คุณแม่น้องแฝด ฮานากะฮารุ ^^

วันนี้เพื่อนๆมา meeting กันที่ชลบุรีค่า เย้ๆๆ

วันเสาร์ที่ผ่านมา  เพื่อนๆร่วมก๊วนของเรานัดมา meeting กันที่ชลบุรีค่าSmiley

ขอเกริ่นนิดส์นึง แก๊งค์เพื่อนสาวที่น่ารักของอิชั้น  นอกจากตัวข้าพเจ้าเอง  ที่เหลือจะประกอบด้วยสมาชิกดังนี้ค่ะ


สาวผึ้ง เภสัชกรสุดแนวซึ่งมีร้านยาอยู่ที่ศรีราชา   
สาวหริ เภสัชกรแม่ลูกสามหัวหน้าเภสัชที่รพ.แห่งนึงในอยุธยา  
และสาวอ้อ เภสัชกรสุดติสท์ซึ่งทำงานร้านยาในพาราไดซ์ปาร์ค 

ทั้งสามสาวมารวมตัวกันที่ชลบุรีในวันนี้  สาวหริพาลูกชายคนเล็กมาเที่ยวด้วย ช่วงเช้าเพื่อนๆไปสวนสัตว์เปิดเขาเขียวกัน  แต่อิชั้นมีธุระในช่วงเช้า  ซึ่งจะเสร็จในช่วงบ่ายสาม...พอถึงเวลานัดเป๊ะ  เลยโทรคุยกันว่าเพื่อนๆอยู่ที่ไหนกัน

คำตอบคือเพื่อนๆจะมากินติม ชิมควาย...เอ๊ย  มาที่ร้าน "กินติม ดูควาย"  กันที่เส้นเลี่ยงหนองมน บางแสนค่ะ  เราเลยนัดไปเจอกันที่นี่


ร้านอยู่ริมถนน บนฟุตบาทเลยค่ะ หาไม่ยาก



เค้าขายกันเป็นถังๆเยี่ยงนี้ละค่า  มีไอติมหลายรสให้เลือกมากมาย   ตั้งแต่รสกะทิ  รวมมิตร  ทุเรียน  ช๊อกโกแลต ข้าวโพด  ชาเขียว ชาเย็น มะนาว  วานิลา  ข้าวหนียวดำ  แคนตาลูป  สตอเบอรี่....โอ๊ยย เยอะมากมาย  เท่าที่ดูด้วยตา ก็ไม่ต่ำกว่า 15 ถังค่ะ


หนึ่งถ้วยให้เลือกไอติมได้ 3 รสนะคะ 






จากนั้นให้เลือกใส่ท๊อปปิ้งได้ 3 อย่าง   เบ็ดเสร็จแล้วถ้วยนี้ 30 บาทค่ะ....




ได้ไอติมแล้ว  ก็มานั่งชมบรรยากาศท้องนากับน้องควาย ในบริเวณที่เค้าจัดให้หลังร้านนะคะ


เห็นว่าวันที่ไปมีน้องควายประมาณ 8-9 ตัว  กำลังเล็มหญ้าหากินอยู่
แต่พวกอิชั้นไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย เหอๆๆ  มัวแต่เม้าท์มอยกันอย่างเมามันส์




ก็แหม...เพื่อนๆไม่ได้เจอกันมาตั้งปีกว่า  นานน๊านน ถึงจะได้มาป๊ะกันที  จะไม่ให้คุยระเบิดได้ยังไง  (ไม่มีใครสนใจดูสองข้างทางเลย น่าน้อยใจแทนน้องควายจิงๆ Smiley)



ขอสารรูป  เอ๊ย สารภาพว่ามัวแต่ฝอยกะเพื่อนๆ  จนกินไอติมม่ายทันล่วยSmiley

เรื่องรสชาติเลยไม่ได้สังเกตอย่างลึกซึ้งเท่าไหร่  เอาเท่าที่พอจำความได้ล่ะกันเนอะ

สำหรับไอติมที่นี่ ก็จะออกรสชาติธรรมดานะคะ ไม่ได้เข้มข้นอะไรมาก (ก็ราคาแค่นี้เองนี่เนอะ)  

โดยส่วนตัว ถึงแม้จะรู้สึกชื่นชมที่เค้าหาจุดขายมาทำให้ที่นี่โด่งดังมิใช่น้อย  แต่ก็ยังแอบรู้สึกว่ากลิ่นโคลนสาบควายแถวนี้ ทำให้กินไอติมไม่ค่อยอร่อยอ่ะ  แงๆ 

( ก็เค้าจมูกดีกว่าปกติอ่ะ  ไม่ผิดใช่ไหม Smiley)




แต่ก็ดีใจจริงๆนะ ที่ได้เจอกัน





จะบอกว่า เพื่อนๆอิชั้นขำกลิ้ง  ตอนที่เห็นพี่ศักดิ์เดินไปถ่ายรูปกะน้องควายเอง  ถ่ายเอง โพสท์เอง ไม่ต้องง้อใคร...Smiley

มันบอกพี่ศักดิ์นี่ติดเชื้ออิชั้นมาเห็นๆเลยค่ะ  เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย 555



ว่าแล้วก็มาถ่ายคู่กะน้องควายเสียหน่อย...เอ้า เชียส !!



ขอเดี่ยวสักรูปนะ



เสร็จจากภารกิจกินติม ดูควาย  เพื่อนผึ้งก็ขอตัวกลับด่วน เพราะมีธุระที่บ้านกะทันหัน  แงๆ ยังเม้าท์กันไม่สุดเลย   ต้องกลับไปก่อน 1 หน่อซะแร่ว  เสียดายจังSmiley

เราก็เลยชวนเพื่อนๆมาต่อที่ร้านต้นเค้ก  เพราะเมื่อสักครู่ที่ร้านกินติม ดูควาย  เราว่าอากาศมันร้อนไปนิด เลยอยากชวนเพื่อนมากินเค้กอร่อยๆ แกล้มวิวสวยๆกันที่นี่หน่อย...เอ้า กินกันต่อนะเพื่อนๆ



มาถึงร้านบ้านต้นเค้ก  โอ้โฮ คนเยอะมากก รถแทบไม่มีที่จอด
ตอนนี้เค้าทำอาคารเพิ่มสำหรับนั่งทานเค้ก  ซึ่งก็ติดแอร์เย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆนะแหล่ะ

แต่อิชั้นเสียดายพร๊อพสวยๆ และที่นั่งน่ารักๆในสวนมากมายที่เคยประทับใจในหนก่อน ไม่มีซะแล้ว...เสียดายจัง




สั่งเค๊กแล้ว ก็มานั่งรอที่อาคารนี้นะคะ


นั่งสักพักเค้าก็มาเสริฟค่ะ
มีบานอฟฟี่เค้ก  เครปเค้ก  กับมอคค่าอัลมอนด์
วันนี้เราสั่งไม่เยอะมากนะคะ  กลัวว่าเดี๋ยวเย็นนี้จะทานข้าวไม่ลง



รสชาติเค้กเราว่าอร่อยใช้ได้ เข้มข้น แต่ไม่เลี่ยน โอเคเลยแหล่ะ Smiley

ไม่เหมือนหนแรกที่มา เราว่ามันไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่  อาจเพราะวันนั้นเค้กมันน้อย  แถมใกล้หมดด้วย เลยไม่มีให้เราเลือกเยอะขนาดนี้ รสชาติก็เหมือนยังไม่เข้าที่เท่าไหร่  แต่วันนี้ใช้ได้แระ


อ้อ..ราคาวันนี้  สามชิ้นอยู่ที่สองร้อยกว่าบาทค่ะ พอรับได้จ้า


V
V
V


เสร็จแล้วไปถ่ายรูปกันสวยๆ หน่อยนะ ถึงพร๊อพจะน้อยกว่าเดิมเยอะ  แต่ก็ยังมีพอให้เรามาแอ๊คอาร์ตกันได้นะ







มุมนี้ถ่ายมาก็สวยดีนะคะ  แต่ให้เรานั่งกินตรงนี้ก็ไม่ไหวอ่ะ ร้อน..





โพสท์ท่ากันหญ่าย...Smiley





ทานเสร็จแล้ว  พี่ศักดิ์ก็ขับรถนำเพื่อนๆเราไปไหว้พระที่ศาลเจ้านาจาไท้ซือ  บริเวณเขาสามมุขค่ะ





แวะไปไหว้เทพนาจาก่อนนะคะ





เสร็จแล้วก็พาเพื่อนๆเข้าไปในวิหาร ที่นี่จะเป็นสถาปัตยกรรมที่นี่แบบจีน  ออกแนวอลังการ  สวยกว่าปีที่แล้วที่อิชั้นมาอีกค่ะ  เพราะเค้าเพิ่งปรับปรุงทาสีใหม่ด้วย  เกล็ดมังกรงี้เป็นเลื่อมพรายเลย งดงามมาก




เพื่อนๆอิชั้นชมใหญ่เลยว่าที่นี่สวยจริงอะไรจริง  ไม่เคยเห็นมาก่อน  






เสร็จแล้วว่าจะพาเพื่อนไปไหว้ศาลเจ้าแม่สามมุขเสียหน่อย  ปรากฏว่ามาช้าไป  ศาลเจ้าเค้าปิดแล้ว เลยได้แต่ไหว้จากข้างนอก



ไหนๆก้อไหนๆ  เดินเล่นแถวเขาสามมุขนี้ก่อนล่ะกัน 



เจ้าถิ่นเพียบเรยย หุหุ



แล้วเราก็ move กันต่อ  มาที่แหลมแท่นบางแสน  มาชมพระอาทิตย์ตกน้ำกันที่นี่





วันนี้วันเสาร์   เค้ามีถนนคนเดินกันที่นี่ด้วยนะคะ  มาเที่ยวฆ่าเวลาก่อนหม่ำอาหารเย็นกันเถอะค่ะ



ตอนแรกเราว่าจะเดินกันแค่สิบนาที สุดท้ายล่อเข้าไปตั้งชั่วโมงกว่า ก็เค้ามีอะไรๆให้เราดูกันเพลินตั้งมากมายเลยนี่คะ....ของขาย ของกินตรึม  ร้านเยอะมากกก   พร๊อพน่ารักๆก็เพียบ  ถ่ายรูปกันสนุกสนานเลย


เท่าที่สังเกต  จะมีน้องๆนักศึกษามาเปิดร้านขายไม่น้อยเลย คงเพราะอยู้ใกล้ม.บูรพาแค่นี้เอง  มีงานศิลปะสวยๆแปลกๆให้ดูด้วย   อันนี้เข้าทางเพื่อนอ้อเลย  เพราะเธอชอบงานติสท์อยู่แล้ว  สุดท้ายไปสอยเสื้อเพนท์ลายไทยมาจากน้องนักศึกษาราคาสามร้อยกว่าบาทด้วยความปลื้มปริ่ม..เชื่อแระว่าชอบจริงๆ Smiley



เนียนมั้ยค่ะ  หุหุ




มุมนี้ก็สวยจนนอดใจไม่ได้




โพสท์ท่ากันมันส์เลยSmiley







ได้มาเดินเที่ยวกับเพื่อนๆนี่เป็นความประทับใจจริงๆค่ะ สนุกมากมาย




กว่าจะเดินเสร็จ ปาเข้าไปตั้งทุ่มกว่า  เลยพาเพื่อนมากินข้าวร้านเปี๊ยกโภชนากันนะคะ   เพราะอาหารทะเลที่นี่สดมว๊ากกก คู่ควรแก่การเป็นอาหารต้อนรับเพื่อนอิชั้นจากแดนไกลเจงๆ Smiley




เมนูของเราวันนี้  มี 5 อย่างค่ะ  มีกุ้งคั่วน้ำปลา  หอยตลับผัดโหระพา แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว  ปูม้านึ่ง และปลาเผาค่ะ



บรรยากาศก็เฮฮาเม้าท์มอยกันตามประสา  มีความสุขสมกับเป็น Relax  Day จริงๆ Smiley




อาหารในวันนี้ ลดแล้วเหลือประมาณเกือบสองพันบาทค่ะ  ซึ่งเราว่าคุ้มค่าคุ้มราคามากเลยนะ  เพราะอาหารสด ใช้ได้เลย  เพื่อนๆอิชั้นติดใจกันใหญ่่ บอกว่าอร่อยมากเลย  ไว้ว่างๆมาบางแสนจะมากินอีกSmiley


อิชั้นก็ happy มาก เพราะเคยฝันไว้ว่าอยากจะพาเพื่อนๆมากินข้าวที่นี่  แล้วก็ได้พามากินเสียที  ฟินสุดๆ Smiley


นึกแล้วก็อยากให้เราได้มีวัน meeting กันแบบนี้อีก  คิดถึงมากมายนะเพื่อนๆ







 

Create Date : 14 กรกฎาคม 2556    
Last Update : 5 กันยายน 2556 9:30:31 น.
Counter : 1649 Pageviews.  

ชวนมาทำบุญที่สถานสงเคราะห์คนพิการและทุพพลภาพบางปะกงค่า

วันนี้เป็นวันพฤหัสที่อิชั้นลางานมาวันนึงค่ะ




สาเหตุเพราะคุณแม่ชวนมาทำบุญที่สถานสงเคราะห์คนพิการและทุพพลภาพบางปะกง ซึ่งคุณนายแม่กับเพื่อนเคยมาร่วมเลี้ยงอาหาร  

แต่คราวนี้เพื่อนไม่ว่างคุณแม่จึงอยากเป็นตัวตั้งตัวตีเอง




งานนี้เรียกว่าเป็นงานใหญ่ของที่บ้านเราเลยค่ะ  เพราะการจะทำอาหารเลี้ยงคนสามร้อยกว่าคน...โดยอาหารจะต้องอร่อย ถูกปาก ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย  


แต่คุณนายแม่โชคดีที่ได้เหล่าบรรดาอสม.ที่รู้จักกัน มาช่วยทำครัวให้  แถมแม่บ้านที่เคยอยู่กับเรามาก่อน  ตอนนี้เค้าไปเปิดร้านขายส้มตำที่ปราจีน ก็แวะมาช่วยด้วย  


งานนี้เรียกว่ามากันด้วยจิตอาสาของแท้เลยค่า  น่ารักผุดๆ Smiley




สถานสงเคราะห์บ้านบางปะกง อยู่ละแวกเส้นทางสุขุมวิทสายเก่า(แถวคลองด่าน)อำเภอบางปะกง เขตจังหวัดฉะเชิงเทรา...โดยมีผู้ทุพพลภาพอยู่ประมาณ 300 กว่าคน..ซึ่งจะเป็นเพศชายทั้งหมด โดยจะถูกส่งต่อมาจากสถานสงเคราะห์อื่น ๆ ทั่วประเทศ 


โดยเมื่อมีอายุเกิน 18 ปีแล้ว จะถูกส่งต่อมาอยู่ ณ ที่แห่งนี้ค่ะ...





เรามาถึงที่นี่กันในเวลาประมาณเก้าโมงครึ่ง
พอมาถึงก็พบว่าบรรดาแม่ครัวเอาของสดมาถึงล่วงหน้าก่อนเราแล้ว


บรรยากาศในครัวกำลังเฮฮาปาร์ตี้เลยค่ะ  ทำอาหารไปกระเซ้าเย้าแหย่กันไป  สนุกสนานกันน่าดู












อิชั้นพิจารณาดูแล้ว ยืนอยู่ตรงนี้นานๆนอกจากจะช่วยอะไรเค้าไม่ได้แล้ว   ยังจะเกะกะเค้าอีกต่างหาก 

ก็พอดีที่แม่ให้พาอาม่ามานั่งรอที่เก้าอี้ก่อน  เราเลยพามาตรงนี้ค่ะ



อาม่ากะหลานสาวและหลานชาย  วันนี้หน้าตาสดใสกันทุกคน อิ่มใจเพราะจะได้ทำบุญ

V
V
V


นั่งกันสักพัก เจ้าหน้าที่มูลนิธิก็พาเดินชมบรรยากาศของบ้านพักค่ะ
ที่นี่จะแบ่งเป็นโซนๆ เป็นบ้านนะ



หมายเหตุ....อิชั้นอาจจะถ่ายรูปมาได้ไม่เยอะ  เพราะต้องคอยประคองอาม่าเวลาเดิน (กลัวแกจะล้ม)  แต่ก็ถ่ายบรรยากาศมาเท่าที่ถ่ายได้

และก่อนถ่ายรูปผู้พิการทุกครั้ง อิชั้นได้ขออนุญาติจากผู้ดูแลแล้วค่ะ

V
V
V

ตรงส่วนนี้จะเป็นผู้พิการที่ป่วย  บางคนก็ช่วยเหลือตัวเองได้  บางคนก็ไม่ได้
ลักษณะของห้องเลยคล้ายๆ ICU ที่รพ.เลยค่ะ





V
V
V



ส่วนตึกนี้เป็นผู้พิการที่มีปัญหาทางจิตประสาท  แว่วว่าเป็นตึกที่ดูแลยาก...ที่สุดในบรรดาทั้งหมด


ในนี้มีผู้พิการ 50 คน  แต่มีผู้ดูแล 2 คนค่ะ ซึ่งเราว่ามันน้อยมากกก เมื่อเทียบกับปริมาณคนไข้นะ


จริงๆการดูแลคนที่มีอาการทางจิตประสาทเนี่ยเป็นอะไรที่เหนื่อยมากเลย  เท่าที่เห็นจากวอร์ดเวลามีคนไข้ โอ๊ย...เหนื่อยแทนค่ะ ต้องดูแลกันอย่างดีเลย เพราะเค้าสามารถทำอะไรที่เรานึกไม่ถึงได้Smiley



สำหรับรพ.เรา  ถ้าคนไข้มีอาการทางจิตเวช พยาบาลต้องล๊อคประตูระเบียงเลย กันคนไข้ปีนตกลงไป  (อะไรก็เกิดขึ้นได้)  แต่นั่นมันก็โรงพยาบาล แถมเป็นเอกชนด้วย  ต้องมีคนดูแลเยอะอยู่แล้ว



ถ้าเทียบกันแล้วที่นี่หนักกว่าเยอะเลยค่ะ  เทียบไม่ติดเลย Smiley




แต่เท่าที่เราดู  สุขอนามัยของผู้พิการที่ีนี่ถือว่าอยู่ในขั้นดีนะคะ ไม่มีกลิ่นสกปรกเลย


เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังว่าต้องปรับพฤติกรรมกันนานเลย  บางคนก็มีอาการก้าวร้าวมาก เห็นว่าเคยมีกัดนิ้วกันเกือบขาดแน่ะ....เหวอ   แต่ตอนนี้ก็ถือว่าอาการดีกว่าเดิมแล้ว

อ้อ  ผู้ดูแลเล่าผู้พิการที่นี่ได้รับยาทุกวันนะคะ  แต่แอบ amazing จริงๆ ว่าเค้าแจกไหวได้ไง  คนไข้เยอะขนาดนี้  สุดยอดอ่า....



เข้าโหมดดราม่า.....

เรารู้สึกว่า เวลาดูแววตาของพวกเค้า  เหมือนเรามองเด็กอ่ะ Smiley Smiley เด็กที่ไม่รู้เดียงสา เด็กที่ไม่รู้จักโลก


ถ้าเป็นตอนเด็ก อิช้ันอาจจะสงสารพวกเค้าจับใจ  แต่พอโต (แก่) จนใกล้เลข 4 แบบนี้ ผ่านเรื่องราวที่เหนื่อยล้าใจมากมาย...ก็อดรู้สึกแวบในใจไม่ได้ว่าการที่คนๆนึง ไม่จำเป็นรับรู้ความเป็นไป  ไม่จำเป็นต้องหมุนตามกระแสของโลก


เค้ามีความสุขน้อยกว่าเราจริงๆเหรอ แล้วทำไมแววตาเรายังอมทุกข์ได้มากกว่าเค้าอีกล่ะ....


แน่ใจได้ยังไงนะ ว่าเรามีความสุขมากกว่าพวกเค้าจริงๆ ???







น่าเสียดายที่เรามีเวลาไม่มาก ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ และได้เยี่ยมผู้พิการเพียงสองตึก เราก็ถูกเรียกตัวกลับ  ให้ไปเลี้ยงอาหารกลางวันได้แล้ว

เราเลยกลับมาที่โรงอาหารอีกครั้งหนึ่งค่ะ

V
V

อาหารเตรียมรอ




วันนี้เมนูแสนอร่อยของเรามี  ข้าวสวย  ต้มยำซี่โครงอ่อนหมู  ไก่ทอด และที่สำคัญมีฮ่อยจ๊อด้วยค่า...


ฮ่อยจ๊อเป็นอะไรที่คุณนายแม่อยากทำมากก แม้ว่าต้นทุนฮ่อยจ๊อจะสูงลิ่ว  แต่คุณนายแม่ก็บ่ ยั่น  

บอกว่าอยากเอามาให้พวกเค้ากินมานานแล้ว  วันนี้ดีใจสุดๆSmiley





มีส้มตำจากแม่ค้าคนเก่งด้วย  แซ่บเว่อร์ถึงทรวงมาก อร่อยสุดๆ 

อิชั้นกินแล้วยังติดใจเลย  ตำแล้วหมดในเวลาอันรวดเร็ว




ของหวาน (หรือเปล่า)  มีซาลาเปาไส้หมูแดงกับผลไม้




และโค๊กเย็นๆ



คุณนายแเม่เจ้าของโปรเจคปลื้มปริ่ม...มีความสุขผุดๆSmiley





ตักเสริฟๆๆSmiley




ทานกันเอร็ดอร่อยเลย ตรงนี้จะมีคนไม่เยอะนะคะ
เพราะส่วนของผู้พิการที่อยู่ตามตึก เจ้าหน้าที่เอาไปให้ถึงที่พักแล้วค่ะ








อร่อยๆๆ




คุยกะผู้พิการ บางครั้งก็มีอะไรขำๆนะคะ  

อย่างพี่เสื้อชมพูเนี่ย เดินไปเดินมา แล้วชี้ทางกับข้าวว่าอยากกิน  อิชั้นก็กวักมือ...เดินมาสิ ฮีก็ไม่มา


ถามผู้ดูแล เค้าบอกว่าโอ๊ยย คนนี้เค้ากินตั้งแต่บนตึกแร่ะ  แต่จำไม่ได้เองว่ากินแล้ว (อ้าว  มีงี้ด้วย)Smiley



หรืออย่างที่คุณพี่คนนี้  ลักษณะเหมือนเป็นดาวน์ ซินโดรม แต่พอสื่อสารได้เล็กน้อย


เค้าโชว์รูปที่ใส่เสื้อรปภ.ให้ดู  อย่างเท่ห์เลย  อิชั้นกะน้องๆเห็นแล้วถึงขั้นต๊กกะใจ คิอว่าเป็นอาชีพเก่าเค้า แล้วเกิด accident ทำให้เค้าพิการ //  วิ่งไปถามผู้ดูแลด้วยความอยากรู้Smiley


ผู้ดูแลขำนิดๆ อธิบายว่า เค้าไม่ได้เป็นรปภ.มาก่อนหรอก  แต่ชอบโบกรถเวลามีแขกมา แถมชอบเป่านกหวีดด้วย  

พอคนที่มาเยี่ยมรู้ เลยเอาชุดรปภ.มาฝาก สรุปว่างานนี้อิชั้นและน้องๆโดนเด็กดาวน์หลอกค่า  เหอๆSmiley





สรุปว่าวันนี้ อาหารเกลี้ยงค่า ทานกันอร่อยเลย หลังจากทานเสร็จผู้พิการก็กลับตึก บางคนก็เข็นรถมาหาพวกเราและยกมือไหว้ขอบคุณที่มาเลี้ยงอาหารเค้าในวันนี้เป็นความรู้สึกที่อิ่มใจมาก 

นี่สินะที่เค้าเรียกว่าความสุข...Smiley






หมายเหตุ   ครั้งก่อนที่แม่มา แม่เล่าว่ามีลุงแก่ๆคนหนึ่ง เข็นรถเข้ามาไหว้แม่ และบอกว่าว่าคุณใจดีเหลือเกิน  เอาอาหารดีๆมาให้เค้ากิน  ขนาดลูกเต้ายังไม่สนใจเค้าเลย ทำไมคุณถึงได้เป็นคนดีอย่างนี้ พูดแล้วลุงคนนั้นก็ร้องไห้โฮ.....


ฟังแม่เล่าแล้ว เล่นเอาทุกคนในวงสนทนาซึมกันไปเลยค่ะ แต่ละคนจะจินตนาการอะไรกันอยู่ก็ไม่สามารถคาดเดาได้



อิชั้นจึงอยากขอเชิญชวนเพื่อนๆ  หากมีโอกาสก็สามารถมาเลี้ยงอาหารพวกเค้าได้นะคะ  



ขอแนบแผนที่หน่อยนะคะ เผื่อใครสนใจ



สถานสงเคราะห์คนพิการและทุพพลภาพบางปะกง 
70 ม.3 ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา 24130  
โทร. 0-3852-8290-1 โทรสาร. 0-3852-8291  



แต่ถ้าไม่มีเวลา หรือไม่สามารถจัดหาอาหารมาเลี้ยงได้  บริจาคเงินเล็กๆน้อยๆช่วยพวกเค้าก็ได้ค่ะ ง่ายๆเลยค่ะ  แค่โอนเงินผ่านทางธนาคารก็ได้แล้ว


ชื่อบัญชีมูลนิธิสงเคราะห์คนพิการบ้านบางปะกง   ธนาคารกรุงไทย  สาขาบางปะกงประเภทออมทรัพย์  

บัญชีเลขที่  202-1-37311-8

เบอร์โทร : 038-528 290   038-528 291







การเป็นผู้ให้สุขใจกว่าเป็นผู้รับจริงๆนะคะ





















 

Create Date : 27 มิถุนายน 2556    
Last Update : 23 ธันวาคม 2556 23:06:15 น.
Counter : 18133 Pageviews.  

มารำลึกความหลัง...ครั้งวัยละอ่อน ที่มหาวิทยาลัยค่ะ ^^

วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม ที่มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ มีการจัดงานเลี้ยงครบรอบ 20 ปี งานราตรีโพธิทอง...



พวกเราซึ่งเป็นแผนกเภสัชกรรมรุ่นที่สองของคณะ แต่เป็นรุ่นที่สามของมหาวิทยาลัย เกิดมีความคิดที่จะรวมพลกันมา หนึ่งก็เพื่อพบปะสังสรรค์ในกลุ่มเพื่อนๆที่ไม่ได้เจอกันมานานนนน และสองก็เพื่อไปรดน้ำดำหัวอาจารย์ที่เราเคารพด้วย



งานนี้อิชั้นตื่นเต้นมากมาย ก็ไม่ได้เจอกันมานานแล้วนี่นา อยากเจอเพื่อนมากมาย ลองดูกันสิ เพื่อนๆจะมากันกี่คนเน้อ  Smiley


เราไปมหาวิทยาลัย กับเพื่อนที่เป็นอาจารย์ งานนี้สบายไป ไม่ต้องขับรถไปเอง



เพื่อนของเราขอตัวไปเตรียมงานที่คณะก่อน เราเลยไปหาอาหารเที่ยงเบาๆกินรองท้อง วันนี้ไม่ค่อยหิวเลย สงสัยจะตื่นเต้น...


เหลือบไปเห็นเซเว่นข้างหน้า เอาวะ...เอานี่แหล่ะ รองท้องก่อน

ครัวซองทูน่ากะกาแฟเย็น....อิ่มเบาๆ อร่อยด้วย


กินเสร็จแล้ว  เวลายังมีเหลือเยอะ  เดินเล่นรอบมหาวิทยาลัยดีกว่า Smiley


ตัวอิชั้นเข้าศึกษาที่คณะเภสัชศาสตร์  มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่ปี 2537  สำเร็จการศึกษาในปี 2542  ใช้เวลาเรียน 5 ปี ตามหลักสูตรเภสัชศาสตร์(รุ่นเก่า)  แต่ขณะนี้คณะเภสัชศาสตร์ทั้งประเทศไทย ได้ปรับเป็นหลักสูตร 6 ปี ตั้งแต่ปี 2552


แรกเริ่มเดิมที ที่เดินเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้  อิชั้นมีความรู้สึกต่างๆมากมาย ทั้งกังวล ทั้งวิตก  กลัวว่าจะเรียนคณะเภสัชไม่ไหว  เรียนไม่จบ  นอกจากนี้ถ้าจบแล้ว ก็ต้องสอบใบอนุญาติประกอบวิชาชีพ ก็ยังอดกลัวไม่ได้ว่าจะสอบไม่ผ่าน...Smiley


และนอกจากความกังวลเรื่องการเรียน  ชีวิตในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็มีแง่มุมอื่นๆมากล้น  ทั้งทุกข์ สุขและเศร้า...เป็นชีวิตที่เข้มข้น ปนเหนื่อยล้า และโหดมันส์ฮามากมาย


แต่อิชั้นไม่คิดเลย....ว่าชีวิตในมหาวิทยาลัยที่อิชั้นคิดว่า มันสุดๆแล้วในชีวิตคนๆนึง  จะกลายเป็นเด็กน้อยจิ๊บๆไปเลย เมื่อเราก้าวเข้าสู่สังคมวัยทำงาน


และทำให้เราได้รู้ว่า  เพื่อนที่แท้จริงที่ไม่ทิ้งกัน ก็คือเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยนั่นเอง...

เวิ่นเว้อเสียเยอะ  ขออนุญาติอวดมหาวิทยาลัยตัวเองหน่อยนะคะ

ที่นี่เป็นอาคารอิฐสีแดงๆ มองๆไปก็คล้ายยูในเมืองนอกอยู่ไม่ใช่น้อย

ตอนอิชั้นเรียนที่นี่ จนพบว่ามีกองถ่ายมาใช้สถานที่ที่มหาวิทยาลัยของเราเป็นโลเกชั่นมามากมาย   ทั้งมิวสิควีดีโอ  ละคร  ซีรีย์  แม้กระทั่งหนังใหญ่....


จะบอกว่าเรื่อง "จักรยานสีแดง"  Smiley ที่พี่มอสกะทาทาเล่น  ในหนังสือสถานที่เกิดเรื่องคือม.เกษตรศาสตร์  


แต่พอเป็นหนังใหญ่เค้าใช้มหาวิทยาลัยอิชั้นเป็นโลเกชั่นนะค้า ขอบอกSmiley

เดินเสียจนเพลิน แล้วก็ได้เวลาที่เรานัดหมายกับเพื่อนๆ เพื่อไปรดน้ำท่านอดีตอธิการบดีของเราค่ะ

รุ่นของเราจะผูกพันกับท่านอดีตอธิการบดีท่านนี้มาก  เพราะท่านดำรงตำแหน่งในรุ่นของเรา


ในวันนี้ที่ได้มารดน้ำท่าน และได้รับศีลรับพรจากท่าน ถือเป็นพรอันประเสริฐยิ่งของพวกเราในวันนี้ค่ะ  ^^

นอกจากนี้ เรายังไปรดน้ำท่านอาจารย์ดร.ประศาสตร์ ซึ่งเป็นครูที่สั่งสอนเราในด้านการทำยาเม็ด....

เรายังจดจำวันแรก ที่เราจะเข้าคลาสเรียนได้อยู่เลย...

วันนั้น ก่อนการสอน  อาจารย์ให้พวกเราทุกคนสาบานตน ต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย...

ว่าเราจะไม่นำความรู้ที่ได้ในวันนี้ ไปกระทำในสิ่งที่ผิดทั้งกฎหมายและจรรยาบรรณ  หากเราผิดคำสาบานขอให้เรามีอันเป็นไป..

ตอนนั้นเราก็ยังขำๆ ว่าอาจารย์จริงจังจังเลยค่า...หนูไม่เอาความรู้นี้ไปทำยาบ้าหรอกค่ะ แต่เราก็สาบานด้วยควาที่มั่นใจว่าเราจะไม่ทำความชั่วอย่างนั้นเด็ดขาด  ซึ่งเพื่อนเราทุกคนก็คิดเช่นกัน....

แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า สิ่งที่อาจารย์ให้เราลั่นคำสาบานมันจะมีน้ำหนักมากมาย  ในวันนี้ที่พบว่ามีเภสัชกรลักลอบนำยาซูโอพริดินออกจากระบบรพ.   


อาจารย์มาเล่าให้ฟังทีหลังว่าแกล่ะลุ้นเหลือเกิน ว่าจะมีลูกศิษย์ของแกอยู่ในขบวนการนี้ด้วยไหม  เมื่อพบว่าไม่มี อาจารย์ก็แสนจะโล่งใจ...ดีใจที่พวกเราซื่อสัตย์ต่อคำสาบาน...

มาเข้าโหมดเฮฮาปาร์ตี้กันดีกว่า  งานนี้เพื่อนๆที่ไม่ได้พบกันมาสิบกว่าปีมาพบปะกัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือเสียงเซ็งแซ่ค่ะ  ต่างคนต่างก็เม้าท์กันอย่างเมามันส์...  กว่าจะรวมตัวถ่ายรูปหมู่ได้ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ

ถ่ายคู่กับพี่บุณทัน   เจ้าหน้าที่ห้องแล็ปของเรา  เค้ามีหน้าที่ช่วยอาจารย์เตรียมแลปให้พวกเราก่อนเรียน...ถึงแม้ว่าพี่แกจะไม่ใช่อาจารย์เราโดยตรง แต่ก็เป็นผู้ช่วยเหลือให้เราร่ำเรียนได้โดยราบรื่น...


ถือเป็นคนสำคัญคนนึงที่พวกเราระลึกถึงอยู่เสมอ ^^

จะบอกว่า อิชั้นมานั่งคิดๆก่อนมางานแล้ว  ว่าต้องถ่ายรูปเยอะแน่นอน ! ก็เลยจัดมาเป็นกระโปรงแซคสีแดง  เสื้อคลุมข้างนอกก็สีแดง (แต่รองเท้าไม่แดงนะ)


งานนี้ได้ผลมากมาย  ถ่ายรูปได้ขึ้นมาก เพราะสีเด่นกระแทกตากว่าชาวบ้าน  จนเค้าเริ่มออกอาการรังเกียจ หลังๆชักไม่ค่อยมีใครอยากเข้าใกล้แล้ว...


เป็นเทคนิคที่ไม่หวงห้าม สำหรับใครที่อยากเด่นกว่าใครเวลาถ่ายรูป หยิบสีแดงมาใช้เลยค่ะ  ยิ่งสดยิ่งดี  (ถ้าไม่กลัวเค้าเรียกอีสมทรงนะ) Smiley

กว่าจะรวมพลถ่ายรูปหมู่ได้...เล่นเอาช่างภาพเรียกจนเหนื่อยเลยค่ะ




ถ่ายกับอาจารย์หน้าห้องแลปผลิตยา




บันไดตรงนี้  พวกอิชั้นใช้มันเป็นที่อ่านหนังสือ เตรียมเข้าห้องสอบ.....(ตรงไหนว่างก็มุดมันทุกที่แหล่ะ)


ถ่ายกับสัญลักษณ์ของคณะหน่อยค่ะ....งูพันถ้วยยา ^^



ตกเย็น เราก็ทานโต๊ะจีนกันค่ะ  งานนี้ขอถ่ายรูปกับก๊วนเพื่อนสาวหน่อย..











ปิดท้ายความประทับใจในวันนี้ ด้วยรูปหมู่หน้าโรงอาหาร

ในอดีต   พวกเราวิ่งขึ้นวิ่งลงโรงอาหารนี้มาตลอด  ไปหาข้าวเช้ากินบ้าง ข้าวเที่ยงบ้าง  (บางวันก็พ่วงไปถึงมื้อเย็น!)   นัดเจอกันที่นี่  หาที่อ่านหนังสือที่นี่  ปรับทุกข์เรื่องเรียน  หรือแม้กระทั่งบางคู่ ก็มีปะฉะดะกันที่นี่ (อย่าให้บอกเลยว่าคู่ไหน มันผ่านมานานแล้วว)  


พวกเราล่ะโคตรจะผูกพันกับที่นี่เลย  ช่างเป็นแหล่งหากินที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของพวกเราจริงๆ.....

และที่นี่แหล่ะ !  ใครจะคิดเลยว่า  ในอีก 13 ปีให้หลัง  เราจะได้กลับมารวมตัวอีกครั้ง....โดยที่มีบางคนกระเตงลูกมาด้วย


วันเวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆนะ...









 

Create Date : 06 เมษายน 2555    
Last Update : 23 ธันวาคม 2556 23:08:59 น.
Counter : 6861 Pageviews.  

ฉลองปีใหม่ 55......รื่นเริงบันเทิงใจ...

ช่วงสิ้นปี 54 ที่ผ่านมา ที่บ้านของอิชั้นมีโครงการจะจัดเลี้ยงปีใหม่ ให้กับลูกน้องและบรรดาเพื่อนบ้านแถวๆนี้ให้มาพบปะสังสรรค์กัน




อีตอนแรกอิชั้นก็คิดว่า เป็นปาร์ตี้หมูกะทะชิลๆ เหมือนปีที่แล้ว....แต่ที่ไหนได้ ไปถึงบ้านตัวเอง ถึงกับต๊กกะใจ....








ไหงจัดซะใหญ่ขนาดนี้อ่ะ..แม่Smiley




คุณนายจัดซะอลังการเลย...แสง สี เสียง...ครบ...SmileySmileySmiley มีพริ๊ตตี้มาเต้นด้วยอ่า....งานนี้น่าจะหมดไปหลายตังค์










แต่เอาเถอะ เพื่อความสบายใจ ชีอยากทำก็ให้ทำไป ...ไหนๆก็ปีละครั้ง




และงานนี้ นอกจากกินเลี้ยงแล้ว ก็มีการจับรางวัลให้ลูกจ้าง โดยมีรางวัลที่ 1 เป็นเงินสดหนึ่งหมื่นบาท !!! (อูยยยย อยากได้มั่งอ่า..Smiley)








และคุณแม่ก็มอบเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้แก่โรงเรียนนาป่ามโนรถ ซึ่งเป็นโรงเรียนแถวบ้านเรานี่เอง โดยมีคุณครูเป็นผู้รับมอบ...








เรื่องการทำบุญกับสถานศึกษา เป็นสิ่งที่ป๊ากับแม่ทำมาตลอดทั้งปี ไม่เฉพาะช่วงปีใหม่ แต่ทั้งวันเด็ก วันพ่อ ลอยกระทง ทอดกฐิน....คุณนายก็แจกทุนการศึกษาตลอด....




ก็เพราะว่า ทั้งสองท่านสมัยเป็นเด็ก ไม่มีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างที่ใจต้องการ ทั้งป๊าและแม่ จบแค่ระดับประถมก็ต้องออกมาช่วยที่บ้านทำมาหากิน...แต่ในใจทั้งสองก็คิดอยากเรียนมาตลอด จนป๊ามาสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมจากการเข้าเรียนในกศน. แต่แม่ก็ไม่มีโอกาสจะได้เรียนอย่างนั้น.....




ทั้งสองจึงช่วยทำบุญด้วยการให้โอกาส เด็กที่อยากเรียน แต่ฐานะยากจน เพื่อให้เค้าได้รับการศึกษา ไม่เหมือนป๊ากับแม่ในสมัยก่อน...




อาจจะเป็นกุศลนี้ก็ได้....ทำให้ลูกสามคนของป๊ากับแม่ ร่ำเรียนจนจบ และประกอบอาชีพกิจการตามที่ตัวเองต้องการ...โดยที่อิชั้นเป็นพี่คนโต เป็นเภสัชกรโรงพยาบาล น้องชายคนกลางมีธุรกิจไฟแนนซ์ ส่วนน้องสาวคนเล็กเป็นหมอผิวหนัง ทำงานคลินิคในกรุงเทพ... ซึ่งเราสามคนก็ได้มาร่วมงานกับป๊าและแม่ในวันนี้...




เห็นป๊ากะแม่มีความสุข พวกเราก็ปลื้มใจแล้วล่ะ...Smiley



เช้าวันต่อมา อิชั้นกะพี่ศักดิ์ตื่นมาตอนแปดโมงครึ่ง ป๊ากะแม่ก็ชวนไปกินอาหารเช้าแสนอร่อยที่ร้านเทียบทองSmiley











ของอิชั้นชามนี้เลยค่ะ "โจ๊กหมูใส่ไข่" อร่อยดี...Smiley







ของแม่เป็นเซ็ทอเมริกันเบรคฟาส มีกาแฟหอมๆมาเสริฟด้วยSmiley











มาลองชิมไข่กะทะกันดูสักหน่อย...ท่าทางจะถึงเครื่องมากมายSmiley







ของพี่ศักดิ์สั่งเป็นข้าวอบเผือก ของโปรดพี่เค้าเลย







สั่งของหวานมาทานเล่นเสียหน่อย....ขนมปังอบน้ำตาลแสนอร่อยจ้า...








และตอนเย็น ป๊ากับแม่ก็ชวนมาชิลๆอีกรอบ...ที่ ร้านเปี๊ยกโภชนา...บางแสน




อาหารอร่อยมากกก ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องของทะเลสดสุดชีวิตอยู่แล้วSmiley









เฮ้อ....เป็นการฉลองปีใหม่ที่มีความสุขจริงๆเลย

อยากให้เป็นปีใหม่ทุกวันเล๊ยยยย
Smiley













 

Create Date : 14 มกราคม 2555    
Last Update : 14 กรกฎาคม 2556 15:45:50 น.
Counter : 1051 Pageviews.  

สุขสันต์วันพ่อ...ปี 54

ทศกาลวันพ่อแบบนี้.....ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการฉลองภายในครอบครัวอันสุขสันต์.....วันนี้เราจึงขออนุญาติพาป๊าป๋าสุดที่รักกะทุกคนในบ้านไปทานข้าวกลางวันที่ภัตตาคารไต้ฮี้หน่อยนะค้า


และพอดี  ป๊าอยากพาครอบครัวของอาอี๊ อากู๋ที่เค้ามาช่วยในงานแต่งงานของเราไปทานด้วยกัน...งานนี้จึงอบอุ่นน่าดู.......จะว่าไปก็เริ่มหิวกันแล้ว   งั้นไปกันเลยค่า......


 มาถึงแล้วก็ขอแชะภาพคู่ป๊ะป๋าสุดที่รักหน่อยนะSmileySmiley






หลังจากที่เราแต่งงานมาแล้ว  สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในตัวอิชั้นคือ....เราดื้อกะป๊าแม่น้อยลง  รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเดิม    และเวลาที่เจอป๊า  สิ่งเราทำเสมอๆคือ ต้องเข้าไปกอดป๊าแน่นๆแบบนี้  แล้วบอกเค้าว่า "คิดถึงป๊าจังเลย" 


รักนะจุ๊บๆSmiley


หันกลับมาถ่ายรูปคู่กะสามีตัวเองเสียหน่อย  เดี๋ยวเค้าจะน้อยใจ หุหุ












เรื่องโพสท่าไม่มีใครยอมใคร.....Smiley


วันนี้คนเยอะมากกก เพราะเป็นวันพ่อด้วย  โชคดีที่เราจองมาก่อน...ไม่งั้นไม่ได้กินแน่ๆ




ก็จากร้านโล่งๆแบบนี้



V
V
V

กลายมาเป็นร้านที่คนแน่นๆอย่างนี้ได้ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง





โชคดีจริงๆที่โทรมาจองก่อน อิอิ



จานแรกมาแล้ววว เป็นออเดิร์ฟ หน้าตาน่าทานมากมาย.....ขนมจีบลูกใหญ่มั่กมากก  อร่อยๆๆๆSmiley










ฮ่อยจ๊อกะแฮ่กึ๊น  ลูกโตๆ  ทอดมากรอบๆร้อนๆ อร่อยดีจ้า








หูฉลามน้ำแดง








มาแล้วววว ของชวนอ้วน ขาหมูหมั่นโถว....










แต่ถึงจะอ้วนยังไง  มันก็น่าอร่อยอยู่ดีแหล่ะ  แฮ่ะๆ


ปลาเก๋านึ่งซีอิ้ว....ปลาส๊ดสด








ข้าวผัดที่นี่อร่อยมากกกก  ข้าวเป็นเม็ดสวย  กินแล้วเพลินปากมากมาย  ชอบๆๆๆSmiley








ต้มยำร้อนๆ  เปรี้ยวๆ ซดแล้วชื่นใจจัง








มาถึงของหวาน....โอวหนี่แปะก๊วย   หน้าตาน่าทานมากกก ปกติอิชั้นจะไม่ค่อยพิศวาสเจ้านี่เท่าไหร่   แต่ที่ไต้ฮี้ทำออกมาได้น่ากินมากกก  ทนไม่ไหว เลยต้องขอชิมไปคำนึง ....อืมม  หอมเผือก หวานอร่อยดีค่ะSmiley







บรรยากาศผู้ร่วมโต๊ะ...







มื้อนี้ก็ผ่านไปพร้อมกับความประทับใจของเรา


ที่ได้กินของอร่อยๆ พร้อมหน้ากับคนที่รักในครอบครัว...


และหวังใจว่า....เราจะได้ทานอาหารร่วมกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างนี้ ตลอดไป.....




หนูรักป๊านะค้า    Smiley














 

Create Date : 05 ธันวาคม 2554    
Last Update : 15 มิถุนายน 2556 18:14:13 น.
Counter : 1458 Pageviews.  

1  2  3  4  

hi hacky
Location :
ชลบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




Life is a journey....
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add hi hacky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.