[http://goodforyou.bloggang.com]
Group Blog
 
All Blogs
 

ระวัง....โรค "กระดูกสันหลังคด"

Scoliosis คือ โรคกระดูกสันหลังคด
กระดูกสันหลังมีหน้าที่รับน้ำหนักและช่วยพยุงร่างกายให้สามารถตั้งตรงได้ ในคนปกติหากมองจากด้านหลังจะเห็นกระดูกสันหลังเป็นแนวเส้นตรง แต่ในคนที่เป็นโรคกระดูกสันหลังคด เมื่อมองจากด้านหลังจะเห็นแนวกระดูกโค้งไปทางซ้ายหรือขวา ไม่เป็นเส้นตรงเหมือนคนปกติ โรคกระดูกสันหลังคดพบประมาณ 2-3 % ของประชากร พบได้เท่ากันในผู้ชายและผู้หญิง แต่ผู้หญิงมักจะมีการคดงอของกระดูกมากกว่าผู้ชาย โรคกระดูกสันหลังคดเกิดได้ในทุกอายุ พบได้ตั้งแต่เด็กเกิดจนถึงวัยผู้ใหญ่ แต่ส่วนมากมักเกิดในช่วงที่มีการเจริญเติบโตของกระดูกอย่างรวดเร็ว คืออายุประมาณ 10-15 ปี


สาเหตุ โรคกระดูกสันหลังคด

ผู้ป่วย 85% ไม่ทราบสาเหตุ มีเพียงส่วนน้อยที่ทราบสาเหตุ เช่น กระดูกสันหลังคดจากขาที่ยาวไม่เท่ากัน กระดูกสันหลังคดจากสมองพิการ หรือเกิดจากความผิดปกติแต่กำเนิด เป็นต้น

อาการ โรคกระดูกสันหลังคด

อาการในผู้ป่วยแต่ละรายอาจแตกต่างกัน ขึ้นกับว่ากระดูกคดเป็นมุมมากน้อยเพียงใด อาการต่างๆที่พบได้มีดังนี้

การเดินผิดปกติ
ไหล่หรือสะโพก 2 ข้าง สูงไม่เท่ากัน
ปวดหลัง
มีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติเวลาออกแรงหรือทำกิจกรรมต่างๆ

การตรวจ โรคกระดูกสันหลังคด
แพทย์จะตรวจกระดูกสันหลังของผู้ป่วยในท่ายืน โดยให้ผู้ป่วยก้มตัว เอานิ้วแตะปลายเท้าตัวเอง ในท่านี้แพทย์จะเห็นลักษณะความผิดปกติของแผ่นหลังได้ชัดเจนมากขึ้น การตรวจเพิ่มเติมด้วย x-ray มีประโยชน์ในการช่วยวัดมุม และช่วยติดตามการดำเนินไปของโรคว่าแย่ลงหรือไม่

การรักษา โรคกระดูกสันหลังคด

การรักษาขึ้นกับมุมการคด การเปลี่ยนแปลงของมุม และอายุของผู้ป่วย

มุมการคดน้อยกว่า 25 องศา : ยังไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาใดๆ ให้ติดตามการเปลี่ยนแปลงของมุม ทุก 4-6 เดือน
มุมการคดมากกว่า 25 องศา : รักษาโดยการใส่เสื้อเกราะ(Brace) เสื้อเกราะเป็นอุปกรณ์ค้ำจุน เพิ่มความแข็งแรง ช่วยป้องกันหรือชะลอไม่ให้มุมการคดมีการเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าเดิม
มุมการคดมากกว่า 45 องศา : อาจต้องรักษาโดยการผ่าตัดเพื่อจัดแนวกระดูกสันหลังใหม่ การผ่าตัดนี้ใช้หลักการเดียวกับการรักษากระดูกหักคือการใช้โลหะช่วยดามกระดูกสันหลังให้ตรง
แพทย์ทางเลือก

สำหรับการรักษาด้วยวิธีอื่น ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยรับรองว่าประสบผลสำเร็จ

Chiropractic manipulation
Electrical stimulation of muscles
Biofeedback

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ เสื้อเกราะ

เสื้อเกราะช่วยป้องกันไม่ให้มีการคดมากขึ้น แต่มักไม่ช่วยแก้ไข้การคดให้กลับมาเป็นปกติ
ควรใส่เสื้อเกราะเป็นประจำ อย่างสม่ำเสมอ
เริ่มแรกอาจใส่เสื้อเกราะนานวันละ 2-3 ชั่วโมง บางรายอาจต้องใส่ตลอดวัน ขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์
อายุของผู้ป่วยมีความสัมพันธ์กับการดำเนินไปของโรค โดยพบว่า เมื่อกระดูกของผู้ป่วยหยุดการเจริญเติบโตเมื่อใด การเปลี่ยนแปลงของมุมการคดมักจะหยุดตาม ซึ่งหมายความว่าผู้ป่วยสามารถเลิกใส่เสื้อเกราะได้เมื่อแพทย์เห็นว่าผู้ป่วยไม่มีการเจริญเติบโตของกระดูกอีกต่อไป
เสื้อเกราะไม่ใช้รักษาโรคกระดูกสันหลังคดในผู้ใหญ่
ระหว่างใส่เสื้อเกราะ ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตได้ตามปกติ เช่น เล่นดนตรี เล่นกีฬา เป็นต้น
เสื้อเกราะจะถูกสวมใส่ไว้ด้านใน และเสื้อผ้าปกติจะถูกใส่ทับด้านนอกเสื้อเกราะ ดังนั้นผู้ป่วยควรเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเพื่อความสบายตัว เสื้อชั้นในควรเป็นผ้าฝ้าย 100% ไม่มีตะเข็บ ไม่มีรอยจีบย่น และพอดีตัว ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเสียดสีกับผิวหนัง ซึ่งทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้




 

Create Date : 09 มิถุนายน 2553    
Last Update : 9 มิถุนายน 2553 15:03:59 น.
Counter : 1948 Pageviews.  

5 นิสัยการกินของ 5 ชาติที่ควรเอาอย่าง



เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์Forbes.com รวบรวมประเทศที่มีคนอายุยืน รวมถึงโภชนาการที่ช่วยให้คนในประเทศเหล่านี้รักษาสุขภาพให้แข็งแรง พวกเขามีเคล็ดลับอย่างไร มาดูกันเลย

1. ญี่ปุ่น สุขภาพดีด้วยผักและปลา อายุขัยเฉลี่ย 82 ปี อัตราคนเป็นโรคอ้วน 1.5%

อาหารญี่ปุ่นเน้นที่ตระกูลผักกาด เช่น กะหล่ำปลี บร็อกโคลี่ กวางตุ้ง และผักคะน้า ส่วนโปรตีน หลัก ๆ มาจากปลาและถั่วเหลืองซึ่งดีต่อสุขภาพหัวใจ ส่วนเส้นราเมนที่ทำจากแป้งธัญพืชก็เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีใยอาหาร อยู่มาก และทำให้สารเซโรโทนินหลั่ง ช่วยกระตุ้นให้อารมณ์ดี และไม่หิวโหย

2. จีน แข็งแรงด้วยเมนูสารพัดผัก อายุขัยเฉลี่ย 73 ปี อัตราคนเป็นโรคอ้วน 1.8%

2 ใน 3 ของอาหารจีนหนึ่งจานมักจะประกอบด้วยผัก ธัญพืช และถั่วชนิดต่าง ๆ เช่น ผักกวางตุ้ง หัวไชเท้า ถั่วเหลือง ขิง และกระเทียม ถึงแม้ว่ามีบางเมนูที่ทอดในน้ำมัน แต่ส่วนมากจะเป็นผัด นึ่ง หรือต้มมากกว่า

3. สวีเดน อายุยืนด้วยอาหารนมและธัญพืช อายุขัยเฉลี่ย 81 ปี อัตราคนเป็นโรคอ้วน 11%

ถึงจะไม่เน้นที่ผักและผลไม้ แต่กุญแจสำคัญของชาวสวีดิชอยู่ที่การกินอาหารที่มีนม ขนมปัง ธัญพืช เบอร์รี่ต่าง ๆ และปลา แคลเซียมในนม ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมัน ขนมปังธัญพืช ก็มีใยอาหาร เบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และแซลมอนกับปลาแฮร์ริ่งต่างก็ดีต่อหัวใจ แถมชาวสวีดิชยังเล่นกีฬาฤดูหนาวกันอีกด้วยนะ

4. อิสราเอล เครื่องเทศเพื่อสุขภาพ อายุขัยเฉลี่ย 81 ปี อัตราคนเป็นโรคอ้วน 24%

อาหาร อิสราเอลใช้ประโยชน์จากเครื่องเทศ สมุนไพร และเมล็ดพืชต่าง ๆ เช่น ขมิ้น มีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ สะระแหน่ มีวิตามินเอและซีหรือแม้แต่ Tahini ส่วนผสมสำคัญในฮัมมัส ก็ทำมาจากเมล็ดงาที่มีสารอาหารมากมายรวมถึงแคลเซียม สังกะสี และกรดโฟลิก


5. สเปน ครบทั้งผัก ผลไม้ ถั่ว และปลา อายุขัยเฉลี่ย 80 ปี อัตราคนเป็นโรคอ้วน 16%

สำหรับบ้านเราอาจไม่ค่อยคุ้นกับอาหารสเปนมากนัก แต่ชาวสเปนมีนิสัยกินอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน นั่นคือไม่นิยมทอดอาหาร แต่จะปรุงด้วยน้ำมันมะกอกซึ่งเป็นไขมันไม่อิ่มตัวและดีต่อหัวใจ เน้นถั่วกับผักซึ่งมีใยอาหารสูงและไขมันต่ำ เช่น อัลมอนด์กับผลไม้จำพวกส้มและมะนาวในท้องถิ่น นอกจากนี่ ยังนิยมกินปลาอีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa




 

Create Date : 09 มิถุนายน 2553    
Last Update : 9 มิถุนายน 2553 14:51:48 น.
Counter : 444 Pageviews.  

จริงหรือ? "น้ำ" แก้ปวดหัวได้



เวลาที่คุณปวดหัวคุณจะทำอย่างไร ส่วนใหญ่มักเลือกที่จะนอนพักผ่อน หรือไม่ก็อาจจะหายาแก้ปวดมากิน

แต่คุณทราบหรือไม่ว่า "น้ำ" ก็สามารถที่จะช่วยให้คุณหายปวดได้เหมือนกันค่ะ ข้อมูลนี้ไปเก็บมาจาก วารสารชีวจิตค่ะ

หากคุณปวดหัวมากจนไม่สามารถที่จะนอนหลับได้ ลองใช้กระเป๋าน้ำร้อนหรือขวดใส่น้ำร้อน แต่ไม่ควรจะร้อนจนเกินไปนะคะเดี๋ยวจะต้องรักษาแผลพุพองที่ตามมาอีกค่ะ หลังจากนั้นก็ประคบที่บริเวณท้ายทอย แล้วใช้ความเย็นประคบที่หน้าผาก จะช่วยให้อาการทุเลาลงได้

แต่ถ้าเป็นอาการที่เกิดจากกล้ามเนื้ออักเสบหรือเอ็นอักเสบ ให้ใช้กระเป๋านำแข็งประคบตั้งแต่ต้นคอลงมาถึงหัวไหล่ในวันแรกเพื่อลดอาการอักเสบและใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบในวันต่อๆ มา จะช่วยให้คลายปวดได้

หรือถ้ามีอาการปวดหัวซึ่งเกิดจากเลือดลมเดินไม่สะดวกรู้สึกมึนๆ ตื้อๆ ให้ใช้วิธีแช่เท้าในน้ำอุ่น โดยเริ่มจากใช้น้ำอุ่นในปริมาณน้อยๆ แล้วค่อยเพิ่มให้น้ำร้อนขึ้นๆ จนกระทั่งรู้สึกอุ่นสบาย แช่ไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง อาการปวดจะบรรเทาลง

อีกวิธีหนึ่งก็คือ นอนคว่ำเอาหมอนรองที่หน้าอก จากนั้นเอาน้ำร้อนประคบที่หลังส่วนบน หรือบริเวณกลางหลังตรงกับแนวกระดูกสันหลัง วิธีนี้จะช่วยให้รู้สึกสบาย

เลิกใช้ยาแล้วหันมาใช้ธรรมชาติช่วยก็คงจะดีไม่น้อยค่ะ

แหล่งข้อมูล : มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค




 

Create Date : 15 เมษายน 2553    
Last Update : 15 เมษายน 2553 12:19:29 น.
Counter : 719 Pageviews.  

ดื่มชาป้องกันมะเร็งรังไข่



สตรีควรจะดื่มชาไม่ว่าชาเขียวหรือชาดำเอาไว้ประจำ วันละ 1–2 ถ้วย จะช่วยลดอัตราเสี่ยงการเป็นมะเร็งของรังไข่ลงได้ ตั้งครึ่งหรือมากกว่านั้น

นักวิจัยมหาวิทยาลัยแห่งวอชิงตัน ของสหรัฐฯ สังเกตพบจากการศึกษากับผู้หญิง 2,000 คน ว่า สามารถหนีห่างโรคมะเร็งรังไข่ได้ตั้งร้อยละ 54 ชั่วการดื่มชาเขียวประจำวันละ 1-2 ถ้วย

ขณะที่สถาบันการแพทย์สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ก็ศึกษาพบว่า สตรีที่ดื่มชาดำวันละอย่างต่ำ 2 ถ้วย จะลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งรังไข่ ลงได้เกือบร้อยละ 50

การศึกษาทั้งสองแห่ง ได้ ยืนยันสรรพคุณของชาดำและชา เขียวในการป้องกันมะเร็ง นอกจากที่เคยสังเกตพบว่า ช่วยบำรุงหัวใจ สมองและลดปริมาณไขมันเลวในเลือดลงได้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ




 

Create Date : 15 เมษายน 2553    
Last Update : 15 เมษายน 2553 12:18:30 น.
Counter : 586 Pageviews.  

หัวฝักบัว แหล่งสะสมเชื้อโรคที่ไม่ควรมองข้าม



ใครที่ใช้ฝักบัวอาบน้ำอยู่เป็นประจำต้องมาฟังทางนี้เลยนะคะ เพราะหากคุณไม่ระวัง อาจเป็นที่มาของโรคปอดในไม่ช้าแน่นอนค่ะ

เนื่องจากได้มีการสุ่มตรวจวิเคราะห์หาเชื้อโรคในหัวฝักบัวตามสถานที่ต่างๆ กว่า 9 เมือง พบว่าร้อยละ 30 มีเชื้อมัยโคแบคทีเรียม เอเวียม ปนเปื้อนอยู่มาก ตามปกติเชื้อตัวนี้พบในน้ำประปาทั่วไป แต่สะสมอยู่ในหัวฝักบัวมากกว่าระดับที่พบในน้ำประปาถึง 100 เท่า ซึ่งหากผู้ใช้เปิดให้น้ำจากฝักบัวโดนหน้าตั้งแต่ครั้งแรก จะทำให้ได้รับเชื้อดังกล่าวสูงมาก และเสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดตามมา

จากการตรวจพบอีกว่าในฝักบัวแบบที่เป็นโลหะจะพบการสะสมของเชื้อโรคน้อยกว่าแบบพลาสติก ดังนั้นการแก้ไขผู้ใช้ก็ควรเปลี่ยนหัวฝักบัวมาใช้แบบโลหะที่มีตัวกรองช่วยในการลดการสะสมของเชื้อโรค หรือเปลี่ยนไปอาบน้ำในอ่างแทน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการรับเชื้อเข้าสู่ปอดได้เช่นกัน

ขอบคุณนิตยสารผู้หญิง




 

Create Date : 15 เมษายน 2553    
Last Update : 15 เมษายน 2553 12:17:35 น.
Counter : 1107 Pageviews.  

1  2  3  4  

goodforyou
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add goodforyou's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.