|
ร้านเจ้ยูปิด
ร้านเจ้ยูปิดลงแล้ว
นึกแล้วก็ใจหายครับ และรู้สึกเศร้านิดๆ สำหรับร้านเจ้ยูถือว่าเป็นที่รู้จัดกันดีของนักฟังเพลง รวมไปถึงนักดนตรี ภาพของคนขายที่เป็นผู้หญิง นั่งอยู่มีเทปและแผ่น cd วางเรียงรายอยู่รอบตัวทั่วทั้งร้าน ที่มองผ่านๆ อาจจะตาลายเอาได้ ด้วยการจัดการและลีลาการขายที่ไม่เหมือนใคร ใครอยากได้อะไรให้บอกเจ้ เดี๋ยวจัดให้ หรือจะดูรายชื่อ cd เป็นเล่มที่วางอยู่หน้าร้าน ทั้งมือหนึ่งและมือสองที่ลูกค้าขาประจำนำมาฟากขายก็เช่นเลือกตามสบายใจหรือถ้ายังไม่ถูกใจอยากจะฟังอะไรที่มากกว่านี้จะสั่งนำเข้าเจ้ก็บริการสั่งมาให้ พอของมาถึงเจ้จะโทรบอก ส่วนแนวเพลงก็มีตั้งแต่ jazz metal ก็ขอให้ถามมา หรือจะขอดู ขอลองฟังก็บอกมา เลือกกันไปดูกันไปในบรรยากาศ ที่เจ้จะเปิดเพลงประชาสัมพันธ์ อัลบั้มแปลกๆ ใหม่ๆ โดยเฉพาะแนว metal ลีลาการพูดคุยเพิ่มเสียง เบาเสียสลับไปมา ถึงในบางครั้งเจ้ยูจะดูขึงขังบ้าง แต่นี่คือลีลาที่ทำให้ร้านเจ้ยูอยู่มายาวนาน ผมก็ไม่แน่ใจว่ากี่ปี แต่สำหรับผมก็รู้จักมาได้ 15 ปี เจ้ยูมีลีลาการขายที่เป็นแบบตัวต่อตัว เจ้ยูจะจำลูกค้าที่เป็นขาประจำได้เหมือนคนรู้จัก พี่ชายคุณไม่เห็นมาเลยหายไปนานแล้วนะ แค่เห็นหน้าคล้ายกันก็ทำให้เจ้นึกถึงลูกค้าอีกคนนึงได้ หรือบางทีลูกค้าบางคนที่สนิทสนมเดินมาเจอก็ยกมือไหว้เหมือนญาติผู้ใหญ่ก็มี เจ้หวัดดีครับ
ร้านแห่งนี้ยังเป็นที่เพิ่งพิงของนักดนตรีรุ่นใหม่ที่ต้องการจะเผยแพรผลงานของตัวเอง สมัยก่อนถ้าคุณเกิดเบื่องานเพลงตลาด อยากหาอะไรแปลกหูฟังก็ที่นี่เลย และถ้าพูดถึงเทคโนโลยี่ที่ทันสมัยอย่างทุกวันนี้แล้ว ร้าน cd ลิขสิทธิ์ยิ่งอยู่ยากมากขึ้น ยุคนึงเคยมีคนบอกว่า tower record คือสวรรค์ของนักฟังเพลงซึ่งก็จริง แต่สุดท้ายก็สู้พิษเศรษฐกิจไม่ไหว ก็ต้องยอมรับว่า งานเพลงลิขสิทธ์นั้นมีราคาที่แพงจริงๆ cd แผ่นนึง 300 บาทขึ้นเด็กนักเรียนคนนึงที่ไม่ได้เป็นลูกคนมีสตางค์ที่ชอบฟังเพลงมากๆ จะซื้อได้ที่ไหน..? หรือ ถ้าเป็นแผ่นนำเข้า ราคาอาจจะขึ้นไปถึง 1000 บาทเลยทีเดียว ต้องยอมรับว่าแพงจริงๆ พื้นที่ตรงนี้หดลงไปเยอะเมื่อต้องเจอกับยุคสมัยของ mp3 และการโหลดเพลงฟังทางโลก online อีกร้านนึงที่เค้าว่ากันว่า เริ่มต้นจากทำหนุกๆ แต่สุดท้ายก็ดูจริงจังอยู่เหมือนกัน คือ music one นี่ก็เป็นอีกร้านนึงที่ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่ายังเหลืออยู่กี่สาขา น่าจะเหลือที่ เมเจอร์ เอกมัย ยังอยู่หรือเปล่าไม่แน่ใจ ในยุคสมัยของโทรศัพท์มือถือที่สามารถเก็บเพลงไปฟังที่ไหนๆ ได้เป็นร้อยๆ เพลง เครื่อง ipot ที่เหมือนกับพกชั้นวาง cd ติดตัวไปได้ทุกที่ ยิ่งทำให้ร้านขาย cd อยู่ยากขึ้นไปใหญ่ครั้งนึงเจ้ยังเคยบอกว่า เดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยจะซื้อ cd ไปสะสมหรือเห็นว่ามันมีคุณค่าอะไรเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ก็จริง ถ้าเป็นคนฟังเพลงเยอะก็ต้องมีต้นทุนเยอะไปด้วย หมดตูด อิอิ
สำหรับผมจำได้ว่าเป็นลูกค้าตั้งแต่สมัยยังเรียนมัธยมปลาย สมัยนั้นยังเป็นเทป สตางค์ก็ไม่ค่อยมี บางทีขอเจ้ดู ห้า หก ม้วน สุดท้ายเอาม้วนเดียว ใครเค้าว่าอะไรดีก็ต้องไปหาฟังกับเค้ามัง แถวบ้านก็ไม่มีขาย ก็ต้องไปโน้นเจ้ยู พอมาถึงช่วงที่พอจะทำงานหาสตางค์ได้ก็ไปบ่อยขึ้นนิด บางช่วงก็หายไป บางช่วงก็ไปบ่อย ช่วงสุดท้ายที่ไปรู้สึกจะเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมาไปรับ cd ที่เคยเอาไปฟากขายเอาไว้นานแล้วกลับ แผ่นที่ขายไม่ออกจริงๆ สามสี่แผ่นจากที่เอาไปฟากรวมเกือบห้าสิบแผ่นได้ คือพอช่วงวัยผ่านไป เราลองกลับมาดูเพลงที่เคยฟังสมัยก่อนบางวงเอากลับมาฟังอีกครั้ง เราฟังไม่ไหวแล้ว ก็มีนี่แหละร้านเจ้ยูที่เอาไปฟากขายได้ไม่มีกำหนด จำได้ว่าครั้งนึงเจ้เคยคุยให้ฟังว่ามีคนเคยจะมาขอเซ้งร้านต่อให้ราคาสูง แต่เจ้รู้สึกว่าทำเองแบบนี้ดีกว่าถือว่าเพลินๆ พอถามว่า แล้วเจ้ขายดีมั้ย เจ้เก่งนะยังอยู่มาถึงทุกวันนี้ได้ เจ้ตอบว่า ก็ไม่ค่อยดีหรอกอาศัยขาประจำแล้วก็พกข้าวกล่องมากินทุกวันไง เจ้พูดติดตลก แต่เจ้ยังดูเหมื่อนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเลยนะครับ เจ้เค้าก็ตอบว่า ขอบคุณค่ะ จะบอกว่าเจ้นั่งฟัง metal เหมือนคนบ้าอยู่เหมือนเดิมใช่มั้ยละ คิคิ ไม่ใช้ครับเจ้ผมรีบพูด !
ตอนแรกที่ผมรู้ข่าวว่าร้านจะปิดก็ใจหายแวบ แต่มารู้เพิ่มเติมว่าสาเหตุนึงมาจากเจ้สุขภาพไม่ค่อยดี อยากไปพักรักษาตัวด้วยวิธีธรรมชาติ เลยเกิดเศร้าขึ้นมานิดๆ ยังไงก็ขอให้เจ้หายไวๆ แล้วกันนะครับ มีคนอยากช่วยเจ้นำรายการ cd มาลงเอาไว้ให้ ลองเข้าไปดูตามลิงค์ข้างล่างนะครับ//www.guitarthai.com/webboard/question.asp?QID=200334
Create Date : 09 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 9 สิงหาคม 2552 23:17:38 น. |
|
1 comments
|
Counter : 728 Pageviews. |
|
|
|
โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:21:12:49 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
MY VIP Friend
|
|
|
|