Group Blog
 
All blogs
 

My B-Day

ให้ตายสิ .... ผ่านมาอีก 1 ปีแล้ว ... พึ่งบ่นหยกๆว่าทำไมปีหนึ่งๆ มันผ่านไปไวจัง .. แล้วมันก็ผ่านมาอีกแย้ว ...

ปีที่ผ่านมา มีเรื่องเกินขึ้นมากมาย ทั้งดี และไม่ดี ทั้งที่เปิดเผย และเป็นเรื่องลับส่วนตัว .. จะเรื่องดีใจ เสียใจ พอใจ ขัดใจ มันก็จบไปแล้วหนึ่งปี - ปีนี้ก็จะก่อเรื่องใหม่ๆอีก

สามีให้ตอบคำถามว่า มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร - ตอบไม่ได้เพราะเป็นคนคิดตื้น คิดสั้น - มีชีวิตอยู่เพื่อวันนี้ที่มีความสุข ทำให้คนรอบข้างมีความสุข ... ไม่รู้พอมั๊ยสำหรับการมีชีวิตอยุ่ของคนๆหนี่ง แต่พอใจสำหรับตัวเองแล้ว

เรื่องที่ประสบความสำเร็จปีที่แล้ว มีหนึ่งเรื่องที่ภูมิใจก็คือลดน้ำหนักได้ ตามที่ตั้งใจในเวลา 6 เดือน จาก 69.4 กก. เหลือ 55 กก. แต่ตอนนี้มีแอบขึ้นมา 2 กก เพราะตามใจปากอีกแล้ว -

ขอโทษที่ลืมวิธี up load รูปไปแล้ว - ต้องกลับไปศึกษาก่อน แล้วจะเอารูป before&after มาอวด




 

Create Date : 01 มิถุนายน 2550    
Last Update : 1 มิถุนายน 2550 17:47:03 น.
Counter : 736 Pageviews.  

เฮ้อ!!! ... อะไรเนี่ย..วันเกิดอีกแล้วเหรอ...

ปีๆหนึ่งทำไมมันผ่านไปไวนักหล่ะเนี้ย .... พึ่งจะผ่านวันเกิดปีที่แล้วไปมันวนกลับมาอีกแย้ว ... ไม่แก่ไวตายเหรอเนี้ย ..

ทั้งปีทำความดีไปแค่ไหนก็ไม่ได้จำ ทำความเลวไว้แค่ไหนก็ไม่รู้ ขอให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนการการกระทำของเราทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจช่วยยกโทษให้ด้วยนะ (ขอกันดื้อๆ) ... ครบ 3 รอบ ปีนี้จะตั้งใจทำแต่ความดี ... ถ้าเผลอทำความไม่ดีไป ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าไว้ก่อนเลย ...

จะรักลูก รักสามี รักแม่ และพี่น้องอย่างสม่ำเสมอ จะตั้งใจทำงานอย่างดี จะตั้งใจเที่ยวเหมือนเดิม จะตั้งใจประหยัดอย่างจริงจังสักที ... แค่นี้แหล่ะสำหรับปีนี้...




 

Create Date : 02 มิถุนายน 2549    
Last Update : 2 มิถุนายน 2549 9:13:34 น.
Counter : 462 Pageviews.  

จ๊..า....ก.....ลูกรักต้องใส่แว่นสะแล้ว....

สายตาสั้นเป็นกรรมพันธ์อย่างหนึ่งที่พ่อ+แม่มอบให้ลูกรักด้วยความจำใจ ... น้องแซนด์วิชกำลังจะ 7 ขวบเดือนมีนาคมนี้ก็ต้องใส่แว่นสะแล้ว ... หมอสูติได้บอกไว้แต่แรกเลยว่าแซนด์วิชเกิดมาพร้อมของแถมแน่ๆคือสายตาสั้น ไม่ให้สายตาสั้นได้ไงหล่ะ ก็คุณตา+คุณยาย คุณลุง คุณน้า สายตรงรวมทั้งแม่ ใส่แว่นกันถ้วนหน้า ส่วนครอบครัวของคุณพ่อน้องแซนด์วิชเองก็ไม่น้อยหน้า ลุงทั้ง 3 และคุณพ่อใส่แว่นหมด ...

สังเกตุมาได้สักพักว่าเวลาน้องแซนด์วิชดูทีวี จะหยีตาตลอด หรือไม่ก็เดินไปยืนหน้าทีวีเลย ปรึกษาคุณลุงหมอก็ให้รีบไปพบจักษุแพทย์ ได้เรื่องเลย คุณหมอให้หยอดยาขยายม่านตาเพื่อวัดสายตาทันทีที่ทราบประวัติ สรุปว่าหนูสายตาสั้น 175 - โอ้โฮ้ ไม่น้อยเลยนะเนี่ยสำหรับเด็กตัวแค่นี้ ... คุณหมอสั่งให้ใส่แว่นโดยด่วนเพราะถ้ารอไปสายตาจะยิ่งแย่ สั้นเร็วขึ้นไปอีก


น้องแซนด์วิชก็ตัวเล็กนิดหนึ่ง ผอมกระหร่อง หาแว่นให้พอดีหน้าก็แสนยากเย็น ทั้งตู้ได้มาอันเดียว เล็กสุดๆ แพงสุดๆ แต่ถูกใจน้องหนูสุดๆเหมือนกัน ก็เป็นลายหมีพูท์ ตรงขาแว่นและกล่อง


ไปโรงเรียนวันแรกหลังจากใส่แว่น .. เพื่อนๆบอกว่าหน้าแก่ ทำให้ลูกรักไม่อยากใส่แว่นเลย ถัดมาอีกไม่กี่วันแว่นขาถ่างจนใส่ไม่ได้ ต้องพากันไปร้านแว่นแถวบ้านให้ดัดให้ เลยถามหาแว่นตาไซส์นี้เผื่อทำสำรองไว้อีกอัน ร้านก็บอกว่าหายากมาก ส่วนมากร้านแว่นจะไม่มีไซส์เล็กไว้เพราะไม่ใช่กลุ่มลูกค้า เฮ้อ...ถ้ามันพังไปทำไงดีเนี้ย ...



แซนด์วิชคงต้องมีชีวิตอยู่กับแว่นตาไปอีกนาน น้องชอบอ่านหน้งสือ และเล่นเกมส์ ซึ่งมีส่วนทำให้สายตาสั้นเร็วขึ้นอีก ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะสามารถทำเลซิคได้ และก็ไม่รู้ด้วยว่าจะกล้าทำมั๊ย ก็แม่มันยังไม่กล้าเล้ย .. ใส่คอนแทคเลนส์ไปก่อนแล้วกัน




 

Create Date : 31 มกราคม 2549    
Last Update : 31 มกราคม 2549 10:54:39 น.
Counter : 2894 Pageviews.  

รู้ไหม...การคลอดลูกน่ะ สนุกกว่าอะไรทั้งนั้น

ใครๆก็กลัวการคลอดลูก ฮ่ะฮ่า ไม่ใช่เรา ... อาจมีบ้างที่เรียกว่ากังวล ก็คนมันไม่เคยนี่นา ไม่ศึกษาอะไรมาก มั่นใจว่าหมอแน่จริง (หมอหล่อด้วย) รพ.ก็แค่ปากซอยบ้าน ฉุกเฉินก็นั่งมอร์ไซด์ไปได้เลย (อันนี้ก็เว่อร์ไป...) มันเป็นความรู้สึกอยากเห็นหน้าตั้งแต่รู้ว่ามีอีกหนึ่งชีวิตในพุงอันไม่น้อยของเรา .. เมื่อไรจะได้เจอกันสักที อยากคลอดแล้ว อยากเห็นแล้ว ก็เลยเป็นส่วนทำให้ไม่กลัวด้วยหล่ะมั้ง อีกส่วนคงอยู่ที่หมอสูติด้วย คิดเอาไว้แต่แรกว่าต้องหมอผู้ชายเท่านั้น เพราะถ้าเป็นหมอผู้หญิง she ก็จะบอกว่าเจ็บแค่นี้เอง หมอเคยมาแล้ว ไม่เท่าไร ประมาณเนี้ย แต่ถ้าหมอผู้ชายจะมาแนวเห็นอกเห็นใจ ปลอบโยนเพราะเขาไม่เคยเจ็บแบบนี้มาก่อนแน่ๆ และแล้วเหมือนฟ้าบรรดาลให้ได้เจอคุณหมอสุดหล่ออารมณ์ขัน

โชคดีที่ตอนท้องก็อารมณ์ดี๊ดี ไม่แพ้ท้องเลย แถมโฮโมนขยันขึ้นอีกต่างหาก ถ้าไม่ไปทำงานจะรู้สึกหงุดหงิด อ้อ ยกเว้น ช่วง 2-3 เดือนแรกที่ตกบ่ายขอนอนสักงีบ ตื่นมาก็กลับสู่ภาวะปรกติได้แล้ว .. ทำงานจนวันก่อนคลอดก็บ๊าย บาย เพื่อนที่ทำงาน บอกไว้ว่าจะไป admit แล้วนะ พรุ่งนี้คลอดตอนเช้า ..

ตั้งแต่ฝากท้องคุณหมอสั่งไว้ว่าให้คลอดเองธรรมชาติ เลือกวันได้ กำหนดเวลาไม่ได้เท่านั้นเอง คุณสามีรีบไปหาฤกษ์เลย รู้อยู่แล้วว่าเป็นลูกชาย อ่ะนะ วันพฤหัสดีสุด เอาละ 4 มีค. 42 นี่เจ๋งสุดแล้ว ขอให้รีบเบ่งๆให้ลูกเกิดก่อนบ่ายโมงเป็นใช่ได้ ...

เล่าละเอียดเลยนะ .... ใครไม่อยากรู้ก็ข้ามๆไปแล้วกัน ...คืนก่อนคลอดก็เข้าไปนอนเล่นเย็นใจที่ รพ. ตกดึกคุณพยาบาลก็มาสอดยาเพื่อเร่งให้ปากมดลูกเปิด ตอนนี้ไม่ชอบเลย ไม่เจ็บนะ แต่มันก็ไม่สะดวกเท่าไร คิดดูดิ มียาอะไรสักอย่างที่เม็ดใหญ่มากสอดเข้าไปนะเป็นยังไง!!!! ตื่นมาแต่เช้าก็อาบน้ำ สระผม รอไปห้องคลอด ก็ยังเฉยๆอยู่นะ แล้วก็ถูกพาไปทำความสะอาดอีกรอบ และมานอนรอที่ห้องรอคลอด คุณสามีก็ตามเข้าไปรออยู่ด้วย

โชคดีจริงๆ ที่มีเรารอคลอดอยู่คนเดียว ยึดห้องไว้เลย ไปอยู่ในห้องคลอดตอนสัก 8โมงเช้าแล้ว นอนคุยกับคุณสามีไปเรื่อยๆ พยาบาล แม่บ้าน หมอ ใครมาก็ชวนคุยไปหมด ตอนนี้เขาจะเริ่มมาต่อสารพัดสายใส่เรา ทั้งน้ำเกลือ สายวัดการบีบรัดของมดลูก สายวัดชีพจร ตอนรอให้ช่องคลอดเปิดมันนานจัง และก็จะมีอาการปวดท้องเพราะมดลูกบีบตัวเป็นระยะๆ ปวดพอทน ไม่ถึงกับปวดดิ้น คุณหมอสูติของเราก็จะมาตรวจ และเป็นกำลังใจเป็นระยะๆเช่นกัน ตรงนี่ละสำคัญ เพราะการตรวจของหมอก็คือต้องเช็คว่าช่องคลอดเปิดไปกี่เซนต์แล้ว นึกภาพออกมั๊ยว่าต้องตรวจยังไง ต้องใช้นิ้วเช็คใช่มั๊ยค่ะ แล้วคุณหมอนี่เป็นคุณหมอผู้ชาย นิ้วยาวตรวจได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทันรู้สึกเจ็บด้วยซ้ำ มันผิดกับคุณพยาบาลผู้หญิงที่นิ้วสั้นทำให้การตรวจไม่สะดวกเท่า (เหตุผลนี้ทำให้เลิกอายหมอสูติผู้ชายไปเลยนะเนี่ย) และแล้ววิสัญญีแพทย์ก็มาอธิบายเรื่องการบล๊อคหลังให้ฟัง แล้วให้เลือกเอาเองว่าจะทำมั๊ย โฮ... ไม่ทำก็บ้าดิ ปวดท้อง ปวดมดลูกตายกันพอดี เขาก็จะต่อท่อใส่ยาจากหลังเรา ตอนนี้ปากมดลูกเปิดไปสัก ประมาณ 3-4 ซม.ได้ หมอจะรีบทำให้เพราะไม่งั้นจะปวดท้องมากเกินไปแล้วบล็อคลำบาก แล้วการบล๊อคก็จะทำให้ลดอาการปวดไปแค่ 70-80% เท่านั้นนะ เพราะคนจะคลอดต้องอาศัยเร่งเบ่ง ถ้าไม่ปวด (ไม่ว่าปวดท้องไหนๆ) มันก็เบ่งไม่ออกใช่ป่ะ เลยต้องให้เจ็บปวดกันเล็กน้อย โชคดีที่หลังจากบล็อคหลังไปไม่นาน แค่พริบตาปากมดลูกดันเปิดรวดเดียวเกือบ 10ซม.ซึ่งหมายความว่าจะคลอดแล้ว คุณพยาบาลต้องรีบปิดน้ำเกลือ ตามจิกหมอมาจากห้องตรวจ OPD และพาเราเข้าห้องคลอด (ก็อยู่ติดๆกันนั้นแหล่ะ) ดูวุ่นวายกันไปหมด ไอ้เราคนจะคลอดนอนเฉยๆรอคลอดอย่างเดียว

และแล้วหมอสุดหล่อของเราก็มา แถมยืนยันอีกว่าคนเนี้ยคลอดไปหัวเราะไปแน่นอน ก็หมอทำคลอดไปเล่าเรื่องตลกไป เราก็หัวเราะดิ 5555 .... พยาบาลเยอะจัง มาทำอะไรกันก็ไม่รุ๊ สงสัยว่างเลยมาเชียร์ มาช่วยเบ่ง ลูกเราก็แสนน่ารัก เบ่งไปไม่กี่ที ยังไม่เหนื่อยเลย ก็ออกมาสะแล้ว จริงๆนะมันเหมือนกันปวดท้องอึ๊จริงๆ ที่แบบว่าเมื่อไรมันจะออกมาให้สุดๆไปสะที อารมณ์ประมาณนั้นแหล่ะ ดังนั้นคนที่จะคลอดทั้งหลายไม่ต้องห่วงเลย ถ้าเบ่งอึ๊เป็น ก็คลอดลูกได้แล้ว ... เห็นมั๊ยคลอดลูกเองได้ ง่ายนิดเดียว ...

คลอดมาปุ๊บจะมีพยาบาลขานเวลา (12.52) อีกคนจดเวลา ทำงานกันเป็นระบบจริงๆ หมอสูติจะเอาลูกมาวางให้อุ้มเลย แล้วให้คุณพ่อตัดสายสะดือด้วย และหมอก็ปฎิบัติภาระกิจการประกอบแผลให้คุณแม่ต่อไป ซึ่งยาจากการบล๊อคหลังจะช่วยได้มาก เราไม่รู้สึกเท่าไรหรอกว่าหมอทำอะไรอยู่ หมอก้มหน้าก้มตาทำงานไปแป๊บเดียวเอง เราก็เพลินอยู่กับลูกไปสิ หมอเด็กที่มารอรับลูกเรา ก็ช่วยถ่ายรูปให้ด้วยนะ ชื่นชมลูกได้สักพักหมอก็เอาลูกเราไปห้องเด็กแล้ว .. พ่อมันก็ทิ้งแม่มันไป เดินตามลูกไปติดๆ .. คนคลอดต้องรออยู่ในห้องคลอดเพื่อสังเกตุอาการไปอีก 3 ชม. พยาบาลบอกให้นอนหลับไปเลยก็ได้ แต่มันตื่นเต้นอยู่ง่ะ ใครจะหลับลงฟ่ะ ทีนี้ละใครเดินผ่านไปผ่านมา เจอเราเรียกคุยหมด ... หลังจากครบสามชั่วโมงอันยาวนานในการรอคอย ก็ได้กลับเข้าห้องพักของตัวเองแล้ว ไม่มีใครอยู่รอเราเลย ไปเกาะห้องเด็กกันหมดแย้ว .. ไปดูเจ้าตัวจ้อยคนนี้กันไง






 

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2548 15:48:08 น.
Counter : 4489 Pageviews.  

ป่อง ป๊อง ป่อง

......



ป่อง ป๊อง ป่อง ตะลุ้บ ตุ๊มป่อง
เมฆตัวพอง ลอยอยู่บนฟ้า
ตุ๊บป่อง ตุ๊บป่อง ตะลุ้บ ตุ๊มป่อง
เมฆตัวพอง ลอยอยู่บนนภา


อยู่บนนั้น มันเย็นไปหน่อย
เมฆเลยต้องลอยกอดกัน
เมฆใหญ่ๆ อ้วนๆ ทั้งนั้น
กอดกัน มันยิ่งอ้วนใหญ่
ท่าทาง จะทนไม่ไหว
ร้อง บอกกันใหญ่
ว่าช่วยกันลด น้ำหนัก

เลยพากันแยก แต่ไม่ได้ผล
ทิ้งตัวลงพื้นดิน
เป็นฝนชุมฉ่ำ สดชื่นเห็นๆ
แสนเย็น ให้เราทุกคน
ป่อง ป๊อง ป่อง ตะลุ้ม ตุ๊บป่อง

....ระบำชุดเมฆ นำเสนอโดย ดช. แซนด์วิช เจ้าตัวเล็กประนจำบ้านตัวพี ......




 

Create Date : 02 กันยายน 2548    
Last Update : 2 กันยายน 2548 16:05:27 น.
Counter : 1010 Pageviews.  

1  2  

nidsumanus
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add nidsumanus's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.