All Blog
สาวไฮเปอร์หัวใจติส ติสยี่สิบจุดสอง


บทนี้เขียนยากมากเลยคะ เขียนแล้วลบ หลายหนเหมือนกัน คนเขียนโลเลซะเอง
ตอนนี้เปิดตัวเจ้าพ่อเหมืองเพชรสามีของจุมพิตาซะทีหลังจากถูกแอบอ้างชื่อมาตลอด อิอิ

กว่าจะลงตัวทำเอาพล็อตที่วางไว้แต่แรก งอกขาออกมาได้อีกคะ ผู้เขียนหลายใจไม่ได้ตั้งใจเลยจริง ๆ



*.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ * *.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎*.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ *✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ *




ติสยี่สิบจุดสอง



*.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ * *.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎*.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ *✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ *


ในห้องนอน....
หลังจากพายุอารมณ์ผสมพายุใคร่สงบลง ความเสียใจฉาบเต็มบนหน้าหล่อเหลา ตาสีฟ้าเข้มมองร่างงามนอนตะแคงเห็นแผ่นหลังเปล่าเปลือยเผยเห็นรอยจ้ำบนผิวขาวนวลเนียน มือหนาเอื้อมสัมผัสเพียงแค่แตะแผ่ว ร่างอรชรสะดุ้งและถดหนีตามด้วยเสียงสะอื้นกระซิกแผ่ว

“ผมขอโทษ”
น้ำเสียงสำนึกผิด เสียงแผ่วหวีดเล็ดรอดออกมาจากหญิงสาว แม้จะเบาเพียงใดแต่กลับดังก้องในหูของอังวาห์

“ไปนะ ไปให้พ้น”
“จูน ผมขอโทษ ที่เผลอรุนแรงกับคุณ”

จุมพิตาลุกนั่งหันมาแหวใส่สามีโดยไม่สนใจเนื้อตัวยังเปล่าเปลือยว่าจะทำให้อีกฝ่ายอารมณ์ไหวอีกครั้ง นัยน์ตาแดงช้ำมีน้ำใสขังบ่งบอกถึงความเจ็บปวด เมื่อได้ยินน้ำเสียงอาทรจากเขาถ้าเป็นเวลาอื่น จุมพิตาคงอ่อนใจและยอมยกโทษให้ แต่ครั้งนี้มันเป็นเรื่องที่น่าอดสูเหลือเกิน คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีใช้กำลังบังคับข่มเหงเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว

“ใช่ คุณมันก็แค่คนที่ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่า”

น้ำเสียงหมิ่นเหม่ดูแคลนของจุมพิตา ทำเอาประกายตาสีน้ำเงินเข้มจ้าไม่พอใจครั้งสบตาเครียดขึ้งเจือหวานแล้วต้องผ่อนแสงลงเหลือแต่ความรักและอาทรดังเดิม สายตาเสียใจยามไต่ตามตัวหญิงสาวและเห็นร่องรอยที่เขาฝากไว้บนเรือนกาย ริมฝีปากอิ่มบวมช้ำ

“โธ่ที่รัก ผมขอโทษมันจะไม่เกิดขึ้นอีก”

ร่างหนาขยับเข้าใกล้หวังปลอบโยนแต่หญิงสาวคว้าผ้าห่อหุ้มตัวดวงตาเขียวปั๊ดจ้องมองหน้าเหมือนรังเกียจ กรีดเสียงบริภาษย้ำความผิดของเจ้าพ่อเหมืองเพชร

“คุณมันไอ้หน้าตัวเมียข่มขืนแม้กระทั่งเมียตัวเอง”
“คุณเป็นเมียผมนะจูน”
อังวาห์ข่มอารมณ์ที่เริ่มแล่นริ้วกลับมาอีกเมื่อจุมพิตาไม่ยอมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

“คุณย่ำยีทางเพศกับฉัน เนี่ยนะเหรอเรียกว่าเมีย”
มือที่ขย้ำผ้าห่มนั้นเกร็งกรีดเสียงคับแค้นใจออกมา น้ำตาที่ไหลเหือดแห้งพรั่งพรูกลับมาอีกครั้ง

“ก็จูนทำผมโกรธ”

น้ำเสียงเรียบๆโต้ตอบหลังจากเห็นหน้าหญิงสาวซีดเซียวและเสียใจ ในใจก่นด่าที่ทำให้หญิงสาวร้องไห้จนได้ แต่ทิฐิทำให้ท่าทีเสียใจดูเย็นชา

“คุณทำกับฉันเหมือนไม่ใช่คน เหมือน.. เหมือนกับว่าฉันเป็นสัตว์เลี้ยง ฉัน ฉัน ที่ผ่านมาฉันมองคุณผิดไป ฉันเสียใจหลงโง่เห็นคุณเป็นคนดี”

จุมพิตาเปล่งเสียงตัดพ้อปนสะอื้นออกมายากเย็น เมื่อเห็นท่าทางไม่ทุกข์ร้อนของอังวาห์

“แล้วคุณจะให้ผมทำไง ผมผิดและขอโทษแล้ว ถ้าคุณไม่ทำให้ผมโกรธเริ่องแบบนี้มันก็ไม่เกิดขึ้น”
“คุณนี่มัน..”

จุมพิตาคอแข็งสะอึกกับคำกล่าวกลับมาทั้งๆที่เธอเป็นฝ่ายถูกกระทำ แววตาเจ็บช้ำมองดวงหน้าอันหล่อเหลาของสามีนิ่ง ยิ่งกว่าแน่ใจแล้วว่าเขาเปลี่ยนไปจากเดิม จากที่เคยแคร์กลับเมินเฉยไม่ยินดียินร้ายกับความรู้สึกของเธออย่างเคย หญิงสาวนึกแค้นใจที่ไม่สามารถสรรหาคำพูดออกมาด่าสามีตัวเองยังไงดี

“ไม่เอาที่รัก ผมขอโทษ ให้อภัยผมนะ..นะคนดี”
“ก็ได้ฉันจะยกโทษให้คุณ”
“ต้องแบบนี้สิที่รัก ผมรักคุณจริงๆ”

น้ำเสียงสดใสเหมือนเด็กๆ ที่โกรธง่ายหายเร็วไม่ใส่ใจสีหน้าคู่สนทนาว่ายังไงแต่แล้วความเบิกบานหายวับเสียงราบเรียบของจุมพิตาบาดลึกเข้าไปในอก เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่เขาต้องหยอกสแยงใจกับคำพูดของหญิงสาว

“แต่คุณต้องหย่าให้ฉัน”
“โธ่โว้ยเอาอีกแล้ว ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีทาง”

เสียงเกรี้ยวกราดมาพร้อมกับใบหน้าบึ้งตึง ไม่ทันได้พูดต่อเสียงแหลมตะเบ็งแทรกขึ้นเช่นกัน ทั้งคู่จ้องหน้ากันต่างคนไม่ยอมกันและกัน ปัญหานี้เป็นไม้เบื่อไม้เมามานานสำหรับชีวิตคู่แต่งงานของจุมพิตากับอังวาห์ เพราะต่างฝ่ายถือทิฐิ ฟาดฟันกันด้วยอารมณ์ และไม่มีใครคิดจะยอมลงให้อีกฝ่าย ทางออกที่ผู้เป็นสามีโต้ตอบคือการมีผู้หญิงอื่นเป็นการประชด ส่วนหญิงสาวเองแก้เหงาด้วยการออกจากบ้านเที่ยวเตร่ย่ำราตรีชดเชยความอ้างว้างที่ไม่ได้รับความอบอุ่นจากสามี

“แล้วคุณจะเก็บฉันไว้ทำไม ในเมื่อคุณก็มีผู้หญิงอยู่อีกมากมาย โน่น! ป่านนี้แม่พวกนั้นคงชะเง้อคอมองหาแย่แล้วไปสิไปหาพวกหล่อน”

จุมพิตาชี้นิ้วไปที่ตึกที่มองเห็นไม่ไกลมันเป็นหนามคอยทิ่มตำใจเธอตลอดมา เมื่อรู้ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งให้ความสำราญโลกีย์ของอังวาห์

“ผมรักคุณ คุณก็รู้จูน”

ร่างเปลือยของอังวาห์คลานเข้าหาผวากอดร่างนุ่มนิ่มยืนยันสิ่งที่เขาพูด จุมพิตาเบี่ยงตัวหนี เพราะรังเกียจที่จะใช้อ้อมกอดนี้ร่วมกับหญิงอื่นอีกมากมาย บางปากเม้มเป็นเส้นตรงเบือนหน้าหนีขณะที่บอกสามีเหมือนขอพักรบก่อน

“ฉันเบื่อความรักแบบนี้เต็มกลืนแล้วอังวาห์ คุณจะไปไหนก็ไปเถอะ ขอฉันอยู่คนเดียว”
“คุณก็รู้ว่าผมรักคุณมากแค่ไหนที่รัก เรื่องหย่าคุณหยุดคิดได้เลย”

เจ้าพ่อเหมืองเพชรพูดพร้อมตวัดอ้อมแขนรัดร่างเล็กเอาไว้แน่น ซุกหน้าบนซอกคอขาวหอมกรุ่นนั้น อังวาห์รู้ตัวเองว่าไม่มีทางที่เขาจะแยกทางกับหญิงสาวแน่นอน ที่ผ่านมาเขายกให้หญิงสาวเป็นคนเดียวที่เขารักและเปิดเผยตัวตนเมื่ออยู่กันเพียงสองคน ความรู้สึกซาบซ่านในรสเสน่หาให้ความรู้สึกดีมีเพียงจุมพิตาเท่านั้นที่ทำให้เขามีความสุข.....


✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ *✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ *


อังวาห์นั่งทอดตามองรูปจุมพิตาที่ยิ้มหวานสายตาท้าทายมองกลับมายังเขา เสียงถอนหายใจติดๆกันเมื่อนึกย้อนถึงเหตุการณ์สองเดือนที่ผ่านมา เป็นชนวนให้จุมพิตาบินหนีกลับเมืองไทย วันแรกที่รู้หัวใจเขาโลดแล่นเพื่อจะตามหาแต่ถูกบิดาทัดทาน ให้เหตุผลว่าหากเขาตามไปครั้งนี้จะทำให้จุมพิตาได้ใจ ครั้งต่อไปก็จะทำเยี่ยงนี้ไปเรื่อยๆ เพราะรู้จุดอ่อนแล้ว เมื่อไม่อาจทำตามใจสั่งได้จึงส่งให้นักสืบออกติดตามภรรยาสาวทันที

ร่างสูงเดินดิ่งไปที่ห้องนอนที่ใหญ่ที่สุดในคฤหาสน์นี้ ภายในมีภรรยาสุดที่รักรออยู่แน่นอน เพราะเนลโลโทรมารายงานให้ทราบแล้ว ความจริงเขาควรจะมาตั้งแต่เมื่อวานแต่อยากให้จุมพิตาพักผ่อนเพราะเดินทางมาไกลอารมณ์จะได้เย็นเวลาเจอกันจะได้ไม่ทะเลาะกันอีก

สิ่งที่อังวาห์คิดดูจะไม่เป็นผล เพราะหลังจากวางสายจากเบรโตโทรเข้ามาทำเอาจุมพิตาช็อค กับเรื่องที่ได้ยินมันเป็นเรื่องที่เธอรับไม่ได้เอาเสียเลยกับสิ่งที่อังวาห์คิดและกำลังทำอยู่ ร่างบางหันรีหันขวางอยู่หน้ากระจกอธิบายไม่ถูกว่าตอนนี้รู้สึกอะไรระหว่างความปวดร้าวที่กระหน่ำลงมาที่จิตใจกับอาการผะอืดผะอมอยากอาเจียรเพราะสะอิดสะเอียนรับไม่ได้กับเรื่องที่รู้มา

“เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้อังวาห์”

ห้องทั้งห้องหมุนคว้าง มือบางจับขอบโต๊ะไว้มั่นบอกตัวเองว่าให้ตั้งสติพยายามสูดลมหายใจลึก ๆ แต่ใจกลับเต้นระรัวไม่เคยเป็นมาก่อนเสียงเต้นมันดังแทบทะลุออกนอกอก บอกไม่ถูกว่าตื่นเต้นตกใจหรืออะไรกันแน่ ร่างบางระหงอยู่ในชุดนอนบางหรูนั้นเริ่มโงนเงน จุมพิตาบอกตัวเองว่ากำลังจะเป็นลม ก่อนที่สติจะดับวูบเธอได้ยินเสียงประตูเปิดพร้อมกับคำอุทานที่คุ้นหู

“จูนคุณเป็นอะไรฮั่นนี่”

อังวาห์ก้าวพรวดเดียวทันที่ร่างอรชรของภรรยาจะล้มฟาดพื้น สองมืออ้าโอบรับร่างนุ่มแต่เย็นเฉียบเอาไว้ ดวงหน้าสวยหวานซีดแทบไม่มีสี เขาเห็นเม็ดเหงื่อเกาะตามไรผม นิ้วแข็งแรงเกลี่ยปาดความชื้นออกจากใบหน้าของหญิงสาว แววตาอาทรมองกวาดทั่วใบหน้าต่ำลงไป ทรวงอกสะท้อน จับมือบางขึ้นมารู้สึกความเย็นตรงปลายนิ้วเรียวมันซีดพอๆกับหน้าของจุมพิตาทีเดียว เจ้าพ่อเหมืองเพชรยกมือภรรยาคนสวยขึ้นจรดริมฝีปากอย่างถนุถนอมและบีบนวดไปพร้อมๆ กัน เขาอุ้มร่างบางกลับไปวางกลางเตียงใหญ่ มือหนาลงมือนวดเฟ้นตามตัวหญิงสาวเบา ๆเพื่อให้เลือดหมุนเวียน จนสีหน้าเริ่มมีสีสรรขึ้นบ้าง

“จูน ๆ ๆ ฟื้นเสียทีสิ อย่าเป็นอะไรนะที่รัก”
“ฉัน..ฉันเป็นอะไร”

เสียงผะแผ่วครางแว่วออกมาจากริมฝีปากแห้ง มือบางจับศีรษะเอาไว้ รู้สึกเหมือนหัวของเธอใหญ่โตจนแทบประคองไม่ไหวนิ้วเรียวนวดคลึงเบา ๆที่ท้ายทอย เปลือกตาขยุกขยิกไปมาก่อนปรือเพื่อปรับแสง มืออีกข้างขาดอิสระภาพตกอยู่ในอุ้งใหญ่คอยบีบนวดอยู่ตลอดเวลา ตาคมหวานตะหวัดขึ้นมองเจ้าของมือทันที แววตาที่อังวาห์เห็นแล้วเสียวสันหลังวาบทั้งขวางและดุเกรี้ยวกราดออกจากตาคู่สวย จุมพิตากระชากมือขยับตัวหนีเมื่อนั่งได้แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าคนที่แสนจะอ่อนหวานเป็นนิจจะมีเวอร์ชั่นที่เจ้าพ่อเหมืองเพชรต้องตกใจ เมื่อหญิงสาวกวาดตามองสิ่งของใกล้ตัวเธอเห็นนาฬิกาปลุกคริสตัลเครื่องโปรด หญิงสาวกระเถิบตัวคว้ามันได้เหวี่ยงไปที่อังวาห์ทันที เพราะเธอต้องการระบายอารมณ์ที่พุ่งปริ๊ดทันทีที่เห็นหน้าเขา แม้จะได้ยินคำร้องห้ามเสียงหลงจากชายหนุ่มแล้วก็ตาม เสียงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดตามมา สามีสุดหล่อแสนเลวของเธอกุมหัวมีเลือดไหลเป็นทางยาว

“ออกไปให้ห่างตัวฉันนะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณไปให้พ้น”
“โอ้ย จูน จูน คุณทำผมทำไม ”
“ฉันอยากเห็นสีเลือดของคุณว่ามันเป็นสีดำเหมือนใจคุณหรือเปล่านะสิ”

จุมพิตาจ้องหน้าชายหนุ่มตาแทบถลน แววตาเหี้ยมรอยยิ้มสะใจเมื่อเห็นเลือดไหลเป็นทางยาว มันเป็นสีแดงไม่ยักดำเหมือนความอำมะหิตของเขาเลย เสียงอังวาห์ยังร้องโอดโอย เลือดไหลผ่านหางคิ้วและขมับตาสีน้ำเงินเข้มนั้นวิบวับเพราะไม่เคยมีผู้ใดทำร้ายเขามาก่อน แต่เมื่อสานสบกับตาเอาเรื่องแวววาวเรืองแสงวิบวับไม่แพ้กันต้องสับเกียร์ความคิดอย่างเร็วรี่ หาสาเหตุที่หญิงสาวคลุ้มคลั่งเอาเลือดหัวเขาออกแบบนี้

“ผมทำอะไรให้คุณโกรธอีกหรือที่รัก”
“โกรธมันยังน้อยไปกับคนที่มีใจอำมะหิตอย่างคุณ อังวาห์คุณทำได้ไงกัน พรากของรักของคนอื่นได้ยังไง พวกเขาไปทำอะไรให้คุณฮึ คุณถึงได้ให้ลูกน้องไปลักพาผู้หญิงของคนอื่นเพื่อมาสนองความใคร่ให้คุณ กี่คนแล้วที่คุณทำกับพวกเธอแบบนี้”

เสียงแหลมที่ตะเบ็งออกมาทำเอาคนที่อยู่ข้างนอกมองหน้ากัน พ่อบ้านส่ายหัวสีหน้าหนักใจเพราะต่อไปนี้ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมหากนายผู้หญิงรู้เรื่องเหล่านี้ ที่ผ่านมาแม้ว่านายหญิงจะระหองระแหงกับนายผู้ชายบ้างแต่หญิงสาวไม่เคยเอะอะโวยวายให้บ่าวไพร่ได้ยิน หญิงสาวมักแสร้งทำหน้าชื่นยิ้มแย้มและอ่อนหวานกับคนในปกครองเสมอ จนเป็นที่รักใคร่ของบรรดาคนใช้ แม้ในค่ำคืนที่ทะเลาะกับนายผู้ชายจนหนีออกจากบ้านทุกคนต่างรู้ดีว่าต้องมีเหตุการณ์อะไรที่ทำร้ายจิตใจนายสาวจนหนีเตลิดออกจากบ้าน และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันต้องมีอะไรที่เหลืออดจนต้องลงไม้ลงมือกับนายผู้ชายถึงกับร้องโอดโอยอกมาถึงข้างนอก

“ฮั่นนี่ ฟังผมก่อน ใจเย็นๆนะที่รัก”

อังวาห์อึ้ง ช็อคไปชั่วขณะ ลืมความเจ็บปวดไม่ใช่แค่สีหน้าแววตาเท่านั้นรวมถึงประโยคที่ได้ยิน คิดว่าจุมพิตารู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไรกัน สาวเท้าเข้าใกล้เตียงยกมือห้ามไม่ให้ทำร้ายเขาอีก ความนิ่งทำให้จุมพิตาพลุ่งพล่าน

“สิ่งที่คุณทำมันน่าอับอายและขยะแขยงเหลือเกิน..อังวาห์”
“เดี๋ยว ๆ ผมไปทำอะไร”
อังวาห์ทำใจดีสู้เสือ เกลี่ยยิ้มและหัวเราะเจื่อนๆ
“คุณให้เนลโลไปจับผู้หญิงไทยมาที่นี่ คุณต้องการทำอะไรกันแน่”
“คุณพูดเรื่องอะไรจูน”
อังวาห์แข็งใจถามกลับไป
“คุณรู้ พอๆ ที่ฉันรู้คะอังวาห์ ฉันขอถามอีกครั้งเดียวว่า คุณให้เนลโลไปจับผู้หญิงที่ชื่อพู่กันมาทำไม”
จุมพิตาเอ่ยชื่อหญิงสาวที่เบรโตบอกเธอก่อนหน้านี้

“ผม..เอ่อ..คุณมาเหนื่อยๆ พักก่อนเถอะ นี่ก็เพิ่งเป็นลมเป็นแล้งไปไม่ใช่เหรอ”
อังวาห์เบี่ยงประเด็นพูด ไม่รู้จะตอบยังไง ทำทีหยิบกระดาษชำระขึ้นมาซับคราบเลือดหยุดไหลและทิ้งร่องรอยแห้งเกรอะกรังอยู่ตรงข้างแก้ม

“คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย”
จุมพิตาแบะปากเหยียดมองหมิ่นแค้นใจอย่างบอกไม่ถูก

“ไม่เอาน่าจูน ถ้าคุณไม่รู้อะไรก็อย่าพูดดีกว่าที่รัก นอนพักเถอะนะเดี๋ยวจะไม่สบาย”
อังวาห์พยายามสงบสติอารมณ์ ไม่อยากทะเลาะกับหญิงสาวในเวลานี้

“เสน่ห์คุณใช้ไม่ได้แล้วหรือไงห๋า ถึงต้องใช้สุนัขรับใช้อย่างเนลโลไปลักพาตัวเธอมา ไม่รู้หรือว่ามันผิดศีลธรรม สิ่งที่คุณทำอยู่มันผิดมหันต์ คุณแย่งคนรักเขามา ความใคร่? อยากได้อะไรต้องได้ ? เงินทองคุณมีมากมายทำไมคุณไม่ไปโปรยหว่านกับพวกแม่พวกที่หิวเงินของคุณล่ะ ไม่ใช่นึกอยากจะได้ใครก็ใช้กำลังลักพาตัวเขามาโดยที่เขาไม่เต็มใจ”

จุมพิตายังคงร่ายยาว สายตาบอกว่าความอดทนกับหนุ่มตรงหน้าเหลือน้อยเต็มที สีหน้าอังวาห์เจือนลงหลุบตาต่ำหลบตาคมหวานที่มองดูแคลน แน่ล่ะเขาอับอายกับคนที่เขารักมองแบบนั้นทำให้รู้สึกละอายใจอยู่บ้าง แต่บางอย่างที่เก็บอัดอยู่ในใจ ตวัดสายตาโต้ตอบมันน่ากลัวพอจะทำให้จุมพิตาหนาวเย็นยะเยือกทีเดียว

“เสน่ห์และเงินผมยังใช้ได้ผลเหมือนเดิม แต่สำหรับบางคนมันพิเศษ จนต้องใช้วิธีพิเศษไงล่ะจ๊ะดาร์ลิ้ง”
“คุณกับเธอเคยเจอและรู้จักกันมาก่อนเรอะ?”

จุมพิตาขมวดคิ้ว นึกทบทวนว่าอังวาห์ไปรู้จักผู้หญิงที่ชื่อพู่กันตอนไหน ในเมื่อเขาไม่เคยเหยียบเมืองไทยมาเกือบสองปีนับจากที่เธอแต่งงานกับเขา เพราะมักจะอ้างว่ายุ่งเรื่อยมาเวลาที่เธอชักชวนกลับไปเมืองไทย มันเป็นสาเหตุหนึ่งที่เธอน้อยใจที่เขาไม่ยอมพาเธอกลับไปเยี่ยมพ่อแม่บ้างเลย

“ไม่จำเป็น”
อังวาห์หยักไหล่ตอบส่งยิ้มกวนๆให้อีก
“คุณมันบ้าไปแล้วแน่ๆ”

จุมพิตาครางแผ่วอยู่ในลำคองงกับเรื่องที่ได้ยิน คิดสับสนในเมื่อไม่เคยเจอกันแล้วอังวาห์ไปถูกใจผู้หญิงที่ชื่อพู่กันได้อย่างไรกัน หญิงสาวถามน้ำเสียงเครียด

“ทำไมต้องเป็นเธอ”
“นี่คุณไม่รู้ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่ที่รัก”
อังวาห์ระเบิดคำพูดกร้าวถามกลับเป็นครั้งแรกที่คิดว่าจุมพิตาแกล้งทำเป็นไม่รู้

“ฉันแกล้ง? คุณกำลังพูดเรื่องอะไร?”
จุมพิตาทำเสียงฉงน

“อะไรที่คุณทำผมก็จะแบบนั้น”
เสียงกร้าวบ่งบอกถึงความเจ็บปวดทรมาน

“ฉันทำอะไร”
จุมพิตาฉุนเฉียวโต้กลับทันที เธอกำลังคิดว่าอังวาห์กำลังโยนความผิดให้เธอแทน

“เอาไว้ให้เธอคนนั้นมาถึงที่นี่ก่อน ต่อจากนั้นผมจะแนะนำให้คุณรู้จักที่รัก ตอนนี้ผมอยากให้คุณพักผ่อนให้เต็มที่เพื่อจะได้รู้สิ่งที่คุณทำอะไรเอาไว้ ความลับไม่มีในโลก ซ่อนยังไงก็ปิดไม่มิดหรอก ผมหวังแต่ว่าถึงเวลานั้นคุณคงจะไม่ปฏิเสธสิ่งที่ผมจะพูดในวันนั้นนะฮั่นนี่”

อังวาห์ก้าวเข้าใกล้ร่างที่งงงันยื่นหน้าพูดชิดริมฝีปากอิ่มสวย ก่อนจะเข้าครอบครองอย่างอดใจไม่ไหว จุมพิตายังคงนิ่งอยู่กับที่สมองสั่งการช้าลงเพราะงุนงง ไม่เข้าใจที่เจ้าพ่อเหมืองเพชรพูดทิ้งท้ายเป็นปริศนาเอาไว้ ครั้นพอรู้สึกตัวจึงรู้ว่าอยู่ในวงแขนอันแข็งแรงลมหายใจร้อนรุ่มซุกไซร์ตามจุดที่ไวต่อสัมผัสอย่างชำนาญของผู้เป็นสามี ร่างบางพยายามสะบัดตัวให้พ้นวงแขนแกร่งนั้นดูเหมือนว่ายิ่งดิ้นยิ่งถูกรัด เพียงไม่นานขณะที่หญิงสาวกำลังพ่ายแพ้ต่ออารมณ์หวามที่ถูกร้างห่างเหินมานาน แต่ก่อนที่จะเลยเถิดอาการผะอืดผะอมระลอกใหม่กลับมาอีกครึ้ง มันกำลังแข่งกันออกมา ร่างบางออกแรงผลักร่างหนาของอังวาห์ที่กำลังเพลิดเพลินกับร่างกายหอมกรุ่นโดยไม่ระวังตัวให้กระเด็นออกไป ตามด้วยโก่งตัวให้พ้นเตียงส่งเสียงอาเจียรโอกอ๊ากออกมา มีเพียงน้ำขมๆ ผ่านลำคอ อังวาห์ตกใจรีบคว้าถังขยะมารองรับอาเจียร ฝ่ามือหนาลูบหลังเบา ๆ มองดูดวงหน้าซีดเผือดของจุมพิตาด้วยความเป็นห่วง

“เรียกหมอมาตรวจดีกว่านะจูน”
อังวาห์มองหน้าซีดของเมียรักและรู้สึกเป็นห่วงจริงๆ

“ไม่เป็นไร ฉันเป็นโรคกะเพาะ ทานยาเดี๋ยวก็หาย”
จุมพิตาตอบเนือย ๆ เธอเป็นแบบนี้บ่อยยามที่เครียดจัด

“คุณทำใจให้สบายนะอย่าเครียดนะที่รัก เดี๋ยวจะอาเจียรอีก”
อังวาห์ลูบใบหน้าหวาน สายตาห่วงใยเต็มเปี่ยมยามที่สบตาคมหวานซึ้ง

“คุณเป็นห่วงฉันด้วยหรือคะอังวาห์”

จุมพิตากลืนก้อนขมที่แล่นจุกตรงลำคอด้วยความยากลำบาก อดถามเสียงครือไม่ได้ ยังไงเขาก็เป็นสามีที่เธอรักไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้จะเฉยเมยห่างเหินจนเธอน้อยใจตลอดเวลาก็ตาม

“โธ่ที่รัก ทำไมถามผมแบบนี้”

อังวาห์กอดร่างอุ่นรั้งเข้ามาแนบอกถ่ายทอดความรักและอาทร สำหรับเขาแล้วความรักและเสน่หาในตัวภรรยาไม่เคยจาง คงจะมีระยะหลังที่ห่างเหินกันเพราะธุรกิจที่เขาทำนั้นต้องเดินทางไปทุกๆ ที่สำรวจตลาดบ้างและติดต่อคู่ค้าบ้างอันเป็นเหตุให้ระยะห่างของเขากับจุมพิตาเป็นไปโดยปริยาย ส่วนผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตนั้นมันก็แค่เกมส์ๆหนึ่ง ระบายคลายเครียดตามประสาผู้ชายก็เท่านั้นเอง จุมพิตาอดไม่ได้ที่จะซุกตัวอยู่บนอกกว้างเหมือนเก็บความอบอุ่นให้เป็นพลังเพื่อจะได้ต่อสู้ในวันอื่นต่อไป ครางเบาๆงึมงำอยู่ในอกก่อนจะผละออกห่างล้มตัวลงนอน

“นั่นสินะ ทำไมฉันจะไปหวังสิ่งเหล่านี้จากคนอย่างคุณ ฉันอยากพักแล้วล่ะคะ”

จุมพิตาพูดเบา ๆ ความอบอุ่นที่ได้รับเมื่อครู่มันทำให้ใจเธอสงบลงบ้าง ตาคมหวานแลสบมองสามีเมื่อเขาดึงผ้าห่มให้เธอ มือบางยังตกอยู่ในอุ้งมือหนา อังวาห์มิได้ไปไหนยังคงนั่งข้าง ๆ แม่บ้านให้นำอาหารเช้ามาให้หญิงสาวตามปกติ แต่ดูเหมือนว่าจุมพิตาทานอะไรไม่ได้เลยแค่ได้กลิ่นอาหารเท่านั้นหญิงสาวเริ่มต้นอาเจียรอีกครั้งโดยมีอังวาห์อยู่เคียงข้างด้วยความเป็นห่วง..... ....และไม่สนใจทำบาดแผลสักนิดจนพ่อบ้านต้องมาทำแผลถึงข้างเตียงนายสาวที่ยังนอนหลับด้วยความอ่อนเพลีย


*.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ * *.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎*.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ *✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ *

ต่อให้บทยี่สิบหนึ่ง...แถมให้ที่ลงช้าคะ
*.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ * *.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎*.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ *✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ *




เก็จพรหมกำลังตามหาสาวติส

*.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ * *.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎*.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ *✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ *

ติสยี่สิบหนึ่ง...(เรียกน้ำย่อย)



“ขอบคุณครับ”

คนที่โทรมาวางสายไปนานแล้วแต่เก็จพรหมยังคงถือมือถือค้างที่ริมหู สีหน้าแววตาที่เคยมีหวังกลับงงงัน เหมือนอยู่ในที่โล่งแต่มืดทึบแปดด้าน ข่าวที่เจ้าหน้าที่สถานฑูตโทรเพิ่งแจ้งมาดับความหวังที่จะตามหาพู่กันแทบหมดหน้าตักเลยทีเดียว “พู่กันยังอยู่ในประเทศนี้งั้นหรือ? ยังมิได้ถูกพาไปรัสเชียตามที่เบรโตบอกเป็นเช่นนั้นจริงหรือ? ไม่มีรายชื่อของพู่กันอยู่บนเครื่องบินทุกเที่ยวบินในช่วงที่พู่กันหายตัวไป แล้วพู่กันของเขาไปอยู่มุมไหนของประเทศนี้?” เขาแทบพลิกแผ่นดินหาแต่ได้รับคำตอบเดียวกันหมดคือไม่รู้จักหญิงสาวในรูปแม้แต่คนเดียว แล้วสิ่งที่เบรโตบอกมันเป็นความจริงหรือเปล่านะ เก็จพรหมเริ่มลังเล ใบหน้าคร้ามเครียดและหม่นเศร้า ร่างสูงทรุดนั่งปลายเตียง เขาหมกตัวเองอยู่ในห้องพักของพู่กันเข้าเป็นวันที่สี่นับจากวันที่พู่กันหายไป ไหล่กว้างงองุ้มศีรษะก้มต่ำสองมือประสานอยู่ที่ท้ายทอย สมองเจ้าพ่อรีสอร์ทกำลังคิดหนักว่าเขาควรจะไปสืบหาพู่กันได้จากที่ไหนอีก เมื่อตรึกตรองทบทวนอย่างช้าๆเรื่องราวของพู่กันในความเป็นไปได้ตามที่เบรโตพูด สายตาเจ้าพ่อรีสอร์ทไหววูบ ในช่วงที่จุมพิตาเข้ามาพัวพันตัวเขาอีกครั้งที่ภูเก็ต ทำไมเขาไม่รู้สึกถึงความผิดปกตินะว่ามีคนติดตาม คำบอกเล่าของเบรโตผุดขึ้นมา...

“ผมจำเป็นต้องบอกคุณ พู่กันเธอเป็นแค่หมากตัวเดียว ที่ใครบางคนต้องการให้เป็นแบบนั้น”
“คุณพูดอะไร ผมไม่เข้าใจ ช่วยพูดให้เคลียรกว่านี้ได้ไหม”
เก็จพรหมงุนงง ขมวดคิ้วกับเรื่องใหม่ที่ได้ยิน

“ไม่มีปัญหา เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะคุณ”
เบรโตพูดเสียงเข้มขรึมมองหน้าอีกฝ่ายตรงๆ

“เพราะผม?”
เก็จพรหมทวนเสียงสูงชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง

“ใช่! ถ้าคุณไม่ไปพัวพันกับผู้หญิงของคนที่มีอิทธิพลจนเป็นเหตุให้พู่กันเป็นแพะรับบาป”
น้ำเสียงเหมือนตำหนิกลาย ๆ

“นี่คุณมันไม่มากไปแล้วหน่อยหรือไง ผมไปยุ่งอะไรกับผู้หญิงคนอื่น”
เก็จพรหมเริ่มหงุดหงิดและเครียดกับคำกล่าวหา

“ใช่แล้วเขาก็สามารถชี้เป็นชี้ตายได้โดยที่ไม่มีความผิดเสียด้วย คุณคงรู้จักอำนาจมืดนะ ..เออ.. ผมไม่สนหรอกนะว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับผู้หญิงต้องห้ามอยู่ในระดับไหน ผมสนแต่ว่าพู่กันกำลังถูกนำไปพิพากษาแทนคุณ เขาต้องการแก้แค้นที่ไปยุ่งผู้หญิงของเขา เรื่องนี้ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนแต่อย่างใดถ้าคุณรู้ว่าผู้หญิงต้องห้ามคนนั้นคือใคร”

“เรื่องผิดศีลธรรมผมไม่เคยอยู่ในหัว บอกผมมาดีกว่าผู้หญิงต้องห้ามนั้นคือใครกัน”
“จุมพิตา คุณรู้จักเธอดีใช่ไหม”
เบรโตดูนาฬิกาที่ข้อมือ นิ่งไปเล็กน้อยก่อนเอ่ยชื่อภรรยาของพี่ชาย

“จุมพิตา!”
เสียงอุทานอย่างแปลกใจมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินชื่อเพื่อนสาวจากปากหนุ่มหน้าสวย

“ใช่ สามีของจุมพิตาส่งคนมาลักพาตัวพู่กันไปไกลจากคุณและครอบครัวของเธอ”
“ทำไม? ผมกับจูนเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นและคุณรู้จักเธอได้อย่างไร?”
คำถามเป็นชุด ๆ ออกมาจากเจ้าพ่อรีสอร์ท เรียกรอยยิ้มหมิ่นจากเบรโต เก็จพรหมรู้สึกไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก

“เพื่อน? แบบนี้เรียกว่าเพื่อนไหม?”

เบรโตวางรูปของเก็จพรหมและจุมพิตาที่อยู่ในชุดน้อยชิ้นในวันที่เขาพาหญิงสาวไปเที่ยวหมู่เกาะอันดามัน เก็จพรหมกระพริบตาไหว มันเป็นภาพที่ค่อนข้างหมิ่นเหม่ จุมพิตากำลังโอบไหล่ขณะที่ร่างอรชรของหญิงสาวแนบชิดกับแผ่นหลังของเขา มันเป็นเพียงการหยอกล้อกันเท่านั้น แม้รู้ว่าไม่เหมาะสมแต่สำหรับเขาแล้วไม่คิดเป็นอื่นไปได้

“จุมพิตาเธอไม่มีเพื่อน และเราต่างบริสุทธิ์ใจ”

เก็จพรหมอึ้งหยิบรูปขึ้นมาดูพักใหญ่ งุนงงเหมือนไก่ตาแตก นัยน์ตาสีฟ้าแกมเขียวลอบมองหนุ่มเอเชียอย่างเห็นใจ เขารู้ว่าเรื่องที่เพิ่งได้ยินไปทำเอาคนฟังนั้นทั้งงงและเหวอแตกไม่คิดว่าสองเรื่องจะมาบรรจบเป็นเรื่องเดียวกันได้ เก็จพรหมจ้องตาเปิดเผยให้เบรโต สายตาที่ลูกผู้ชายมองกันออกว่าใจกับปากตรงกัน เบรโตไหวไหล่แววตาเจิดจ้าขณะที่พูดถึงพู่กันและเน้นอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับสาวอาร์ท

“ผมก็อยากให้เขาคนนั้นมาได้ยินสิ่งที่คุณพูด ภาวนาให้พู่กันปลอดภัย ในยามนี้เธอกำลังตกอยู่ในอันตราย คนที่ลักพาเธอไปเป็นนักฆ่ามืออาชีพ ผมหวังว่ามันจะไม่ทำร้ายเธอ เพราะใบสั่งให้นำเธอไปสังเวยกามให้สามีของเพื่อนของคุณ”
“คุณรู้มาแต่ต้น ใช่ไหมเบรโต?”
เก็จพรหมถามด้วยน้ำเสียงคลางแคลงใจ

“ก็ไม่เชิง”
ไหล่กว้างไหวอีกครั้ง สีหน้าเท่านั้นที่บอกว่าเครียดขรึม

“ทำไมคุณไม่เตือนเรา คุณปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง ทั้งๆ ที่คุณก็มีใจชอบพู่กัน”
เก็จพรหมถามอย่างฉุนจัด ขยุ้มคอเสื้อดึงเข้ามาใกล้ เสียงเครียดลอดไรฟัน สันกรามนูนเด่นมีเพียงแววตาเท่านั้นที่บอกให้อีกฝ่ายรู้ว่ากำลังกลัวจับใจ

“ผมทำดีที่สุดแล้ว”
เบรโตตอบกว้าง ๆ เลี่ยงอธิบายเพราะไม่อยากเปิดเผยตัวตนของเขา

“ทำไมคุณถึงรู้เรื่องเหล่านี้ดีเบรโต”

เก็จพรหมหรี่ตามองดูผู้นำสานส์ แน่นอนเขาเริ่มสงสัยว่าเบรโตเป็นใครกันแน่ จุดประสงค์ที่แท้จริงในการมาข้องเกี่ยวกับพู่กันอะไรกันแน่ หนุ่มผู้นี้จงใจพาตัวเองเข้ามารู้จักพู่กันจากการบอกเล่าของพี่สาวรับฟังมาจากพู่กันเล่าเหตุการณ์ที่เจอชายผู้นี้ ดูจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างที่คิดเสียแล้ว

“ผมตอบคุณไม่ได้ แต่ผมไม่คิดทำร้ายพู่กันแม้แต่น้อย”
เบรโตปัดมือของเก็จพรหมให้พ้นคอเสื้อ จ้องลึกเข้าไปในตาคมเข้มนั้นเพื่อยืนยันเจตนาที่มีต่อติสสาว

“แล้วคุณรู้ได้ไงว่าพุ่ถูกพวกนั้นลักพาตัว หรือว่าคุณก็เป็นหนึ่งในพวกนั้น”
เก็จพรหมยิงคำถามตามใจคิดไม่อ้อมค้อม สายตากร้าวคาดคั่น

“ผมขอยืนยันว่าไม่มีเจตนาร้ายต่อเธอ เพราะความรู้สึกที่มีต่อเธอมันไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคุณเช่นกัน”
เบรโตพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สายตาที่มองเก็จพรหมอย่างเปิดเผยและท้าทาย

“แล้วทำไมคุณไม่ปกป้องเธอให้รอดพ้นจากพวกมัน”
เก็จพรหมลืมตัวตะคอกถาม ตลอดเวลาที่ฟังเรื่องอึมครึมจากปากหนุ่มหน้าหล่อศัตรูซึ่งๆหน้าของเขา ทำให้เจ้าพ่อรีสอร์ทโมโหเพราะเบรโตปล่อยให้พู่กันถูกลักพาตัวไปจนได้

“เพราะผมก็พลาดท่าเสียทีพวกมันนะสิ ไม่คิดว่ามันจะเล่นวิธีสกปรก ชิงตัวพู่กันไปโดยไม่รู้ตัว”
เบรโตตอบเสียงแผ่ว สีหน้าสลดแววตาหม่นแสงเมื่อนึกถึงร่างบางถูกลักพาตัวไปขณะที่ไม่มีสติ ป่านนี้อาร์ทสาวคนสวยของเขาจะถูกไอ้เนลโลทำร้ายหรือเปล่าหนอ

“แปลว่าคุณอยู่ในเหตุการณ์ตอนพู่ถูกพาตัวไปใช่หรือเปล่า”
เก็จพรหมถามย้ำ น้ำเสียงพร่าคิดไม่ออกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันอยู่ในรูปใด

“ใช่ไอ้เนล..เออ ..มันเล่นผมตอนทีเผลอ ทีเดียวสลบ ตื่นขึ้นมาผมไม่เห็นใครแล้ว”
เบรโตเกือบพลั้งปากก่อนเสพูดเสียงกร้าวนึกเข่นเขี้ยวสมุนมือขวาของอังวาห์ แรงอาฆาตแผ่รัศมีออกจากแววตา ทำให้เก็จพรหมมองและเก็บความสงสัยเอาไว้ในอก ใบหน้าคมเข้มเงยขึ้นสูงพยายามสูดอากาศให้เต็มปอด ความรู้สึกเบาหวิวมึนงงสับสนวิ่งวุ่นทั่วหัวจนหนักแทบประคองเอาไว้ไม่อยู่

“ผมเชื่อคุณเบรโต ในเวลานี้ผมคงไม่คิดจะลุกขึ้นมาก่อประเด็นอื่นให้มีเรื่องกับคุณหรอก จะให้ทำยังไงและแบบไหนก็ได้ขอเพียงพู่กันปลอดภัยแค่นั้นผมก็พอใจ”
เก็จพรหมพยักหน้า ยกมือจับบ่าเบรโตด้วยสองมือ ก่อนจะยื่นมือให้ศัตรูหัวใจจับเพื่อสงบศึกชั่วคราว

“เราจะช่วยกันตามหาพู่กัน ผมสัญญาว่าจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตเพื่อปกป้องเธอ”
สองบุรุษจับมือกันให้คำมั่นสัญญาลูกผู้ชายเพื่อสตรีคนเดียวกัน

“ขอบใจเบรโต พู่จะต้องไม่เป็นอะไรผมเชื่อแบบนั้น”
“คุณจะไม่ตามหาเธอที่รัสเชียเหรอ”
เบรโตถาม
“ผมขอเช็คให้แน่ใจก่อนว่าพู่กันออกไปจากเมืองนี้หรือยัง ผมฝากพู่ด้วยถ้าคุณไปถึงที่นั่นแล้วเจอเธอก่อนผม”
เก็จพรหมฝากฝังด้วยใจจริง

“แน่นอน หัวใจของผมเหมือนกันนี่”
หัวใจเบรโตตอบออกมาเป็นคำพูด ถ้าเป็นเวลาอื่นฟังแล้วเจ้าพ่อรีสอร์ทคงคันอารมณ์หึงยิบ ๆ

“เราต่างปกป้องคนที่เรารัก ส่วนเรื่องอื่นไว้ทีหลังจาก ขอให้ช่วยพู่ได้สำเร็จเป็นพอ”
เก็จพรหมกึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง ตบไหล่เบรโตแรง ๆ สัพยอกตอบที่ทำให้เกิดอารมณ์ขุ่นในยามนี้ได้ เบรโตอดหัวเราะเบา ๆ กับหลุมพลางดักล่อเลือดเพชรหึงเล็กๆจากเก็จพรหมได้อีก

“ผมไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก ผมสัญญา ผมต้องไปแล้วเดี๋ยวจะสายหากผมไปช้า”
“ฝากพู่กันด้วย และขอให้คุณโชคดี”

เก็จพรหมนวดหัวคิ้วรู้สึกหนักหัวตาและปวดล้าทั่วศีรษะ สองสามวันมานี้เขาแทบไม่ได้นอน เพราะออกตามหาและคอยฟังเสียงโทรศัพท์จากคนในสถานฑูต หลังจากพี่เก็จแก้วกลับเมืองไทยไปแล้ว เขาได้บอกยกเลิกห้องพักและย้ายเข้ามาอยู่ห้องของติสสาวแทน ข้าวของทุกชิ้นหญิงสาวยังอยู่ในตำแหน่งเดิม ในค่ำคืนแรกเขานอนเตียงที่หญิงสาวเคยนอนและซุกร่างใต้ผ้าห่มหนา กลิ่นกายยังหลงเหลือให้คนึงหา สมุดเสก็ตภาพสิ่งเดียวบอกให้เขารู้ว่าเขาและเธอใจตรงกัน ลายเส้นบนกระดาษร้อยปอนด์เปิดเผยความรู้สึกของติสสาว ถ้าเป็นสถานการณ์อื่นป่านนี้หน้าของเขาคงบานแฉ่งยิ้มแทบไม่หุบไปแล้ว มิใช่รุ่มร้อนว้าวุ่นสับสนเหมือนกลัดหนองเต็มหัวอกเช่นนี้

“พู่จ๋า คุณอยู่ที่ไหนที่รัก ความคิดถึงที่มีต่อคุณทำให้ผมทรมานเหลือเกิน ขออย่าให้พวกมันทำร้ายพู่เลย ขอให้คุณพระคุ้มครองพู่ด้วยเถิด ผมยินดีชดใช้ด้วยชิวิต ขอเพียงให้พู่ปลอดภัย”

*.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ * *.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎*.:。✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ *✿* D *.:。✿*゚¨゚✎ *





Create Date : 07 มีนาคม 2555
Last Update : 7 มีนาคม 2555 8:05:55 น.
Counter : 739 Pageviews.

8 comments
  
อ้าวเจ้าพ่อเหมืองเพชรชั่วชาติหมาขนาดนี้ ก็น่าจะโดนเวรกรรมตามมาทันทำให้เสียใจจนเเทบเสียคนเลยซะก็ดี จะใด้รู้จักเวรกรรมกะเขาบ้าง
โดย: VEE IP: 66.172.227.200 วันที่: 7 มีนาคม 2555 เวลา:7:24:58 น.
  
จุใจ....
เข้ามาขอบคุณมากมาย แม่หนูยิมรักษาสุขภาพด้วยนะคะ เด่วจะหายไปนานอีก คริ คริ
โดย: Rainy IP: 223.207.192.151 วันที่: 7 มีนาคม 2555 เวลา:11:07:28 น.
  
เครียดเครียด
โดย: ปันฝัน วันที่: 7 มีนาคม 2555 เวลา:13:21:53 น.
  
ที่แท้ก็เป็นฝีมือของเจ้าพ่อคนนี้นี่เอง หลงงงซะตั้งนาน สนุกมากค่ะ แม่หนุยิม ฝีมือพัฒนาการไปเรื่อยๆเลยนะคะ เรื่องนี้จบเมื่อไร มีหวังได้พิมพิ์อีกเล่มแน่ๆ ชัวร์
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 7 มีนาคม 2555 เวลา:14:51:07 น.
  
พรของพี่ตุ้ยหนูชอบมากกกก
สัญญาเลยถ้าได้พิมพ์อีกหนูจะส่งให้พี่ไว้เป็นที่ระลึกในฐานะ พรที่ท่านให้ในวันบุญวันพระใหญ่ด้วย...ขอให้สัมฤิทธิ์ผลจร้าาา
โดย: gymstek วันที่: 7 มีนาคม 2555 เวลา:22:15:46 น.
  
นิยายชัดๆ คะ
คุณยิมทำคนอ่านมึน

เด่วขอไปอ่านทวนใหม่
คาใจ
โดย: พู่กันแฟนคลับ IP: 180.214.214.215 วันที่: 9 มีนาคม 2555 เวลา:8:00:08 น.
  
เก่งจังค่ะ เขียนได้ชวนอ่านตามเคย
วีปรบมือให้ดัง ๆ ^^
โดย: โสดในซอย วันที่: 9 มีนาคม 2555 เวลา:19:14:50 น.
  
มาแล้ว จุใจ สมการรอคอย

อ่านแล้วสงสารจูนเลย
จากที่ไม่ชอบ ตอนนี้ชักสงสารขึ้นมาแล้ว
เอาใจช่วยนะคะ
โดย: DiFfeRent of LoVe วันที่: 11 มีนาคม 2555 เวลา:11:00:43 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gymstek
Location :
ภูเก็ต  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



>