โฟล์คเหน่อ เล่นดนตรี เขียนกวี วิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำสุพรรณฯ

Group Blog
 
All blogs
 

:::จากไปอย่างเงียบงัน::::

:::จากไปอย่างเงียบงัน::::

วิถีชีวิต ที่มีวงโคจร ของบางขณะการเคลื่อนหมุน อาจนำพาให้เราไปพบกันโดยบังเอิญได้หลาย ๆ ครั้ง และเพียงขณะวูบเคลื่อนผ่านไป จากคนที่เคยได้พบหลาย ๆ ครั้ง ก็จากพรากไปอย่างเงียบงัน อย่าว่าแต่คำร่ำลา ลางบอกเหตุ หรือข่าวคราวบอกจากญาติพี่น้องเพื่อให้ได้ไปร่วมงานเผาส่งร่างไร้วิญญาณเลย ความเงียบงันนั้น บางทีก็เงียบงันเสียจนขณะที่เรายังคิดว่าเขายังโลดแล่นบนวิถีแห่งชีวิตอยู่ ร่างของเขาได้ไหม้สลายกลายเป็นหมอกควันไปกับอากาศท้องฟ้าเสียเนิ่นนานแล้ว....

กลางปี 2542

ผมก้าวลงจากรถเมล์ เดินเข้าสู่หมู่บ้านแกรนด์วิลเลจ ซอยลาดพร้าว 81/1 จุดหมายคือ 499 สตูดิโอ ของอาจารย์พฤกษ์ พักตรใส

ก่อนหน้านี้ 1 อาทิตย์ ผมมาที่นี่ครั้งหนึ่งแล้ว พร้อม ๆ กับคุยข้อตกลงเรื่องกำหนดเวลาและราคาค่าบริการการใช้ห้องอัด และโปรดิวซ์เพลง หลังบรรลุข้อตกลง ผมจึงต้องกลับมาที่นี่อีกครั้งหนึ่งพร้อมกับเดโมเพลง ที่อัดใส่เทปคลาสเส็ต มาส่งให้อาจารย์เพื่อเริ่มต้นเข้าขบวนการไปสู่แผ่นมาสเตอร์

ก่อนบ่ายสองโมง ผมผลักบานประตูบ้านเลขที่ 499 เข้าไป สู่ห้องเล็ก ๆ ที่ใช้บริเวณมุมหนึ่งของชั้นล่างของบ้านดัดแปลงเป็นห้องอัดเล็ก ๆ

ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป นอกจากอาจารย์พฤกษ์ ผมได้พบกับผู้ชายร่างผอมเกร็ง หน้าตาคุ้น ๆ นั่งอยู่บนโซฟาริมห้อง

“ลำภานี่ พี่อ๋า รู้จักกันไว้” อาจารย์พฤกษ์ แนะนำ

“พี่โอภาส ฟ้าคุ้มครอง ใช่มั๊ยครับ” ผมยกมือไหว้ พร้อมกับถามออกไป แต่ในใจนั้นรู้แน่นอนว่านี่คือ พี่โอภาส ศิลปินนักร้องเงาเสียงแอ๊ด คาราบาว ที่เคยเห็นบนปกเทปและในทีวี เมื่อหลายปีก่อน

“ครับ เอ้านั่งก่อน” พี่โอภาสตอบรับเสียงดัง แล้วเชิญให้ผมนั่งที่โซฟา

พี่อ๋า หรือพี่โอภาส ในความรุ้สึกครั้งแรกทีได้สัมผัส คือแกเป็นคนที่พูดค่อนข้างเสียงดัง จนดูคล้ายคนโวยวาย รอยยิ้มใต้เรียวหนวดงาม ทำให้รุ้สึกถึงความจริงใจ และความรู้สึกยามคบหากันต่อมา สัมผัสได้ถึงความเป็นคนที่สู้ชีวิต และค่อนข้างจริงจังกับงาน โดยเฉพาะงานเพลง

หลังจากเจอกันวันนั้น ผมก็ได้ร่วมทำงานกับพี่อ๋า ในฐานะคนเขียนเพลงซึ่งยังขาดอีก 6 เพลงในอัลบั้มชุดใหม่

พี่อ๋าลงทุนขี่มอเตอร์ไซด์ จากกรุงเทพไปหาผมที่สุพรรณฯ ทุกอาทิตย์ เพื่อติดตามความคืบหน้า เรื่องงานเขียนเพลง พี่อ๋าค่อนข้างตั้งความหวังไว้กับงานชุดนี้พอสมควร เพราะแกตั้งใจจะทำมาสเตอร์เพื่อเสนอค่ายเพลง

มาสเตอร์เพลงของผมเสร็จก่อนพี่อ๋า หนึ่งเดือน ขณะที่ผมยืนยันที่จะขายแบบใต้ดินแถวสุพรรณ พี่อ๋าก็นำมาสเตอร์เพลงที่เสร็จหลังจากของผมไปเสนอค่ายเพลง ด้วยวิธีคิด วิธีขาย ที่ไม่เหมือนกัน

สุดท้าย เพลงชุดใหม่ของพี่อ๋าก็ได้เข้าในสังกัดของค่ายรถไฟดนตรี ใช้ชื่อชุดอัลบั้ม ว่า “ปัญหากวนใจ” โดยมีเพลงที่ผมแต่งให้รวมอยู่ 6 เพลง

ผมได้เงินค่าแต่งเพลง มาต่อยอดเป็นต้นทุนปั๊มเทป ปั๊มแผ่น และค่าน้ำมันรถเดินทางตระเวนขายตามตลาดนัดเปิดท้าย

ส่วนพี่อ๋า ง่วนอยู่กับงานโปรโมทโฆษณาอัลบั้ม และคอนเสิร์ตกับค่ายรถไฟดนตรี

ต่างคนต่างทำหน้าที่ในแบบฉบับของตัวเอง และไม่ค่อยเจอกัน เพียงแต่ได้พูดคุยไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันทางโทรศํพท์เท่านั้น

ผ่านพ้นหลังจากนั้นมาประมาณ 2 ปี วงโคจรชีวิต ของผมกับพี่อ๋าก็หมุนวนมาชนกันอีกครั้ง กลางตลาดนัดเปิดท้าย

แต่การพบกันครั้งนี้เราต่างพบกันในฐานะนักขาย ที่ใช้เวทีเดียวกัน แต่ต่างกันที่สินค้า

ผมเล่นดนตรีเปิดหมวกเพื่อขายเทป และซีดีของผมเอง ส่วนพี่อ๋ามาในฐานะของพ่อค้าขายโทรศัพท์มือถือ มือสอง

“ขายเทป ไม่รวย ขายโทรศัพท์มือถือดีกว่า” พี่อ๋าว่าอย่างนั้น

การตระเวนไปตามตลาดนัดเปิดท้าย แถบจังหวัดภาคกลาง มีบางวัน บางตลาด เท่านั้นที่ผมได้มีโอกาสพบกับพี่อ๋า แต่เวลาที่จะพูดคุยกันนั้น ค่อนข้างน้อย เพราะต่างคนต่างมีหน้าที่นำเสนอสินค้าของตนเอง

1 ปีต่อมา พี่อ๋าก็ควบมอเตอร์ไซด์คันเดิม มาหาผมที่สุพรรณอีกครั้ง พร้อม ๆ กับคอนเสป งานเพลงชุดใหม่ เพื่อให้ผมลงมือเขียนทั้งอัลบั้ม

“ขายโทรศัพท์เจ๊ง ร้องเพลงดีกว่า” พี่อ๋าว่าอย่างนั้น

ผมเขียนเพลงให้พี่อ๋า 8 เพลง ในอัลบั้มชุดใหม่

ขณะพี่อ๋า เข้าทำงานเพลงในห้องอัด ผมก็ยังคงตะเวณไปตามตลาดนัดเล่นดนตรีเปิดหมวกเหมือนเดิม

จนวันหนึ่งพี่อ๋า นำเอาเพลงที่ทำเสร็จไปกว่า 70 % มาให้ผมฟัง เพื่อร่วมกันแก้ไขส่วนที่บกพร่อง พร้อม ๆ กับคำเปรย ๆ จากพี่อ๋าว่า “ไม่ค่อยสบาย”

หลังจากวันนั้นพี่อ๋ากับผมขาดการติดต่อโทรเข้ามือถือสัณญาณก็ถูกตัด แต่ผมเข้าใจว่าพี่อ๋ายังคงยุ่งอยู่กับงานในห้องอัด คิดอยู่ในใจว่าเอาไว้ไปแสดงความยินดีวันเปิดอัลบั้มชุดใหม่กันทีเดียวก็แล้วกัน

เมื่อเห็นเนิ่นนานจนผิดสังเกต โทรเข้ามือถือก็ไม่ติด อัลบั้มชุดใหม่ทางทีวีก็ไม่มีวี่แววข่าวคราวให้เห็น ผมจึงตัดสินใจค้นหาแผ่นกระดาษแผ่นหนึ่ง ซึ่งเป็นใบเสร็จของร้านค้าของเตี่ยพี่อ๋า ผมจำได้ว่าใบเสร็จใบนั้นพี่อ๋าใช้ด้านหลังเขียนคอนเสป ของเพลงเพลงหนึ่งมาให้ผมแต่ง

ทันทีที่ผมพบใบเสร็จผมจึงรีบโทรเข้าเบอร์ร้านที่อยู่บนใบเสร็จนั้นทันที

“ไอ้อ๋า มันตายไปแล้ว” เสียงจากปลายสายโทรศัพท์ตอบกลับมาทันที หลังผมจบถ้อยขอสายพูดกับพี่อ๋า

“พี่อ๋า ตายแล้ว” ผมทวนคำ.....

.... การจากไปอย่างเงียบงันนั้น บางทีก็เงียบงันเสียจนขณะที่เรายังคิดว่าเขายังโลดแล่นใบชีวิตอยู่ ร่างของเขาได้ไหม้สลายกลายเป็นหมอกควันไปกับอากาศท้องฟ้าเสียเนิ่นนานแล้ว....

::::สู่สุขคติ เถิด พี่ชายที่ได้รู้จักบนวูบผ่านการเคลื่อนโคจรของโลกและจักรวาล:::

:::::เพลงเมืองไทยระทม:::

ขับร้อง ::: โอภาส ฟ้าคุ้มครอง

คำร้อง ทำนอง ลำภา มัคศรีพงษ์ (ศิลปินโฟล์คเหน่อ)




 

Create Date : 17 มกราคม 2551    
Last Update : 17 มกราคม 2551 5:34:49 น.
Counter : 579 Pageviews.  

:::ความแตกต่างที่รู้สึกได้:::

:::ความแตกต่างที่รู้สึกได้:::

ช่วงสาย ๆ ของวันที่ 6 มกราฯ

เสียงลมหนาวพัดกระพือใบโพธิ์ ที่ต้นกำลังโผล่พ้นรั้วกำแพงหลังบ้านเช่า คาดว่าจะเป็นต้นโพธิ์ ที่เกิดจากขี้นกตัวใดตัวหนึ่งซึ่งมาถ่ายทิ้งไว้เมื่อ 2 ปีก่อน

เสียงแว่วเพลงลูกทุ่งจากลำโพงเครื่องขยายเสียงดังมาทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน คงเป็นบริเวณหน้าศาลพระภูมิ และศาลเจ้าที่ประจำหมู่บ้าน ซึ่งทราบกำหนดการล่วงหน้ามาก่อนแล้ว ว่าวันนี้คืองานทำบุญปีใหม่ของหมู่บ้าน ซึ่งก็จะจัดกันเป็นประจำทุกปี

ผมงัวเงียเผยตัวออกจากผ้าห่มแล้วลุกนั่ง ร่างกายยังคงอยู่ในสภาพที่อ่อนเพลียมาก ๆ

เมื่อคืนนี้ผมหลับอยู่ที่หน้าจอทีวีกลางบ้าน เปิดทีวีทิ้งไว้โดยไม่ได้ตั้งเวลาปิด ขณะหลับ ๆ ตื่น ๆ ยังแว่วเสียงทีวีดังอยู่ตลอด แต่ผมขี้เกียจเอามาก ๆ ขี้เกียจที่จะลุกเอื้อมมือไปปิดทีวี ขี้เกียจที่จะย้ายตัวเองกลับเข้าไปนอนในห้องนอน ทั้ง ๆ ที่อากาศกลางบ้านหนาวจนต้องขมวดตัว

ผมเป็นอะไรไม่รู้ ตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา ผมรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความขี้เกียจของตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนตลอดปีที่ผ่าน

จะว่าเป็นไข้ก็ไม่ใช่ จะว่าสบายดีก็ไม่เชิง

แต่สภาพตั้งแต่วันต้นปี ผมรู้สึกว่าผมจะนอนมากผิดปกติ ผมผล็อยหลับก่อนสามทุ่มทุกคืนหลังกลับจากเล่นดนตรีที่ร้านประจำ และมาตื่นเกือบห้าโมงเช้า ของอีกวัน และหลังอาหารเที่ยง ช่วงบ่ายสามถึงหกโมงผมก็ผล็อยหลับคาหนังสือที่อ่านค้างอีก เป็นเช่นนี้มา 4 -5 วันแล้ว

อากาศเปลี่ยนแปลง ร่างกายคงกำลังปรับตัว ผมอ้างเอากับตัวเองเช่นนั้น

ยังไม่ทันได้เข้าห้องน้ำ พลันสายตาก็เหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นหญิงวัยกลางคนสภาพมอมแมม ครอบหมวกไอ้โม่งอยู่บนหัว กำลังนั่งเปิบข้าวด้วยมืออยู่ที่ประตูรั้วหน้าบ้าน อย่างรีบรน ข้าง ๆ ตัวมีกระสอบปุ๋ยบรรจุของอยู่ใบหนึ่ง เข้าใจว่าเป็นคนเก็บขยะขาย

เป็นปกติอยู่แล้ว สำหรับถังขยะอบต. ลูกสีเหลืองที่ตั้งเยื้องกับหน้าประตูบ้านผม ในแต่ละวันจะต้องมีคนเก็บขยะ อย่างน้อยสุดก็ 4 -5 คน ที่จะต้องแวะเวียนมารื้อค้น แบบทิ้งช่วงห่างไม่เกิน 4 ชั่วโมง ต่อครั้ง

ขวด และกระดาษคือขยะที่มีราคา

ผมคว้ากล้องถ่ายรูป Fuji FinePix S5600 กดชัตเตอร์แอบถ่ายผ่านมุ้งลวดหน้าต่าง 3 ครั้ง ใจจริงอยากเปิดประตูบ้านออกไปขอถ่าย แต่เกรงใจกลัวแกจะเขิน

หลังถ่ายรูป ผมเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำ แล้วเปิดประตูจะเดินกะจะเอาน้ำไปให้แก แกรีบวางห่อข้าว ผลุดลุกทันทีที่ได้ยินเสียงประตูเปิด แล้วเดินหนีไปค้นถังหาขยะ โดยไม่สนใจผม ขณะที่ถุงข้าวผัดและกระสอบปุ่ยยังคงวางไว้ที่หน้าประตูรั้วบ้าน

ผมเองก็รู้สึกเก้อ จึงรีบเดินเอาขวดน้ำกลับมาวางไว้ในบ้าน

“เอาขวดกับกระดาษ มั๊ยป้า” ผมเดินออกไปถาม เมื่อแกย้อนกลับมาเก็บถุงข้าว และกระสอบปุ๋ย

“เอาจ๊ะ” แกผงกหัวรับ แล้วยิ้มเห็นฟันหลอ สังเกตุดวงตาของแก ดูจะเหล่ ๆ นิดนึง ใบหน้าใต้หมวกไอ้โม่งสีน้ำเงินดูหยาบกร้าน และเหี่ยวย่น คะเนอายุน่าจะเกิน 50 ปี

ผมกลับเข้าบ้านอีกครั้ง หอบหนังสือพิมพ์รายวันที่วางซ้อนกันอยู่ ออกไปให้แก แกเอื้อมมือมารับหอบหนังสือพิมพ์ แล้วยัดลงถุงปุ่ยของแก พร้อมกับคำขอบคุณ

“มีขวดน้ำด้วยนะป้า” ผมรีบย้อนกลับมาคว้าขวดน้ำที่เพิ่งวางไว้เมื่อสักครู่

“ยังเย็นอยู่เลย” แกว่า หลังรับขวดน้ำไปจากผม

“เห็นป้ากินข้าว ไม่มีน้ำ” ผมบอกอย่างเขิน ๆ เหมือนสารภาพผิด ว่าได้แอบดูและถ่ายรูปตอนแกกินข้าวอยู่ในบ้าน

“ขอบคุณมากค่ะ สวัสดีปีใหม่ค่ะ” ว่าเสร็จแกก็ยิ้มกว้างเห็นฟันหลอชัดเจน ก่อนจะถือขวดน้ำ และแบกถุงปุ่ยเดินจากไป

ผมยิ้มให้แก แล้วเดินกลับเข้าบ้านเช่นกัน

“สวัสดีปีใหม่” ใช่ตลอดต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้ยินแต่คำว่า สวัสดีปีใหม่ สวัสดีปีใหม่ จากพรรคพวกเพื่อนฝูงคนรุ้จัก แต่ก็รู้สึกเฉย ๆ เหมือนคำทักทายที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ

แต่ทำไมคำทักทาย สวัสดีปีใหม่ พร้อมรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนเก็บขยะ คนซึ่งเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จึงทำให้ผมรู้สึกถึงความแตกต่างได้นะ

จริง ๆ ผมรู้สึกถึงความแตกต่างที่ได้รับ จากคำว่า “สวัสดีปีใหม่” ของป้าแกจริง ๆ นะ




 

Create Date : 09 มกราคม 2551    
Last Update : 9 มกราคม 2551 1:27:50 น.
Counter : 384 Pageviews.  

::: Clip Vedio เพลง แผ่นดินร้องไห้ (รำลึกครบรอบ 3 ปี คลื่นยักษ์สึนามิ):::




" คลิก play เพื่อเริ่มดู clip เพลงแผ่นดินร้องไห้"

เพลง แผ่นดินร้องไห้
คำร้อง ทำนอง ขับร้อง ศิลปินโฟล์คเหน่อ

:::แผ่นดินร้องไห้:::

:::ทะเลใต้ไต่โตขึ้นเท่าตึก:::

:::ครึกครึกครืนครืนเป็นคลื่นคลี่:::

:::เพียงชั่ววิบพริบตาวินาที:::

:::ทุก ๆ สิ่งที่เคยมีก็มลาย ฯ:::

**************************

หาดทรายขาวขาวมีเรื่องราวให้เล่าขาน

ที่ปลายด้ามขวานมีตำนานให้เล่าสู่

เรื่องราวขมขื่นคลื่นน้ำไต่ขึ้นภู

ต้นมะพร้าวยืนดูรู้เห็นเป็นพยาน

แผ่นดินร้องไห้หาดทรายก็เศร้าหมอง

ซากศพก่ายกองเกลื่อนเศร้าเห็นเป็นสุสาน

ตึกใหญ่พังภิณฑ์ได้ยินเสียงวิญญาณ

ร้องไห้โหยผ่านที่ด้านฝั่งทะเล

ทะเลใจร้ายโหมทำลายหาดทรายสิ้นสูญ

แผ่นดินอาดูรเกินจะทำใจได้

เสียงโหยหาผู้พลัดพรากจากกันไป

แผ่นดินร้องไห้ หัวใจคนร้องหา

ลำภา มัคศรีพงษ์

รำลึกครบรอบ 3 ปี เหตุภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ

เพลงแผ่นดินร้องไห้

คำร้อง ทำนอง ขับร้อง ศิลปินโฟล์คเหน่อ

ภาพ จากอินเตอร์เนต




 

Create Date : 26 ธันวาคม 2550    
Last Update : 26 ธันวาคม 2550 5:20:25 น.
Counter : 533 Pageviews.  

:::สมอง..มือ...คือสิทธิ์ร่วมคิดสร้าง:::

::::สมอง..มือ...คือสิทธิ์ร่วมคิดสร้าง:::

สมองมือคือสิทธิ์ร่วมคิดสร้าง

มืออาจรื้อลบล้างหรือสร้างสรรค์

มืออาจจุดกองไฟไหม้โรมรัน

หรือไฟนั้นดับด้วยแรงแห่งมือเรา

ศักราชของชาติในบางช่วง

เสียงของปวงประชาชนจะท้นเท่า

เพื่อไล่โรมโถมทับดับดำเงา

แล้วทวงเอาสิ่งหายลับให้กลับมา

ศักราชของชาติช่วงที่ผ่าน

ฟ้าได้เผยหมู่มารคนผลาญพร่า

คนโกงกินแผ่นดินหมิ่นราชา

คนที่กล้าท้าทายหมายแผ่นดิน

ณ. วันนี้คือช่วงต่อรอส่งผ่าน

เถิดสายธารประชาชนท้นทุกถิ่น

สมองมือคือสิทธิ์สร้างล้างมลทิล

ล้างพวกชนกังฉินให้สิ้นไป ฯ

สมองมือคือสิทธิ์ร่วมคิดสร้าง

เสียงท่านคือแสงสว่างเพื่อทางใหม่

เถิดเสียงที่บริสุทธิ์จุดเทียนใจ

สมองมือคือสิทธิ์ใช้เถิดใจเรา

ลำภา มัคศรีพงษ์

:::23 ธันวา ...เชิญคนไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง:::

:::::เพลงเมืองไทยระทม:::

ขับร้อง ::: โอภาส ฟ้าคุ้มครอง

คำร้อง ทำนอง ลำภา มัคศรีพงษ์ (ศิลปินโฟล์คเหน่อ)




 

Create Date : 23 ธันวาคม 2550    
Last Update : 23 ธันวาคม 2550 8:46:55 น.
Counter : 465 Pageviews.  

::คิดถึง:::




" คลิก play เพื่อเริ่มดู clip "

เพลงคนจรฝากใจ
ศิลปินโฟล์คเหน่อ

:::คิดถึง:::

ห้วงคำนึง ความคิดถึง ซึ่งไถ่ถาม

เมื่อใดหนอ เจ้าโมงยาม แห่งความยุ่ง

เมื่อใดหนอ ขบวนงาน อันนังนุง

เมื่อใดหนอ รอวันพรุ่ง เป็นของเรา

แต่ละวัน ดั้นด้น แต่เดินทาง

อยู่ท่ามกลางโยงใย เงื่อนไขเขา

สร้างนิยาม เพื่อดำรง บงการเรา

ให้ค่ำเช้า เราล้วนยุ่ง มุ่งแต่งาน

จึงมิอาจ เขียนแปลน แผนเวลา

ในวงเข็ม นาฬิกา เวลาของท่าน

ทุกชั่วโมง ทั้งหมด กำหนดการ

ด้วยเวลา แห่งงาน เหมือนงกเงิน

เริ่มจากชอบ เราจึงมอบ ความชอบทั้งหมด

เวลาหนึ่ง จึงกำหนด เราแต่เนิ่น

พอชักธง ชิงชัย ไปเผชิญ

จึงต้องเดิน บั่นบุก ทุกเวลา

เมื่อเวลา ของเรา เขากำหนด

เราจึงหมด เงื่อนไข ไม่กังขา

ภารกิจ อีกนิดหน่อย คอยเวลา

จะกลับมา เขียนถ้อยคำ ประจำการฯ

:::::ช่วงนี้งานยุ่ง คิดถึง เพื่อน ๆ ชาวบล็อกทุกท่านคร๊าบบบบ:::::




 

Create Date : 17 ธันวาคม 2550    
Last Update : 17 ธันวาคม 2550 1:40:31 น.
Counter : 414 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  

โฟล์คเหน่อ
Location :
สุพรรณบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผลงานโฟล์คเหน่อ

สี่สิบสอง นักเขียน คนบ้า กวีหน้าราม กีตาร์โปร่ง
Friends' blogs
[Add โฟล์คเหน่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.