Review:: SANA EXCEL eye shadow palette สีหวานๆจากญี่ปุ่น รีวิววันนี้สืบเนื่องจาก Haul Video อลังการล้านแปดของฝากจากญี่ปุ่นที่คุณแม่ซื้อมาให้ทรายนะคะ วันนี้ทรายหยิบพาเลทอายแชโดวยี่ห้อSANA EXCEL รุ่นใหม่ล่าสุด DEEP EYE ที่ทรายกำลังเลิฟสุดๆ มารีวิวให้ดูค่ะ มาดูหน้าตากันก่อนดีกว่าเนอะ เป็นอายแชโดว 5 ช่อง ตัวนี้เป็นโทนสีชมพู-น้ำตาล ทรายชอบมาก ของจริงสีมันสวยมากๆเลยค่ะ ทั้ง 5 สีเค้าก็จัดมาให้แต่งแล้วลงตัวสุดๆ รูปสีอาจจะเพี้ยนๆไปบ้างต้องขอโทษด้วยนะคะ ในตลับจะมีสี ดังนี้ค่ะ - น้ำตาลอ่อน - น้ำตาลเข้ม - ชมพูนู้ด - ชมพูพาสเทล - ชิมเมอร์ริ่งสีชมพูอ่อนประกายเงิน เนื้อนุ่มมากก ทุกสีจะผสมชิมเมอร์หมดเลย ทรายได้ลองเอามาแต่งหน้าแล้วปรากฏว่าชอบมากกกกกกกก เพราะว่าสีเค้าเบลนด์ง่ายและคู่สีสวยมากค่ะ ราคาประมาณ 1,700 Yen เดี๋ยวมาลองดูทรายเอามาแต่งที่ตาดูค่ะ สีที่ได้จะอมม่วงหน่อยเพราว่าทรายลองแต่งแบบเบลนด์สีชมพูเข้ากับน้ำตาล ไม่ใช้อายไลเนอร์ เป็นสไตล์การแต่งหน้าที่ทรายไม่ค่อยถนัด แต่ตอนนี้เริ่มชอบแล้วค่ะ ดูหว๊าน หวานเนอะ ^^  ทรายลองแต่งอีกแบบดูด้วย  อยากให้กล้องทรายดีๆจัง เพราะว่าสีมันเห็นไม่ค่อยชัด อยากจะบอกว่าของจริงสีสวยมากอ่า สรุป : พาเลทนี้เวิร์คมาก ทรายชอบสุดๆ จะต้องไปหาสีอื่นมาให้ได้ เม็ดสีชัด ติดทนนานค่ะ ทรายว่าชิมเมอร์เค้าสวย แล้วเนื้ออายแชโดวก็ละเอียดด้วย เลิฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ<3 Free TextEditor   Create Date : 21 มิถุนายน 2553     Last Update : 24 มกราคม 2554 0:13:51 น. Counter : 5105 Pageviews.   12 comment Share Tweet

Review:: OLAY ครีมอาบน้ำตัวใหม่สูตร Extra nourishing “จะดีแค่ไหน หากครีมอาบน้ำที่คุณต้องใช้ทุกวัน มีส่วนผสมของโลชั่น และเมื่อคุณอาบน้ำทุกครั้งก็เปรียบเสมือนได้ชโลมโลชั่นลงบนผิวกาย โดยไม่ต้องเพิ่มขั้นตอนให้ยุ่งยาก” วันนี้ทรายเริ่มต้นแปลกด้วยประโยคเด็ดๆจากครีมอาบน้ำ โททัล เอ็ฟเฟ็คส์ ชาวเวอร์ครีมค่ะ ชื่อภาษาอังกฤษยาวหน่อยนะคะ วันนี้ทรายจะมารีวิว เจ้าครีมอาบน้ำเพื่อผิวสวยจากโอเลย์ค่ะ ทรายมีโอกาสได้รับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ จากทางโอเลย์ ส่งมาให้ทรายลองใช้ได้ 2 สัปดาห์แล้ว ที่จริงไลน์นี้มีทั้งหมด 3 สูตรค่ะ สังเกตได้จากหยดน้ำที่ข้างขวด สำหรับคนผิวแห้งก็จะมี 3 หยด, ผิวผสม 2 หยด และผิวมัน 1 หยดตามลำดับ สำหรับทราย ทรายเลือกตัวสำหรับผิวผสมมาค่ะ มาดูหน้าตากันดีกว่าเนอะ รุ่นใหม่นี้จะเป็นขวดสีทองนะคะ ขวดใหญ่ได้ใจมากๆ ปริมาณถึง 532mlเชียวค่ะ ตอนที่ได้มาวันแรก ทรายถ่ายรูปโดยถือไว้ในมือตัวเอง สาวๆในเฟซบุคตกใจกันใหญ่ เพราะขวดมันใหญ่โตจริงๆ ;D Product Benefit : ทีนี้เรามาดูถึงคุณสมบัติกันบ้าง ว่าเจ้าครีมอาบน้ำตัวนี้ สามารถช่วยได้เรื่องอะไรบ้างนะคะ สิ่งแรกเลยคือ เค้าบอกว่าในทุกครั้งที่เราอาบน้ำไม่จำเป็นต้องทาโลชั่นบำรุงผิวกายเพิ่มอีก เพราะว่า “ โททัล เอ็ฟเฟ็คส์ ชาวเวอร์ ครีม พลัสโลชั่น ” ตัวนี้ มีเทคโนโลยี ล้ำหน้าตัวใหม่ ที่มีคุณสมบัติเฉพาะให้ฟองครีมที่เกิดสามารถทำความสะอาด ได้อย่างล้ำลึก ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิวขณะที่เราอาบน้ำ แล้วก็ยังมี มอยเจอร์ไรซ์เซอร์มากถึง 45% อย่างที่สองคือ ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นของผิวได้ และยังช่วยลดเรือนริ้วรอย แห่งวัยทั้ง 7 ประการ อันได้แก่ • ช่วยทำความสะอาดขจัดสิ่งสกปรกและสิ่งตกค้าง • ช่วยให้ผิวไม่แห้งตึง • ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น คงความชุ่มชื่นให้ผิวได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง • ช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม ยืดหยุ่น • ช่วยปรับผิวให้ดูเรียบเนียน • ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว • ช่วยปรับสภาพผิวหมองคล้ำให้สดใสแลดูอ่อนเยาว์ วิธีใช้ก็ตามนี้นะคะ ทั้งหมดที่ว่านี้เป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์เบื้องต้นจากทางโอเลย์ค่ะ ส่วนรีวิวของทรายจะเริ่มต่อจากนี้แล้วนะคะ^^ ทรายเองยังไม่เคยรีวิวครีมอาบน้ำมาก่อน เพราะปกติใช้แต่แบบ ตามมีตามเกิด ไม่ค่อยได้สนใจผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้สักเท่าไหร่ เพิ่งมาเริ่มหาข้อมูลก็ตอนที่ โอเลย์เค้าบอกว่าอยากให้ทรายทดลอง ใช้ครีมอาบน้ำตัวนี้ดู ทรายก็เลยเริ่มหันมามองว่า ทุกวันนี้ เราดูแลแต่ผิวหน้า ผิวมือ ทรายลืมผิวตัวไปหรือเปล่า? ปกติทรายเป็นคนชอบทาโลชั่น เลยคิดว่าสบู่จะเป็นยังไงก็ได้ ไม่สำคัญ เดี๋ยวค่อยบำรุงเอาทีหลังก็ได้ … แต่วันนี้คงต้องหันมามองใหม่ซะแล้ว มาดูรีวิวกันดีกว่าค่ะ ด้านล่างนี้เป็นเนื้อของครีมอาบน้ำค่ะ ถ้ามองผ่านๆหลายๆคนคงคิดว่า เป็นครีมนวดผมแน่ๆ เนื้อครีมค่อนข้างแน่น เป็นสีเหลืองและกลิ่นหอมมาก! หากสังเกตดีๆจะเห็น Britening Minerals สีทองเล็กๆผสมอยู่ทั่วเลยค่ะ เจ้านี่แหละจะทำให้ผิวเรา Blink Blink ทรายจะทดลองให้ดู 2 แบบนะคะ แบบแรกคือ ใช้อาบด้วยมือเปล่า ทรายเข้าใจว่าคนทั่วไปจะอาบน้ำด้วยมือเปล่าซะส่วนใหญ่ (ทรายก็เป็น 1 ในนั้นแฮ่ะๆ^^) ในรูปนี้คือทรายใช้มืออีกข้างที่แห้ง ถูเนื้อครีมให้แตกตัว มันจะรู้สึกว่าเนื้อครีมมันเกาะกัน ไม่ค่อยยอมแตกตัวค่ะ จากนั้นทรายก็เอาน้ำลูบมาช่วยถูก ปรากฏว่าครีมแตกตัวและขึ้นฟองนุ่มๆเล็กๆ แต่ไม่เป็นฟองมาก ถ้าคนที่ชอบฟองเยอะๆอาจจะหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะถูเท่าไหร่ก็ได้ฟองเล็กๆเท่านี้ 555 เนื้อครีมนุ่มและกลิ่นฟุ้งกระจายสุดๆ จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำเปล่าค่ะ จากนี้ทรายจะลองต่อด้วยอุปกรณ์เสริมในการอาบน้ำค่ะ นั่นก็คือ ….ใยขัดผิวนั่นเอง! บีบครีมอาบน้ำเล็กน้อย บนใยขัดผิวแล้วก็เปิดน้ำผสมลงไป จากนั้นก็ขยี้ๆๆๆๆๆ ให้เกิดฟอง จริงๆขยี้นิดเดียวฟองก็ขึ้นมาเพียบแล้วค่ะ ทรายชอบมว๊ากกกก(ลากเสียงสุดๆ) คือมันเป็นฟองที่นุ่มมาก แล้วกลิ่นก็แตกกระจุยมากับฟองตามประสาคนบ้าฟอง ถูกใจสุดๆก็ตรงนี้ค่ะ โฮ๊ะๆๆๆ จากนั้นก็ทำการถูลงบนมือโล้ด การอาบน้ำโดยมีอุปกรณ์ช่วยขัดตัวด้วย สัปดาห์ละ 2-3 ครั้งจะเป็นการช่วยขจัดเซลส์ผิวเสื่อมสภาพ (ขี้ไคลนั่นแหละ) แล้วก็ช่วยให้ผิวของเราเนียนขึ้นด้วยน๊า ฟองที่ได้จากการขยี้เพียงเล็กน้อย แตกต่างกับการใช้แค่มือ ในการอาบมากเลยเน๊อะ! จากนั้นเราก็ล้างออกให้เรียบร้อยค่ะ WoW! ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่า Brightening Minerals จะยังติดอยู่กับผิวเรา ทำให้ผิวดูกระจ่างใส Blink Blink ด้วยหละ First Impression: เมื่อตอนครั้งแรกที่ทรายได้ลองใช้ ทรายก็ลองกับมือแบบนี้ค่ะ ความรู้สึกแรกที่ได้เลย ณ ตอนนั้น คือ มันนุ่มมาก อาจจะด้วยฟองอ่อนๆ ด้วยครีมหรืออะไรก็แล้วแต่ มันรู้สึกว่าผิวเรานุ่ม และดูชุ่มชื้นขึ้น เคลียร์ขึ้น แต่ด้วยความที่ทรายเป็นคนที่มือขาวและมือค่อนข้างสุขภาพดีอยู่แล้ว ก็เลยไม่ค่อยเห็นข้อแตกต่างทางสายตาสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่รับรู้ได้แบบชัดเจนเลยคือ กลิ่นค่ะ เป็นครีมอาบน้ำที่มีกลิ่นหอม ค่อนข้างแรงมาก แล้วก็ติดทนนานสุดๆ เรียกว่าอบอวลเลยหละ อ่อ แล้วก็ล้างออกค่อนข้างง่าย แต่ก็ยังไม่รู้ว่า ถ้าถูทั้งตัวแล้ว จะล้างออกง่ายหรือเปล่า? แบบว่า จะรู้สึกลื่นๆแล้วก็ไม่รู้สึกว่าสะอาด สบายตัวหรือเปล่าน่ะค่ะ After 2 week: หลังจากที่ทรายได้ลองใช้กับตัวเองทุกวันมา 2 สัปดาห์แล้ว ความรู้สึกประทับใจแรกก็ยังเหมือนเดิมค่ะ คือกลิ่นหอม ติดทนมากๆ ทนจนแฟนทักว่าทรายเปลี่ยนน้ำหอมเหรอ? แรกๆทรายก็ไม่ค่อยชอบกลิ่นเท่าไหร่ เพราะมันแรงและรู้สึกหอมอบอวล แต่พอใช้ติดๆกันสัก 4-5 วันก็เริ่มชิน แล้วก็เริ่มติดกลิ่นนี้ซะงั้น - -‘ แล้วก็ผิวรู้สึกว่าชุ่มชื้นขึ้น แต่ในบางวันที่อากาศเย็นจัด ทรายก็ยังต้องใช้โลชั่นช่วยบ้าง เพราะทรายอยู่ห้องแอร์ตลอด ผิวก็จะแห้งง่ายกว่าคนที่อยู่ในสภาพอากาศปกติ หรืออาจจะดีกว่านี้ก็ได้ถ้าทรายได้ลองใช้สูตรสำหรับคนผิวแห้ง 555 แต่เรื่องผิวเนียนขึ้น นุ่มขึ้นนี่ ทรายยอมรับเลยว่าจริงค่ะ ผิวดูน่าจับน่าสัมผัส ส่วนเรื่องการล้างออก ก็มีบ้างที่รู้สึกลื่นๆ แต่มันก็เป็นไปตามธรรมชาติของครีมอาบน้ำ ที่ผสมโลชั่นแบบนี้ มันจะไม่ทำ ให้ผิวแห้งตึงหลังอาบน้ำ แต่ทรายว่าโอเลย์ชาวเวอร์ครีมตัวนี้ ล้างออกง่ายกว่า .. อีกหลายๆยี่ห้อที่เคยใช้นะคะ (อุ๊ปส์!) Recommend: ใช้คู่กับใยขัดผิวเวิร์คกว่าใช้มือเดี่ยวๆเยอะเลยค่ะ ได้สัมผัสทั้งฟองนุ่มๆ แล้วก็ได้ผิวที่เนียนขึ้นด้วย ที่สำคัญสุดๆก็ตรงไม่เปลืองครีมนี่แหละ ^^   Create Date : 19 มิถุนายน 2553     Last Update : 24 มกราคม 2554 0:14:04 น. Counter : 5480 Pageviews.   10 comment Share Tweet

Review:: [Eye Primer] Etude' Vs Paul & Joe มาดูกันเถอะ! สวัสดีค่ะสาวๆ รีวิวที่หายไปนาน กลับมากันอีกแล้วน๊า วันนี้ฟิโอจะพาสาวๆไปดู Itemใหม่ที่ขาดไม่ได้ของสาวๆ ที่ชื่นชอบการแต่งหน้ากันช่วงนี้กูรูหลายประเทศฮิตมาก กับเจ้า Eye primer หลายๆคนอาจจะยังไม่เคยได้ยิน แต่หลายๆคนคงจะใช้จนชินกันไปแล้ว ป่านนี้คงบ่นว่าโอ๊ยย! ฟิโอคะ จะมาพูดอะไรป่านนี้ เชยจัง... ถ้าคุณรู้แล้วก็มองข้ามไปนะคะ สาวๆที่อยากรู้ว่า Eye Primer มีไว้ทำอะไรก็ตามฟิโอมาเลยค่ะ;D Eye Primer เป็นไอเทมที่เพิ่งเกิดไม่นานเท่าไหร่ค่ะ การเข้ามาแจ้งเกิดของ Eye Primer ก็เหมือนกับ Makeup Base ที่เมื่อก่อนยังไม่มีคนคิดทำขึ้นมาขาย ต่อมาก็มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นไอเทมสามัญที่จะต้องมีติดกันทุกโต๊ะเครื่องแป้ง ใครไม่มีถือว่าไม่ครบ! กูรูหลายคนอาจจะคิดว่า ไม่จำเป็น ไม่เห็นต้องใช้ ทำไมต้องทำตามที่แบรนด์ต้องการ แต่เชื่อเถอะค่ะ ถึงที่สุดแล้ว อีกหน่อยคุณก็จะอดรนทนไม่ได้ ต้องหามาใช้บ้างแน่ๆ ทีนี้มาพูดถึงคุณสมบัติของ Eye Primer ว่าทำไมเราจะต้องใช้มันด้วย ที่ต้องใช้ก็เพราะว่าเจ้า Eye Primer มีคุณสมบัติที่จะช่วยให้สีของอายแชโดว ที่เราลงบนเปลือกตา ติดทนนานขึ้น สีจัดชัดเจนขึ้น และยังช่วยปรับสีผิวปริเวณเปลือกตา ให้สว่างขึ้นด้วยค่ะ โดยEye Primer แต่ละยี่ห้อก็จะมีลักษณะแตกต่างกันไป แต่โดยรวมลักษณะการใช้งานจะเหมือนๆกัน ทีนี้เราก็ต้องมาทดลองเลือกให้เหมาะ กับตัวเองกันนะคะ วันนี้ฟิโอจับมารีวิวแค่ 2 ยี่ห้อ เพราะว่าซื้อมาลองแค่นี้จ้า ... เริ่มกันที่ตัวแรกก่อนเลย Etude' Proof 10 Eye Primer ทรงขวดของตัวนี้หน้าตาเหมือนพวกอายไลเนอร์สูตรน้ำเลยค่ะ เป็นขวดพลาสติกบางๆ และดู...ฝายาวมว๊ากกกกกกกกกกก ไม่รู้ทำยาวๆทำไม แต่ก็นะ ดีไซน์ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล - -' ตัวนี้ฟิโอซื้อเพราะอ่านรีวิวบางกระแสบอกว่าดีมาก ก็เลยอยากจะลองบ้าง เนื้อของไพรเมอร์เป็นน้ำๆกึ่งเจล สีออกนู้ดๆ มีให้เลือกสีเดียว พอเกลี่ยแล้วจะรู้สึกว่า มันไม่หายไป ... มันเหมือนมีฟิล์มมาเคลือบๆไว้ ที่บนผิว แห้งช้า และเป็นคราบ สำหรับฟิโอนะ ต้องพยายามตบๆเกลี่ยๆ อย่างละเอียดอ่อน - - เพื่อให้มันไม่เป็นคราบเวลาที่จับกับแป้งบนตาเรา ฟิโอไม่ได้ถ่ายรูปแสดงคุณสมบัติของการจับสีไว้ แต่จะเล่าเป็นตัวอักษรแล้วกันนะคะ สำหรับ Etude eye primer ตัวนี้ ทำให้ได้สีอายแชโดวที่ชัดเจนมาก แต่ติดไม่ทน สำหรับฟิโอนะ มันขึ้นคราบ กับคนอื่นฟิโอไม่รู้ กับฟิโอมันได้แบบนี้ค่ะ ตัวต่อมาเป็น Paul & Joe Eye color primer เบอร์ 02 ตัวนี้เป็นตัวที่อ่านรีวิวหลายเจ้า แล้วก็ซื้อมาลองอีกเหมือนกัน เพราะหลายคนบอกว่า เทพสุดๆ แล้วก็มีเด็กคนนึงมาไซโคให้ไปซื้อมาลอง ... เดี๋ยวมาดูยัยเด็กนี่กัน มากันที่เนื้อของไพรเมอร์ก่อนเลย ตัวนี้เป็นเนื้อเหลว มีให้เลือก 3 สี 3 เบอร์ เบอร์ 1 จะเป็นเนื้อออกขาว มีชิมเมอร์วิ๊งค์ๆกระจุยกระจาย (อยากได้มากกกก) เบอร์ 2 คือสีเนื้อเหมาะกับคนผิวค่อนข้าวขาว ไม่มีวิ๊งค์และเบอร์ 3 สีเนื้อเข้ม เหมาะกับสาวผิวแทนไม่วิ๊งค์เหมือนกัน  ของทรายเป็นเบอร์ 2 นะคะ พอเกลี่ยแล้วจะกลืนไปกับผิว ไม่เป็นคราบ รู้สึกบางเบาและดูสว่างขึ้นเล็กน้อย ฟิโอลองเอาอายแชโดวสีดำที่ผสมกลิตเตอร์ มาลองปาดเป็น2 ฝั่ง ด้านนึงไม่ได้ลงไพรเมอร์ อีกด้านลงไพร์เมอร์ ผลที่ได้คือดังรูปค่ะ สีจัด ชัดเจนขึ้น ไม่เป็นคราบ ส่วนความติดทน เท่าที่ได้ลองมา ถือว่าดีค่ะ ดีกว่าEtude เพราะตัวนี้ไม่เป็นคราบ และเกลี่ยง่ายสุดๆ อาจจะเทพจริงอย่างที่เค้าว่า แต่ไม่สามารถฟันธงได้ขนาดนั้น เพราะว่าฟิโอ ยังไม่ได้ลองอีกหลายๆยี่ห้อที่เค้าว่าดีเริศ ประเสิร์ฐเหมือนกัน ก็ต้องรอดูกันต่อไปค่า แต่ ณ จุดนี้ อยากได้เบอร์ 01 ใจจะขาดแล้ว คาดว่าคงไม่รอดมือแน่ๆ = = เกือบลืมเม้าท์ยัยเด็กนั่น พอฟิโอไปซื้อมา ยัยเด็กนั่นก็บอกว่า ไปซื้อแล้วหรอ? มีเรื่องจะบอกว่า มันใช้แล้วอายแชโดวหลุดโครตไว ...ฟิโออยากจะ...สักที หลอกให้ไปซื้อแล้วก็มาทำร้ายจิตใจกัน T^T ที่เล่ามานี่เพราะจะบอกว่า แต่ละคนก็แต่ละความเห็นนะคะ ของ 1 ชิ้นเหมือนๆกัน อาจจะดีกับอีกคน แต่อาจจะไม่ดีกับอีกคนก็ได้ สำหรับวันนี้ลากันไปก่อน สวัสดีค่า จุ๊บๆ   Create Date : 10 มิถุนายน 2553     Last Update : 24 มกราคม 2554 0:14:19 น. Counter : 2066 Pageviews.   14 comment Share Tweet

Review: มาดู Sigma Brush ก่อน/หลังล้างแปรงกัน [part2] ต่อจาก part 1 นะคะ ทีนี้หลังจากทรายได้แปรงมาแล้ว เราก็ต้องมาทดลองคุณภาพเบื้องต้นของแปรง ด้วยการล้างแปรงให้สะอาด ทรายล้างด้วยน้ำยาล้างแปรงของ MAC และปล่อยให้แห้งเองตามธรรมชาติค่ะ ระหว่างนั้นก็เก็บข้อมูลของแปรงแต่ละด้ามไปด้วย After Clean All Brush Powder Brush ตอนล้างมีขนหลุดออกมาบ้างประมาณ 3-4 เส้น ทรายถือว่าดีมาก น้ำใสดีไม่มีสีตกค่ะ  ตัวขนแปรงเองก็สปริงตัวดีเหมือนตอนที่ยังไม่ได้ล้าง ขนพองออกนุ่มขึ้นนิดนึงค่ะ Duo Fibre Brush ตัวนี้ไม่มีปัญหาเลย ตอนล้างไม่มีขนล่วงน้ำใสดีค่ะ มีอาการขนพองและชี้โด่เด่เล็กน้อยค่ะ แต่โดยรวมถือว่าเลิศมาก Large Angled contour Brush แปรงตัวนี้ก็ไม่ร่วงระหว่างล้างค่ะ แต่พอแห้งแล้วเหมือนขนพองบานออกเยอะ แต่นุ่มมากกก ต้องใช้Brush Guard ครอบไว้ Foundation Brush อันนี้ก็ไม่มีปัญหา ล้างแล้วสีไม่ตก ขนไม่ร่วง  ตอนแห้งก็สภาพดีเหมือนเดิม ไม่มีบานผิดทรงค่ะ Medium Angled shading Brush อันนี้ก็เรียบร้อยดี ไม่ร่วงไม่ตกไม่บาน Eye Shading Brush ตัวนี้ก็ไม่มีปัญหาแน่นหนา ไม่ร่วง ไม่ตก ไม่บาน Tapered Blending Brush ตัวนี้มีปัญหานิดหน่อย คือสีตกเป็นสีดำเลย ต้องล้าง3 รอบกว่าน้ำจะขาว ขนหลุด2-3เส้น พอแห้งแล้วบาน - -' Large shader brush ตัวนี้ก็ไม่มีปัญหาค่ะ ไม่ตก ไม่หลุด ไม่บาน สปริงตัวดี ดูรูปหมู่กันหน่อย  สรุป : สำหรับทราย ทรายรู้สึกว่าคุ้มมากที่ซื้อมา ทั้งหมดรวมค่าส่งแล้วประมาณ $100  ฝรั่งเค้าจะเทียบ Sigma Brush กับ M.A.C. Brush เพราะว่า ซิกม่าทำออกมาเรียกได้ว่า แทบจะลอกแม็คมาทั้งหมด ในส่วนของคุณภาพทรายเปรียบเทียบกับแม็คให้ฟังไม่ได้ เพราะทรายไม่เคยมีแปรงแม็ค เลยบอกไม่ได้ว่าอะไรดีกว่า หรือด้อยกว่าตรงไหน แต่เท่าที่เก็บข้อมูลจากหลายๆรีวิวของฝรั่ง เค้าบอกว่า แปรงบางชิ้นก็ดีกว่า/เทียบเท่าแม็ค ซึ่ง.. ในราคานี้และได้ทั้งเซ็ทไม่มีทางซื้อแม็คได้แน่ๆ ก็คุ้มสำหรับคนที่มีงบจำกัด และอยากได้แปรงที่คุณภาพดีสมราคาสักเซ็ท ส่วนตัวทรายเองมีแปรงที่ใช้อยู่ก่อนแล้วเยอะ ทรายไม่ซีเรียสเท่าไหร่ ซื้อมาเพราะอยากรู้ว่ามันดีสมที่เค้าดังเป็นบ้าเป็นหลังกันไหม? ก็ได้รู้สมใจ สำหรับตัวทรายให้ 9/10 ทั้งเรื่องราคาและคุณภาพที่เหมาะสมกันค่ะ สำหรับคนที่ถามว่าซื้อได้ที่ไหน ซื้อได้จากเว็ปเค้าเลยอ่าค่ะ เป็นของเมืองนอก สั่งจ่ายผ่าน paypal เท่านั้น ทรายเอาลิ้งค์มาลงไว้ให้เพราะบางทีถามมาทรายก็ไม่ได้ตอบอ่าค่ะ กดที่แบนเนอร์ได้เลยคับ   Create Date : 20 พฤษภาคม 2553     Last Update : 24 มกราคม 2554 0:14:31 น. Counter : 1676 Pageviews.   9 comment Share Tweet

Review: มาดู Sigma Brush ก่อน/หลังล้างแปรงกัน [part1] หลังจากเห่อไปครั้งที่แล้ว ใครยังไม่ได้ดู ทรายทำเป็นคลิปที่ด้านล่างเลยนะคะ [รูปเยอะโหลดโหดนะคะ] คราวนี้ทรายขอมารีวิวแบบเป็นภาพบ้างจะได้เห็นละเอียดๆ เพราะว่าไฟล์วีดีโอของทรายค่อนข้างมีปัญหา จำกัดด้วยคอมมันเก่ามากแล้ว เรามาเริ่มกันที่เิปิดถุงแบบเป็นภาพกันเลยดีกว่า เปิดซองออกมาน่าตื่นตาตื่นใจมากเลย ทรายสั่งเซ็ท 12 ด้าม+กระเป๋ามาค่ะ ทรายสั่งมาพร้อมกับกระเป๋าด้วย ดังนั้นแปรงทั้งหมดจะอยู่ในกระเป๋าค่ะ ในซองเค้ามีGift มาให้เป็นแปรงแบลนด์ไซส์Travel ชื้นนึงค่ะ แล้วก็มีการ์ดขอบคุณกับFact sheetแปรงของเค้า ส่วนนี่เป็นหน้าตากระเป๋าเค้า มันนิ่มมากคล้ายๆหนัง ทรายคิดว่าเป็นพวกหนังเทียม ทรายชอบตรงที่เค้าไม่ใช่วิธีสกรีนสี หรือปักลายแต่เป็นปั๊มลึกโลโก้ลงบนหนังแทน และรูปด้านล่างนี้คือด้านหลังของกระเป๋าค่ะ มองดูไปดูมาคล้ายๆกระเป๋าคลัชท์เลย  พอเปิดออกมาก็เป็นช่องใส่แปรงทั้งหมด 12 ด้ามและมีช่องพิเศษเพิ่มให้อีก 3ค่ะ  เป็นทั้งหมดใส่แปรงได้ 15 ด้าม ชอบอีกแล้วตรงที่มีการดีไซน์ให้มีที่ปิดปกป้องแปรงด้วย เปิดออกมาแปรงถูกจัดเรียงตามลำดับและขนาดอย่างเรียบร้อยค่ะ  บางชิ้นมี Brush guard ให้ด้วยเช่นพวกแปรงไซส์ใหญ่ๆขนหนาๆ อันนี้เป็นเซ็ทแปรงส่วนของหน้าค่ะ  SS150 Large Powder Brush : Very dense with a rounded top. Ideal to apply powder products on face and body. Natural bristles. เป็นแปรงที่ใช้ปัดแป้งฝุ่น พุ่มหนาแน่นมากๆ ส่วนตัวทรายว่านิ่มดี คือทรายมักจะชินกับแปรงที่นุ่้มมากๆพวก RMK ทรายว่าแปรงนี้ใช้ได้เลยค่ะ อาจจะไม่นิ่มเท่า RMK แต่ก็ไม่ทำให้เคืองผิวเหมือนแปรงบางยี่ห้อค่ะ SS187 Duo Fibre Brush : Specially designed to generate an ‘airbrushed’ finish when used to apply liquid foundation. It can also be used to apply blush, highlight shades and loose pigments. Blend of synthetic and natural bristles. ส่วนตัวทรายอยากได้แปรงตัวนี้มาปัดชิมเมอร์ แต่จริงๆแล้วแปรงนี้เหมือนแปรงสารพัดประโยชน์ ใช้ลงรองพื้นแบบน้ำก้ได้ ใช้ปัดแก้มก็ได้ แต่เหมาะกับไฮไลท์/ชิมเมอร์ที่สุด จากที่อ่านหลายๆรีวิวเค้าบอกว่าแปรงตัวนี้ของซิกม่า คุณภาพดีเหมือนของแม็คเลยค่ะ SS168 Large Angled Contour Brush : The angled shape makes this brush ideal to apply blush or contour shades. Natural bristles. แปรงปัดแก้มหรือใช้ทำเฉดดิ้งได้ ขนแปรงเป็นเฉียงๆพุ่มไม่ใหญ่มากแต่นุ่มดีค่ะ SS190 Foundation Brush : Can be used to apply liquid or cream foundation. It is also recommended to apply moisturizers and conceal large areas. Synthetic bristles. แปรงรองพื้น ตัวนี้เป็นแปรงที่ทรายอยากได้ที่สุด ใช้ได้กับรองพื้นทั้งแบบน้ำและครีม ทรายอยากได้ทั้งๆที่ไม่ใช้รองพื้น ห้าๆๆ แต่ว่าหลายรีวิวบอกว่าแปรงนี้ดี เหมือนของแม็คเลย ทรายก็เลยอยากได้มาลองบ้างเพราะมันถูกกว่าเยอะเลย เค้าบอกว่านอกจากลงรองพื้นแล้ว ยังใช้ลงมอยเจอร์หรือคอนซีลเลอร์ในกรณีต้องลงเยอะๆได้ด้วยนะคะ และต่อไปเป็นเซ็ทที่เอาไว้ทาอายแชโดว์ค่ะ SS239 Eye Shading Brush: Soft and dense with a rounded finish. Can be used to apply pressed or loose eye shadows and pigments. Ideal to build intense color on the eyelid. Natural bristles. เหมาะกับใช้คัดเบ้าค่ะ ใช้ได้ทั้งกับอายแชโดวแบบฝุ่นและพิกเมนต์ SS252 Large Shader Brush: Flat shape is ideal for application of cream formulas and eye shadow primers. It also works great with loose eye shadows or pigments. Can be used to apply color all over the lid or precisely on the lash line. Natural bristles. แปรงรูปร่างแบนเหมาะกับใช้ลงพวกครีมอายแชโดว์หรืออายแชโดว์ไพรเมอร์ค่ะ มันค่อนข้างใหญ่ดังนั้นเหมาะจะลงในวงกว้างมากกว่าค่ะ SS219 Pencil Brush: Precise application of color on the crease, outer corner, and upper and lower lash line. Also ideal to smudge out pencil liner. Natural bristles. แปรงนี้เหมาะกับลงสีแบบใกล้ขอบตา หรือรอบพับเปลือกตาค่ะ สามารถใช้เป็น smudge brush ได้ด้วย SS275 Medium Angled Shading Brush: Angled, tapered, flat top. Ideal to apply highlight shades underneath the eyebrow and on the inner corners. It can also be used for a precise application of darker shades on the crease area. Natural bristles. เหมาะใช้ลงสีช่วงโหนกคิ้วค่ะ SS224 Tapered Blending Brush: Rounded and tapered top. Specially designed to apply and blend color on the crease. Natural bristles. แปรงทรงกลมยาวๆ เค้าบอกว่าออกแบบมาพิเศษเอาไว้เบลนด์สีช่วงรอยพับเปลือกตาค่ะ ต่อไปเป็นแปรงย่อยๆค่ะ SS194 concealer Brush: The rounded, tampered, flat shape makes this brush ideal to conceal the under eye area. It is also recommended for a precise application in small areas. Synthetic bristles. แปรงคอนซีลเลอร์ เหมาะกับทารอบๆดวงตาค่ะ  SS266 Small Angle Brush: Essential for the application of gel or cream eyeliner on the upper and lower lash line. This brush is also excellent to filling out the eyebrows. Synthetic bristles. ใช้สำหรับเขียนไลเนอร์แบบเจลหรือครีมค่ะ แต่ก็สามารถใช้เป็นแปรงคิ้วได้ด้วยค่ะ SS209 Eyeliner Brush: An extra-fine tipped synthetic fiber brush that delivers a precise, firm, even stroke with which to line the eyes. เป็นแปรงไลเนอร์ทรงเหมือนพู่กันเล็กๆเลยค่ะ  *ต่อpart2 นะคะ สำหรับคนที่ถามว่าซื้อได้ที่ไหน ซื้อได้จากเว็ปเค้าเลยอ่าค่ะ เป็นของเมืองนอก สั่งจ่ายผ่าน paypal เท่านั้น ทรายเอาลิ้งค์มาลงไว้ให้เพราะบางทีถามมาทรายก็ไม่ได้ตอบอ่าค่ะ กดที่แบนเนอร์ได้เลยคับ   Create Date : 20 พฤษภาคม 2553     Last Update : 24 มกราคม 2554 0:14:44 น. Counter : 1893 Pageviews.   22 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com