น้ำด่างทำลายฤทธิ์ปุ๋ยยา ฉีดพ่นรักษาพืชไม่ได้ผล
น้ำ นับว่าเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่ามีความสำคัญมากกับอาชีพการเกษตรหรืออาชีพการเพาะปลูกและเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์สัตว์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อีกมากมายจนนับไม่ถ้วนแต่ที่จะพูดในวันนี้คือในมุมมองเรื่องของการเปลี่ยนสถานะของน้ำที่ส่งผลทำให้น้ำเป็นตัวทำลายสารที่เป็นประโยชน์จากปุ๋ยยา ฮอร์โมนของเกษตรกรที่จะนำมาผสมร่วมกันเพื่อเป็นตัวทำละลายก่อนนำไปฉีดพ่น โดยเฉพาะน้ำที่มีการสะสมความเป็นด่างไว้สูงไม่ว่าจากภูเขาหินปูนที่เป็นทางผ่านจากลำห้วยหนอง คลอง บึง หรือจากการหว่านปูนเพื่อปรับปรุงดินและถูกน้ำฝนชะล้างพาปูนลงไปในท้องร่องหรือคูคลองก่อนที่จะถูกส่งไปยังคลองส่งน้ำและต่อไปยังเรือกสวนไร่นาของพี่น้องเกษตรกรน้ำเหล่านี้จะมีการสะสมนำพาเอาความเป็นด่างสะสมปนเปื้อนมาด้วย ในฤดูแล้งความเข้มข้นของน้ำยิ่งมีมากขึ้น ด่างที่อยู่ในน้ำเมื่อนำปุ๋ยยา ฮอร์โมนมาผสมรวมเข้าด้วยกันก็จะถูกทำลายด้วยอัลคาไลน์จากด่าง (AlkalineHydrolysis) ทำให้ปุ๋ย ยา ฮอร์โมนเหล่านั้นเกษตรกรนำไปใช้ฉีดพ่นไม่ได้ผลจึงต้องมีการแถม เพิ่ม เสริม เติมเข้าอีกทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือขาดความรู้ความเข้าใจที่มากเพียงพอส่วนจะหวังพึ่งร้านขายปุ๋ยขายยาเคมีก็คงจะน้อยรายที่จะบอกกล่าวเพราะยิ่งเกษตรกรใช้จำนวนยาเพิ่มมากขึ้นเท่าไรก็จะยิ่งทำให้ร้านขายปุ๋ยยาเหล่านั้นได้กำไรมากขึ้น ความจริงแล้วไม่จำเป็นต้องนำของแพง (ปุ๋ย ยา ฮอร์โมน)มาปรับสภาพน้ำ (การเติมปุ๋ยยาฮอร์โมนตามที่ฉลากแนะนำในน้ำที่เป็นด่างเปรียบเหมือนกับการใช้ยาของแพงมาปรับสภาพน้ำให้ลงมาเป็นกรดอ่อน)ควรใช้มะนาว มะขาม มะกรูด ส้ม มะเฟือง น้ำส้มสายชูมาปรับแทนก่อนที่จะเติมปุ๋ยยาฮอร์โมนลงไป โดยให้มีค่าพีเอชลงมาอยู่ที่ประมาณ5.5-6.0 ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้ปุ๋ย ยา ฮอร์โมนมากน้อยเพียงใดถ้าใช้มากก็ปรับลงมาเพียง 6.0 ก็เพียงพอ แต่ถ้าใช้ปุ๋ย ยาฮอร์โมนจำนวนน้อยก็ให้ปรับลงมาที่ 5.5 เลยก็จะช่วยทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นต้องใช้ของแพงมาปรับก่อนล่วงหน้า คือสรุปง่ายว่าไม่จำเป็นต้องแถมปุ๋ยยาฮอร์โมนเพิ่มใช้ตามที่ฉลากแนะนำก็เพียงพอ มนตรี บุญจรัส ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
Create Date : 20 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 20 กรกฎาคม 2555 18:49:52 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1699 Pageviews. |
|
|
|