ตรวจครรภ์ครั้งสุดท้ายก่อนกลับเมืองไทย


22 ก.ย. 2553
ครั้งนี้จะว่าเป็นการตรวจครรภ์ครั้งที่ 7 ก็คงจะไม่ใช่ เพราะไม่ได้เป็นการตรวจครรภ์ตามรอบที่หมอนัด แต่เป็นการตรวจเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนบินกลับเมืองไทยต่างหาก

จากทีแรกตั้งใจไว้ว่าจะกลับต้นเดือนตุลา แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วก็เอาเป็นว่ากลับเร็วที่สุดเท่าที่จะเตรียมตัวทันก็แล้วกัน ก็ได้กลับวันที่ 26 ก.ย.ค่ะ ก่อนที่จะบินก็มาตรวจครรภ์กันเหนียวไว้ซะหน่อย พร้อมขอใบรับรองแพทย์ด้วยเลย จริงๆไม่ต้องใช้หรอกค่ะ แต่ถือไปกันเหนียวเท่านั้นเอง อีกอย่าง... ทางสายการบินเค้าขอเป็นภาษาอังกฤษ

...เหมือนโชคจะเข้าข้าง คุณหมอที่เคยตรวจด้วยเป็นประจำไม่สามารถออกเอกสารเป็นภาษาอังกฤษได้ เลยให้ไปตรวจกับคุณหมออีกคน ซึ่งใจดีโคตรๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นหมอในคลินิคเดียวกัน

หมออธิบายภาพอัลตราซาวน์ละเอียดยิบ ขณะที่หมอคนเก่าไม่พูดอะไรเลย (ลูกเจ้าของคลินิคนะนั่น) น้ำหนักเด็กเกินกว่ามาตรฐานอยู่ 200 กรัม แต่ความยาวนี่ปกติดี เสียดายที่ไม่รู้ว่าได้ลูกชายหรือลูกสาว เพราะนอนหนีบขาเรียบร้อยหาช่องว่างไม่เจอเลย หมอคนนี้พยายามดูให้ตั้งแต่เริ่มซาวน์ พอมองไม่เห็นก็ไปดูส่วนอื่นๆของเด็กก่อน ก่อนจะซาวน์เสร็จก็มาดูเพศให้อีกรอบ เพราะเด็กเคลื่อนไหวตลอด แต่ก็ไม่ยอมเปิดขาให้ดูอยู่ดี เฮ้อ.... (หมอคนเดิมนั่น ไม่แม้กระทั่งจะพยายามดูเพศให้เลยด้วยซ้ำ ถามทีไรก็ตอบกลับมาแต่ว่า “มันก็ได้แค่คาดการณ์ ถ้าอยากรู้จริงๆก็ต้องรอตอนเกิด” ...เฮ้ย มีงี้ด้วย!!)

ทำไมไม่ได้ตรวจกับหมอคนนี้ตั้่งแต่แรกวะคะเนี่ย

ส่วนผลการตรวจความห่างระหว่างปากมดลูกกับช่องคลอด ปรากฏว่าก็ยังอยู่ในระยะเท่าเดิม คือ 36 ม.ม. ยาไม่ได้ช่วยไปมากกว่านี้ แต่ก็ช่วยรักษาระดับไม่ให้มันลงมาต่ำกว่านี้ได้ หมอเลยบอกว่า

“โอ๊ย... ขึ้นเครื่องได้สบาย”

หมอดูไม่ซีเรียส หน้าตายิ้มแย้ม ถามอะไรตอบหมด ลักษณะท่าทางของหมอจากที่เดียวกันแต่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน แค่คำพูดและท่าทีของหมอที่แตกต่างกันก็ช่วยลดความเครียดลงไปได้มากมายมหาศาล ...หมอคนเดิมเค้าไม่ได้รู้เรื่องจิตวิทยาอะไรบ้างเลยหรือยังไง

แต่ถึงหมอจะพูดจาฟังดูดี ทำให้มีกำลังใจขึ้นมาก็เถอะ ยังไงก็ต้องไม่ประมาท เพราะหมอก็หยุดให้ยาเราด้วย บอกว่าให้ไปให้หมอที่เมืองไทยวินิจฉัยเอาอีกที

...เอางั้นก็ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าช่วงที่ไม่ได้กินยาเนี่ยจะส่งผลยังไงบ้าง


หมอคนนี้ค่อยถ่ายออกมาเห็นเป็นหน้าเป็นตาบ้าง ไม่ใช่เห็นแต่หัวเหมือนหมอคนที่แล้ว



Create Date : 14 ธันวาคม 2553
Last Update : 14 ธันวาคม 2553 23:26:27 น. 2 comments
Counter : 1037 Pageviews.

 
ตอนนี้กำลังเตรียมวางแผนอยากกลับไปคลอดที่เมืองไทยเหมือนกันค่ะ...ช่วยแนะนำหน่อยได้มั้ยค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง แล้วต้องไม่เกินกี่เดือน(เพราะพ่อเขาก้อยากอยู่กับลูกให้นานที่สุด ก่อนจะบินตามไปตอนใกล้คลอด)

อีกอย่างเด้กกี่เดือนถึงจะพาขึ้นเครื่องได้

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


โดย: Li Shana วันที่: 17 ธันวาคม 2553 เวลา:11:33:04 น.  

 
เข้าไปตอบที่บล็อกคุณ Li Shana มาแล้่ว แต่เอามาตอบในนี้ด้วยละกัน

- ต้องเตรียมอะไรบ้าง
เราถือแต่หนังสือฝากครรภ์ของทางญี่ปุ่นไป (เค้ามีเป็นภาษาไทยให้ เอาไปใช้ที่เมืองไทยได้เลย)

ถ้ารู้แล้วว่าจะฝากครรภ์ที่เมืองไทยกับร.พ.ไหน ก็โทรถามทางร.พ.เลยค่ะ ว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้างหรือเปล่า

- แล้วต้องไม่เกินกี่เดือน
เงื่อนไขของแต่ละสายการบินก็ไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นการบินไทยก็ตามนี้ค่ะ
ณ วันที่บิน ถ้าอายุครรภ์ตั้งแต่ 28 สัปดาห์ขึ้นไป (ไม่เกิน 33 สัปดาห์) ต้องมีใบรับรองแำพทย์เป็นภาษาอังกฤษ ที่ออกก่อนหน้าบินไม่เกิน 7 วัน แนบมาด้วยตอนเช็คอิน
แต่ถ้าบินระยะสั้น (ไม่เกิน 4 ช.ม.หรือไงเนี่ยแหล่ะค่ะ จำไม่แม่นเท่าไหร่) เงื่อนไขก็อาจจะเปลี่ยนไปอีก (แล้วแต่สายการบิน)
ของการบินไทยรู้สึกว่าจะให้ขึ้นเครื่องได้จนอายุครรภ์ 36 สัปดาห์ (ต้องมีใบรับรองแพทย์)

- เด็กกี่เดือนถึงจะพาขึ้นเครื่องได้
ของการบินไทยให้ขึ้นได้ตั้งแต่เด็กอายุ 6 หรือ 7 วันขึ้นไปนี่แหล่ะค่ะ


โดย: HappyToBeMe* วันที่: 17 ธันวาคม 2553 เวลา:12:33:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

HappyToBeMe*
Location :
Shizuoka Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




เรียนเอกญี่ปุ่น ทำงานบริษัทญี่ปุ่น แต่งงานกับคนญี่ปุ่น มาใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น บางช่วงก็เกลียดญี่ปุ่นเข้าไส้ บางช่วงก็รักใจจะขาด ไม่นึกว่าญี่ปุ่นจะมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตมากมายขนาดนี้เลยนะเนี่ย

เพื่อการอ่านหน้าบล็อคให้ได้ตามความตั้งใจของจขบ. ลองดาว์นโหลดฟอนต์ดู ที่นี่ เลยค่ะ
ขอขอบคุณคุณ iannnnn มากๆที่สร้างสรรค์ฟอนต์สวยๆให้ได้ใช้กันนะคะ

**สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพ และ ข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุดนะคะ**

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add HappyToBeMe*'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.