=^^= erny makerel =^^=
hi5 comments
Get FREE HI5 Comments
Group Blog
 
All Blogs
 

ไม่ได้ไปมานานแล้ว "ชะอำ" พักไฮโซที่ Springfield Village Golf & Spa ... 29-30 กันยายน 2550 (2)

หลังจากที่เหนื่อยกันมาพอสมควรแล้วกับ ตอนที่ (1)

เราเข้าที่พักในเวลาประมาณห้าโมงเย็น ทำการเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อย มีรถกอล์ฟ มาส่งถึงห้องเลย พอเห็นหน้าห้องก็แอบ Surprise เพราะนึกไม่ถึงว่าเราจะได้พักเป็นบ้านแบบนี้ ที่หรูขนาดนี้ (นึกว่าจะได้พักห้อง Deluxe แบบโรงแรม) แล้วเราก็เข้าไปในบ้านกันสี่คน เค๊าก็ไม่ว่าอะไร (ใจดีจังเลยค่ะ)



เข้าไปแล้วเจอแบบนี้ WoW




ที่ระเบียง มีอ่างจากุชชี่ด้วย



ที่ระเบียง มีเก้าอี้นั่งเล่น


และที่ระเบียง ก็มีชิงช้า



มองกลับเข้าในห้องดูซิ เป็นไง



เพดานสูง โปร่ง โล่ง สะอาดดี



สำรวจห้องน้ำกันบ้างดีกว่า เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดเลยนะเนี่ย
เข้าไปหันไปมองทางซ้าย เจอโถส้วม น่ารักเชียว



เปิดประตูออกไปได้อีก เจออ่างจากุชชี่ที่อยู่ตรงระเบียงนั่นแหละ



หันไปทางขวา เจอห้องอาบน้ำ มีฝักบัวสองแบบให้เลือกอาบตามใจชอบ



สำรวจห้องกันพอสมควรแล้ว พรุ่งนี้เช้าค่อยไปสำรวจบริเวณรอบ ๆ ที่พักดีกว่า แล้วก็นอนพักผ่อนกันอย่างสบายใจ

วันรุ่งขึ้น เราก็ตื่นกันแต่เช้า แม่ตื่นก่อนใคร เพราะเป็นคนตื่นเช้าอยู่แล้ว ก็ไปเดินออกกำลัง พร้อมสำรวจสถานที่
แล้วก็เข้ามาชวนเราไปเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำ แต่แม่ไม่ได้เตรียมชุดว่ายน้ำมา ก็แอบลงทั้งที่ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น แต่ตอนนั้นยังเช้าอยู่ ยังไม่มีแขกคนอื่นลงสระ

ซักพัก มีเจ้าหน้าที่มาบอกว่าใส่เสื้อยืดลงสระไม่ได้ แม่ก็ไม่ว่าไร ขึ้นจากสระแต่โดยดี ไปนั่งทำตาละห้อยอยู่ข้างสระ เจ้าหน้าที่คงสงสาร เลยมาบอกว่า ให้คุณแม่ลงได้อีก 15 นาทีนะครับ เพราะยังไม่มีแขกคนอื่น (ใจดีอีกแล้ว ขอบคุณค่ะ )
ขอบอกว่าสระน้ำเค๊าใหญ่มาก สะอาดด้วย มีทั้งน้ำพุ น้ำตก สไลเดอร์สำหรับเด็ก (เราไปแอบเล่นมาด้วย หนุกดี)



ส่วนของสระเด็ก จะมีทรายให้เด็ก ๆ เล่นด้วย



ห้องอาหาร อยู่ต่ำกว่าน้ำ



ทางเดินไปสระ



เดินไปเดินมา เจอแมว



ส่วนของสนามกอล์ฟ มีรุ้งกินน้ำด้วย



แล้วก็เจออีกสระนึง เล็กลงมาหน่อย



อาคารด้านซ้ายเป็นห้องสัมมนา ด้านขวาเป็นส่วนของโรงแรม



เราออกจากที่พักประมาณ 11 โมงกว่า เพื่อไปทานอาหารกลางวันที่ร้านป้าฮี้ด สะพานปลาชะอำ มีคนบอกเหมือนกันว่า อร่อย
แต่เราไปทานแล้ว เราก็ว่างั้น ๆ นะ แต่อาหารทะเลสดน่ะ ใช่เลย สดมาก

ระหว่างทางกลับเราก็แวะดูรีสอร์ตแถว ๆ หาดเจ้าสำราญ เพราะรู้มาว่ามีรีสอร์ต น่ารัก ๆ ติดหาดอยู่หลายแห่ง
ที่แรกที่แวะคือ Blue Sky ก็ตกแต่งได้น่ารักดี ดูสะอาด อาจเป็นเพราะยังใหม่อยู่
พนักงานต้อนรับดีมาก เปิดห้องให้ดู และให้ถ่ายรูปด้วย





ที่ต่อไปคือ Sea Sky พนักงานของ Blue Sky บอกว่าเจ้าของเดียวกัน แต่ Blue Sky แต่งโทรสีฟ้า Sea Sky แต่งโทนสีเขียว สถานที่ของ Sea จะดูกว้างกว่า โทนสีสบายตากว่าด้วย ส่วนการตกแต่งภายในห้อง ก็เหมือน ๆ กัน
สระน้ำที่ Sea จะกว้างกว่าด้วย





หลังจากนั้น ก็ไปแวะ Fisher's man Village , White Sand , ชมทะเล แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะแบตหมด

บ้านของ Fisher's Man ก็ดูร่มรื่นดี ต้นไม้เยอะ แต่เราว่ามันแออัด
บ้านของ White Sand ก็เหมือนกับ Blue Sky และ Sea Sky แต่กว้างกว่าทั้งสองที่
กระจกของบ้านก็ติดฟิล์มมืด ไม่ค่อยน่าอยู่
ชมทะเล ก็ดูธรรมดา ๆ

ชอบ Sea Sky ที่สุด ไว้โอกาสหน้าจะมาพักนะจ๊ะ

เสร็จจากหาดเจ้าสำราญ แม่บอกว่าให้กลับไปให้ทันจูมง คุณสามีก็พยายามทำเวลา แต่รถเยอะใช้ได้ รถติดพอสมควร เลทไปประมาณครึ่งชั่วโมง ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพจ้า




 

Create Date : 01 ตุลาคม 2550    
Last Update : 1 ตุลาคม 2550 21:51:03 น.
Counter : 3678 Pageviews.  

ไม่ได้ไปมานานแล้ว "ชะอำ" พักไฮโซที่ Springfield Village Golf & Spa ... 29-30 กันยายน 2550 (1)

วันเสาร์ที่ 29-วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2550 ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปเที่ยวชะอำ

พูดถึงชะอำเนี่ย ไม่ได้ไปนานมากกกกแล้ว เพราะถ้าไปโซนนี้ทีไร ก็จะไปหัวหินทุกที
สาเหตุที่ได้มาชะอำนี้ มันก็มีที่มา เนื่องจากได้เปิด www.nanalady.all.at (ซึ่งเป็น web ที่เค๊าซื้อขายแลกเปลี่ยนเครื่องสำอางมือสองกัน) เป็นประจำ
แล้วก็มีคนมาบอกขาย voucher ที่ Springfield Village Golf & Spa ชะอำ ในราคา 1,500 บาท (คืนเดียว)
ซึ่งคนขายเนี่ย ได้รางวัลจากบัตรซิตี้แบ้งค์ (เค๊าว่างั้น) เราก็รีบจองอย่างไม่ค่อยมีหวังเท่าไหร่ (เพราะเป็นคิวที่ 5 แล้วล่ะ)

ในที่สุดเราก็ได้ voucher นี้มาจนได้แบบเกือบไม่ได้ไป

และพอได้ไปมาก็รู้สึกว่า "คุ้มแสนคุ้ม" กับพันห้าที่เสียไป ฮี่ ฮี่





พอเล่าให้แม่ฟังว่าจะไปเที่ยวชะอำกับสามี เสาร์-อาทิตย์นี้ จะพาหลานไปด้วย แม่ก็ร้องตามบอกว่าแม่ไปด้วย เอาล่ะสิ แอบเครียดนิดนึง เพราะที่จองน่ะเป็นห้อง Deluxe แบบนอนสองคน ส่วนหลานที่ตอนแรกจะพาไปด้วยน่ะจะให้แอบ ๆ เข้าไป อิ อิ




แต่ในเมื่อแม่อยากไปก็ "ได้อยู่แล้ว" เป็นไงเป็นกัน ถ้าเค๊าให้เสริมเตียงก็ได้ล่ะ
นาน ๆ ทีแม่จะออกปากเองว่าอยากไปเที่ยว ทุกทีชวนไปเที่ยวไหนก็ไม่ค่อยจะยอมไปด้วยสิ

วันเสาร์เช้าออกเดินทางออกจากบ้านตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง ถามแม่ว่าจะไปเที่ยวพระราชนิเวศมฤคทายวันมั้ย แม่ก็ไป ไป ไม่ได้ไปดูนานแล้ว โอเค ได้เล้ย ไปถึงประมาณสิบโมงกว่า ๆ ก็ซื้อตั๋ว เช่าจักรยาน เพราะตรงที่ซื้อตั๋วเค๊าบอกว่า สามารถขี่จักรยานชมป่าชายเลนได้ ถามแม่ว่าเอามั้ย แม่ก็เอา ๆ เพราะแม่ขี่จักรยานทุกเช้าอยู่แล้ว (แม่เราแข็งแรง )





ขี่จักรยานไปด้านซ้าย ที่แรกที่เจอคือ อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ผู้มีพระคุณของครอบครัวเรา ต้องขอถวายบังคมก่อนเลย




ที่ต่อไปคือ บ้านเจ้าพระยารามราฆพ (แม่รู้จักด้วยว่าเป็นราชองครักษ์ของรัชกาลที่ 6 ... เราไม่รู้จักง่ะ) สวยดี ขนาดเล็ก ๆ กระทัดรัด น่ารักดี
















เสร็จแล้วก็ขี่จักรยานไปดูป่าชายเลนต่อ เริ่มเจ็บก้นนิด ๆ แล้วล่ะ แต่ไม่เห็นมีใครบ่นเลย








ขี่จักรยานกันหลงกันไปเรื่อยเลย ร้อนก็ร้อน (ขนาดไม่ค่อยมีแดดนะเนี่ย) แต่ดีนะ ในป่าชายเลนมันก็มีอากาศเย็น ๆ ชุ่มฉ่ำ ๆ บ้าง

หลังจากหลงป่ากันพักนึง เราก็ไปเข้าไปดูภายในพระราชวังกันต่อเลย สวยงามจริง ๆ















อยู่กันที่นี่สองชั่วโมงกว่าแน่ะ ดูนาฬิกาอีกทีก็เกือบบ่ายโมงแล้ว หิวทันที!!!
เดินทางไปทานอาหารทะเลที่ร้านเปิ้ลซีฟู๊ด เขาตะเกียบโน่น
เพราะหลายคนบอกว่าอร่อย และอยู่ริมหาดด้วย
อาหารทะเลก็อร่อยใช้ได้นะ แต่เด็กในร้านพี่เค๊าไม่สนใจจะบริการเล้ย (ขอบ่นนิดนึง)

วิวที่มองออกไปจากร้าน เป็นเง้



อาหารมื้อเน้




มีน้องหมาหน้ามู่เห่าเราด้วย มาทราบชื่อทีหลังว่าเจ้าลัคกี้ ดูไปดูมาก็น่ารักดีนะ (ถ้าไม่เห่าเราน่ะ)



อิ่มแล้ว แม่ขอลงน้ำทะเลหน่อยนึง ... ได้อยู่แล้วแม่ อยากทำอะไร จัดห้ายยยย



เล่นน้ำไปได้ประมาณ 15 นาที ฝนก็เทกระหน่ำ แม่เราก็เลยอาบน้ำฝนต่อเลย (แม่บอกว่า คนมีบุญ ได้อาบน้ำทะเลแล้วก็ได้อาบน้ำจืดเลย 5555 )

แม่เปลี่ยนเสื้อผ้าในรถเสร็จ ฝนก็ยังตกอยู่ ก็ไม่รู้จะไปเที่ยวไหนกันต่อดี เราเสนอว่าไปหลบฝนกินไอติมเสวนเซ่นส์กันดีกว่า ทุกคนโอเค
แต่ไม่มีรูปไอติมให้ดูเพราะหมดไปอย่างรวดเร็ว อิ อิ

กินเสร็จไปแวะซื้อข้าวผัดปูกับยำทะเลที่ร้านไฮ้เปียงไปกินที่ ที่พักตอนเย็น เพราะขี้เกียจออกไปไหนๆ แล้ว (เหนื่อย กับเจ็บก้นน่ะ )

ขับรถย้อนกลับไปชะอำ เพื่อไปที่พัก Springfield Village จะอยู่แถวถนน By Pass เข้าไปในป่าเขา เพราะเป็นสนามกอล์ฟด้วย แม่ถามว่า ทำไมไม่อยู่ติดทะเลล่ะ เอาน่า.. แม่ห้องราคาเต็มเป็นหมื่น ซื้อมาได้พันห้าก็โอเคล่ะ

เข้าที่พักเท่านั้นแหละ โห..... หายเหนื่อยเลย ที่พักดีมากกกกกกก หรูมากกกกกกก
เค๊าให้เราอยู่แบบ Deluxe Cottage ด้วย เยี่ยมไปเลย

แล้วมาดูสถานที่ที่พักกันใน ตอน (2) ต่อไปนะจ๊ะ




 

Create Date : 01 ตุลาคม 2550    
Last Update : 1 ตุลาคม 2550 20:54:54 น.
Counter : 3504 Pageviews.  

ครั้งแรกของ "ปาย" พัก The Quarter หรูซะ ...29-31 สิงหาคม 2550

ได้ไปซะที "ปาย" ที่ใคร ๆ ก็ประทับใจ
อยากไปดูซักครั้งซิ จะเป็นไงบ้าง
แต่ทริปนี้ ไปแบบไม่ได้ตั้งใจเท่าไหร่
อันเนื่องมาจากโปรโมชั่น WOW ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ กรุงเทพ-เชียงใหม่ 500 บาท
ทำให้ตาลุกวาว (จริง ๆ) รวมเบ็ดเสร็จแล้วก็ 1,010 บาทค่ะ

ดิฉันก็เริ่ม search หาวันที่สะดวกจองทันที แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวไหนเลย เชียงใหม่ก็ไปตั้งหลายครั้งแล้ว
วันพุธที่ 22 สิงหาคมนะ กรุงเทพ-เชียงใหม่ พอดีมีที่ว่างอยู่ กะว่าเดินทางไปวันพุธ กลับเสาร์ เดี๋ยวขากลับค่อยว่ากันอีกทีว่าจะกลับยังไง
ก็ทำการจองทันที จ่ายบัตรเครดิตเรียบร้อย
แต่ผลกลับมาจองได้วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม เชียงใหม่-กรุงเทพ ก็ยังงงเหมือนกัน แต่ก็... เอาก็เอาวะ จ่ายเงินไปแล้วนี่ ค่อยหาทางไปอีกที





เมื่อยังไม่รู้ว่าจะเที่ยวไหนที่เชียงใหม่ เลยกะว่าจะไปนอนพักผ่อนเล่นซะสองวัน
Search หาสถานทีเที่ยวในเชียงใหม่ที่เรายังไม่เคยไป และได้คูปองเงินสดลดทั่วไทย ของ ททท.จากปั๊มบางจาก
ก็มานั่งเปิดๆๆๆ ดู สนใจบ้านก๋องคำ ที่เป็นแพ็คเกจสามวันสองคืน เปิดไปเปิดมาเจอเดอะควอเตอร์ อ.ปาย แม่ฮ่องสอน เห็นที่พักสวยดี แล้วเราก็ไม่เคยไปปายด้วย น่าไปซักครั้งซิ

เลยเปิดอินเตอร์เน็ตดู //www.thequarterhotel.com
เจอโปรโมชั่นสามวันสองคืน 5500 บาท สำหรับ 2 คน รวมค่าเครื่องบิน SGA เที่ยวเดียว 2 ที่
คิดสะระตะแล้ว ค่าเครื่องบินต่อเที่ยวก็ประมาณ 1400 บาท x 2 คน = 2800
ที่เหลือเป็นค่าที่พัก 2700 บาท สองคืนรวมอาหารเช้า ก็ตกคืนละ 1350
สำหรับที่พักสวย ๆ แบบนี้ ก็น่าสนใจฟะ
โทรไปชวนเพื่อน สว.(สูงวัย) เพื่อนก็อยากไปอยู่แล้วตกลงทันที โห... ดีจัง ตัดสินใจเร็วดีค่ะ
เอาล่ะ ตัดสินใจไป "ปาย"

หลายคนทักว่า ฝนตกนะ น้ำท่วมนะ อันตราย
ไปตอนนี้จะสวยเหรอ เค๊าไปหน้าหนาวกันนะ
เราก็เลยไปเปิดหาข้อมูลในห้อง Blueplanet นี่แหละ หลายคนบอกว่าไป "ปาย" เที่ยวฤดูไหนก็ได้
หน้าฝนยิ่งสวย ก็เลยทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้นไปอีก เอาวะ ลองดู

โทรจองโรงแรมทันที!!!





ทำการจอง+โอนเงินเรียบร้อย พร้อมไปในคืนวันที่ 28 ส.ค. โดยรถทัวร์ของนครชัยแอร์ เที่ยวสองทุ่มครึ่ง ถึงเชียงใหม่ ตีห้าครึ่งค่ะ
แล้วไปต่อรถตู้ของ บ.เปรมประชาทัวร์ เที่ยวแรกเลย หกโมงครึ่ง ถึงท่ารถปายประมาณ เก้าโมงครึ่ง
ขอบอกว่า นั่งรถเมื่อยมาก ๆ ค่ะ เพื่อน สว. ของเราบ่นกระปอดกระแปดตลอดทาง

พอไปถึงเราโทรบอกที่เดอะควอเตอร์ว่ามาถึงแล้ว ซักแป๊บนึง เค๊าก็ส่งรถมารับค่ะ
รถน่ารักดีเนาะ





ให้การต้อนรับดีมาก ๆ ค่ะ





มาดูที่พักกัน ห้องเรา 3A ค่ะ ด้านบนหลังนี้







ในห้อง นอนเตียงแบบนี้





มีร้องเท้าให้ยืมใส่ด้วยค่ะ





มองออกไปด้านนอก ตรงระเบียง พนักงานกำลังปูเบาะรองนั่งหน้าระเบียงให้ค่ะ





โต๊ะทำงาน





แล้วก็มีร่มให้ยืมอีกด้วย 3 คันแน่ะ





มินิบาร์ มีชา-กาแฟ ฟรีค่ะ มีน้ำในตู้เย็นให้สองขวด





มาดูห้องน้ำกันบ้าง
ชอบห้องน้ำที่สุดเลย กว้าง โปร่ง แห้ง
จะจำไว้ไปทำที่รีสอร์ทของเรามั่ง
ห้องน้ำเป็นแนวยาว นี่เป็นด้านซ้าย เป็นส่วนอาบน้ำ มีตุ่มไว้รองน้ำ และขันไว้ตักอาบด้วยล่ะ
ฝักบัวก็มีสองแบบ แบบติดกับสายยาว และแบบสายฝน (เค๊าเรียกว่า rain shower หรือเปล่า )
เลือกอาบกันตามใจชอบได้เลยว่าชอบแบบไหน





ด้านขวา นั่งสบายดี 5555





ตรงกลางเป็นส่วนล้างหน้า แต่งตัว





อุปกรณ์ในห้องน้ำ





มีดรายเออร์ เป่าผมด้วยนะ แล้วก็มีน้ำเปล่าให้สองขวดด้วย





ออกมาดูด้านนอกกันมั่ง ที่ระเบียงมีที่นั่งแบบนี้ นั่ง ๆ นอน ๆ สบายดี ถ้าเป็นหน้าหนาว คงจะสบายกว่านี้
ตอนนี้ไปนั่ง ขนาดมีร่มกาง ยังร้อนเปรี้ยงเลย





มองไปทางซ้าย ว้าวว มีสระว่ายน้ำด้วย แต่ขอโทษ ปิดปรับปรุง แหะ แหะ





มองไปในทิศตรงกันข้ามกัน เจอโรงอาหาร เอ้ย.. ห้องอาหาร





เข้าไปข้างในห้องใหม่ มันร้อน

ขอบอกว่ามีโทรทัศน์ แอร์ พัดลมให้ด้วยนะ







นอนพักสักครู่ พอบ่ายก็ตื่นด้วยความหิว ไปกินข้าวซอยร้านน้องเบียร์ดีกว่า อร่อยดีเจ๊า





แล้วก็ไปนั่งกินกาแฟ ร้าน All about coffee ตามสูตรสำเร็จ





เดินเล่นเตร็ดเตร่ เพราะว่าขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็นกันทั้งคู่ เดินกันจนเหนื่อย ไปไหนไกลไม่ได้เลย
เดินกันไปจนถึง ริมปาย คอทเทจ ที่ตอนแรกว่าจะมาพักที่นี่แหละ เข้าไปดูแล้วชอบมากเลย ต้นไม้เยอะ ร่มรื่นดีจัง
คราวหน้า ถ้ามีโอกาสได้มาอีก จะมาพักที่นี่แหละ





วันนี้มีตลาดนัด เลยไปเดินตลาด หาของพื้นเมืองกิน หิ้วมากินที่โรงแรม ได้มาเช่นนี้แล





มีเจ้าตัวนี้ สองสี แมวประจำโรงแรม มาป่วนด้วย
เชื่องมาก ๆ เลย เรียกก็มาด้วยล่ะ
ดีจัง มีแมวให้เล่นด้วย ชอบบบบบบบบบบบบบบ เมี้ยววววว





มื้อเช้าของวันถัดไป พอดีมีคนพักสองห้อง เค๊าเลยจัดแบบเสริฟให้
มีข้าวต้ม กับอเมริกัน เบร๊กฟาสต์ ทางโรงแรมบอกว่า ถ้าไม่อิ่มเติมได้นะ
ดีจังเลย น่ารักที่ซู๊ด

เราสั่งข้าวต้ม ส่วนเพื่อน สว. สั่งอเมริกันฯ
มัวแต่กิน ลืมถ่ายอาหารมาโชว์ล่ะ

นี่ถ่ายจากที่เรานั่งในห้องอาหารไปยังห้องพักเราค่ะ





ห้องอาหารที่นี่ เค๊าโชว์ครัวค่ะ ดีนะ ดูสะอาด โปร่ง แห้งดี






วันนี้เราจะไปขี่จักรยานเที่ยวกัน ที่โรงแรมมีให้ยืม
จักรยานแบบมีเกียร์ด้วย แต่...ใช้ไม่เป็นฮ่ะ
ขอบอกว่า เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกก
เจ็บก้นอีกต่างหาก
จะขี่ไปกินส้มตำหน้าอำเภอ ...ปิด
มาพักที่ร้านออล อะเบ๊าท์ คอฟฟี่ ดีกว่า





ตอนบ่ายเข้าไปพักในโรงแรม นอนอ่านหนังสือดีกว่า
โรงแรมมีห้องสมุด กับอินเตอร์เน็ตให้เล่นด้วย
อยู่ในนี้ซะครึ่งวันเลยเรา ชอบมาก ๆๆๆ อ่านหนังสือเกือบหมดตู้





ตอนเย็นก็ค่อยเดินออกไปหาข้าวกินข้างนอก
เจอโรตีเจ้านี้ ที่ผู้จัดการโรงแรมบอกว่าอร่อยนะ
จัดการซะเลย ลูกค้าเด็ก ๆ เพียบ





เช้าวันสุดท้าย
วันนี้ต้องกลับบ้านแล้ว
ที่โรงแรมมีแขกมาพักมากขึ้น เค๊าเลยจัดเป็นมินิบุฟเฟท์ น่ารัก ๆ
กินซะอิ่มมาก ๆ ขนมปังงา อร่อยมากเลยค่ะ






นั่ง ๆ นอน ๆ ในห้องสมุดซักพัก
เดินเล่นรอบโรงแรมอีกซักหน่อย
ได้เวลา 11.00 น. ก็เช็คเอ๊าท์
โรงแรมจัดรถไปส่งให้ที่สนามบินปาย
ถ่ายรูปกับผู้จัดการ กับน้องที่ฟร้อนท์ เป็นที่ระลึกซะหน่อย





ไปเครื่องบินลำนี้แหละ ตื่นเต้นจัง






ได้นั่งหลังนักบินเลย






ภายในเครื่องบิน มีผู้โดยสารรวมเราด้วย แค่ 6 คนเอง
เหมือนรถตู้บินได้เลย
เครื่องบินออกประมาณ 11.30 น.





วิวสวย ๆ






เครื่องลงที่สนามบินเชียงใหม่เที่ยงกว่า ๆ ค่ะ
จากนั้นเราขอฝากกระเป๋าไว้ที่เค้าน์เตอร์ของ SGA
เพราะเราต้องขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพตอน 18.20 น.น่ะ
พนักงานน่ารักมาก ๆ ยอมให้เราฝากของโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

ขึ้นรถเมล์เชียงใหม่ ไปหาของพื้นเมืองกินดีกว่า ไปกันเลย "ร้านเฮือนเพ็ญ"








ระหว่างรอเวลา ไปเดินเล่นที่เซ็นทรัล แอร์พอร์ท พลาซ่า
สี่โมงเย็นค่อยมาเช็คอินที่สนามบิน เคาน์เตอร์บางกอกแอร์เวย์
เสร็จแล้วเข้าไปนั่งรอในเล้าจ์ ดูหนัง กินขนม แป๊บเดียวก็ถึงเวลาแล้ว





ได้เวลาไปขึ้นเครื่องบิน ขึ้นรถโดยสารไปกลางลาน เห็นเครื่องบินแล้วแอบผิดหวังนิดหน่อย ลำเล็กจัง หุ หุ





อาหารบนเครื่องบิน ข้าวก้บสตูหมู เราว่าไม่อร่อยน่ะ กินไม่หมดด้วย
แต่ขอน้ำส้มไปสามแก้ว





กินอิ่มแล้ว ถ่ายรูปในเครื่องบินบ้างดีกว่า
เหมือนรถทัวร์บินได้





จบแล้วจ้า ถึงกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) โดยสวัสดิภาพ
สรุปสำหรับ "ปาย" ครั้งแรก เราเฉย ๆ นะ อาจจะไม่ประทับใจเท่าไหร่
มีคนบอกว่า ก็มันไม่หนาวนี่นา ก็อาจจะใช่
แต่ถ้ามาหน้าหนาว คนก็จะเยอะแยะมากมาย แล้วมันจะสวยเหรอ เราไม่ชอบคนเยอะ ๆ น่ะ

และพอดี บรรยากาศแบบนี้ ที่บ้านเรามันก็มีนี่ (จ.เลย) ไม่เห็นต้องมาให้ลำบากขนาดนี้ก็ได้ หนาวกว่าด้วย

แต่ยังไงแล้ว ปลายฝนต้นหนาว (วันที่ 30 ต.ค.-3 พ.ย.50 นี้) เราก็ต้องมากับเพื่อน ๆ อีก ก็น่าจะสวยกว่านี้มั้ง อย่างนี้ต้องพิสูจน์





 

Create Date : 03 กันยายน 2550    
Last Update : 3 กันยายน 2550 19:54:00 น.
Counter : 3399 Pageviews.  

เกาะสมุย ครั้งที่เท่าไหร่แล้วน้อ... 6-8 กรกฎาคม 2550

ประมาณเกือบสิบปีได้แล้วมั้ง ที่ไปเกาะสมุยมา
รู้สึกคิดถึงเหมือนกัน

พอดีมีน้องคนนึงมาขายที่พักที่ บานบุรี รีสอร์ต ใน web นึง ในราคา 4000 บาท (3 วัน 2 คืน)
ก็เข้าไปดูใน web เค๊า //www.banbureeresort.com/

ดูแล้วก็ เออ.. ใช้ได้เนาะ ดูเป็นที่พักมีระดับ (ที่เราไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปพักแบบนี้ ฮี่ ฮี่ ฮี่) แล้วก็สวยมาก มีห้องพักไม่มาก น่าจะเงียบสงบดี
ปรึกษาคุณแฟน เค๊าก็โอเค ลองไปดูซักครั้งก็ได้ นาน ๆ ที

เคลียร์งาน เคลียร์คิวทั้งหลาย ก็ได้ฤกษ์ไปกันในวันที่ 6-8 ก.ค.50 นี้แหละ เพราะหลังจากนี้ไปรีสอร์ตเค๊าจะเป็นช่วง Hi Season แล้ว Complimentary ก็จะใช้ไม่ได้

ถ้าทิ้งไว้นานกว่านี้ อาจจะติดโน่น ติดนี่ ไม่ได้ไปอีก ก็ เอาวะ ช่วงนี้แหละดีสุดแล้ว (ถึงแม้เงินจะไม่ค่อยมีก็ตาม แฮ่ แฮ่)



เอาล่ะ ซื้อที่พักเรียบร้อยแล้ว เราจะไปกันยังไงล่ะคะ คุณแฟ๊นน

จำได้ว่า ตอนเราไปเกาะเต่ากัน เราไปเรือของ บริษัทลมพระยา
เค๊ามีรถบัส พร้อมเรือ ไปถึงเกาะสมุยเลย ก็สะดวกดี

แต่เอ๊ะ!! เดี๋ยวก่อน ลองดูซิว่าไปทางเครื่องบิน จะเป็นราคาเท่าไหร่
อ่ะ ลองดูของ บางกอกแอร์เวย์ ก่อนดีกว่า บินรวดเดียวถึงเลยสบายดี ว่าเป็นราคาเท่าไหร่ ปรากฏว่า ไป-กลับ คนละ 5,232 บาท สองคนก็ 10,464 บาท ก็เลยเอาไว้ก่อนนะ

ทีนี้ลองดูของ Air Asia พอดีมีช่วงโปร 99 บาท คิดเงินแล้วมันก็ไม่แพงหรอก พอรับได้ แต่มันต้องไปลงที่สนามบินสุราษฎร์ธานี แล้วต้องต่อรถบัสมาเกาะสมุย แล้วต้องต่อรถไปที่โรงแรมอีก เอ่อ.. หลายต่อเหลือเกิน ก็เลยเอาไว้ก่อนอีก

อ๊ะ อ๊ะ มีโปร 3 บาทของ นกแอร์ รีบหาเลย ปรากฎว่าไม่มีไปลงเกาะสมุยและสุราษฎร์ฯ เลยผ่านไปเลย

สรุปว่า เปรียบเทียบกันแล้ว ไปรถ+เรือของ บ.ลมพระยา น่าจะโอเคสุด (หาข้อมูลได้แค่นี้) เพราะเค๊ามีบริการรถรับ-ส่งที่โรงแรมในเกาะสมุยด้วย เย้! เที่ยวละ 850 ไปกลับ 1700 บาท สองคนก็ 3400 บาท เสียอย่างเดียวนั่งรถนาน นั่งเรือก็นาน แต่ราคาผ่าน! จอง!!!




 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2550    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2550 15:14:01 น.
Counter : 458 Pageviews.  

สิงคโปร์ 9-11 กุมภาพันธ์ 2550

ได้โบนัสไปเที่ยวสิงคโปร์กับที่ทำงาน เก็บภาพมาไว้ดูเล่นนิดหน่อย




วันแรกเราพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิตอนตีห้าค่ะ
ด้านล่างคือ สัมภาระของคณะทัวร์ (ไปกับไทยสกายทัวร์ค่ะ) เรียงอย่างเป็นระเบียบ



บรรดาคณะทัวร์




เดินทางไปโดยสิงคโปร์แอร์ไลน์ มีจอให้ดูหนังทุกที่นั่งเลย ดีจัง ชอบจัง อยากนั่งนาน ๆ สองชั่วโมงมันน้อยไป




อาหารเช้าบนเครื่องของเรา อร่อยดีเหมือนกันนะ




รู้สึกว่านั่งเครื่องบินแป๊บเดียวเอง ถึงสิงคโปร์แล้ว




ไปถึงก้อประมาณสิบเอ็ดโมง บ.ทัวร์ก็จะพาเราไปกินข้าวก่อน (กินอีกแล้ว) ระหว่างที่นั่งรถบัส ก็จะเห็นตึกสวย ๆ บ้านเมืองสะอาดสะอ้านดีค่ะ










ถึงแล้วร้านอาหารของเรา




แต่ว่ามันไม่อร่อยเลยค่ะ จืดชืดมาก ๆ





กินอิ่มกันแล้วก็ไปถ่ายรูปที่ระลึกกับเมอ ไลอ้อนกันก่อน






ถ่ายรูปเสร็จ พวกเราก็ไปดูงานกันที่ UOB




ไปในช่วงตรุษจีน ต้นส้มมงคลเค๊าทำสวยดีค่ะ




โปรแกรมวันนี้เต็มเหยียด ดูงานเสร็จ ก็ต่อด้วย ไนท์ซาฟารี หลังจากนี้ไปแล้วก็ไม่ได้ถ่ายอะไรมาเลยนะคะ เพราะว่ามันมืด ไม่สามารถถ่ายได้แล้วล่ะค่ะ

โดยส่วนตัวแล้ว เราชอบที่เชียงใหม่มากกว่า แหะ แหะ

สิ้นสุดวันนี้ที่ไนท์ซาฟารี กลับโรงแรมพักผ่อน พรุ่งนี้เราจะไปสวนนกจูร่งกันค่ะ




 

Create Date : 21 มีนาคม 2550    
Last Update : 8 พฤษภาคม 2550 19:25:16 น.
Counter : 1213 Pageviews.  


erny
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบเที่ยวกับชอบแมวค่ะ
Friends' blogs
[Add erny's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.