BlogGang.com : : greenagro - แก้ปัญหาอย่างไร? เมื่อเจอกับสภาพดินแน่นแข็ง น้ำขัง รากไม่เดิน ต้นไม่โต

แก้ปัญหาอย่างไร? เมื่อเจอกับสภาพดินแน่นแข็ง น้ำขัง รากไม่เดิน ต้นไม่โต

สภาพพื้นดินของเกษตรกรที่มีสภาพเป็นดินดาน แน่นแข็ง น้ำไหลซึมผ่านได้ยาก จะทำให้พืชมีการเจริญเติบโตค่อนข้างช้า ต้นแคระแกรน ใบเหลือง รากไม่สามารถออกไปหากินได้ไกล ๆ และทำให้พืชอ่อนแอต่อโรคและแมลงได้ง่าย และในการที่น้ำท่วมขังนาน ๆ อาจจะก่อให้เกิดปัญหารากของพืชขาดอากาศหายใจ และนำมาซึ่งสาเหตุที่ทำให้เชื้อราโรคพืชเข้ามาทำลาย ก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องรากเน่าโคนเน่าอันเป็นสาเหตุที่ทำให้พืชผักไม้ผลของพี่น้องเกษตรกรเสียหายหรือตายได้

ในกรณีที่ดินของเราแน่นแข็งในเบื้องต้นอาจจะต้องแก้ไขด้วยการปรับปรุงสภาพดินให้มีโครงสร้างของดินที่ดีเสียก่อนโดยการเติมอินทรียวัตถุเพิ่มลงไปในดินให้เพียงพอเสียก่อน เช่น การใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกที่ได้จากธรรมชาติ คือมูลสัตว์ที่ได้จากการเลี้ยงเป็ด ไก่ ห่าน ช้าง ม้า วัว ควาย ที่มีอยู่ในหมู่บ้านของเรา หรือถ้าจะซื้อ ก็ควรพิจารณาให้ดีเสียก่อนไม่ควรจะซื้อในราคาที่แพงมากเกินไป ซึ่งจะทำให้เป็นการสิ้นเปลืองเงินทุนโดยใช่เหตุ เพราะปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก ก็คือปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก ไม่จำเป็นจะต้องดีเลิศมากนักเหมือนกับที่เขาโฆษณาขายกันทั่วไปว่าปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพของเขามีเปอร์เซ็นต์ปุ๋ยสูงอย่างนั้น อย่างนี้ แต่จริง ๆ อาจจะนำปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกไปผสมกับปุ๋ยเคมีก็เป็นได้ ทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นและเกษตรกรก็จะเป็นผู้แบกภาระ แต่ถ้าเราใช้ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกแบบธรรมดาสามัญทั่วไป แล้วนำปุ๋ยเคมี มาผสมเพิ่มเติมเพื่อให้พืชของเราได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ก็ใช้ได้เหมือนกันและเปอร์เซ็นต์ของปุ๋ยก็มากกว่าปุ๋ยอินทรีย์ที่นำไปผสมกับปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกแล้วนำไปผ่านกระบวนการปั้นแล้วนำมาผึ่งลมให้แห้ง ซึ่งเปอร์เซ็นต์ของปุ๋ยที่มีอยู่อาจจะสูญเสียไปในกระบวนการผลิตนี้ก็เป็นได้ แต่ราคายังคงสูงอยู่เหมือนเดิม เกษตรกรต้องพิจารณาให้รอบคอบ

ทำการตรวจวัดสภาพความเป็นกรดและด่างของดินอยู่เสมอ อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง เพือจะได้ทำให้ดินของเราเป็นดินที่ตอบสนองต่อการใส่ปุ๋ย คือใส่ปุ๋ยลงไปแล้วพืชสามารถที่จะนำไปใช้ได้ทันที มิใช่ว่าใส่ปุ๋ยลงไปแล้ว ถูกจับ ยึด ตรึงโดยดินที่มีสภาพเป็นกรดจัด หรือ ด่างจัด ทำให้พืชไม่สามารถที่จะกินปุ๋ยได้ ทำให้การเจริญเติบโตก็ช้าลงตามไปด้วย

แต่ถ้าเราต้องการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยทำการระเบิดหน้าดินลงไปอย่างรวดเร็ว และทันต่อสถานการณ์ เพื่อมิให้พืชของเราอ่อนแอเสี่ยงต่อการเกิดโรค และผลผลิตลดน้อย ถอยลง พี่น้องเกษตรกรก็สามารถที่จะใช้ สารละลายดินดาน ALS 29 30 -50 ซี.ซี.ผสมกับน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นหรือราดรดรอบทรงพุ่ม ก่อนใช้ควรทำการราดรดน้ำรอบทรงพุ่มให้เปียกชุ่มโชกเสียก่อน เพื่อให้ดินนั้นฉ่ำไปด้วย หลังจากนั้นจึงค่อยราดรด สารละลายดินดาน ALS 29 ตามอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้น้ำเป็นตัวนำสารลงไปให้ระเบิดดินดานชั้นล่างให้ลึกมากที่สุด หรือจะใช้หลังฝนตกใหม่ ๆ ก็จะเป็นการดีอย่างยิ่ง

มนตรี บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ (www.thaigreenagro.com)

Create Date : 12 สิงหาคม 2552

Last Update : 12 สิงหาคม 2552 13:59:58 น.

9 comments

Counter : 17760 Pageviews.

บล๊อกนี้ข้อมูลเพียบเลยครับ ขอแอ๊ดไว้นะครับ

โดย: endless man

วันที่: 12 สิงหาคม 2552 เวลา:16:00:05 น.

ด้วยความยินดีครับ

โดย: greenagro

วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:18:58:50 น.

รอใช้วิธีนี้ดูซิครับทันใจทันเวลา
“ คุณพร้อมที่จะรวยแล้วหรือยัง....? ”
ธุรกิจการเกษตร เป็นธุรกิจที่ยั่งยืน มีการหมุนเวียนการใช้สินค้าเกี่ยวกับ การเกษตรมาก ทุกรอบฤดูกาลเพาะปลูก
แม้ภาวะทางเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีก็ตาม........เกษตรกร
ก็ยังจำเป็นต้องใช้วัสดุอุปกรณ์การเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่เปรียบเสมือนคนต้องทานอาหารเพื่อยังชีพอยู่ตลอดไปจนกว่าจะสิ้นชีพ ดังนั้นหากท่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้จะทำทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้ แม้ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
แล้ว.....คุณ........จะรอช้าอยู่...???
ทีมงานมืออาชีพ ที่มีความชำนาญทางการเกษตรของเรา ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารพืชครับ.....?

1.ปุ๋ยบัวทิพย์ (อาหารทางดิน) ดูข้อมูลที่ //www.youdo111.blogspot.com

2.โอทู ฟลาโวเจน (อาหารทางใบ) ดูข้อมูลที่ //www.o2money.blogspot.com
แล้วคุณละ.....พร้อมที่จะร่วมงานกับทีมงานมืออาชีพ........หรือยัง...???
***ด้วยระบบแผนการตลาดที่เยี่ยมยอด และทีมงานที่ดีเยี่ยม เราจะพาคุณร่ำรวยกับธุรกิจการเกษตร อย่างยั่งยืน และถาวร***
สนใจเข้าร่วมทีมงาน โทร 081-925-2659 คงกิจ แก้วคำ
Email://tamp1111@yahoo.com
ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง หากเมล์ฉบับนี้รวบกวนจิตใจท่าน

โดย: คงกิจ IP: 202.12.118.61 วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:16:21:00 น.

ดินที่สวนปาล์มด้านหลังติดคลองน้ำเค็มทำให้สภาพดินแข็งปาล์มโตซ้าและแกรนสงสัยดินทั้งเค็มทั้งเปรี้ยวใซ่ไหมค่ะซ่วยด้วยค่ะทำอย่างไรดีลงทุนไปมากแล้วขณะนี้กั้นคันแล้ววอความกรุณาแก้ดินให้ด้วยค่ะเป็นข้าราซการเงินน้อยค่ะ

โดย: อาภาพร IP: 182.52.159.135 วันที่: 4 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:46:01 น.

ดินที่สวนปาล์มด้านหลังติดคลองน้ำเค็มทำให้สภาพดินแข็งปาล์มโตซ้าและแกรนสงสัยดินทั้งเค็มทั้งเปรี้ยวใซ่ไหมค่ะซ่วยด้วยค่ะทำอย่างไรดีลงทุนไปมากแล้วขณะนี้กั้นคันแล้วขอความกรุณาแก้ดินให้ด้วยค่ะเป็นข้าราซการเงินน้อยค่ะ

โดย: อาภาพร IP: 182.52.159.135 วันที่: 4 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:48:09 น.

สารนี้มีผลกระทบกับพืชรึป่่าวครับ

โดย: รุต IP: 1.46.168.179 วันที่: 20 กันยายน 2553 เวลา:19:53:12 น.

ปลูกยางพาราบนดินที่มีสภาพแข็ง และมีหินดานปนอยู่ จะมีปัญหาอะไรหรือป่าวค่ะ และมีวิธีแก้ไขอย่างไรค่ะ รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำหน่อยนะค่ะ จะขอบพระคุณมาก เพราะลงทุนไปมากแล้วกลัวเหมือนกันค่ะ

โดย: น้องน้อย IP: 27.55.5.22 วันที่: 10 สิงหาคม 2555 เวลา:21:50:48 น.

- คุณน้องน้อยควรสำรวจตรวจสภาพความเป็นกรดและด่างของดินก่อนนะครับ ดินที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชและตอบสนองต่อการใส่ปุ๋ยจะต้องมีค่าพีเอชอยู่ที่ระหว่าง 5.8-6.3

- หลังจากนั้นใช้กลุ่มอินทรีย์วัตถุอย่างปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพเข้ามาปรับปรุงบำรุงดินให้มากๆ (หาราคาที่ต่ำๆไม่ต้องแพงมาก) จะช่วยทำให้โครงสร้างดินดีขึ้นในระยะยาว

- การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการใช้ สารละลายดินดาน ALS29 ในอัตรา 20-30 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นหรือราดรดหลังฝนตกใหม่ๆ ก็จะช่วยทำให้ดินร่วนซุยขึ้นได้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นใช้หินแร่ภูเขาไฟ พูมิชซัลเฟอร์ ใส่เพิ่มเพื่อปรับปรุงบำรุงดินและเติมเต็มแร่ธาตุสารอาหารให้แก่ดิน จะช่วยดินโปร่ง ร่วย ซุยดียิ่งขึ้น

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 081-313-7559 นะครับ

โดย: greenagro

วันที่: 9 ตุลาคม 2555 เวลา:10:56:23 น.

ผมที่ดินอยู่ประมาณสามไร่รองปลูกผักหวานป่าร้อยกว่าต้นแต่ดินแข็งมากผักหวานปลูกมาสี่ห้าเดือนแล้วยังไม่โตเลยใส่ปุ๋ยขี้ควายทั่วไร่ร้อยถุง

โดย: เพลิน IP: 124.120.205.84 วันที่: 30 มกราคม 2560 เวลา:17:29:40 น.