Bangkok Home Review, Interior, Design, Decoration, & Etc.

กทม.ลุยต่ออีก 2กม. 'วงแหวน- ร่มเกล้า' หลังติดเวนคืน

ติดปัญหาการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพียง 2-3 หลังคาเรือนอยู่นาน สำหรับโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมกรุงเทพกรีฑา ช่วงถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก (กาญจนาภิเษก ) - ถนนร่มเกล้า ขนาด 6-8 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 4-5 กิโลเมตร 

ที่ปัจจุบันบางส่วนก่อสร้างเสร็จนานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดการจราจรได้ เพราะ อีก 2 กิโลเมตร ที่จะวิ่งไปชนกับถนนวงแหวนรอบนอก ยังทำอะไรไม่ได้ ส่งผลให้ถนนเส้นนี้กลายเป็นถนน "ร้าง" อย่างน่าเสียดาย 



อย่างไรก็ดี ได้รับการยืนยันจาก สำนักการโยธา กทม. ว่า ชาวบ้านยอมออกจากพื้นที่ และยอมรับ ค่าชดเชยดังกล่าว ทำให้กทม. สามารถเดินหน้าลุยก่อสร้างในส่วนที่เหลือได้ 

แต่ปัญหาก็ตามมาไม่รู้จักจบจักสิ้น เมื่อช่วงนี้เป็นช่วงขาดแคลนงบประมาณพอดี 



ส่งผลให้การก่อสร้างส่วนที่เหลือไม่ทันงบประมาณ ปี 2552 และได้เสนอของบประมาณใหม่ในปี 2553 เนื่องจากบริเวณ ที่ติดปัญหาเวนคืน 

จะต้องก่อสร้างเป็นสะพานยกระดับข้ามถนนวงแหวน ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร มูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านบาท 

แต่ทางออก กทม. จะดำเนินการเป็นถนนแนวราบไปชนถนนวงแหวนรอบนอก ไปก่อน ซึ่งใช้งบประมาณไม่ถึง 100 ล้านบาท เพื่อให้เปิดการจราจรได้ 



ขณะเดียวกัน กทม.จะเสนอของบประมาณจากสภากทม.และรัฐบาล ในปีงบประมาณ 2553 แบ่งเป็นสองส่วน ด้วยกันคือ คือ 

1. งบประมาณ เพื่อก่อสร้างสะพานยกระดับ มูลค่า 1,000 ล้านบาท และ 

2. งบประมาณเพื่อก่อสร้างถนนแนวราบเพื่อวิ่งไปออกถนนวงแหวนรอบนอก ชั่วคราว แต่อนาคตสามารถปรับใช้เส้นทางรองรับปริมาณจราจรได้อย่างถาวร 



ต้องลุ้นกันต่อว่า... งบประมาณที่เสนอขอไปจะผ่าน-ไม่ผ่าน แต่ที่แน่ๆ ถนนเส้นนี้ "ร้าง" มานาน หากไม่เห็นใจกทม.ก็ขอให้เห็นใจประชาชนผู้ใช้เส้นทางด้วยเถอะ ... เพราะรถมันติดจนไม่มีทางระบายแล้ว! 






Free TextEditor




 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 17 กรกฎาคม 2552 7:09:00 น.
Counter : 450 Pageviews.  

หมู่บ้านไหนดีในวัชรพล


เนื่องมีสองท่านเขียนมาถามเรื่องบ้านในโซนวัชรพลเหมือนกัน เลยขอมาเขียนบล็อกตอบด้วยเลยแล้วกันนะครับ ตอบจากมมุมองของผมเนี่ยแหละ ในฐานะที่ดูบ้านเยอะพอสมควร แต่ไม่ยักกะเขียนรีวิวได้ครับ 55 



(Q1)เห็นตอบในกระทู้ //www.pantip.com/cafe/home/topic/R7851790/R7851790.html รบกวนขอคำแนะนำค่ะ  คือ กำลังหาดูบ้านเดี่ยว ราคาไม่เกิน 4 ล้านต้นๆ เส้นวัชรพล พอจะมีโครงการไหนน่าสนใจบ้างค่ะ แล้วแถวนั้นรถติดหรือเปล่า ทำงานแถวเมเจอร์รัชโยธินค่ะ ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัว หมู่บ้านไหนที่พอจะเดินทางสะดวกคะ (มีรถใช้คันเดียวกับแฟนค่ะ) แต่บางวันอยากไปทำงานเองค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าที่ช่วยตอบนะคะ





ถ้าดูเส้นวัชรพล ผมจะสรุปโครงการที่น่าสนใจให้ลองพิจารณาดูนะครับ (ในมุมมองของผมนะครับ)






เส้นสุขาภิบาล 5 ที่ควรดูมี คาซ่า วิลล์ วัชรพล 3 ชัยพฤกษ์ วัชรพล the plant วัชรพล ทั้งสามหมู่บ้านอยู่ในเส้นหลักที่หมู่บ้านขึ้นเยอะสุดในโซน ซึ่งข้อดีของทำเลนี้คือไม่เปลี่ยว มีตลาด มีห้าง มีทางด่วนเปิดใช้แล้ว มีรถเมล์ผ่าน ซึ่งในมุมมองของผมค่อนข้างสนใจคาซ่า วัชรพล 3 นะครับ ในตัวเลือกเหล่านี้ คาซ่า จะพื้นที่นอกบ้านเยอะสุดคือมากกว่า 54 ตารางวาแน่ๆ ขณะที่อีกสองโครงการประมาณ 50 ตารางวา



Chaiyapruek Watchrapon




เส้นถนนวัชรพลแนะนำให้ดูรสา พาร์คเลน บ้านสวย พื้นที่ใช้สอยเยอะ พื้นที่บ้านกว้างใช้ได้อยู่ประมาณ 58 ตารางวาขึ้นไป ราคาอยู่ประมาณสี่ล้านกลางๆ



เส้นสายไหมแนะนำให้ดูวรารมย์ สายไหมครับ โครงการดี พื้นที่ใช้สอยเยอะ ที่ดินกว้าง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งตลาด ห้าง รถเมล์ผ่าน มาทางด่วนก็ไม่ยากจนเกินไป





(Q2)รบกวนถามหน่อยครับ ว่าระหว่างคาซ่า สุขาภิบาล5กับวรารมย์สายไหมควรเลือกอย่างไหนดีครับ ผมไปดูมาแล้วทั้งสองที่ ของวรารมย์ทุกอย่างดูดีกว่าทุกอย่างรวมทั้งความปลอดภัย แต่กลับรู้สึกไม่ร่มรื่นหรือเย็นสบายเท่าของคาซ่าเลยครับ มีอะไรแนะนำบ้างไหมครับ เป็นบ้านหลังแรกและตั้งงบไว้ 4-4.2 ล้านครับ





ถ้าต้องเลือกบ้านสองโครงการนี้ โดยส่วนตัวผมซึ่งได้ดูทั้งคู่มาเกินกว่าสิบครั้ง ถ้าให้ผมเลือกที่ตัวบ้าน วัสดุ ทุกอย่าง พื้นที่ใช้สอย ผมเลือกวรารมย์ แต่ขอว่าอย่าเป็นสุดซอยนะครับ ไม่แน่ใจว่าที่คุณไปดูเค้าเปิดถึงสุดซอยหรือยัง แต่ถ้ามันสุดซอยแล้ว ถ้าคาซ่า ตำแหน่งในโครงการถูกใจกว่า ก็เลือกคาซ่าก็ได้ครับ ข้อดีคือราคาประเมินที่ดินในอนาคตน่าจะสูงกว่าวรารมย์นะ  แต่ไม่ต่างกันมาก



Vararom 



ต่อไปวรารมย์จะวางตำแหน่งสูงกว่า คาซ่า วิลล์ คาซ่า วิลล์จะวางตำแหน่งเป็นบ้านราคาเริ่มต้นของ Q House ครับ



คาซ่า บ้านในโครงการจะประมาณ 500 หลัง วรารมย์จะประมาณ 300 หลัง



เนื่องจากบ้านเป็นสินทรัพย์ของแต่ละคน ดังนั้นต้องถามตัวเองครับว่า ไปยืนอยู่ที่ไหน หลังไหนแล้วความรู้สึกส่วนตัว เสียงในหัวเราบอกว่าหลังนี้แหละ นั่นแหละบ้านคุณ








บางโครงการผมได้เขียนรีวิวไว้แล้วลองค้นหาในบล็อกย้อนหลังดูครับ








 

Create Date : 03 มิถุนายน 2552    
Last Update : 3 มิถุนายน 2552 15:56:02 น.
Counter : 5936 Pageviews.  

กรุงไทยจัดงาน KTB NPA Grand Sale นำทรัพย์กว่า 8,000 แปลง ในราคาส่วนลดสูงสุด 35%





















กรุงไทยจัดงาน KTB NPA Grand Sale นำทรัพย์กว่า 8,000 แปลง มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ขายในราคาส่วนลดสูงสุด 35% ที่สาขาทั่วประเทศ ระหว่าง 27 พ.ค. -15 มิ.ย.นี้ พร้อมจัดโปรโมชั่นสินเชื่อวงเงิน 110% ดอกเบี้ย 0%ปีแรก





นายอัสนี ทรัพยวณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารทรัพย์สินและงานกฎหมาย บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 พฤษภาคม - 15 มิถุนายน 2552 ธนาคารจะจัดงาน KTB NPA Grand Sale เพื่อจำหน่ายทรัพย์สินพร้อมขาย (NPA) พร้อมกันทั่วประเทศที่สาขาธนาคารกว่า 840 แห่ง โดยทรัพย์ที่นำออกจำหน่ายมีหลายประเภทและอยู่ในทำเลดีกระจายอยู่ทั่วประเทศ จำนวนกว่า 8,000 แปลง รวมมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ให้ส่วนลดสูงสุดถึง 35% ลูกค้าเสียค่าโอนกรรมสิทธิ์เพียง 0.005%-1% และได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการประเมินราคาหลักทรัพย์



"ธนาคารมีทรัพย์เด่นน่าสนใจหลายประเภท เช่น ที่ดินผืนใหญ่ย่านมีนบุรี ย่านฝั่งธนบุรี จังหวัดปทุมธานี  และในตัวเมืองนครปฐม โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านฝั่งธนบุรี โรงแรมในตัวเมืองเชียงใหม่ บ้านเดี่ยวในหมู่บ้านกฤษดานคร หมู่บ้านซื่อตรง หมู่บ้านปรีชา หมู่บ้านเมืองเอก และหมู่บ้านสัมมากร เป็นต้น"



นอกจากนี้ ธนาคารยังให้สินเชื่อเงื่อนไขพิเศษกับผู้ซื้อ NPA  และยื่นคำขอสินเชื่อภายในเดือนมิถุนายนนี้ กรณีซื้อทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยสามารถกู้ซื้อบ้านและปรับปรุงซ่อมแซมวงเงินสูงถึง 110% คิดอัตราดอกเบี้ยปีแรก 0% หลังจากนั้นคิด MLR-0.25% ปัจจุบัน MLR เท่ากับ 6.00%ต่อปี ยกเว้นค่าธรรมเนียมประเมินราคาหลักทรัพย์ การจัดการเงินกู้ และการทำนิติกรรมจำนอง และกรณีไม่ใช่เพื่ออยู่อาศัย ให้กู้ 80% ของราคาซื้อขาย คิดอัตราดอกเบี้ยปีแรก MLR-1% และยกเว้นค่าธรรมเนียมประเมินราคาหลักทรัพย์ประกัน



ผู้สนใจดูรายการทรัพย์ล่วงหน้าได้ที่ www.ktb.co.th/npa  และวางเงินประกันการซื้อ 10,000 บาท สำหรับทรัพย์ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท วางเงินประกัน 50,000 บาท สำหรับทรัพย์ราคา 1-10 ล้านบาท และวางเงินประกัน 5%ของราคาเสนอขาย สำหรับทรัพย์ราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป  ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมที่ KTB  NPA Corner หมายเลข 0-2208-8308 หรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ธนาคารกรุงไทย 1551



 




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 26 พฤษภาคม 2552 17:02:27 น.
Counter : 678 Pageviews.  

วัชรพลจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทา ใหม่ล่าสุด!!!


สนข.เขย่าแผนแม่บทรถไฟฟ้าใกล้เสร็จ ชง "โสภณ" พิจารณา เบื้องต้นขยายจาก 10 สายเป็น 12 สาย เพิ่ม "สีขาว-เทา" รวมระยะทาง 467 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 8 แสนล้านบาท หัก กทม.รื้อใหม่แนวสีเขียว "สนามกีฬา-พรานนก" เป็น "มักกะสัน-ราชปรารภ-เพชรบุรีตัดใหม่-ยมราช-ราชดำเนิน-ศิริราช-พรานนก" เลื่อนชั้นสีชมพู "แคราย-มีนบุรี" เป็นเส้นทางเร่งด่วนรับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ



นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สนข.ได้รายงานความคืบหน้าภาพรวมแผนแม่บทรถไฟฟ้าให้นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรับทราบ โดยจัดลำดับความสำคัญว่าสายใดที่จะก่อสร้างเร่งด่วน ในระยะแรก ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ซึ่งเป็นแผนก่อสร้าง 20 ปี (2553-2572) เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน และโครงการรถไฟฟ้าที่บรรจุในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 ด้วย



เพียงแต่ยังมีรายละเอียดที่บริษัทที่ปรึกษาจะต้องศึกษาให้ชัดเจน เรื่องค่าก่อสร้าง ที่จะต้องปรับลด แนวเส้นทางโดยเฉพาะส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงสนามกีฬา-พรานนก ที่อาจต้องปรับแนวเส้นทางใหม่ เนื่องจากมีปัญหาพื้นที่ก่อสร้างจากสนามกีฬา-ยศเส คับแคบ และจะต้องหารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ด้วย



plan bts 



โดยแนวเส้นทางใหม่จะใกล้เคียงแนวเดิมเป็นใต้ดินตลอดทั้งสาย ระยะทาง 12 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 4 หมื่นล้านบาท เริ่มจากมักกะสันโดยเชื่อมกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ผ่านราชปรารภ เชื่อมบีทีเอสที่สถานีราชเทวี แล้วเข้าถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ผ่านยมราช ซึ่งเป็นที่ตั้งหน่วยงานราชการจำนวนมาก เช่น ทำเนียบรัฐบาล สำนักงานข้าราชการพลเรือนหรือ ก.พ. เข้าถนนราชดำเนิน ผ่านโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งจะเป็นศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านการแพทย์ของเอเชีย ไปสิ้นสุดที่สถานีปลายทางพรานนก



"สายนี้รัฐบาลอยากให้เกิดโดยเร็ว เพื่อเสริมการพัฒนาโดยรอบถนนราชดำเนิน ที่มีแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานหลายแห่ง นอกจากนี้ยังจัดลำดับความสำคัญของสายสีชมพู จากแคราย-มีนบุรี ให้สร้างเร็วขึ้น เพื่อรับกับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ จะเป็นระบบโมโนเรล"



นายประณตกล่าวว่า การจัดลำดับความสำคัญใหม่ยังคงมี 10 สายหลัก แต่ยังไม่สรุปว่าจะก่อสร้างเพิ่มอีกกี่เส้นทาง แบ่งเป็น 3 ระยะ รวมระยะทาง 467 กิโลเมตร ค่าก่อสร้างเบื้องต้น 8 แสนล้านบาท คือระยะ 5 ปีแรก เริ่มสร้างปี 2553 เปิดบริการปี 2557 มี 5 สาย ปัจจุบันที่พร้อมประมูลก่อสร้างคือสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่  23 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 56,599 ล้านบาท อยู่ระหว่างประกวดราคา เปิดใช้ปี 2556-2557 สายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต 26 กิโลเมตร 77,563 ล้านบาท เตรียมการประกวดราคา เปิดใช้ปี 2556 ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน 15 กิโลเมตร กำลังก่อสร้าง เปิดใช้ปี 2555



สายสีเขียวอ่อน ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ 12.6 กิโลเมตร 25,248 ล้านบาท และสายสีเขียวเข้ม ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ 11.4 กิโลเมตร 32,052 ล้านบาท รฟม.เตรียมประกวดราคา เปิดบริการปี 2557 สายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค 27 กิโลเมตร 79,904 ล้านบาท กำลังเจรจาเงินกู้ เปิดบริการช้าไปจากกรอบเป็นปี 2559



ระยะที่ 2 อีก 5 ปีต่อมา เริ่มปี 2558 เปิดบริการได้ปี 2562 ซึ่งบางสายทางในระยะแรกที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ต้องเลื่อนเปิดให้บริการในเฟสนี้ เช่น สายสีน้ำเงิน ต่อขยายแนวเส้นทางเดิมออกไปชานเมืองมากขึ้น แต่มีบางสายทางอาจจะก่อสร้างก่อน เช่น สายสีชมพู จากแคราย-มีนบุรี 34.4 กิโลเมตร 38,230 ล้านบาท สายสีน้ำตาลที่จะรวมเป็นสายเดียวกับสายสีส้มเดิม ช่วงบางกะปิ-บางบำหรุ-มีนบุรี 33 กิโลเมตร 1.2 แสนล้านบาท จะตัดก่อสร้างช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ก่อน 20 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 73,075 ล้านบาท โดยสีชมพูกับน้ำตาลอาจจะแล้วเสร็จปี 2555-2556 เพราะอยู่ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล



นอกจากนี้มีสายสีเขียวเข้ม สะพานใหม่-ลำลูกกา คลองสี่ 13.9 กิโลเมตร 22,800 ล้านบาท อยู่ระหว่างศึกษาและออกแบบรายละเอียด สายสีเขียวอ่อนช่วงสมุทรปราการ (บางปิ้ง)-บางปู 9.1 กิโลเมตร อยู่ระหว่างศึกษาและออกแบบรายละเอียด สายสีเหลืองอ่อนช่วงรัชดาฯ-ลาดพร้าว-พัฒนาการ 12.6 กิโลเมตร 16,580 ล้านบาท สายสีแดงอ่อนช่วงบางซื่อ-พญาไท-หัวหมาก 19 กิโลเมตร

 

ระยะที่ 3 ภายในเวลา 10 ปี (2563-2572) เป็นสายใหม่ที่ยังไม่ได้ศึกษารายละเอียดและบริษัทที่ปรึกษาเสนอ รวมทั้งเส้นทางรถไฟชานเมืองสายสีแดง เช่น สายสีม่วงช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ 19.8 กิโลเมตร 66,820 ล้านบาท สายสีส้มส่วนที่เหลือ จากบางกะปิ-บางบำหรุ 13 กิโลเมตร 56,060 ล้านบาท สายสีเหลืองเข้มช่วงพัฒนาการ-สำโรง 17.8 กิโลเมตร 31,740  ล้านบาท สายสีเทาช่วงวัชรพล-ลาดพร้าว-พระราม 4-สะพานพระราม 9 ระยะทาง 21 กิโลเมตร 31,870 ล้านบาท สายสีขาวจากมักกะสัน-ดินแดง-บางบำหรุ 9 กิโลเมตร 38,442 ล้านบาท สายสีแดงช่วงตลิ่งชัน-นครปฐม สายสีแดงช่วงมักกะสัน-แปดริ้ว สายสีเขียวช่วงบางหว้า-พุทธมณฑลสาย 4 เป็นต้น



"ตามแผนแม่บทนี้จะต้องยึดถือไปตลอด 20 ปี ซึ่งดูแล้วสายทางที่น่าจะเห็นเป็นรูปธรรมช่วง 10-15 ปี แต่จะมีการปรับทุกๆ 5 ปี เพื่อจัดลำดับความสำคัญใหม่ให้เหมาะสมกับการพัฒนาที่เกิดขึ้นจริง โดยอาจมีบางสายแม้จะถูกจัดอยู่ในระยะที่ 2-3 แต่อาจจำเป็นต้องก่อสร้างก่อน" นายประณตกล่าว



 






 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 26 พฤษภาคม 2552 6:51:01 น.
Counter : 815 Pageviews.  

เอสซีฯยอดขายฉลุย เข็น9โปรเจ็กต์ใหม่ บ้าน-คอนโด7พันล.

HTML Source EditorWord wrap
เอสซีฯยอดขายฉลุย เข็น9โปรเจ็กต์ใหม่ บ้าน-คอนโด7พันล.




"เอสซี แอสเสทฯ" เปิดผลประกอบการไตรมาสแรกยอดขายเข้าเป้า 628 ล้านบาท รายได้รวม 694 ล้านบาท กำไรสุทธิ 93 ล้านบาท มั่นใจสุดๆ เดินหน้าลุย 9 โปรเจ็กต์ใหม่แนวราบ มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ทยอยเปิดตัวตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป





นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 เป็นไปตามเป้าหมาย โดยมียอดขายทั้งสิ้น 628 ล้านบาท มีรายได้รวม 694 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการดำเนินงาน 692 ล้านบาท และมีผลกำไรสุทธิ 93 ล้านบาท 



โครงสร้างรายได้มาจากการขายและให้เช่าในสัดส่วน 70/30 โดยรายได้การขายมาจากการพัฒนาโครงการ (residential) 483 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า (office building) 209 ล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสแรกบริษัทยังไม่มีการเปิดขายโครงการใหม่ และการรับรู้รายได้จากการขายมีเฉพาะจากโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมเท่านั้น ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมจะเริ่มรับรู้รายได้ ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีนี้เป็นต้นไป 



สำหรับแผนพัฒนาโครงการใหม่ของบริษัท นายอรรถพลเปิดเผยว่า ยังคงเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลัก ภายในไตรมาส 2 เอสซี แอสเสทฯเตรียมความพร้อมสำหรับเปิดตัวโครงการแนวราบ 2 โครงการ ครอบคลุมทั้งประเภทบ้านเดี่ยวและโฮมออฟฟิศ ได้แก่ 1)โครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้นระดับพรีเมี่ยม แบรนด์ "แกรนด์บางกอก บูเลอวาร์ด รัชดา-รามอินทรา" โครงการใหม่ทำเลถนนรัชดา-รามอินทราซึ่งเป็นถนนตัดใหม่ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 16 ไร่ มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ราคาขายยูนิตละ 15-20 ล้านบาท 2)โครงการออฟฟิศ เพลส ประชาชื่น จำนวน 8 ยูนิต มูลค่าโครงการ 60 ล้านบาท 



ขณะเดียวกัน บริษัทเตรียมจัดอีเวนต์ โครงการวิสต้าปาร์ค แจ้งวัฒนะ ทาวน์โฮมหรู 3 ชั้น บนทำเลถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะ โดยจัดในรูปแบบงานแกรนด์ โอเพนนิ่งในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ ขนาดเนื้อที่กว่า 12 ไร่ ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 450 ล้านบาท 



นอกจากนี้ เอสซี แอสเสทฯยังอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการใหม่ที่จะเปิดขายครึ่งปีหลังอีก 7 โครงการซึ่งมีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม มูลค่าโครงการรวมประมาณ 6,000 ล้านบาท สรุปแล้ว ตั้งแต่ไตรมาส 2 จนถึงสิ้นปีบริษัทจะมีการพัฒนาโครงการใหม่ 9 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 7,000 ล้านบาท



"แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาตลาดอสังหา ริมทรัพย์จะได้รับผลกระทบในเรื่องของความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีการชะลอการตัดสินใจซื้อหรือลงทุน แต่บริษัทเชื่อว่ายังมีเรียลดีมานด์อีกจำนวนมาก เพียงแต่จะต้องเจาะให้ถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ตรงจุด ดังนั้นการปรับตัวคือมุ่งเน้นการหากลยุทธ์ ส่งเสริมการตลาดและกลยุทธ์การขายใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจผู้บริโภค" นายอรรถพลกล่าว





 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2552 7:03:26 น.
Counter : 399 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

High Bridge
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add High Bridge's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.