• test
• "แนะนำตัวกันก่อนเน้อ"
• "บอกเล่า(เรื่อง)เก้าสิบ - ก่อนวัยเรียน
• "มาอ่านหนังสือกัน"
• "ตีท้ายครัว....ว
• "ตีท้ายครัว....ว ภาค2
• "ตีท้ายครัว....ว ภาค3
• "ขอจัดดอกไม้ด้วยคน"
• "รอบรั้วทั่วบ้าน"
• "ท่องเที่ยวทั่วไทย ไม่ไปไม่รู้..."
• "นอกเขตประเทศไทย"
• "บอกเล่า(เรื่อง)เก้าสิบ - วัยเรียน"
• "ขนมของครอบครัวเรา"
• \"ขนมของครอบครัวเรา ภาค2\"
• "อาหารคาว/หวาน...จากตำราอาหารเก่าๆ..เก่าจริงๆ"
• "อาหารเช้าใส่กล่อง
• "อาหารเช้าใส่กล่อง ภาค2

พะโล้....สูตรไม่หวาน ทำพะโล้ทานคะ ลูกๆชอบทานพะโล้ จริงๆแล้วแม่แจ่มใสก็ชอบทาน แต่เดี๋ยวนี้ไปไหนก็เจอแต่พะโล้หวานๆ ไม่หวานเปล่า ไม่หอมเครื่องเทศเลย ดูเหมือนว่าแค่เอาน้ำมาต้มกับซีอิ้ว และน้ำตาลปี๊บ แล้วก็คงใส่ผงชูรส น้ำมันใสๆยังๆงไม่รู้ ลูกสาวชอบพะโล้ไก่ แบบเปื่อยๆ แม่น่ะชอบเต้าหู้ ไม่ว่าจะเป็นเต้าหู้ขาวหรือเต้าหู้ทอด ส่วนลูกชายชอบทั้งหมด ใช้ปีกไก่คะ ล้างให้สะอาด แล้วหมักกับกระเทียมพริกไทย เกลือหยาบๆ และผงพะโล้ ไม่คิดมาก ผงโลโบ้นั่นแหละสะดวกดี ตักลงไปประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ เคล้าให้ทั่ว แล้วหมักทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง วันนี้ใช้เต้าหู้ทอดแบบพวงคะ เคยซื้อแบบที่แพ็คงามๆ ตามซุปเปอร็มาเก็ตมาทำ ไม่อร่อยเลย มันไม่พอง แล้วน้ำพะโล้ก็ไม่เข้าไปข้างไหน ทานไม่อร่อย เลยกลับมาหาของดั่งเดิม แล้วก็ไปต้มไข่ไก่ แค่สามฟองคะ พะโล้บ้านนี้เน้นเต้าหู้เป็นหลัก ต้มให้สุกดี พอเย็นตัวก็ปอกเปลือกรอได้เลยคะ แล้วก็ได้เวลาทำพะโล้แล้ว ใส่น้ำมันไม่ต้องเยอะลงในกะทะ แล้วเอาไก่ที่หมักกับเครื่องพะโล้ลงไปผัด ไฟไม่แรง ผัดให้หอมๆ หอมฉุยแล้วก็เติมน้ำลงไปคะ ปล่อยให้เดือด แล้วปรุงรสด้วย ซี้อิ้วขาว ซอสปรุงรส และใช้น้ำตาลทรายแดงคะ บ้านนี้ไม่นิยมซีอิ้วดำ มีความรู้สึกว่ามันไปกลบกลิ่นอื่นๆหมด ปรุงรสแล้วก็ได้เวลาใส่ ทั้งเต้าหู้และไข่ต้มลงไป ปล่อยให้เดือด แล้วหรี่ไฟให้เดือดต่อไปอีกสักพัก ถ้าน้ำงวดลง ก็เติมเอาคะ ชิมรสให้ได้ที่เลย บ้านนี้ทำพะโล้เอาเค็มนำ แต่ไม่เข้มมาก เพราะชอบเอาน้ำพะโล้ราดข้าวกัน โดยเฉพาะลูกสาวชอบบี้ไข่กับข้าวแล้วราดด้วยน้ำพะโล้ เลยไม่ทำเค็มจัดคะ แค่นี้ก็เสร็จแล้วคะ แต่ยังไม่ทานทันทีนะคะ แม่แจ่มใสจะเก็บไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยทาน พวกพะโล้ จับฉ่าย แกงส้ม นี่ทานทันทีไม่ค่อยอร่อยนะ ค้างคืนสักหน่อยมันเข้าเนื้อดีจริงๆ ถ่ายจากกะทะลงหม้อ พอหายร้อนก็เอาเข้าตู้เย็น รอ...ไปก่อน .... อดทนไว้โยม.....   Create Date : 29 กันยายน 2552     Last Update : 29 กันยายน 2552 9:32:23 น. Counter : 2149 Pageviews.   19 comment Share Tweet

กับข้าวต้ม......ปลาสวายแดดเดียว เมื่อวานฝนฟ้าถล่มทลาย รถติดมหาศาลนะคะ ขนาดแม่แจ่มใสเดินทางอยู่รอบๆนอกของกรุงเทพ ยังเจอพิษรถติดเลย ฟังจ.ส.ร้อย โห..ในเมืองเป็นอัมพาตเลย แล้วตอนนี้ยังไม่เที่ยงเลย ฝนตั้งเค้ามาอีกแล้ว ไม่รู้เป็นไง พอตากผ้าหรือถ้าล้างรถ จะมีเมฆดำมาทันที....ไม่เข้าใจ สองสามวันก่อนไปเดินซุปเปอร์เล็กๆแถวบ้าน ที่นี้ก็ดีค่ะ มีของที่บางอย่างคล้ายในตลาด มีมันแกวขายเป็นหัวด้วย แต่ที่ถูกใจคือปลาสวาย บางคนคงไม่ทาน จะด้วยเหตูผลอะไรก็แล้วแต่ แต่บ้านนี้ทานทุกอย่างคะ ปลาสวายนี้ของชอบเลย เนื้อนุ่มๆ ก้างน้อยๆ ทานสะดวก จริงๆแม่แจ่มใสชอบทานแกงกับหน่อไม้ แต่ลูกๆชอบแบบทอดคะ เลยซื้อมาสามชิ้นย่อมๆ เอามาทำปลาแดดเดียว มื้อเย็นทานข้าวต้มกัน ปลาสามชิ้นนี้ไม่ค่อยมีมันคะ ดีจริงๆ หมักกับกระเทียมพริกไทย และน้ำปลาสักสามช้อนโต๊ะ กับน้ำตาลทรายแดงประมาณ หนึ่งช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าเบาๆ แล้วหมักไว้สักครึ่งชั่วโมงค่ะ ถ้าไม่ลืมก็แวะเวียนไปคลุกเคล้าบางนะคะ หลังจากนั้นก็เอาขึ้นมาใส่ลงในตะกร้าหรือตะแกรงก็ได้ค่ะ แล้วแต่ถนัด เอาไปตากแดดเสียหน่อย แม่แจ่มใสมีกระชอนพลาสติกแบบนี้คะ สองอันนี้สามารถเอามาประกบกันได้ จะมีเดือยเพื่อเกี่ยวกันเป็นเหมือนบานพับได้ จริงๆเอาไว้ใส่ผักและเขย่าๆให้สะเด็ดน้ำคะ แต่วันนี้เอามาตากปลาจะได้กันแมลงวันด้วย ตากไว้อย่างนั้นหลายชั่วโมงเหมือนกัน แต่ต้องคอยแวะไปดูหน่อย กลัวมดคะ ช่วงนี้มดเยอะจริงๆ แค่นี้แหละค่ะ พร้อมจะทอดได้แล้ว ตากจนแห้งแบบนี้เวลาทอดไม่ต้องเสี่ยงตาย ไม่เหมือนทอดปลาสดๆ ...น่ากลัว... เสร๊จแล้วค่า..... ทานกับข้าวต้มคะ มีผัดผักกวางตุ้ง แล้วก็แถมผักกาดดองด้วย มีของหวานด้วย ตะโก้แห้วจากร้านหวานดำรงค์คะ อร่อยคะ หวานกำลังพอดี แม่แจ่มใสไม่ได้ไปซื้อหรอกคะ เพื่อนบ้านแวะไปธุระแถวนั้น แล้วซื้อมาฝากคะ .... น่ารักจริงจริ๊ง ข้างๆนั้นคือขนมปังหมูหยองคะ ... ทำเอง ... วันนี้ได้มาแบบนุ่มๆคะ ..เยี่ยมไปเลย   Create Date : 26 กันยายน 2552     Last Update : 26 กันยายน 2552 11:44:26 น. Counter : 4155 Pageviews.   8 comment Share Tweet

มันฝรั่งอบ อาหารเช้าจานใหญ่ ไม่ค่อยได้ใช้เวลากับเรื่องในครัวเสียนานคะ ยุ่งๆกับเรื่องสอบของลูกไปแล้ว ต่อมาก็เรื่องการเรียนที่ใหม่ ต้องปรับเรื่องเวลากันทั้งแม่ ทั้งลูก จะว่าไปก็สบายขึ้นมาหน่อย เพราะไม่ต้องออกเช้าเท่าตอนไปโรงเรียน มีเวลาเอ้อระเหย ทานอาหารเช้ากันที่บ้าน ไม่ต้องทานในรถแล้ว เพราะลูกเรียนเก้าโมง แต่คงเป็นแค่ยกแรก เพราะช่วงนี้แค่เรียนปรับพื้นฐาน เดือนพ.ย. เรียนจริงๆ ไม่รู้ว่าต้องปรับอะไรอีก เลยไม่ค่อยได้ใช้เวลาในครัวเลยคะ ทานกันง่ายๆ เท่าที่จะนึกออก มันก็เลยวนเวียนซ้ำไปมา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเลยทำอะไรแบบตั้งอกตั้งใจหน่อย เดี๋ยวลูกชายจะแย่ เพราะอยู่ประจำก็ทานแต่ข้าวอยู่แล้ว เลยอบมันฝรั่งทานคะ แต่ไม่ได้อบทั้งหัวนะคะ กลัวสุกช้า เลยหั่นบางๆแล้วอบ ใช้มันฝรั่งสองหัวใหญ่ หั่นขวางบางหน่อย แล้วก็แครอทอีกครึ่งหัว วางลงในถาด เหยาะน้ำมันมะกอก เกลือ พริกไทย วันนี้ปรุงรสแค่นี้คะ ไม่ใช้ซอสใดๆ เอาเข้าเตาอบ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณเกือบ 40 นาที ไฟประมาณ 240c อบไปสัก 20 นาที ก็เอาออกมา ตักเนยใส่ลงไปหน่อย คลุกเบาๆให้เข้ากัน แล้วเข้าเตาอบต่อ อบต่อไปอีกสัก 10 นาที แม่แจ่มใสก็เอาออกมาอีกคะ คราวนี้เอาเชดด้าชีสฉีกเล็ก และวางบนมันฝรั่ง ไม่วางทุกอันนะคะ เพราะแม่แจ่มใสกะว่าไม่ทานชีสคะ อันที่มีชีสเอาไว้ให้ลูกๆทานกัน แล้วโรยออริกาโน่ด้วย อบต่ออีกแป๊บ พอให้ชีสละลาย ระหว่างที่อบมันฝรั่งแม่แจ่มใสก็เตรียมอย่างอื่นไปด้วยคะ อันนี้เป็นเนื้อคะ ค่ออนข้างจะไม่มีมัน เลยไม่เอาเข้าอบคะ เดี๋ยวจะยิ่งแห้ง กรอบไปเสียก่อน ใช้วิธีเอาลงกะทะที่ทาน้ำมันบางๆ อ้อ....มีผักกาดแก้วด้วยคะ .... เนื้อน่ะ ทานกันคนละชิ้นพอแล้ว นอกนั้นทานผักกันคะ ขอกาแฟถ้วยโตๆ วันนี้ไม่ใส่น้ำตาล แต่ใส่นมสดแทน แม่แจ่มใสทำอาหารไม่ค่อยมีสูตรอะไรแน่นอน เพราะขึ้นกันวัตถุดิบที่มี ความคิดมันจะค่อยๆไหลออกมาเรื่อยเปื่อย ทำไป คิดไป มั่วไปคะ อะไรที่ทำแล้วอร่อยๆ คราวหน้าอาจไม่เหมือนเดิมอีกแล้วคะ ถ้าอร่อยก็ทานเยอะๆ แล้วลืมๆไปซะ เดี๋ยวคราวหน้าอาจจะได้รสแบบอื่นแทนคะ   Create Date : 24 กันยายน 2552     Last Update : 24 กันยายน 2552 11:31:09 น. Counter : 755 Pageviews.   11 comment Share Tweet

ข้าว..ผัดคะน้า และ หมูกรอบ หายไปนานคะ ธุระเยอะแยะ วันนี้ลูกสาวไปเรียนมหาวิทยาลัยเป็นวันแรก ..... จากเด็กนักเรียนตัวเล็กๆ จูงไปส่งโรงเรียน แป็บๆเป็นสาวแล้ว... คงปรับตัว ปรับเวลา กันอีกนิดๆหน่อยๆน่าจะลงตัวคะ วันนี้มีข้าว กับผัดผักคะน้า และหมูกรอบมาฝากคะ ไม่ใช่คะน้าหมูกรอบนะ บ้านนี้ไม่ผัดคะน้ากับหมูกรอบ เพราะเสียดายความกรอบของหมู เลยจับแยกกัน หมูกรอบวันนี้ทำจากหมูสามชั้นต้ม ตั้งแต่สารทจีนคะ แช่แข็งไว้ ต้องเอาออกมาวางให้น้ำแข็งละลาย โดยใส่กะละมังแล้วไปตากแดดเลยคะ วันนี้แดดดี แป็บเดียวใช้ได้เลย ตากแดดให้น้ำแข็งละลาย แล้วเอาส้อมจิ้มให้พรุนคะ แล้วก็โขลกกระเทียมพริกไทย รากผักชีคะ หมักหมูสามชั้นต้ม ด้วย รากผักขี กระเทียม พริกไทย และเกลือคะ หมักสักครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นก็เตรียมคะน้าคะ ล้าง และหัน สไตล์ใครสไตล์มันเนอะ... จากนั้นก็ไปเตรียมทำแกงจืดหัวไชเท้าคะ เอาไว้ซดร้อนๆ แม่แจ่มใสต้มหัวไชเท้ากับปลาหมึกแห้ง ไอ้ปลาหมึกดึกดำบรรพ์นี่ก็ของไหว้เจ้าเหมือนกัน เอากรรไกรตัดปลาหมึกเป็นชิ้นเล็กๆ ล้างหนึ่งรอบ และแช่น้ำให้นิ่มคะ หั่นหัวไชเท้าด้วยนะคะ อย่าลืมล่ะ ตั้งน้ำให้เดือด ใส่คนอร์เล็กน้อย ใส่ปลาหมึกลงไป พอเดือดอีกรอบก็ใส่หัวไชเท้า เปิดไฟอ่อน ตุ๋นให้หัวไชเท้านิ่ม ปรุงรสด้วย ซีอิ้วขาว และ พริกไทย จากนั้นก็ถึงเวลาระทึกใจ..... ทอดหมูกรอบกัน......เตรียมกะทะแบบก้นลึก และมีฝาปิดคะ เพราะเวลาน้ำมันกระเด็นทีหนึ่ง ..... น่ากลัว....ว..... ไม่ต้องบรรยายนะคะ....อารมณ์และความรู้สึกของความ...กรอบ...มันอยู่ในรูปแล้ว มื้อนี้ลูกชายขอรับหน้าที่ผัดผักคะน้าคะ ไม่เคยทำมาก่อน ขอลองสักตั้ง ก่อนลงมือ ก็ให้แม่เล็คเชอร์ก่อนว่าเตรียมอะไร ขั้นตอนอย่างไร แล้วปล่อยให้ทำเองคะ ไม่ไปยืนดู เดี๋ยวประหม่า ผัดกับกระเทียม น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว เติมน้ำขลุกขลิก และใส่แป้งข้าวโพดนิดหน่อยพอ ได้อาหารคนละจาน พร้อมแกงจืดคนละถ้วย หน้าตาแบบนี้คะ หมดคะ...เกลี้ยงเลย หมูกรอบจากสามชั้นดึกดำบรรพ์ ไม่มีเหลือซากเลย...   Create Date : 21 กันยายน 2552     Last Update : 21 กันยายน 2552 11:11:54 น. Counter : 885 Pageviews.   10 comment Share Tweet

Homemade Hamburger ไม่ได้ลง blog นานเลย ด้วยเหตุผลที่กล้องเสีย ตอนนี้อาการก็ยังเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายคะ น่าจะเป็นปัญหาที่เรื่องเลนส์ ยังไม่ได้เอาไปร้านซ่อมเลย ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง บวกกับธุระอื่นได้วย เลยเว้นว่างยาวเลย แต่ยังต้องทำ และ ทานอาหารอยู่ทุกวัน วันละสามมื้อเหมือนเดิม ภาระกิจใหม่ที่จะมีผลต่อวิถีการดำเนินชีวิตกำลังมาถึงแล้ว ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนมากน้อยแค่ไหน แต่เลี่ยงไม่ได้แน่นอน คือลูกสาวจะเริ่มเรียนมหาวิทยาลัยในอาทิตย์หน้าแล้วคะ มาถึงเร็วกว่าปกติเกือบสองปี กำลังทำใจอยู่ ตื่นเต้นกันทั้งแม่ทั้งลูก เออ....ลูกสาวตัวเล็กไม่เมื่อนานมานี้จะแต่งชุดนักศึกษาแล้ว...ว คงต้องปรับเปลี่ยนกิจวัตกันบ้างละ วันนี้มี hamburger มาฝากคะ เป็น homemade นะ เวลาลูกๆอยากทาน burger ก็มักไปทานกันที่ร้าน หรือซื้อแบบแช่แข็งมาทอดทานที่บ้าน เวลาทานก็อดนึกถึงที่เขาบอกกันต่อๆมาว่า เนื้อพวกนี้มาจากส่วนไหนบ้างก็ไม่รู้ จินตนาการกันไป บางทีเลยไม่อยากทาน เคยซื้อเนื้อบดดีๆมาทำ ก็รู้สึกว่ามันแห้งๆ คิดเอาเองว่า ที่ซื้อเขาทานมันอร่อยเพราะเป็นเศษเนื้อมั้ง เพราะมันจะมีมันบ้าง เอ็นบ้าง พังพืดบ้าง ปนๆกันมา ถ้างั้นเอาเศษเนื้อมาทำดีกว่า ว่าแล้วก็ไปซื้อเศษเนื้อมาคะ เอามาเลือกๆ เฉือนๆมันและพังพืดออกบ้าง เหลือไว้บ้างบางส่วน ส่วนที่ไม่เอาก็เสร็จน้องหมาทั้งหลาย ไม่ได้ถ่ายขั้นตอนการผสมและนวดเนื้อนะคะ ตอนนั้นกล้องกำลังรวนเลย เริ่มจากเอาเศษเนื้อที่ได้มาล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ แล้วเอาไปบดคะ ใส่ food processer เลย แล้วก็เอาหอมใหญ่สับ ไม่ต้องละเอียดมากคะ ไปผัดกับเนยเล็กน้อย ให้หอม แล้วใส่ตามเนื้อลงไป ใส่แป้งสาลีลงไปเล็กน้อย พรมน้ำนิดหน่อย และปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย นวดให้เหนียว ปั้นเป็นก่อนกลมๆ แล้วกดให้แบนๆ จากนั้นเอาแต่ละชิ้นห่อด้วยพลาสติก แล้วเข้าช่องแข็งคะ แม่แจ่มใสแช่แข็งไว้เลยคะ จะทานวันไหนค่อยเอามาทอด หรือย่าง เคยทำเสร็จแล้วทอดเลย เนื้อมันแตกออก ไม่สวยเลย วันที่เอามาทอด พอดีว่ากล้องใช้งานได้บ้าง แต่บางครั้ง Focus lมีปัญหา เลยออกจะเบลอๆหน่อย ขนมปังซื้อจาก foodland คะ เวลาทำขนมปังเองมันจะออกมานูนๆ ทำ burger ไม่ค่อยสวย และเวลาทานต้องอ้าปากกว้างๆ....ง...ง แล้วก็มี chedda cheese กับ mustard แตงกวาดองไม่มีที่นิยมของบ้านนี้ เลยไม่ใส่คะ ทานแค่นี่แหละ แล้วก็เตรียมผักกาดแก้วไว้ด้วย เอาเนื้ออกจากช่องแข็ง วางทิ้งไว้สัก 10 นาทีคะ แล้วลงทอด ใช้น้ำมันนิดเดียว พอไม่ให้ติดกะทะ ทอดให้เป็นสีน้ำตาลทั้งสองด้านเลย เสร็จแล้วเอาขึ้นจากกะทะ วางบนกระดาษซับน้ำมันก่อน แล้วค่อยประกอบเป็นburger คะ เอาเนื้อวางบนขนมปัง ป้ายด้วยมัสตาร์ท วางชีส และขนมปังอีกอัน เอาไปอบให้ชีสละลาย ทานตอนร้อนๆ แกล้มกับผักสลัด นุ่มอร่อยคะ ใช้เศษเนื้อนี่มันอร่อยดีจริงๆ เศษเนื้อที่เราทำเองทานไปก็ไม่มีจินตนาการต่างๆนานา รู้สึกอร่อยกว่าเยอะคะ   Create Date : 14 กันยายน 2552     Last Update : 14 กันยายน 2552 8:58:15 น. Counter : 1159 Pageviews.   11 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com