Group Blog
 
All blogs
 

วิธีขจัดความเครียด 5 วันทำงาน



ทุกครั้งที่เริ่มต้นสัปดาห์แห่งการทำงาน คุณอาจรู้สึกเบื่อเมื่อนึกถึงงานที่ต้องทำอีก 5 วัน ตลอดจนปัญหาที่จะเข้ามาแทรกทำให้คุณต้องจัดการอย่างเร่งด่วน ดังนั้นหากคุณไม่สามารถจัดการกับตารางชีวิต หรือลดละความเครียดลงบ้าง นานวันเข้าก็จะสะสม ส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและจิตใจ ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งทีประสบเหตุการณ์เช่นนี้ ขอแนะนำวิธีขจัดความเครียดโดยทำให้ วันทำงานที่แสนเบื่อกลายเป็นวันรื่นรมย์อีกสักนิด

วันจันทร์

ปรับนิสัยการทำงาน

มักเป็นวันที่จราจรคับคั่งเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นวันแรกของสัปดาห์การทำงาน หากคุณไม่อยากออกจากบ้านเพื่อเผชิญกับรถติดให้อารมณ์เสียกันตั้งแต่เช้า ขอแนะนำให้ตื่นเร็วขึ้นอีกสัก 10 นาที จะได้มีเวลาจัดการตนเองมากขึ้น ออกจากบ้านเร็วขึ้น ทำให้ไม่ต้องประสบกับจราจรคับคั่งอย่างที่เคยชิน เมื่อไปถึงที่ทำงานให้จัดลำดับความสำคัญของงานที่ต้องทำ แต่ควรจดในสิ่งที่สามารถทำได้ภายใน 1 วัน มิฉะนั้นอาจเหลืองานที่ยังทำไม่ทันบนกระดาษ ก่อให้เกิดความรู้สึกเครียด กังวลมากขึ้นไปอีก หลังจากนั้นก็ค่อยๆ จัดการงานไปทีละส่วน

วิธีนี้จะช่วยป้องกันการผัดวันประกันพรุ่ง ช่วยให้คุณรู้สึกว่างานนั้นง่ายและเสร็จเร็วกว่าที่คิด ในขณะทำงานอาจมีเวลาสักช่วงที่รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่อยากทำงาน ให้พยายามเลือกทำงานชิ้นที่คิดว่าใช้เวลาน้อยจะเหมาะที่สุด และสุดท้ายอุปสรรคของการทำงาน คือ การติดต่อสื่อสาร หากคิดว่าช่วงไหนยุ่ง มีงานเร่งด่วน ควรปิดมือถือและใช้ระบบฝากข้อความแทน

วันอังคาร

สร้างบรรยากาศการทำงานที่รื่นรมย์

สาเหตุของความเครียดส่วนหนึ่งมาจากสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงาน เช่น เสียงดัง ห้องทำงานไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มีส่วนช่วยทำให้มีแรงใจในการทำงานมากขึ้น เริ่มจาก

icon ทำความสะอาดโต๊ะทำงาน จัดของให้เป็นระเบียบ หยิบใช้ หรือหาง่าย เพิ่มความสะดวก

icon หาของตกแต่งเพิ่มสีสันบนโต๊ะทำงาน จะช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเช่น แจกันดอกไม้ ภาพถ่ายกับเพื่อน ครอบครัว หรือภาพเขียนที่ชื่นชอบ

iconตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ทำงาน สำรวจว่าโต๊ะทำงานมีแสงสว่างเพียงพอแล้วหรือไม่ เพราะหากมีน้อยไปจะเสียสายตา แก้ไขโดยติดตั้งโคมไฟตั้งโต๊ะ เก้าอี้ไม่แข็งเกินไป นั่งแล้วสายตาพอดีกับโต๊ะ จอคอมพิวเตอร์

วันพุธ

ลดความกังวล

ความกังวลแบบพอดี ทำให้เราไม่ประมาท รู้จักเตรียมการล่วงหน้า ซึ่งเป็นผลดีต่อการทำงาน อย่างไรก็ตามหากมีมากไป จะเป็นอุปสรรคในการทำงาน ทำให้ประหม่า ไม่กล้าตัดสินใจ และอาจทำให้งานล่าช้า นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบไปถึงชีวิตนอกเวลางาน เก็บไปคิดให้กลุ้มใจเป็นวันๆ ดังนั้นเมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกกังวลมาก ขอให้ถามตนเองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นของใคร คิดกังวลแทนคนอื่นมากไปหรือไม่ จากนั้นอาจปรึกษา พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ และขบคิดดูว่าปัญหามีขอบเขตแค่ไหน และเริ่มหาทางแก้ไขปัญหา ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปทีละน้อย

วันพฤหัสบดี

หันมาฟังเสียงตัวเอง ขจัดความเครียด

โดยปกติในชีวิตประจำวัน เวลาคิด หรือตัดสินใจ เรามักพูดกับตนเองในใจ ซึ่งแบ่งเป็น 2 อย่าง คือ แง่บวก และแง่ลบ ซึ่งการคิดในแง่บวกจะช่วยในการตัดสินใจ เพิ่มความมั่นใจ แต่คิดในแง่ลบจะยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลมากขึ้น เช่น คนที่ยึดถือในความสมบูรณ์แบบมักคิดแบบเกินตัว ซึ่งมักรำพึงรำพันกับตัวเองว่า “ฉันน่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ (ซึ่งสถานการณ์จริง ผ่านมานานสายเกินแก้ไขแล้ว)” ยิ่งเพิ่มความเครียดให้ตนเอง ทางแก้ไขควรคิดแบบแง่บวกมากขึ้น เปลี่ยนจากคำถามว่า “ฉันทำผิดพลาดตรงไหน” มาเป็น “จะแก้ไขอย่างไรดี” จะเหมาะสมกว่า

วันศุกร์

วิธีขจัดเครียดอย่างง่ายและรวดเร็ว

ในระหว่างวันที่คุณจะต้องเจอกับปัญหาหลายอย่าง มีวิธีขจัดความเครียดอย่างได้ผลและรวดเร็วมาฝากโดยการ

icon กำหนดลมหายใจ ให้หายใจเข้า-ออก ลึกๆ หลายๆ ครั้ง โดยไม่เปิดปากจะรู้สึกว่าอากาศจะเข้าไปเต็มปอด และท้อง จากนั้นก็หายใจออก

icon พักสักครู่ อาจไปเดินเล่นสักพัก หรือฟังเพลง พักดื่มน้ำ ของว่างสักนิด

icon ออกกำลังกาย นั่งนานๆ มาทั้งวันอาจรู้สึกตึงบริเวณหลัง ขา การออก
กำลังกายช่วยให้ร่างกายได้ยืดเส้น ยืดสาย เพียงแค่วันละ 10 นาที ก็จะช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้น

icon หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรืออาหารไขมันสูง

icon หมั่นยิ้มและหัวเราะกับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเป็นวิธีที่แบบธรรมชาติที่ลดความเครียดได้อย่างดี


ข้อมูลจาก

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต




 

Create Date : 09 ตุลาคม 2550    
Last Update : 9 ตุลาคม 2550 17:53:14 น.
Counter : 303 Pageviews.  

บอกเลิกแฟนอย่างไรให้โดนใจ



โกหกหน้าตาย

จริงอยู่ว่าที่คุณบอกเลิกกับเขาก็เพราะว่านิสัยเสียหลายๆอย่างของเขาที่คุณทนไม่ได้ แม้จะทดลองทนมานานแล้ว แต่ผู้ชายพวกนี้บอกเหตุผลจริง ๆ ไปก็ไม่รู้สึกสะทกสะท้านหรอก โกหกไปเลยหาเหตุผลเจ๋ง ๆ อย่าง “คุณทำให้ฉันรู้ตัวว่าเป็นเลสเบี้ยนแน่นอน” หรือ “ฉันมีผู้ชายใหม่ซะแล้ว ขอโทษนะ” พูดจบก็เชิดหน้าขึ้นแล้วเดินตรงออกไปเลยค่ะ

มาสร้างครอบครัวกันเถอะ

พวกเพลย์บอยทั้งหลายกลัวเหลือเกินกับเรื่องการโดนผูกมัด ดังนั้นการมีครอบครัว การมีลูก คือสิ่งที่เขาทั้งหลายออกอาการกลัวสุดขั้ว ลองแกล้งทำบอกเขาสิว่า คุณอยากแต่งงาน อยากมีลูกกับเขา รับรองว่า แฟนตัวดีของคุณหายเงียบเข้ากลีบเมฆแน่ๆ แต่ถ้ายังไม่ยอมไป ก็แกล้งทำเป็นซื้อหนังสือแม่และเด็กมาอ่าน รับรองว่าคราวนี้หายจริง

สร้างสถานการณ์

ลองให้เพื่อนที่สวยและเซ็กซี่ที่สุดในกลุ่มของคุณแอบมายั่วยวนเขา แล้วบังเอิญว่าคุณมาเห็นพอดี แสดงละครเป็นนางเอกนิยายน้ำเน่าไปเลย ออกอาการโมโห โกรธา น้ำหูน้ำตาไหลได้ก็จะดีมาก และบอกเลิกไปตรงนั้นเลย หลักฐานมัดตัว (ที่คุณสร้าง) มันมีอยู่แล้ว ความผิดไม่ได้อยู่ที่ตัวคุณด้วยอยู่ที่แฟนตัวแสบของคุณต่างหาก

ไซโค

ให้บรรดาเพื่อนสุดเลิฟของคุณ ใครก็ได้ แกล้งทำเป็นแฟนเก่าโรคจิต ส่งอีเมล์ขู่ไปหาแฟนของคุณว่า ถ้าเขาไม่เลิกกับคุณจะต้องโดนดีแน่ๆ ใช้ข้อความที่แรกๆ ดูเบาๆ และค่อยๆหนักขึ้นหนักขึ้น ซึ่งจะทำให้เขาประสาทเสีย แต่ควรจะสร้างอีเมล์ขึ้นมาใหม่นะ ไม่งั้นอาจจะโดนจับได้ หมดสนุกกันพอดี ซึ่งวิธีนี้คุณก็จะได้เห็นธาตุแท้ด้วยว่าแฟนคุณน่ะ ขี้ขลาดตาขาวแค่ไหน

เป็นตัวของตัวเองสุดๆ

อย่างเวลาที่ออกไปข้างนอกกันสองคน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือโรงหนัง แกล้งทำเป็นตดเสียงดัง ไม่ก็เรอออกมาหน้าตาเฉยต่อหน้าเขาเลย แล้วก็ลองถามว่า เขารับได้หรือเปล่า ถ้ารับไม่ได้ก็เลิกกันไปซะ แต่ขอบอกก่อนว่าอันนี้เฉพาะคุณสาวๆ ที่ไม่แยแสสายตาชาวบ้านและขอให้แน่ใจว่าไม่มีคนรู้จักอยู่ในร้านด้วย ทำให้เขาขายหน้าเล่นๆ จะเป็นไรไปล่ะ

ย้ายถิ่นฐาน

แกล้งทำเป็นส่งโปสเตอร์จากสถานที่อื่นๆ มาหาเขาพร้อมด้วยข้อความสั้นๆว่า “จะไปเที่ยวพักผ่อนคนเดียว อีกหนึ่งปีเจอกัน” รับรองว่าเขาอึ้งแน่ วิธีนี้ไม่ต้องเสียเวลาอธิบายอะไรเลย เพราะคนแบบนี้พูดไปก็เท่านั้น ชิ่งไปอย่างนี้แหละ สะใจดี ชอบ....

อย่าเพิ่งมีคนใหม่

ไม่ควรที่จะมีแฟนใหม่ก่อนบอกเลิกกับแฟนคนปัจจุบัน เพราะสิ่งนี้ก็ไม่ได้ทำให้ตัวคุณเองต่างกับแฟนเท่าไหร่ ทางที่ดีควรจะบอกเลิกให้เสร็จสรรพก่อน ที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ คนอื่นจะได้ไม่มองคุณในทางที่ไม่ดี ประมาณว่าจับปลาสองมือ และคุณจะได้คบกับแฟนใหม่ได้อย่างสบายใจด้วย

ทำในที่สาธารณะ

ผู้ชายนิสัยเลวๆอย่างนี้ต้องประกาศให้คนทั้งประเทศได้รับรู้ค่ะ ไม่ต้องไปหาหรอกที่ส่วนตัวเพื่อที่จะบอกเลิก คุยกันเลยต่อหน้าสาธารณชน แต่ไม่ถึงขนาดตะโกนโหวกเหวก อันนั้นก็ละครทีวีไปนิดนึงแต่งานนี้คุณต้องเข้มแข็งสักหน่อย อย่าร้องไห้เชียวละ..สู้สู้..สู้ตายค่ะ

อย่ารู้สึกผิด

หลังจากที่บอกเลิกกันไปแล้ว อย่ามัวมานั่งจับเจ่ากับความเศร้าอยู่เลย เข้าใจว่าไอ้รักมันก็รัก แต่ถ้าผู้ชายมันนิสัยแย่มากๆ ก็อย่าไปแคร์เลยค่ะ รักตัวเองไว้จะดีกว่า คุณยังมีคนรอบข้างที่ยังห่วงคุณอย่างบริสุทธิ์ใจไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง หรือเพื่อน ผู้ชายน่ะ มีเยอะแยะเหมือนผัก ไม่ตายก็หาใหม่ได้..เชื่อสิ




 

Create Date : 09 ตุลาคม 2550    
Last Update : 9 ตุลาคม 2550 17:35:22 น.
Counter : 1129 Pageviews.  

แก้วใบโปรด บอกความเป็นคุณ



อันที่จริงแล้วไม่เฉพาะแก้วกาแฟเท่านั้นแต่หมายถึงแก้วใบโปรดที่ถูกใจมากที่สุด ไม่ว่าจะใส่นม ใส่ชา หรือใส่ น้ำเปล่าก็ตาม ลองสังเกตดูสิว่าแก้วแบบไหน สีอย่างไร ลวดลายแบบไหน ที่ใส่เครื่องดื่มสุดโปรดแล้วก็สุขใจเป็นพิเศษ

** หมายเหตุ...แต่ไม่นับแก้วไวน์ แก้วบรั่นดีและแก้วเบียร์นะคะ!

ชอบแก้วกาแฟลายการ์ตูน

ใครที่ถูกใจแก้วแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นลายตัวการ์ตูนเดี่ยวๆ หรือว่ามีตัวอักษรที่น่ารักๆประกอบอยู่ด้วยนั้น แสดงว่าเป็นคนที่ชอบความสนุกสนาน มีอารมณ์ขันอยู่เสมอ มองโลกในแง่ดีถึงดีมากๆ จนบางครั้งอาจถูกหลอกโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย มักจะเป็นคนนิสัยดี ใจอ่อน รักเด็ก รักสัตว์ และมีจิตใจเอื้ออาทรต่อผู้คนรอบข้าง และติดเจ้าชู้นิดหน่อย

ชอบแก้วกาแฟที่มีถ้อยคำเปี่ยมความหมาย

ส่วนคนที่ชอบแก้วกาแฟซึ่งมีถ้อยคำที่มีความหมายไม่ว่าจะัเป็นคำซึ้งๆอย่าง "I WAIT FOR YOU AGAIN" หรือคำกวนๆแบบ "ช่างมัน...ฉันไม่แคร์อยู่แล้ว" หรือคำตลกๆก็ตาม แสดงว่าเป็นคนช่างคิด และมีความคิดสร้างสรรค์ ชอบทำในสิ่งที่แปลกๆ ใหม่ๆ ในความคิดเห็นของคนทั่วไปจะมีความเป็นตัวของตัวเองซึ่งเป็นลักษณะโดดเด่นเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง และชอบคบหากับเพื่อนฝูงที่สนใจในเรื่องเดียวกัน แต่ก็มักจะเป็นคนใจร้อน แต่ก็ไม่ได้ก้าวร้าวรุนแรง เมื่อเสียใจ มักจะให้กำลังใจตัวเอง มากกว่าจะแสวงหาจากคนอื่นๆ

ชอบแก้วกาแฟสีสันสดใส

คนที่ชอบแก้วกาแฟแบบนี้ แสดงว่าเป็นคนกระฉับกระเฉง รักความก้าวหน้าในชีวิต ต้องการแต่สิ่งที่ดีๆให้ชีวิตและยังเป็นคนที่มีความพยายามสูง เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ นอกจากนี้ยังเป็นคนใจกว้าง ชอบเข้าสังคม แต่ในขณะเดียวกันก็มีโลกส่วนตัว และยังเป็นคนร่าเริง ยิ้มเก่ง หัวเราะง่าย ใครอยู่ใกล้ก็พลอยสดชื่นแจ่มใสไปด้วย

ชอบแก้วกาแฟรูปทรงแปลกๆ

สำหรับคนที่ชอบแก้วกาแฟซึ่งทำเป็นรูปทรงแปลกๆ เช่นรูปรองเท้าบู้ต รูปกระถางต้นไม้ หรือรูปการ์ตูนตัวโปรด แสดงว่าเป็นคนที่มีอารมณ์ร่าเริงเบิกบาน มีความเป็นเด็ก มนุษยสัมพันธ์ดี จะเข้ากับผู้คนได้ง่าย แต่ก็มีความดื้อรั้นแอบแฝงอยู่ หากโกรธใครก็ไม่ผูกใจเจ็บนาน แต่จะนำไปบ่นกับเพื่อนฝูงที่่สนิทกัน เพราะเป็นคนที่รักเพื่อนมาก ส่วนในด้านความรัก จะเป็นคนที่โรแมนติกอย่างไม่น่าเชื่อ และยังรักใครได้ง่ายๆ อีกด้วย

ชอบแก้วกาแฟลายดอกไม้

คนที่โปรดปรานแก้วกาแฟแบบนนี้ ไม่ว่าจะเป็นลายดอกไม้แบบไหนก็ตาม แสดงว่าเป็นคนที่อารมณ์อ่อนหวาน ใจดีแต่ก็เจ้าน้ำตา และจะเป็นคนที่มีอารมณ์ในเชิงรักใคร่สูงมาก รักใครก็จะคาดหวังในตัวเขาหรือเธออย่างมากมาย พอผิดหวังก็แทบจะเป็นจะตาย คนรอบข้างต้องคอยให้กำลังใจเสมอ ไม่ค่อยมีความเป็นตัวของตัวเองนัก ต้องการผู้นำตลอดเวลา มีเพิ่มเติมอีกนิดว่า หากชอบแก้วกาแฟที่มีลายดอกไม้สีสดๆ เป็นคนที่มีจิตใจร่าเริงกว่าคนที่ชอบลวดลายดอกไม้เล็กๆ สีอ่อนๆ ซึ่งจะช่างฝันมากกว่า

ชอบแก้วกาแฟไม่มีลวดลาย

ส่วนใครที่ชอบแก้วกาแฟเรียบที่สุด ไม่มีลวดลาย สีขาวสะอาดทั้งใบ แสดงว่าเป็นคนที่มีจิตใจเปราะบาง มีความละเอียดอ่อน เป็นคนรอบคอบ นิยมสิ่งที่เพียบพร้อมสมบูรณ์ เกี่ยวกับความรัก มักจะเป็นคนที่คล้อยตามคนรักอยู่เสมอ จนบางครั้งก็ต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ ไม่ชอบก็ฝืนใจ เพื่อให้สถานการณ์เป็นไปอย่างราบรื่น เป็นคนที่ดูภายนอกจะเพียบพร้อม แต่ว่าในความเป็นจริงจะมีเรื่องเก็บกดลึกๆ

ชอบแก้วกาแฟรูปราศี-วันเกิด

ส่วนใครที่โปรดปรานแก้วกาแฟชุดราศี หรือว่าแก้วกาแฟที่มีรูปวันเกิดหรือสัญลักษณ์ต่างๆเกี่ยวกับตัวเองนั้น มักเป็นคนที่ชอยบเกี่ยวกับงานศิลปะ เป็นคนมีความละเอียดอ่อนและจิตใจก็อ่อนไหวง่าย และในอีกด้านหนึ่งนั้น จะเป็นคนที่ค่อนข้างให้ความสำคัญหรือเชื่อถือในเรื่องเร้นลับต่างๆ ที่หาข้อพิสูจน์ได้ยาก นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีเหตุผลหลักการ ชอบการคิดและค้นคว้า แต่ก็ต้องเป็นเฉพาะสิ่งเฉพาะเรื่องที่ตัวเองสนใจเท่านั้น และในบางครั้งกับบางเรื่องจะเป็นคนหัวโบราณนิดๆ มักต่อต้านการเปลี่ยนแปลง ค่อนข้างปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้ช้ากว่าคนอื่นๆ

ชอบแก้วกาแฟดินเผา

สำหรับคนที่ชอบแก้วกาแฟสีธรรมชาติ ประเภทเครื่องปั้นดินเผาสีน้ำตาล จะเป็นแบบเรียบๆ หรือมีสีเอิร์ธโทนอื่นๆประดับ แสดงว่าเป็นคนมีน้ำใจ มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เป็นคนมีอุดมการณ์ รักโลก ชอบดูแลพิทักษ์สิ่งแวดล้อม บุคลิกที่เห็นได้ชัดก็คือมักจะเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยเข้ากับใครก่อน แต่ก็จะยิ้มง่าย แต่มักใช้เวลาปรับตัวอยู่เงียบๆ ก่อนที่จะสนิทสนมกับใคร ทั้งนี้ก็เพราะลึกๆเป็นคนอ่อนไหว เปราะบาง สะเทือนใจง่ายนั่นเอง




 

Create Date : 09 ตุลาคม 2550    
Last Update : 9 ตุลาคม 2550 17:32:38 น.
Counter : 1487 Pageviews.  

หญิงหลงชายเสียงทุ้มมากกว่า

หญิงหลงชายเสียงทุ้มมากกว่า



รู้ไหมว่า เสียงทุ้มต่ำของผู้ชาย เป็นเสียงที่มัดใจหญิง?

เดวิด ไฟน์เบิร์ก จาก "แม็กมาสเตอร์ ยูนิเวอร์ซิตี้" ประเทศแคนาดา ศึกษาผลการศึกษามาหลายชิ้น ซึ่งระบุว่า ผู้หญิงชอบเสียงทุ้มต่ำของผู้ชาย เพราะรู้สึกว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นผู้ที่มีวัยวุฒิ มีสุขภาพดี และเป็นแมนเต็มตัวมากกว่าชายที่มีเสียงสูง

ขณะที่ฝ่ายชายชอบผู้หญิงที่มีเสียงสูง เพราะรู้สึกว่า น่าดึงดูดใจ มีเสน่ห์ มีสุขภาพแข็งแรง เป็นเสียงของสาววัยละอ่อน ที่มีความเป็นหญิงและน่าปกป้อง

ไฟน์เบิร์ก ทำการศึกษาชิ้นใหม่ โดยหาความเกี่ยวข้องระหว่างชายที่มีเสียงทุ้ม ว่ามีผลต่อการมีบุตรหรืออัตราการเกิดหรือไม่ การศึกษานี้ ทำกับชนเผ่าฮัดซา ในประเทศแทนซาเนีย เผ่านักล่าเผ่าท้ายๆ ที่ยังเหลืออยู่

เหตุที่ศึกษากับเผ่าฮัดซาเป็นเพราะเผ่านี้ยังไม่มีการคุมกำเนิดแบบสมัยใหม่ จึงสามารถทำการศึกษาโดยไม่มีปัจจัยจากภายนอกเข้ามามีอิทธิพล

จากการศึกษาพบว่าชายเผ่าฮัดซาที่มีเสียงทุ้มต่ำ มีลูกมากกว่า ชายเผ่าฮัดซาที่มีเสียงสูง ซึ่งความสัมพันธ์นี้ อาจทำให้เราเข้าใจถึงการพัฒนาเสียงของมนุษย์รวมทั้งวิธีการเลือกคู่ และอาจเป็นคำอธิบายว่า ทำไมเสียงผู้ชายและเสียงผู้หญิง ถึงแตกต่างกัน




 

Create Date : 06 ตุลาคม 2550    
Last Update : 6 ตุลาคม 2550 5:18:36 น.
Counter : 566 Pageviews.  

11 เคล็ดลับ ลดความกดดันชีวิตคู่

11 เคล็ดลับ ลดความกดดันชีวิตคู่



นักจิตวิทยา และผู้เชี่ยวชาญหลายท่านได้ลงมือวิจัยอย่างหนัก ถึงวิธีการที่จะเพิ่มความสุขและลดความกดดันในชีวิตคู่ จนได้พบกับวิธีที่ง่ายดายและสนุกสนาน ซึ่งเป็นเคล็ดลับในการเพิ่มความสัมพันธ์ให้แนบแน่น และสามารถที่จะช่วยเติมเต็มชีวิตคู่ของคุณได้เป็นอย่างดี

1. หาซื้อ ซีดี หรือเทปเพลงเพราะๆ ที่เขาหรือเธอชอบ มาฝากสักม้วน

งานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เมื่อคู่รักได้ฟังเพลงที่ชอบ หรือถูกใจ จะทำให้ทั้งคู่มีความรู้สึกที่อยากจะร่วมมือกันมากขึ้น เพราะดนตรีสามารถบรรเทาความสับสนทางอารมณ์ได้ และยังช่วยให้มีสุขภาพจิตดีขึ้นอีกด้วย

2. ออกไปทานข้าวนอกบ้าน หรือพบปะกับเพื่อนนอกบ้านบ้าง

คู่รักที่มีความสัมพันธ์กันแบบส่วนตัว หรือใช้เวลาอยู่ด้วยกัน 2 คนมากเกินไป ควรจะมีการพัฒนาสัมพันธภาพกับผู้อื่นบ้าง โดยการออกไปทานข้าวกับเพื่อนฝูงนอกบ้าน หลังแต่งงาน เพราะพวกเขาเหล่านั้นจะมองเห็นในอีกแง่มุมหนึ่งของชีวิตคู่ที่ตัวคุณเองมองข้ามไป หรือมองไม่เห็น โดยเฉพาะในเวลาที่คุณกำลังรู้สึกแย่ พวกเขาสามารถช่วยเหลือ หรือให้คำแนะนำต่างๆ จนคุณรู้สึกดีขึ้นได้

3. ใช้เวลากับตัวเองเพียงลำพังบ้าง

บางครั้งการที่คุณขลุกอยู่ด้วยกันมากเกินไป อาจจะทำให้ต่างฝ่ายต่างขาดความเป็นส่วนตัว ในโลกของคนหนึ่งก็ต้องมีอีกคนหนึ่งอยู่ด้วยเสมอ ถ้าคุณแยกไปทำกิจกรรมที่ต่างคนต่างชอบ หรือให้เวลา และโอกาสตัวเองแยกออกไปจากคู่เสียบ้าง แล้วค่อยกลับมารวมตัวกันใหม่ มันจะทำให้คุณมีความสุขทั้งในโลกส่วนตัว และโลกแห่งชีวิตคู่มากขึ้น

4. ควรให้แต่ละคนได้มีเวลาส่วนตัว หรือมีเวลาที่เป็นอิสระบ้าง

คู่รักที่มีความสุขหลายคู่ รู้จักให้เวลาส่วนตัวและอิสระแก่กันและกัน ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เช่น นัดกันไว้เลยว่า เจอกันที่ร้านอาหารตอน 1 ทุ่มนะ แต่สำหรับช่วงก่อนเวลานัด คุณสามารถที่จะไปทำอะไรก็ได้ เช่น อาจจะมีธุระสำคัญที่ต้องทำก่อนหน้านั้น การกระทำเช่นนี้จะช่วยลดความขัดแย้งลงได้

5. ออกไปโยนโบว์ลิ่ง หรือขลุกอยู่ที่ร้านหนังสือด้วยกัน

คู่รักที่ประสบความสำเร็จ 64 เปอร์เซ็นต์ จะมีความสนใจในเรื่องเดียวกัน จากสถิติของสถาบันแก้ไขปัญหาในครอบครัว ระบุว่า เมื่อคุณได้มีโอกาสใช้เวลาว่างที่มีอยู่ทำกิจกรรมร่วมกัน มันจะเป็นการเพิ่มหรือกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้น บางทีคุณอาจจะต้องลองหาสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจทำดู เพราะมันจะทำให้ชีวิตคู่ของคุณมีรสชาติหลากหลายไม่จำเจ

6. หัดหยอกล้อกันบ้าง

การหยอกล้อหรือเล่นกันเบาๆ การอำ การแซว การตั้งฉายาน่ารักๆ ให้กัน การเล่าเรื่องสัปดน ตลกโปกฮา การพูดคำผวน คำสองแง่สองง่ามที่ไม่หยาบคายเกินไป เหล่านี้จะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดและถือว่าเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่สำคัญ เป็นอีกข้อในการเพิ่มความสดชื่นให้กับชีวิตคู่ของคุณด้วย

7. รู้จักถกเถียงกันบ้าง

ผลการวิจัยข้อหนึ่งบอกว่าคู่รักที่ไม่เคยถกเถียง หรือทะเลาะกันเลย หลังแต่งงาน เป็นต้นเหตุสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะนำไปสู่การหย่าร้างได้ เพราะการบอกเล่า การได้ระบายเกี่ยวกับความรู้สึก หรือความต้องการที่อาจจะกำลังเก็บกดอยู่โดยไม่รู้ตัวของตนเองนั้น ถือว่าเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้ชีวิตการแต่งงานประสบความสำเร็จ

8. ช่วยกันทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ

คู่รักที่ช่วยกันทำงานบ้าน 19 เปอร์เซ็นต์ จะมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกว่าเดิม โดยอาศัยจากการทำกิจกรรมร่วมกัน หรือช่วยกันทำงานภายในบ้าน วิธีหนึ่งที่จะกระตุ้นให้สามีของคุณรู้สึกอยากจะช่วยคุณทำงานบ้านก็คือ กล่าวชื่นชมเมื่อเขาลงมือช่วยคุณล้างจาน หรือทำงานเล็กๆ น้อยๆ อย่างอื่น เช่น ถ้าซักผ้าด้วยเครื่อง คุณอาจจะเป็นคนซัก แล้วขอให้เขาช่วยปรับผ้านุ่ม และอบแห้งให้ก่อนที่คุณจะนำไปตาก

พยายามทำให้มากกว่าเขา หรือทำให้เท่าๆ กัน ไม่ให้เขารู้สึกว่ากำลังถูกคุณใช้งานที่เป็นหน้าที่ของคุณและกำลังเอาเปรียบเขาอยู่ ที่สำคัญคือต้องไม่ลืมขอบคุณเขาโดยการสัมผัส เช่น โอบกอด หรือหอมแก้มสักฟอดแทนคำขอบคุณ เพราะมันจะทำให้เขารู้สึกว่า งานบ้านเป็นภาระที่น่าสนุกและเขาก็อยากจะทำมันต่อไป เนื่องจากมันช่วยทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้น บ่นหรือหงุดหงิดว่าเหนื่อยอยู่คนเดียวน้อยลง ส่งผลให้สัมพันธภาพในชีวิตคู่ของคุณกับเขามีความกดดันน้อยลง

9. แบ่งเวลาจากการดูโทรทัศน์สักวันละครึ่งชั่วโมง

คนที่ชอบใช้เวลาดูโทรทัศน์นานๆ ความสัมพันธ์กับคู่รักก็จะค่อยๆ แย่ลง เพราะโทรทัศน์เป็นสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกแบ่งแยก และเป็นส่วนตัว เริ่มตั้งแต่เปิดโทรทัศน์ ความสนใจของคุณที่มีต่อคนรักก็จะลดลงไป

ถ้าเป็นผู้ชาย 90 นาที ที่คุณใช้เวลาดูฟุตบอล หรือในทางตรงกันข้าม เวลา 1 ชั่วโมงครึ่งที่ผู้หญิงดูละคร ต่างฝ่ายต่งก็จะลืมกันและกัน โดยเฉพาะบ้านที่มีโทรทัศน์ 2 เครื่องแล้วแยกกันดูคนละเครื่อง คนละห้อง แต่ถ้ามีโทรทัศน์เครื่องเดียว ก็จะเกิดปัญหาการแย่งรีโมทกันตามมาอีก

บางคู่ไม่ได้ดั่งใจก็งอนกัน บางคู่ดูโทรทัศน์เพลินจนดึกดื่นเที่ยงคืน พอขึ้นเตียงต่างคนต่างก็ปฏิเธที่จะทำกิจกรรมอย่างอื่นเพราะกลัวว่าดึกแล้ว เดี๋ยวจะเหนื่อยอ่อนเพลียไม่มีแรงตื่นไปทำงานตอนเช้า หรือบางคู่สามีดูกีฬาถ่ายทอดสดเพลิน พอคิดจะมีอะไรกุ๊กกิ๊กๆ ที่เป็นส่วนตัว กะว่าจะมาสะกิดภรรยา อ้าว!!! ปรากฏว่าภรรยาดันหลับเสียแล้ว ทำให้เสียอารมณ์ทั้งคนปลุกและคนถูกปลุก เกิดปัญหาตามมาอีก

10. ผลัดกันอ่านหนังสือการ์ตูน หรือเล่าเรื่องตลกให้กันฟัง

ถ้าคู่รักของคุณเป็นคนมีอารมณ์ขัน รู้หรือไม่ว่าอย่างน้อยสิ่งนี้สามารถช่วยลดความขัดแย้ง หรือการปะทะคารมลงไปได้อย่างน้อย 67เปอร์เซ็นต์เพราะมันจะทำให้อารมณ์เย็นลง หรือช่วยลดความรุนแรงของการสนทนานั้น และคุณยังสามารถสร้างอารมณ์ขัน หรือสร้างทัศนคติในการมองโลกให้แง่ดีด้วยตนเอง โดยการอ่านหนังสือการ์ตูน หรือผลัดกันกับคู่รักเล่าเรื่องตลกให้กันฟังก็ได้

11. บอกเล่าถึงความฝัน หรือความต้องการของคุณ

ผลัดกันบอกเล่าถึงความฝัน หรือความต้องการในอนาคตว่า คุณอยากจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่ไหนอยากจะใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างไร หรือเริ่มต้นโดยสนทนาเกี่ยวกับธุรกิจการงานของคุณ หรือการไปทัวร์ยุโรปของคุณ

จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยในอเมริกาพบว่า คู่รักจำนวนมากนิยมบอกเล่าถึงความต้องการส่วนตัวของตนเอง และ 62 เปอร์เซ็นต์ พบว่ามันช่วยทำให้ชีวิตคู่ของพวกเขามีความสุขมากขึ้น เพราะว่าการแสดงออกถึงความต้องการ หรือความฝันของตนเอง จะช่วยลดพฤติกรรมที่ปิดกั้นระหว่างกันได้มากขึ้น และก็เป็นการดีที่ทั้งคู่จะช่วยกันพยายามสร้างอนาคตร่วมกัน

บอกกันตรงๆ หรือจะมีกุศโลบายในการบอกอย่างชาญฉลาดไปเลยว่า อะไรที่จะทำให้คุณมีความสุข (มากขึ้น) หรือรู้สึกดีเพิ่มขึ้น เช่น อาจจะเป็นการพูดคุยกันขณะดื่มกาแฟด้วยกันในตอนเช้า การแสดงออกถึงความต้องการนี้จะช่วยลดความกดดัน หรือความอึดอัดลงได้ 15 เปอร์เซ็นต์

ส่วนคู่รักที่ไม่ยอมบอกถึงความต้องการของตนเอง พบว่าความกดดันจะเพิ่มขึ้นเป็น 48 เปอร์เซ็นต์





 

Create Date : 06 ตุลาคม 2550    
Last Update : 6 ตุลาคม 2550 5:16:09 น.
Counter : 361 Pageviews.  

1  2  3  

hugpui
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




How Can U Love Someone, If U Don't Love Youself?


< เพื่อนที่กำลังชมบล๊อก จำนวนผู้แวะชม
Aerosmith
Friends' blogs
[Add hugpui's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.