|
|
สื่อท้องถิ่น ขวัญใจรากหญ้า ถุงพลาสติก-ร่มแม่ค้า-ผ้ากันเปื้อน ปั้นแบรนด์
สื่อท้องถิ่น ขวัญใจรากหญ้า ถุงพลาสติก-ร่มแม่ค้า-ผ้ากันเปื้อน ปั้นแบรนด์
สื่อ(ท้อง)ถิ่น อย่าง "ถุงพลาสติก" "ผ้ากันเปื้อน" หรือแม้แต่ "ร่มแม่ค้า" ที่ดูด้อยค่าในมุมมองเชิงธุรกิจ วันนี้ กลับเป็นสื่อที่ถูกใช้เพื่อบ่งชี้ถึงตำแหน่งที่ตั้ง และเรียกความสนใจให้กับสินค้าขายหลักล้านบาทอย่างทรงประสิทธิภาพ ยอดขาย 200 ยูนิต กับระยะเวลา 6 เดือน โครงการบ้านพร้อมพัฒน์ บทพิสูจน์จากของจริง
จะด้วยเพราะเสน่ห์ที่เพิ่มขึ้นของสื่อ ท้องถิ่น ในการเข้าถึงแก่นแท้ของไลฟ์สไตล์ หรือแรงเฉื่อยที่ลดลงสวนกระแสราคาที่พุ่งทยานอย่างต่อเนื่องของสื่อแมส วันนี้ การแพร่กระจายของสื่อที่ถูกมอง "ธรรมดา" ด้วยมูลค่าการลงทุน กลับถูกหยิบขึ้นมาใช้เพื่อเติมเต็มยุทธศาสตร์การตลาดเชิงรุกของธุรกิจยุคนี้อย่างต่อเนื่อง นับจากโอเปอเรเตอร์อารมณ์ดี 'แฮปปี้' ใช้ภาพยนตร์กลางแปลงเป็นสื่อกลางในการเข้าถึงผู้บริโภคระดับรากหญ้า นอกเขตชุมชนเมือง
จากนั้น ร่มขายของแม่ค้า (มีแบรนด์) ย่านตลาดสด ตลาดนัด หรือแม้แต่ริมฟุตบาท ก็ผุดราวดอกเห็ด
ล่าสุด โครงการบ้านพร้อมพัฒน์ รามอินทราดำเนินการโดยบริษัทพร้อมพัฒนา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทในเครือของแสนสิริ ที่มีสินค้าเสนอขายหลักล้านบาทปลายๆ ก็ยังเลือกที่จะใช้ "สื่อท้องถิ่น" อย่าง ถุงพลาสติกหูหิ้ว ร่มแม่ค้า ย้ำการรับรู้แบรนด์กับชุมชนย่านรามอินทรา
ที่สำคัญไม่ใช่เป็นการเลือกใช้แบบเฉพาะกิจ ช่วงเปิดตัวโครงการ หรือช่วงที่มีโปรโมชั่น หากแต่เป็นการใช้กระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง และจัดลำดับของการใช้สื่อแต่ละตัวอย่างเป็นระบบ
เริ่มต้นเฟสแรกๆ กับ ถุงพลาสติก ผ้ากันเปื้อน ร่มแม่ค้า และแผ่นป้ายบังแดด ที่ใช้งบประมาณไปไม่ถึง 1 ล้านบาท
ขณะที่เฟสต่อไปมีแผนจะส่ง แผ่นรองจาน สติกเกอร์ กระตุ้นการตลาด
"สื่อเหล่านี้สามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์คนท้องถิ่นได้กว่า ที่สำคัญต้นทุนต่ำกว่ามาก เต็มที่ก็หลักแสนต่อการเลือกใช้สื่อแต่ละชิ้น แต่ถ้าเป็นโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์หัวสีต่อหน้าต่อวันก็ประมาณ 8 แสนบาท"
วิโรจน์ กัปปิยจรรยา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท พร้อมพัฒนาพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าว พร้อมขยายความถึงยุทธศาสตร์เชิงรุกเจาะกำลังซื้อย่านรามอินทรา ด้วยสื่อท้องถิ่นว่า
"เราคาดหวังผลในแง่ของการย้ำแบรนด์ และสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่องมากกว่าที่จะมุ่งขายสินค้า แต่ในเวลาเดียวกันก็มีสื่ออื่นๆ ร่วมด้วย แม้แต่สื่อแมสเราก็ไม่ได้ทิ้ง"
กิจกรรมสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านสื่อท้องถิ่นของบริษัท พร้อมพัฒนาพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผ่านสื่อท้องถิ่นถูกต่อยอดแนวความคิดมาจากงานโครงการเปิดตัวคอนโดฯ ของแสนสิริที่อำเภอหัวหิน ที่นอกจากการจัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการเช่นเดียวกับโครงการอื่นๆ ยังดึงสื่อท้องถิ่น อาทิ ร่มแม่ค้า แผ่นกันแดด เพื่อดึงความสนใจจากคนในอำเภอหัวหิน และรัศมีใกล้เคียงโดยรอบ
"ครั้งแรกๆ ที่นำถุงพลาสติก ผ้ากันเปื้อน ที่มีแบรนด์พร้อมพัฒนาติดอยู่ไปแจกให้กับแม่ค้าในตลาด ก็สร้างความแปลกใจให้กับเขามากอยู่เหมือนกัน บางรายก็คิดว่าเราจะเอามาขาย แต่พอรู้ว่าแจกฟรี ก็พร้อมให้ความร่วมมืออย่างดี บางคนตั้งข้อสังเกตว่าจะส่งผลเชิงลบกับแบรนด์แสนสิริหรือไม่ และนี่เองทำให้ต้องเป็นสื่อสำหรับโครงการบ้านพร้อมพัฒน์"
แม้ วิโรจน์ จะบอกชัดเจนว่าวัตถุประสงค์ในการเลือกใช้สื่อท้องถิ่นเพื่อการสร้างการรับรู้แบรนด์ และสะท้อนความเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีรายได้ตั้งแต่เดือนละ 4 หมื่นบาทขึ้นไป และต้องการเป็นเจ้าของบ้านเดี่ยวที่ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท หรือบ้านแฝด ราคาเริ่มต้น 1.82 ล้านบาท แต่ได้มาตรฐาน "แสนสิริ"
"โครงการบ้านพร้อมพัฒน์บนถนนปัญญาอินทรา ย่านรามอินทราเป็นโครงการแรกของพร้อมพัฒนาพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าจะมีแบรนด์พร้อมพัฒน์กระจายไปอยู่ในย่านอื่นๆ อีก ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีแบรนด์พร้อมพัฒน์จึงจะอยู่ตัว"
วิโรจน์ ขยายความของความเป็น "พร้อมพัฒน์" ต่อว่า บริษัทพร้อมพัฒนา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นบริษัทที่ถือหุ้นโดยบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) 100% แต่ประกอบธุรกิจบ้านจัดสรรประเภทบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว ที่มีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 35 ตารางวาขึ้นไป
จากสนนราคา ประเภทสินค้า และกลุ่มเป้าหมาย จำเป็นที่ "พร้อมพัฒน์" ต้องปลอดจาก "แสนสิริ" โดยชื่อ
อีก 5 แบรนด์ภายใต้ร่มเดียวกันแต่คงความเป็น "แสนสิริ" ไว้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น บ้านแสนสิริ ที่จับกลุ่มบ้านระดับพรีเมียมที่ระดับราคา 30 ล้านบาทขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 1 โครงการคือ โครงการบ้านแสนสิริ สุขุมวิท (ซอยสุขุมวิท 67)
นาราสิริ ยังความเป็นพรีเมียมแบรนด์แต่จับต้องได้มากขึ้น ที่ระดับราคาขายตั้งแต่ 10-30 ล้านบาท ส่วน เศรษฐสิริ ราคาปรับลดลงมาอีกระดับ สนนราคาเริ่มต้นที่ 6-10ล้านบาท
สำหรับ สราญสิริ จับกลุ่มรายได้ระดับกลาง สนนราคาขายตั้งแต่ 3-5 ล้านบาท เช่นเดียวกับ บูราสิริ แบรนด์บ้านใหม่ล่าสุด ของแสนสิริ ที่คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือนกันยายนนี้ ด้วยระดับราคาขายประมาณ 5-7ล้านบาท
ความสำเร็จของสื่อท้องถิ่น แม้จะวัดผลเชิงยอดขายไม่ได้ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า 200 ยูนิตที่ขายออกไป หลังจากเปิดตัวโครงการมาประมาณ 3-4 เดือน รวมถึงลูกค้าอีกจำนวนหนึ่งที่แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมโครงการจะมาจาก "ถุงพลาสติก" หรือแม้แต่ผ้ากันเปื้อนที่ผูกอยู่กับตัวพ่อค้า แม่ค้า
| Create Date : 06 กันยายน 2549 |
| Last Update : 6 กันยายน 2549 17:27:07 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 1005 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
|
| hoon_vi |
 |
|
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [
