|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
น้ำจิ้ม ปลาหมึกสดย่าง
//www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=48511&NewsType=2&Template=1 ถอดรหัสอาชีพ เสาร์ที่ 10 พ.ย. 2550 เสาร์นี้ผมนำสูตร น้ำจิ้มปลาหมึกสดย่าง มาบอกกล่าวกันตามที่มีผู้ขอมา โดยส่วนผสมหลักตามสูตรที่ผมมีอยู่ ก็ประกอบด้วย... พริกขี้หนูสด 2 กก., มะนาวเทียม 4 ขวด+มะนาวสดประมาณ 20 ผล, น้ำตาลปี๊บ 2 กก., เกลือป่น 1 ถ้วยตวง, กระเทียม1/2 ถ้วยตวง
วิธีทำ... บดหรือปั่นพริกขี้หนูและกระเทียมให้ละเอียด แล้วเทใส่ลงในหม้อ จากนั้นนำน้ำตาลปี๊บ มะนาวเทียม เกลือป่น เทลงผสม คนให้ส่วนผสมเข้ากันหรือจนน้ำตาลปี๊บละลาย แล้วจึงบีบมะนาวสด 20 ผลลงไป พร้อมกับใส่เปลือกมะนาวที่บีบแล้วลงไปด้วย คนให้เข้ากันอีกครั้ง ก็เป็นอันเสร็จ จะได้ น้ำจิ้มเผ็ด
ส่วนผสมที่ใช้ทำน้ำจิ้มนี้ ให้ค่อย ๆ เติม หมั่นชิมรส หากขาดรสใดก็ค่อย ๆ เติมส่วนที่ขาด ปรุงแต่งรสช้า ๆ ไม่ต้องรีบร้อน ทำบ่อย ๆ การกะส่วนผสมก็จะนิ่งเอง นอกจากน้ำจิ้มเผ็ดแล้วก็ยังมี น้ำจิ้มหวาน โดยใช้... ใช้น้ำตาลปี๊บ 1 กก., มะขามเปียกคั้นเอาแต่น้ำ 1 ถ้วย, กระเทียมดองใส่ทั้งน้ำและหัวประมาณ 300-400 กรัม วิธีทำ... นำส่วนผสมทั้งหมดผสมกันแล้วตั้งไฟคนให้ละลายเข้ากัน ชิมดูให้ออกรสหวานนำ ก็จะเป็นน้ำจิ้มหวาน หรือน้ำจิ้มสำหรับเด็ก การขายปลาหมึกสดย่างนั้น สำหรับน้ำจิ้มอาจจะมีลูกค้าส่วนหนึ่งที่มักจะชอบให้ผสมน้ำจิ้ม 2 แบบ คือทั้งน้ำจิ้มเผ็ด-น้ำจิ้มหวานเข้าด้วยกัน จะมีรสกลมกล่อม หอม อร่อยไปอีกแบบครับ !!
ต่อด้วย... สำนักงานจัดหางานจังหวัดปทุมธานี ร่วมกับศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดปทุมธานี และศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต จัดงาน นัดพบแรงงานและอาชีพเชิงบูรณาการจังหวัดปทุมธานี ครั้งใหม่ ในวันพุธที่ 14 พ.ย. ในงานมีบูธรับสมัครงานตำแหน่งต่าง ๆ ตั้งแต่วุฒิ ป.6-ปริญญาโท พร้อมจุดบริการค้นหาและสมัครงานทางอินเทอร์เน็ตฟรี นอกจากนี้ยังเปิดสอนวิชาชีพอิสระให้เรียนฟรี พร้อมอุปกรณ์ อีกกว่า 7 สาขาวิชาชีพ อาทิ ดอกไม้จากดินญี่ปุ่น, กระเป๋าสตางค์, ร้อยลูกปัด, ประดิษฐ์ของชำร่วย, ร้อยคริสตัล, เพนท์เล็บ, ดอกไม้ใบบาง ฯลฯ รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ โทร.0-2531-4320 ต่อ 2307
เปิด สูตรเครื่องดื่ม กันอีกครั้ง... สูตรแรกจากครอสโรดบาร์ โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพฯ เป็นเครื่องดื่มสูตรผลไม้ไร้แอลกอฮอล์ Dragon Claus ส่วนผสมก็มี... แก้วมังกรเนื้อสีแดง 1 ผล (สำหรับปั่น), แก้วมังกรเนื้อสีขาว 1 ผล (คว้านเนื้อออกสำหรับทำภาชนะ), สารให้ความหวานแทนน้ำตาล 2 ซอง, เกลือ, น้ำแข็งเกล็ด วิธีทำ... เทส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ เติมเกลือนิดหน่อย ตามด้วยน้ำแข็งเกล็ด ปั่นให้เข้าเป็นเนื้อเดียว จากนั้นรินใส่ผลแก้วมังกรสีขาวที่คว้านเนื้อออกแล้ว พร้อมเสิร์ฟได้ทันที อีกสูตรจากล็อบบี้เลาจน์ และห้องอาหาร อิตาเลียน วีวา..วีโน โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียว ปาร์คอเวนิว (สุขุมวิท22) เป็นค็อกเทล Cuba Libre มีแอลกอฮอล์เล็กน้อย ส่วนผสมประกอบด้วย... ไลท์รัม 1 ออนซ์, มะนาว 0.5 ออนซ์, โคคา-โคล่า 0.5 ออนซ์, น้ำแข็ง วิธีทำ... เติมน้ำแข็งใส่แก้ว ตามด้วยไลท์รัม ต่อจากนั้นใส่โคคา-โคล่า แล้วตามด้วยน้ำมะนาว ตกแต่งด้วยผิวมะนาว พร้อมเสิร์ฟ
ช่วงนี้ เข้าสู่ต้นฤดูหนาวแล้ว อากาศกำลังเปลี่ยนผ่าน อาจจะสะบัดฝน-สะบัดร้อน-สะบัดหนาว ก็คงต้องระมัดระวังสุขภาพกันให้ดีด้วย เจ็บป่วยแล้วจะเสียโอกาสทำกินนะครับ !!
ไกรเลิศ พึ่งบุญ ณ อยุธยา
Create Date : 17 มกราคม 2551 |
| |
|
Last Update : 17 มกราคม 2551 9:06:07 น. |
| |
Counter : 1465 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ทำบาร์บิคิวขาย ทำง่าย ขายคล่อง ถูกปากคนไทย
ถ้าหากพูดถึงอาหารประเภทปิ้ง ๆ ย่าง ๆ ขึ้นมาคราวใด บาร์บิคิวต้องเป็นคำตอบในใจลำดับต้น ๆ เป็นแน่ เพราะแม้จะไม่ใช่อาหารไทยดั้งเดิม แต่ด้วยรสชาติอันจัดจ้าน จึงเป็นที่นิยมรับประทานในหมู่คนไทยอย่างแพร่หลาย การจะหารายได้จากการทำบาร์บิคิวขายจึงนับเป็นช่องทางที่น่าสนใจเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว งานคือเงิน วันนี้ขอเอาใจคออาหารสไตล์ต่างชาติกันบ้าง แต่ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการทำบาร์บิคิวให้อร่อยนั้นคงต้องทราบว่าวัตถุดิบ และอุปกรณ์ที่ใช้มีอะไรบ้าง
อุปกรณ์ที่จะทำประกอบด้วย -มีด-เขียง-ไม้เสียบ-แปรง-เตาปิ้ง
วัตถุดิบ ได้แก่ - เนื้อหมู หรือ เนื้อไก่ 1 กิโลกรัม - สับปะรด 1 ลูก - พริกหวานหรือพริกอ่อน 1/2 กิโลกรัม - มะเขือเทศลูกเล็ก 1/2 กิโลกรัม
ขั้นตอนการทำ 1. เริ่มจากการทำน้ำซอส
ส่วนประกอบของน้ำซอส -ซอสมะเขือเทศ 1 ถ้วย -ซอสพริก 1 ถ้วย -ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ -น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ -น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ -ผงรสดี 1/2 ช้อนโต๊ะ -พริกไทยป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ -ซีอิ๊วดำ 1/2 ช้อนโต๊ะ 2. เป็นขั้นตอนการหมักหมู ดังนี้ - นำเนื้อหมูมาหั่นเป็นชิ้นประมาณ 1/2 เซนติเมตร - ใส่ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ, ผงรสดี 1/2 ช้อนโต๊ะ, น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำมันพืช 1 ถ้วย, น้ำสะอาด 1/2 ถ้วย, พริกไทยป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ - นำส่วนผสมทุกอย่างมาคลุกเคล้ารวมกันกับเนื้อหมูหรือเนื้อไก่ - เสร็จแล้วนำน้ำซอสมาคลุกรวมกันได้เลย - หมักทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง - แล้วนำมาเสียบไม้ จัดเรียงกับพริก, สับปะรดและมะเขือเทศให้สวยงาม - เสียบเสร็จนำไปย่างด้วยไฟอ่อน ก็พร้อมทานได้เลย คำแนะนำ : สำหรับการย่างบาร์บิคิว ในการย่างสับปะรด มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ (จะมีหรือไม่มีก็ได้) ควรย่างให้สุกพอดี เพราะถ้าสุกเกินไปอาจทำให้ขมหรือเหม็นเขียวได้ ลองทำดูแล้วจะรู้ว่าทำไม่ยากเพียงอาศัยความตั้งใจจริง ถ้าจะยึดเป็นอาชีพก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียว เงินลงทุนก็ไม่มากประมาณ 2,000 บาท ตอนนี้ราคาขายตามท้องตลาดอยู่ที่ไม้ละ 10 บาท กำไรที่ได้ก็จะประมาณ 50% แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับทำเลและสถานที่ด้วย ท่านที่สนใจสามารถติดต่อขอเข้ารับการอบรมและสอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โทรศัพท์ 0-2390-0264, 0-2390-2212, 08-9200-3177.
จ๊อบแมน Job_man28@yahoo.com //www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=50123&NewsType=2&Template=1
Create Date : 17 มกราคม 2551 |
| |
|
Last Update : 17 มกราคม 2551 9:02:18 น. |
| |
Counter : 9270 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
โคโรเกะ ญี่ปุ่นรสไทยๆ ขายดี
//www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=50176&NewsType=2&Template=1 อาหารญี่ปุ่น ปัจจุบันในเมืองไทยแพร่หลายมาก มีขายมากมายหลายแบบ จนคนไทยบางคนทานอาหารญี่ปุ่นกันจนแทบจะเป็นเมนูประจำวันไปแล้ว แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ไม่ค่อยถูกปากกับรสชาติของอาหารญี่ปุ่น ด้วยความที่ไม่แสบร้อนลิ้นกระชากใจเท่ากับอาหารไทย อย่างไรก็ตาม วันนี้ทีม ช่องทางทำกิน จะพาไปรู้จักกับอาหารญี่ปุ่นบางเมนูที่น่าสนใจ ที่ประยุกต์เข้ากับลิ้นของคนไทยได้เป็นอย่างดี... คุณโป่ง-วรัญวิภา นันทวิสิทธิ์ ซึ่งเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อร้านทาเกะ (TA-KE) อยู่ในย่านตลาดนัดหลังบริษัทการบินไทยสำนักงานใหญ่ เล่าว่า จากการที่เคยไปกินอาหารญี่ปุ่นที่บ้านพี่สะใภ้ตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะพี่สะใภ้เป็นคนญี่ปุ่น จึงขอไปเรียนทำอาหารด้วย ส่วนตัวเป็นคนชอบทำอาหาร และทำอาหารเป็นทุกอย่างทั้งอาหาร ไทย อิตาเลียน และเค้ก เมื่อหัดทำอาหารญี่ปุ่นจึงไม่ยาก และมาเปิดร้านที่นี่เพราะย่านนี้ยังไม่มีร้านอาหารญี่ปุ่นเลย และเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกด้วย โคโรเกะ คือชื่ออาหารทานเล่นแบบญี่ปุ่นที่ทางร้านจะแนะนำสูตร เป็นตัวชูโรงของทางร้าน โดยแต่ละวันใช้มันฝรั่ง 2 กก. แครอทหัวใหญ่ 1 หัว หอมหัวใหญ่ 1 หัว หมูสับ 500 กรัม และเกลืออีกนิดหน่อย ขั้นตอนการทำ นำมันฝรั่งปอกเปลือกเป็นชิ้น ๆ นำไปต้มจนสุกพอดี แล้วบดด้วยอุปกรณ์บดโดยเฉพาะ ระหว่างบดโรยเกลือพอให้มีรสออกเค็มนิด ๆ ต่อมาคือการผัดไส้ ด้วยการนำเอาหมูสับที่เตรียมไว้ ผัดเนยกับหอมใหญ่และแครอทหั่นละเอียด ปรุงรสด้วยพริกไทย ซีอิ๊วญี่ปุ่น (โชยุ) และโรยด้วยเกลือนิดหน่อยให้พอมีรสชาติ ปั้นมันฝรั่งเป็นก้อนกลมขนาดเท่ากำปั้นผู้หญิง (ที่มือเล็ก ๆ) และแบออกเป็นแผ่นกลม นำไส้ที่ผัดเสร็จแล้วตักใส่พอประมาณ (อย่าใส่ไส้เยอะเกินไป เพราะเวลาทอดจะแตก) จากนั้นปั้นเป็นก้อนกลมอีกครั้ง นำไปกลิ้งบนแป้งสาลีอเนกประสงค์ เพื่อเพิ่มความกรอบเวลาทอด ทาด้วยไข่ไก่ และกลิ้งบนเกล็ดขนมปังอีกครั้ง จากนั้นค่อย ๆ นำไปทอดในน้ำมันที่ร้อน ทอดให้พอเหลืองก็พร้อมเสิร์ฟ-พร้อมขาย และเพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น ก็จะมี น้ำจิ้ม ที่ทำโดยการนำซอสญี่ปุ่น (หรือซอสวู้ตเตอร์-ซอสสเต๊ก) ผสมกับซอสมะเขือเทศ และเกลือ เท่านี้ก็เรียบร้อย ขายได้ในราคาลูกละ 15 บาท โดยที่มันฝรั่ง 2 กก. จะปั้นโคโรเกะได้ประมาณ 24 ลูก สำหรับอาหารจานเดียวที่เรียกลูกค้าได้ไม่แพ้กัน และจะแนะนำสูตรด้วยก็คือ แกงกะหรี่ญี่ปุ่น-หมูทอด มีเครื่องปรุงและขั้นตอนการทำดังนี้ คือ ใช้เนื้อหมูหั่นชิ้นเล็ก ๆ 1 กก., เครื่องแกงกะหรี่ญี่ปุ่น 1 กล่องใหญ่, เครื่องแกงกะหรี่ไทย 1 ช้อนครึ่ง, กะทิกล่องเล็ก 2 กล่อง, มันฝรั่งหั่น 2 หัวใหญ่, แครอทหั่น 2 หัวใหญ่, หอมหัวใหญ่หั่น 2 หัวใหญ่, เกลืออโรมาต 1/2 ช้อนโต๊ะ, เหล้าญี่ปุ่น (มิริน) 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำคือ นำกะทิกล่องเล็ก 2 กล่องเทลงในหม้อขนาดกลาง ตั้งไฟพอเดือด ใส่เครื่องแกง กะหรี่ไทยลงไปผัดจนหอม เติมเครื่องแกงญี่ปุ่น 1/2 กล่องใหญ่ ผัดจนละลาย จากนั้นเติมหอมใหญ่ลงไป ผัดจนสุก ใส่เนื้อหมู พริกไทย เกลือ เหล้าญี่ปุ่น (มิริน) เกลืออโร มาต ผัดจนหอม แล้วเติมน้ำเล็กน้อย ใส่มันฝรั่ง หอมใหญ่ ผัดพอให้หมูสุก เติมน้ำให้ท่วม ใส่เครื่องแกงกะหรี่ญี่ปุ่นลงไปอีก 1/2 กล่องใหญ่ ชิมและปรุงรสชาติตามใจชอบแล้วเคี่ยวต่ออีก 30 นาที เป็นอันเสร็จ ส่วนการทำหมูทอดแบบญี่ปุ่น หรือ ทงคัทสึ ใช้หมูสันนอก 500 กรัม เกลือและพริกไทยเล็กน้อย แป้งสาลีอเนก ประสงค์ 3/4 ถ้วย, ไข่ไก่ 2 ฟอง, เกล็ดขนมปัง 3 ถ้วย และน้ำมันสำหรับทอด การทำเริ่มที่หั่นหมูสันนอกเป็นแผ่น ๆ หนาประมาณ 1 ซม. แล้วทุบเนื้อหมูเบา ๆ เพื่อให้เนื้อหมูบางลง โรยเกลือและพริกไทยพอสมควร แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นนำหมูมาชุบกับแป้งสาลีอเนกประสงค์ แล้วนำไปชุบกับไข่ไก่ตามด้วยเกล็ดขนมปังซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงนำลงทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด ทอดให้สุกแล้วนำขึ้นจากกระทะให้สะเด็ดน้ำมัน ตักข้าวใส่จานใหญ่พอประมาณ ราด แกงกะหรี่ญี่ปุ่นไว้ด้านข้าง และหั่นหมูทอดเป็นชิ้น เล็ก ๆ วางบนข้าว เสิร์ฟพร้อมซอส (เหมือนกับซอสโคโรเกะ) ขายในราคาจานละ 80 บาท โดยปริมาณวัตถุดิบดังที่ว่ามาข้างต้นจะทำแกงกะหรี่ได้ประมาณ 80 จาน คุณโป่งเผยสูตรลับความอร่อยว่า อาหารญี่ปุ่นที่เรียกลูกค้าได้นั้นจะต้องปรับปรุงสูตรและรสชาติให้มีความเป็นไทย ๆ มากขึ้นโดยเพิ่มความจัดจ้านของรสชาติลงไป ที่สำคัญบริการและอัธยาศัยของเจ้าของร้านก็ต้องดีด้วย ซึ่งที่ร้านนี้นอกจากขายที่ร้านแล้วยังบริการดิลิเวอรี่ส่งถึงที่ด้วย ใครสนใจอาหารญี่ปุ่นรสชาติไทย ๆ หลายเมนูของร้านทาเกะ ร้านอยู่ย่านตลาดนัดหลังบริษัทการบินไทยสำนักงานใหญ่ (ถนนวิภาวดีรังสิต ซอย 22) เปิดขายจันทร์-เสาร์ ระหว่างเวลา 10.30-14.30 น. หาร้านไม่เจอ โทร.08-6703-4378 ส่วนใครคิดจะลองนำสูตร เช่น โคโรเกะ ไปฝึกทำกันบ้าง...ก็อย่าช้า !!.
Create Date : 17 มกราคม 2551 |
| |
|
Last Update : 17 มกราคม 2551 9:00:29 น. |
| |
Counter : 5350 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|