เล่าไป บ่นไป จิบกาแฟไป
|
||||
เมื่อผมเป็นแมงเม่า
เริ่มจากการเปิดพอร์ต ยังไม่มีความรู้เรื่องหุ้นชัดเจนนัก เข้าซื้อหุ้นตามคำบอกเล่า วันแรกหุ้นขึ้น และวันที่สองหุ้นขึ้นต่อ ดัชนีอยู่ที่ประมาณ 1600 วันต่อมาหุ้นลง และค่อยๆลง พอร์ตเริ่มแดง ใจแข็งไม่ยอมขาย ทนอีกหน่อย เดี๋ยวก้อขึ้น หุ้นตัวนี้รักมาก เอ๋ทำไมไม่ยอมขึ้นนะ ดูสิ ลงเอาลงเอา ขาดทุน 10% ขาดทุน 20% ไม่กล้าขาย และในที่สุดขาดทุน 30% ตัดสินใจขายเพื่อ ซื้อตัวใหม่ ซื้อตัวใหม่จากการศึกษาข้อมูล หุ้นตกต่อ แต่ในที่สุดก็ดีดขึ้น รอ และ Let profit run ทนไม่ไหวแล้วดูท่าทางจะลงแล้ว ตัดขายก่อน กำไรนิดหน่อยก็เอาก่อน ขายเสร็จหุ้นเด้งกลับขึ้นต่อซะงั้น เป็นเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เริ่มเข้าใจอาชีพชาวดอย เริ่มเข้าใจความจริงในตลาดที่มีแต่เสือสิงห์กระทิงแรด เริ่มเห็นพฤติกรรมกองทุน ต่างชาติ และ บริษัทหลักทรัพท์ ที่มีอิทธิพลในตลาดหุ้น เริ่มเรียนรู้จากการอ่าน จากประสบการณ์จริง ไปหาตำราอ่านมากขึ้น ใช้เทคนิคตามตำรา วิเคราะห์หุ้นตามที่กูรูเขียนไว้ ก่อนทำการซื้อ ตัดสินใจซื้ออีกครั้ง และอีกหลายครั้ง บ้างก็เป็นแบบที่ตำราเขียนไว้ บ้างก็ไม่เป็น มันยากที่จะเข้าใจจริงๆ หุ้นที่เราซื้อมันนิ่งเฉย ดัชนีวิ่งขึ้น หุ้นตัวอื่นวิ่งขี้นอย่างน่าอิจฉา ทำไมหุ้นเราไม่ไปไหนมาไหน เราเลือกผิดตัวหรือไร นี่เราเลือกซื้อตัวที่ลงมาต่ำแล้ว มันยังวิ่งลงต่ำกว่าอีก ทั้งๆที่ กูรูก็เขียนเชียร์อยู่ด้วย แต่ทำไมไม่ยอมขึ้น มีแต่ลง กูรูท่านว่า การซื้อหุ้น ถ้ามีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องส่วนใหญ่จะล้มเหลว การตัดสินใจต้องมีเหตุผลและอยู่บนพิื้นฐานที่ดี ต้องมีข้อมูลที่ดี ต้องอ่านบทวิเคราะห์ให้เป็น ต้องดูงบการเงิน และวิเคราะห์ให้เป็น เป็นต้น และสุดท้ายที่ผมมองว่าสำคัญที่สุด ต้องเข้าซื้อให้ถูกจังหวะเวลา และขายให้เป็น ต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดเมื่อถึงเวลานั้น ต้องหาวิถีทางของตัวเองที่จะเอาชนะตลาดให้ได้ สู้สู้ |
สมาชิกหมายเลข 3126922
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
Group Blog All Blog Friends Blog Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |