ลาวเหนือในหมอกฝน สามสาวกับทริปแห่งความทรงจำ

หลังจากกลับจากนิวซีแลนด์ได้ไม่นาน (กลับมากลางเมษายน) ต้นเดือนมิถุนายนก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางอีกแล้ว อันที่จริงก็ไม่ค่อยตั้งใจจะไปเท่าไหร่ เพราะเพิ่งกลับจากนิวซีแลนด์ กลับไปทำงานได้เดือนกว่าๆจะลาอีกแล้ว คราวก่อนลาไม่รับเงินเดือนไป 3 เดือน ครั้งนี้จะลาอีก 1 สัปดาห์ เจ้านายยังถามเลย "จะลาออกไปเที่ยวเลยดีมั๊ย คราวที่แล้วชั้นก็อุตสาห์คิดซะว่าเธอลาคลอด เพราะกลับมาตัวบวมเชียว" แหมๆๆ มีเหน็บ แต่ก็ให้ไป

ทั้งนี้ที่เรายอมใจอ่อนไปลาว (ทั้งๆที่ไม่เคยคิดอยากจะไปเลยนะ) ก็เพราะเพื่อนขอร้องแกมบังคับ เนื่องจากเธอหาสมาชิก ร่วมทริปได้แค่ 2 คน แล้วจะขับรถเที่ยว แต่เพื่อนอีกคนขับรถไม่เป็นอ่ะ เราเลยจำใจต้องไปด้วยตามหน้าที่เพื่อนที่ดี แต่กลับกลายเป็นว่าผิดคาด มันสนุกมาก และไม่มีวันลืม ลาวที่แตกต่างจากที่เคยได้ยินมา (เค้าว่าเหมือนบ้านนอกของไทย แต่มันไม่ใช่) ลาวที่เหมือนนิวซีแลนด์ (ตรงที่เหมือนโลกก่อนมีมนุษย์…ซะงั้น) ลาวที่เหมือนปายหรือ Queenstowns (ที่วังเวียงไง) ภาษาลาวฟังง่ายและเหมือนภาษาไทยมากกว่าภาษาอีสานซะอีก (เราว่านะ) ฯลฯ

จะไปลาวต้องขอวีซ่าด้วยนะ เพื่อนบอก จริงเหรอ? เออ ไปก็ไป แล้วก็พากันไปสถานทูตลาวอยู่แถวเหม่งจ่าย ค่าทำ 300 บาท เสร็จเรียบร้อยพร้อมออกเดินทาง การเดินทางครั้งนี้ไปด้วยรถไฟตู้นอน (ครั้งแรกในชีวิตเลยนะเนี่ยที่ได้ขึ้นรถไฟไทย) เพราะต้องการประหยัด (ไม่ทำงานตั้งสามเดือนเงินจะกินก็จะไม่มีอยู่แล้วยังจะไปเที่ยวอีก) ไปถึงหนองคายเช้า แล้วข้ามไปลาวตอนสายๆ จากหนองคายจะมีรถโดยสารข้ามสะพานไปถึงฝั่งลาวตรงตรวจคนเข้าเมือง ราคาค่าโดยสารไม่แพงเท่าไหร่คิดเป็นบาทนะ ตอนนั้น SARS ระบาดจำได้เลยว่าที่ ตม.เจ้าหน้าที่เอาปรอทแบบสุดไฮเทคมาจิ้มหน้าผากเพื่อน เสร็จก็มาจิ้มเราเลย ยึ๋ยย ผ่านมากี่คนแล้วนี่ไม่ต้องเช็ดอัลกอฮอล์อะไรเลยเหรอ SARS มันจะแพร่ก็เพราะพี่คนนี้แหละ

เสร็จพิธีการ ก็เข้ามาที่เวียงจันทร์ ตอนนี้ทุกอย่างจะเริ่มแพง แม้กระทั่งแท็กซี่เก่าๆเข้าเมือง เค้าถือว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวไง มาถึงเวียงจันทร์เราก็ไปหารถเช่า ที่นี่ไม่มี Avis หรือไงหว่าหาไม่เจอ แต่มีร้านของฝรั่งคนนึงมาเปิดให้เช่ารถ ค่าเช่าแพงกว่าที่นิวซีแลนด์ซะอีก ตกใจอย่างแรง รถโตโยต้าไทเกอร์ เกียร์กระปุกนี่แหละ ค่าเช่าวันละ 2,000 บาท (Toyota altis ที่เช่าของ Avis ที่นิวซีแลนด์ 1,500 บาทเอง) เจ้าของเค้าบอกว่ารถที่ลาวแพงมาก เพราะภาษีรถยนต์แพงมาก เอาก็เอา มาถึงแล้วไม่เช่าเค้าก็คงต้องเดินแหละ
ปรากฏว่าเกิดเหตุประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ขับออกมาไม่ถึง 5 นาที ไม่ดูตาม้าตาเรือ เข้าไปสวนวันเวย์ มาเล้ยตำรวจลาว... อาจดูไม่เท่ห์และไม่เป็นมิตรเท่ากะพี่โปลิสที่นิวซีแลนด์...พี่แกจะเขียนใบสั่งให้เรา เราก็เอาใบขับขี่สากลให้ แกไม่อ่านหรอก แกบอกว่าต้องยึดรถไว้ก่อน ต้องเสียค่าปรับแล้วถึงให้ไปได้ เอ้า......ยังไงนี่ งั้นจะไปเสียเลยก็ได้ แกบอกว่าวันเสาร์อาทิตย์สถานีตำรวจไม่เปิด เออ...เหรอ...จิงอ่ะ เราก็เริ่มพอจะรู้ถึงความไม่ชอบมาพากล เลยไม่อยากเสียเวลามากเพราะไงเราก็ผิด เลยบอกจะเสียค่าปรับตรงนั้นเลย (ทำไงได้มันไม่มีทางเลือกอ่ะค่า) พี่แกอย่างโหดบอกจะเอา 500 (บาทนะไม่ใช่กีบ) กะตั้งตัวเลยเหรอเพ่ ที่กรุงเทพเค้ายังไม่ปรับแพงขนาดนี้เลย เราเลยบอกว่าจะไปก่อน ขากลับมาแล้วถึงจะมาจ่าย แกบอกว่า ถ้าขับรถไปจะโดนตำรวจมาจับอีก เพราะเราไม่มีใบขับขี่ เออ เอากะมัน มีงี้ด้วย ท้ายสุดเพื่อนเลยยอมเสีย 500 แหมทำเสียอารมณ์ตั้งแต่วันแรกเลย เพื่อนก็บอกว่าไม่เป็นไร ใจเย็นๆ คิดซะว่ากระจายรายได้!!! แหมช่างคิดจริง

เอ้า เอาก็เอา สลัดความโกรธออกไปขับรถต่อไป จุดมุ่งหมายวังเวียง จะไปถูกไหมเนี่ย แผนที่ที่ได้มามันทำไมดูยังไงชอบกล ความจริงแผนที่ไม่โหดเท่าไหร่ ป้ายบอกทางนี่สิเจ๋งกว่า ทำให้คิดถึงเมืองไทย ที่เวลาเราขับรถไปแล้วหาทางเข้าไม่เจอ หาป้ายไม่เจอ หรืองงว่าป้ายที่มันชี้ไปแบบนี้มันจะให้เราไปไหน และเราจะมั่นใจอย่างไรว่าป้ายมันไม่ถูกลมพัดหมุนไปผิดทาง
ความจริงถนนที่นี่ ที่เค้าบอกว่าเหมือนหลุมบนพระจันทร์ มันจริงที่สุด คือมันเป็นหลุมจนไม่เหลือพื้นถนนเลยอ่ะคะ แต่เป็นเฉพาะที่เวียงจันทร์เท่านั้น เส้นทางที่ออกนอกเมืองไป สงสัยจะทำใหม่ เพราะถนนดีมาก ใหม่ถึงขั้นที่ยังไม่ขีดเส้นเลย (หรือตั้งใจก็ไม่รู้) เส้นทางที่เราจะไปจนถึงหลวงพระบางนั้นเป็นเส้นทางขึ้นเขาทั้งหมด เรามาหน้าฝนก็กลัวถนนลื่นเหมือนกัน ในที่สุดก็เกิดอุบัติเหตุจนได้ ประมาณวันที่ 4 ของการเดินทางแล้วล่ะค่ะ ขากลับจากหลวงพระบางมาวังเวียง รถกำลังลงเขาเพื่อนเราขับ ทางชันเกือบ 40 องศาได้ ข้างล่างเป็นโค้งหักศอก ปรากฏว่ารถลงมายังไม่ถึงโค้งเลยกำลังจะถึง (ถนนคงลื่นมาก และรถเช่าอาจไม่ได้ Maintenance ดีนักดอกยางคงเสื่อมหมดแล้ว) จู่ๆท้ายรถก็อยากจะมาเป็นหัวรถ คือเพื่อนเราคงแตะเบรกเพื่อจะชะลอความเร็วลงเพื่อเข้าโค้ง ผลปรากฏว่าท้ายรถปัดลงมา เพื่อนตกใจก็เหยียบเบรก รถเลยหมุนลงมา (Moment นั้นเหมือนในหนัง Action เลย) รถลงมาถึงตรงโค้งพอดีแล้วก็หยุดสนิท นึกว่าจะไม่รอดกลับไปซะแล้ว พวกเราก็ตกใจกันมาก แถวนั้นยังดีมีบ้านกะเหรี่ยงอยู่ (ถ้าไปติดที่ที่ไม่มีคนคงแย่เลย) คนก็ทยอยออกมาดู เรานึกในใจว่ายังดีอย่างน้อยก็มีคนช่วยเข็นรถแล้ว เพื่อนเราลองถอยดูไม่เป็นผล เพราะล้อหน้าลงไปติดอยู่ข้างทาง ยังดีที่มันไม่ชนเข้ากับภูเขานะ ถ้ารถเสียขับต่อไม่ได้มีหวังต้องนอนบ้านกะเหรี่ยง รถมัน 4WD จริงป่าวหว่า ไม่เห็นจะออกได้เลย ลองดูอยู่สักพักปรากฏว่าออกได้ เลยไม่ต้องไปเจรจากับกะเหรี่ยง (กำลังคิดอยู่จะพูดภาษาอะไรดีถึงจะรู้เรื่องกัน แต่ยังไงภาษาใบ้ก็คงเข้าใจกันแล้ว)

การขับรถเที่ยวในลาว เราว่าปลอดภัยมาก เรามากันสามสาวเอง คิดว่าเป็นประเทศที่มีอาชญากรรมน้อยมากเลย เมื่อเทียบกับประเทศไทย จึงไม่กลัวเท่าไหร่ แต่ปรากฏว่าวันก่อนจะมามีข่าวใหญ่ คนปล้นรถเมล์ยิงคนไปนับสิบ เลยสยองอยู่ แถมขับรถไปข้างทางมีทหารถือปืนมาโบกตลอดเลย เราก็งงมาโบกทำไม ไม่จอดหรอกจ้างให้ พอไปถามเจ้าของรีสอร์ทที่พัก เค้าบอกไม่มีอะไร คงจะขอบุหรี่เท่านั้น เลยโล่งใจ เค้าบอกว่าเหตุการณ์ที่เป็นข่าวดังน่ะ 10 ปีมีครั้งเลยดังมาก ไม่เหมือนเมืองไทยมีจนชิน อ้าวลุง!

เราขับรถกันบนถนนที่โล่งมากๆ แทบไม่มีรถยนต์คันอื่นเลย ตอนนี้เชื่อแล้วว่ารถแพง มีแต่รถเมล์ซึ่งนักท่องเที่ยวพวก Backpacker นิยมใช้บริการ เพราะการเดินทางไปหลวงพระบางถ้าไม่ขับรถ ก็ต้องใช้รถเมล์นี่แหละ (เป็นบัสแบบไม่ติดแอร์) หรือไม่ก็ต้องเครื่องบินเลย
มีเรื่องระหว่างการเดินทางอยู่เรื่องนึงจำได้ไม่มีวันลืม มีอยู่วันนึงขับรถตามหลังรถเมล์นี่แหละ อยู่ๆรถเมล์ก็จอด ไม่เห็นจะมีสาเหตุเลย จอดกลางถนนเลย กลางทางด้วย ไม่ใช่ในเมือง เสร็จเราก็ต้องจอดสิ รถใหญ่ขวางอยู่แซงไม่ได้ สักพักมีคนวิ่งลงจากรถ กรูกันออกมาเต็มเลย วิ่งไปข้างทางทั้งซ้ายและขวา เราคิดว่าต้องมีเรื่องปล้นแน่ ตกใจมากเลยในตอนนั้น ทำอะไรไม่ถูกได้แต่อึ้ง อึ้ง อึ้ง...
แต่เราคิดผิด คนเหล่านั้นวิ่งเข้าป่าหญ้าข้างทางกันหมดเลย หญิงซ้ายชายขวาอะไรประมาณนี้ คือไปธุระส่วนตัวนั้นเอง เพราะที่นี่ไม่มีห้องน้ำระหว่างทางเลยจร้า 555555 จำได้ว่าขำกันจนน้ำตาไหล
Natural Toilet นี้เราก็เคยใช้บริการเหมือนกัน มันสุดจะทนแล้วในตอนนั้นไม่ไหวจริงๆ ระยะทางก็ไกลมากๆ บางครั้งขับรถยาว 4 - 5 ชั่วโมง คนเราจะกลั้นได้ไง แต่บรรยากาศดีนะ กลับสู่สามัญดี ใครอยากลองต้องขับรถไปเท่านั้น นั่งเครื่องบินหมดสิทธิ์

ในที่สุดก็มาถึงวังเวียง ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ที่วังเวียงนี้เป็นเมืองแห่งการผจญภัย มีแม่น้ำชื่ออะไรจำไม่ได้แล้วไหลผ่าน ทำให้มีการล่องแก่ง ด้วยแพยาง, Kayak , หรือจะล่องด้วยห่วงยางก็ได้น่าสนุกดี ครั้งนี้พวกเราเลือก Kayak ก็ต้องขับรถไปไกล 10 กิโลเมตรได้ ก็ล่องมาจนถึงหน้ารีสอร์ท จำได้ว่ามันแป๊ปเดียวเท่านั้น ด้วยความที่อย่ากเล่นนานๆ เลยช่วยกันพายทวนน้ำ ทำเอาหมดแรงเลย สู้ไม่ไหวจริงๆ ไม่ถึงไหนเลย อ้อ..จากวังเวียงมีทริปล่องแม่น้ำด้วยห่วงยางกลับไปถึงเวียงจันทร์เลย ใช้เวลาสั้นกว่าขับรถอีก 3 ชั่วโมงเอง แต่เราติดที่รถไม่มีใครขับกลับไปคืนน่ะสิ ไม่งั้นลองไปแล้ว เสียดายจัง

ที่พักที่วังเวียงนี้เราเลือกแบบหรูสุดเลย ราคา 16 / คืน ต่อจนเหลือ 14 USD เนื่องจากคุยกับเจ้าของจนถูกคอเลยยอมลดให้ (ที่นี่ Kylie Minogue นักร้องดังเจ้าของเพลง I can't get you out of my head.......la la la....... ก็เคยมาพักด้วย ไฮโซ มั๊ยล่ะ

ที่หลวงพระบางมีที่พักมากมายพอๆกะวัด ที่มีเยอะมากซะจนไว้พระเก้าวัดได้ในเวลา 1 ชั่วโมงเลย และวัดสวยมาก เราไม่ได้จองโรงแรมไปหรอก อย่างเรามันไปตายดาบหน้าอยู่แล้ว หาที่พักได้คืนละ 400 บาทเองห้องใหญ่มาก สวยด้วย เป็นไม้สักเกือบทั้งหมดเลย คิดไปคิดมา ถูกและดีแบบนี้มีจริงเหรอ จะแถมเพื่อนคุยยามวิกาลให้ด้วยป่าว บรื่อรร์ คิดแล้วก็รีบนอนดีกว่า วันพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปตักบาตรข้าวเหนียว เห็นเจ้าของโรงแรมบอกว่าของใส่บาตรจะมีขายตอนเช้าเลย เราไม่ต้องไปหุงหาอะไรหรอก มีเพียบ การตักบาตรตอนเช้าของที่นี่นั้น amazing สุดๆ เพราะพระมีเป็นร้อย เลย เยอะมากๆๆๆ เป็นเมืองแห่งพุทธศาสนาจริงๆ จะให้ได้ฟิลล์ต้องนุ่งผ้าถุงและห่มสไบด้วย ย้อนอดีตมากๆ

สถานที่ท่องเที่ยวอีกที่นึงที่ไม่ควรพลาด แต่มีคนบอกเราว่าไปทำไม..อ้าว คนเราคิดไม่เหมือนกัน นั่นก็คือทุ่งไหหิน ดูจากภาพมันก็ไม่ได้สวยงามอะไร แต่ที่ไปดูซากไหยักษ์เหล่านี้ เพื่อหาคำตอบ ที่ใครก็ตอบไม่ได้ว่า ใครเอาไหเยอะแยะมากองไว้ตรงนี้ แล้วเมื่อหลายร้อยปีก่อน ไหพวกนี้เค้าใช้ทำอะไร คงประมาณอารมณ์เดียวกะคนไปดู Stone Hence น่าแหละ เราว่าคงเป็นมนุษย์ต่างดาวแหละที่เอามา มันหนักจะตาย คนบ้าที่ไหนจะเอามากองไว้ล่ะ อิอิ


ทุ่งไหหิน





















 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 5 กรกฎาคม 2553 16:58:29 น.
Counter : 663 Pageviews.  

 
 

Nomadus
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ประวัติการศึกษา
-ปริญญาตรีพยาบาลศาสตร์บัณฑิต คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 1992 - 1996
-Certificate of Workshop on Professional Counseling, National University Hospital, Singapore, April 2000
-Certificate of CGFNS Certification Program, the Commission on Graduates of Foreign Nursing School, Philadelphia, Pennsylvania, United States of America, September 2003

ประวัติการทำงาน
2006 – ปัจจุบัน Managing Director, Fertility Center Co.,Ltd
1999 - 2005 Blastocyst Center, Infertility Counselor: ให้คำปรึกษาแก่คู่สมรสเกี่ยวกับการรักษาภาวะมีบุตรยาก และอนามัย การเจริญพันธุ์
1996 - 1999 Newborn Intensive Care Unit, Incharged Nurse: ดูแลทารกแรกเกิดอาการปกติ และทารกแรกเกิดอาการวิกฤตในหอผู้ป่วยทารกแรกเกิด และให้คำแนะนำปรึกษาในการเลี้ยงดูทารกแก่บิดามารดา
[Add Nomadus's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com