Group Blog
 
All Blogs
 

Glamourous Fighter Fiction บทที่ 10 โทสะของ Jay


“Twin Dragons !”
Jay ใช้ท่าไม้ตายออกมาแล้ว ท่านี้ Jay แผ่พุ่งเพลิงดำจากมือขวาใส่กระจกนิรภัยที่อยู่เบื้องหน้า กระจกนั้นจึงกลายเป็นน้ำแข็งไป เปรียบเหมือนเป็นมังกรตัวแรกที่จู่โจมก่อน
จากนั้น Jay ก็ใช้พลังหมัดจากแขนซ้าย กระแทกใส่กระจกซึ่งกลายเป็นน้ำแข็งที่เปราะบาง จนมันแหลกเป็นผุยผง เปรียบเหมือนมังกรตัวที่ 2 ที่จู่โจมซ้ำ
Jay ฝ่ากระจกเข้าไปได้สำเร็จอย่างง่ายดาย และกำลังพุ่งเข้าหา Viktor อย่างรวดเร็ว
เป็นความเร็วที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ สำหรับ Jay นับจากที่เขาลุกจากที่นั่ง จนกระทั่งบุกมาถึงที่ตอนนี้ ใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาทีด้วยซ้ำ
Viktor จำเป็นต้องละมือกลับมาจาก Anna เพื่อรับมือ Jay ก่อน
แต่ว่า Jay กำลังเลือดขึ้นหน้า จึงใช้ท่าไม้ตายสุดยอดของเขาออกมาทันทีเลย
“Ice Chain !”
นี่เป็นท่าไม้ตายที่รุนแรง และรวดเร็วที่สุดของ Jay เป็นท่าโจมตีต่อเนื่องโดยเริ่มจากท่า Ice Pins ซึ่งใช้หลักการเดียวกันกับเข็มของ Anna คือ การรวบรวมไอน้ำในอากาศ มาสร้างเป็นเข็มจำนวนมาก จู่โจมใส่ Viktor จนเสียจังหวะ
จากนั้น ตามเข้าไปซ้ำด้วยท่า Ice Flash ซึ่งเป็นการใช้น้ำแข็งห่อหุ้มหมัดและเท้าเอาไว้ เป็นเพลงหมัดน้ำแข็ง จู่โจมด้วยเพลงหมัดนับสิบๆ ครั้งภายในไม่ถึงวินาทีเดียว
เมื่อหยุดจากท่า Ice Flash แล้ว คู่ต่อสู้ก็จะถูก Jay ผลักออกห่างไปเล็กน้อย แล้วใช้ท่า Black Dragon ซึ่งเป็นเพลิงดำขนาดยักษ์ ที่มีรูปร่างเป็นมังกรดำ พุ่งเข้าขย้ำใส่คู่ต่อสู้โดยไม่ปรานี เป็นการปิดท้ายของท่า Ice Chain
เมื่อ Jay ใช้ท่า Black Dragon ออกมา มังกรดำก็หอบเอาร่างของ Viktor ปลิวออกนอกเวทีทันที
อันที่จริง Viktor สามารถรั้งสมาธิกลับมารับมือ Jay ได้ทันเวลาแล้ว และน่าจะสามารถต้านทานการจู่โจมนี้ได้
แต่เป็นเพราะ Anna นั้นได้ยินเสียงตวาดของ Jay และเห็นทันว่า Jay เป็นทายาทน้ำแข็ง ดังนั้นจึงตั้งสมาธิรวบรวมไอน้ำให้มารวมกันบนเวที เพื่อเกื้อหนุนพลังสายความเย็นของ Jay นั่นทำให้ Jay สามารถลงมือได้เร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลารวบรวมไอน้ำเอง และยังทำให้จำนวนเข็มในทีแรกมากขึ้นเป็นทวีคูณ ดังนั้น Viktor จึงไม่สามารถต้านรับได้
ถ้าหาก Jay ต้องเสียเวลาอีกซักเล็กน้อย Viktor ก็คงพลิกสถานภาพได้แล้ว
ขณะที่ Viktor นอนแผ่อยู่นอกสนามอย่างเจ็บปวดนั้น Jay ก็ตรงเข้าไปประคอง Anna ขึ้น แม้เธอจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่ยังไม่มีอันตรายถึงชีวิต
Viktor ค่อยลุกขึ้นมาพร้อมกับสีหน้าเคียดแค้น พูดว่า
“แก... ! เล่นทีเผลอ !”
Jay สวนคำกลับไปว่า
“จะเอาอีกมั้ยล่ะวะ !”
ก่อนที่ Jay จะทำอะไรลงไป Anna ก็ร้องห้ามเสียงสั่น
“อย่า... อย่านะ Jay... ถ้าขืนก่อเรื่องมากกว่านี้เธออาจจะถูกตัดสิทธิ์ก็ได้นะ”
Jay พูดอย่างไม่สนใจว่า
“ไม่ ! เรื่องนั้นไม่สำคัญ มันทำร้ายเธอ ฉันจะแก้แค้น !”
Viktor ตะโกนแทรกขึ้นมาว่า
“น้ำเน่าจริงโว้ย ! ตายไปทั้งคู่เลยก็ได้ !”
ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะเปิดศึกกันอีกครั้ง ก็มีเสียงประกาศดังขึ้น เป็นเสียงของ Kølvet พูดว่า
“ขอให้ทุกฝ่ายหยุดมือเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นเราจะตัดสิทธิ์ในการแข่งขันของทั้ง 3 ฝ่าย”
ประกาศิตนี้หยุดยั้งเหตุการณ์นองเลือดได้สำเร็จ ทั้ง Jay และ Viktor ต่างก็ยั้งตัวเองเอาไว้
ขณะนี้ ผู้เข้าแข่งขันของทั้ง 3 ทีม ต่างก็ลงมารวมกันที่ข้างเวทีกันจนครบทุกคนแล้ว Kølvet จึงประกาศต่อไปว่า
“ขอให้ทุกท่านโปรดรอซักครู่ คณะกรรมการจัดการแข่งขันจะทำการลงมติ เพื่อหาข้อสรุปในกรณีนี้”
มีเสียงดังพึมพำขึ้นจากทั่วทั้งสนาม
ขณะเดียวกัน หน่วยพยาบาลก็กำลังตรงเข้ามานำ Anna ออกจากสนาม
Ray บอก Jay ว่า จะตามไปด้วยก็ได้ เขาจะอยู่ฟังข้อสรุปให้เอง Jay จึงตามออกไปกับ Anna ด้วย
Anna ได้รับการปฐมพยาบาลแล้วนำส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมาอยู่ในห้องพักฟื้นพิเศษที่ฝ่ายจัดการแข่งขันจัดเตรียมไว้ให้ หมอบอกว่าเธอไม่มีอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใด
แต่ Jay ก็อยู่เฝ้าเธอจนกระทั่งถึงค่ำ ทีมเมทของพวกเขาก็มาถึง ในขณะที่ Anna ลุกขึ้นนั่งได้แล้ว
มองหน้าทั้ง 4 คนก็รู้ได้ทันทีว่า ไม่ต้องหวังผลเลิศจากข้อสรุปของคณะกรรมการเลย โดยเฉพาะ Jinnie ทำหน้าบูดมากที่สุด
Anastasya อธิบายว่า
“เขาตัดสินให้เราแพ้ Jinnie ก็เลยไม่พอใจน่ะ”
Anna ยิ้มฝืนๆ พลางพูดว่า
“ก็สมเหตุสมผลดีแล้วนี่”
Anastasya พูดต่อไปอย่างร้อนรนเล็กน้อยว่า
“แต่ว่า คุณ Jay...”
ทุกคนในที่นั้นหันมามอง Jay ด้วยสีหน้าเป็นกังวลเล็กน้อย
Jay เองก็เตรียมใจไว้เรียบร้อยแล้ว จึงถาม Ray ว่า
“ว่าไง Ray ?”
Ray ตอบอย่างใจเย็นว่า
“เขาลงโทษแบนนาย 1 นัด หมายความว่า นัดหน้าที่จะเจอกับ Fluence Team นั้น นายจะหมดสิทธิ์ลงสนาม และทีมเราจะต้องสู้ด้วยจำนวนผู้เข้าแข่งขัน 2 คน”
Vurtisa สาธยายว่า
“เขาตั้งข้อหาพี่ชายว่า จุดชนวนความวุ่นวาย ก่อกวนการแข่งขัน แล้วก็เล่นนอกเกมอย่างรุนแรง ดูเหมือนตอนแรกเขาจะตัดสิทธิ์พี่ชายแล้ว แต่ว่ามีกระแสต่อต้านจากผู้ชม สุดท้ายเขาจึงลดโทษให้เป็น 1 นัด และลงโทษทั้งทีมโดยให้นัดหน้านี้ ลงสนามได้แค่ 2 คน”
Anna กลับหัวเราะออกมา และพูดทำลายความเครียดว่า
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ยังไงพรุ่งนี้ Vurtisa ก็จะสู้คนเดียวอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ?”
Vurtisa และ Jinnie ต่างก็หน้าแดงขึ้นมาโดยไม่ได้นัดหมาย Jinnie ถึงกับขอตัวออกจากห้องไป ราวกับกำลังลี้ภัย
แม้แต่ Jay ที่กำลังเครียดกับอาการบาดเจ็บของ Anna และเรื่องสถานการณ์ของทีม ยังอดยิ้มออกมาไม่ได้
Ray พูดอย่างนึกขึ้นได้ว่า
“อ้อ ! การแข่งขันของเราจะลงแข่งพรุ่งนี้ตามกำหนดเดิม สถานที่เดิม เขาว่าเขาสามารถจัดการกับสภาพสนามให้เรียบร้อยได้ ก่อนที่จะเริ่มเกมวันพรุ่งนี้”
Jay พยักหน้ารับรู้ แล้วพูดว่า
“พรุ่งนี้ฉันไม่ไปดูเกมได้มั้ย ?”
Ray ก็ไม่ว่าอะไร แล้วบอกว่า
“ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้เราชนะแน่นอน นายพักผ่อนตามสบาย”
Jay ก้มหน้าลง แม้ Ray จะพูดอย่างนั้น แต่เขาก็อดคิดไม่ได้ว่า เขา... เขาเป็นคนที่ทำให้ทีมตกที่นั่งลำบาก การที่ทีมขาดเขาไปคนนึงมีความแตกต่างอย่างใหญ่หลวง เขาจะทำท่าเย็นใจไม่รับรู้ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น Anastasya ก็แยกกลับไปโรงแรม ส่วน Ray กับ Vurtisa ก็เตรียมตัวจะไปพักเอาแรงสำหรับวันพรุ่งนี้ จึงขอตัวกลับไปเช่นกัน
ภายในห้องจึงเหลือเพียง Jay กับ Anna อยู่กันสองต่อสอง
Jay ถอดแว่นออกแล้วถาม Anna ว่า
“เธอเป็นยังไงบ้าง ?”
Anna ตอบแบบไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเป็นกังวลว่า
“ไม่เป็นไรมากหรอก ซักอาทิตย์นึงก็คงหายดี ผู้มีพรสวรรค์อย่างเราๆ น่ะมีความสามารถในการฟื้นตัวมากกว่ามนุษย์ธรรมดาหลายเท่า”
Jay พยักหน้ารับอย่างเนือยๆ
Anna เห็นสีหน้า Jay แล้วก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน ต้องยื่นมือมากุมมือ Jay ไว้ แล้วพูดว่า
“อย่าโทษตัวเองเลยนะ ทั้ง Ray และ Vurtisa ไม่มีใครโทษเธอหรอก อย่าง Anastasya หรือ Jinnie เองก็เหมือนกัน ถึงพวกเขาไม่พูดแต่ฉันก็รู้ว่าพวกเขาดีใจ ที่เธอช่วยชีวิตฉันไว้”
Jay รับคำเพียงส่งเสียงอือม์เบาๆ
Anna จึงต้องพูดอีกว่า
“คนอื่นๆ ก็เหมือนกัน ผู้ชมในสนามเขาก็ต้องเข้าใจเธอแน่ๆ ว่า เธอไม่มีทางเลือกจริงมั้ย ?”
Jay ก็ยังคงรับคำเพียงส่งเสียงอือม์เบาๆ อีก Anna จึงลองถามว่า
“อย่างสมมติว่า ถ้าเธอมีโอกาสเลือกอีกที เธอจะทำอย่างนั้นมั้ย ? เธอจะยังลงมาช่วยฉันมั้ย ?”
Jay ยืนยันว่า
“ใช่ แน่นอน ฉันต้องช่วยเธอแน่”
Anna จึงพูดว่า
“นั่นไง ! นั่นก็แสดงว่า เธอคิดว่าสิ่งที่เธอทำมันไม่ผิดไง”
Jay แย้งว่า
“ผิดสิ... ผิดต่อส่วนรวมในฐานะที่เห็นเรื่องส่วนตัวมาก่อนเรื่องส่วนรวมไง แต่ก็เพราะเป็นเธอนะ Anna...”
เขาพูดพลางซุกหน้าลงบนหน้าอกของ Anna มีแต่ที่นี้เท่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายได้ เขาพูดกับเธออีกว่า
“...เป็นเธอคนเดียวเท่านั้น”
Anna แม้จะอยู่ในอาการเขินจัด แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน กลับยก 2 แขนโอบรอบคอ Jay ไว้ แล้ววางคางลงบนศีรษะของ Jay
Jay อยู่เฝ้า Anna ที่โรงพยาบาลทั้งคืน จนกระทั่งช่วงสายๆ ของวันต่อมา Vurtisa ก็เอาเสื้อผ้ามาให้ Jay เปลี่ยนที่โรงพยาบาล และถามถึงอาการของ Anna เล็กน้อย
Jay ก็ถามถึงเรื่องการแข่งขันบ้างว่า
“วันนี้ พร้อมมั้ย ?”
Vurtisa ตอบด้วยอาการตื่นเต้นว่า
“ไม่รู้สิครับ... ผม... รู้สึกกลัวๆ”
Jay ตบไหล่ Vurtisa พร้อมกับพูดว่า
“ไม่ต้องกลัว ถึงนายจะแพ้ แต่ Ray ก็จะแก้สถานการณ์ให้นายได้ ไม่ว่ายังไงทีมเราก็จะชนะ ดังนั้นนายคิดเอาไว้อย่างเดียวว่า เราจะไม่แพ้ แล้วนายก็จะไม่แพ้”
Vurtisa รับคำเสียงละห้อย
Jay เปลี่ยนเรื่องไปว่า
“เรื่องพลังของนายเป็นไงบ้าง ?”
Vurtisa ตอบว่า
“ใช้ได้ครั้งเดียวครับ โดยไม่หมดสติ แต่ถ้าใช้ครั้งที่ 2...”
Jay ตบไหล่ Vurtisa อีกครั้งพร้อมกับพูดว่า
“ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วไม่ใช่เหรอ ?”
Vurtisa ยิ้มเนือยๆ Jay จึงต้องกระตุ้นอีกทีว่า
“ไปลุยได้แล้ว เอาชัยชนะกลับมาให้ได้ อย่าลืมสิว่านายพนันอะไรไว้”
Vurtisa มีท่าทางคึกขึ้นมาทันที รับคำเสียงดังแล้วขอตัวออกไป
ในขณะที่ Anna ตีหน้าบึ้งตึงพูดว่า
“ผู้ชายคิดแต่เรื่องพวกนี้...”
Jay พูดด้วยน้ำเสียงประจบว่า
“แค่กระตุ้นนิดหน่อยเท่านั้นแหละ เรื่อง Jinnie ฉันรับปากไว้แล้ว เดี๋ยวจะคุยกับ Vurtisa ให้แน่ๆ... นะ... น้า...”
เขาทำเสียงอ้อนมากขึ้น Anna จึงเปลี่ยนเป็นยิ้มออกมาและพยักหน้าหงึกๆ
Jay ค่อยโล่งอก จึงเปลี่ยนเรื่องไปถามว่า
“ฉันมั่นใจในตัว Vurtisa นะ เธอว่าไง ?”
Anna ตอบว่า
“ด้านความสามารถแล้ว เขายังมีอนาคตอีกย่วไกล นัดนี้ขึ้นอยู่กับจิตใจของเขามากกว่า”
Jay ก็พยักหน้าเห็นด้วย
“ใช่ กำแพงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาก็คือกำแพงใจนี่เอง ตัวเขาเองมีพัฒนาการสูง ถ้าสามารถก้างข้ามกำแพงใจไปได้ละก็ ไม่มีกำแพงไหนที่จะสูงเกินเอื้อมสำหรับเขาอีกต่อไป”




 

Create Date : 02 กันยายน 2548    
Last Update : 2 กันยายน 2548 23:47:05 น.
Counter : 264 Pageviews.  

Glamourous Fighter Fiction บทที่ 9 Viktor ผู้โหดเหี้ยม

การต่อสู้ระหว่าง Viktor กับ Anna กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
ก่อนจะเริ่มการต่อสู้ Anna กำลังรีดน้ำออกจากเสื้อแขนกุดและกระโปรงสั้นสีขาวล้วน รวมทั้งต้องจัดการกับน้ำที่อยู่ในรองเท้าบู๊ตของเธอด้วย แต่ผู้ชมทั้งสนามล้วนยินดีจะรอเธอ เพราะท่าทางของเธอช่างเย้ายวนใจนัก
เมื่อเธอจัดการกับตัวเองเสร็จเรียนร้อย โฆษกก็ประกาศว่า
“ไฟนัลราวน์ด ระหว่าง Viktor กับ Anna...”
Viktor เป็นชายร่างสูง สูงประมาณ 2 เมตร ไว้ผมสีเขียวแก่ปรกหน้า ด้านหลังรวบหางม้ายาว สวมเสื้อโค๊ตกำมะหยี่สีดำยาวครอบข้อเท้า ทับเสื้อเชิ๊ตสีขาวที่ปล่อยชายไว้นอกกางเกงขายาวสีดำ
สำหรับรอบนี้ Jay และยอดฝีมือคนอื่นๆ ในสนาม ล้วนเห็นพ้องต้องกันว่า นี่เป็นการต่อสู้ที่ห่างชั้นกันเกินไป และรู้ผลตั้งแต่อยู่ในมุ้ง
Anna นั้นโชว์ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์แล้ว ในขณะที่ Viktor นั้น ไม่ว่าใครก็รู้สึกได้ว่า เป็นคนที่มีพลังอ่อนที่สุดในทีม สัมผัสถึงพลังไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
แต่ว่า...
Ray ที่กำลังชมการแข่งขันอยู่ด้วยนั้น กลับเกิดลางสังหรณ์บางอย่างขึ้นมา แม้ว่าเขาจะมีความเห็นว่า Viktor นั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ Anna เหมือนคนอื่นๆ แต่ว่า สัญชาตญาณของเขากำลังบอกว่า Viktor นี้ เป็นตัวอันตราย
ทั้งหมดนี้ทำให้ Ray รู้สึกสับสนไม่น้อย
“...เริ่มการต่อสู้ได้ !”
Viktor จู่โจมใส่ Anna ทันทีที่สิ้นเสียงโฆษก
และก็เร็วมาก... แม้จะไม่เร็วเท่า Maxim แต่ก็ยังเร็วกว่า Jay อย่างไม่น่าเชื่อ
แต่อย่างไรก็ตาม Anna สร้างกรงเข็มขึ้นมารอต้อนรับไว้แล้ว และกรงนั้นช่วยกันตัวเธอเองให้อยู่นอกระยะโจมตีของ Viktor อย่างแน่นอน
แต่ทว่า... เธอประเมินคู่ต่อสู้ต่ำไปซะแล้ว...
Viktor ทนความเจ็บปวดจากการถูกเข็มจำนวนมากทิ่มแทงได้ พุ่งเข้าจู่โจมใส่ Anna โดยไม่สนใจว่าเลือดของตัวเองกำลังสาดออกมา
Anna คาดไม่ถึงว่าคู่ต่อสู้จะตัดสินใจบุกฝ่าอย่างหักดิบเช่นนี้ ยามกะทันหันเธอจึงได้แต่ยกมือขึ้นรับหมัดของ Viktor จนถูกกระแทกลอยไปนอนฟุบอยู่ที่ขอบเวที
ไม่ว่าใครในสนามก็ไม่คิดว่าหมัดนี้จะทำให้ Anna ร่วงได้ เพาะอย่างน้อยเธอก็ยังรับมือได้ทัน ไม่ว่าจะเป็น Jo หรือ Pirno หรือ Jay กับ Ray ล้วนรู้ตัวเองว่า ถ้า Anna มีโอกาสรับหมัดของตัวเองได้ ก็ย่อมจะสามารถตั้งหลักได้ ไม่มีทางที่จะปลิวหมดท่าอย่างนี้
นี่แสดงให้เห็นว่า Viktor มีพลังร่างกายสูงส่งขนาดไหน
ขณะนั้น Anna ค่อยๆ คืบคลานลุกขึ้นมา ในขณะที่ Viktor ก็ไม่ซ้ำคนล้ม
แต่เมื่อ Anna ลุกขึ้นมาตั้งหลักสำเร็จ Viktor ก็พุ่งเข้าใส่ทันที
คราวนี้ Anna มีบทเรียนมาแล้วครั้งนึง จึงเตรียมตัวจะหลบ แล้วหาโอกาสสวนกลับ
แต่... คราวนี้เธอคำนวณพลาดไปอีกแล้ว...
Viktor มีพลังร่างกายแข็งแกร่งมาก ไม่ได้หมายความเร็วอ่อนด้อย Anna ที่คิดจะหลบในระยะประชิดเพื่อจะพลิกกลับเป็นฝ่ายรุกนั้น กลายเป็นว่าตามความเร็วของ Viktor ไม่ทันและต้องยืนรับหมัดไปตรงๆ เพราะคราวนี้ Viktor กลับเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีก จนเกือบจะสูสีกับ Maxim อย่างไม่น่าเชื่อ
Anna ถูกหมัดนี้กระแทกใส่โดยไม่ทันตั้งรับ ต้องปลิวออกจากเวทีอย่างไม่มีหางเสือ
แต่แล้ว... สิ่งที่ไม่มีใครคาดฝันก็เกิดขึ้น...
Viktor พุ่งตัวตาม Anna ไปด้วยความเร็วสูงสุด กลับคว้าคอเสื้อของเธอเอาไว้ แล้วเหวี่ยงร่างของเธอกลับมาที่กลางเวที
คราวนี้ยิ่งทำให้ทั้งสนามประหลาดใจมากขึ้นไปอีก แม้แต่ Jay ยังถึงกับยืนขึ้นอย่างลืมตัว
Viktor พูดเสียงเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ลุกขึ้นมาสิ... ฉันยังสนุกไม่พอเลย”
เขายิ้มอย่างเหี้ยมเกรียมพลางย่างสามขุมเข้าหา Anna ที่หมอบอยู่กัยพื้นเวที และไม่มีแรงลุกขึ้นมาอีก
Viktor พูดต่อไปอีกว่า
“ถ้าไม่ลุกก็อย่าหาว่าฉันซ้ำคนล้มนะ”
เขาเดินมาถึงตัว Anna ที่ยังคงนอนจุกอยู่กับพื้น แล้วคว้าเสื้อเธอเหวี่ยงร่างของเธอขึ้นกลางอากาศ แล้วโดดตามขึ้นไปเหวี่ยงเข่าใส่ท้องน้อยของเธอ
Anna จุกจนร้องไม่ออก ในขณะที่ Viktor ยังตามซ้ำโดยการศอกลงที่ท้ายทอยของเธอ จนเธอร่วงกลับลงมาบนเวที
Viktor หยุดมือแล้วพูดว่า
“ฉันเกลียดนัก... เกลียดไอ้พวกผู้มีพรสวรรค์ พวกที่เกิดมาสบายๆ ไม่ต้องฝึกซ้อมก็เก่งได้ ไม่ต้องมีความพยายามก็ดังได้ ต่างกับฉัน... ที่ต้องกล้ำกลืนการฝึกที่เหมือนนรก กว่าจะมาถึงระดับนี้ได้”
ทั้งหมดนี้หมายความว่า ตัวเขาเองไม่ได้เป็นผู้มีพรสวรรค์ หากแต่อาศัยความพยายามของตัวเองล้วนๆ จึงมีพลังร่างกายที่แข็งแกร่งระดับนี้ได้
และนี่ก็ยังเป็นเหตุผลว่า ทำไมคนอื่นๆ ถึงสัมผัสถึงพลังของ Viktor ไม่ได้ นั่นก็เพราะว่าเขาไม่มีพลังนั่นเอง
ขณะที่ Viktor พูดต่อยอดไปอีกว่า
“เพราะฉะนั้น... ฉันจะแสดงให้ทั้งโลกได้รู้ว่า พวกแก... ผู้มีพรสวรรค์ที่ได้ความสามารถมา โดยที่ไม่ต้องพยายาม ความสามารถนั้นเมื่อมาอยู่ต่อหน้าผู้ที่มีความพยายามเหนือกว่าอย่างฉันแล้ว มันไร้น้ำยา ฉันจะละเลงเลือดพวกแก... ทรมาน... แล้วให้ตายอย่างช้าๆ หึ... ฮ่า ! ฮ่า ! ฮ่า ! ฮ่า ! ฮ่า !”
น้ำเสียงของเขาทวีความวิกลจริตมากขึ้นเรื่อยๆ เขาพูดปิดท้ายว่า
“เพื่อการนี้... ฉันจะให้เธอมาเป็นปฐมบทในตำนานของฉันก็แล้วกันสาวน้อย”
เขาเริ่มลงมือกับ Anna ที่ยังคงลุกไม่ขึ้นต่อไป
ขณะนั้น เริ่มมีกระแสไม่พอใจมาจากผู้ชมบนอัฒจรรย์ รวมทั้งบนชั้นบ๊อกซ์ด้วย
Vurtisa โพล่งออกมาว่า
“ไอ้นี่มันบ้าไปแล้ว !”
Jo ที่นั่งอยู่ห่างออกไปก็พยักหน้าเห็นด้วย และคิดในใจว่า ‘อยากจะลงไปสั่งสอนไอ้เวรนี่ซะเหลือเกิน’
ในขณะที่ Ray ยังรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้ ไม่แสดงออกทางสีหน้ามากนัก
ส่วน Pirno นั้นไม่แสดงอาการอะไรแม้แต่น้อย ราวกับเขากำลังคิดว่านี่เป็นเรื่องธรรมดา
แต่สำหรับคนที่สำคัญที่สุด... Jay นั้น... เขากลับนิ่งจนดูน่ากลัวขึ้นมา ไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นแววตาที่ซ่อนอยู่ภายใต้แว่ยกรอบนั้น ไม่มีใครอ่านออกว่าเขากำลังคิดอะไร แต่ที่ทุกคนต่างก็รู้สึกได้ก็คือ เขากำลังแผ่จิตสังหารอันรุนแรงและน่ากลัวออกมา แม้แต่ Ray และ Vurtisa ที่เป็นทีมเมท ยังสัมผัสจนขนลุกเกรียว
Vurtisa พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง โดยการถาม Ray ว่า
“ทำไมพี่สาวคนนั้นไม่ใช้ทะเลเทียมล่ะครับ ? ถ้าใช้เทคนิกนั้นก็จะสามารถสร้างอาณาเขตไร้ผู้ต่อต้านขึ้นมาให้กับตัวเองได้ ไม่ใช่เหรอครับ ?”
Ray จึงอธิบายอย่างอ่อนใจว่า
“ตอนนี้เธอกำลังถูกรุกไล่เป็นกระสอบทราย ไม่สามารถรวบรวมสมาธิได้มากพอที่จะสร้างอาณาเขตได้ การจะรวบรวมไอน้ำในอากาศให้ได้ปริมาณมากขนาดนั้น มันก็ต้องใช้พลังสมาธิอย่างมาก”
พอพูดจบก็เกิดความเงียบขึ้นอีกครู่ใหญ่ ในขณะที่ Viktor ยังคงไล่ซ้อม Anna เหมือนกระสอบทรายต่อไป
Ray เองก็รู้ว่า Vurtisa นั้นคิดจะเลี่ยงเรื่องของ Jay ทั้งที่อยากรู้อยากเห็นอยู่ไม่น้อย
สุดท้าย Ray จึงเป็นฝ่ายเริ่มพูดเองว่า
“นายรู้มั้ย ว่าทำไมฉันถึงเลือกร่วมทีมกับ Jay ? ทั้งยังให้เขาเป็นหัวหน้าทีมอีกด้วย ?”
Vurtisa รู้ว่า Ray กำลังจะพูดต่อไป จึงนิ่งเฉยรอฟัง
Ray จึงพูดต่อไปว่า
“ข้อแรก... คือ ไหวพริบและความรอบคอบของเขา อย่าได้เห็นแค่ว่า เขามักจะทำหน้าสนุกสนานเหมือนเด็กๆ เท่านั้น แท้จริงแล้วเขามี 2 สิ่งนี้ซ่อนอยู่ ภายใต้ใบหน้าอันนั้น”
Vurtisa ทำท่ารับรู้ Ray ก็พูดต่อไปว่า
“ข้อ 2 เขาน่ะยังไม่รู้ว่าตัวเองมีพลังมหาศาลมากขนาดไหน แต่ฉันรู้ได้ ด้วยลางสังหรณ์ของฉัน ถ้าเขาสามารถดึงพลังแฝงนั้นออกมาได้อีกล่ะก็...”
สีหน้าของ Ray แสดงออกถึงความพรั่นพรึง และไม่กล้าพูดต่อ
Vurtisa เห็นดังนั้น ถึงกับกลืนน้ำลายถามว่า
“มีอีกมั้ยครับ ?”
Ray ยิ้มแล้วตอบว่า
“มีแน่นอน ข้อที่ 3 ที่สำคัญที่สุด Jay น่ะ เขาซ่อนบุคลิกอีกแบบไว้ ที่พวกเราเห็นนั้น คือ Jay ที่มากด้วยน้ำใจ อบอุ่น และร่าเริง แต่ที่จริงแล้ว... ถ้ามีใครไปกระตุ้นใบหน้าที่ซ่อนอยู่ส่วนลึกของ Jay ออกมาแล้วละก็ มันผู้นั้น... จะได้เจอกับปิศาจที่เย็นเยียบ โหดเหี้ยมอำมหิต เงียบขรึม ไม่มีใครอ่านออกได้ เป็นปิศาจนักรบที่ไร้ผู้ต่อต้าน”
เงียบกันไป...
ส่วนบนเวทีนั้น Viktor เตรียมจะปิดเกมแล้ว เขาเรริ่มหยุดมือ และพูดชม Anna ว่า
“เธอนี่อึดดีเหมือนกัน โดนไปขนาดนี้ยังไม่ยอมหมดสติไปอีก แต่ว่าฉันเบื่อแล้ว... ขอปิดเกมเลยก็แล้วกัน”
เขายื่นมือไปบีบคอเธอพร้อกับยกร่างเธอขึ้นกลางอากาศ ตั้งใจจะให้เธอขาดอากาศหายใจ
Viktor พูดเป็นประโยคสุดท้ายว่า
“ไปถึงโลกโน้นแล้วก็ฝากบอกยมบาลด้วยละกัย ว่าตายด้วยน้ำมือของฉันคนนี้ ! ชื่อของฉันจะได้รับการจารึกอยู่ทั้งโลลกนี้ และโลกหน้า ! ฮ่า ! ฮ่า ! ฮ่า ! ฮ่า ! ฮ่า ! ฮ่า ! ฮ่า !”
ว่าแล้วเขาก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
ผู้ชมบางคนตะโกนด่าทอ บางคนยกมือปิดปากร้องไห้ บางคนถึงกับหมดสติไป
Vurtisa ทนดูไม่ได้ ต้องร้องกระตุ้น Jay ที่ยังนิ่งเฉยว่า
“พี่ชาย !”
ครู่ใหญ่... ร่างของ Anna ที่เมื่อครู่ยังดิ้นรนขัดขืนอยู่ เริ่มจะนิ่งไปซะแล้ว...
“ว้าาาาาาากกกกกกก... !”
Jay ตะโกนดังลั่น
“แกกกกกกก... !”
เขาพุ่งตัวทะลุหน้าต่างชั้นบ๊อกซ์ลงไป พร้อมกับพุ่งเข้าหาเวทีที่กั้นไว้ด้วยกระจกนิรภัยหนาถึง 3 เมตร




 

Create Date : 02 กันยายน 2548    
Last Update : 2 กันยายน 2548 23:50:19 น.
Counter : 156 Pageviews.  

Glamourous Figther Fiction บทที่ 8 Maxim จ้าวความเร็ว (ตัวจริง)


Jay ตื่นแต่เช้า เผ่นไปรอที่สนามก่อนใคร เขาขึ้นไปที่ชั้นบ๊อกซ์ แล้วนั่งรอตรงที่เดิม
ที่ชั้นบ๊อกซ์นี้จัดว่าพิเศษจริงๆ ระหว่างที่นั่งรอ หรือระหว่างที่ชมการต่อสู้ ก็สามารถเรียกเครื่องดื่มหรืออาหารว่างจากพนักงานเสิร์ฟได้เรื่อยๆ (ฝ่ายจัดการแข่งขันออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด)
Jay ก็นั่งรอไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง Ray กับ Vurtisa ทยอยกันเข้ามาเมื่อการแข่งขันกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
เมื่อโฆษกสนามประกาศเชิญหัวหน้าทีมออกมาตกลงวิธีการต่อสู้ Anna ก็ออกมาตกลงกับหัวหน้าทีมของฝ่ายตรงข้าม
ฝ่ายนั้นเป็นชายร่างสูง ดูใจเย็น ไว้ผมสั้นสีบลอนด์ สวมเสื้อยืดคอกลมทับด้วยเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นสีดำ ไม่ติดกระดุม สวมกางเกงขายาวสีน้ำทะเล
ในความคิดของ Jay นั้น เท่าที่ดูแล้ว หัวหน้าทีมคนนี้ยังมีฝีมือสู้ Anna ไมได้ นั่นก็หมายความว่า Anna น่าจะผ่านสเตจนี้ไปได้โดยไม่ยาก
โฆษกประกาศว่า
“Max Power Team พบกับ Pretty Team การแข่งขันจะใช้วิธีสู้แบบตัวต่อตัว โดยให้คอมพิวเตอร์ของฝ่ายจัดการแข่งขันทำการสุ่มชื่อนักสู้ออกมาในแต่ละรอบ นักสู้ที่แพ้ก็จะหมดสิทธิ์สู้ในรอบต่อๆ ไป เมื่อฝ่ายไหนแพ้ครบ 3 คน ก็เป็นฝ่ายแพ้ไป ตอนนี้เราจะทำการสุ่มคู่แข่งขันในรอบแรกแล้วครับ”
คอมพิวเตอร์ที่ทำการสุ่มแสดงผลบนจอมอนิเตอร์ว่า
“Maxim พบกับ Jinnie เชิญทั้งคู่บนเวทีเลยครับ”
Jinnie ขึ้นเวทีไปเผชิญหน้ากับหัวหน้าทีมคู่แข่งคนเมื่อครู่ และเมื่อโฆษกประกาศให้เริ่มการต่อสู้...
มันก็... เกิดขึ้นเร็วมาก... เมื่อผู้ชมในสนามทันสังเกตเหตุการณ์บนเวที Jinnie ก็ออกไปอยู่นอกเวทีแล้ว
โฆษกสนามประกาศผลการต่อสู้ว่า
“Jinnie ออกนอกเวที Maxim จึงเป็นฝ่ายชนะไป เวลาในการต่อสู้ 0 นาที 0.42 วินาที เป็นสถิติใหม่ของรายการเลยครับ !”
Vurtisa ที่ดูอยู่ถึงกับตะลึง เพราะเขาทันเห็นแค่จังหวะสุดท้ายที่ Maxim เตะเข้าท้องของ Jinnie เท่านั้นเอง
Jay ถาม Ray ว่า
“เห็นอะไรบ้าง ? Ray”
Ray บอกสิ่งที่เขาเห็นว่า
“หมอนั่นเตะที่ขาเธอ ทำให้เธอต้องกระโดดหลบ หลังจากนั้น... ?”
Ray ทำเสียงเป็นเชิงถาม Jay จึงบอกว่า
“ฉันทันเห็นตอนที่เธอกระโดด... ดูเหมือนจะทำให้ Maxim อาศัยช่องว่างนั้น จับแขนเธอเหวี่ยงข้ามหัวไป ทำให้เธอทรงตัวไม่ทัน แล้วค่อยเตะเธอออกไป”
Vurtisa ที่ฟังอยู่ ถึงกับร้องว่า
“บ้าน่า ! ใครจะไปเร็วขนนาดนั้นได้กันครับ”
Ray จึงพูดกับ Vurtisa ว่า
“นายเองก็ดูให้ดีๆ สิ หมอนี่ละคือจ้าวความเร็วตัวจริง”
ที่ข้างเวที Jinnie ลุกขึ้นได้โดยไม่มีปัญหา เธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก เพราะ Maxim ลงมือแค่เอาชนะได้ก็หยุดมือ
ขณะนั้นบนจอมอนิเตอร์ยักษ์กำลังแสดงการจับคู่ในรอบต่อไป
“รอบที่ 2 ... Pyunik พบกับ Anastasya ครับ”
คู่แข่งของ Anastasya เป็นชายร่างยักษ์ที่มีบุคลิกเกรี้ยวกราด เขาเปลือยท่อนบน โชว์กล้ามเป็นมัดๆ สวมกางเกงขายาวสีขาว มีผ้าคาดเอวสีเขียวอ่อน และไม่สวมรองเท้าด้วย
แต่จะอย่างไร Jay ก็ยังรู้สึกว่าหมอนี่เป็นแค่พวกบ้าพลังที่มีฝีมือพื้นๆ เท่านั้น
โฆษกให้สัญญาณเริ่มการต่อสู้แล้ว
ทันทีที่เริ่มการต่อสู้ Pyunik ก็หายไปจากจุดที่ยืนอยู่ทันที เมื่อผู้ชมเห็นเขาอีกครั้ง เขากำลังร่อนลงจากฟ้า และเหวี่ยงหมัดลงมากลางกระหม่อมของ Anastasya
เห็นแน่ชัดว่าโดนเข้าเต็มๆ เสียงคนในสนามครางฮือด้วยความตื่นเต้นบ้าง ตกใจบ้าง ตื่นกลัวบ้าง แต่ Jay กับ Ray ยังนั่งนิ่งเฉย
Ray พึมพำว่า
“ไม่โดน”
ไม่โดนอย่างที่ว่าจริงๆ Anastasya ไปยืนอยู่ด้านหลังคู่แข่งของเธอแล้ว
อันที่จริง Pyunik ก็ถือว่ามีความเร็วค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรูปร่าง แต่การปะทะกันครั้งแรกกลับไล่ตาม Anastasya ไม่ทัน
Jay และ Ray ก็รู้สึกประหลาดใจระคนสนใจ ทั้งคู่ต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า ด้านความเร็วแล้ว Anastasya ไม่สูงเท่าไหร่ แต่พวกเขากลับมองตามไม่ทัน
Ray สรุปข้อสงสัยนี้ว่า
“พลังพิเศษ ! แต่เป็นพลังแบบไหนยังไม่รู้ ต้องคอยดูต่อไป”
Jay พยักหน้าเห็นด้วย
ส่วนบนเวที Anastasya กำลังคุมเกมเอาไว้ ค่อยๆ รุกไล่คู่แข่งให้ถอยหนีอย่างไม่มีทางเลือก จนกระทั่งถึงมุมเวที
Anastasya วิ่งสลับซ้ายขวาพร้อมกับค่อยๆ ขยับเข้าหา Pyunik ที่มุมเวที
จนกระทั่งมาถึงระยะประชิด ร่างของเธอกลับแยกเป็น 2 คน พุ่งเข้าจู่โจม Pyunik พร้อมกันจนตกเวที
โฆษกประกาศผลการต่อสู้ว่า
“Pyunik ออกนอกเวที Anastasya เป็นฝ่ายชนะ เวลาในการต่อสู้ 5 นาที 37.13 วินาที”
ผู้ชมทั้งสนามตกตะลึงกับ ‘วิชาแยกร่าง’ ของ Anastasya แม้แต่ผู้ที่มีฝีมือระดับสูงอย่าง Jo, Pirno, Jay หรือ Ray ก็ไม่ยกเว้น
Vurtisa โพล่งออกมาว่า
“พลังอะไรเนี่ย !?”
Ray พูดว่า
“ไม่ใช่วิชาแยกร่างอะไรหรอก”
Jay พูดสั้นๆ ว่า
“มายา...”
นี่เป็นคำตอบที่สั้นเกินไปสำหรับ Vurtisa ดังนั้น Ray จึงขยายความให้ฟังว่า
“นายเคยได้ยินเรื่องภาพลวงตาในทะเลทรายมั้ย ? ที่ว่า เราจะเห็นภาพลวงตาที่เกิดจากความร้อนในทะเลทรายได้ เพราะความร้อนทำให้แสงหักเหในอากาศ เกิดเป็นภาพลวงตาได้ เขาเรียกว่าปรากฏการณ์มิราจ”
Jay พูดเสริมว่า
“สรุปง่ายๆ เธอสามารถควบคุมความร้อนในบรรยากาศ และทำให้ความร้อนนั้นหักเหแสง เกิดภาพลวงตาขึ้นมาตามที่เธอต้องการได้”
Vurtisa พูดด้วยความทึ่งว่า
“สร้างภาพลวงตาได้แบบนี้ ก็ได้เปรียบมากสิครับ พี่ชาย”
Ray ขัดขึ้นว่า
“ไม่เป็นอย่างนั้นหรอก”
Vurtisa ไม่เข้าใจจึงถามว่า
“หมายความว่าไงครับ ?”
Jay อธิบายว่า
“ถ้าเป็นฉันหรือ Ray ละก็ สามารถเอาชนะเธอได้ภายใน 1 นาที หรือถ้าเจอจ้าวความเร็วอย่าง Maxim เนี่ย Anastasya ไม่มีทางชนะได้ เดี๋ยวนายก็จะเข้าใจ”
ไม่นานเกินรอ ชื่อของนักสู้คู่ต่อไปปรากฏบนจอมอนิเตอร์แล้ว
Maxim พบกับ Anastasya...
พอโฆษกประกาศให้เริ่มการต่อสู้ Anastasya ก็ใช้เทคนิกแยกร่างกดดันใส่ Maxim ทันที
Maxim ยังไม่มีสีหน้าตื่นเต้น กลับยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางร่างของ Anastasya ที่พุ่งเข้าหา แต่ยังไม่ถูกจู่โจมโดน Maxim เพียงขยับตัวเล็กน้อยเป็นบางครั้ง
Jay พากย์ให้ Vurtisa ฟังว่า
“จุดอ่อนของ Anastasya... ข้อแรก ภาพลวงตา ยังไงก็เป็นแค่ภาพลวงตา ไม่ว่าจะสร้างภาพอะไรออกมามันก็ใช้โจมตีไม่ได้”
Ray เสริมต่อว่า
“ข้อที่ 2 มันใช้ตบตาจ้าวความเร็วอย่าง Maxim ไม่ได้ เพราะคนที่เป็นจ้าวความเร็วอย่างเขา มีประสาทสัมผัสที่พิเศษสุด สามารถใช้ประสาทสัมผัสอื่นแทนตาได้ และที่ชัดเจนกว่านั้นก็คือ ประสาทตาของเขาก็ดีเป็นพิเศษด้วย สามารถมองทะลุผ่านภาพลวงตาไปได้”
Jay เสริมต่อไปอีกว่า
“ข้อที่ 3 ถ้าหากต้องมาเจอกับฉันที่ใช้พลังน้ำแข็งละก็ ฉันสามารถควบคุมให้อากาศเย็นลง จนเธอไม่สามารถสร้างภาพลวงตาได้”
Ray ปิดท้ายว่า
“ข้อสุดท้ายสำคัญที่สุด พลังร่างกายของเธอเป็นรองพวกเรามาก แค่ฉันสร้างสนามไฟฟ้าครอบตัวเองไว้ เธอก็ไม่มีแรงพอที่จะฝ่าเข้ามาโจมตีได้”
ในขณะที่บนเวทีนั้น Maxim เคลื่อนไหวน้อยลงเรื่อยๆ นั่นก็เป็นเพราะว่า Anastasya กำลังเริ่มจะหมดแรง ทำให้การจู่โจมช้าลงและเบาลง
หลังจากนั้นไม่นาน Maxim ก็หาจังหวะที่ Anastasya กำลังบุกเพลิน ปล่อยหมัดเด็ดออกมาจนได้
“Lightning Vortex !”
เขาปล่อยหมัดตรงที่ดูรวบรัดธรรมดาออกมา แต่เป็นหมัดที่เร็วมาก
Anastasya ไม่ทันตั้งรับ ถูกแรงกระแทกของหมัดนี้ ปลิวออกนอกเวทีทันที
“Anastasya ออกนอกเวที รอบนี้ Maxim เป็นฝ่ายชนะ เวลาในการต่อสู้ 17 นาที 53.91 วินาที”
Vurtisa พูดกับ Jay และ Ray ว่า
“ท่าไม้ตายนั่น !”
Ray พูดว่า
“คล้ายกับท่าที่นายฝึกนะ Vurtisa เพียงแต่หลักการต่างกัน”
Jay พูดขึ้นบ้างว่า
“อือม์ ของ Vurtisa นั่นเน้นที่กำลัง แต่ท่าของ Maxim ความเร็วสูงกว่ามาก แถมความรุนแรงก็สูงมากทีเดียว”
Vurtisa จึงถามว่า
“ทำไมมันถึงสามารถรุนแรงได้ขนาดนั้นครับ ?”
Ray อธิบายว่า
“Maxim น่ะเป็นจ้างความเร็ว คิดตามหลักฟิสิกส์เลยนะ เรื่องของการชนหรือว่าโมเมนตัมเนี่ย ค่าของมันจะแปรผันตามความเร็วในการชน ในเมื่อ Maxim มีความเร็วใกล้เคียงแสง ย่อมทำให้ค่าโมเมนตัมมีค่าสูงมาก”
Jay ยังพูดอีกว่า
“แต่นั่นยังไม่ใช่พลังเต็มที่ของ Maxim หรอก”
Ray พูดเห็นด้วยว่า
“อือม์ นั่นสินะ เพียงแต่ถ้าเขาเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีก มันก็จะเกิดผลสะท้อนจากการกระแทกที่แขนของเขาด้วย จึงไม่ใช้พลังเต็มที่โดยไม่จำเป็น”
ขณะนั้นผลการประกบคู่รอบที่ 4 ปรากฏบนจอแล้ว
Maxim พบกับ Anna...
Jay มองแล้วรู้สึกว่านี่เป็นผลดีกับทีมของ Anna เพราะ Maxim ถูกบังคับให้สู้ 2 นัดติดต่อกัน ซึ่งทำให้เขาเสียเปรียบ และถ้า Anna ชนะในรอบนี้ นัดต่อไปก็จะเจอกับคนสุดท้ายของอีกฝ่าย ซึ่งเป็นมือรองลงไป ก็ยังถือว่า Anna เป็นฝ่ายครองความได้เปรียบไว้อยู่ดี
Jay ยังนึกขึ้นได้อีกว่า เขายังไม่รู้เลยว่าความสามารถที่แท้จริงของ Anna คืออะไร
บนเวทีนั้น Maxim พุ่งเข้าใส่ Anna ทันทีที่สิ้นเสียงโฆษกสนาม
ในขณะที่ Anna สะบัดมือเล็กน้อย ก็มีอะไรบางอย่างปรากฏขึ้นมาสกัดกั้นการโจมตีของ Maxim
นี่คือเหตุผลสำคัญที่ Maxim จะไม่ชนะในรอบนี้ เพราะไม่ว่าเขาจะเร็วแค่ไหน ก็ยังไม่เร็วกว่าพลังพิเศษของ Anna และเมื่อความเร็วที่เป็นไม้เด็ดของเขาแล้วยังไม่ได้ผล เขาก็หมดหนทางแล้ว
Maxim ไม่มีทางเลือก ต้องลองใช้ความเร็วสูงสุดเสี่ยงดวงกับ Anna ทันใดนั้นร่างของเขาก็หายไปจากเวทีโดยไร้ร่องรอย
เขากำลังหาช่องว่าง...
ในที่สุดเขาก็มุ่งเป้าจู่โจมด้านหลังของ Anna ด้วยท่าไม้ตายสุดยอดของเขาอีกครั้ง
Anna กลับยังคงยืนนิ่งเฉย มีรอยยิ้มบางๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ประดับอยู่บนใบหน้า เหมือนไม่รู้ว่าอันตรายกำลังพุ่งเข้าหา
แต่แล้ว เมื่อ Maxim เข้าใกล้ตัวเธอ ความเร็วของเขากลับลดลง
ผู้คนทั้งสนามล้วนเห็นชัดว่า ร่างของ Maxim มีเลือดสาดกระเซ็นออกมาเป็นฟองฝอย พร้อมๆ กับที่เขาทรุดลงไปกับพื้น
“เข็ม !?”
Ray พูดขึ้น
Jay ส่งเสียงตอบว่า
“อือม์... เธอสร้างเข็มขึ้นมาทำเป็นกรงป้องกันไว้รอบตัว แถมยังเป็นเข็มที่ใสจนมองไม่เห็น”
Ray ส่ายหน้าให้กับ Maxim ผู้ซึ่งเห็นลางพ่ายแพ้ชัดเจนขึ้นมาแล้ว พร้อมกับพูดว่า
“ถ้า Maxim ไม่ใจร้อนเกินไป คงสังเกตเห็นเข็มพวกนั้นแล้ว”
Vurtisa จึงถามว่า
“แล้วพลังของเธอ ?”
Jay ยิ้มแล้วตอบว่า
“น้ำยังไงล่ะ เธอควบคุมไอน้ำ ในอากาศให้มารวมกันเป็นเข็ม แล้วให้มันลอยอยู่รอบตัว ไม่ว่าคู่ต่อสู้บุกจากทางไหนก็ไม่มีทางผ่านกรงเข็มเข้าไปได้อย่าง่ายดาย”
Maxim เองก็รู้แล้วเช่นกัน ก่อนที่เขาจะล้มลง เขาทันเห็นเข็มที่แทงเขากำลังระเหยหายไป จึงรู้ว่าเป็นน้ำที่สร้างจากไอน้ำ
แต่แม้จะบาดเจ็บหนัก Maxim ก็ยังไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับ Anna อีกครั้ง
Anna ยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดเบาๆ ว่า
“ขอชื่นชมในความเป็นนักสู้ ฉันก็จะให้เกียรติโดยการใช้ท่าไม้ตายเพื่อเอาชนะคุณก็แล้วกัน”
ขณะนั้น บนเวทีค่อยๆ มีน้ำมารวมกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนคนทั้ง 2 บนเวทีค่อยๆ จมหายไปในทะเล
นี่เป็นการปิดฉากให้ Maxim แล้ว ใต้น้ำนี้ไม่มีทางที่เขาจะสามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนปกติ ในขณะที่ Anna ซึ่งเป็นเจ้าของอาณาเขตแห่งนี้สามารถเคลื่อนไหงได้อย่างอิสระ
เรียกเทคนิกนี้ว่า ‘Counterfeit Sea’ หรือทะเลเทียมนั่นเอง เป็นการสร้างอาณาเขตไร้ผู่ต่อต้านให้กับตัวเอง
Maxim พยายามหาทางออกโดยการหนีขึ้นผิวน้ำ และนั่นก็ทำให้เขาติดกับดักของ Anna แล้ว
Anna ใช้เทคนิกชั้นที่ 2 ที่เธอใช้ร่วมกับ Counterfeit Sea เรียกว่า Sea Stream เป็นคลื่นยักษ์พัดร่างของ Maxim จนตกเวทีไป
“Maxim ออกนอกเวที รอบนี้ Anna เป็นฝ่านชนะ เวลาในการต่อสู้ 6 นาที 32.47 วินาที”
ขณะที่โฆษกประกาศผลการต่อสู้นั้น ทะเลเทียมหายไปจากเวทีหมดแล้ว เหลือเพียง Anna ยืนอยู่บนเวทีในสภาพเปียกปอน เผยส่วนโค้งเว้าวาบหวิว เธอจึงรีบจัดการให้น้ำเหล่านั้นกลายเป็นไอไป
เหลือการต่อสู้รอบสุดท้าย ไม่จำเป็นต้องสุ่มแล้ว




 

Create Date : 02 กันยายน 2548    
Last Update : 2 กันยายน 2548 23:48:47 น.
Counter : 181 Pageviews.  

Glamourous Fighter Fiction บทที่ 7 เปิดม่าน


เวลาแห่งการต่อสู้กำลังใกล้เข้ามา ตอนนี้นักสู้ส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ในห้องฝึกซ้อม รวมทั้ง Jay, Ray และ Vurtisa ด้วย โดยเฉพาะ Vurtisa ที่มีความมุ่งมั่นอันแรงกล้านั้น เริ่มจะควบคุมพลังของตัวเองได้มากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
ในที่สุดก็ถึงคืนก่อนขึ้นฝั่ง การจับสลากประกบคู่รอบแรกที่ห้องโถงใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น
ตัวแทนของทุกทีมซึ่งส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าทีมมารวมกันอยู่ที่นี่ ส่วนลูกทีมบางคนก็มา สำหรับ Perfect Team นั้นส่ง Ray มาคนเดียว แล้วให้ Jay กับ Vurtisa ซ้อมกันต่อไป
ด้านหน้า Ray มีโถแก้วบรรจุลูกบอลไว้ 8 ลูก มีคอมพิวเตอร์พร้อมคนประจำเครื่องอยู่ด้านข้าง เหนือขึ้นไปมีจอมอนิเตอร์ยักษ์ แสดงผลการประกบคู่
Kølvet ประกาศเชิญตัวแทนของแต่ละทีมออกมาหยิบลูกบบอลไปคนละลูก จากนั้นส่งให้กับพนักงานประจำคอมพิวเตอร์คีย์ชื่อทีม จากนั้นหย่อนลูกบอลลงไปในช่องบนแท่นด้านข้าง คอมพิวเตอร์จะทำการสแกนว่าได้ในคู่ที่เท่าไหร่
ชื่อทีมแรกปรากฏบนจอมอนิเตอร์ยักษ์แล้ว
The Latino Team ได้ในคู่ที่ 2 ทีมถัดๆ มาค่อยทยอยส่งลูกบอลให้กับพนักงาน
Heat Power Team แข่งในคู่แรก ซึ่ง Ray มองว่าเป็นผลดีทีเดียวเพราะทั้ง 2 ทีมจะต้องเจอกันในรอบ Semi Final
ตอนนี้เหลืออีก 3 ทีม หนึ่งในนั้นคือ Fluence Team ของ Daniel
เขาส่งลูกบอลให้พนักงาน แล้วชื่อทีมก็ปรากฏบนคู่ที่ 4 การประกบคู่สรุปผลได้ดังนี้
Heat Power Team VS X Team
Stars Team VS The Latino Team
Max Power Team VS Pretty Team
Perfect Team VS Fluence Team
Kølvet ประกาศผลการประกบคู่พร้อมด้วยรายละเอียด คือ การแข่งขันใน 4 คู่นี้จะแข่งที่โตเกียวโดมซึ่งทำการปรับปรุงให้ทนการต่อสู้ โดยจะแข่งวันละคู่
หลังจากจบประกาศนักสู้แต่ละคนก็กลับห้องพัก เพื่อพักผ่อนเตรียมตัวต่อสู้
- 31 กรกฎาคม 2004
ในที่สุดเช้าวันใหม่ก็มาถึง เรือเทียบท่าที่อ่าวโตเกียวแต่เช้า นักสู้บนเรือทยอยกันลงมา Jay, Ray และ Vurtisa ก็เช่นกัน มีรถทัวร์มารับนักสู้ทุกคนไปยังโรงแรม
Jay ถึงกับเอ่ยปากชมว่าจัดได้หรูดี
Kølvet ประกาศว่าการแข่งขันระหว่าง Heat Power Team กับ X Team จะเริ่มเวลา 13.30 น. จากนั้นเชิญนักสู้ทุกคนพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย สามารถใช้รถของโรงแรมได้ถ้าต้องการ
Jay นัดกับ Ray และ Vurtisa ว่าจะเจอกันที่สนามตอนเวลาคู่แรกเริ่ม เพื่อหวังจะดูการต่อสู้ของ Jo จะได้นำมาวิเคราะห์หาวิธีเอาชนะ ระหว่างนั้น Vurtisa ก็เอารถโรงแรมไปเที่ยวในเมือง ส่วน Jay กับ Ray แยกย้ายไปห้องตัวเอง
Jay เข้าห้องพักตัวเอง อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วล้มตัวลงนอน
...
เมื่อตื่นขึ้นมาอีกทีเขาก็พบว่าเหลือเวลานัดไม่มาก เขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเผ่นออกมาทันที
เขามาถึงโดมแบบทันเวลาพอดี จึงรีบวิ่งเข้าไปตรงจุดนัดพบที่นัด Ray และ Vurtisa ไว้ เขาพบทั้งคู่ยืนอยู่ด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ
Jay วิ่งเข้ามาถาม
“จะเข้าไปรึยัง ?”
Ray ตอบสั้นๆ
“ไม่ต้องแล้วละ”
Vurtisa ขยายความเมื่อ Jay ทำหน้างง
“การแข่งจบแล้ว Jo คนเดียวชนะคู่แข่งได้หมดในเซอร์ไววัลแบ๊ตเทิ่ล ใช้เวลาแค่ 3 นาที โดยไม่ได้โชว์อะไรที่น่าสนใจออกมาเลย”
Ray พูดบ้าง
“เขาใช้แรงไม่มากเท่าตอนเจอเรา 2 คน ด้วยซ้ำ ดูไปก็ไม่มีประโยชน์”
นิ่งไปอึดใจ Jay ค่อยทำลายความเงียบนั้น
“ช่างเถอะ ยังไงเดี๋ยวเราก็ได้ดูตอนที่เขาเจอกับ Pirno ในรอบต่อไปเองแหละ เราคงได้เห็นพลังที่แท้จริงของพวกเขาตอนนั้นละ”
วันต่อมาทั้ง 3 คนมาที่สนามเพื่อดูการแข่งขันคู่ที่ 2 ระหว่าง Stars Team กับ The Latino Team
พวกเขามาที่ที่นั่งพิเศษชั้นบนสุด ส่วนใหญ่เป็นคนระดับเศรษฐี หรือฝ่ายจัดการแข่งขัน นอกนั้นเป็นผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ
อินเตอร์เนชั่นแนลสเตเดียมแห่งนี้จุราว 50,000 ที่นั่ง วันนี้มีผู้ชมเต็มความจุ บรรยากาศแห่งการต่อสู้กำลังครึกครื้น
Jay, Ray และ Vurtisa นั่งลงตรงที่นั่งที่ระบุชื่อตัวเองไว้ เมื่อนั่งลงแล้ว Jay ชะโงกหน้าไป 3 ทีมถัดจากเขาไปเป็น Anna ที่กำลังส่งยิ้มให้ Jay รีบยิ้มตอบกลับไป
หลังจากที่ดึงตัวเองกลับมาได้แล้ว Jay ก็เริ่มสำรวจดูรอบๆ
เขามองผ่านกระจกของชั้นบ๊อกซ์ลงไป เห็นกระจกอีกชั้นกั้นระหว่างผู้ชมกับเวทีสี่เหลี่ยมที่อยู่บนใจกลางโดม
ได้ยินเสียง Vurtisa อธิบายตามที่ฟังมาอีกที
“นั่นเป็นกระจกกันกระสุน หนาประมาณ 3 เมตร ป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับผู้ชม ส่วนเวทีสร้างจากโลหะผสมชนิดพิเศษ ทนน้ำ ทนไฟ ทนแรงกระแทก ภายในครอบกระจกนั่นมีไมโครโฟนทำให้เสียงที่เกิดขึ้นภายในนั้นถ่ายทอดออกมาถึงผู้ชมอย่างสมจริงสมจัง”
ตอนนี้การแข่งขันจะเริ่มแล้ว ก่อนเริ่มการแข่งขัน 15 นาที โฆษกประกาศเชิญหัวหน้าทีมออกมาตกลงวิธีการต่อสู้ พวกเขาคุยกันครู่หนึ่งก็แยกออกจากกัน แล้วกลับไปที่ม้านั่งของทีมตัวเองที่ข้างสนาม
ครู่เล็กๆ โฆษกก็ประกาศทั่วสนาม
“การแข่งขันระหว่าง Stars Team กับ The Latino Team กำลังจะเริ่มแล้วครับ การแข่งขันใช้วิธีจับคู่ เป็น 3 คู่ ฝ่ายไหนชนะ 2 นัดก่อน ก็จะเป็นฝ่ายชนะไปนะครับ”
ผู้คนในสนามมองที่มอนิเตอร์ยักษ์ในสนามแสดงการจับคู่ว่า Pirno ให้ Toni และ Kasentíno ลูกทีมทั้ง 2 คนสู้ก่อน ตัวเองจะสู้เป็นคนสุดท้าย ดังนั้น ทั้ง Jay และ Ray จึงไม่สนใจ 2 คู่แรกเท่าใดนัก การต่อสู้นั้นน่าเบื่อทีเดียว
แต่ผู้ชมกลับตื่นเต้น แน่ละถึงจะเป็นการต่อสู้ในระดับล่างแต่ก็ยังเหนือมนุษย์อยู่ดี
สำหรับ Jay นั้นมองว่าต่อให้ Toni และ Kasentíno รวมกันยังอาจยังแค่สูสีกับ Vurtisa ด้วยซ้ำ แต่ทั้งคู่ยังเหนือกว่าคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้าขณะนี้
หลังจากเวลาผ่านไปพักใหญ่ Toni และ Kasentíno ก็เอาชนะคู่แข่งแบบหวุดหวิด ทำให้ The Latino Team ชนะด้วยสกอร์ 2-0 ลอยลำเข้ารอบไปโดยที่ Pirno ยังไม่ต้องออกแรงเลย ซึ่งสร้างความผิดหวังแก่ทีมอื่นๆ ที่เข้ามาชมเป็นอย่างมาก
“น่าเสียดายนะ”
Anna พูดกับ Jay, Ray และ Anastasya ขณะที่พวกเขากำลังเดินออกจากสนามไปพร้อมกัน
Jay ถอนใจพูดว่า
“นับว่าโชคไม่ดีน่ะ เพราะ 2 คู่ที่แข่งกันถือว่า 50-50 ทั้ง 2 คู่ แต่ผลก็ยังออกมาเป็นใจให้ Pirno”
พูดจบก็หัวไปทาง Jinnie และ Vurtisa ที่เดินรั้งท้ายเถียงกันอย่างเคย ทั้งคู่กำลังท้าทายกันเรื่องอย่าลืมเดิมพัน
Jay ดูแล้วส่ายหน้าน้อยๆ เปลี่ยนเป็นชวน Anna ไปเที่ยวในเมืองซึ่งเธอปฏิเสธอย่างนุ่มนวลว่าอยากเก็บแรงไว้สำหรับแข่งพรุ่งนี้
Jay จึงอวยพรให้เธอโชคดี แล้วจูบหน้าผากเธอ ค่อยปล่อยเธอไป




 

Create Date : 02 กันยายน 2548    
Last Update : 2 กันยายน 2548 23:47:37 น.
Counter : 193 Pageviews.  

Glamourous Fighter Fiction บทที่ 6 คู่แข่งมากหลาย


Jay กระโดดโลดเต้นกลับมาถึงห้องฝึกซ้อม เห็น Ray กำลังเป็นคู่ซ้อมให้ Vurtisa อยู่
Vurtisa ร้องทักว่า
“อะไรจะอารมณ์ดีปานนั้น ?”
Jay ถามกลับว่า
“ช่างฉันเถอะ เรื่องฝึกเป็นยังไงบ้าง ?”
Vurtisa สลายรอยยิ้มลงแทนคำตอบ Jay จึงพูดว่า
“ช่างเหอะ นายพักผ่อนซะก่อน”
Vurtisa ทำท่าจะไม่ยอม แต่พอ Jay ตัดบทว่า “นี่เป็นคำสั่ง” เขาก็ยอมนั่งลงแต่โดยดี
พอทั้งหมดนั่งลงพักผ่อนแล้ว Vurtisa ก็ถามขึ้นทันที
“แล้วตกลงเมื่อกี๊พี่ชายยิ้มย่องเรื่องอะไร ?”
Jay อมยิ้มแต่ไม่ยอมตอบ เพียงแต่บอกว่า
“บอกแล้วไง อย่ายุ่งเรื่องฉัน”
แต่ปรากฏว่า Vurtisa กลับมีสีหน้าฉลาดขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ เขายิ้มยิงฟันอย่างทะเล้นแล้วเดาเอาว่า
“เมื่อกี๊ไปควงกับพี่สาวคนนั้นมาใช่มั้ยล่า ?”
Jay แกล้งทำไก๋ “นายพูดเรื่องอะไร ?”
Vurtisa ยิ่งฉีกยิ้มมากขึ้นกว่าเดิม เขาซักไซ้ลึกลงไปอีก “ฮั่นแน่ ! บอกมาซะดีๆ ไปถึงขั้นไหนแล้ว... ?” ตอนท้ายลากเสียงยาวพิลึก
Jay เบรกเอาไว้ได้สำเร็จ เมื่อเขาพูดว่า
“พอแล้วๆ ฉันว่าจะคอมเมนต์เรื่องการฝึกของนายหน่อย จะฟังมั้ย ?”
Vurtisa พยักหน้าหงึกๆ เปลี่ยนเป็นตั้งใจขึ้นทันที Jay ค่อยอธิบายว่า
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันแค่รู้สึกว่า นายต่อยแต่ละหมัดน่ะ ออกจะเกร็งเกินไปหน่อย ต่อยธรรมดาๆ ก็พอ เราต้องการให้นายมีสมาธิเท่านั้น... ไม่ใช่ให้เกร็ง ตั้งสมาธิอยู่ที่หมัดก็พอ อย่าไปเกร็งมาก”
พวกเขาจึงหยุดพักครู่หนึ่ง Vurtisa ค่อยลุกขึ้นมาซ้อมต่อ คราวนี้เขาทำใจให้เย็นลงแล้วตั้งสมาธิไว้ที่หมัด
ในขณะที่ Ray เองก็ตั้งสมาธิเตรียมพร้อมตั้งรับเต็มที่
Vurtisa ที่ก้มหน้าเพ่งสมาธิอยู่กับมือของตัวเอง ค่อยๆ เบือนสายตาขึ้นมาที่การ์ดของ Ray แล้วพุ่งตรงเข้าไปต่อยเต็มแรง
เสี้ยววินาทีที่หมัดกำลังจะถึงตัว Ray นั้น คนทั้งสามต่างก็รู้สึกถึงพลังมหาศาลที่กดดันลงมา และเมื่อหมัดพุ่งถึงตัว Ray แล้ว เจ้าของการ์ดก็ปลิวตามแรงอย่างหยุดไม่อยู่ ร่างของเขาพุ่งเข้ากระแทกผนังห้องอย่างแรงจนกระอักเลือดออกมาก่อนจะหมดสติไป
ส่วน Vurtisa นั้นตกใจมาก เขาร้องเรียก Ray ออกมาและเตรียมจะวิ่งเข้าหา แต่...
...
“ฟื้นแล้วเหรอ ?”
เป็นเสียงของ Jay ถามขึ้นเมื่อเห็น Vurtisa ขยับตัว
Vurtisa ยังงงๆ
“ที่นี่... ?”
Jay ตอบว่า “นายอยู่ที่ห้องพยาบาล หมดสติไปซัก 6 ชั่วโมงได้ละมั้ง”
Vurtisa ค่อยๆ ตั้งสติ แล้วจึงนึกถึง Ray ขึ้นมา จึงร้องถามว่า
“พี่ Ray... ?”
Jay ตอบว่า
“Ray ปลอดภัยดี เพียงแต่นายหนักมือไปหน่อย เขายังไม่ฟื้น”
Vurtisa ยังคงรู้สึกสับสน Jay จึงปล่อยให้เขาตั้งสติอยู่ครู่หนึ่ง
เกิดความเงียบอยู่พักใหญ่ Vurtisa ค่อยถามขึ้นว่า
“ตอนนั้น... เกิดอะไรขึ้นครับ ?”
Jay อธิบายว่า
“ตอนที่นายต่อยหมัดออกมา มีประกายแสงออกมาจากตัวหมัด และแผ่พลังกดดันมหาศาลออกมา ดูเหมือนว่านายจะเปลี่ยนพลังของจิตให้กลายเป็นพลังต่อสู้ได้นะ”
เห็น Vurtisa ตั้งใจฟังอยู่ Jay จึงพูดต่อไปว่า
“เป็นท่าที่ยอดเยี่ยมไร้ผู้ต่อต้านอย่างแท้จริง แม้แต่ Ray ที่เตรียมพร้อมตั้งรับเต็มที่ยังถูกกระแทกบาดเจ็บหนักหนาขนาดนั้น... แต่ว่า... มีปัญหาอยู่ 2 ข้อ ข้อแรก จะให้ท่านี้ได้ผล มันขึ้นอยู่กับนายซัดเข้าเป้ารึเปล่า ถ้านายไม่ได้จู่โจมตรงเป้า ถึงมีพลังแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์”
Vurtisa พยักหน้าเข้าใจ แล้วถามถึงปัญหาข้อต่อไป Jay จึงอธิบายว่า
“พลังของนายนี้อาศัยพลังของจิตมากเกินไป อย่างเมื่อกี๊นายใช้ทีเดียวก็สลบไป 6 ชั่วโมง ยังงี้เอามาใช้ในการแข่งขันไม่ได้ เพราะถ้านายหมดสติก็ถือว่าแพ้แล้ว เพราะฉะนั้นนายต้องฝึกฝนให้ควบคุมพลังได้ดีกว่านี้ ต้องพยายามปรับให้สามารถปล่อยพลังน้อยลงได้ และต้องสามารถใช้ได้มากครั้งขึ้น ไม่ใช่ครั้งเดียวก็สลบไปอย่างนี้ เข้าใจมั้ย ?”
Vurtisa รับคำ “ครับ พี่ชาย”
Jay บอกว่า
“ตอนนี้นายพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนเถอะ ฉันจะออกไปข้างนอกหน่อย”
หลังจากพักผ่อนครู่หนึ่ง Vurtisa ก็ออกไปฝึกการควบคุมพลังของตนเองคนเดียว
ส่วน Jay กับ Ray เลี่ยงออกมาจากห้องเพื่อให้ Vurtisa มีสมาธิเต็มที่ ดังนั้นตอนนี้ทั้งคู่จึงเดินเล่นอยู่บนเรือ และก็ได้พบกับคู่ต่อสู้อันน่ากลัวโดยบังเอิญ
Pirno และทีมเมทของเขาเดินตรงเข้ามาพร้อมทั้งยื่นมือออกมา
“Pirno จาก The Latino Team ยินดีที่ได้รู้จัก”
ขณะที่พูดไปนั้นใบหน้านิ่งสนิท เต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม
Jay ยื่นมือออกไปสัมผัสกับอีกฝ่ายตามมารยาท
“ยินดีเช่นกัน”
ขณะที่สัมผัสมือนั้นJay รู้สึกเสียววาบ เพราะ Pirno แผ่พลังกดดันลงมาจนแทบหายใจไม่ออก เป็นการทดสอบเล็กน้อย จนกระทั่งปล่อยมือเขาค่อยพูดว่า
“ทายาทน้ำแข็ง !?”
สีหน้าตื่นตกใจปรากฏชัดบนหน้าของ Jay และ Ray รวมทั้งเหงื่อที่ท่วมตัว
Pirno ยิ้มเย็นๆ และพูดว่า
“ไม่นึกเลยว่าจะได้พบทายาทของบุคคลที่เคยเป็นตำนานอันยิ่งใหญ่ เพียงแต่ยังขาดประสบการณ์ไปนะ”
แม้ Jay จะติดใจกับประโยคแรกนั้นอยู่บ้าง แต่ก็คิดอะไรไม่ทัน
Pirno หันไปทาง Ray ที่พูดว่า
“จะจับมือกับผม คงไม่เหมาะมั้ง ?”
Pirno ก็ไม่ถือสา เปลี่ยนเป็นตบไหล่ Jay ทีนึง แล้วเดินจากไปอย่างผู้ใหญ่ที่เหนือกว่า
ขณะที่ยังไม่หายตื่นเต้นตกใจ ทั้งคู่ก็เจอกับอีกทีม ซึ่งเคยเห็นผ่านตามาครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่รู้จัก
คนที่เป็นหัวหน้าทีมแนะนำตัวเองว่าชื่อ Daniel เป็นชายรูปร่างเตี้ยกว่า Jay เล็กน้อย ใส่เสื้อคอกลมสีขาว ทับด้วยเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีกรมท่าไม่ติดกระดุม สวมกางเกงขายาวสีเทา
เขาบอกว่าเพื่อนร่วมทีมของเขาจะคุยด้วย แล้วชี้ไปที่ทีมเมทของเขาที่เป็นผู้หญิงคนเดียวในทีม เธอน่าจะมีอายุมากกว่า Jay ซักปีสองปี ใส่ชุดกระโปรงสีขาว ผมดำสนิทยาวถึงต้นคอ
เธอแนะนำตัวเอง
“Verona ค่ะ ขอคุยกับคุณ 2 คน ซักครู่นะคะ”
ทั้ง Jay และ Ray สงสัยอยู่ แต่ก็เดินตามเธอไป
Verona เอ่ยขึ้นว่า
“ฉันอยากคุยเรื่อง Vurtisa ทีมเมทของพวกคุณ... เขาเป็น... น้องชายแท้ๆของฉันค่ะ”
Jay และ Ray มองหน้ากันอย่างคิดไม่ถึง
Verona เริ่มเล่า
“ปีก่อน... ตอนที่พลังของเราทั้งคู่ตื่นขึ้น คุณรู้ใช่มั้ยคะ ว่าการมีพลังพิเศษนั้นมีหลายคนที่รับถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ แต่ในพ่อแม่ของเรา พลังนั้นไม่แสดงออก”
Jay ยักไหล่เหมือนรู้อยู่แล้ว (ความจริงไม่รู้ซักนิด)
Verona พูดต่อไปว่า
“ตอนนั้นเราตกลงว่าจะอยู่ทีมเดียวกัน แต่หลังจากนั้นก็มีเรื่องเกิดขึ้น เพราะฉันตั้งใจว่าคนสุดท้ายในทีมจะให้ Daniel ไปและให้เขาเป็นหัวหน้าทีมด้วย แต่ Vurtisa ไม่ยอมรับ เราก็เลยทะเลาะกันใหญ่ สุดท้าย Vurtisa ก็หนีออกจากบ้านไป”
Ray ถามว่า “แล้วคุณโกรธเขารึเปล่า ?”
Verona ตอบแบบก้ำกึ่งว่า
“ตอนแรกฉันโกรธมาก ที่เขาทำตัวไม่มีเหตุผล โกรธจนยอมให้เขาตัดขาดความเป็นพี่น้อง แต่มาคิดอีกที เขาเองก็คงโกรธที่ฉันไม่ยอมรั้งเขาไว้”
Jay ปลอบใจว่า
“เขาคงไม่ได้โกรธคุณหรอก แต่เรื่องของเรื่องคงเป็นเพราะคุณเป็นแฟนกับ Daniel ใช่มั้ยล่ะ ? Vurtisa น่ะรักคุณมากถึงได้แสดงอาการหวงอย่างนั้นออกมา ใครใช้ให้เขามีพี่สาวสวยอย่างนี้ล่ะ ? เขาก็ต้องมานั่งหวงเป็นธรรมดา”
Verona ยิ้มฝืดๆก่อนจะพูดต่อว่า
“ฉันแค่อยากจะฝากไปบอกเขาว่า ถึงยังไงเราก็เป็นพี่น้องกัน สายเลือดจะไม่มีวันตัดขาดได้ แต่ถ้าต้องมาเจอกันละก็จะไม่มีการยั้งมือ เด็กคนนั้นน่ะใจร้อนแล้วก็โง่ ท้าสู้กับ Daniel ทั้งๆที่ตอนฝึกซ้อมกันยังไม่เคยแตะได้แม้แต่ชายเสื้อของฉันเลย”
พูดจบเธอก็จากไป ทิ้งให้ Jay และ Ray รู้สึกแปลกใจ เพราะว่าเท่าที่ Jay สัมผัสได้นั้น ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ Vurtisa เขาก็น่าจะมีพลังมากกว่าพี่สาวมากแล้ว
เช่นนี้ก็คิดได้สองทางว่า ช่วงปีที่ผ่านมา Vurtisa มีพัฒนาการอันรวดเร็ว หรือไม่ก็แต่ก่อนนั้นเป็นการอ่อนข้อให้พี่สาวมาตลอด
เขาถาม Vurtisa คืนนั้น คำตอบที่ได้ก็คือ
“ทั้งสองอย่างนั่นแหละครับ”
Jay เล่าทั้งหมดให้ฟัง มี Ray ยืนพิงผนังฟังอยู่ในห้องฝึกซ้อม Vurtisa ฟังจบก็พูดออกมา
“พี่ชายรู้ใจผมหมด Verona น่ะเป็นสิ่งที่ผมรักและหวงที่สุด”
Jay ยิ้มออกมา แล้วถามว่า
“แม้จะรวม Jinnie แล้วด้วยเหรอ ?”
Vurtisa สะดุ้ง แล้วร้องว่า
“ยัยม้าดีดกะโหลกนั่นน่ะนะ ? (อีกมุมหนึ่งของเรือ Jinnie จามโครมใหญ่) ผมไม่สนใจหรอก”
Jay หัวเราะ “เอาเหอะๆ เรื่องฝึกเป็นไงบ้าง ?”
Vurtisa ชูวีไซน์ออกมาพร้อมยืดอกหัวเราะเสียงกังวาน พร้อมกับพูดไปด้วยว่า
“ยัยนั่นต้องตกเป็นของผมแน่นอน !”
Ray กับ Jay ซุบซิบกัน
“นี่เองสินะ เป้าหมายที่แท้จริง”
ทั้งคู่ทิ้ง Vurtisa ไว้แล้วเดินออกมาบนดาดฟ้า
Ray ถาม Jay ว่า
“ให้ฝึกคนเดียวจะดีเหรอ ?”
Jay พูดให้ความมั่นใจ
“ฉันเห็นประกายแห่งความมั่นใจภายในดวงตาคู่นั้น”
แต่ทันใดนั้น ทั้งคู่ก็รู้สึกถึงพลังที่กดลงกลางหลัง ตามมาด้วยเสียงเรียบๆ ของJo
“เดินชมจันทร์หรือ ? สวยนะ... เหมาะกับการลงมือ... ตัดคู่แข่ง !”
จิตสังหารแผ่ออกมาเพียงเสี้ยววินาทีก่อนลงมือ ดาบมือแทงใส่หน้า Ray ซึ่งมีเวลาแค่ยกมือขึ้นป้องกัน
แต่มันกลับเปลี่ยนเป็นเตะกวาดซ้ายด้วยเท้าซ้ายอย่างกะทันหัน
Ray ตอบโต้ไปไม่ทัน ทำได้แค่กระโดดหลบ
แต่ Jo ไวกว่าเยอะ สามารถใช้มือขวาที่ว่างยันพื้นแล้วสะบัดเท้าขวาใส่ก้านคอของ Ray
คราวนี้ Jay ยื่นมือไปสะกิดขาของ Jo ทำให้มันเบนเฉี่ยวหัวของ Ray จนปลายผมแดงเพลิงร่วงลงมา ก่อนจะพุ่งหมัดเข้าหาช่องอกที่มีช่องว่างของ Jo พร้อมกันกับที่ Ray ปล่อยหมัดมา
แต่ Jo อาศัยความเร็วเหลือเชื่อ ใช้มือซ้ายที่ว่างอยู่ปัดหมัดของ Ray ให้เบนพลาดเป้า ก่อนจะพลิกมือกลับมาคว้าข้อมือ Jay แล้วเหวี่ยงลอยไปนอนนับดาวพร้อมๆ กับตีลังกาซัดเท้าซ้ายไปที่สีข้างของ Ray จนปลิวไปกองกับพื้น
ผ่านไปแค่ 10 วินาที ก็เห็นชัดถึงความแตกต่างของสมรรถภาพร่างกายที่ห่างชั้นกันเกินไป
แต่แล้วจู่ๆ Jo ก็หัวเราะ และะพูดว่า
“ฉันล้อเล่นน่ะ อย่าถือสาเลย ฉันแค่อยากทำความรู้จัก”
Jay กับ Ray ถึงกับงง เพราะปาก Jo พูดอย่างงั้นแต่เล่นพวกเขาเจ็บจริงๆ คนๆ นี้มีหลายหน้า สุดจะหยั่งความคิดออกได้
Jay กับ Ray ค่อยๆ คืบคลานขึ้นมาอย่างยากเย็น
ในขณะที่ Jo กำลังทำความรู้จักกับทั้งสองฝ่าย
“นายคือ Jay และ Ray สินะ นี่คุณลุง Vatanabe”
เขาชี้ที่ชายสูงวัย หนวดเครายาวเฟิ้ม สวมยูกาตะลายดอกสีเหลือง พื้นสีน้ำเงิน ใส่เกี๊ยะไม้ ไว้ผมสีน้ำตาลอ่อนรวบเป็นหางม้า
พอ Jo แนะนำ เขาก็ยกมือทักทาย
Jo แนะนำอีกคน
“นี่ลูกชายคุณลุง Vatanabe ชื่อ Vana”
Vana เป็นชายหนุ่มผมสั้น ใส่เชิ๊ตแขนยาวสีฟ้าอ่อน ผูกเนกไทสีแดงเข้ม ทับด้วยเสื้อกั๊กสีเทา กางเกงขายาวสีดำ คาดเข็มขัดสีน้ำตาล เขาทักทายแต่พยักหน้าเล็กน้อย
Jo กล่าวคำอำลา
“หวังว่าจะได้เจอกันอีก... คงสนุกแน่”
เขายื่นมือให้ Jay คราวนี้ Jay จำบทเรียนคราวที่เจอ Pirno ได้ จึงแตะมือด้วยแค่เสี้ยววินาที
Jo เองก่อนไปก็ชำเลืองมาด้านหลัง Jay นิดนึงพร้อมทั้งยิ้มออกมา ก่อนจะเดินจากไป
Jay กับ Ray หันหลังกลับไปเห็น Vurtisa ยืนอยู่เหงื่อท่วมตัว ไม่รู้ว่าเป็นเหงื่อจากการฝึกซ้อมรึเปล่า แต่ Jay กับ Ray ก็รู้ว่ามันไม่ใช่ ตอนนี้ Vurtisa สงบลงบ้างแล้ว
Jay เอ่ยปากชม
“ไม่เลว Vurtisa หัวใจนายเต้นเป็นปกติแล้ว นายคงออกมาตอนที่ฉันกับ Ray ถูกเหวี่ยงไปนอนกับพื้นล่ะสิ”
Ray พูดเสริม “หัวใจนายเต้นแรงจนเราได้ยิน คราวหน้าต้องใจเย็นกว่านี้ถ้าคิดจะแอบดู”
Vurtisa ทรุดลงกับพื้น และพึมพำว่า
“ทั้งพวกพี่... แล้วก็ไอ้ Jo นั่น... ห่างชั้นกับผมเกินไป ไม่มีทางสู้กันได้...”
Jay ก้มลงตบบ่า Vurtisa และพูดว่า
“ก็ถือว่านายแกร่งแล้ว... การรู้จักความแข็งแกร่งของผู้อื่น... ก็เป็นส่วนหนึ่งของความแข็งแกร่งของตัวเราเอง เข้าใจมั้ย Vurtisa ?”
พูดจบก็ฉุดอีกฝ่ายลุกขึ้นยืนแล้วแยกย้ายกันกลับห้องพัก




 

Create Date : 02 กันยายน 2548    
Last Update : 2 กันยายน 2548 23:44:22 น.
Counter : 183 Pageviews.  

1  2  

corollardo
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add corollardo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.