แชร์ประสบการณ์ไข้เลือดออก
เมื่อไม่กี่อาทิตย์มานี้พบว่าตัวเองมีอาการอาเจียน (จะรู้สึกแน่นเวลาหลังทานข้าวมากจนต้องอาเจียน) ออกมา 3 วันติดกัน เอ๊ะ หรือว่าเราจะเครียดลงกระเพาะ

ต่อมาเริ่มปวดท้ายทอย ปวดขมับ (อาการคล้ายไมเกรน) โอ๊ยฉันเป็นอะไรเนี๊ยะ

พอวันที่ 4 รู้สึกหนาวสั่น ไข้เริ่มสูง จนเริ่มไม่มีแรง โชคดีที่น้องสาวแวะมาหาเลยช่วยเช็ดตัวให้ทั้งคืน

วันรุ่งขึ้นเลยไปหาหมอที่คลีนิค หมอบอกว่า "อีก 3 วันให้มาเจาะเลือดตรวจดูไข้เลือดออกรึเปล่า" แล้วหมอก็ให้ยาพารามาเป็นกำ

แต่ ด้วยความที่กลัวตัวเองอาการหนัก วันรุ่งขึ้นเลยไปหาหมอที่โรงพยาบาล คุณหมอใจดีให้นอนรักษาอาการไข้สูง ขณะเดียวกันก็มี 3 โรคที่ต้องสงสัยว่าเราจะเป็น ได้แก่

1. ไข้หวัดใหญ่

2. ไข้เลือดออก

3. ไข้หวัด 2009

(โอ้ววว ไม่สบายทั้งทีเป็นหนักเลยนะเรา)

สอง วันแรกของการนอนโรงพยาบาลไข้อยู่ที่ 39 ร้อนๆ หนาวๆ แถมโดนแยกให้อยู่ในตึกเฝ้าระวังผู้ติดเชื้อ ไข้หวัด 2009 ด้วย (แต่หมอบอกว่าน่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่)

ช่วงนี้ทานข้าวไม่ค่อยได้ แต่หิวมาก อยากกินส้มตำสุดๆ (ไม่เข้าใจว่าทำไมอยากมาก) พยายามฝืนทานข้าวต้ม (ทานได้แต่ข้าวต้มกับโจ๊ก เพราะไม่อยากอาหารเลย ทานแล้วจะอาเจียน)

ตกดึกแม่แฟนซื้อก๊วยเตี๋ยวเส้นหมี่มาให้ทาน ทานไปได้4-5 คำก็อิ่ม ตกดึก กำ ท้องอืด อึดอัดหายใจไม่ออก คิดถึงยาอีโนมากกกกก

พยาบาล เข้ามาวัดไข้ตอนตีสองตกใจเรา เพราะ เรานั่งมืดๆ ไม่เปิดไฟอยู่กลางห้อง "ทำไมคนไข้ยังไม่นอนคะ" พยาบาลถาม เราได้แต่ทำตาปริบๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไง

กลัวพยาบาลหัวเราะในความตะกละของตัวเอง สุดท้ายเลยทำใจกล้าขอยาลดอาการท้องอืดกับพยาบาล

เธอตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มว่า "เดี๋ยวซักพักก็ดีขึ้นค่ะ ไม่ต้องทานยาหรอก"

(T^T)

โอ้ววว เจ๊อยากตาย อยากเรอ อยากผายลม ให้อาการท้องอืดดีขึ้น แต่ทำได้แค่ นั่งอยู่บนเตียงคนไข้ จะนอนก็ไม่ได้หายใจไม่ออก

และในที่สุดก็เช้า ลุกขึ้นแปรงฟัน และเช็ดตัว (ไม่ได้อาบน้ำมาสามวันแล้ว ผมก็เน่า ไม่ได้สระเช่นกัน)

นั่ง รอทานข้าวต้มตอนเจ็ดโมงเช้า (เออ ของเก่าที่อยู่ในกระเพาะก็อืด ยังต้องยัดของใหม่ลงไปอีก กำ ของ ตู) แต่ก็พยายามทานไปสามสี่คำ ให้ยาไม่กัดกระเพาะเกินไป

หลังทานอาหารสามสิบนาที คุณพยาบาลก็เอายามาให้ เลยบอกคุณพยาบาลว่า "เอ่อ ท้องอืดตั้งแต่เมื่อคืนค่ะ ยังไม่หายเลย"

คุณพยาบาลยิ้มแล้วบอกว่า "ยากระเพาะที่ทานอยู่ก็ลดอาการท้องอืดได้ค่ะ" แล้วเธอก็เดินจากไป

เอ่อ แล้วทำไมมันยังไม่หายท้องอืดคะ เมื่อคืนก็กินยานี้ .....(แง๊ แง๊)

พอตกสายอาการท้องอืดเริ่มดีขึ้น แต่ยังอึดอัดแน่นหน้าอกอยู่ แล้วคุณหมอก็เข้ามาตรวจ เลยบอกอาการกับคุณหมอ

คุณหมอบอกว่า "สงสัยจะเป็นไข้เลือดออกนะเรา" ว่าแล้วคุณหมอก็บอกให้เราเอาผ้าห่มออกแล้วดูท้อง ดูหลัง ดูแขน และขา

ปรากฏว่าที่แขนและขาเริ่มมีจุดเลือดปรากฎ ระหว่างที่นอนพักรักษาตัวเราอึเป็นน้ำสีออกดำๆ

แล้ว ก็มีประจำเดือนทั้งๆ ที่เพิ่งเป็นไปเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว (เลือดประจำเดือนก็แปลกไม่เป็นเลือดเสียเหมือนที่เป็นประจำทุกเดือน แถมเป็นสีเหมือนเลือดสีแดงสดเลย ) เราก็ถามคุณหมอ แต่ไม่ได้ความกระจ่างเลย

ระหว่างนี้ก็เข้าน้ำเกลือตลอดและเจาะเลือดทุกวัน เพื่อเช็คเกล็ดเลือด เนื่องจาก เกล็ดเลือดต่ำมาก อยู่ที่ สามหมืน ในขณะที่คนปกติมี สี่แสน

แล้ววันที่สี่ของการเข้าโรงพยาบาลไข้ก็เริ่มลดลง แต่คุณหมอเตือนว่า "ระวังเวลาที่ไข้ลดแล้วจะเกิดอาการช๊อค แล้วตับจะโต ให้ระวัง"

ช่วง นี้อาบน้ำ สระผมได้แล้ว (ดีใจมาก หลังจากที่เน่ามานาน แค่เช็ดตัวอย่างเดียวไม่ไหว รู้สึกว่าตัวเอง สกปรก อยากอาบน้ำ) ไข้ลดแล้ว แต่ประจำเดือนยังเป็นอยู่ ท้องเสียด้วย ทานเกลือแร่แทนน้ำเลย

แล้ว คุณหมอก็บอกว่าเราเริ่มดีขึ้นแล้ว และสรุปเป็นไข้เลือกออกแน่นอน เราเลยโดยอัปเปหิไปอยู่ห้องอายุรกรรมหญิงรวม แต่ด้วยความที่คนพลุกพล่านนอนไม่ได้เลย เลยขอคุณหมอกลับไปพักที่บ้าน

คุณหมอก็ยอม แต่เตือนเรื่องห้ามมีแผล และห้ามแปรงฟันให้บ้านปากแทน เพราะเกล็ดเลือดยังน้อยกว่าเกณฑ์อยู่

ถ้ามีแผลแล้วจะแผลหายช้ามากกว่าปกติ หรือบางทีเลือดอาจไม่ยอมหยุดไหล เราก็พยักหน้ารับอย่างเดียว เพราะอยากกลับบ้านเต็มที่แล้ว

พอ ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วก็นอนพักที่บ้านอีกสามวัน แต่เวลาทำงานหรืออะไรที่ใช้แรงจะเหนื่อยหอบมากกว่าปกติ ต้องหยุดพัก เหมือนอ๊อกซิเจนไปเลี้ยงไม่พอ แล้วก็ไปแห้ง

หลังจากผ่านมาเกือบ อาทิตย์ คุณหมอบอกว่า ระหว่างที่รักษาตัวแล้วเป็นประจำเดือนนั้น สรุปไม่ใช่ประจำเดือน แต่เป็นเพราะเลือดออกทางทวาร (เค้าว่างั้นน่ะ)



Create Date : 20 สิงหาคม 2553
Last Update : 20 สิงหาคม 2553 22:40:32 น.
Counter : 2489 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

น้ำจิ้มลูกชิ้น
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]