Health Engineer Sport Club
Group Blog
 
All Blogs
 
ผลฟุตบอลคับ

ตัดมาจากสยามกีฬาคับ


สเปอร์สจ๋อย!บุกพ่าย1-2,ห้างยายับ,เบรเมนแค่เจ๊า

"แชมป์เก่า" เซบีย่า กำความได้เปรียบในนักแรกไว้ได้ก่อน เมื่อเปิดรังราม่อน ปิซฆวน พลิกเฉือนชนะ สเปอร์ส จากอังกฤษ แบบสนุก 2-1 ไปลุ้นต่อนัดสองที่บ้านสเปอร์ส ขณะที่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ตกที่นั่งลำบากหลังพ่าย โอซาซูน่า ยับคารัง 0-3 ด้าน แวร์เดอร์ เบรเมน ทำได้แค่เสมอ อาแซด อัล์คมาร์ 0-0 ส่วน เอสปันญ่อล เปิดบ้านเฉือนหืด เบนฟิก้า 3-2 ในศึกยูฟ่า คัพ เมื่อคืนที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูฟ่า คัพ
(รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ฤดูกาล 2006/07)
(วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2550)

เซบีย่า (สเปน) 2 - สเปอร์ส (อังกฤษ) 1

สนาม :ราม่อน ปิซฆวน

แชมป์เก่า เซบีย่า เปิดรัง ราม่อน ปิซฆวน รับการมาเยือน ของ สเปอร์ส จากอังกฤษ โดยเกมนี้ เจ้าบ้านไม่มี หลุยส์ ฟาเบียโน่ ที่ติดโทษแบน ขณะที่ทีมเยือนมีการปรับเปลี่ยนแผงหลังเมื่อริคาร์โด้ โรช่า ติดคัพไทลงเล่นไม่ได้ จึงหุบปาสกาล ชิมบงด้า เข้ามาเล่นเป็นเซนเตอร์ฮาลฟ์

เริ่มเกมมาได้เพียงนาที สเปอร์ส ออกสตาร์ท ได้สวยเมื่อเป็นฝ่ายทำประตูขึ้นนำไปได้ก่อนจากจังหวะที่ ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ ไหลบอลให้กับร็อบบี้ คีน คู่ขาในแดนหน้าหลุดเข้าไปติดเซฟในจังหวะแต่ตามซ้ำด้วยซ้ายตุงตาข่ายให้ทีมขึ้นนำ 1-0

แต่แล้วเซบีย่า กลับมาได้จุดโทษอย่างน่ากังขาเมื่อ อาเดรียโน่ ของเจ้าบ้าน หลุดทะลุเข้าไปในเขตโทษ แต่โดนพอล โรบินสัน ปราดออกมาบล็อกได้ทัน แต่ผู้ตัดสินกลับเป่าเป็นจุดโทษ ทั้งที่ภาพช้าแสดงให้เห็นว่าโรบินสัน ออกมาคว้าบอลไม่ได้ทำฟาวล์แต่อย่างใด ก่อนที่จะเป็นเฟดริก กานูเต้ อดีตนักเตะของสเปอร์ส รับหน้าที่สังหารตุงตาข่ายให้เซบีย่าตามตีเสมอเป็น 1-1 ในนาที 20

เจ้าบ้านได้ใจใหญ่มาบวกประตูที่สองในอีก 16 นาทีถัดมา เมื่อ กองหลังของสเปอร์ส สกัดลูกไม่ขาดมาเข้าทาง ฌูเลียง เอสกูเก้ โหม่งชงต่อให้กับอเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ สะบัดหัวโหม่งส่งบอลตุงตาข่ายระยะเพียง 8 หลา เจ้าบ้านพลิกนำ 2-1 จากนั้นจบครึ่งแรกเซบีย่า นำ 2-1

เริ่มครึ่งหลังขึ้นมา เป็นเซบีย่า ที่ครองเกมได้มากกว่า โดยที่สเปอร์ส พยายามอาศัยจังหวะโต้กลับคอยเล่นงาน

สเปอร์ส ทีมเยือนได้เสียวในนาที 58 เมื่อ ร็อบบี้ คีน ได้หลุดขึ้นไปซัดด้วยซ้ายทางบริเวณจุดโทษด้านซ้าย แต่บอลถากเสาออกไปนิดเดียว

ไก่เดือยทองได้ลุ้นอีกครั้งจากฟรีคิกระยะไกลกว่า 40 หลา แต่ร็อบบี้ คีน ซัดเหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 79 เซบีย่า หวิดจะได้ประตูที่สามเมื่อ อาเดรียโน่ หลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะตักเข้าให้กับ กานูเต้ ได้โหม่งบริเวณจุดโทษ แต่หัวหอกมาลี สะบัดหัวแรงไปหน่อยบอลเลยหลุดกรอบออกหลังไป จังหวะต่อมา ดิดิเย่ร์ โซโกร่า ของสเปอร์ส ได้หลุดขึ้นมาซัดด้วยขวา แต่บอลไม่ตรงกรอบ

จากนั้นทั้งสองทีมไม่มีฝ่ายใดทำประตูกันได้เพิ่ม จบ 90 นาที เซบีย่า ชนะไป 2-1 นัดสองต้องไปเล่นกันต่อที่บ้านของสเปอร์ส

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เซบีย่า : อันเดรียส ปาล็อบ, ฆาบี นาบาร์โร่, ดาบิด กาสเตโด้, ดาเนี่ยล อัลเวส, อาเดรียโน่, คริสเตียน โพลเซ่น, อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ, เรนาโต้, เฟดริก กานูเต้, ฌูเลียง เอสกูเด้, เฆซุส นาบาส
สำรอง : ดาบิด โคเบโน่, เซอร์จิโอ วาเลนเต้, เอร์เนสโต้ เชบันตอน, โฆเซ่ หลุยส์ มาร์ติ, อิวิก้า ดรากูติโนวิช, อันเดรส ฮิงเคิ่ล, เอ็นโซ่ มาเรสก้า
สเปอร์ส : พอล โรบินสัน, ปาสกาล ชิมบงด้า, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, พอล สตัลเทรี่, อี ยอง เปียว, ตีมู เตนิโอ, เจอร์เมน เจนาส, ดิดิเย่ร์ โซโกร่า, อาร่อน เลนน่อน, ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ, ร็อบบี้ คีน
สำรอง : ราเด็ก เชร์นี่, มิโด้, ฮอสซัม ฮัสซัน, สตีด มัลบรองต์, เจอร์เมน เดโฟ, อเดล ทารับต์, ฟิลิป ไอฟิล

ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (เยอรมัน) 0 - โอซาซูน่า (สเปน) 3

สนาม :ไบ อารีน่า

ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เปิดสนาม ไบ อารีน่า ต้อนรับการมาเยือนของ โอซาซูน่า โดยเกมนี้เจ้าบ้านได้ คาริม อากกี ที่ติดโทษแบนจากรอบที่แล้วกลับคืนสนาม นอกนั้นตำแหน่งอื่นๆ สมบูรณ์ครบ มี เซอร์เกจ์ บาร์บาเรซ, สเตฟาน คีสส์ลิ้ง และ อังเดร โวโรนิน เป็นสามประสานในแดนหน้า

ขณะที่ทีมเยือนจากสเปน ไม่มี จาวัด เนกูนาม กับ ฟรานซิสโก้ ปูนญาล สองกองกลางคนสำคัญที่เจ็บ ทำให้ ฆวนฟราน ตอร์เรส กับ ยอน โดมิงเกซ ได้โอกาสลงสนามแทน ส่วนคู่หน้ายังคู่เดิม โรเบร์โต้ โซลดาโด้ กับ ซาโว มิโลเซวิช

เริ่มเกมขึ้นมาได้แค่นาทีเดียว โอซาซูน่า ก็ฉวยโอกาสจากลูกเตะมุมครั้งแรกของเกม ทำประตูขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จ เมื่อ ฆวนฟราน ตอร์เรส เตะมุมจากฝั่งขวา แนวรับของทีมห้างยาประกบหละหลวม ปล่อยให้ ฆาเบียร์ กูเอย่าร์ ปราการหลังทีมเยือนลอยตัวโขกเหน่งๆ คนเดียวตุงตาข่าย

แผงหลังเจ้าบ้านเกือบพลาดแบบเดิมๆ อีกครั้งในนาทีที่ 6 เมื่อ ดาบิด โลเปซ เตะมุมจากฝั่งซ้าย และเป็น กูเอย่าร์ คนเดียว สอดขึ้นมาโหม่งข้ามคานออกไป

โอกาสของ โอซาซูน่า มาถึงอีกครั้งในนาทีที่ 16 ฆวนฟราน กระชากบอลขึ้นทางกราบขวา ก่อนเปิดให้ โรเบร์โต้ โซลดาโด้ โหม่งเต็มศีรษะ แต่ เรเน่ แอดเลอร์ พุ่งปัดออกไปได้

เลเวอร์คูเซ่น มีโอกาสไม่มากในครึ่งแรก แต่ก็ได้ลุ้นในนาทีที่ 34 อังเดร โวโรนิน บรรจงหยอดบอลให้ เซอร์เกจ์ บาร์บาเรซ สอดขึ้นมาโหม่งข้ามคานออกไป

ทดเจ็บครึ่งแรก ทีมเยือนจากสเปนใช้ลูกทีเด็ดจากลูกเตะมุมอีกครั้ง คราวนี้เป็น ราอูล การ์เซีย โหม่งหลุดเสาสองออกไป จบครึ่งแรก โอซาซูน่า เล่นดีกว่าและนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง เลเวอร์คูเซ่น แก้เกมทันที โดยส่ง พอล ไฟรเออร์ ลงมาเล่นเกมรุกแทน สเตฟาน คีสส์ลิ้ง

เพียงแค่นาทีเดียว ทีมห้างยาได้ลุ้นทันที จากจังหวะที่ มาร์โก บาบิช เติมขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนกดด้วยเท้าซ้ายเต็มๆ แต่ ริคาร์โด้ โลเปซ พุ่งปัดออกไปได้

นาทีที่ 62 พอล ไฟรเออร์ ตัวสำรองของเจ้าถิ่น กระชากบอลขึ้นทางกราบขวา ก่อนเปิดเรียดไปหน้าประตู อังเดร โวโรนิน โฉบเปลี่ยนทางบอลหลุดเสาสองออกไป

ถัดมา 2 นาที บาบิช โยนบอลจากกราบซ้ายให้ บาร์บาเรซ ขวิดจะเข้ามุมประตูอยู่แล้ว แต่ ริคาร์โด้ ปัดบอลออกมาได้อีก

ทว่า โอซาซูน่า เพิ่งมีโอกาสบุกในครึ่งหลัง และก็มาได้ประตูหนีห่าง 2-0 หน้าตาเฉยในนาทีที่ 70 เมื่อ ซาโว มิโลเซวิช แทงบอลให้ ดาบิด โลเปซ หลุดเข้าไปล่อเป้าผ่าน แอดเลอร์ ไม่เหลือ

นาทีต่อมา โอซาซูน่า ส่ง ปิแอร์ อาชิลล์ เวโบ้ กองหน้าแคเมอรูน ลงมาแทน โรเบร์โต้ โซลดาโด้ และเพียงไม่ถึง 20 วินาทีที่อยู่ในสนาม เวโบ้ ก็สัมผัสบอลครั้งแรกเข้าไปกองก้นตาข่ายได้ทันที เมื่อซัดลูกเปิดของ มิโลเซวิช เข้าไปไม่พลาดเป็น 3-0 ในนาทีที่ 72

จบเกม โอซาซูน่า บุกมาอัด เลเวอร์คูเซ่น ไปได้อย่างถล่มทะลาย 3-0 ทำให้นัดสองในบ้านเป็นงานง่ายสำหรับ โอซาซูน่า

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เลเวอร์คูเซ่น : เรเน่ แอดเลอร์, กอนซาโล่ กาสโตร, คาริม อากกี, ฮวน, มาร์โก บาบิช, ไซม่อน โรลเฟส, แบร์นด์ ชไนเดอร์, ทรานกิลโล่ บาร์เน็ตต้า, เซอร์เกจ์ บาร์บาเรซ, สเตฟาน คีสส์ลิ้ง, อังเดร โวโรนิน
โอซาซูน่า : ริคาร์โด้ โลเปซ, โฆเซ่ อิซเกวร์โด้, เซซ่าร์ กรูชาก้า, ฆาเบียร์ กูเอย่าร์, เอ็นริเก้ กอร์ราเลส, ฆวนฟราน ตอร์เรส, ราอูล การ์เซีย, ยอน โดมิงเกซ, ดาบิด โลเปซ, โรเบร์โต้ โซลดาโด้, ซาโว มิโลเซวิช

อาแซด อัล์คมาร์ (ฮอลแลนด์) 0 - แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมัน) 0

สนาม :ดีเอสบี สเตเดี้ยม

อาแซด อัล์คมาร์ เปิดสนาม ดีเอสบี สเตเดี้ยม รับมือ แวร์เดอร์ เบรเมน โดยเกมนี้เจ้าบ้านยึดผู้เล่นตัวหลักจากรอบที่แล้วลงสนามล้วนๆ มี มาร์เท่น มาร์เท่นส์, แดนนี่ โคเวอร์มันส์ และ โชต้า อาร์เวลัดเซ่ ด้านทีมเยือนก็ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ ดิเอโก้ ยังเป็นจอมทัพของทีม และ มิโรสลาฟ โคลเซ่ กับ ฮูโก้ อัลเมยด้า เป็นคู่กองหน้า

เริ่มเกมขึ้นมา เบรเมน เป็นฝ่ายที่ครองบอลบุกได้เหนือกว่านิดๆ และน่าจะได้ประตูขึ้นนำเป็นอย่างยิ่งในนาทีที่ 10 เมื่อ คลีเมนส์ ฟริตซ์ ลากบอลจากระยะ 40 หลาหลุดทะลุเดี่ยวๆ เข้าเขตโทษแล้วซัดด้วยเท้าขวาเน้นๆ แต่ บอย วอเตอร์มัน ใช้ปลายมือสะกิดบอลหลุดเสาสองออกไปหวุดหวิด

ถัดมา 4 นาที ทีมเยือนมีจังหวะลุ้นอีกครั้ง เมื่อ ปิแอร์ โวเม่ พาบอลขึ้นทางกราบซ้าย สลัดหนี เกรตาร์ สตีนส์สัน ตัวประกบ แล้วเปิดลึกถึงเสาสองให้ มิโรสลาฟ โคลเซ่ โหม่งไปตรงตัว บอย วอเตอร์มัน

ถึงนาทีที่ 32 โชต้า อาร์เวลัดเซ่ ศูนย์หน้าทีมชาติจอร์เจียกัปตันทีมอาแซด ก็ต้องโชคร้าย เมื่อไม่พอใจคำตัดสินของผู้ตัดสินชาวโปรตุเกส ไประเบิดอารมณ์เขวี้ยงบอลลงพื้น ทำให้โดนใบเหลือง ซึ่งจะทำให้เขาติดโทษแบนในเกมที่สองทันที

ก่อนจบครึ่งแรก 4 นาที อาแซด ได้ลุ้นเล็กๆ จากลูกเปิดของ มาร์เท่น มาร์เท่นส์ แต่หน้าประตูทั้ง แดนนี่ โคเวอร์มันส์ และ โชต้า อาร์เวลัดเซ่ เข้าชาร์จไม่ถึงทั้งคู่ จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังเริ่มมาหลุยส์ ฟาน กัล กุนซือเจ้าบ้านแก้เกมมาได้ดีเหลือเกิน นาทีที่ 53 มุสซ่า เดมเบเล่ ได้ลูกส้มหล่นจากจังหวะที่กองหลังทีมเยือนเคลียร์บอลไม่ดี ซัดจ่อๆระยะไม่ถึง 5 หลา แต่กลับยิงไปตรงตัววีเซ่ ล้มตัวรับไว้ได้อย่างน่าเสียดาย

เบรเมนมีโอกาสที่จะได้ประตูเช่น ในอีก 2 นาทีถัดมา เมื่อ ดีเอโก้ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวพลิกบอลเข้าไปยิงเต็มเท้า แต่บอลติดปลายมือ วอเตอร์มัน เซฟไว้ได้อย่างหวุดหวิด

เจ้าบ้านเกือบได้ประตูแบบโชคช่วย ในนาทีที่ 66 เมื่อ ปิแอร์ โวเม่ กองหลังทีมเยือนโหม่งคืนหลังไม่รู้กันกับวีเซ่ ที่วิ่งสวนออกมานอกเขตโทษ บอลพุ่งตรงกรอบยังดีที่กองหลังผิวหมึกแก้ตัววิ่งมาเตะทิ้งได้ทัน

เจ้าบ้านเกือบจะได้ประตูขึ้นนำในช่วงท้ายเกม เมื่อ เดมเบเล่ อาศัยความสามารถเฉพาะตัวลากเข้าไปกดด้วยซ้ายข้างถนัด แต่บอลข้ามคานออกไปนิดเดียว ทำให้ที่สุดแล้วอัล์คมาร์ ทำได้แค่เสมอกับ เบรเมน ไปในที่สุด 0-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อัล์คมาร์ : บอย วอเตอร์มัน, เกรตาร์ สตีนส์สัน, คิว ยาเลี่ยนส์, ไรอัน ดองค์, ทิม เดอ แคลร์, จูเลี่ยน เจนเนอร์, เดมี่ เดอ ซูว์, มุสซ่า เดมเบเล่, มาร์เท่น มาร์เท่นส์, แดนนี่ โคเวอร์มันส์, โชต้า อาร์เวลัดเซ่
เบรเมน : ทิม วีเซ่, แพทริค โอโวโมเยล่า, เพอร์ แมร์เตซัคเกอร์, นัลโด, ปิแอร์ โวเม่, คลีเมนส์ ฟริตซ์, ยูริก้า วรันเยส, ทอร์สเท่น ฟริงก์ส, ดิเอโก้, มิโรสลาฟ โคลเซ่, ฮูโก้ อัลเมยด้า

เอสปันญ่อล (สเปน) 3 - เบนฟิก้า (โปรตุเกส) 2

สนาม :โอลิมปิก เด มอนต์คูอิค

เอสปันญ่อล ลงเล่นใน โอลิมปิก เด มอนต์คูอิค ต้อนรับการมาเยือนของ เบนฟิก้า เกมนี้เจ้าบ้านไม่มี ดาบิด การ์เซีย ที่เจ็บ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะตัวหลักยังอยู่กันครบ โดยเฉพาะแดนหน้า ราอูล ตามูโด้ จับคู่กับ หลุยส์ การ์เซีย

ด้านทีมเยือนจากโปรตุเกส ไม่มี คอนสแตนตินอส คัตซูรานิส กองกลางชาวกรีซที่ติดโทษแบน นอกจากนั้นก็ไม่มีปัญหาในตำแหน่งอื่น ซิเมา ซัมโบรซ่า, นูโน่ โกเมส และ แดร์เล ยังเป็นตัวหลักในแนวรุก

เบนฟิก้า มีโอกาสก่อนตั้งแต่นาทีที่ 5 เมื่อ ซิเมา ซัมโบรซ่า พาบอลขึ้นมาทางริมเส้น แล้วโยนให้ นูโน่ โกเมส โขกหลุดกรอบออกไป

ถึงนาทีที่ 15 เอสปันญ่อล ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ หลุยส์ การ์เซีย ไหลบอลจากฝั่งขวาให้ ราอูล ตามูโด้ วิ่งสอดขึ้นมารับบอล ก่อนกระชากหนีแนวรับเบนฟิก้าหลุดกระจุย แล้วอัดเสาแรกผ่าน ควิม เข้าไปอย่างสุดสวย

ทีมเยือนน่าทวงประตูคืนได้เช่นกันในนาทีที่ 25 เริ่มจาก เปตีต์ ยิงฟรีคิกไปแฉลบกำแพงเอสปันญ่อลออกหลัง และจากลูกเตะมุม ซิเมา ปั่นโค้งไปให้ แดร์เล ขวิดเหน่งๆ หลุดเสาออกไป

ทีมตรานกแก้วมาได้ประตูหนีห่าง 2-0 ในนาทีที่ 32 ราอูล ตามูโด้ โยนโค้งจากกราบขวา บอลข้ามตัว ควิม ไปถึง อัลเบิร์ต ริเอร่า วางเท้ายิงด้วยซ้าย บอลพุ่งผ่าน ควิม แล้วแฉลบศีรษะ เนลสัน เข้าไปกองตุงตาข่าย

ก่อนจบครึ่งแรก 3 นาที เบนฟิก้า ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกริมเส้น ซิเมา โยนบอลให้ นูโน่ โกเมส แหย่เท้าจิ้มบอลเปลี่ยนทางแต่ไม่ผ่านมือ อิรายซอซ จบครึ่งแรก เอสปันญ่อล นำสบาย 2-0

เริ่มมาในครึ่งหลังยังคงเป็น เอสปันญ่อล ที่ครองเกมได้ดีกว่าเช่นเดิม แต่ในช่วง 10 นาทีแรกยังไม่มีโอกาสบุกเข้าไปยิงหน้าปากประตูของ เบนฟิก้า ได้เลย

เกมเลยมาถึง นาที 58 เอสปันญ่อล มาได้ประตูที่ 3 จนได้ จากการโหม่งของวอลเตอร์ ปันดิอานี่ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลังแทนตามูโด้ โดยได้รับลูกเปิดจากทางฝั่งซ้ายของอัลเบิร์ต ริเอร่า และประตูนี้นับเป็นประตูที่ 10 ของปันดิอานี่ ในรายการนี้แล้ว

เบนฟิก้า ยังไม่ถอดใจ ไล่ขึ้นมาเป็น 3-1 เมื่อ ฟาบริซิโอ มิคโคลี่ จ่ายบอลให้กับ นูโน่ โกเมส เข้าไปยิงผ่านมือ กอร์ก้า อิไรซอซ ตุงตาข่ายในนาที 63 และอีกเพียง 2 นาทีถัดมา ทีมเยือนจากโปรตุเกส มาบวกประตูที่สองได้อย่างรวดเร็วเมื่อ ซิเมา วิ่งตัดเข้ารับบอลในเขตโทษ ก่อนจะยิงสวนตัว อิไรซอซ เข้าไป ทีมเยือนไล่มาเป็น 3-2

ช่วงเวลาที่เหลือ เบนฟิก้า พยายามโหมบุกอย่างหนักเพื่อตีเสมอให้ได้ แต่ไม่สำเร็จ จบเกม เอสปันญ่อล ชนะไป 3-2 นัดสองต้องไปเล่นกันที่บ้านของเบนฟิก้า

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เอสปันญ่อล : คอร์ก้า อิรายซอซ, ปาโบล ซาบาเลต้า, มาร์ค ตอร์เรฆอน, ดาเนี่ยล ฆาร์เก้, ฟรานซิสโก้ ชิก้า, ฟรานซิสโก้ รูเฟเต้, มอยเซส อูร์ตาโด้, อิบัน เด ลา เปนญ่า, อัลเบิร์ต ริเอร่า, ราอูล ตามูโด้, หลุยส์ การ์เซีย
เบนฟิก้า : ควิม, เนลสัน, อันเดอร์สัน, ดาวิด โมเรร่า มารินโญ่, เลโอ, จอร์จอส คารากูนิส, อาร์มันโด้ เปตีต์, เจา โกอิมบร้า, ซิเมา ซัมโบรซ่า, นูโน่ โกเมส, แดร์เล


Create Date : 06 เมษายน 2550
Last Update : 6 เมษายน 2550 12:54:46 น. 0 comments
Counter : 281 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

frank3119
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Civil Engineer, R.I.D.
Counter
Counter
Emo น้องลิง (alpha)
Emo หัวหอม (alpha)
X
X
CHALLENGE
Friends' blogs
[Add frank3119's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.