== Let's Turn PRO: How to "พี่น้องรักกัน รักกัน" ==
ตอนที่รู้ตัวว่าท้องครั้งที่สองนั้น หนึ่งในปัญหาที่กลัวมากที่สุดคือ

"พี่รังแกน้อง พี่อิจฉาน้อง ...พี่ ไม่รักน้อง"

เพราะปกติเป็นพวกเสพย์ติดหนังสือ อ่านมันดะตั้งแต่หนังสือเล่ม นิตยสาร ยันข้างถุงกล้วยแขก

ก็จะเจอปัญหาสุดคลาสสิคปัญหานึง ที่มักมีคุณแม่เขียนจดหมายมาถาม หรือเป็นหัวข้อแนะนำประจำคอลัมน์ของหนังสือ นัยว่า สำคัญพอๆกับปัญหาโลกร้อนเลยเทียว

และจากการศึกษาผ่านหนังสือ ผ่านบทสัมภาษณ์ ผ่านประสบการณ์จริงที่มีทั้งสำเร็จและล้มเหลวของบุคคลรอบตัว เราก็เลยรวบรวมมาจัดเป็นยุทธวิธีในการปลูกฝังลูกชายคนโต จนได้มาเป็นกลยุทธต่างๆดังนี้

ข้อมูลเบื้องต้น
ลูกชายคนโต "โขน" อายุ 3 ปี 5 เดือน
ลูกชายคนเล้ก "เขิน" อายุ 1 ปี 11 วัน

ขณะตั้งท้อง


1. แนะนำให้เค้ารู้จักกับน้องในท้อง บอกว่านี่เป็นน้องหนู แม้เด็กจะทำหน้างงๆ ว่า "ควอท อีส น้อง...กินได้หรือเปล่า" ก็ไม่ต้องสนใจ กรอกหูเข้าไว้ ในที่สุดลูกก็จะรู้เองว่า น้องเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ตัวเล็กกว่าเค้า และเกิดมาเพื่อที่จะเป็นเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตของเค้า

2. ให้เค้ารู้จักสัมผัสน้องบ่อยๆ ผ่านท้อง แม้แรกๆอาจจะมีน้ำลงน้ำลายกระเซ็นมาบ้าง จากความเข้าใจผิดว่าน้องเป็นอาหารชนิดหนึ่ง ก็ไม่เป็นไร ผ่านไปหลายครั้งเข้า ความเข้าใจเค้าจะดีขึ้น

3. พูดคุยเรื่องน้องกับเค้าบ่อยๆ เช่นว่า "เนี่ย...น้องอยู่ในพุงหม่ามี้ กำลังหายใจอยู่ตรงนี้.." หรือ "มาจับท้องเร็วลูก น้องถีบหม่ามี้อยู่" แต่ประโยคหลังต้องพึงระวังให้มากๆ เพราะเคยมีกรณีลูกเพื่อนที่ถีบน้องกลับ เพราะเข้าใจว่าน้องถีบแม่...อีน้องอ่ะไม่เจ็บหรอก แต่แม่แทบแท้ง..

4. ถ้าเป็นไปได้ พาลูกเข้าไปดูอัลตราซาวด์น้องบ้าง ให้เค้าเห็นว่า มันมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าน้องจริงๆ หม่ามี้ไม่ได้เมคขึ้น และที่สำคัญ ไม่ได้ยัดตุ๊กตานุ่นไว้ในท้องด้วย

5. เวลาจัดของใช้ของน้อง พยายามให้เค้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งด้วย เช่น มีคนซื้อของขวัญมาฝากน้องแรกคลอด เราก็จะแกะให้เค้าดูแล้วบอกว่า "เนี่ย มีคนซื้อมาฝากโขน..แต่โขนใส่ไม่ได้ (แม้ตอนนั้น พ่อตัวดีจะพยายามยัดตัวเองใส่เสื้ออยู่ก็ตาม) หม่ามี้ยกให้น้องนะลูก"

6. เมื่อคุณไม่สามารถอุ้มเค้าได้เหมือนเดิม ห้ามพูดเด็ดขาดว่า "หม่ามี้อุ้มหนูไม่ได้ เพราะท้อง" แต่ให้บอกว่า "หม่ามี้ไม่สบาย อุ้มไม่ได้" หรือจะ "หม่ามี้ปวดตับ" ก็ได้ แล้วแต่ความสะดวกและระดับความกวนส้นของพ่อแม่ แต่ห้ามพูดเด็ดขาดว่า ไม่อุ้มเพราะท้องน้องอยู่

หลังคลอดแล้ว


1. สำคัญที่สุด สนใจความรู้สึกเค้ายิ่งกว่าสิ่งใดๆ เช่น ถ้าเค้ากับน้องร้องพร้อมกัน ต้องวิ่งหาเค้าก่อนเสมอ เพราะลูกที่เพิ่งคลอด ยังไม่ประสีประสาอะไรหรอก ฉะนั้น คนนั้นอ่ะ ใครอุ้มก็เหมือนกัน แต่คนโตนี่สิ รู้มากแล้ว

2. ให้เค้าใกล้ชิดน้องทันที เช่น ลูบน้อง สัมผัสน้อง หรือแม้แต่เค้าอยากอุ้มน้อง เราก็จะใช้วิธีประคองน้องวางบนตักเค้า แล้วเราระวังอยู่ใกล้ๆ หรือช่วยจับน้องอยู่ใกล้ๆเค้า

ของลูกชายคนโตเรา จำได้ว่าวันแรก ครั้งแรกในชีวิตที่เค้าเจอน้อง หน้าเค้าตื่นตะลึงและแปลกใจมาก ทำนองว่า "กินไม่ได้จริงๆด้วย" หลังจากนั้น เค้าก็เดินเข้ามาดูน้องที่เปลใกล้ๆ พร้อมกับเอานิ้วจิ้มไป 2 ที เหมือนตอนอาราเร่จิ้มอุนจิเด๊ะๆ

3. เวลาใครมาเยี่ยมไข้ หรือซื้อของขวัญมาให้น้อง เราจะใช้วิธี
- หาของให้เค้าด้วยอย่างหนึ่งเสมอ หรือ
- ให้คนที่เอาของขวัญมาให้ เป็นคนยื่นของขวัญให้เค้าเอง เสมือนกับว่า เอาของขวัญมาให้เค้านั่นแหละ

4. สำคัญมากๆอีกข้อหนึ่ง ห้ามขาดเลยเชียวกับคำว่า "หมาหัวเน่า" ห้ามใครพูดให้ลูกคนโตได้ยินเด็ดขาด

5. ให้เค้ามีส่วนช่วยเลี้ยงน้อง ไม่ว่าจะหยิบของ ป้อนนม ป้อนน้ำ

6. ทุกครั้งที่ซื้อของใช้ของน้องมา ต้องนำมาให้เค้าก่อนเสมอ จะคล้ายๆกับข้อ 3 ข้างต้น แต่ให้เป้นลักษณะว่า "หนูใส่ไม่ได้แล้ว ให้น้องใช้ได้มั้ย"

7. เมื่อน้องเริ่มโตขึ้น ถึงวัยที่เล่นกับเค้าได้แล้ว ก็จะมีกรณีแย่งของเล่น ที่บ้านเราจะห้ามขาดเลย ห้ามดุเค้าว่า "แย่งของน้องทำไม" ให้ใช้เป็นคำว่า "ไม่เอาไปจากน้องนะลูก" หรือ "อย่าคว้าอย่างนั้นครับ" เพราะการที่คุณพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า "แย่ง" มันเหมือนการสะกดจิตเค้าอยู่อย่างนั้นเองว่า มันเป็นของๆเค้า เค้าต้องแย่ง หรืออยากได้อะไรก็ต้องแย่ง สำหรับประเด็นข้อนี้คือ เรากำลังสอนเค้าว่า เค้าเป็นเด็กดี ไม่ได้แย่งของน้อง ฉะนั้น เค้าจึงสามารถแบ่งปันน้องเล่นด้วยได้

8. เวลาเจอหน้าผู้ใหญ่ ที่ส่วนมากมักจะตรงมาทักน้องคนเล็กก่อน ตามประสาเด็กอ่อน ที่วัยมักจะน่ารักกว่าเด็กที่เริ่มโต เราก็จะบอกทุกคนเสมอว่า เมื่อทักน้องแล้ว ให้ทักโขนด้วย หรือถ้าจะให้ดี ให้ทักโขนก่อนน้อง

9. เวลาเพื่อนๆหรือญาติผู้ใหญ่เล่นกับน้องอีกเหมือนกัน เราจะบอกต่อว่า ช่วยหันมาเล่นกับโขนด้วย เค้าจะได้ไม่รู้สึกแปลกแยก

10. พูดกรอกหูทุกวัน ว่าน้องรักพี่โขน เช่น น้องอาจจะพูดภาษามคธอะไรออกมาสักอย่าง เราก็จะรีบสวมรอยทันทีว่า
"เนี่ย น้องบอกว่า น้องรักพี่โขน" หรือ เวลาเค้าสองคนพี่น้องเจอกัน เราก็จะรีบไซโคต่อทันทีว่า
"เนี่ยเห็นมั้ย น้องเห็นพี่โขนแล้วน้องยิ้มเลย" หรือ เมื่อพี่กลับจากโรงเรียน เราก็จะบอกว่า
"หอมแก้มน้องหรือยัง น้องบอกหม่ามี้ว่า น้องคิดถึงพี่โขนมากเลย"

จนถึงล่าสุด ที่น้องทำท่าจะตัวใหญ่กว่าพี่แล้ว เราก็เป่าหูลูกว่า
"น้องบอกหม่ามี้ว่า อีกหน่อย ใครรังแกพี่โขน น้องจะชกมันให้คว่ำเลย"

พระเจ้า..ได้ผลมากๆ ลูกคนโตเราชอบพูดประโยคนี้ซ้ำๆ เหมือนเค้าภูมิใจที่น้องจะดูแลเค้า

(ต้องบอกก่อนว่า ธรรมชาติลูกคนโตเราเป็นเด็กอ่อนโยนมากๆ ไม่เคยรังแกใครเลย...แม้แต่ครั้งเดียว จนเรากลัวว่าอีกหน่อยจะโดนรังแก ในขณะที่เจ้าคนเล็ก ท่าทางแสบทรวงมากๆ ไม่ยอมคน แม้ว่าจะเพิ่งครบขวบมาแค่ 11 วันก็ตาม)

11. เราปลูกฝังให้ลูกสัมผัสตัวกันเสมอๆ ทั้งพี่น้อง ทั้งกับพ่อแม่ เช่นเมื่อเค้าเจอน้อง เราจะถามก่อนเลยว่า หอมแก้มน้องหรือยัง

และก็ได้ผลมากๆอีกเช่นกัน เพราะพี่จะหอมน้องด้วยความทนุถนอมมากๆ ในขณะที่น้องก็จะชอบเอาหัวไปซบพี่ ซึ่งเป็นภาพที่ทุกครั้งที่เห็น มันฟูในหัวใจแม่ที่สุด

12. ให้เค้ามีส่วนในการดุน้อง เช่น เวลาน้องทำอะไรผิด หรือดื้อ เราจะให้เค้าเป็นคนดุน้องก่อนเลย เช่นว่า
"โขน...น้องซนอีกแล้ว ดุน้องให้หม่ามี้หน่อยสิครับ" เค้าก็จะชี้นิ้วไปที่น้อง แล้วพูดว่า
"อย่าซนนะ" เราก็จะถามต่อว่า ถ้าซนแล้วเป็นยังไง
"ถ้าซนแล้ว พี่โขนจะโดนตี" อันนี้ฮามากๆ ไม่รู้ไปเอามาจากไหนว่า น้องซนแล้วตัวเองจะโดนตี

ในข้อนี้ เราอนุญาตกระทั่งว่า ถ้าเค้าเตือนน้องแล้วน้องไม่ฟัง ให้เค้าตีน้องได้ (ใช้มือตีนะ ไม่ใช่แส้เฆี่ยน หริอไม้หน้าสามฟาด) ซึ่งเค้าจะเอามือตีเบาๆ เหมือนว่า เค้าทำโทษน้องแล้วนะ

13. ให้ความสำคัญกับสถานะความเป็น "พี่" ของเค้าเสมอ เช่น เมื่อเค้าดุ คำดุเค้าต้องขลัง เมื่อเค้าห้าม น้องต้องฟัง ตัวอย่างเช่น เมื่อไม่กี่วันก่อน เขินเอาไม้ตียุง (ที่เราปิดสวิทช์แล้ว) มาเล่น อีพี่เห็นก็
"ห้ามเล่น เดี๋ยวโดนดูดนะ"
น้องยังเล่นอยู่
"ห้ามเล่น ของหม่ามี้ เดี๋ยวโดนหม่ามี้ตีนะ" พร้อมกับทำท่าจะตีน้องเบาๆ
ซึ่งเราก็เกิดพุทธิปัญญาขึ้นมาว่า ถ้าให้เค้าดุน้องไปเรื่อยๆ แล้วน้องไม่ฟัง คำดุและสถานะ "พี่ชาย" ของเค้าก็จะไม่มีความหมายอะไรเลย

เราเลยตัดสินใจ ดุเขินว่า
"เขิน พี่โขนบอกแล้วใช่มั้ยว่า ห้ามเล่น เดี๋ยวโดนไฟดูด ถ้าไม่เชื่ออีก เดี๋ยวให้พี่โขนตีนะ" พร้อมๆกันกับที่เราก็รีบเอาไม้ตียุงไปซ่อน

ได้ผลค่ะ โขนหน้าตาภูมิใจมากๆ เสมือนหนึ่งบรรลุธรรมขั้นสูงสุดของการเป็นพี่ชาย

14. เคยอ่านเจอจากคุณหมอท่านหนึ่งว่า เวลาซื้อของ ให้ซื้อให้ลูกชายคนโตสำคัญกว่า หรือมากกว่าหน่อยๆเสมอ อย่าให้เท่ากัน เพราะนั่นเท่ากับว่า คุณกำลังเสียผู้ช่วย ในการดูแลน้องไป เพราะการที่เค้าได้ของเท่ากัน แปลว่า เค้าไม่ได้สิทธิอะไรในความเป็นพี่เลย ดังนั้น เค้าก็จะไม่ตระหนักในสถานะและความสำคัญของการเป็นพี่ชายแต่อย่างใด

ทุกข้อที่กล่าวมานั้น สรุปโดยรวมคือ

1. ให้น้องเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพี่ให้ได้
2. ให้เค้าตระหนักว่า การมีน้อง คือการที่เค้ายังสำคัญเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น แต่เค้ากำลังจะได้เพื่อนแท้ของชีวิตมาอีกคนต่างหาก
3. ให้เกียรติสถานภาพควาเมป็นพี่ชายของเค้าอย่างที่สุด เท่าที่อยู่ในกรอบของการเป็นพี่ที่ดี

ผลลัพธ์

ชื่นใจค่ะ บอกได้คำเดียว โขนรักน้องมากกกกกกก ใครไม่เชื่อ ท้าพิสูจน์ดูตัวจริงได้เลย

รักน้องมากชนิดที่ว่า
- ใครอุ้มก็ไม่ได้ นอกจากคนในครอบครัว
- ใครตีน้องก็ไม่ได้ พ่อร้องบ้านแตกเลยเชียว
- กอดน้อง หอมน้องตลอดเวลา
- ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ถ้าชวนไปหาน้อง จะไม่มีอิดออด
- ไม่เคยตีน้อง ไม่เคยรังแกน้องเลย สักครั้งเดียว มีแต่ตีในฐานะความเป็นพี่ที่สั่งสอนน้องเท่านั้น

ภูมิใจค่ะ ภูมิใจ ...

วันที่สองที่เค้าเจอกัน

Brothers edited

พี่น้องเล่นกัน

P1020002edited

พี่น้องหอมกัน

P1020576edited



Create Date : 11 มีนาคม 2552
Last Update : 11 มีนาคม 2552 21:31:55 น.
Counter : 475 Pageviews.

5 comments
  
ว้าวววว
น้องๆน่ารักนะคะ
โดย: funkylady วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:19:53:44 น.
  
That is so cute.
โดย: CrackyDong วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:20:28:18 น.
  
น่ารักจังเลยค่ะพี่น้องคู่นี้

ชื่นชมคุณแม่มากๆเลยค่ะ เยี่ยม..
โดย: แม่น้องเอม (Gdnzz ) วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:20:30:48 น.
  
มีประโยชน์อีกล่ะ ไว้ถ้าจะมีน้องให้แนนแนนแล้วจะกลับมาอ่านใหม่ ตอนนี้ขอพักก่อน คนเดียวก้อเหนื่อยเหลือเกิน เฮ้อ !!
โดย: Augusta & Mummy วันที่: 14 มีนาคม 2552 เวลา:0:15:35 น.
  
ชอบบล๊อกนี้จังเลยคะ กำลังอยากมีน้องให้ไอแสบเหมือนกัน หนักใจ สงสัยต้องยืมทริกนี้ไปใช้คะ
โดย: sugarhoney วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:23:40:38 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนที่คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าใคร
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]



แม่ลูก 2 ที่กลัวการเป็นแม่ลูก 3 อย่างยิ่ง และ ผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก ที่สามารถหลอกผู้ชายที่ดีที่สุดในจักรวาลมาเป็นคู่ชีวิตได้ ล่าสุด...ผู้หญิงหลากฝัน ที่ยังไม่สามารถจัดการกับเวลาของตัวเองได้..ฮ่วย!
White border erased BG Bullet