเหมือนกันอ่ะ
เราเลยขอถอนตัว...มาลองงานอื่นบ้าง....

ครั้งนี้เปลี่ยน field กันเลยทีเดียว....จากงาน event มาที่การโฆษณา online

เราทำงานในต่ำแหน่งผู้ดูแลลูกค้าด้านการทำโฆษณาทางสื่อ online
หลักๆ ก็คือการโฆษณาทางอินเตอร์เน็ตนั่นเอง

การสื่อสารผ่านสื่อ online เป็นการสิ่งที่น่าสนใจมากๆ
เป็นสื่อที่สามารถวัดผลได้จริงและ real time
เราสามารถรู้ได้ว่าจะจำนวนการเห็นโฆษณาของเราเท่าไหร่
วัดได้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ที่สนใจหรือตอบสนองต่อโฆษณาของเรา
นอกจากนี้สามารถปรับเปลี่ยนข้อความได้แบบปัจจุบันทันด่วน
รวมทั้งสามารถสร้างให้เกิดการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมที่เราจัดทำขึ้นมาบนเว็บที่สำคัญคือไม่แพงและสร้างสรรได้หลากหลาย



หน้าที่ในการดูแลลูกค้าของเรานั้น จะต้องช่วยลูกค้า monitor ดูว่าโฆษณาของเค้าขึ้นได้ครบและถูกต้องตามเว็บไซด์ต่างๆ ได้ตาม plan ที่ได้นำเสนอและผ่านการพิจารณาจากลูกค้าแล้ว

ต่อจากนั้นต้องทำการสรุปผลแผนการรณรงค์โฆษณานั้นๆ ให้ลูกค้าได้ทราบและเข้าใจเพื่อปรับปรุงให้การรณรงค์โฆษณาครั้งต่อไปดีและเหมาะสบขึ้น...การทำงานแบบนี้ต้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์และ online ตลอดเวลา
ทุกวันที่มาทำงาน...ได้เรียนรู้เทคโนโลยีการสื่อสาร online ใหม่ๆ ตลอด
คือเรียกได้ว่าต้องเป็นคนไฮเทคพอสมควรเลยที่เดียว...nobody's laggard

...ตลอดระยะเวลามากกว่า 3 ปีที่ทำงานมา...
...ต่างสถานที่ ต่างหน้าที่ที่รับผิดชอบ...อาจไม่ลึกซึ้ง แต่หลากหลาย...
ทุกที่ที่ผ่านมาได้เรียนรู้และประสบการณ์ ที่ไม่มีในตำรา
...แต่เราได้นำความรู้จากตำราเรียนมาปฏิบัตได้จริง...

การได้ทำงานที่สุจริต...ไม่เบียดเบียนและเอาเปรียบใคร
หาโอกาสที่จะเรียนรู้และพยายาม...ไม่ย่อท้อและพร้อมที่จะก้าวต่อไป...

"ผมเป็นคนเดินช้า แต่ผมไม่เคยเดินถอยหลัง"
อับราฮัม ลินคอล์น





 

Create Date : 04 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 8 มิถุนายน 2552 12:46:44 น.
Counter : 429 Pageviews.  


Row_woR
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีเพื่อนร่วมโลกทุกท่าน...ยินดีที่เราได้ร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์และขอบคุณสำหรับทุกๆ การต้อนรับและตอบรับ...
Credit : Blog background by ::Devon Industry::
Friends' blogs
[Add Row_woR's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.