|
THE DIARY OF A MADMAN บันทึกของคนบ้า
Posted by a_somjai on Monday, April 30, 2007 @ 3:49 AM.
ฉัน--คนโพสต์เรื่องลงบล็อกนี้ เริ่มอ่านบันทึกของคนบ้า จากหน้าที่หนึ่งลงวันที่ ๓ ตุลา มาจนถึงบันทึกเมื่อวันที่ ๘ ธันวา ฉันจึงแน่ใจร้อยเปอร์เซนต์ว่า ตัวละคนคนเขียนบันทึก--อักเซนตี้ อีวาโนวิช เสมียนตราเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับหนังสือของกรมราชการรัสเซียแห่งหนึ่ง พระเอกในนิยายเรื่องนี้ เป็นบ้าแน่นอน ไร้ข้อสงกะสัย
เพราะช่วงที่นิโคไล วาชิเลวิช โกโกล ผู้ประพันธ์--เขียนบันทึกของคนบ้าขึ้นนั้น เป็นช่วงที่เกิดความขัดแย้งวุ่นวายขึ้นทั่วประเทศในปัญหาการสืบราชบัลลังก์ของสเปน ซึ่งเป็นกรณีใหญ่โตเท่า ๆ กับการปฏิวัติใหญ่เดือนกรกฎาคมของฝรั่งเศลนั้น
เขา--วาชิเลวิช โกโกล ให้ตัวละครเอกเขียนว่า ตนเองกำลังจะออกไปทำงานอยู่ทีเดียว แต่มันมีเหตุผลหลายอย่าง ความคิดหลายอย่างมาสะกัดไว้ เขา--ตัวเองเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสเปนออกไปจากหัวไม่ได้ แล้วคิดว่าชาวสเปนจะให้คนที่คนทั้งโลกไม่ยอมรับขึ้นเป็นกษัตริย์ได้อย่างไร อังกฤษก็ไม่ยอม ทั้งยังมีการเมืองสารพัดทางฟากยุโรปอีก จักรพรรดิแห่งออสเตรียและพระเจ้าซาร์ของรัสเซียก็ไม่ยอมรับ เป็นต้น
ตัวพระเอก--นายอีวาโนวิชผู้เขียนบันทึกรู้ตัวเองดีว่า เหตุการณ์เหล่านี้มันกระหน่ำเข้ามาในหัวของเขาเสียจนทำอะไรไม่ได้เอาเลยตลอดวันนั้นทั้งวัน มาวราคนรับใช้แก่ ๆ ของเขาพูดเป็นข้อสังเกตเมื่อตอนเขานั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นว่า เขาดูเคร่งเครียดเอามาก ๆ ซึ่งพระเอกของเรื่องก็ยอมรับว่าจริง เพราะปรากฏว่าเขาขว้างจานแตกละเอียดไปสองใบ
ในบันทึกเขียนว่า หลังมื้อเย็นฉันออกไปเดินแถว ๆ เชิงเขา ไม่เจออะไรที่ชี้ทางให้เลย เวลาส่วนใหญ่ฉันนอนอยู่บนเตียง คิด คิด คิดแต่เรื่องสเปนนี่แหละ
และเนื้อหาในบันทึกของคนบ้าตอนนี้เองทำให้ฉัน--คนอ่านได้คิดว่า ข่าวสารวิกฤตการณ์ของบ้านเมืองและรวมทั้งของสังคมโลกที่ไหลหลากหลั่งล้นโหมกระหน่ำใส่คนเรานั้น บีบคั้นให้ผู้คนวิตกกังวล วุ่นวายใจ ไม่เป็นอันอยู่อันทำมาหากินถึงขั้นเป็นบ้าได้
ไม่แต่ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวการเมือง ข่าวสงคราม ข่าวอาชญากรรม ทั้งระดับโลก ระดับภูมิภาค ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น เท่านั้นดอกนะ
ฉันเอง--คนอ่านหนังสือเล่มนี้และเป็นบ้า...คนเดียวกันที่โพสต์เรื่องนี้อยู่คิดว่า..; ข่าวหนัง ละคร เพลง ดนตรี ดารา รวมทั้งอุตสาหกรรมบันเทิงคดี ภาพยนตร์ ต่าง ๆ นานา ที่หลั่งไหลเข้ามาเหมือนเชิงว่าไร้สาระก็ดี ข่าวกีฬาก็ดี ข่าวสารความก้าวหน้าแห่งความรู้ วิทยาการและเทคโนโลยี ข่าววงการหนังสือ สิ่งพิมพ์อะไรก็เถอะ ล้วนแล้วมีส่วนสำคัญทำให้คนยุคเรานี้เป็นบ้าเป็นหลังกันไปแล้วทั้งหมดทั้งสิ้น
หรือใครที่บ้าพอที่จะไม่ยอมรับในข้อที่กล่าวมานี้ ฉันคนเขียนบล็อกนี้ขอท้าให้แก้ผ้าออกมาคุยกัน วันอาทิตย์ที่ถนนคนเดินย่านถนนท่าแพกลางเวียงเชียงใหม่ทุกสัปดาห์
อิอิ นัดมาได้เลย
ในบันทึกหน้าถัดมานายอักเซนตี้ อีวาโนวิช พระเอกเสมียนผู้น่าทุบตี(ถ้ามาอยู่ใกล้ ๆ มือฉัน) แกแสดงความบ้าออกมาอย่างชัดเจน โดยบอกไว้ในบันทึกว่าตรงกับ วันที่ ๔๓ เมษา ปี ๒๐๐๐ ทั้ง ๆ ที่หนังสือนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. ๑๘๓๔ ว่า--
วันนี้เราเฉลิมฉลองเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่ง สเปนมีกษัตริย์ พระองค์ทรงได้รับการค้นพบแล้ว ฉันคือกษัตริย์พระองค์นี้ เพิ่งวันนี้เองที่ฉันพบความจริงนี้ ต้องยอมรับว่าอยู่ ๆ มันก็เข้ามาที่ฉันอย่างฉับพลัน ในชั่วแว้บเดียว ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า ฉันคิดว่าตัวเองเป็นเสมียนตราอยู่ได้ยังไง ความคิดเหลวไหลพวกนี้เข้ามาในหัวได้ยังไง ยังโชคดีนะที่ไม่มีใครเอาไปขังในคุกคนบ้าเสียก่อน เอากะพ่อซี โอย! คุณผู้อ่านที่รัก! คุณว่าแก่บ้าไหมล่ะ?
อ่านตรงนี้แล้วฉันเกือบจะสูญเสียคุณสมบัติบ้า ๆ ประจำตัวไปอย่างไม่อาจเรียกคืนมาได้อีกเลยชั่วชีวิต แต่ยังโชคดีนะที่ฉํนรั้งมันไว้อยู่กับตัวได้ทัน (แต่ต่อมาอีก 3-4 ปีที่ได้อ่านหนังสือเรื่องนี้ผ่านมา ฉันก็ลาออกจากงานเสมียนราชการเอาอย่างนายอีวาโนวิช มาเล่น blog - blogging อยู่กับบ้าน ผ่านมาได้หนึ่งปีแล้วไง... สูว่าตูบ้าไหมฝะ?)
ดลสิทธิ์ บางคมบาง คนบ้าผู้แปลเรื่องนี้ (ฮา) เขียนไว้ว่า ช่วงที่เขียนบันทึกของคนบ้าขึ้น เป็นช่วงที่โกโกลสนใจเรื่องราวของการเป็นบ้าอย่างมาก และได้แสดงความเข้าใจในพัฒนาการของการเป็นบ้าออกมาในรูปของบันทึก
ผู้แปลบอกว่า บันทึกของคนบ้า จึงเป็นโศกนาฏกรรมของชีวิต ซึ่งความฝันกับความเป็นจริงได้หลอมเข้าด้วยกันเสียจนไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรเป็นความจริง อะไรเป็นการหลงหลอน อะไรเป็นสิ่งทรงค่า อะไรเป็นสิ่งไร้ค่า และซึ่งในด้านหนึ่งแล้วก็เป็นน้ำเสียงที่บ่งบอกจิตภายในของตัวผู้เขียนเองว่ามีแนวโน้มที่จะนึกคิดไปเช่นนั้น อันได้แสดงออกในปั้นปลายชีวิตของเขา (ตามข้อมูลว่าช่วงหลังเขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ ช่วงท้าย ๆ คลั่งศาสนา อยู่ภายใต้การกำกับของผู้นำทางวิญญาณ ซึ่งสั่งให้เขาเผาหนังสือ วิญญาณที่ตายแล้ว ภาคสอง ที่เขาแต่งขึ้น เพราะถือเป็นงานที่บาป เขา--นิโคไล วาชิเลวิช โกโกล ตายในปี ๑๘๕๒ จากการถืออดอย่างเกินร่างกายจะรับได้)
บัดนี้ทุกสิ่งทุกอย่างเปิดเผยขึ้นกับฉันหมดแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ ฉันเห็นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในม่านหมอก สิ่งแรกเลยฉันแจ้งกับมาวราก่อนว่าฉันเป็นใคร พอได้ยินว่ากษัตริย์สเปนกำลังยืนอยู่ต่อหน้าเท่านั้น หล่อนถึงกับยกมือขึ้นกุมที่หน้าอก และแทบจะขาดใจตายไปด้วยความตกใจ ยายโง่เอ๊ย- หล่อนไม่เคยเห็นกษัตริย์สเปนมาก่อน
และหลังจากนั้นเสมียนต่ำต้อยแห่งกรมราชการรัสเซียผู้ค้นพบว่าตนเองเป็นถึงกษัตริย์แห่งสปน ก็ไม่ได้ออกไปทำงานให้กรมนั้นอีก ด้วยเหตุผลที่ให้กับตัวเองว่า -- ไม่หรอกเพื่อน แกไม่มีทางหลอกให้ฉันกลับไปที่นั่นได้อีกแล้ว แกไม่มีทางจับฉันไปนั่งทำงานคัดลอกเอกสารโง่ ๆ ของแกนั่นได้อีกต่อไปแล้ว
ให้ตายเถอะอ่านบันทึกของคนบ้าที่ถูกเขียนขึ้น ประมาณว่าหากนับอายุหนังสือเรื่องนี้ก็ได้มากกว่า ๑๕๐ ปีแล้ว แปลกไหมเล่าคุณ ๆ คนมีสติสตังค์ดีทั้งหลายครับ
ทำไมฉันคนเขียนบล็อกนี้คิดไปถึงการสนองนโยบายรัฐบาลนี้และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติว่าด้วยเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง กับการลดความทะยานอยากมีอยากเป็นในการบริโภคกิเลสตัณหาก็ไม่รู้
ก็ไม่รู้
เออก็ไม่รู้ว่าในยุคสมัยอันใกล้นี้จะมีคนไทยตกงานกันกี่หมื่นกี่แสนคนไปนู้นแหละ?
นักวิจารณ์คนสำคัญผู้หนึ่งของรัสเซียในยุค(ที่โกโกลแต่ง/พิมพ์หนังสือเล่มนี้)นั้นได้เขียนวิจารณ์ไว้ว่า
ไม่มีงานเขียนอื่นชิ้นใดของโกโกลที่จะอัดแน่นความตลกไว้มากเท่า บันทึกของคนบ้า และกระนั้นก็ยังเป็นงานโศกนาฏกรรมที่รันทดยิ่ง
แต่ฉันa_somjai คนเขียนบล็อกนี้ ไม่เห็นด้วยกับความเห็นข้างต้นดอกนะ เพราะตนเองมีวิธีคิดวิธีมองโลกตลอดมาในแนวตั้งชื่อเท่ ๆ ตามประสาคนบ้า ๆ ว่า นาฏกรรมสุก ๆ ดิบ ๆ (อยากรู้ว่าเป็นยังไงก็ต้องติดตามอ่านต่องานเขียนบนบล็อกนี้คราวต่อไปละกัน ขอเรียนว่าช่วงนี้อาจจะเขียนอะไร ๆ ที่มันเป็นเรื่องบ้า ๆ ลากยาวกันข้ามเดือนข้ามปีอย่างต่อเนื่องก็ได้
ทั้งคนเขียน คนอ่าน และคนไม่ได้เขียนไม่ได้อ่าน
ให้มันบ้ากันไปข้างหนึ่งดูสิ
ไม่แน่นะ รัฐบาลนี้ และ/หรือรัฐบาลหน้า อาจจะมีนโยบายให้ประชาชนอย่างพวกเรา ๆ
ไปตีทะเบียนคนบ้าอย่างพอเพียงก็ได้ ฮิ ฮิ)
[หมายเหตุ: งานเขียนนี้เป็นงานเก่าสมัยฉันเขียนคอลัมน์ประเภทหิ้งหนังสืออยู่พักใหญ่ ๆ งานชุดนี้เขียนผ่านมานาน 4-5 ปีแล้วเห็นจะได้ นำมาดัดแปลงนิด ๆ หน่อย ๆ แล้วโพสต์ลงบล็อกพอให้หายบ้า ก็...หน้าร้อน..ปีนี้มันร้อนมากจริง ๆ อะนะ หนังสือที่อ่านเล่มนี้ชื่อ THE DIARY OF A MADMAN บันทึกของคนบ้า แต่งโดยนิโคไล โกโกล / แปลโดยดลสิทธิ์ บางคมบาง เป็นหนึ่งในหนังสือชุด คมบางคลาสสิค ของสำนักพิมพ์คมบาง --ไม่มีภาพประกอบลงไว้ให้ดู สนใจก็ตามลิงก์ไป //www.combangbooks.com ไม่รู้ว่าไซต์นี้ยังอยู่หรือไม่? หรือติดต่อ ตู้ปณ. ๙ ปท.อ่อนนุช กท. ๑๐๒๕๐ ...เข้าไปดูกันเองละกัน อ้อ
เขาไม่ได้ห้าม..คนไม่บ้า อ่านดอกนะ] **แก้ไขเว็ปไซต์ของสำนักพิมพ์คมบาง (หาเจอแล้ว) เป็น //www.combangweb.com/
Create Date : 30 เมษายน 2550 |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2550 8:50:49 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1376 Pageviews. |
|
|
|
โดย: BoOKend วันที่: 30 เมษายน 2550 เวลา:10:33:20 น. |
|
|
|
โดย: shamrock (amy_de_alamode ) วันที่: 30 เมษายน 2550 เวลา:20:06:00 น. |
|
|
|
โดย: น้องเส้ง ครับ IP: 124.157.180.227 วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:51:05 น. |
|
|
|
โดย: a_somjai วันที่: 31 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:33:24 น. |
|
|
|
| |
|
|
อยากรู้จังว่าจะเป็นยังไง จะคอยตามอ่านค่ะ