Group Blog
 
All Blogs
 

At Wick's End -Tim Myers-

แฮริสัน แบล็กได้รับมรดกจากแบลล์ แบล็ก ป้าของเขาหลังจากการเสียชีวิตอย่างลึกลับและมีเงื่อนงำของเธอ มรดกที่ว่าประกอบไปด้วยอาคารที่อยู่อาศัย 1 แห่งชื่อริเวอร์ เอดจ์ที่มาพร้อมกับผู้เช่ามากหน้าหลายตาหลากบุคลิก และร้านขายเทียนซึ่งเป็นอาชีพหลักของป้าเขา

เมื่อแฮริสันเข้ามารับมรดกสืบทอดจากป้า เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการตายของป้า เขาจึงค่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อยเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้น ผู้คนมากหน้าหลายตาที่เขาพยายามทำความรู้จัก เพื่อที่จะได้พบว่าเบื้องหลังการตายอันมีเงื่อนงำนั้นซ่อนไว้ด้วยความเลวร้ายจากใครบางคนอย่างไม่น่าเชื่อ...

โดยรวมๆ มันเป็นนิยายที่สั้นมากครับ สั้นจนผมมองว่าเรื่องบางเรื่อง เหตุการณ์บางอย่างมันน่าจะชัดเจน และมีประเด็นเงื่อนงำได้มากกว่านี้อีกหน่อย แต่จุดหักมุมและประเด็นเล็กๆ น้อยๆ ที่หลอกให้คิดเป็นตุเป็นตะทำได้ดีพอสมควร

นอกจากนี้ยังมีเกร็ดเล็กๆ เกี่ยวกับการทำเทียนไขและการทำขนมนิดๆ หน่อยๆ แถมท้ายให้ด้วย

75% ไม่มากไปกว่านี้ครับ!




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2548    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2548 12:32:58 น.
Counter : 332 Pageviews.  

O'Artful Death -Sarah Stewart Taylor-

สวีนี่ย์ เซนต์จอร์จ อาจารย์สาวอายุ 28 ปี ผู้พยายามหลีกหนีปัญหาส่วนตัวในอดีตอันแสนจะยุ่งเหยิงด้วยการทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับงานสอนที่ทำอยู่และงานอดิเรกคืองานวิจัยเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมบนหลุมฝังศพอย่างเอาจริงเอาจัง

วันหนึ่ง โทบี้ เพื่อนหนุ่ม(ไม่ใช่แฟนนะครับ) ได้ชวนให้เธอไปฉลองคริสตมาสกับครอบครัวของเขาที่เวอร์มอนท์ แรกทีเดียว สวีนี่ย์ตั้งใจจะเลี่ยงไม่ไปด้วยความเป็นคนเก็บตัวของเธอเอง แต่เมื่อเธอได้เห็นรูปรูปปั้นบนหลุมฝังศพของแมรี่ เดนโฮล์มซึ่งโทบี้บอกว่าอยู่ใกล้กับบ้านของญาติเขา เธอก็เปลี่ยนใจตอบตกลงไปแทน

สวีนี่ย์เริ่มเจาะลึกลงไปถึงเบื้องลึกเบื้องหลังที่มาของรูปปั้นเหนือหลุมศพอันแสนจะแปลกประหลาด ยิ่งเธอสาวลึกลงไปเท่าไร เธอก็ยิ่งพบกับปริศนาชวนสงสัยเกี่ยวกับชุมชนศิลปินที่นี่มากขึ้นเท่านั้น เรื่องเลวร้ายหนักข้อขึ้นเมื่อในชุมชนมีเหตุการณ์ปล้นชิงยกเค้าข้าวของในบ้าน และมีคนตายตามกันมาติดๆ ราวกับใครบางคนไม่ต้องการให้เธอสาวลึกลงไปมากกว่านี้...

สวีนี่ย์เคว้งคว้าง ไม่รู้จะเชื่อใครดี แม้กระทั่งโทบี้ เพื่อนรักของเธอ, แพทกับบริตต้า ญาติของโทบี้ หรือเอียน หนุ่มอังกฤษท่าทางลึกลับที่มักทำตัวลับๆ ล่อๆ เสมอ

คนที่ชอบอกาธา คริสตี้น่าจะชอบนิยายเรื่องนี้ครับ ผมว่าลักษณะ บรรยากาศ อารมณ์ในเรื่องมาในแนวทางเดียวกับของคุณหญิงคริสตี้เป๊ะๆ ความสนุกของเรื่องอยู่ที่คนเขียนค่อยๆ ดึงเราเข้าไปในเรื่องช้าๆ ทีละนิดละน้อย ก่อนจะตลบหลังด้วยการหักมุม(ยอมรับว่าเดาเรื่องแทบไม่ออก) สองครั้งซ้อนอย่างแยบยล

95% เอาไปเลย หักไป 5 คะแนนสำหรับ...ความเนือยเนิบที่อาจไม่ทันใจคนใจร้อนนิดนึง!

ปล. นิยายเล่มนี้เป็นเล่มแรกในชุดสวีนี่ย์ เซนต์จอร์จนะครับ เล่มสองชื่อ Mansions of the dead ผมสั่งไว้ แต่ยังไม่มา และที่คิโนะคูนิยะที่เอ็มโพเรี่ยมก็มีเล่มเดียวเอง...ส่วนอีกเล่มเป็นตอนที่ 3 Judgement of the grave ยังเป็นปกแข็งอยู่ เลยไม่พิศมัยเท่าไรครับ...รอปกอ่อนก่อนดีกว่า...




 

Create Date : 26 กรกฎาคม 2548    
Last Update : 26 กรกฎาคม 2548 10:20:24 น.
Counter : 312 Pageviews.  

Unholy Death in Princeton -Ann Waldron-

ตอนที่สามของนิยายชุด Princeton Murder ซึ่งคราวนี้ย้ายฉากจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันไปเป็น Princeton Seminary (บอกไม่ถูกว่าคืออะไร มันคล้ายๆ โรงเรียนสอนศาสนาอ่ะครับ) ซึ่งเป็นสถานที่ซึ่งมีอยู่จริงและตั้งอยู่ติดกันกับม.พรินซ์ตัน...

แมคลีออด ดูลานีย์ นักข่าวสาวตัวเอกของเรื่องในคราวนี้ไม่ได้กลับมาสอนวิชา Non Fiction ที่พรินซ์ตันแล้ว แต่มาซุ่มเขียนหนังสืออัตชีวประวัติโดยอาศัยห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเป็นป้อมปราการในการเขียนงานส่วนตัวแทน...

นิยายเปิดเรื่องอย่างรวดเร็วด้วยการให้แมคลีออดเดินไปสะดุดกับศพหนุ่มเปลือยที่ซุกอยู่ในห่อผ้าบนทางเดินริมน้ำ ตำรวจคิดว่าแมคลีออดน่าจะมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ฆาตกรรมในครั้งนี้ ยิ่งแดน สตรอง ผู้ตายเป็นนักศึกษาใน Princeton Seminary ด้วย แมคลีออดยิ่งดิ้นไม่หลุดใหญ่ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็ตามมาแทรกในบัดดลเมื่ออาจารย์อีกท่านหนึ่งถูกฆ่าตายปริศนาอีกราย เธอจึงจำเป็นต้องออกสืบเสาะหาความจริงเพื่อที่ตนจะได้ไม่ถูกรวบเป็นแพะรับบาป แมคลีออดได้รับการช่วยเหลือจากแองกัสและฟีโอน่า แมคเคย์ เพื่อนเก่าเพื่อนแก่

การสืบเสาะทำให้เธอได้ทราบความจริงว่าแท้ที่จริงแล้ว ภายใต้ความศรัทธาในศาสนาอันแรงกล้านั้นซ่อนไว้ด้วยความแตกแยก การคอร์รัปชั่น การเหยียดเพศ และการต่อต้านกลุ่มเกย์ ซึ่งทั้งหมดนั้นคือชนวนแห่งการฆาตกรรมทั้งสิ้น กว่าแมคลีออดจะคลี่คลายทุกอย่างได้ เธอก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดอีกรอบเสียแล้ว!

ตอนนี้เปิดเรื่องเข้มข้นและรวดเร็วขึ้น มีรายละเอียดมากขึ้น(อาจเพราะเป็นประเด็นเรื่องศาสนาด้วยมั้งครับ) แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือปมพลิกผันที่ไม่พลิกแพลงมากนัก จนเดาได้ตั้งแต่กลางเรื่อง...

80% ก็น่าจะพอ ในสามเล่มของนิยายชุดนี้ผมว่าเล่มที่สองสนุกที่สุดครับ!




 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2548    
Last Update : 1 กรกฎาคม 2548 17:51:16 น.
Counter : 444 Pageviews.  

Death of a Princeton President -Ann Waldron-

เล่มสองต่อจาก The Princeton Murder ครับ...ตอนนี้เปิดเรื่องให้เวลาผ่านไปจากตอนแรก 2 ปี แมคลีออด ดูลานีย์กลับมาสอนวิชา non fiction ที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันอีกครั้ง และดูเหมือนว่าโชคร้ายจะไม่ยอมปล่อยวางไปจากเธอ เนื่องจากหลังจากเปิดคอร์สได้ไม่นาน เมลิซซ่า แฟร์คอร์ท อธิการบดีของพรินซ์ตันก็หายตัวไปอย่างลึกลับ และถูกพบเป็นศพในตู้เก็บของในห้องหลังจากนั้นอีกสองสามวัน...

จอร์จ บริดจ์ เพื่อนของแมคลีออดที่เป็นเลขานุการหน้าห้องของอธิการบดีถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัยตัวเอ้ และแมคลีออดก็ต้องหาทางแก้ต่างให้เพื่อนหนุ่มให้ได้...

งานนี้ทำให้เธอต้องเข้าไปพัวพันกับแคลร์เรนซ์ ร็อบบิ้นส์ อดีตสามีของเมลิซซ่า, เคนเนธ โคล ผู้บริหารที่ไม่กินเส้นกับเมลิซซ่า และแมกซ์ โบลท์ ผู้กำกับหนังที่เลือกใช้ฉากในพรินซ์ตันถ่ายทำหนังเรื่องใหม่ของตนแต่มีปัญหาระหองระแหงเรื่องสถานที่กับเมลิซซ่า...

สำหรับเล่มสองนี้ ผมว่าเนื้อเรื่องสนุกและกระชับขึ้น (ตอนแรกอาจเสียเวลาสาละวนอยู่กับการเล่ารายละเอียดและที่มาที่ไปของตัวละคร) แต่เดาได้ไม่ยากว่าเรื่องจะลงเอยยังไง ปมพลิกผันของเรื่องยังไม่ถึงกับเดายาก หนักแน่น แต่ว่าก็สมเหตุสมผลและไม่ติดใจใดๆ ครับ (ตอนนี้หยิบเล่มสาม Unholy Death in Princeton มาจัดการต่อแล้ว)

85% แล้วกัน...




 

Create Date : 27 มิถุนายน 2548    
Last Update : 27 มิถุนายน 2548 15:53:10 น.
Counter : 408 Pageviews.  

The Princeton Murders -Ann Waldron-

แมคลีออด ดูลานีย์ นักข่าวสาวใหญ่จาก Star of Florida ได้รับเชิญให้ไปเป็นวิทยากรสอนวิชาการเขียน non fiction ที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน แรกทีเดียวชีวิตใหม่ก็ไปได้สวยดีสำหรับเธอ จนกระทั่งอาร์ชี่ อเล็กซานเดอร์ เพื่อนอาจารย์ในภาควิชาภาษาอังกฤษเกิดป่วยและตายจากไปอย่างปริศนา และยังไม่ทันที่การตายของอเล็กซานเดอร์จะจางหายไปจากความทรงจำ เด็กซ์เตอร์ คินเคด หัวหน้าภาควิชาภาษาอังกฤษก็ตายไปอีกคนด้วยอาการที่ใกล้เคียงกัน แมคลีออดและลูกศิษย์ในวิชาของเธอจึงออกสืบเรื่องนี้ด้วยความสงสัยเนื่องจากเห็นว่าการตายของอาจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษทั้งคู่น่าจะเป็นการฆาตกรรมจากฆาตกรรายเดียวกัน...

ยิ่งสืบใกล้เรื่องเท่าไร พวกเขาก็พบเรื่องเดือดร้อนและทำให้อาจารย์ผู้ช่วยสอนอีกคนตายไปอีกหนึ่งราย...ผู้ต้องสงสัยนั้นล้วนแล้วแต่เป็นอาจารย์ในภาควิชาภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเป็นมิสติค อัลคอตต์ อาจารย์สาวใหญ่ นักเขียนชื่อดังที่หลงตัวเองแต่เก็บตัวเนื่องจากสภาพร่างกายที่อ้วนฉุ เธอเป็นผู้สอนวิชาการเขียนสร้างสรรค์, ลิซ ฟินลี่ย์ อาจารย์สาวใหญ่อีกคนที่สอนวิชาวรรณกรรมศตวรรษที่ 18, ทรูดี้ เซอร์เจี้ยน อาจารย์สาวหัว Feminist, เกรดี้ ชูว์เลอร์ อาจารย์ช่วยสอนผู้กำลังสนใจวิพากษ์เชคสเปียร์ในมุมมองเกย์, มาร์กี้ คินเคด ภรรยาของเด็กซ์เตอร์ คินเคด และคนอื่นๆ อีกมากมาย

สุดท้ายแล้วกว่าแมคลีออดจะควานหาฆาตกรเจอ เธอก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด...

โดยภาพรวม เป็นนิยายที่ใช้ฉากหลังมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันได้อย่างกลมกลืนครับ นอกจากประเด็นสืบสวนแล้ว เราจะได้ทัศนียภาพและมุมมองเกี่ยวกับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันควบคู่กันอีกด้วย...

นอกจากนี้ผมยังรู้สึกว่าการใช้ฉากมหาวิทยาลัยกอปรกับการจั่วหัวว่า Death is Academic นั้นเป็นมุมมองและประเด็นใหญ่ที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิดเรื่องการศึกษาและทัศนคติในแง่ลบที่คนมองสถาบันการศึกษาตัวเอง(แบบที่หนังอย่าง Urban Legend เอามาเล่นเป็นประเด็นแหละครับ ไม่ถึงกับต่อว่าให้เสียหายแต่กลั้วเกลือกไว้ด้วยเรื่องราวเสียดสีระบบการเรียนการสอนในสถาบันและที่สำคัญจัดการให้พวกอาจารย์ "ตายเหี้ยน")

แต่ผมรู้สึกว่าเรื่องมันเนิบเนือยไปนิด จังหวะการเล่าเรื่องยังสะดุดและให้ความสำคัญกับการบรรยายฉากหรือความรู้สึกของตัวละครมากไปหน่อย แต่นั่นแหละ มันเป็นนิยายเล่มแรกในชุดฆาตกรรมในมหาวิทยาลัย...เล่มสองเล่มสามน่าจะสปาร์คได้มากกว่านี้นะ! (เล่มสองชื่อ Death of a Princeton President ส่วนเล่มสามชื่อ Unholy death in Princeton ครับ ผมกำลังอ่านเล่มสองอยู่!)

80% น่าจะพอครับ!




 

Create Date : 21 มิถุนายน 2548    
Last Update : 21 มิถุนายน 2548 9:34:04 น.
Counter : 336 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

Filippo
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Filippo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.