ไว้จะออกเป็นหนังสือ ช่วงชีวิต-คนว่างงาน ดีไหมเนี่ย



การลาออกจากงานและอยู่ในสถานะการว่างงานทำให้เราได้เจอประสบการณ์หลายแบบ

ทั้งดี และไม่ดี แต่เพราะการใช้กรรมเก่าในชาติที่แล้วยังไม่หมด มันก็เลยหนักไปทางไม่ดีเสียเป็นส่วนใหญ่



1 สัปดาห์ที่ผ่านมา อิชั้นเจอเรื่องที่อยาก share ไม่ถึงกับช่วยกด like

อ่านพอขำๆ และเวทนาสงสารบ้างหากท่านเมตตา

เรื่องที่ 1

ธุรกิจขายตรง

อิชั้นเป็นมนุษย์ที่โชคดีมากคนหนึ่ง เพราะไม่ค่อยถูกตื๊อ หรือไปยุ่งกับ

อาชีพนี้เท่าไหร่ (ไม่มีเพื่อนชวนไปฟังบรรยายสร้างแรงบันดาลใจฯลฯ)

ไม่มีเพื่อนมาตื๊อขายของเกินงาม

แต่กระนั้นในช่วงยังเป็นเด็กน้อยนักศึกษาอิชั้นก็ตัดเพื่อนคนหนึ่งออกจาก

คำว่ารู้จักไป และเป็นการด่าคนหน้าธารกำนัลครั้งแรก

ถ้าวันหนึ่งคุณต้องทำงาน ทำรานงานกับคนที่แยกเวลาอยู่กับแฟน

และขายของไปด้วยไม่ได้ คุณจะทำยังไง อิชั้นเคยไว้ใจคน1คนว่า

เขาจะเลิกเลอะเลือน กลับมาเป็นผู้เป็นคน จึงเห็นด้วยกับเพื่อนคนอื่นให้เขา

รับผิดชอบหน้าที่ติดต่อวิทยากรระดับผู้บริหาร มาเป็นผู้บรรยายในงาน

สัมมนาที่ชมรมเราจัด อิชั้นรอประมาณ 2 เดือน

ระหว่างนั้นถ้าเจอหน้าก็พยายามถามความคืบหน้าเป็นระยะๆ

ก็ได้รับคำตอบว่า "ติดต่ออยู่" จนอิชั้นเริ่มไม่ได้ละ

ลองไปสอบถามจากทางวิทยากรโดยตรง ปรากฎว่า

"ไม่เคยได้รับการติดต่อจากทางนักศึกษาเลยค่ะ"

และพอไปถามเจ้าตัว ก็ได้รับคำตอบว่า "เราให้พี่คนนั้น นู้น นี้ ไปดำเนินการ"


เท่านี้แหละ ความอดทนสิ้นสุดลง

อิชั้นไม่รู้ว่าตอนที่เกิดเรื่องเขายังขายของอยู่ไหม

แต่เอาเป็นว่าอิชั้นตราหน้า คนคนนี้ว่าไม่มีความรับผิดชอบในงานที่ได้รับ

มอบหมาย ดังลั่นอาคารอเนกประสงค์ 2 ท่าพระจันทร์

ต่อมาเมื่อถึงวัยทำงาน

อิชั้นทราบว่าเพื่อนสมัยเรียนมัธยม (ตอนนี้เธอแต่งงานแล้ว) ขายของ

และพอเหมาะกับเพื่อนที่ทำงานด้วยก็อยากได้

อ่า ทำไมเราไม่จับเอา Demand กะ Supply มาเจอกันละ

ว่าแล้วก็ทำเสียเลย

ผลที่ได้ เป็นไปตามสำนวนปู่อิชั้นเองว่า เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง

กระดูกมาแขวนคอ

เพราะเพื่อนนักขาย กลับไปจุ้นจ้าน อยากให้บริการเพิ่มเติม เช่นนวดหน้า

สาธิตผลิตภัณฑ์อื่น จนเพื่อนผู้ซื้ออิชั้นรำคาญและหวาดกลัว

จนบอกอิชั้นว่า ถ้าไม่มาส่งสินค้า ก็ไม่เอาแล้วนะ

ร้อนถึงตัวอิชั้นเอง ต้องไปหาผู้ขายถึงที่บ้านเพื่อเอาสินค้าไปส่งแทน


ได้อะไรไหม ไม่ได้ เสียค่าน้ำมันรถ และความรู้สึกอีก




เมื่อ2 วันก่อน มีบุคคลที่รู้จักกันไม่ถึง 56 ชั่วโมง

ที่อิชั้นเรียกเขาว่าอาจารย์

นัดพบแถวบ้าน


อิชั้นก็คิดในใจว่าอาจารย์อาจมีงานที่น่าสนใจ(ก็คนมันตกงานอยู่

ใจมันก็คิดพะวงแต่เรื่องนี้สิ)




ประกอบกับอยู่ใกล้บ้านก็เลยไปพบ


ใช่แล้วงานจริงๆ


งานขายตรง

เพื่อเป็นการจบบทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้แบบอวสานไม่มีภาค 2


นิคือประโยคที่อิชั้นตอบไป


"อาจารย์เอาทำเนียบผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จมาให้หนูดู

แต่มันเป็นแค่ 1%ของคนที่ทำงานขายด้านนี้ทั้งหมด

แล้วอีก 99%เขาไปไหนคะ"

"อาจารย์คิดไหมคะว่าผู้ที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้มี Things in common

เคยวิเคราะห์ไหมคะ ว่าคืออะไร ที่ทำให้ประสบความสำเร็จ

ถ้าคนที่ไม่มี ทำให้ตายมันก็ไม่มีเหมือนกันแหละคะ"


"หนูอยากให้อาจารย์ลองไปดูเรื่องเซน สื่อรักสื่อวิญญาณ อาทิตย์ที่ผ่านมา

เขานำเสนอเรื่องงานขายตรงไว้น่าสนใจและตรงกับทัศนคติของคนส่วนใหญ่

ที่เห็นคนที่ขายของแบบนี้เป็นเหมือนเชื้อโรคที่ต้องหลีกให้ไกล หลายคน

ไม่มีเพื่อนไม่มีสังคมระหว่างทำงานด้านนี้นะคะ"


ขออภัยหากว่ามันรุนแรงไปสำหรับผู้ประกอบอาชีพนี้ด้วยสัมมาอาชีพ

แต่น่าเสียดายที่พอเราเห็นตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จมากๆ

เราก็จะโลภอยากเป็นแบบเขาบ้าง นั่นแหละคือหายนะ


จริงๆมี Detail มากกว่านี้ แต่ไม่ไหว เหมือนของขึ้น

เอาเป็นว่าถ้ามันไม่ใช่ ก็ไม่ใช่ ไปไกลๆ กูรำคาญ

ขอบอกอิชั้นช่วยซื้อได้ถ้าคิดว่าอิชั้นและครอบครัวจะได้ใช้

แต่เป็น Downline ไม่ได้ ช่วยไปให้พ้นระยะเหวี่ยงของกระเป๋ากูด้วย

การอาศัยข้อมูลความเป็นครูอาจารย์มาทำแบบนี้

อิชั้นเสียความรู้สึก เราควรเป็นแค่คนแปลกหน้ากันจะดีกว่า


เรื่องที่ 2

Put the Right Man to the Right Company


เพิ่งไปทำ paper test ที่บริษัทเครื่องสำอางค์แห่งหนึ่งเนื่องจากพี่แนะนำ

เป็นครั้งแรกที่แค่ทำ paper test ก็รู้ว่าบริษัทนี้ต้องการคนแบบไหนไปทำงาน


ไม่ใช่แค่รู้จักสินค้าและบริษัท แต่ต้องเข้าใจ Deep in กับมัน

รู้สึกประทับใจ ถึงแม้จะทำไม่ค่อยได้ (อิชั้นไม่สามารถอธิบายคำว่า

ผิวหย่อนคล้อย และสีผิวไม่สม่ำเสมอเป็นภาษาอังกฤษได้..จบหละ)


รู้สึกตัวเองไม่เหมาะกับบริษัทนี้ตั้งแต่ HR โทรมาแล้วบอกว่า"ประสบการณ์

น้องส่วนใหญ่เกี่ยวกับโรงงาน



... แต่ก็พอได้

อะค่ะ ตำแหน่ง Management Trainee ด้าน Finance"


แต่คนเราก็ไม่ควรให้โอกาสหลุดลอยไป ถึงไม่ได้งาน แต่เราก็ได้เห็น

การ Recruitment คนที่น่าสนใจอีกที่หนึ่งนะ


อย่างน้อยก็ไม่เสียความรู้สึกเท่า เรื่องที่ 1ละกัน








 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 12 พฤษภาคม 2554 11:22:09 น.
Counter : 455 Pageviews.  

หาเรื่องนะ...




กรุณาอ่านแบบเอาเยี่ยงแต่อย่าเอาอย่าง


ต่อเนื่องจากการบันทึก Blog คราวก่อนว่า HR จะเอาเกรด

วันนี้เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ขอไปถามที่ห้องโครงการตรงๆว่า

หนูควรทำยังไงดี

พี่ที่ห้องโครงการก็ดีใจหายบอกว่า มันต้องใช้เวลา(อย่างที่เราเข้าใจ)

แล้วเขาก็อาสาคุยกับ HR ให้

นั่นแหละ คนที่ไม่มีหัวคิดอย่างนังกิ๊กเลยจัดไปให้คุยกับ HR ซะงั้น

พี่เขาก็อธิบายว่า มันจำเป็นด้วยเหรอที่จะเอาเกรดทั้งหมด

เขาก็ตอบว่ามันเป็นตามขั้นตอนการสรรหา

พี่ก็เลยบอกว่า อย่างน้อยก็ 1 เดือนครึ่งนั่นแหละ กว่าจะได้


สรุปแล้วที่โครงการช่วยได้ก็คือ

ถ้าเกรดออก จะให้อาจารย์เซ็นรับรองให้

แต่ประเด็นคือเกรดมันไม่ออกภายในเดือนเมษายนนี้อย่างแน่นอน

เร็วสุดก็สิ้นเดือน พฤษภาคมนั่นแหละ

HR ก็แบ่งรับแบ่งสู้ว่า งั้นก็แทงเรื่องไปยังหน่วยงานที่จะรับเราไปทำงาน

ว่าOK ไหม

HR จะเกลียดชั้นมากขึ้นไหมเนี่ย (น่าจะนะ )


ประเด็นคือตอนนี้ร้อนเงิน ว่ากันตรงๆ เพราะค่าจ้างก็ยังไม่ได้และ

มีค่าใช้จ่ายในเดือนหน้ารออยู่เพียบเลย

ก็มีทางเลือกว่า

1.แหล่งเงินยืมภายในบ้าน

2.หางานพิเศษทำไปจนกว่าเกรดจะออก

ทำอะไรดีละ

3.หางานใหม่ (พี่ที่ห้องโครงการเชียร์เลย บอกว่าที่นี่เรื่องมากจัง)


ต่อมาไปเจอพี่สาวที่แถวร้านปืน เขาเลยขอ Resume เราเผื่อส่งไปยัง

บริษัทต่างๆให้ และระหว่างที่เวิ่นเว้อว่ามรึงทำอะไรไป ก็สมัครไปอีกที่

ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมว่าเขาจะให้ไปต่อไหม


ปล.วัตถุประสงค์อย่างแรกที่ให้พี่ที่ห้องโครงการป.โทคุยกับ HR ไม่มีอะไร

เลย แค่อยากให้เขาทราบเท่านั้นว่า สิ่งที่เขาเรียกร้องมา เราทำให้ไม่ได้จริงๆ

แต่ดูเหมือนหาเรื่องเลยเนอะ




 

Create Date : 27 เมษายน 2554    
Last Update : 28 เมษายน 2554 7:20:07 น.
Counter : 447 Pageviews.  

ก็อยากทำให้ แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี




ตอนนี้อยู่ในโหมดสมัครงาน

วันนี้แอบเสียใจนิดหน่อย เพราะมีอยู่ที่นึงที่เราไปสัมภาษณ์มาแล้ว

รู้สึกดีมากๆ และมีโอกาสจะได้งานสูง

พอวันนี้โทรไป กลับเหมือน "เราไม่รู้จักกัน" ประมาณนั้น

สัมภาษณ์ทิ้งไว้ 2-3 เดือน สุดท้ายถ้าไม่สนใจ ทำไมไม่บอกบ้าง

อะไรบ้าง ทิ้งให้คนอื่นรอทำไม จนเราต้องโทรมาถามเอง

เสียใจนะเนี่ย ไม่ใช่เขาไม่เอาเรา แต่ทำไมไม่บอกเราเลย


ส่วนอีกที่ เหมือนจะได้แล้วแต่ แต่ และแต่

เขาจะเอาเกรดแบบสมบูรณ์

เย้ย เพิ่งสอบเสร็จเมื่อวาน

อาจารย์ยังไม่เห็นเลยมั้งว่าลูกศิษย์ ทำเวรทำกรรมอะไรกันลงไป

จะเอา และจะเอา อยู่นั่นแหละ

ถ้าออกเกรดเองได้ก็ส่งให้แล้วละ


ถามว่ามีผลอะไรไหม เขาบอกว่าที่อื่นเห็นทำได้(เขาอาจจะสอบเสร็จไปนาน

แต่ว่าแค่รออนุมัติปริญญาเฉยๆหรือเปล่า)

ก็อยากทำงานด้วย ไม่ได้อยากให้ทำงานช้ากันหรอก

แต่อิชั้นจะไปบังคับใครได้ละ

หือ


เพิ่งเห็นข้อดีของที่ทำงานเก่า

เขาไม่เคยมาสนใจว่าเอ็งจบจริงหรือเปล่า

ใบปริญญาก็ไม่เคยมาขอดู

เออ กรูเหนื่อยใจ










 

Create Date : 26 เมษายน 2554    
Last Update : 28 เมษายน 2554 7:26:34 น.
Counter : 288 Pageviews.  

หน่วยความจำบกพร่อง

ช่วงนี้ชีวิตดูERROR

ทั้งอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง อารมณ์เสียง่าย หงุดหงิดโวยวาย

และขี้ลืม

ลืมเครื่องคิดเลขไว้ในสนามสอบ (โชคดีเพื่อนช่วยตามให้ ได้คืนมาหละ)

และล่าสุดอิชั้นเบลอจัดทำ AIR CARD ของแม่พัง เพราะละเมอเอา

ไมโคร ซิม ไปใส่ กรูจะบ้า

พอจะเอาAIR CARD ตัวเองไปให้แม่ใช้ มันก็หายสาบสูญน้อยใจไปไหนก็ไม่รู้


นิมันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตน้อยๆที่เหลืออยู่ของอิชั้นเนี่ย

ไม่ค่อยมีสติสัมปะชัญญะ หลัง Defense เสร็จเลย

ควรไปรดน้ำมนต์ดีไหมนิ




 

Create Date : 29 มีนาคม 2554    
Last Update : 29 มีนาคม 2554 9:54:12 น.
Counter : 319 Pageviews.  

เมื่ออิชั้น เจอ ผู้แทนราษฎร

มารีวิว

หรือมาเล่าให้เป็นเยี่ยงแต่อย่าเอาอย่างกันนะเคอะ


วันเสาร์ที่ผ่านมาอิชั้นไปสอบสัมภาษณ์ครั้งที่ เอ่อ ประหลาดที่สุดในชีวิต

เพราะผู้สัมภาษณ์เป็น สส.เขตบ้านอิชั้นเอง


เนื่องด้วยความ กวน มึน โฮ(เพราะวันอาทิตย์มีสอบวิชา Risk ไม่รู้เรื่องเลย)

อิชั้นก็โดนแม่บังคับให้ไปด้วย


เจอหน้าท่าน สส. ก็เล่นละ


"ท่านเป็นสส.เขตหนูใช่ไหมคะ มิน่าไม่เคยเจอกันเลย "


ช่วงแรกเป็นการแสดงวิสัยทัศน์อันต่ำเตี้ยของเจ้าของBlog

อาทิ


"การประชุมสภา ไม่ชอบดูค่ะ เพราะเหมือนดูดราม่าเรื่องหนึ่งค่ะ

ฝ่ายค้านก็ต้องค้าน เพราะเขามีหน้าที่แบบนั้น ฝ่ายรัฐบาลก็มีหน้าที่ใน

ทางตรงข้าม เราไม่รู้ว่าใครพูดความจริง ใครโกหก และใครพูดไม่หมด"


"การออกกฎหมาย สุดท้ายแล้ว ก็ต้องผ่านร่าง มันไม่สำคัญว่าจะออก

ยังไง แต่สำคัญตรงนำไปใช้มากกว่า กฎหมายบางอย่างรังแกคนมีเยอะแยะ"


จากนั้นสลับโหมดมาเป็นลูกศิษย์ อาจารย์

ทำให้อิชั้นเข้าใจว่า ประชาชนคนไทยทุกคนมีหน้าที่ช่วยตนเองก่อนเสมอ


ไม่ได้ว่านะคะ อิชั้นก็ยึดหลักแบบนี้มาเสมอ เพียงแต่ว่า

ตอนหาเสียง "ท่านบอกเรื่องนี้เสียงเบาไปนิดนึง คนรอบตัวดิชั้น

ก็เลยเข้าใจผิดไปไกล"



คิดว่าอิชั้นจะผ่านการสอบสัมภาษณ์นี้ไหมคะ




 

Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2554 16:22:30 น.
Counter : 397 Pageviews.  

1  2  3  4  


แปรงสีฟันเดียวดาย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




lozocat
lozocat
 
สัญชาติ ลูกครึ่ง ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี

อายุ มากกว่าลูกคนข้างบ้านประมาณ 3 ปี

เพศ จากการทดสอบการโครโมโซมระบุว่าเป็นหญิง

การศึกษา บัญชี ธรรมศาสตร์

กำลังโทบริหารธุรกิจ ธรรมศาสตร์


อนาคตโทบัญชี ธรรมศาสตร์

ถ้ามีโอกาส ปริญญาเอก ธรรมศาสตร์ JDBA

สถานภาพ โสดสนิท กิ๊กส่ายหน้า


นิสัย เสียเป็นส่วนใหญ่

งานการ อยู่ในระหว่างลาออก 29.05.09
lozocat
lozocat
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แปรงสีฟันเดียวดาย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.