|
Stich ชวนไปดูลิงที่นิกโก้
เพื่อนๆ คงงง ที่อยู่ๆ จะพาไปดูลิง ไม่มีอะไรจะดูแล้วใช่ไหมนี่ แต่ลิงที่ผมจะพาไปดูไม่ใช่ลิงตัวเป็นๆ อย่างในสวนสัตว์หรอกนะครับ แต่มันเป็นลิงที่อยู่ในศาลเจ้า
มันอยู่ที่ เมืองนิกโก้ ซึ่งห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศเหนือประมาณ 140 กิโลเมตร เป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศ และยังเป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย
ไอ้ลิงตัวที่พาไปดูนี่ มันอยู่ที่ ศาลเจ้าโทโชกุ ซึ่งเป็นสุสานของท่าน โตกุกาว่า อิเอะยาสึ อดีตโชกุนที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่นท่านหนึ่ง
ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ เป็นสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อน สวยงาม และมีงานจิตรกรรมที่ล้ำค่ามีความหมายนัยแฝงอยู่มากมาย แล้วลิงที่ว่าก็คือ งานแกะสลักรูป ลิง 3 ตัว มีท่าทางแตกต่างกัน ตัวหนึ่งปิดหู ตัวหนึ่งปิดปาก และอีกตัวหนึ่งปิดตา เป็นผลงานของท่าน จินโกโร่ ฮิดาริ ช่างแกะสลักระดับปรมาจารย์ โดยลิงทั้ง 3 แสดงท่าทางต่างกัน สื่อถึง หากเราไม่มอง ไม่ฟัง ไม่พูดในสิ่งที่เลวร้าย เภทภัยก็จะไม่ย่างกรายสู่ตัวเรา
สมแล้วที่อยู่ในศาลเจ้า ก็จะให้แง่คิดอย่างนี้แหละครับ
และที่ศาลไม่ได้มีแค่ลิงอย่างเดียวนะ ยังมีแมวหลับด้วย แมวหลับ เป็นงานศิลป์ระดับโลกที่มีความหมายแฝงถึงความสงบสุข ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินเจ้าเก่าท่าน จินโกโร่ ฮิเดริ รูปแมวนอนหลับ มีนกกระจอกอยู่ใกล้ๆ ซึ่งถ้าแมวตื่น นกกระจอกก็จะถูกจับกิน แต่แมวนั้นหลับ นกกระจอกก็อยู่อย่างปลอดภัย มีความหมายนัยแฝงว่าประเทศชาติ (ญี่ปุ่น) นั้นพ้นช่วงของเภทภัยแล้วและกำลังอยู่ในความสงบสุข ปัจจุบันงานศิลป์ชิ้นนี้ถือว่าเป็นสมบัติของชาติญี่ปุ่นแล้ว
นอกจากนี้ยังมีผลงานรูปสัตว์ในเทพนิยาย ทั้งมังกร อิคิ (คล้ายมังกร แต่มีรูจมูกอยู่บนริมฝีปาก) ชิน (คล้ายมังกร) มังกรบิน ม้ามังกร สิงห์ เป็นต้น แล้วแวะไปเที่ยวชมกันนะจ๊ะ
ที่เมืองนี้นอกจากศาลเจ้าโทโชกุแห่งนี้ แล้วยังมีสถานที่น่าท่องเที่ยวอื่นๆ อีกด้วยครับ
สะพานชินหรือชินเคียว (Shinkyo Sacred Bridge) เป็นสะพานไม้ที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น สะพานซินเคียวนี้มีลักษณะเป็นสะพานไม้สีแดง เป็นสะพานศักดิ์สิทธิ์
ตามตำนานกล่าวว่าเมื่อครั้งคณะสงฆ์ นำทีมโดยพระโชโต (Priest Shoto) เดินธุดงค์บำเพ็ญเพียรเพื่อขึ้นเขานันไต พอมาถึงแม่น้ำไดยากาว่า ก็ข้ามไม่ได้ เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยวมาก พระโชโตจึงคุกเข่าสวดมนต์อ้อนวอน ทันไดนั้นเทพเจ้าจินจาไดโอ ก็ปรากฏกายขึ้นมาพร้อมด้วยอสรพิษคู่หนึ่ง (ตัวหนึ่งสีแดง อีกตัวสีน้ำเงิน) ท่านเทพเจ้าก็ได้ปล่อยอสรพิษทั้งคู่ให้กลายร่างเป็นสะพานสายรุ้ง และมีต้นหญ้าทรงกระเทียมงอกอยู่บนนั้นด้วย ทำให้พระโชโตและคณะสามารถข้ามผ่านแม่น้ำไดยากาว่าได้โดยปลอดภัย
เมื่อพระโชโตหันกลับมามองปรากฏว่าทั้งสะพานและเทพเจ้าก็ได้อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอยด้วย เหตุนี้สะพานชินจึงมีอีกชื่อว่า สะพานยามาสุเกะโนะ-จาบาชิ ซึ่งแปลว่า สะพานอสรพิษแห่งหญ้าทรงกระเทียมนั่นเอง
สะพานนี้มีความยาว 28 เมตร กว้าง 7.4 เมตร สูงจากระดับแม่น้ำ 10.6 เมตร ไม่ปรากฏปีที่สร้างแน่ชัด แต่มีหลักฐานอ้างอิงว่าน่าจะมีมาก่อนปี ค.ศ. 1486 และก็ได้บูรณะซ่อมแซมเปลี่ยนรูปทรงของสะพานเรื่อยมา โดยได้บูรณะครั้งล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 1997 นี้เอง ปัจจุบันสะพานชินถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของศาลเจ้าฟุตาระซัง และนับเป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งด้วย
และอีกรูปข้างๆ ก็จะเป็น น้ำตกเคง่อน ซึ่งเกิดมาจากแม่น้ำโอจิริ ที่ไหลออกจากทะเลสาบชูเซ็นจิ เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งในญี่ปุ่น มีความสูง 99 เมตร และมีความกว้างของฐานน้ำตกประมาณ 7 เมตร เวลาที่จะไปชมก็ต้องขึ้นลิฟท์ไปละ
ถ้ามีเวลาต่อกันอีกหน่อยก็ไปแวะชมทะเลสาบและวัดชูเซ็นจิกันละ
Create Date : 01 ตุลาคม 2553 | | |
Last Update : 11 สิงหาคม 2554 9:11:43 น. |
Counter : 1220 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|