ย้อนเวลา ที่สถานตากอากาศบางปู

สวัสดี ตอนบ่าย บ่ายค่ะ

พอดีนั่งดูรูปเก่า เก่า สมัยที่เพิ่งซื้อกล้อง DSLR มานั่งดู
เลยเจอ รูปตอนที่ไปเที่ยวสถานตากอากาศบางปู
เลยอยากจะเอามา share ค่ะ (แต่ขอออกตัวไว้ก่อนนะคะ ว่ารูปไม่ค่อยแจ่มเท่าใด เพราะ ตอนนั้นเพิ่งจะเริ่มถ่ายรูป)

ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ใกล้กรุงเทพฯ มากมาก
ใครอยากมาหาที่กินข้าวพักผ่อน ยามเย็น ก็ขอแนะนำเลยค่ะ
หรือ จะแวะไปถ่ายรูป ที่ "เมืองโบราณ" แล้วแวะมาที่นี่ตอนเย็นก็ดีนะคะ
สำหรับข้อมูล ของ "สถานตากอากาศบางปู" ไปหามาให้จาก //www.paknam.com มีดังนี้ค่ะ

สถานตากอากาศบางปู
สถานที่: Bang Pu Seaside Resort
ที่ตั้ง: กม.ที่ 37 ถ.สุขุมวิท
เวลาทำการ: 10 นาฬิกา - 20 นาฬิกา
ค่าเข้าชม: ฟรี

สถานตากอากาศบางปู - อยู่ในเขตตำบลบางปูใหม่ ริมถนนสุขุมวิท ประมาณกิโลเมตรที่ 37 ตรงข้ามกับนิคมอุตสาหกรรมบางปู เป็นสถานตากอากาศที่มีชื่อเสียงมาเป็นเวลานานและเป็นสถานพักฟื้น พักผ่อน ของกรมพลาธิการทหารบก ภายในมีร้านอาหาร บ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว และในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนเมษายน จะมีนกนางนวลอพยพมาหากินอยู่ตามชายทะเล สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2323 9138, 0 2323 9983

การเดินทาง
วิธีที่ง่ายที่สุดคือการนั่งรถสองแถวคันใหญ่ (6 ล้อ) จากในตลาดปากน้ำ หรือรถเมล์เอกชน ที่ไปคลองด่าน หรือตำหรุ รถจะผ่านหน้าสถานตากอากาศบางปูพอดี (สังเกตป้ายทางเข้า) ถ้าคุณออกมาจากเมืองโบราณและจะไปสถานตากอากาศบางปูต่อ สามารถรอรถดังกล่าวได้ที่ด้านหน้าเมืองโบราณ รวมทั้งยังสามารถขึ้นรถตู้จากสำโรงมาคลองด่าน

ถ้าขับรถจากกรุงเทพทางถนนสุขุมวิทเข้าสมุทรปราการ เมื่อถึงตัวเมืองสมุทรปราการให้สังเกตป้าย ชลบุรี ชิดซ้าย ให้ตามเส้นทางไป จากศาลากลางจังหวัดถึงสถานตากอากาศบางปูระยะทาง ประมาณ12.27 กม. ถ้า มาทางถนนศรีนครินทร์เข้าเมืองสมุทรปราการจดสุดสาย จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท(สายเก่า) จากจุดนั้นถึงสถานตากอากาศบางปูเป็นระยะทางประมาณ 11.10 กม. จะเห็นทางเข้าทางขวามือ ให้ขับตรงไปเพื่อกลับรถ

วันที่ไปเป็นช่วงเวลา ห้าโมงเย็น แต่แดดก็ยังพอมีอยู่บ้าง แต่ไม่ร้อนมากเท่าไหร่ค่ะ





อ้อ...มีขอแนะนำสำหรับคนที่ขับรถไปนะคะ ตอนเย็นรถจะเยอะมาก ตรงช่วงสะพานด้านในนี่รถติดยาวมากมากเลยค่ะ เลยอยากจะแนะนำให้เอารถจอดไว้ด้านหน้า แล้วเดินเข้าไปดีกว่าค่ะ ได้กินลม ชมวิว ถ่ายรูป ด้วย หรือ ถ้าขี้เกียจเดิน จะรอรถรับส่งก็ได้ แต่อาจจะนานหน่อยนะคะ

พอเราเดินเข้าไปก็จะเจอกับแนวรั้วไม้ไผ่ ที่ทำไว้เป็นแนวกันกระแสน้ำ กระแสลม ที่อาจจะเป็นเหตุให้ ดินของป่าชายเลน ถูกเซาะไป







เมื่อเดินไปด้านลึกเข้าไป ก็จะเจอฝูงนกนางนวลมากมายเลยค่ะ แอบกลัวเล็กน้อย









บรรดาฝูงนก บินกัน ฉวัดเฉวียน เลยค่ะ













บางตัวก็เดินเล่นในน้ำ......สบายใจซ้า







มีเรือสำราญมาจอดลอยลำ อยู่ตรงโน้นด้วยค่ะ



นี่ก็คนมาให้อาหารนกค่ะ แต่เราไม่กล้า เพราะกลัวโดนนกจิกมือ



เมื่อเดินจนเริ่ม เหนื่อย ก็มาถึง บริเวณ "สโมสร" พอดี เลยค่ะ จะถ่ายด้านหน้า "สโมสร" ก็ยากเหลือเกิน เพราะ คนเยอะมาก เลยได้แต่รูปนี้มาค่ะ



ด้านในสโมสรไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ เพราะ คนเยอะมากมาก เลยไม่ค่อยสะดวก ขอบรรยาย แทนละกันนะคะ ด้านในจะเป็น บริเวณ ร้านอาหาร และ ก็ floor เต้นรำ ที่นี่เค้ามี"ลีลาศ" กันด้วยนะคะ นักเต้นเท้าไฟ เต็ม floor เลยล่ะค่ะ ในส่วนของร้านอาหาร มีแบบห้องแอร์ และ open air ค่ะ คนแน่มั่กมั่ก ทั้งสองโซน เราสองคนเลือกโซน open air ค่ะ ไหนไหนก็มา "บางปู" ทั้งที ต้องขอชม บรรยากาศแบบไม่มี กระจกกั้นซะหน่อย

อาหารที่นี่ราคาไม่แพงเลยค่ะ อยากจะสั่งซัก 8 อย่าง แต่ก็ อ่ะนะ มากัน 2 คน เลยสั่งมา 4 อย่างค่ะ

อย่างแรก "ต้มยำปลากระพง" ใช้ปลาตัวใหญ่ค่ะ เนื้อแน่นมาก ราคาร้อยต้นต้น เท่านั้น มากันเป็น "หม้อไฟ" เลย



อย่างที่สอง "ปูผัดผงกะหรี่" เห็นก้อนเนื้อปูมั้ยค่ะ อืม อร่อยมั่กมั่ก ราคาร้อยต้นต้น อีกเช่นกัน



อย่างที่สาม "กุ้งแม่น้ำเผา" ของโปรด ถ้าจำไม่ผิด ราคา 180 บาท มั้งค่ะ ตัวไม่ใหญ่ แต่ ก็ไม่เล็ก



อย่างที่สี่ "ข้าวผัดปู" ไม่มีรูปค่ะ เพราะ เค้ามาเสิร์ฟ ตอน สุดท้าย ซึ่งมือเราเลอะไปแล้ว เลยไม่ได้ถ่ายรูป ค่ะ อร่อยมากอีกเช่นกัน

สรุปค่าเสียหายของอาหารมื้อนี้ 520 บาทเท่านั้น ถูกมั่กมั่ก

หลังจากอิ่มกันจนพุงจะระเบิด เราก็มานั่งกินลม ชมวิวกัน อากาศดี มากมาก เลยค่ะ ถ้าใครอยากจะหาที่เที่ยวใกล้ใกล้ "กรุงเทพ" ล่ะก็ ลองมาเที่ยวที่นี่ดูนะคะ

ท้ายนี้ ขอขอบคุณ ทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมนะคะ




 

Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2553 15:14:52 น.
Counter : 947 Pageviews.  

Suanmuangporn ในวันที่ไม่อยากทำงานใน office

แวะมาอัพ blog อีกแล้ว พอดีกำลังเห่อ blog ที่เพิ่งจะลงมือตกแต่งเสร็จไปหมาดหมาดค่ะ รอบนี้ขุดเอา trip ไม่เก่ามากเท่าไหร่มารีวิวค่ะ

trip นี้ เป็น trip ปุบปับอีก trip นึงค่ะ ไปมาเมื่อ ปลายปีที่แล้ว ด้วยความที่ช่วงนั้นทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่องสองเดือน (กลับบ้านเที่ยงคืนเกือบทุกวัน) เลยลาพักร้อน เพื่อมาสูดอากาศสดชื่น อีกแล้วค่ะ

มาค่ะ วันนี้จะพามาเที่ยว ที่ "สวนเมืองพร" ค่ะ

เราออกเดินทางกันสายนิดนึง เพราะตั้งใจว่าจะมาหาอะไรทาน และ กินลมชมวิว ที่ เขื่อนลำตะคองกันค่ะ

ฟ้าใสมากมากเลยค่ะ อากาศก็ดี๊ดี



แต่อาหารไม่ค่อยอร่อยค่ะ สงสัยจะเลือกร้านที่ไม่ work เลยไม่ได้ถ่ายรูปอาหารค่ะ

หลังจากทานข้าวเสร็จก็นั่งพึ่งพุง กันอยู่แป๊บนึง เราก็เดินทางต่อค่ะ

แค่ 10 นาที ก็มาถึงแล้วค่ะ "สวนเมืองพร"



หลังจากเดินกันงงๆ เพื่อหาที่ check in เราก็มาถึงห้องพักของเราแล้ว ค่ะ Room No.2 เป็นบ้านแฝดค่ะ อยู่ ติด กับ deluxe room ที่เป็นตึกสองชั้นค่ะ



นี่เป็นบริเวณหน้าห้องพักค่ะ ( นางแบบหน้าซีดและโทรมมากค่ะ )



หน้าห้องพัก มีเก้าอี้หวาย เอาไว้นั่ง chill ด้วยค่ะ



เมื่อนั่งลงบนเก้าอี้แล้ว มองไปด้านหน้า จะเห็น "วิว" แบบนี้ค่ะ



ต้นไม้เขียวสดชื่นมั้ยค่ะ ????

ต่อมาเรามาสำรวจภายใน Room No.2 กันดีกว่าค่ะ ....ไม่รู้ว่าคุณพี่เค้าหาอะไรอยู่.....



ขออีกรูปแบบไม่มีนายแบบล่ะกันนะคะ



อีกด้านก็จะเป็นห้องนั่งเล่น ที่มีโซฟาตัวใหญ่ คู่กับ TV จอใหญ่ รวมถึงมีตู้เย็นใบ(ไม่)ใหญ่ กระติกน้ำร้อน เอาไว้ให้ด้วยค่ะ



เมื่อสำรวจห้องพักเสร็จ ก็ออกมาสำรวจด้านนอกค่ะ มีสระว่ายน้ำด้วยค่ะ น่าว่ายน้ำจัง



แต่อากาศ มันออกจะเย็นเย็น เลยไม่เอาดีกว่า ยืนดูก็พอ



และเมื่อมา "สวนเมืองพร" เราก็ต้องมาถ่ายรูป ที่ "มุมมหาชน" ค่ะ







แถมดอกไม้สีสดหนึ่งดอกค่ะ แต่แอบโดนแมลงแทะนะเนี่ย



ที่นี่เค้ามี pub ด้วยนะคะ แต่อยู่ใกล้ ส่วนที่พัก ไปหน่อยเลย ได้ยินเสียงดึ้งดึงดึ่งดึง ช่วงค่ำค่ำ ด้วยค่ะ





ยามเย็นเราก็มาดู "พระอาทิตย์ตกดิน" กันค่ะ











เมื่อ พระอาทิตย์ตกดิน เรียบร้อย เราก็ออกไปทานอาหารกันค่ะ ถ้าเป็นแขกที่มาพักเค้าจะจัดโต๊ะที่วิวดีดี ไว้ให้ค่ะ



เนื่องจากวันนี้มี surprise จากคนข้างข้างค่ะ เลยมั่วแต่ปลื้มใจ เลยไม่ได้ถ่ายรูปอาหารเลย แต่อาหารของที่นี่เค้าอร่อยขึ้นชื่ออยู่แล้วค่ะ

เช่นเคย เหมือนทุกครั้งที่เราไปเที่ยว ต้องตื่นแต่เช้า มาสูดอากาศสดชื่นค่ะ



ฟ้าใสมากมากเลยค่ะ



ระหว่างนั่งรออาหารเช้าก็ต้องเอางานมานั่งทำด้วย ตอนเผลอเลยมี "ปาปาราซซี่" แอบถ่ายรูปค่ะ



อาหารเช้า มีหลายอย่างให้เลือก เราเลือกข้าวต้มปลาค่ะ แต่ คนข้างข้าง เค้าแบ่งกุ้งมาให้



มีคดีเล็กน้อยกับอาหารเช้าค่ะ คือ เราต้องสั่งอาหารเช้าตั้งแต่ตอน check in แล้วในเมนูระบุว่า เราจะต้องได้ "ขนมปัง" และ "กาแฟ" ด้วย เราได้แต่ "กาแฟ" ค่ะ ที่นี้ก็เลย ถามพนักงาน ว่า

เรา: " น้องค่ะ พี่ต้องได้ขนมปังด้วยไม่ใช่เหรอค่ะ ? "
พนักงานที่ผูกไทด์: "ไม่ได้ ครับ เพราะ สั่งข้าวต้มจะไม่ได้ ขนมปัง" (เสียงมึนมึน เหมือน เพิ่งจะตื่น)
เรา: " เอ แต่เมนูมีเขียนไว้นี่ค่ะ จำได้ ขอดูเมนูหนน่อยได้มั้ยค่ะ "
พนักงานที่ผูกไทด์: "ไม่มีจริงจริงครับขนมปัง" (แล้วก็เดินจากไป เพราะโต๊ะอื่นเรียก)

เราสองคนก็มองหน้ากันงงๆ ก็เลยไม่สนใจอะไร แต่ทีเด็ดอยู่ที่ ไอ้โต๊ะข้างข้างเนี่ย ก็สั่งเหมือนกันเป๊ะ แต่เค้าได้ "ขนมปัง" " โกรธเลยทีนี้ แต่ก็ไม่ได้วีนไป เพราะ คนข้างข้างเค้าก็บอกว่าช่างมันเถอะ เฮ้อ ได้ยินมาเยอะ เรื่องการบริการของพนักงานที่นี่ เลยเตรียมใจไว้บ้างแล้ว แต่ด้วยความที่อยากพิสูจน์ข้อเท็จจริง ตอน checkout ก็เลยไปถามพนักงานอีกรอบว่ามีมั้ย "ขนมปัง" คำตอบคือ "มีค่ะ" เหอ เหอ เหอ

จบเรื่อง "ขนมปังพิฆาต" กันก่อนดีกว่า เพราะ จะพาไปเที่ยวต่อที่ "ทองสมบูรณ์คลับ" อยากมาที่นี่ตั้งนานแล้ว อยากเล่น "ruge" ค่ะ

เมื่อเข้ามาในบริเวณของ "ทองสมบูรณ์คลับ" เราจะเจอวิวนึงที่ จัดว่าเป็น signature ของที่นี่เลยก็คือวิวนี้ค่ะ



ฟ้าใสต้นไม้เขียวได้ใจทั้งสองอย่างเลยค่ะ

เมื่อเราไปถึงด้านใน เราก็พุ่งไปเล่น "ruge" เลยค่ะ



สนุกสมใจเลยค่ะ พอเราเล่นเสร็จ ก็ต้องนั่งกระเช้ากลับมาที่เดิมค่ะ



enjoy สุดสุด ค่ะ



จากนั้นเราก็ไป ขับรถ "buggie" กันค่ะ สนุกดีค่ะ แต่เร่งได้ไม่ค่อยถึงใจเลย (เป็นขาซิ่ง อ่ะค่ะ) วันที่เราไปเจอ group บริษัทที่เค้ามา outing ประจะปีด้วยค่ะ แล้วก็มีคนเมา(มาก) จะขับรถ "buggie" ให้ได้ เจ้าหน้าที่เค้าก็ห้าม ทีนี้เลยทะเลาะกันเลย เฮ้อ...... "เหล้า" นี่ไม่ดีเลยจริงจริงนะเนี่ย

เมื่อบรรยากาศเริ่มไม่สนุก ก็เลยกลับดีกว่า ระหว่างรอรถ ก็ลองหาเรื่องถ่ายรูปเล่นกันค่ะ



พอมาถึงด้านหน้า ก็เหลือบไปเห็น "ม้า" ค่ะ



เค้ามีกิจกรรมให้ขี่ม้าด้วย แต่เรากลัวม้าจะรับน้ำหนักไม่ไหว ก็เลยขอ บาย ได้แต่ถ่ายรูปอย่างเดียวค่ะ (อิอิ ไม่เสียตังค์)



โปรแกรมถัดมา คือ "Steak" ค่ะ เราไป "Farm Chokchai" ค่ะ ด้วยความที่หิวโซกันมากมาก เลยไม่มีใครอาสาถ่ายรูปเลยค่ะ ตั้งใจกินกันอย่างเดียวเลย อร่อยถูกใจแต่ไม่ค่อยถูกสตางค์ เหมือนเคยค่ะ มาทีไรก็ร้านนี้ตลอด ไม่เคยเปลี่ยน เพราะไม่กล้าเปลี่ยน ไม่อร่อยล่ะแย่เลย

ไม่มีรูป "Steak" มาฝาก เลยขอปิดท้าย ด้วยของหวาน มื้อเดียวของ trip นะคะ



ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยม blog นะคะ




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2553 21:30:50 น.
Counter : 438 Pageviews.  

Panalee - Suanpueng กับวันที่อยากพักผ่อน

สวัสดีวันอังคารค่ะ........หายไปแป๊บนึง เพราะกำลังติด facebook อย่างหนัก รวมถึง ที่บริษัทเค้าทำ blog ให้กับพนักงานด้วย เป็น society blog อะไรประมาณนั้น เลยกำลังเห่อของใหม่ นี่ก็ไปสมัครเข้าชมรมถ่ายภาพกับเค้าด้วย กะว่าจะไปขอลอกการบ้านจาก บรรดา “เทพเทพ” ทั้งหลายในบริษัท มาอวด คนใน blog นี่ล่ะค่ะ

วกกลับมาเรื่อง “trip พนาลี” ดีกว่าค่ะ ที่มาที่ไปของ trip นี้ คือ อยาก charge พลังชีวิตค่ะ เพราะ เป็นช่วงเพิ่งจะออกจาก mode “ทาสในเรือนเบี้ย” ต้องการ พักร้อน เพื่อไปสูด อากาศบริสุทธิ์ และ ดูวิวต้นไม้สีเขียว มากมาก

เริ่มแรกหาข้อมูลจากใน ห้อง blue ค่ะ ไปเจอ “พนาลี” จาก blog ของคุณ มาเรีย ณ ไกลบ้าน ค่ะ (ต้องขอบคุณ คุณ มาเรีย มากนะคะ กับ รีวิว ที่เที่ยวสวยสวย ตามรอยคุณมาเรียไปมาหลายที่แล้วค่ะ)

เราสนใจที่นี่มาก เพราะ ดูดีมีชาติตระกูล แต่ ราคาไม่แพง
พอจองได้ ก็ชวนคนข้างข้าง เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า แล้วออกก็ออกเดินทางเลยค่ะ

เนื่องจากตอนเช้า เรามีภารกิจ พาเจ้าลูกชาย “MadMax” ไปหาคุณหมอ ที่โรงพยาบาลสัตว์จุฬาฯ ก่อน กว่าออกเดินทางกันก็ตอนเที่ยงเที่ยงแล้วค่ะ

ไปถึงที่พักก็ได้เวลา check in พอดี ค่ะ บ่ายสองโมง

นี่ค่ะบ้านพักของเรา “ไอยเรศ”



บ้านที่นี่ทุกหลังมีดาดฟ้าให้นอนดูดาวด้วยค่ะ chill มั้ยล่ะ



เดินขึ้นไปดูดาดฟ้ากันค่ะ



ดาดฟ้า กว้างขวางดีค่ะ



หลังจากสำรวจดาดฟ้าแล้ว เราก็เริ่มสำรวจในบ้านค่ะ ตรงหน้าบ้านมี โต๊ะน่ารักให้นั่งด้วยค่ะ



มองจากโต๊ะนี้ไปก็จะเห็นวิวแบบนี้เลยค่ะ



ในบ้านเปิดมาก็จะ บริเวณห้องนั่งเล่น มีเครื่องเสียง TV พร้อมค่ะ (แต่หารูปไม่เจอ สงสัยไม่ได้ถ่ายเก็บไว้ )

มีต้น X’ mas ด้วยค่ะ



เลยไปก็เป็นห้องนอน ที่นอนนุ่มมากมาก



และ ห้องน้ำที่แสนกว้างขวางค่ะ



ขอถ่ายรูปตัวเองหน่อย



เนื่องจาก ผู้ร่วม trip มีงานมากมาย แต่ก็อยากจะพาแฟนมาพักผ่อน ก็เลยต้องหอบ laptop มานั่งทำงานด้วย เราก็เลยไปเดินเที่ยวเล่นถ่ายรูปใน “พนาลี” เพลินเพลินคนเดียว เก็บภาพน่ารักมาฝากเยอะเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็น prop ที่เค้าใช้ตกแค่งค่ะ









แถมด้วย “กระบองเพชร” แสงกำลังสวยเลย



พอแดดร่มลมตก เราก็ไปชมวิว กันที่ดาดฟ้าค่ะ



วิวสวยสวยค่ะ



ลองเปลี่ยน white balance ดู อบอุ่นขึ้นบ้างมั้ยคะ



แบบไม่เอาพระอาทิตย์ค่ะ



ก่อนอาหารเย็นเรามีการเล่นเกมส์กันค่ะ เป็นเกมส์แบบนี้ค่ะ



เป็นคนกำหนดกติกาเองค่ะ ว่าถ้าใครแพ้ต้องเลี้ยงข้าวเย็น แต่ปรากฏว่าเราแพ้อ่ะค่ะ ไม่น่าเลยเรา

โชคดีที่คนข้างข้าง เค้าให้เราเป็นคนสั่งอาหาร เลยเอาแบบ basic ค่ะ ประหยัด งบ อิอิ

จานแรกผัดผักรวมมิตร กรอบอร่อยค่ะ



จานที่สอง ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม จานนี้เกินงบ แต่ก็อยากกินอ่ะ อร่อยค่ะ



และ อีกอย่างคือ “ต้มแซ่บกระดูกอ่อน” ค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายค่ะ เพราะ เค้ามาเสิร์ฟตอนเริ่มหม่ำกันแล้ว เลยไม่มีกะใจ

อาหารที่นี่อร่อยค่ะ แต่ราคาก็พอสมควรค่ะ ที่สำคัญ “ice-cream” ที่นี่อร่อยมาก เป็น homemade ค่ะ วันนั้นได้ชิม cookie and cream ค่ะ อีกเช่นเคยไม่ได้ถ่ายรูป เพราะกลัวไอติมละลาย เลยต้องรีบหม่ำ

ยามเช้าเรารีบตื่นเพื่อจะไปดูวิว สูดอากาศสดชื่น ที่จุดชมวิวตรงหลังบ้าน ที่เป็นเนินเขาค่ะ

หมอกยามเช้าค่ะ



น้ำค้างบนผืนหญ้าค่ะ เห็นแล้ว สดชื่นค่ะ



ที่จุดชมวิวค่ะ



หลังจากชมวิว และ จัดการกับอาหารเช้า เราก็เตรียม เก็บสัมภาระ เพื่อ จะไปเที่ยวละแวกนี้ก่อนกลับ กรุงเทพ ค่ะ

ขอเก็บภาพกันที่มุมมหาชนก่อนค่ะ





ออกจาก “พนาลี” เราขับรถเลยขึ้นไปหน่อย ก็จะเจอ “ธารน้ำร้อนบ่อคลึง” ไม่ได้แช่น้ำร้อนกันหรอกนะคะ เพราะว่า ไม่ได้เตรียม เสื้อผ้ากัน มา ได้แต่ survey เก็บข้อมูล สำหรับ รอบหน้า ที่เราจะพา ครอบครัวของเรามาเที่ยวด้วยกัน

มี trekking กันเล็กเล็ก เพื่อไปดูจุดกำเนิดของ “ธารน้ำร้อนบ่อคลึง” ค่ะ

พักเหนื่อยกันหน่อย



ออกจาก “ธารน้ำร้อนบ่อคลึง” เราตั้งใจจะไปกิน ส้มตำ ไก่ย่าง ตรงแถวแถว ทางเข้า scenery ค่ะ เคยมากินครั้งนึง เมื่อเกือบสองปีที่แล้ว ตอนที่เราสองคนมา trip กับเพื่อนเพื่อนที่ทำงาน อร่อยค่ะ ราคาไม่แพงด้วย

หลังจาก อิ่มกันพุงตุ่ย แล้ว เราก็ขอแวะ ไป scenery หน่อย เพราะอยากได้ “ตุ๊กตาน้องแกะ” ที่นอนกรนได้อ่ะค่ะ (เห็นจากรีวิวคนอื่นมา)



เอ ....... คุณพี่เค้ากำลังมองอะไรหว่า



อ้อ...........เห็นน้องแกะนี่เอง



อ้าวนั่น......................แกะดำ นี่นา



สุดท้ายเราก็ไม่ได้ “ตุ๊กตาน้องแกะ” ที่นอนกรนได้ เพราะว่าแพงเกินไป (ว่าจะไปลองหาแถวสำเพ็ง อาจจะได้ครึ่งราคา) แต่ก็ได้ ตุ๊กตาน้องแกะ ที่ส่ายหัวตลอดเวลามาเป็นของปลอบใจแทน อิอิ

ขอปิดท้าย trip นี้ด้วย รูปคู่ ที่ scenery นะคะ



ลืมบอกว่ารูป เก้าอี้คู่นะ ไม่ใช่ คน


ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมกันอีกครั้งค่ะ




 

Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2553 17:27:50 น.
Counter : 656 Pageviews.  

Alila Chaam กับภารกิจ HBD mum

เอาเรื่องเก่าที่ประทับใจ มาเล่าให้ฟังค่ะ
ความจริงครอบครัวเราไปฉลองวันเกิดของแม่ กันตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ

เป็นครั้งที่สองของครอบครัวเราที่มาพักที่นี่ค่ะ แต่แวะมากินข้าวหลายครั้งอยู่ มากี่ครั้งก็ชอบที่นี่ค่ะ เงียบ ไม่วุ่นวาย

เราออกจากบ้านกันแต่เช้า แต่กว่าจะครบทีมก็สาย เพราะเราต้องวนไปรับ “น้องนนท์” เป็นลูกของน้าสาวค่ะ แถวแถวพุทธมณฑล โน่นค่ะ เราเลยต้องขับรถไปชะอำ โดยใช้เส้นทาง ที่ผ่านราชบุรี ค่ะ

ขับรถกันสบายสบาย ไปแวะทานอาหารกลางวันที่ “ส้มตำ รฟท.” ตรงเพชรบุรีค่ะ ถ้าจำไม่ผิด สมัยก่อน (เมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว) ร้านนี้จะอยู่ข้างในตัวเมืองใกล้ใกล้ ทางรถไฟ ตอนนี้ย้ายมาอยู่ตรงถนนหลวง แล้วค่ะ เลย บิ๊กซี มานิดนึง สำหรับเราเราว่า ส้มตำไทย กับไก่ย่าง รสชาติหวานเกินค่ะ (น้ำตาลเค้าเยอะจริงค่ะ เมืองนี้) แต่ต้มแซ่บ หรือ ลาบหมู ใช้ได้ค่ะ (ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ เพราะ หิวจัดค่ะ มือไม้สั่นกันเลยทีเดียว )

ช่วงที่เราไปเป็น "ฤดูฝน" ค่ะ หลังจากเราหม่ำ ส้มตำเสร็จ ฝนก็ตกหนักมาก
แต่พอเราถึง Alila ฝนก็หยุดตกพอดี.......อากาศก็เลยเย็นสบายค่ะ

มารอ check in กันค่ะ แอบครึ้ม ครึ้ม แต่ก็เย็นดีค่ะ



แขกรับเชิญ ของ trip ค่ะ





Trip นี้ มีกล้องสองตัวค่ะ คือ 450D (ลูกชายที่รัก) กับ Sony W7 (ลูกสาวที่รัก-กล้องตัวแรกที่ซื้อเอง) เอามาให้น้องนนท์ หัดถ่ายรูปค่ะ

เลขที่ออก 624 ค่ะ ส่วนอีกห้อง ก็ 622 ค่ะ (จองสองห้อง เพราะเรามีสมาชิกมากัน 4 คนค่ะ)



มาดูห้องที่สาวสาวพักค่ะ





ส่วนห้องสองหนุ่ม (น้องนนท์ กับ พ่อ) รกทันทีที่เข้าห้อง เลยไม่ถ่ายค่ะ แต่ห้องเหมือนกันเป๊ะค่ะ

หลังจากพักกันจนหายเหนื่อย นอนหลับกัน หนึ่งงีบ ก็ได้เวลา เดินเล่นกันแล้วค่ะ

สระว่ายน้ำสุดโปรดค่ะ chill pool





นี่เจ้าของวันเกิดค่ะ



ดอกไม้สวยสวยค่ะหลังฝนหยุด สดชื่นมั้ยค่ะ



เตียงนอนริมทะเลค่ะ



มาเดินเล่นกันที่ชายหาดกันค่ะ





บ่ายสี่ เราก็มากันที่ “Cloud Loft” เพื่อ มาจิบชายามบ่าย พร้อมกับชมวิวทะเลค่ะ

มองจากชายหาดขึ้นไปที่ “Cloud Loft” ค่ะ



เมื่อมองลงมากจาก “Cloud Loft” ค่ะ



เจ้าของวันเกิดอีกซักรูป



ของโปรดค่ะ “Opera Cake”



คู่กับ “Earl Grey” ค่ะ



กำลังคุยกันอยู่ค่ะ ว่าเย็นนี้กินอะไรกันดี (เจ้านนท์หน้าเครียดเชียว)



หลังจากอาหารว่างย่อย ไปบางส่วน เราก็ไปว่ายน้ำกันค่ะ แต่ไม่ได้ไปว่าย ที่ chill pool นะคะ เค้าไม่ให้เด็กว่ายน้ำสระนั้นค่ะ เพราะมันอยู่ตรงหน้า SPA พอดี ต้อง be quiet ค่ะ



หลังจากหนุกหนาน กันเต็มที่ เราก็เตรียมตัวไป dinner น้องสาวตามมาสมทบแล้วค่ะ



เราไปหม่ำอาหารเย็นกันที่ “อาเล็กซีฟู้ดส์” ตรงสุดหาดชะอำค่ะ ร้านนี้ ครอบครัวเรามาทานกันหลายครั้งค่ะ อาหารสด อร่อย และ ถูก ที่สำคัญ ไม่ใส่ผงชูรสค่ะ (เป็นคนแพ้ผงชูรสอย่างแรงค่ะ)

เรามากัน 5 คนค่ะ สั่งอาหารมา 12 อย่าง แต่ไม่ค่อยมีกระใจถ่ายรูปค่ะ เพราะมันหิว แต่น้องนนท์ เค้าสามารถค่ะ เก็บภาพมาฝากเราได้ นิดหน่อยค่ะ มีอะไรบ้างเรามาลองดูกันค่ะ

ปูนึ่งค่ะ ปูที่นี่สดมากค่ะ 3 ตัวที่เห็นนี่ คือ หนึ่งกิโลนะคะ อาหย่อยค่ะ น้ำจิ้มเด็ด



ปลากะพงทอดราดน้ำปลา ค่ะ ปลาสดมากค่ะ เนื้อหวานเลย และเด็ดที่น้ำยำมะม่วงค่ะ



อันนี้อร่อยค่ะ ใครสั่งไม่รู้ (แม่มั้ง เห็นบอกว่าไม่มีผักเลย) กุ้งตัวโตสดมั่กมั่ก บร๊อคโคลี่ ก็กรอบซ้า



และอีกจานที่ไม่มีใครกิน เท่าไหร่ “กุ้งชุบแป้งทอด” ตอนแรกที่สั่งเพราะคิดว่า น้องนนท์ จะชอบ (เราเห็นว่าเด็กๆชอบกินอ่ะ) แต่ท้ายสุด คุณชายก็นั่งซดน้ำต้มยำปลาเก๋าแทน เพราะบอกว่าแซ่บกว่ากันหง่ะ



หลังจากอิ่มกันจนท้องจะแตกตาย ก็ค่อยค่อยเคลื่อนย้ายพล กลับ โรงแรมค่ะ

Alila ยามค่ำคืนนี่สวยจริงจริงนะคะ



เรากลับมาในช่วงเวลาที่ โรงแรมกำลังจุดไฟตรง lobby พอดีเลยค่ะ ประมาณ สองทุ่มกว่ากว่าค่ะ



อีกรูปฝีมือน้องนนท์ค่ะ (สวยกว่าเราอีก)



เมื่อมาถึงห้อง ทางแม่บ้านได้ มา turn down ห้องให้ค่ะ น่านอนมั้ยค่ะ



พร้อม กับ ขนม และเครื่องดื่มก่อนนอน เป็นมะตูมเชื่อม และ น้ำมะตูมค่ะ (ใครมาพักคืนวันเสาร์ ก็จะได้ set นี้ค่ะ ครั้งล่าสุดไปพักคืนวันอาทิตย์ มี cookie กับน้ำใบเตยค่ะ)



จากนั้นก็มาถึงเวลาสำคัญค่ะ “เป่าเค้ก” ค่ะ วันเกิดทั้งทีจะไม่มี cake ได้ยังไง ใช่มั้ยค่ะ


Alila เตรียม cake ไว้ให้ก่อนเรามาถึงค่ะ แม่บ้านเอาไปซ่อนไว้ในห้องของพ่อค่ะ



แม่ก็ไม่รู้ตัว เลยไปอาบน้ำเตรียมตัว จะเข้านอน พอแม่ปิดไฟนอน เราก็เอา cake เข้ามาค่ะ



แม่เขินใหญ่เลย ห้ามถ่ายรูปด้วยค่ะ บอกว่า ใส่ชุดนอนอยู่ไม่สวย

แต่เนื่องจากเราอิ่มกันมาก ไม่มีใครสามารถหม่ำ cake ได้ เราก็เลย แบ่งไปให้ แม่บ้าน กับน้องน้อง ที่ front ค่ะ

คืนนั้นหลับกันปุ๋ยเลยค่ะ ทั้งเหนื่อย ทั้งอิ่ม

ตอนเช้ามีหนุ่มน้อยมาเคาะห้องแต่เช้า หาเพื่อนไปเดินเล่นค่ะ









เจอเปลือกหยินหยาง ด้วยค่ะ



ดอกไม้ยามเช้า ที่ Alila ค่ะ



มีใครกำลังกินอาหารเช้าอยู่



ถึงเวลาอาหารเช้าของเราแล้วล่ะค่ะ

ขอเริ่มด้วย “ชา earl grey” ของโปรดค่ะ



ความจริงเค้าจัดเป็น buffet ให้นะคะ แต่ดันทะลึ่งไปสั่ง a la carte ค่ะ (chef ไม่ออกมาวีนใส่ก็บุญแล้วค่ะ เพราะ ในวันที่เค้าทำ line buffet chef จะยุ่งมากมาก จะไม่อยากให้สั่ง a la carte เท่าไหร่)

อาหารเช้าที่อยากหม่ำค่ะ “Egg Pacifica”



Zoom ใกล้ใกล้ นะคะ



จานนี้จะเป็น ไข่ดาวน้ำค่ะ เสริฟ์ มาบน ขนมปัง โฮลวีต และ salmon รมควัน และราดด้วยซอส ที่มีส่วนผสมของไข่แดง น้ำมะนาว เกลือ และ พริกไทยค่ะ หมดจานก็จุกพอดีเลยค่ะ

Buffet ที่นี่ เก๋ นะคะ มี ข้าวเหนียว หมูปิ้ง ด้วยค่ะ อร่อยค่ะ


หลังจากหม่ำ อาหารเช้ากันแล้ว ก็แอบแว่บไปงีบ แล้วก็มาแช่น้ำอุ่น ให้สบายตัว ก่อนกลับบ้านค่ะ

โปรแกรมของวันนี้ เราจะไปทานข้าวซอยหน้าวัง และ เที่ยวเพลินวานกันค่ะ
ข้าวซอยที่ร้าน “ข้าวซอยหน้าวัง” เข้มข้น อร่อยดีค่ะ อยากให้ไปชิมกันค่ะ

หลังจากอิ่มแล้วเราก็มากันที่ “เพลินวาน” ค่ะ



คนแน่นมากเลย พยายามหามุม ที่จะถ่ายรูป ให้รู้ว่ามาถึงแล้ว “เพลินวาน” แบบไม่ติดคนอ่ะค่ะ



รูปนี้ แค่บอกว่า “น้องนนท์ พี่อยากได้รูปเรากับป้ายนี้อ่ะ” น้องก็จัดให้แบบนี้ค่ะ



รูป post card สวยสวย จาก เพลินวาน ค่ะ



ปิดท้าย trip ด้วยรูป ครอบครัวล่ะกันนะคะ



ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมค่ะ




 

Create Date : 26 มกราคม 2553    
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2553 17:29:18 น.
Counter : 441 Pageviews.  

Fourth day of trip ธันวาพาแม่เที่ยวค่ะ – กลับบ้านแล้ว

วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วค่ะ ต้องกลับไปสู่ เมืองหลวง อันแสนวุ่นวายแล้ว
เหงอ เหงอ ไม่อยากกลับเลย

แต่ก็อ่ะนะ ไม่กลับ แล้วจะเอาอะไรกิน หล่ะ (อันนี้แม่บอก)

เนื่องจากเป็นวันสุดท้าย ก็เลย ตั้งใจตื่นเช้า มาเก็บภาพบรรยากาศยามเช้า ค่ะ ขอบอก ว่า หนาว มั่กมั่ก แต่ก็ สู้ โว้ย!!!!!!!!!!!!!!

นี่ค่ะ ภาพ บรรยากาศ ยามเช้า
หมอก ทั้งนั้น




ตอนหยิบกล้องออกมาก เลนส์ เป็นฝ้า เครียดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
รอตั้งนานกว่า ฝ้า จะหายไป











หลังจากกินข้าวเช้า เสร็จ เรา ก็ เก็บเสื้อผ้า ยัดใส่กระเป๋า เตรียมกลับบ้านค่ะ
โปรแกรมวันนี้ ไม่ค่อยมีอะไร มาก “Shopping” อย่างเดียว

วันนี้ดูแม่มีความสุขมากเป็นพิเศษเลย

เราออกจากที่พัก ก็ไปหุบเสือ
(ไม่มีรูปนะคะ เพราะกล้องแบตหมด โฮ โฮ)
ที่นี่เค้าให้เข้าไปถ่ายรูปกับเสือในกรงได้เลยนะคะ แต่เท่าที่ดูมีแต่ชาวต่างชาติค่ะ อาจด้วยราคาที่แพงลิบมั้งค่ะ

เรากับแม่ก็นั่งจิบกาแฟ ดูเสือ อยู่ตรงข้างข้างบริเวณที่เค้าเข้าไปถ่ายรูปกันค่ะ นั่งอยู่นานเกือบชั่วโมงเลยค่ะ เพลินดี ดูดูไปเสือก็น่ารักดีเหมือนกันค่ะ
เหมือนน้องหมาเลย ( แอบคิดถึง super doggies and mad max ที่ กทม.จัง)

เป้าหมายแรกของภารกิจ Shopping คือ ซื้อ strawberry ค่ะ
ขอแนะนำว่าถ้าใครไปแม่ริม ซื้อตรงทางก่อนจะออกถนนหลวงค่ะ เท่าที่ benchmark ที่นี่ ถูกและดี ค่ะ เจ้าของสวนมาขายกันเองเลย

หลังจากได้ strawberry ทั้ง สด และ แปรรูป เราก็มุ่งหน้าสู่ “กาดสล่า” ค่ะ
คุณสารถีแนะนำว่าที่นี่ ราคาของถูกกว่า “บ้านถวาย” ค่ะ furniture สวยสวยมากมาย (แต่กล้องดันแบต หมด ฮึ่ม ฮึ่ม แอบเซ็ง) แต่ก็ไม่ได้อะไรกลับไปค่ะ เพราะ ซื้อไปก็ไม่รู้จะวางที่ไหน เพราะคอนโดน้อยของเรา มีที่จำกัดค่ะ มีบ้านหลังโต เมื่อไหร่ กลับมาแน่นอน !!!

Next station “บ้านถวาย” ค่ะ แอบผิดหวังเล็กน้อยค่ะ มาช้า เค้าเลยปิดร้านกันหมดแล้ว แต่ก็ได้กำไลไม้แบบเก๋เก๋ มา 4 อันค่ะ 100 บาท เท่านั้น ถูกกว่า กรุงเทพ เห็นเห็น (แต่ดันไปเจอที่ถนนคนเดิน 15 บาทเท่านั้น เซ็งเป็ด เลยซื้อมาเพิ่มอีก ซื้อถัวค่ะ ยังกะซื้อหุ้น)

จากนั้นไปหาซื้อ “อาหารเหนือ” ไปเป็นของฝากกันที่ “กาดต้นพะยอม” ชิมกันจนอิ่มเลยค่ะ ที่มาที่นี่ เพราะไม่อยากไปเบียดกับผู้คนที่ “ตลาดวโรรส” ของอร่อยเค้าก็เยอะนะคะ ได้มากล่องเบ้อเริ่ม แอบกังวลตอน load ขึ้นเครื่อง

ปิดท้าย ภารกิจ “Shopping” ที่ถนนคนเดินวันอาทิตย์ค่ะ ทุกที มาได้เดินแต่ถนนคนเดินวัวลายในวันเสาร์ ไปตั้งแต่เค้าตั้งร้านยังไม่เสร็จค่ะ สนุกสนานค่ะ เดินกันจนขาลากเลย เดินยังไม่ทั่วเลย ก็ต้องรีบเผ่นไปสนามบินแล้ว แหมขัดใจจริงจริงค่ะ ก็จบแล้วค่ะ สำหรับ trip ธันวาพาแม่เที่ยว ขอขอบคุณที่ติดตามชมนะคะ

สำหรับ blog ลำดับถัดไป ขอไปขุดกรุ trip ในปี 2009 ก่อนนะคะ แล้วจะเลือกมา upให้ชมค่ะ





 

Create Date : 22 มกราคม 2553    
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2553 17:30:11 น.
Counter : 304 Pageviews.  

1  2  

Moo Yis
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เรียบร้อย ใจเย็น เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อ ไม่วีน ไม่เหวี่ยง ที่กล่าวมาตรงข้ามหมด
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Moo Yis's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.