ดินเสื่อมโทรม พืชอ่อนแอ
สภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิฤดูกาลในแถบเส้นศูนย์สูตรนั้นมีความแตกต่างจากโซนหรือทวีปในเขตอบอุ่นหรือเขตหนาวเพราะกิจกรรมของพืชและสัตว์ล้วนดำเนินไปอย่างรวดเร็ว พืชสามารถเจริญเติบโต ผลิใบ แตกกิ่งก้านสาขาเจริญเติบโตได้ง่ายดายกว่าพืชเมืองหนาวพืชชนิดเดียวกันปลูกในบ้านเราใช้เวลาเพียงสี่ซ้าห้าเดือนแต่ถ้านำไปปลูกแถบออสเตรเลีย ยุโรป อเมริกา อาจจะต้องใช้เวลาเป็นสองสามปีถึงจะโตได้เท่าเทียมกัน ถึงแม้ว่าพืชเมืองหนาวบางชนิดจะเติบโตได้ดีกว่าบ้านเราก็จริงแต่ถ้าหามองโดยรวมแล้วก็ถือว่าพืชและสัตว์ในเขตอบอุ่นนั้นส่วนใหญ่มีกิจกรรมและการเจริญเติบโตที่มากและเร็วกว่า ยิ่งถ้ามองลึกลงไปในดินนั้น ไม่ว่าจะเป็นไส้เดือน จุลินทรีย์แอคทิโนมัยซีท มัยคอร์รัยซ่า ฯลฯ ล้วนแต่สร้างกิจกรรมย่อยสลายอินทรียวัตถุทำให้เกิดเนื้อดินได้ง่าย และก็เปื่อยผุพังย่อยสลายง่ายด้วยเช่นเดียวกัน การถางป่าปลูกพืชบนพื้นที่ป่าเปิดใหม่อาจจะได้ผลผลิตดีในห้วงช่วงสองสามปีแรกหลังจากนั้นก็จะค่อยๆ ลดน้อยถอยลง จนต้องเพิ่มเติมเสริมด้วยการใส่ปุ๋ย ส่งผลทำให้พืชและเนื้อดินมีคุณภาพและสารอาหารที่เป็นวัฎจักรคืนความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดินค่อยลดน้อยต่ำลงไปเรื่อยๆจากพืชที่ได้รับสารอาหารจากดินที่ค่อยๆเสื่อมโทรมลงไปทีละน้อยพืชจะเจริญเติบโตแตกต่างจากพืชที่อยู่ในป่าสมบูรณ์หรือป่าดิบชื้น ถ้าไม่มีการเคลื่อนย้ายถ่ายเทตะกอนปากแม่น้ำหรือกระแสน้ำหลากที่พัดเอาอินทรียวัตถุ ฮิวมัสจากป่าเขาลำเนาไพรเข้ามาสู่ท้องทุ่งพื้นที่ราบพื้นที่เหล่านี้ก็จะขาดแคลนแร่ธาตุและสารอาหาร พื้นดินนอกพื้นที่ป่าสมบูรณ์ นอกพื้นที่ป่าดิบชิ้นจะเพาะปลูกอะไรก็มีการเจริญเติบโตแพ้ดินที่อยู่ในป่าอีกทั้งเนื้อดินจากอินทรียวัตถุจะถูกทำลายได้ง่าย แตกต่างจากเนื้อดินที่พัฒนามาจากอนินทรีย์หินแร่ ดังนั้นพื้นที่เกษตรโดยทั่วไปในประเทศไทยเมื่อทำการเพาะปลูกแล้วมีการเติมอินทรียวัตถุจากหน้าดินหรือป่าเปิดใหม่พืชก็จะตอบสนองต่อการใส่ปุ๋ยได้ค่อนข้างดีหรือไม่ก็จะต้องสนองต่อกลุ่มวัสดุปรับปรุงบำรุงดินซึ่งเห็นได้ชัดเจนในยุคนี้แม้กระทั่งการใช้กลุ่มของวัสดุหินปูนอย่าง โดโลไมท์ ฟอสเฟต ยิปซั่ม ปูนมาร์ลปูนขาว ฯลฯชาวบ้านก็ยังได้รับความรู้สึกว่าพืชมีการตอบสนองต่อการใส่ปุ๋ยได้ค่อนข้างดีกว่าแต่ก่อน ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพาะกลุ่มวัสดุปูนเหล่านี้ได้ไปปรับปรุงแก้ไขดินกรดดินเปรี้ยวที่เกิดจากการสะสมซัลเฟตจากปุ๋ยเคมีจึงทำให้ปลดล๊อคแร่ธาตุและสารอาหารในดินออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืชได้ค่อนข้างดี จะอย่างไรก็ตามกลุ่มของวุสดุปรับปรุงบำรุงดินในหมวดของหินแร่ภูเขาไฟก็กำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลกโดยเฉพาะแหล่งของหินแร่ภูเขาไฟที่ให้แร่ธาตุสารอาหารเกือบครบโภชนาการของพืช (หลักรอง จุลธาตุและเสริม)โดยเฉพาะซิลิก้านั้นได้รับความสนใจจากด๊อกเตอร์ทั่วโลกในการค้นคว้าวิจัยในการใช้เพื่อป้องกันโรค แมลง เพลี้ย หนอน ราและไร และที่สำคัญการนำหินแร่ภูเขาไฟเพื่อใช้ในการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดินนั้นได้มีการทดสอบทดลองมาค่อนข้างยาวนาน (การปลูกพืชผักปลอดสารพิษ ด้วยภูไมท์ :อ.ดีพร้อม ไชยวงศ์เกียรติ) ว่าสามารถช่วยให้พืชมีภูมิต้านทาน มีความแข็งแกร่ง เพิ่มน้ำหนัก รสชาติดีฯลฯ เหมาะต่อพื้นที่นอกป่าสมบูรณ์และผู้ที่ปลูกพืชเป็นแบบระบบอุตสาหกรรม คือปลูกเป็นจำนวนมาก หรือปลูกเชิงเดี่ยวจะช่วยให้พืชได้รับแร่ธาตุและสารอาหารที่จำเป็นได้อย่างครบถ้วนโดยเฉพาะการใช้ร่วมกับปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกปุ๋ยอินทรีย์ในระยะยาวแทบจะไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีได้เลย มนตรี บุญจรัส ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
Create Date : 02 ธันวาคม 2557 |
Last Update : 2 ธันวาคม 2557 18:54:58 น. |
|
0 comments
|
Counter : 576 Pageviews. |
|
|
|