April Skincare Regimen
นอนไม่หลับค่ะคืนนี้ เลยไหนๆก็ไหนๆ แล้ว มานั่งอัพบล็อคดีกว่า ก่อนที่จะค้างคอนเทนท์เยอะไปกว่านี้
คราวที่แล้ว เริ่มทำ Skincare Regimen ครั้งแรกตอนเดือน ก.พ. คราวนี้ข้ามมาสัก 2 เดือนมาดูกันนะคะว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ** เรียงลำดับตามการใช้เลยนะคะ** *** ตัวที่ไม่ได้ตัดเกรด อาจจะเพราะเคยเขียนถึงไปแล้ว หรือ มีแพลนที่จะเขียนรีวิวฉบับเต็มนะคะ แต่ถ้าให้เกรดแล้ว แปลว่าอาจจะไม่แวะกลับมาเขียนอีกค่ะ *** กลุ่มที่ 1 เตรียมผิว และบรรดากองทัพเซรั่ม  1. Essential C Toner ของ Murad (เช้าเย็น) โทเนอร์ตัวนี้ ดิฉันใช้ทำทิชชู่มาสค์ด้วยค่ะ คิดว่าคงไม่ได้อัพบล็อคตัวนี้ต่างหากอีกบล็อคนึงแน่ๆ ก็ขอคอมเมนท์ในบล็อคนี้เลยแล้วกัน สำหรับดิฉัน ดิฉันว่าโทเนอร์ตัวนี้ไม่เลวซะทีเดียวนะคะ ทั้งเนื้อสัมผัส ทั้งกลิ่นและผลลัพธ์ที่ได้ ดิฉันให้คะแนนไว้ที่ 7.5/10 ค่ะ 2. Zinniber C10 Treatment (เช้าเย็น) ซื้อใช้ตามบล็อคเกอร์อีกท่านหนึ่งที่เคยรีวิวไว้ว่าสามารถช่วยในเรื่องการลดรอยกระและจุดด่างดำได้จริง หลังการใช้ผ่านไปประมาณเกือบ 2 เดือน ก็ต้องบอกว่ามันได้ผลในระดับหนึ่งนะคะ แต่เป็นแบบเงียบๆ ไม่กระโตกกระตาก และออกจะช้าไปนิด คะแนนที่ให้คือ 7.4/10 ค่ะ 3. Very Precious Brightening - L'Occitane (เย็น) ตัวนี้เคยรีวิวไปแล้วค่ะ คลิกอ่านได้ที่นี่ 4. HydraQuench Intensive Serum - Clarins (เช้าเย็น) เซรั่มตัวนี้ช่วยในเรื่องการให้ความชุ่มชื้น และเก็บกักน้ำไว้ใต้ผิวค่ะ ผลที่ได้ เอาสั้นๆง่ายๆ ด้วยคะแนนแล้วกันนะคะ 8.8/10 5. Skin Balancing Oil - Jurlique (เช้าเย็น) ได้แถมมาค่ะตัวนี้ สรรพคุณคือน้ำมันบำรุงผิวหน้า นัยว่าเป็น Multiactive Oil ค่ะ จากที่ใช้ เห็นผลสุดๆคือเรื่องความชุ่มชื้น คะแนนสำหรับตัวนี้คือ 7.3/10 6. Vinoperfect Rediance Serum Complexion Correcting - Caudalie (เช้าเย็น) ขวดที่สองแล้วค่ะ ช่วยเรื่องความกระจ่างใสของผิว ติดตามชมรีวิวเต็มๆได้เร็วนี้แน่นอนค่ะ กลุ่มบำรุงเฉพาะจุด  1. Herbal Recovery Eye Gel - Jurlique (เช้าเย็น) เพิ่งเริ่มใช้ได้ไม่นานค่ะ ยังไม่เห็นผลที่ชัดเจนใดๆ แต่สามารถติดตามอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ ไม่นานนี้เช่นกันค่ะ 2. Vinoperfect Day Perfecting Cream - Caudalie (เช้า) หลอดที่สองค่ะ แต่เป็นขนาดเดินทางนะคะ พอดีได้แถมมาพร้อมตัวเซรั่มข้างบนหมายเลข 6 ผลการใช้ อืม..ก็ไม่เท่าไหร่ค่ะ คะแนน 7/10 3. Vinoperfect Night Correcting Cream - Caudalie (เย็น) ได้มาพร้อมกันกับข้อ 2 ของกลุ่มนี้ค่ะ เหมือนกันเลยค่ะ ไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่ คะแนน 7/10 กลุ่มบำรุงแบบจริงจัง  1. Moisture Cream - Sakura (เช้าเย็น) โอ้วววว ตัวนี้นี่ สุดยอดค่ะ รออ่านรีวิวฉบับเต็มได้เลยค่ะ 2. Balancing Day Care Cream - Jurlique (เช้า) ดิฉันกำลังคิดว่า จะเขียนรีวิวเฉพาะแบรนด์ของ Jurlique เลยท่าจะเวิร์คกว่า เพราะแบรนด์นี้มีหลายตัวน่าสนใจทีเดียว 3. Multi-Active Day Early Wrinkle Correction Cream - Clarins (เช้า) ตัวนี้เพิ่งเปิดใช้ไม่นาน ยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่เท่าที่สัมผัสมาตลอดเวลาสั้นๆที่ใช้ ต้องบอกว่า ไม่เสียดายเงินค่ะ 4. Multi-Active Night Youth Recovery Comfort Cream - Clarins (เย็น) ตัวครีมเข้มข้นดีทีเดียวค่ะ เอาไว้จะแบ่งพาร์ทการรีวิวเฉพาะแบรนด์ของ Clarins ด้วยอีกบล็อคนึงเลยดีกว่ามั้งคะเนี่ย 5. Cream Science AA EX - Shiseido (เย็น) ไม่หมดซะทีค่ะ ของแถมชิ้นนี้ ไม่อยากบอกเลยว่า ดิฉันมีกระปุกขนาดทดลองที่ได้แถมมาทั้งหมด 6 กระปุก ใช้มาตั้งนาน ยังเหลืออีกตั้ง 2 กระปุกอ่ะค่ะ แต่โอเคนะคะ เนื้อครีมเข้มข้นดี แต่ไม่แนะนำสำหรับคนหน้ามันค่ะ คะแนนสำหรับคนหน้าแห้ง 8/10 กลุ่มอื่นๆ  1. Urban Environment UV Protection Cream - Shiseido (เช้า) ตัวต่อยอดความสำเร็จของผลิตภัณฑ์กันแดด Shiseido อันลือชื่อมานาน สำหรับดิฉันตัวนี้เนิ้อครีมจะหนักกว่ารุ่น Anessa และ Town Use อยู่มากเหมือนกัน แต่ซึมซาบไว ไม่ทิ้งคราบเหนอะค่ะ และมีความรู้สึกว่า ล้างออกง่ายกว่ารุ่นเก่าด้วย แต่ราคาก็แพงเอาเรื่องตามไปด้วยนะคะ คะแนน 9/10 2. SPF 50/ PA +++ UV Protective Face Base - Bobbi Brown (เช้า) ในวันที่ต้องแต่งหน้า ดิฉันจะใช้ครีมกันแดดตัวนี้แทนตัวข้างบนค่ะ นั่นเพราะตัวนี้เป็นกันแดดผสมเบสแบบในตัว แต่ผลลัพธ์จากการใช้ ต้องบอกว่าสอบไม่ผ่านค่ะ เฉยๆทั้งหน้าที่กันแดด และออกจะไม่ได้เรื่องกับหน้าที่เบส คะแนน 6.5/10 3. Anti-Shine Refresher Gel - Shiseido (เช้า) ตัวควบคุมความมันค่ะ หาอ่านรีวิวตัวนี้ได้ที่นี่ค่ะ 4. Pores No More Vacuum Cleanser Blackhead Extractor - Dr. Brandt (สัปดาห์ละ 2 ครั้ง) ของเล่นใหม่ที่หอบข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมาจาก SG ค่ะ มีหน้าที่ในการช่วยดึงหัวสิวใต้ผิวให้โผล่ออกมาเร็วขึ้น เตรียมอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ค่ะ 5. Moisture Replenishing Mask - Jurlique (สัปดาห์ละครั้ง) มาสค์สำหรับช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิว เตรียมอ่านรีวิวฉบับเต็มได้จากคอนเทนท์ในตอนของแบรนด์นี้โดยเฉพาะนะคะ 6. Gentle Purifying And Clarifying Mask - NUXE (สัปดาห์ละ 2 ครั้ง) มาสค์ช่วยคืนความกระจ่างใสตัวนี้ เป็นมหัศจรรย์ตัวใหม่อีกตัวหนึ่งที่ดิฉันเพิ่งค้นพบค่ะ เตรียมอ่านรีวิวฉบับเต็มได้เลยค่ะ ฮู้ววววววว กว่าจะหมด เริ่มสงสัยตัวเองแล้วเนี่ย ว่าเอาเวลาที่ไหนนอน.. ฝาก Twitterไว้เช่นเคยนะคะ นิทราสวัสดิ์ค่ะ "เรื่องมัน" ฉันจัดให้...รีวิว Anti - Shine Product
วันนี้คึกค่ะ เพิ่งกลับจากจันทบุรี ก็ว่าเสียตังค์ไปเยอะแล้วนา ไม่หนำใจ ไปเสียให้เทศกาลเซลส์ปิดห้างของเซ็นทรัล ลาดพร้าว กับเคาน์เตอร์ Jurlique เข้าไปอีก เลยต้องมานั่งระบายรีวิวดังที่เห็นนี้แหละค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่จะรีวิววันนี้ คือกลุ่ม Anti-Shine และ Matifyer ทั้งหลาย ซึ่งเดิมทีสารภาพว่าดิฉันล้านปีมาก ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีผลิตภัณฑ์ชนิดนี้อยู่ในโลกนี้ด้วย... ฮ่วยยยยยย เชยได้อีกกกกกกกก จนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ ไปอ่านเจอกระทู้ในห้องแป้ง จึงเพิ่งรู้ว่า มันมีผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งที่ช่วยขจัดความมัน ควบคุมความมัน กระชับรูขุมขน และทำให้หน้าดูแมทได้ด้วย กรี๊ดดดดดดดด เลยสิคะดิฉัน คือ จริงๆ ดิฉันเป็นคนผิวผสมค่อนไปทางไร้ยางอาย แต่ก็จะมันๆในช่วงทีโซน แต่ละวัน ดิฉันใช้ครีมเยอะมาก เช้าประมาณ 10 ตัว เย็นประมาณ 11 ตัว จนเริ่มคิดได้ว่า ดิฉันหมดเวลากับการดูแลตัวเองไปมากกว่าครึ่งของวัน มันจะทาอะไรนักหนาก็ไม่รู้! กลับเข้าเรื่องกันต่อ พอรู้ว่า มีผลิตภัณฑ์ประเภทนี้อยู่ ดิฉันก็จึงไปสืบเสาะตามหาของดีที่มีอยู่ทั้งหลาย เพื่อมาลองใช้ว่าตัวไหนดีที่สุด จริงๆ ไม่ต้องการเอามาควบคุมความมันใดๆหรอกค่ะ แต่ต้องการเอามา "ลบความมัน" หลังการโบ๊ะครีมเจ็ดพันปีทั้งหลาย เพื่อย่นระยะในการแต่งหน้าให้เร็วขึ้น เพราะถ้ามัวแต่นั่งรอให้ครีมมันเซ็ทตัวและหายมัน ก่อนจะเริ่มแต่งหน้าได้ คาดว่า ดิฉันต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อการนี้โดยเฉพาะค่ะ เริ่มกันที่ Pore No More (Pore Refiner) ของ Dr. Brandt  By iamhiang, shot with DMC-FX12 at 2010-04-14 ตัวนี้ดิฉันสู้ลงทุนหอบข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมาจาก Business Trip ครั้งล่าสุด ไปถอยตัวนี้มาจาก Sephora ค่ะ ทั้งที่ตอนแรกอยากได้ของ Peter Thomas Roth มากกว่า แต่ตัวนั้นดันหมด เหลือแต่ขนาดเดินทางที่ขายในเซ็ท ครั้นจะซื้อทั้งเซ็ทเพื่อเอาแค่ตัวเดียว ก็ดูระห่ำไปหน่อย เลยต้่องเลยตามเลย จน BA แนะนำตัวนี้ให้ ดิฉันลองที่หลังมือแล้ว ก็ได้แต่ร้อง "อู้หู" เพราะทันทีที่ทาที่หลังมือ มันแทบจะซึมหายเข้าเนื้อไปเลยอ่ะค่ะ ถึงเวลาใช้จริง จากเสียง "อู้หู" ถอยร่นไม่เป็นกระบวนท่าเหลือแค่ "ไอ้หยา" เพราะตอนที่ลองหลังมือนั้น ยังไม่ได้ทาครีมครบแบบเต็มสตรีม สภาพความมันของมือกับใบหน้าของจริงจึงต่างกันลิบ ผลจากการใช้ตัวนี้ ดิฉันเฉยๆค่ะ ไม่ได้รู้สึกว่า มันควบคุมความมันมากเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ได้ทำให้หน้าดูแมทอีกต่างหาก ถึงตอนนี้ที่หายมึนแล้วนั่นล่ะ ค่อยสงสัยตัวเองว่า "ซื้อมาทำไมฟะตรู" เสียดายตังค์สุดๆ คะแนนความเจ๋ง: 5.5/10 Anti-Shine Refresher Gel ของ Shiseido  By iamhiang, shot with DMC-FX12 at 2010-04-14 ตัวนี้มีคนแนะนำผ่านหน้ากระทู้เยอะมากค่ะ นัยว่าเป็นแม่ย่านางในสาย Anti-Shine ทั้งหลาย ดิฉันจึงไม่พลาดที่จะต้องไปตามหามาลองใช้ เพื่อความเข้มข้นของเนื้อหาในตอนนี้ ผลจากการใช้ เอาแบบแฟร์ๆนะคะ ดิฉันว่ามันก็โอเคในระดับหนึ่ง แต่ไม่มากในระดับที่จะปล้นคะแนนเต็มและสายสะพายไปจากใจดิฉันได้ คะแนนด้านการคุมมัน โอเคอยู่ อยู่ในระดับที่ดีกว่าตัวข้างบน แต่ในด้านความแมทสำหรับดิฉัน เฉยๆค่ะ แถมทาเยอะไป ออกหนืดๆอีกต่างหาก ตรูต้องการ "แมท" เฟ้ย ไม่ได้ต้องการ "หนืด" แล้วดิฉันก็ได้แต่ตะโกนร่ำร้องในใจอยู่อย่างงั้น คะแนนความเจ๋ง 6.5/10 All Mat Face Matifying Primer ของ Make Up Forever  By iamhiang, shot with DMC-FX12 at 2010-04-14 "อ้าว ใช้แล้วเหรอเนี่ย" คือประโยคสั้นๆที่ดิฉันบ่นกับตัวเองหลังจากนำผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้มาใช้ ชิ้นที่ BA คุยนักคุยหนาว่า "หนึ่งในตัวที่ขายดีที่สุดของ Make Up Forever" ฮ่วย..ถ้าทั้งเคานเตอร์มีขายดีแค่นี้ เปลี่ยนอาชีพไปขายปลาเค็มเหอะ! ไม่ควบคุมความมัน ไม่ลดความมัน ไม่ทำให้หน้าแมท ไม่อะไรสักอย่าง จนสุดท้ายกลายเป็น "ไม่ได้ความ" ไปซะฉิบ คะแนนความเจ๋ง: 3/10 (หักแพงด้วย แพงเวอร์มากกกกกกก ประมาณ 2,000 กว่าๆค่ะ สำหรับปริมาณ 30 มิล.) Instant Perfector ของ Clinique  By iamhiang at 2010-04-14 หมายเหตุ: ยืมรูปชาวประชามานะคะ ของดิฉันไม่ทันถ่ายไว้ ส่งไปให้แม่เพื่อนเธอใช้ก่อนค่ะ หลังจากชีช้ำกับสามตัวข้างต้น ก็ค่อยยิ้มออกหน่อยกับสินค้าชิ้นนี้ ซึ่งเป็นตัวที่ดิฉันชอบมากที่สุด ในเรื่องการลดความมันนั้น เห็นผลทันที ลูบปุ๊บ หายมันปั๊บ หน้าแมทได้โดยพลัน ตัวนี้แหละค่ะ ตัวในฝันสุดๆ เนื้อสัมผัสจะเป็นครีมอ่อนๆ ที่พอลูบไปบนใบหน้าแล้ว มันแทบจะกลายเป็นแป้งไปทันที ดิฉันใช้ไปประมาณครึ่งหลอด ก็ส่งให้เพื่อนสนิทที่ผิวมันนักหนาไปทดลองใช้ ผลที่แม่เพื่อนเธอรายงานกลับมา เธอยืนยันมาเช่นกันว่า "มันดีมาก" ที่สำคัญ ถูกที่สุดในบรรดาทุกตัวที่รีวิววันนี้ค่ะ (จริงๆก็ไม่ถูกหรอกค่ะ เพราะมันปริมาณน้อยที่สุด ก็เลยถูกที่สุด) หลอดนี้ 15 มิล. 850 หรือ 950 นี่แหละค่ะ จำไม่ได้ถนัดนัก คะแนนความเจ๋ง: 8.9/10 จบแล้วค่ะ สำหรับรีวิววันนี้ เนื่องจากช่วงนี้มีของแถมจากการซื้อของเยอะมาก เลยขอระบายของฝากเพื่อนๆเอาไปช่วยใช้กันหน่อยนะคะ ทั้งหมดนี้แจกฟรีค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่าย ของที่จะแจกก็คือ 1. Pure Cleansing Milk ขนาด 155 Ml. ของใช้ไปแค่ 2 ครั้ง เปิดใช้เดือนที่แล้วเองค่ะ 2. Gold Cavier Lifting Foundation แบบซอง มี 1 ซอง + Gold Cavier Lifting Prime Skin แบบซองมี 3 ซอง ของแท้นะคะ แถมจาก Shop ที่เชียงใหม่ค่ะ ใครสนใจอยากช่วยรับตัวไหนไปทดลองใช้ หยอดอีเมล์ในช่องคอมเมนท์ พร้อมระบุหมายเลขที่ต้องการได้เลยค่ะ เฉพาะคนที่แจ้งมา 2 คนแรกนะคะ ฝาก Twitter ไว้เช่นเคยค่ะ ขอบคุณค่ะ... รีวิว Cleanser - Make up remover ภาค 2
หลังจากที่รีวิวภาคแรกไปก่อนหน้านี้ และได้ทิ้งท้ายไว้ว่ายังมีอยู่อีกหลายแบรนด์มากที่รอการรีวิว จนเห็นทีจะได้ขยายต่อไปถึงภาค 3 -4 โดยแน่แท้
วันนี้ก็เลยไม่รีรอ หยิบเอาที่รอการรีวิวอีกประมาณ 4 แบรนด์มารีวิวให้ได้นั่งอ่านรับลมร้อน พร้อมๆกับย้อมใจรับบรรยากาศสงกรานต์ที่เงียบเหงาที่สุดปีนึงของชาว กทม. ฮ่วย! จะก่อม๊อบทั้งที ไปก่อช่วงฮัลโลวีนก็ไม่ได้ เจือกจะมาก่อกันเทศกาลรื่นเริง ไอ่ผักตบชวาเอ๊ยยยยยยยยย ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ ข้อมูลเบื้องต้น - จขบ. ผิวแห้ง - ครีมกันแดดที่ใช้เป็นประจำคือ Shiseido ไลน์ Anessa, Urban Environment กับ Ipsa ค่ะ Dermalogica Precleanse  By iamhiang at 2010-04-11 ปกติตัวที่ดังๆของแบรนด์นี้ก็จะหนีไม่พ้นอย่างเช่น Daily Microfoliant หรือในไลน์ Multivitamin ทั้งหลาย แต่ล่าสุด หลังจากดิฉันได้ตัวนี้มาทดลองใช้ ยอมรับค่ะว่า ตัวนี้เป็นอีกตัวหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามไปได้เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คงต้องหัดทำใจมองข้ามเรื่องราคาในเมืองไทยมันไปด้วยนะคะ (ซื้อออนไลน์ถูกกว่าเยอะค่ะ) เมื่อเทออกมาจากขวดนั้น เนื้อสัมผัสแรกจะเป็นน้ำมัน แต่เป็นน้ำมันที่ไม่เหนียว เหนอะหนะ เมื่อลูบบนใบหน้า และใช้น้ำลูบตาม น้ำมันจะเปลี่ยนกลายเป็นน้ำนมค่ะ ซึ่งจริงๆก็ไม่ใช่วิวัฒนาการแปลกใหม่อะไรในวงการการล้างเครื่องสำอางค์ แต่ผลลัพธ์ที่ได้สิคะ น่าปลื้มใจมากมายค่ะ หลังจากล้างด้วยโฟมล้างหน้าจะพบว่า สามารถล้างคราบทุกชนิดได้หมดจด แม้กระทั่งครีมกันแดด Shiseido ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความหน้าหนาในการครองตัวอยู่บนใบหน้าผู้ใช้ ที่สำคัญหลังการล้าง จะรู้สึกได้ว่าหน้าไม่แห้งตึง ดูชุ่มชื้นประมาณนึง เหมือนมีน้ำมันบางๆมาเคลือบผิวไว้ค่ะ ที่สำคัญที่สุดสำหรับตัวนี้คือกลิ่น ที่ออกเป็นตระกูลส้มๆ กึ่งๆพวกผลไม้เมืองร้อน (ที่แน่นอน ไม่ใช่ทุเรียนอีกเช่นเคย) หอมชื่นใจ และสบายผิวมากๆค่ะ คะแนนการชำระล้าง: 9/10 คะแนนความชุ่มชื้นหลังล้าง: 9//10 คะแนนรวม: 9/10 (หักแพงค่ะ) Cleansing Milk With White Lily ของ Sisley  By iamhiang, shot with Canon DIGITAL IXUS 100 IS at 2010-04-11 สำหรับดิฉัน ตัวนี้ไม่ได้มีความน่าสนใจหรือดีเด่นแต่ประการใด เรียกได้ว่า มันทำหน้าที่ได้พอๆกันหรืออาจจะห่วยกว่า Cleanser ในระดับ 400-500 ด้วยซ้ำ ดิฉันจึงไม่มีสรรพคุณอะไรที่จะมาบรรยายให้มากเกินความจำเป็น คำจำกัดความสำหรับดิฉันสำหรับคลีนเซอร์ตัวนี้คือ "ถ้าคุณขาดยอดประมาณ 2,000 เพื่อจะได้เป็น Top Spenderประจำปีของ Sisley แล้วล่ะก็ ค่อยตัดสินใจซื้อก็ยังไม่สายค่ะ" คะแนนการชำระล้าง: 7/10 คะแนนความชุ่มชื้นหลังล้าง: 6//10 คะแนนรวม: 5.5/10 Black Suger Deep Cleansing Cream ของ Skinfood  By iamhiang, shot with Canon DIGITAL IXUS 100 IS at 2010-04-11 สรรพคุณในการชำระล้างของตัวนี้ ถือว่าสอบผ่านแค่ระดับหนึ่งค่ะ นั่นคือ ทำความสะอาดได้ในระดับนึง เอากันแดดและเครื่องสำอางค์ออกดีอยู่เหมือนกัน แต่ข้อเสียคือ มันทำให้อุดตันค่ะ เพราะปกติดิฉันเป็นคนที่ไม่มีสิวเลย ถ้าไม่ใช่จะเข้าสู่ช่วงนั้นของเดือน ซึ่งเต็มที่ก็จะขึ้นพอให้กระชุ่มกระชวยที่ 1 เม็ดเท่าน้้น แต่ระหว่างที่ใช้ตัวนี้ มันขึ้นมาทั้งหมด 4 เม็ดค่ะ ฉะนั้น ต่อให้มันจะดี สวย ถูกขนาดไหน ดิฉันคงต้องบอกลามันไป เพราะไม่อาจเสี่ยงย้อนวัยกลับไปช่วงวัยรุ่นด้วยการสะสมสิวให้หัวใจมันแอบพองโตว่าเรายังละอ่อนอยู่ ไม่ไหวค่ะ ยอม.. คะแนนการชำระล้าง: 7/10 คะแนนความชุ่มชื้นหลังล้าง: 7.8//10 คะแนนรวม: 6/10 (หักอุดตันอย่างเดียวเลยค่ะ) Berry Berry Cleansing Oil ของ Tony Moly  By iamhiang, shot with Canon DIGITAL IXUS 100 IS at 2010-04-11 เชื่อว่าผลิตภัณฑ์นำร่องที่เข้ามาจุดพลุแบรนด์นี้ในเมืองไทยคือ BB แต่คงไม่ค่อยมีใครรู้ว่า Cleanser ของแบรนด์นี้ก็เจ๋งไม่แพ้ BB เลยทีเดียวค่ะ หะแรกที่ซื้อมานั้น สารภาพว่าไม่ได้หวังอะไรมากมาย แต่เมื่อได้ใช้ต้องบอกว่า ดิฉันเจอช้างเผือกกลางป่าลึกเข้าให้แล้ว เพราะมันดีเกินความคาดหวังไปเยอะมาก ระดับการชำระล้างน่าพอใจมากๆ แถมไม่ทิ้งความแห้งตึงให้ละเหี่ยใจ มาพร้อมกลิ่นตระกูลเบอร์รี่ ที่คงต้องลองสูดดมกันก่อนนะคะว่าจะชอบหรือไม่ เพราะลางเนื้อชอบลางยาค่ะ ความสำคัญของตัวนี้อยู่ที่ราคาเลย เพราะในขณะที่ประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือดีกว่า Sisley แต่ราคาต่างกันที่ประมาณ 5 เท่าค่ะ สนนราคาตัวนี้อยู่ที่ประมาณ 450 บาทเท่านั้น สำหรับใครที่ผิวแห้ง หากเบื่อจาก Bioderma และ Cleansing Express แนะนำนะคะตัวนี้ คะแนนการชำระล้าง: 8.8/10 คะแนนความชุ่มชื้นหลังล้าง: 9//10 คะแนนรวม: 8.9/10 จบแล้วค่ะสำหรับรีวิวในวันนี้ ฝาก Twitter ของดิฉันสำหรับการแจ้งข่าวคราวการอัพบล็อคครั้งต่อไปด้วยนะคะ ท้ายนี้ อยากแจกค่ะ ใครสนใจอยากลองใช้ Cleansing Milk With White Lily ของ Sisley รบกวนแจ้งความจำนงค์กลับมาพร้อมอีเมล์นะคะ เฉพาะคนแรกเท่านั้นค่ะที่ดิฉันจะแจกให้ ขอบคุณค่ะ... == รีวิว Rate X ==
ไม่ได้จะมารีวิวหนังโป๊ หรือคลิปโป๊เด้ดๆหรอกค่ะ โปรดอย่าเข้าใจดิฉันผิด ออกจะธรรมมะธรรรมโมขนาดนี้ ไม่มี๊ ไม่มีค่ะ 700 กว่าเมกเท่านั้นเอง..
แต่ที่รีวิววันนี้เป็นรีวิวเรทเอ็กซ์ ก็เพราะว่าขุดมาเฉพาะของที่ใช้ในยามอาบน้ำเท่านั้นค่ะ ว่าแล้วก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง เริ่มกันเลยดีกว่า เอาภาพรวมไปดูกันก่อนนะคะ  By iamhiang, shot with Canon DIGITAL IXUS 100 IS at 2010-03-27 Dry And Damaged Hair Shampoo ของ L'Occitane  By IAmHiang at 2010-03-27 ครั้งแรกที่ได้มา เป็นขนาดเดินทาง พร้อมกับครีมนวดตัวที่จะรีวิวข้างล่างต่อจากนี้ค่ะ ผลจากการใช้นั้น ต้องบอกว่า ดีสมราคาทีเดียว เพราะสภาพผมดิฉันปกตินั้น ค่อนข้างขาดง่าย เสียจากสารเคมี ทั้งดัดและทำสี หลังจากการใช้ตัวนี้แล้ว ต้องบอกว่า ที่เห็นได้ชัดในครั้งแรกเลยคือความนุ่มค่ะ ผมนุ่มขึ้นทันทีจริงๆ ในส่วนระยะยาวนั้น เรามีความรู้สึกว่า ผมไม่เสียมากขึ้นค่ะ คือช่วยดูแลให้ผมไม่เสียไปมากกว่าเดิมนั่นเอง ข้อเสียที่เจอคงเป็นเรื่องราคา ที่แพงแบบไม่ฟังอีร้าค่าอีรมตามแบบของแบรนด์นี้จริงๆ คะแนน 7.5/10 Fine And Normal Hair Conditioner ของ L'Occitane  By IAmHiang at 2010-03-27 สำหรับดิฉันตัวนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจมากค่ะ เพราะถ้าจะถามความนิ่ม ทซึบากิ นิ่มกว่า ถ้าจะถามความเงา ซันซิลเงากว่า และถ้าจะถามความหอม แพนทีนก็หอมกว่า ฉะนั้น ตัวนี้ ถ้าไม่ยากไร้ ขัดสนจริงๆ ผ่านไปป้ายหน้าได้เลยค่ะ คะแนน 4.5/10 Idealist Micro-D ของ Estee Lauder  By iamhiang, shot with Canon DIGITAL IXUS 100 IS at 2010-03-27 ตั้งแต่ใช้สครับขัดหน้ามานะคะ ดิฉันชอบตัวนี้ที่สุดเลยค่ะ เมื่อแรกรู้จักตัวนี้จากกระทู้ เห็นมีคนมาพรรณาชื่นชมความดีไว้หลายคน แล้วดิฉันก็บังเอิญเป็นนักวิทยาศาสตร์ ที่จะไม่เชื่ออะไรง่ายๆหากไม่ได้รับการพิสูจน์ (น่ะ..เป็นไง ข้ออ้างนี้ โอมั้ยคะ...) คุณสมบัติเด่นของสครับตัวนี้คือ ให้ความรู้สึกเหมือนการทำ Deep Thermal ที่คลินิคแพทย์ผิวหนัง ทันทีที่แตะเนื้อสครับแล้วขัดไปตามผิวหน้า ความรู้สึกแรกคือปวดแสบปวดร้อนเหมือนเวลาเดินเข้าเขตวัดยังไงยังงั้น แต่จะร้อนอยู่แป๊บเดียวค่ะ ขัดๆไปสักพัก พอเวลาล้างออก หน้านิ่มจนน่าใจหายเลยทีเดียวเชียว ไม่ได้เวอร์ แต่เรื่องจริงค่ะ อีกข้อหนึ่งที่ชอบมากคือ กลิ่นค่ะ เป็นกลิ่นในตระกูลพวกกรดผลไม้ ซึ่งจะไม่ฉุนเหมือนเอา Chanel No.5 หรือน้ำหอมซีซีละ 5 บาทมาถูหน้า เป็นกลิ่นที่ช่วยผ่อนคลายในระดับหนึ่งเลยทีเดียว แรกๆที่ได้มา ดิฉันเห่อ อยากจะทำมันซะทุกวัน แต่ก็ยังมีสติยั้งคิดได้ว่า เดี๋ยวหน้าจะเหียกซะก่อน คะแนน 9.5/10 (หักแพงไปหน่อยนึงค่ะ ราคาประมาณพันกลางๆถ้าจำไม่ผิด) Cleansing Milky Foam ของ Ipsa  By iamhiang, shot with Canon DIGITAL IXUS 100 IS at 2010-03-27 เฮ้อ...ตอนนี้ได้แต่กลุ้มใจกับตัวนี้ค่ะ เพราะไม่รู้เมื่อไหร่จะหมดซะที ไอ้ครั้นจะเอาไปใช้ล้างรถด้วย ให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ก็กลัวจะระห่ำเกิน แล้วก็กลัวรถจะใส ผิวนิ่ม ไม่แห้งตึงไปด้วยค่ะ โฟมล้างหน้าตัวนี้ ดิฉันใช้สำหรับเวลากลางคืน หลังจากล้างด้วยพวก Cleansing Oil ออกแล้ว ก็จะล้างอีกครั้งด้วยตัวนี้ ข้อดีของตัวนี้คือ เพียงแค่ปริมาณเท่าขี้ตาคนประมาณ 3 คน ก็เพียงพอที่จะทำความสะอาดได้หนึ่งหน้าแล้วค่ะ หลังล้าง ก็ให้ความชุ่มชื้นได้ใในระดับที่น่าพอใจ ไม่แห้งตึง ผนวกกับกลิ่นหอมแบบส้มๆ ถือได้ว่าตัวนี้เป็นโฟมล้างหน้า ที่ควรค่าแก่การมีติดบ้านมากๆ ยิ่งสำหรับคนที่ไม่ชอบเปลี่ยนบ่อยแล้วด้วยนะคะ ใช้กันยันลูกบวชเลยเชียวค่ะ คะแนน 8.8/10 Cleansing Sensitive Mousse ของ Ipsa  By iamhiang, shot with Canon DIGITAL IXUS 100 IS at 2010-03-27 ไม่ได้รักอะไรแบรนด์นี้มากมาย จนต้องระดมซื้อทั้งเคาน์เตอร์หรอกค่ะ แค่ว่า แบรนด์นี้เป็นแบรนด์นึงที่ให้ของแถมได้ใจมากๆ แถมกันแบบจริงจัง ไม่ใช่แค่เซ่นผี อย่างตัวนี้ก้เช่นกัน ดิฉันได้แถมมาค่ะ เป็นขนาดเดินทางแบบค้างนานๆ เพราะมีปริมาณถึง 85 มล. เลยทีเดียว ซึ่งดิฉันเอามาใช้เป็นโฟมล้างหน้าตอนเช้า เพื่อล้างสกินแคร์ประมาณ 850 ชนิดที่โหมโบ๊ะเพื่อการบำรุงอย่างล้ำลึกและไร้สาระ ตามสไตล์ จขบ. เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นมูส ซึ่งเบาแต่ให้ความเข้มข้นในปริมาณเพียงน้อยนิด ดิฉันว่าข้อนี้น่าจะเป็นคุณสมบัติเด่นของผลิตภัณฑ์เพื่อการชำระล้างของแบรนด์นี้นะคะ เพราะสองตัวแล้วที่เจอว่า ใช้น้อยๆ ก็อร่อยได้ เลยกลายเป็นว่า ตอนนี้ต้องหลอกล่อให้หนุ่ม(ตัว)ใหญ่ที่บ้าน มาร่วมใช้ด้วย สำหรับผลการใช้นั้น ต้องบอกว่า น่าพอใจอีกแล้วครับพ่อแม่พี่น้อง..เพราะไม่ทิ้งความแห้งตึง แต่ข้อนี้ก็อาจจะไม่แน่นอน เพราะดิฉันเอามาใช้ในตอนเช้า ถ้าให้ชัวร์ควรวัดจากการใช้หลังการใช้คลีนซิ่งถึงจะแน่นอนกว่าค่ะ คะแนน 8/10 Tonic Bath & Shower Concentrate (with Essential Oils) ของ Clarins  By iamhiang, shot with Canon DIGITAL IXUS 100 IS at 2010-03-27 หลายคนอาจสงสัย ตัวนี้ต่างกับสบู่นกแก้วยังไง ทำไมต้องดิ้นรนซื้อมาใช้ด้วย ตามมาทำความเข้าใจกันได้เลยค่ะ สำหรับดิฉัน ตัวนี้ให้การชำระล้างที่สะอาดได้ใจทีเดียวค่ะ ไม่ทิ้งความแห้งตึง สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดๆคือ หลังจากใช้เจลอาบน้ำตัวนี้แล้ว ผิวดิฉันนิ่มและลื่นขึ้นจริงๆ มีอยู่วัน นั่งลูบผิวตัวเองอย่างหลงใหลเลยล่ะค่ะ เพราะขนาดว่าส่วนนั้น ไม่ได้ทาครีม ยังลื่นและนิ่มอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับอีกข้อที่เป็นข้อเด่นคือ กลิ่นค่ะ เป็นกลิ่นในไลน์พวกอโรม่า ที่เน้นคุณสมบัติปลุกผิวให้ตื่น มีชีวิตชีวา จริงๆตัวนี้ BA แนะนำให้ใช้ตอนเช้า แต่ดิฉันก็ใช้มันมั่วไปเรื่อยค่ะ แล้วแต่อยาก ข้อสุดท้ายที่ดีมากๆคือ ปริมาณเพียงนิดเดียว ก็เพียงพอต่อการถูในแต่ละครั้งแล้วค่ะ คะแนน 8/10 (หักตรงที่ราคาที่เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน คือ 990 บาท ต่อสบู่เนี่ยนะ!) Virgin Coconut Organic Body Scrub ของ 100% Pure  By iamhiang, shot with Canon DIGITAL IXUS 100 IS at 2010-03-27 เดิมที ดิฉันได้รับการแนะนำจากพรายกระซิบร่างอวบที่นั่งทำงานติดกันว่า สครับขัดตัวของเคาน์เตอร์ Plural ที่ Zen ตรง Central World ดีมากๆ วิญญาณนักวิทยาศาสตร์จึงเข้าสิงร่างอีกวาระหนึ่งทันที จากการใช้นั้น ข้อเด่นที่ชอบสุดๆคือ กลิ่นค่ะ เป็นกลิ่นมะพร้าวจริงๆ แบบไม่ผสมทุเรียนหรือจำปีจำปาให้ต้องหงุดหงิดแต่อย่างใด แถมยังติดทนทานแบบเอาจริงเอาจังมาก ขนิดที่ว่า เดินออกจากห้องน้ำแล้ว เดินกลับมาเข้าห้องน้ำทีหลังสักหนึ่งชั่วโมงให้หลัง กลิ่นก็ยังอยู่อ่ะค่ะ ส่วนคุณสมบัติในการขัดผิวนั้น ดิฉันยังไม่ค่อยประทับใจมากเท่าไหร่ ค่าที่ตัวนี้ค่อนข้างมีความเป็นน้ำมันในระดับสูง เวลาล้างออกมันจะยังหนืดๆอยู่ ก้เข้าใจนะคะว่าอยากประกาศศักดาความเป็นออยล์ให้ผู้ใช้ได้สำนึก แต่ก็ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้นี่..ทูนหัว มันเหนอะเกินอ่ะ แต่ถ้าไม่รังเกียจความหนืดของน้ำมัน แนะนำนะคะ เพราะหลังจากความหนืดแล้ว จะรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้นที่ตามมาค่ะ คะแนน: 6.5/10 (นอกจากความหนืดแล้ว หักข้อที่หมดอายุเร็วมากด้วยค่ะ หลังเปิดใช้ มีอายุแค่ 6 เดือนเท่านั้น) Body Exfoliating Gel ของ Jurlique  By iamhiang, shot with Canon DIGITAL IXUS 100 IS at 2010-03-27 ปิดท้ายบล็อควันนี้กันด้วยผลิตภัณฑ์แบรนด์ดังจากออสเตรเลียตัวนี้ค่ะ.. ตอนที่ BA แนะนำตัวนี้ให้นั้น เธอบอกว่า สามารถใช้ได้ทั้งผิวแห้งและผิวเปียกเลยค่ะ แต่ดันไม่บอกว่า แล้วแบบไหนดีกว่า ดิฉันก็หลงใช้หลังลงสบู่เสร็จตอนตัวเปียกๆ ก็ชโลมเลย ซึ่งผลจากการใช้แบบนั้น เมื่อเทียบกับราคา ค่อนข้างน่าผิดหวังอยู่เหมือนกัน ยิ่งพอบวกกับกลิ่นเหมือนห้องปรุงยาหมอมีมาปรุงอยู่ข้างๆด้วยแล้ว ยิ่่งเซ็งเป็ดค่ะ แต่จู่ๆวันนี้ ดิฉันนึกไงไม่รู้ ลองใช้ตอนผิวแห้งดู โดยพออาบน้ำเสร็จ ก็เช็ดตัวให้แห้ง แล้วเดินเข้าชโลมสครับตัวนี้ใหม่ ผลที่ได้ในวันนี้ มันแตกต่างจากตอนผิวเปียกลิบลับค่ะ เพราะผลลัพธ์ที่ได้มาคือ ผิวนุ่ม ลื่น สว่าง กระจ่าง อย่างเห็นได้ชัด ทำเอาดิฉันรีบปรับชั้นขึ้นตำแหน่งลูกรักแทบไม่ทัน แต่ไม่ว่าจะใช้แบบไหน ข้อดีที่โดดเด่นมากๆจากสครับตัวนี้คือ ผิวนิ่มและลื่นข้ามวันค่ะ ชนิดที่ว่า ใช้เมื่อวาน วันนี้เย็นมาอาบน้ำใหม่ มันยังนุ่มๆลื่นๆอยู่เลยค่ะ คะแนน 9/10 (หักราคาสถานเดียวเลยค่ะ ตัวนี้ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 1450 หรือ 1600 เนี่ยแหละค่ะ) ปิดท้ายวันนี้ ด้วยการฝาก Twitter ของ จขบ. ไว้ในอ้อมใจผู้อ่านทุกท่านด้วยนะคะ นิทราสวัสดิ์ค่ะ รีวิว Cleanser - Make up remover
ตามที่เคยเกริ่นไว้ใน Twitter ว่า จะมาอัพบล็อคเรื่องของ Cleanser - Make up remover แต่เนื่องจากมีตัวที่จะนำมาลงเยอะมาก จึงเห็นควรว่า จำต้องแยกบล็อคออกเป็น 2-3 บล็อค
เพื่อให้คุ้มค่าความบ้า ในการแทบจะระดมลอง Cleanser เกือบครบทุกแบรนด์ค่ะ! มาเริ่มกันที่ระดับเบสิคๆก่อน ที่เคยใช้มาแล้วนะคะ โดย 3 ตัวแรกต่อจากนี้ จะไม่บรรยายอะไรมาก ด้วยสรรพคุณที่รู้กันทั่วทุกตำบลอยู่แล้วว่า มันอยู่ในกลุ่มชั้นหัวกะทิของการชำระล้าง แต่ที่เจ๋งเด็ด ทั้งห่วยจริง และดีเทพ อยู่ต่อจากสามรายการนี้ค่ะ Bioderma Sensibio H2O คะแนนการชำระล้าง: 9/10 คะแนนความชุ่มชื้นหลังล้าง: 6/10 คะแนนรวม: 6/10 (หักแพง หักแพกเกจไม่สวย หักไม่มีกลิ่นหอม และหักหาซื้อยาก) Cleansing Express คะแนนการชำระล้าง: 9/10 คะแนนความชุ่มชื้นหลังล้าง: 5//10 คะแนนรวม: 7/10 (หักคะแนนความชุ่มชื้น หักไม่มีกลิ่นหอม และหักแพค เกจไม่สวย) DHC Deep Cleansing Oil คะแนนการชำระล้าง: 8.5/10 คะแนนความชุ่มชื้นหลังล้าง: 8/10 คะแนนรวม: 7.5/10 (หักหาซื้อยาก และหักไม่มีกลิ่นหอม) ต่อไปเข้าสู่สารพันแบรนด์ที่ดิฉันสะสมไว้เพื่อบล็อคนี้ค่ะ Cleansing Milk With Alpine Herbs ของ Clarins  By iamhiang, shot with Canon DIGITAL IXUS 100 IS at 2010-03-04 เดิมทีดิฉันไม่เคยใช้แบรนด์นี้มาก่อน รู้แต่ว่าตัวที่เด่นดังประจำแบรนด์คือ พวกผลิตภัณฑ์เพื่อการลดเซลลูไลท์ทั้งหลาย บังเอิญดิฉันมันคนหุ่นรูปขวดโค้ก (แคน) อยู่แล้ว เลยไม่ได้สนใจจะใช้ค่ะ ครั้งแรกที่เดินเข้าเคาน์เตอร์ Clarins นั้น เพราะจะหาครีมนวดหน้า ซึ่งตามประสาลูกค้าชั้นยอด ที่ไม่เคยยอมให้ BA ผิดหวังและน้อยใจในโชคชะตาว่าอุตส่าห์เดินเข้ามาแล้วเปิดบิลได้แค่ชิ้นเดียว ดิฉันจึงเลือกน้ำมันนวดหน้า (ดีมากๆค่ะ) และ Cleansing Milk ตัวนี้ หลังจากการใช้ ต้องบอกว่า ทั้งที่ดิฉันประทับใจกับตัวน้ำมันนวดหน้าอย่างรุนแรง แต่ตัวนี้กลับสอบตกในความคิดดิฉันค่ะ เพราะต้องอาศัยการล้างถึง 2 เที่ยว แล้วตามด้วยการล้างขั้นตอน 2 อีก 1 ครั้ง ถึงจะรู้สึกว่าเกลี้ยงเกลา คะแนนการชำระล้าง: 5/10 คะแนนความชุ่มชื้นหลังล้าง: 6.5/10 คะแนนรวม: 5/10 Ultra Comforting Cleansing Milk ของ L'Occitane  By IAmHiang at 2010-03-04 สำหรับดิฉัน ตัวนี้เค้ามีนิคเนมว่า Ultra Bad Cleansing Milk ค่ะ! แค่นี้คงพอเห็นภาพมั้งคะว่าคำบรรยายต่อจากนี้ คงไม่มีเนื้อหาที่ไปใกล้คำว่า "ดี" "สุดยอด" "วิเศษที่สุด" อะไรเทือกๆนั้นได้ เป็นแน่แท้ โชคดีมากที่ดิฉันได้มาเป็นขนาดทดลอง ไม่งั้นคงวิ่งออกไปกินหญ้าต่างข้าวแทบไม่ทัน หากต้องเสียตังค์ (ซึ่งก็คงไม่ถูกตามประสาแบรนด์นี้) ซื้อ "ของที่อยากจะปาทิ้งมากที่สุด" ชิ้นหนึ่ง ซึ่งในที่นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก คลีนเซอร์ตัวนี้ ผลลัพธ์ที่ได้นะคะ ไม่ชำระล้าง ไม่ชุ่มชื้น ไม่หอม และ "ไม่ได้เรื่อง!" อุปมาเหมือนเอาน้ำซาวข้าวมาลูบหน้า และหากเสียตังค์ซื้อด้วย คงได้เอาน้ำเปล่ามาลูบท้องไปพร้อมๆกัน เอวังจีงมีด้วยประการฉะนี้ คะแนนการชำระล้าง: 1/10 คะแนนความชุ่มชื้นหลังล้าง: 1/10 คะแนนรวม: 1/10 Pure Cleansing Milk ของ Nature & Co  By iamhiang, shot with Canon DIGITAL IXUS 100 IS at 2010-03-04 ตัวนี้เพิ่งได้มาสดๆร้อนๆ วันสองวันสามวันสี่วันนี้เองค่ะ พอดีกันกับกำลังจะทำคอนเทนท์นี้ และขวดที่ใช้อยู่ในห้องน้ำ มันหมดพอดี เลยเลือกตัวนี้มาใช้ก่อน Tony Moly และ Jurlique อืมมมมมมม เอ่ออออออ ครือว่าาาาาาาา ใครก็ได้ที่มีความกรุณา โปรดสร้างไทม์แมชชีนให้ดิฉันมีโอกาสย้อนกลับไปบ้องกระโหลกตัวเองให้สำนึกตอนที่จะซื้อคลีนเซอร์ตัวนี้ด้วยเถอะค่ะ ยิ่งเห็นมัน ดิฉันยิ่งปวดใจ ปวดตับ ปวดไตเหลือเกิน ครั้งแรกถูกใจในแพคเกจ แต่เมื่อได้มาลองใช้ มันคืออีกหนึ่งนิยามของคำว่า "ไม่ได้เรื่อง" ค่ะ การชำระล้างห่วยมาก ความชุ่มชื้นก็ไม่มีให้เห็น ที่เลวร้ายกว่านั้น แอลกอฮอลแรงชนิดญาติใกล้ชิดกระบือที่ชื่อ "เฮี้ยง" ผู้ซึ่งไม่ค่อยรู้สึกถึงแอลกอฮอลในสกินแคร์ ยังรู้สึกได้ทันที คะแนนการชำระล้าง: 2/10 คะแนนความชุ่มชื้นหลังล้าง: 3/10 คะแนนรวม: 2.5/10 Cleansing Water ของ Caudalie  By iamhiang at 2010-03-04 คงไม่เกินความจริงถ้าจะบอกว่านี่เป็นตัวคลีนเซอร์ที่ดิฉันเลิฟๆและจริงจังในความสัมพันธ์มากที่สุดค่ะ แต่เดิมไม่เคยรู้จักแบรนด์นี้มาก่อน จนมีคำพูดลอยลมมาให้เข้าหูว่าสกินแคร์แบรนด์นี้ไม่ธรรมดา ซึ่งถึงปัจจุบันนี้ ดิฉันก็ใช้สกินแคร์ของแบรนด์นี้หลายตัวอยู่ค่ะ ครั้งแรกที่ได้มาเป็นขนาดทดลองใช้ ซึ่งต้องบอกว่า แค่หลังจากทดลองใช้ครั้งแรกแล้ว ดิฉันก็แทบจะวิ่งทะลุประตูออกไปซื้อมันมาซะเดี๋ยวนั้น! เนื้อสัมผัสของตัวนี้จะเป็นน้ำนะคะตามชื่อมันเลย ไม่ใช่น้ำมัน และสิ่งที่ตามมาหลังการใช้และผลลัพธ์ที่น่าพอใจแล้วคือ กลิ่นที่หอมสดชื่นตามสไตล์แบรนด์นี้ และความสบายผิวอย่างที่รู้สึกได้จริงๆ ข้อเสียก็คงมีแค่ราคาที่สูง ซึ่งถ้าดิฉันจำไม่ผิดรู้สึกว่าไซส์ใหญ่ 200 Ml. ประมาณ 1,450 บาท แต่เค้ามีขนาดเล็กให้ลองใช้ด้วยนะคะ เป็นขนาด 100 Ml. ในราคาประมาณ 900 กว่าบาทค่ะ แนะนำจริงๆค่ะตัวนี้ คะแนนการชำระล้าง: 9.5/10 คะแนนความชุ่มชื้นหลังล้าง: 8/10 คะแนนรวม: 9.5/10 (หัก .5 ค่าที่ราคาสูงอยู่เหมือนกัน) สำหรับคืนนี้ก็คงขอจบเท่านี้ก่อนค่ะ ภาคสองของบล็อคคลีนเซอร์นี้ ที่ยังคอยการรีวิวอยู่คือ Dermalogica, Sisley, Clinique, Tony Moly, M.A.C และ Jurlique ค่ะ นิทราสวัสดิ์ค่ะ |
คนที่คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าใคร
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?] แม่ลูก 2 ที่กลัวการเป็นแม่ลูก 3 อย่างยิ่ง และ ผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก ที่สามารถหลอกผู้ชายที่ดีที่สุดในจักรวาลมาเป็นคู่ชีวิตได้ ล่าสุด...ผู้หญิงหลากฝัน ที่ยังไม่สามารถจัดการกับเวลาของตัวเองได้..ฮ่วย! Group Blog
All Blog
|
||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||
