|
อิสรภาพอีเลคทรอนิคส์ (e-freedom)
Posted by A_Somjai | January 12, 2006 @ 02: 29 AM | freedom of speech | e-freedom| Internet censorship | American "Internet sector companies" | China | blog, blogger |
ก็อย่างที่เขียนไว้ในหัวข้อที่กำกับดัวย (006) ต่าง ๆ เกี่ยวกับบรรยากาศการเล่นอินเทอร์เน็ตเมืองจีนนั้น คงไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจอะไรหากว่าจะมีการกลั่นกรองควบคุมการเล่นเน็ตของชาวจีนโดยร้ฐบาลจีนคอมมิวนิสต์ สำหรับชาวบล็อกเกอร์แล้วก็เป็นที่รู้กันว่ารัฐบาลจีนมักจะเซนเซอร์บล็อกเกอร์ คือกันคนเล่นโพสต์บนบล็อกที่รัฐไม่พึงปรารถนาออกไปจากโลกออนไลน์ที่ต้องผ่านอินเตอร์เน็ตภายใต้อำนาจควบคุมของตน หรือกีดกันกำจัด URLs ที่จะเข้าถึง blog sites เหล่านั้นเสียแต่ต้นทาง
แต่เชื่อไหม? ว่าธุรกิจเอกชนจากประเทศเสรีนิยม-ทุนนิยมการตลาด บริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ อย่างเช่น "Microsoft" ก็กระโดดเข้าร่วมการเซนเซอร์หรือ block การเข้าถึง blog บางแห่งหรือของชาวบล็อกบางคน เพื่อสนองนโยบายร้ฐบาลจีนหรือว่าเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจที่ตนจะได้ร้บโอกาสจากรัฐบาลจีนก็ไม่ทราบ เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่ในระดับโลกทีเดียวเชียว
Photoshop of the Day
//rconversation.blogs.com/rconversation/freedom_of_speech/index.html
การเซนเชอร์ของบริษัทเทคโนโลยีอเมริกันต่อ blog ภาษาจีน และ bloggers ชาวจีน ที่เขาทำกันอยู่ มีตัวอย่างเช่น กรณีของหนึ่งในบล็อกเกอร์นักหนังสือพิมพ์ชาวจีน ที่เขียนบล็อกในแนวการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องประเทศจีนค่อนข้างรุนแรง ผู้ใช้นามแฝงในโลกออนไลน์ว่า Anti (ความเป็นมาอ่าน "Good And Bad Things Happened To Mr. Anti" และ บทสัมภาษณ์อ่านที่นี่) พวกคนเหล่านี้จึงตกอยู่ในแบล็กลิสต์ของรัฐบาลจีน ตัว Anti เอง ถูกบีบให้ต้องย้ายที่เล่นบล็อก ที่เคยเล่นในเวปไซต์ของเมืองจีน ไปใช้พื้นที่บล็อกของบริษัทธุรกิจเทคโนโลยีอเมริกัน ด้วยเห็นว่าอยู่นอกอำนาจควบคุมของทางการจีน แต่แล้วก็กลับกลายเป็นว่า Michael Anti คิดผิด เหมือนหนีเสือไปปะแม่งูกินหาง แม่งูก็เลยพาไปกินน้ำบ่อโศก ก็โยกไปโยกมา กับยังต้องหวานอมขมกลืนกินน้ำบ่อทราย ก็เลยต้องย้ายไปย้ายมา เสียอีกด้วย เพราะถูกทางเวปไซต์ของชาวโลกเสรีมีทุนธุรกิจการตลาดเป็นเป้าหมายหลัก ทำการ Block หรือ เซนเซอร์ ไม่ให้คนเข้าถึงบล็อกของเขาได้ ลองเข้าไปบล็อกของ Anti ที่ //mranti.blogneo.com/ ดูก็แล้วกัน ฉันลองหลายหนแล้ว แต่ยังเข้าไม่ได้เลย
การกระทำของเวปไซต์บริษัทเทคโนโลยีชาติตะวันตกเช่นนี้ สงสัยกันว่าเป็นการยอมตามแนวทางขอรัฐบาลจีน เพื่อแลกกับผลประโยชน์อันบริษัทเหล่านี้พึงหวังว่าตนจะได้โกบโกยเอาจากประชากรจำนวนพันล้านคนในเมืองจีนได้สะดวก โดยปราศจากการขัดขวางจากรัฐบาลจีนนั้นเอง
เมื่อ Michael Anti และเพื่อน ๆ ช่วยกันส่งอีเมลบอกเนื้อความคับแค้นใจที่ตนประสพอยู่นี้ป่าวขยายออกไปทั่วโลก เรื่องที่ดูเหมือนไม่เป็นเรื่อง ก็จึงเป็นเรื่องขึ้นมา มีปฏิกิริยาต่อต้านจากชาวบล็อกอย่างกว้างขวางทั่วโลก แม้แต่ชาวบล็อกเกอร์บางคนที่เป็นลูกจ้างของ MSN อย่าง Robert Scoble ได้ส่งข้อความไปยังพวกดูแล MSN space ว่า "Guys over at MSN: sorry, I dont agree with your being used as a state-run thug." และ Robert Scoble ได้ลงข้อความให้บล็อกเกอร์ชาวจีนผู้อาภัพรายนี้ มาเป็นแขกรับเชิญใช้พื้นที่บล็อกของเขา โพสต์ข้อความเห็นต่าง ๆ ลงได้ หากสนใจตามเข้าไปอ่านได้ที่ Scobleizer จะพบเนื้อหาที่ Robert Scoble และลูกจ้างคนอื่น ๆ ของ MSN ได้แสดงความไม่พอใจตอบโต้ผู้บริหารเวปไซต์ในกรณีนี้ ได้เจ็บแสบอย่างต่อเนื่อง (พวกเราเองก็ลองคิดดู เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเราโดนมั้งละก็...คงคับแค้นใจ น่าดูเหมือนกัน)
เรื่องอย่างนี้ คิดว่าคนเล่นบล็อกเมืองไทยก็ควรจะสนใจไว้บ้าง เพราะว่าจะได้เก็บไว้เตือนตน เตรียมตัวไว้ให้พร้อมเพื่อการต่อสู้ ปกป้องสิทธิการคิด การอ่าน การเขียน บนอินเทอร์เน็ตของเรา หากว่าวันหนึ่งรัฐ เอกชน หรือใครก็ตาม มาทำกับพวกเราเช่นนี้บ้าง
ดังที่ Rebecca McKinnon, ผู้ก่อตั้งเวปไซต์ Global Voices Online ทิ้งคำถามไว้ให้ได้คิดกันในทำนองว่า ก็หากว่าบริษัทเทคโนโลยีอเมริกันทำอย่างนี้กับคนจีนได้ ด้วยอ้างเหตุผลว่าเป็นกรณีประนีประนอมทางศีลธรรมให้โอนอ่อนผ่อนตามความต้องการ(ในกฎหมายเฉพาะถิ่น)ของรัฐบาลจีน แล้วละก็ เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าพวกเขาจะไม่ทำอย่างเดียวกันนี้ กับพวกเราประชาชนในประเทศอื่น ๆ อีก? หรือว่า เขาทำกับเราไปแล้ว ก็ไม่รู้?
"If these American technology companies have so few moral qualms about giving in to Chinese government demands to hand over Chinese user data or censor Chinese people's content, can we be sure they won't do the same thing in response to potentially illegal demands by an over-zealous government agency in our own country? Can we trust that they're not already doing so?"
หากท่านใดสนใจว่า "ชาวโลกเขามีปฏิกิริยาตอบสนองเรื่องนี้อย่างไร? อยู่ในกระแสเวลานี้" ก็เข้าไปอ่านศูนย์กลางของกระแสได้ที่งานเขียนของ Rebecca McKinnon, ผู้ก่อตั้งเวปไซต์ Global Voices Online, ที่ RConversation //rconversation.blogs.com/ มีข่าวสารต่อเนื่องกว้างขวางไปสู่ประเด็นอิสรภาพในการแสดงออก โดยเฉพาะอิสรภาพอีเล็คทรอนิคส์ (e-freedom) มาตรฐานจริยธรรมของบริษัทอินเทอร์เน็ต และปฏิกิริยาจากผู้เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวางครอบคลุม เช่น บล็อกเกอร์ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ และบล็อกเกอร์ชาวจีนในฮ่องกง
ตัวอย่างความก้าวหน้าต่อเนื่องของหัวข้อเรื่อง ได้แก่
1. Microsoft takes down Chinese blogger (January 03, 2006) 2. Why Microsoft censorship in China matters to everybody (January 05, 2006) 3. Freedom of speech (January 06, 2006) 4. Ethical Standards for Internet Companies (January 07, 2006) 5. Les Blogs: technology and democracy (December 07, 2005)
และ (Update) =>>>>>>>>>>>>>> 6. Chinese reactions to MSN Censorship (January 05, 2006), Chinese anti-MSN protest (January 06, 2006), Ethical Standards for Internet Companies (January 07, 2006), Microsoft obeyed Chinese law? Or was it just a political request? Should the difference matter? (January 10, 2006), Legislating e-freedom?? (January 11, 2006), Congressional hearings to be held on Net Censorship (January 12, 2006)
ฯลฯ
ในงานเขียนของ Rebecca McKinnon จะโค๊ตข้อความของผู้ออกมาแสดงความคิดเห็นไว้อย่างค่อนข้างทั่วถ้วน และยังทำลิงค์ไปถึงคนอื่น ๆ ที่พูดถึงเกี่ยวข้องก้ับประเด็นร้อน ๆ นี้ อย่างละเอียดยิบ รวมทั้งฝ่ายบริษัทเทคโนโลยีคู่กรณีด้วย
ก่อนหน้านี้ ยังมีบทความน่าสนใจ ในไซต์ Ethical Corporation ได้โค๊ตความเห็นของ John Palfey, director of Harvard Law Schools Berkman Center for the internet and Society ที่ตั้งคำถามไว้เกี่ยวกับเรื่อง ความถูกต้องของบริษัทเทคโนโลยี่ต่าง ๆ ของชาติตะวันตก อย่าง Microsoft, Google, Yahoo และ Cisco ที่กำลังเข้าไปยุ่งเกี่ยว(ในทางที่ผิด)กับการใช้ความรุนแรงต่อสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์การแสดงออกผ่านโลกออนไลน์ของประชากร (ประเทศต่าง ๆ ) นอกจากนี้ยังมีความเห็นของนักคิดที่เฝ้าจับตามองโลกของอินเทอร์เน็ตคนอื่น ๆ ที่ออกมาถามหาความรับผิดชอบของบริษัทเหล่านั้น ต่อหน้าที่การเผยแผ่ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนแก่สังคมมนุษยชาติอีกด้วย ลิงค์ไปอ่าน //www.ethicalcorp.com/content.asp?ContentID=4040
และ เวปไซต์ Reporters Without Borders proposals เรื่อง Do Internet companies need to be regulated to ensure they respect free expression ? (6 January 2006)
อนึ่งเรื่องการเซนเซอร์นักเขียนบนอินเทอร์เน็ตชาวจีนนั้น ในบล็อกของฉันเคยเขียนไว้ใน เลือดข้นกว่าน้ำ ถ้อยคำด่ำลึกกว่าสายเลือด (006/06) เป็นต้น ในนั้นมีเรื่องของชาวจีน"ชื่อ Shi Tao เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจยิ่ง: Shi Tao เป็นนักวารสารศาสตร์ (นักหนังสือพิมพ์ journalist ) และเป็นกวี เขาถูกคำพิพากษาจำคุก ๑๐ ปี โทษฐานเผยแพร่ข่าวสารไปยังเวปไชต์โพ้นทะเล (disclosing news to overseas websites) เพราะว่าข่าวที่ Shi Tao เผยแพร่ออกไปก่อนถึงวันวาระครบรอบสิบห้าปีเหตุการณ์ล้อมปราบสังหารประชาชนที่จัตุรัสเทียนอันเหมินนั้นเป็นสิ่งต้องห้าม" (ถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์บล็อกตัวเอง ต้อนรับปีใหม่ 2006 เพื่อน ๆ คงไม่ว่ากัน)
เรื่องนี้คงยาว ต้องติดตามกันต่อไป.
CC: ประเด็นร้อน: ไมโครซอฟต์ช่วยรัฐบาลจีนเซนเซอร์บล็อกของชาวจีน?>
[อ่านเรื่องเกี่ยวข้องใน: ชีวิตในโลกออนไลน์]
Create Date : 12 มกราคม 2549 |
Last Update : 13 มกราคม 2549 10:03:58 น. |
|
9 comments
|
Counter : 590 Pageviews. |
|
|
|
โดย: jaa_aey วันที่: 12 มกราคม 2549 เวลา:3:36:06 น. |
|
|
|
โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 12 มกราคม 2549 เวลา:8:10:36 น. |
|
|
|
โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 12 มกราคม 2549 เวลา:8:41:58 น. |
|
|
|
โดย: ป่ามืด วันที่: 12 มกราคม 2549 เวลา:11:11:00 น. |
|
|
|
โดย: a_somjai วันที่: 21 มกราคม 2549 เวลา:13:39:41 น. |
|
|
|
โดย: a_somjai วันที่: 27 มกราคม 2549 เวลา:3:19:05 น. |
|
|
|
| |
|
|