เลี้ยงหญ้ารักษาหน้าดินช่วยให้พืชกินปุ๋ยอย่างสมดุล
พูดถึงหญ้าโดยเฉพาะหญ้าที่ไม่เป็นที่ต้องการของพี่น้องเกษตรกรลุงป้าน้าอาด้วยแล้วยิ่งน่าจะเป็นที่แขยงแทงขนเพราะหญ้าจัดเป็นวัชพืชที่เกษตรกรค่อนประเทศคิดว่าเป็นสิ่งชั่วร้าย แย่งน้ำ แย่งปุ๋ยแย่งอาหาร เจอแล้วจะต้องถากถางขุดรากถอนโคนให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว จึงเป็นเหตุแห่งการที่ร้านเคมีเกษตรทั่วประเทศจะต้องมียาคุมและฆ่าหญ้าทุกชนิดหลายยี่ห้อวางขายเกลื่อนกลาดดาษดื่นเต็มหน้าร้านอาจจะเรียกได้ว่าเป็นยาสามัญประจำบ้านของพี่น้องเกษตรหรือร้านขายยาก็ว่าได้มีทุกร้านค้าและหลังคาเรือน แต่น้อยคนนักที่จะทราบว่าหญ้านั้นก็ดีและมีประโยชน์ต่อพืชและตัวของเกษตรกรอยู่มิใช่น้อยเช่นกันในด้านของการช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ ช่วยสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่จุลินทรีย์ไส้เดือน แมลง ต่างๆ ทั้งตัวดีตัวร้ายให้อยู่กันอย่างสมดุลในช่วงที่อากาศร้อนแล้งหญ้าจะช่วยพรางแสง ลดการคายน้ำลดปัญหาขี้เกลือตกผลึกสะสมอยู่ที่ผิวหน้าดินเพราะถ้าดินมีความชื้นอยู่เกลือก็จะไม่ระเหิดระเหยตกผลิกหญ้าจะทำหน้าที่เป็นธนาคารปุ๋ยให้แก่พืชหลัก ไม่ว่าท่านจะปลูกมะนาว มะม่วง ลางสาดลองกอง มังคุด ฯลฯ หญ้าจะดูดกินปุ๋ยในดินเข้ามาสะสมไว้ตนเองในช่วงที่พืชหลักยังไม่เจริญเติบก็ทำหน้าที่เป็นเพือนพี่เลี้ยงถ้าเกษตรกรทำการตัดดายไปเพียงครึ่งเดียวอย่าถากจนเหี้ยนเตียนส่วนปลายของต้นหญ้าก็จะย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยคืนสู่ดินและธรรมชาติกลายเป็นปุ๋ยกลับมาสู่พืชอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนั้นแล้วหญ้ายังทำหน้าที่ช่วยถ่วงความสมดุลให้กับพืชคอยแบ่งเบาปุ๋ยส่วนเกินไม่ให้พืชดูดกินมูมมากจนมากเกินไปและส่งผลทำให้พืชไม่เฝือใบหลังจากทำหน้าคล้ายเป็นพี่เลี้ยงให้กับพืชหลักจนโตและสร้างล่มเงาบดบังพื้นที่มากขึ้นหญ้าก็จะเริ่มลดน้อยถอยลงไปตามธรรมชาติถ้าดูแลร่มเงาให้เหมาะสมหญ้าก็จะไม่รกรุงรัง สังเกตได้จากสวนยางพารา เงาะ ลองกองทุเรียนที่มีอายุเป็นสิบปีขึ้นไปเข้าไปในสวนในดงก็จะไม่มีต้นหญ้าที่ดูกรกลูกหูลูกตาจนน่าเกลืยดเกินไป จะอย่างไรก็ตามการบริหารจัดการหญ้าถ้าหลีกเลี่ยงยาคุมและยาฆ่าได้ด้วยหลักการเขตกรรมก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ดังที่ได้พูดหรือเอ่ยประโยชน์ได้ทราบกันไปในตอนต้นแต่ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ยังต้องใช้กันอยู่ ยาคุมและฆ่าหญ้าใช่ว่าจะไม่อันตรายต่อพืชหลักนะครับ หญ้า ก็คือ พืช, ทุเรียน ลองกอง มังคุด มะม่วง ก็พืช เพราะยาหรือสารเคมีที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของหญ้าก็ย่อมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืชไร่ไม้ผลที่เราปลูกด้วยเช่นกัน ถ้าประสบพบเจอกับผืนดินที่มีการสะสมยาคุมและยาฆ่าหญ้าก็สามารถแก้ปัญหาด้วยการใช้สารล้างพิษในดินอย่าง พูมิช (Pumish) หรือพูมิชซัลเฟอร์ (Pumish Sulpher) นะครับ นอกจากจะมีค่าความสามารถในการจับสารพิษแลกเปลี่ยนประจุในดินอย่างC.E.C. (Catch Ion Exchange Capacity) แล้ว ยังมีแร่ธาตุและสารอาหารที่จำเป็นต่อพืชอีกมากมายในระยะยาวถ้าใช้ร่วมกับปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกอยู่ตลอดก็สามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้อย่างสิ้นเชิงเรียกว่าได้ทั้งตัวที่ทำหน้าที่ล้างดินและได้ทั้งแร่ธาตุสารอาหารเร่งการเจริญเติบโตให้แก่พืชแบบทูอินวันกันเลยทีเดียวเชียวละครับ มนตรี บุญจรัส ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
Create Date : 29 กันยายน 2558 |
Last Update : 29 กันยายน 2558 15:22:57 น. |
|
0 comments
|
Counter : 401 Pageviews. |
|
|
|