|
เล่าเรื่องจิตวิทยาการปรึกษา มุมที่คุณไม่เคยรู้
หากพวกเราได้เคยดูหนังฝรั่ง คงจะได้เคยเห็นบางเรื่อง เมื่อคนมีปัญหาทางใจก็จะไปหานักจิตวิทยา ไปนอนแล้วบ่นพึมพำ ๆ พอเสร็จแล้วก็โล่งใจขึ้น กลับไปทำภาระของตนเองได้ต่อไป ภาพอย่างนี้คงเป็นภาพที่ฉายความเป็นนักจิตวิทยาการปรึกษาสำหรับสังคมฝรั่งที่มีอิทธิพลต่อการมองอาชีพนักจิตวิทยาในสังคมไทยพอสมควร
อันที่จริงแล้วนักจิตวิทยาในไทยตอนนี้แฝงตัวไปในแทบทุกที่ และแทบทุกสถาบันอุดมศึกษา ภาพของผู้ที่มารับบริการแบบในหนังนั้น ไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้วในปัจจุบัน
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า จิตวิทยาการปรึกษานั้นมีการ work กับคนไปได้โดยใช้พื้นแนวคิดหลายแนวคิด ทั้งของจิตวิเคราะห์วิแคะ ของซิกมุนด์ ฟรอยด์ หรือ คาเรล จุง สำนักพฤติกรรมนิยม อย่างเช่นของ สกินเนอร์ ที่เป็นที่แพร่หลายกันเป็นอย่างมาก หรือแม้กระทั่ง จิตวิทยาแบบ Mass ของแนวคิดเรื่อง บีแฮฟวิเออร์นิวโรไซส์ (Behavioral Neuroscience) ที่มาแรงอยู่พักหนึ่ง ไปจนถึง NLP ที่เป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างครึกโครมว่าจะนำความสำเร็จอันมหาศาลมาสู่คนได้ เป็นจิตวิทยาที่จะเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นยอดมนุษย์ ซึ่งดูแล้วเหมือนอุลตร้าแมนมากกว่า
เมื่อจิตวิทยามีหลายสำนัก แต่ภาพที่ถูกฉายให้คนได้รับรู้กันนั้น ที่นอนบนเตียง เป็นวิธีการของฟรอยด์เดี้ยน (Freudian) ซึ่งแต่เดิมนั้นฮิตกันมาก ในยุคก่อนที่จะเปลี่ยนมาสู่สำนักแนวคิดแบบ มนุษย์นิยม (Humanism) ซึ่งคาร์ล โรเจอร์ เป็นเจ้าตำรับแห่งสำนักนี้ และอีกคนหนึ่งซึ่งจัดอยู่ในสำนักนี้ได้แก่ อับราฮัม มาสโลว์ ซึ่งศึกษาถึงซูเปอร์มนุษย์ คือคนที่เป็น self-actualizing person ไปแล้วนั่นเอง
จิตวิทยาตะวันตกมีวิวัฒนาการมากมาย และแนวคิดในการนำมาใช้สำหรับการปรึกษาก็มีมากมาย และด้วยความแตกต่างอย่างมากมาย ก็มีคนไปอ้างกันไปต่างต่างนานามากมาย
จิตวิทยาการปรึกษานั้น เรียกตามภาษาอังกฤษได้ว่า Counseling Psychology ไม่ใช่ Consulting หรือ Guidance ใด ๆ
จิตวิทยาการปรึกษาเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่จะนำคนจากความไม่สบายใจ มาสู่ความสบายใจ จากมืดสู่สว่าง จากแคบสู่กว้าง จากว่างสุ่เต็ม จากรกสู่ว่าง
คือเป้าหมายแห่งจิตวิทยาการปรึกษานั้น คือ ใครไม่สบายใจ มาเจอนักจิตวิทยาแล้วจะสบายใจขึ้นได้นั่นเอง หรือใครสบายใจอยู่แล้วก็จะพัฒนาสภาพแห่งความสบายใจนั้นได้
คราวต่อไปจะเล่าถึงความแตกต่างระหว่างจิตวิทยาสำนักต่าง ๆ และ บอกว่ามันมีผลเกี่ยวกับตัวเราทุกคนยังไง และจิตวิทยานั้นมีแต่ของนักคิดฝรั่งอย่างนั้นหรือ แล้วในไทยเรามีหรือไม่ที่เป็นนักคิดอะไรอย่างของฝรั่งเขา
Create Date : 02 ธันวาคม 2548 |
Last Update : 17 ธันวาคม 2548 21:19:33 น. |
|
11 comments
|
Counter : 4126 Pageviews. |
|
|
|
โดย: @opal@ วันที่: 7 ธันวาคม 2548 เวลา:11:56:42 น. |
|
|
|
โดย: คุณย่า วันที่: 14 ธันวาคม 2548 เวลา:7:20:13 น. |
|
|
|
โดย: konku IP: 61.90.14.74 วันที่: 15 ธันวาคม 2548 เวลา:0:53:47 น. |
|
|
|
โดย: cvo IP: 125.24.233.200 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:11:31:36 น. |
|
|
|
โดย: Grace IP: 86.132.179.200 วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:20:18:03 น. |
|
|
|
โดย: เด็กหลงทาง IP: 117.47.140.61 วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:19:28:20 น. |
|
|
|
โดย: aaa IP: 124.121.235.238 วันที่: 26 ธันวาคม 2552 เวลา:20:40:09 น. |
|
|
|
โดย: เด็กจิต IP: 202.29.32.130 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:39:13 น. |
|
|
|
โดย: ping IP: 203.144.144.165 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:32:13 น. |
|
|
|
โดย: คนนึงในโลกนี้ IP: 110.49.193.145 วันที่: 6 มกราคม 2554 เวลา:20:59:27 น. |
|
|
|
โดย: กุมพาพันธ์ IP: 27.55.6.140 วันที่: 3 เมษายน 2556 เวลา:18:13:19 น. |
|
|
|
| |
|
|
เคยไปอบรมเรื่องการ counselling เหมือนกันนะคะ เราว่ามันยากมากเลยค่ะ ต้องเป็นคนมีประสบการณ์และเก่งจริงถึงจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ดีได้ (มิน่าไม่มีใครยอมมาปรึกษา อิอิ)