สวัสดีคะ ยินดีต้อนรับเพื่อนๆทุกท่านคะ
ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมบล็อก ขอให้ทุกท่านเพลิดเพลินในบล็อกนี้และหวังว่าคุณจะมีรอยยิ้มหลังออกจากบล็อกนี้นะคะ
ร้อนแดด ที่แผดเผา!

โทษประการหนึ่งของแสงแดดแรงๆ คือเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง จากสาเหตุอันตรายสะสมจากแสงแดด หรือการได้รับแสงอัลตราไวโอเลตมากเกินไป

"คุณพ่อคุณแม่...ปิดเทอมใหญ่เราจะไปเที่ยวไหนดี"
เจ้าตัวเล็กและเจ้าตัวโตประสานเสียงถามกันเซ็งแซ่ ทั้งๆ ที่สอบปลายเทอมยังไม่เสร็จ พอได้ยินประโยค "เที่ยวปิดเทอมใหญ่" ก็ให้คิดถึงบรรยากาศ Summer holiday ของปีก่อน ที่เห็นเด็กๆ สนุกสนานกับการขี่จักรยาน เล่นน้ำทะเล เล่นทราย และวิ่งเล่นที่ชายหาด...
ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้ ทำในเวลาเที่ยงที่แดดกำลังเปรี้ยงๆ จริงอยู่ประโยชน์ของแสงแดดที่มีต่อร่างกายนั้นไม่ใช่น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามิน D (สร้างเสริมกระดูก
ให้แข็งแรง) ช่วยการไหลเวียนของโลหิต (ทำให้ผิวหนังหนาและตึงขึ้น) ทนร้อนทนหนาวได้ดีขึ้น และสีผิวไม่ขาวซีด เด็กๆ ที่ได้ออกแดด หรือเล่นกลางแจ้งเสมอ จึงมักแข็งแรง แจ่มใส และเติบโตดีกว่าเด็กๆ ที่เอาแต่เก็บตัวอยู่ในบ้าน หรืออยู่แต่ในห้องแอร์
ผิวไหม้แดด
แต่คำว่า "ออกแดด" หรือ "เล่นกลางแจ้ง" นั้น ย่อมไม่ได้หมายถึงตอนเที่ยงๆ หรือบ่ายๆ ที่ร้อนเปรี้ยง และแผดเผาไปด้วยไอแดด ซึ่งนั่นก็หมายถึง ควรหลีกเลี่ยงการถูกแดดในเวลา 10 โมงเช้าถึงบ่าย 3 หรือถ้าจะให้ดีในฤดูร้อน (ราวๆ เมษายน-พฤษภาคม) หรือในวันที่แดดจัดๆ ก็ควรเพิ่มเวลาหลบแดดไปถึง 4-5 โมงเย็น
อันตรายจากแดดจ้า-อากาศร้อน มีอยู่หลายประการครับ ข้อแรกที่เห็นชัดๆ ก็คือผิวไหม้ โดยเฉพาะเด็กๆ ยิ่งน่าเป็นห่วง เพราะผิวพรรณของพวกเขายังอ่อนเยาว์ บอบบาง และไวต่อแสงแดดมาก ถูกแดดเผาง่ายกว่าผู้ใหญ่ ในขณะเดียวกันเด็กๆ กลับชอบเล่นกลางแจ้งมากที่สุด ต่อให้แดดแยงตา ร้อนหัว หรือจะแสบผิวยังไงก็ไม่สน ขอให้พวกฉันได้ลุย ได้เล่น ตั้งแต่เที่ยงยันเย็น จนถึงเวลาหิวข้าวนั่นแหละ จึงค่อยเคลื่อนทัพกลับมาหาคุณพ่อคุณแม่
คุณพ่อคุณแม่หลายท่าน จึงกลุ้มอกกลุ้มใจ ต้องพาลูกไปหาคุณหมอในวันรุ่งขึ้น เพราะลูกเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัว แถมตัวลอก หน้าลอก มีแผลพุพอง คุณหมอจึงต้องเฉลยให้ฟังว่า...นี่แหละที่เขาเรียกกันว่า อาการ "ผิวไหม้แดด" ซึ่งมักจะเกิดกับเด็กเสมอในช่วง Summer holiday โดยเฉพาะกลุ่มที่ไปเที่ยวชายทะเลในวันฟ้าครามสดใส...แสงแดดแรงๆ จะสะท้อนไปทั่วทั้งผืนทราย ผืนน้ำ โดนกันถ้วนหน้า ทั้งที่กำลังก่อปราสาททราย เก็บเปลือกหอย เล่นบอล เล่นน้ำทะเล แม้กระทั่งบรรดานักประดาน้ำก็เสี่ยงต่อการเกิดอาการ "ผิวไหม้แดด" อย่างเลี่ยงไม่พ้น
โทษอีกประการหนึ่งเกี่ยวกับแสงแดดแรงๆ คือ ความเสี่ยงต่อ "โรคมะเร็งผิวหนัง" ที่มักมีสาเหตุมาจาก...อันตรายสะสมที่เกิดจากแสงแดด หรือได้รับแสงอัลตราไวโอเลตมากเกินไป
จึงมีข้อแนะนำดังนี้ครับ...

1. หลีกเลี่ยงการออกแดด ในช่วงเวลาที่กล่าวไว้ข้างต้น

2. เด็กทารก (0-6 เดือน) หากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ควร "หลบแดด" ไว้ก่อน เนื่องจากผิวของเด็กๆ มีความต้านทานต่อแดดได้น้อยกว่าผู้ใหญ่ ยิ่งผิวอันอ่อนนุ่มของเด็กทารกก็ยิ่งต้านทานแดดได้น้อยกว่า และแพ้แดดได้ง่ายกว่า

3. เด็กเล็ก (ไม่เกิน 2 ขวบ) เมื่อออกไปกลางแจ้งควรสวมหมวก และใส่เสื้อผ้าให้รัดกุม

4. หากเด็กๆ จะต้องลุยแดดกันนาน เช่น เล่นน้ำทะเล แม้ในยามแดดอ่อนก็ควรทาครีมกันแดด โดยเลือกครีมแบบป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต ชนิดมีค่ากันแดด (Sun Protection Factor) ตั้งแต่ SPF15 ขึ้นไป ให้ทาทั่วตัว รวมทั้งใบหน้า จมูก หู มือ เท้า และหากจะว่ายน้ำก็ให้เลือกแบบกันน้ำได้ครับ โดยดูจากข้างกล่องเขาจะเขียนว่า water proof หรือ water resistant

5. หากเด็กเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนจาก "ผิวไหม้แดด" ให้ประคบด้วยผ้าชุบน้ำ และให้ทานยาแก้ปวดสำหรับเด็กตามความจำเป็น
เพลียแดด ตะคริวแดด ลมแดด ความร้อนสูงเกินขนาด
นอกจากผิวหนังไหม้จากแสงแดดแล้ว ความร้อนยังส่งผลเสียต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันอบอ้าว ไม่มีลม และเด็กเล่นตากแดดบนชายหาดโดยไม่ได้ลงน้ำทะเล ซึ่งปกติร่างกายเราจะมีอุณหภูมิภายในอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส เมื่ออุณหภูมิภายนอกเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิภายในร่างกายจะเปลี่ยนแปลงขึ้นลงไม่เกิน 0.6 องศาเซลเซียส
ความร้อนถูกสร้างภายในร่างกายตลอดเวลา แต่ร่างกายมีกลไกที่จะรักษาสมดุลความร้อน โดยมีการระบายความร้อนที่เกิดขึ้นออกสู่สิ่งแวดล้อม โดยการแผ่รังสี การนำความร้อนเมื่ออุณหภูมิภายนอกเย็นกว่า การพาความร้อนโดยผ่านกระแสลม และการระเหยของเหงื่อ
ดังนั้นในวันที่อากาศร้อนกว่าอุณหภูมิปกติของร่างกาย ไม่มีกระแสลม และมีความชื้นสูง ทำให้ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ จึงส่งผลให้เกิดกลุ่มอาการจากความร้อนได้ นับตั้งแต่อาการ

- เพลียแดด (heat exhausted) คือ อาการอ่อนเพลียมากจากความร้อน
- ตะคริวแดด (heat cramp)
- ลมแดด (heat syncope)
- และความร้อนสูงรุนแรง (heat stroke) ซึ่งอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้
ก็อย่างที่รู้ๆ กัน เด็กๆ นั้น ยามที่เขากำลังสนุกสุขสำราญใจ เขามักจะไม่ใส่ใจหรอกว่าขณะนั้นแดดกำลังร้อนระอุสักแค่ไหน ยิ่งผู้ใหญ่กำลังนั่งโจ้ข้าวปลาอาหารมื้อเที่ยงกันอย่างเอร็ดอร่อย หรือเผลอหลับคร้อก...กกฟี้ กว่าจะรู้...ลูกๆ ของเราโดน "แดด" เล่นงานซะแล้ว...
เพลียแดด ตะคริวแดด ลมแดด
วิธีแก้ไขมีดังนี้ครับ

1. รีบคลายความร้อนโดยนำเด็กเข้าที่ร่ม ที่อากาศโปร่ง ลมพัดดี แล้วคลายเสื้อผ้าให้หลวม ให้นอนราบ โดยยกเท้าสูงขึ้นเล็กน้อย

2. ให้ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ หรือน้ำผสมเกลือแร่ นำผ้าเย็นเช็ดแขนขา ลำตัว และชุบหมาดๆ วางที่หน้าผาก

3. เด็กอยู่ท่ามกลางแดดนานๆ จนเสียแรง เสียเหงื่อมาก ก็มีโอกาสจะเกิดตะคริวได้ จึงต้องพึงระวังไว้ให้ดี หากเกิดขึ้นก็มีวิธีแก้ไข โดยพาเด็กกลับเข้ามาในร่มเพื่อหลบแดด และให้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ นอนราบ ดื่มน้ำอุ่น น้ำผสมเกลือแร่ โดยให้จิบอยู่เรื่อยๆ สักครู่กล้ามเนื้อก็จะคลายตัว
ความร้อนสูงเกินขนาด
หากเด็กอยู่ท่ามกลางแสงแดดจัด หรือโดนความร้อนเป็นเวลานาน มีอาการ ปวดหัว ตัวร้อนจี๋ และมีไข้สูง (อุณหภูมิในร่างกายขึ้นไปถึง 41-42 องศาเซลเซียส) แต่เหงื่อไม่ออก เด็กจะซึม หน้าแดง ตัวแดง ผิวแห้ง และเป็นลมหมดสติ (ในขณะที่การเป็นลมทั่วๆ ไปนั้นหน้าจะซีด) นั่นคือ เด็กกำลังมีอาการความร้อนสูงเกินขนาด
ร่างกายคนเราจะควบคุมอุณหภูมิภายในร่างกายไว้ที่ประมาณที่ 37 องศาเซลเซียส ด้วยกลไกดังกล่าวแล้ว กลไกเหล่านี้ของร่างกายจะมีขีดจำกัดในการต่อสู้ เมื่อหนาวมากเกินไป หรือร้อนมากเกินไป กลไกการควบคุมความร้อนของร่างกายก็เสียหาย ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
เมื่อกลไกการระบายความร้อนของร่างกายเสียหายแล้ว ความร้อนภายในจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ความร้อนจะทำลายเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อ สมอง หรือเม็ดเลือด ก่อให้เกิดภาวะไตวาย เลือดเป็นกรด วิงเวียน หมดสติจนกระทั่งหยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้นในที่สุด

ข้อมูลจาก : นิตยสาร ฉบับที่ 279 เดือนเมษายน พ.ศ.2549



Create Date : 18 มกราคม 2552
Last Update : 18 มกราคม 2552 23:34:35 น. 0 comments
Counter : 431 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

zakana7884
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพื่อนสำคัญเสมอ ฉันจะรักษามิตรภาพระหว่าง
เพื่อนให้ดีที่สุด และคุณคือเพื่อนของฉันในตอนนี้

เกี่ยวกับฉัน..ฉันชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยว
ท่องโลกอินเตอร์เน็ต แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
เพื่อเปิดโลกทรรศในมุมมอง 360 องศา
เมื่อใดที่ฉันว่างเว้นสิ่งอื่นใด ก็จะเข้าสู่สภากาแฟฯ
แห่งนี้ บ้างอ่าน บ้างแสดงความคิดเห็น แล้วแต่
โอกาสจะอำนวยคะ

ขอบคุณโลกออนไลน์ที่ทำให้เราเป็นเพื่อนกันได้

lozocat
free counters
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add zakana7884's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.