|
เรื่องราวของคนดีของสังคม..........คนดีที่หายาก
เมื่อวานวันที่ 23 มีนาคม 2548 เป็นวันที่ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งกับความสำเร็จของอาจารย์ที่คณะผมท่านหนึ่ง ซึ่งผมได้ช่วยงานของท่านอยู่ ท่านได้รับรางวัล UNESCO Prize for Human Rights 2004 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้ที่ส่งเสริมการสอน การเผยแพร่ความรู้ทางด้านสิทธิมนษยชน มอบโดยนายโคอิชิโร่ มัตซูอูระ ผู้อำนวยการทั่วไปขององค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรมแห่งองค์การสหประชาชาติ ( United Nations for Education Science and Culture Organizations or UNESCO ) ที่ห้องแกรนด์ฮอลล์ โรงแรม อิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค ซึ่งอาจารย์ของผมผู้ที่ได้รับรางวัลท่านนี้ก็คือ ศาสตราจารย์ วิทิต มันตาภรณ์
อาจารย์วิทิตท่านเป็นศาสตราจารย์ระดับ 11 ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย อยู่ภาควิชากฎหมายระหว่างประเทศ อาจารย์วิทิตท่านถนัดทางด้านกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมือง กฎหมายสิทธิมนุษยชน กฎหมายมนุษยธรรมระว่างประเทศ กฎหมายสหภาพยุโรป กฎหมายองค์การระหว่างประเทศส่วนภูมิภาค ซึ่งท่านก็ได้สอนวิชาที่เกี่ยวกับกฎหมายเหล่านี้ และท่านเองก็เป็นอาจารย์ที่คณะผมมานานถึง 27 ปีแล้ว ยิ่งกว่านั้นปัจจุบันท่านยังดำรงตำแหน่งผู้รายงานพิเศษขององค์การสหประชาชาติเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือโดยได้รับแต่งตั้งเมื่อกลางปีที่แล้ว และท่านยังเคยดำรงตำแหน่งผู้รายงานพิเศษขององค์การสหประชาชาติเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าและการล่วงละเมิดทางเพศต่อสตรีและเด็กอีกด้วย
โดยท่านเป็นนักวิชาการที่ทุ่มเทให้กับงานทางด้านสิทธิมนุษยชนอย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย งานของท่านก็คืองานทั่วไปทางด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งในฐานะที่ท่านเป็นนักวิชาการท่านก็ได้ทำการสอน งานวิจัยทั้งงานวิจัยเอกสาร งานวิจัยภาคสนาม การประชุม การฝึกอบรม การสัมมนาต่าง ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ผู้ตกทุกข์ได้ยากประการหนึ่ง รวมทั้งเพื่อเผยแพร่ความรู้ในเรื่องสิทธิมนุษยชนไปด้วยอีกส่วนหนึ่ง เพื่อที่จะเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้ไม่มีการเบียดเบียน กระทบกระทั่งต่อกัน เคารพสิทธิหน้าที่ของกันและกันในสังคม งานทางวิชาการของท่าน ส่วนใหญ่แล้วเป็นงานที่เขียนในแนวของนิติศาสตร์ผสมกับสังคมศาสตร์ซึ่งท่านมุ่งเน้นไปที่สังคมเป็นหลัก มากกว่าที่จะมีการตีความตามตัวบท เล่นกับถ้อยคำในตัวบทกฎหมายแบบนักกฎหมายท่านอื่น ซึ่งท่านเองมักจะสอนนิสิตในห้องเป็นเชิงว่าอย่าตีความตัวบทจนลืมผลในทางปฏิบัติจากการใช้ตัวบทนั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจในการเรียนกับท่าน ยิ่งกว่านั้น งานท่านยังได้ทำงานเพื่อสังคมหลายอย่าง เช่น สมัยที่ท่านเข้ามาเป็นอาจารย์ในคณะผมใหม่ ๆ ท่านได้เข้าร่วมกิจกรรมค่ายอาสาพัฒนาชนบทกับนิสิตอยู่เสมอในช่วง 6 ปีแรกของการเป็นอาจารย์ โดยได้ไปทำค่ายในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ท่านได้ไปรับรู้ปัญหาของชาวบ้าน รวมทั้งความยากลำบากทำให้ท่านได้รู้ได้เห็นความลำบากของชาวบ้านจำนวนมาก เป็นต้น และถึงแม้ว่าปัจจุบันท่านจะไม่มีเวลาที่จะไปทำงานค่ายอาสาพัฒนาชนบท ท่านก็ยังให้เงินสนับสนุนค่ายอาสาทุกครั้งที่มีโอกาส ท่านบอกว่าเป็นกิจกรรมที่ทำให้เราได้เข้าถึงชาวบ้านเป็นจำนวนมาก และได้ช่วยเหลือสังคม รวมทั้งเรียนรู้ชีวิต
ในการทำงานกับท่าน ท่านเป็นคนที่เข้มงวดพอสมควร ท่านเป็นคนที่ทำงานอย่างมีระบบ มีหลักเกณฑ์ เคารพต่อกฎเกณฑ์ ไม่มีการข้ามขั้นตอนแต่ประการใด ยิ่งกว่านั้นท่านชอบทำงานกับคนที่รับผิดชอบในหน้าที่การงานสูง และมีความคิดริเริ่มในการทำงาน รวมถึงทำอะไรทุกอย่างด้วยตัวเอง ผมเองก็ได้ทำงานให้ท่านในฐานะที่ผมเป็นผู้ช่วยวิจัยซึ่งผมก็ยอมรับว่าผมเองยังไม่มีความรับผิดชอบเท่าไหร่นัก ยังติดเล่น รักสนุกจนลืมหน้าที่ของตัวเองอยู่บ่อย ๆ แต่พอผมได้มาทำงานกับท่าน ก็ได้ทำให้ผมเริ่มรู้จักหน้าที่ของตนเองมากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นมาจากความเข้มงวดของท่าน รวมทั้งความรับผิดชอบในการงานของตัวเองของท่านด้วย อาจารย์วิทิตท่านเป็นคนที่ตรงต่อเวลาอย่างมาก ท่านมักจะเข้าห้องสอนตรงต่อเวลาเสมอ หรือมาก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ ยิ่งกว่านั้นท่านยังเป็นคนที่รู้จักบริหารเวลาที่มีอยู่แสนจะน้อยนิดให้เกิดประโยชน์สูงสุด รู้จักวางระบบให้แก่ชีวิตท่านอยู่เสมอ ซึ่งนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นกิตติศัพท์ที่เลื่องลือในเรื่องความรับผิดชอบของท่าน
ชีวิตการทำงานของอาจารย์วิทิต ผมบอกได้เลยว่าท่านเป็นคนที่ทำงานหนักมาก ท่านทำงานประมาณ 7 วันต่อสัปดาห์ก็ว่าได้ ทั้งที่คณะและที่บ้าน แต่ท่านเองก็ยังคงอารมณ์ดี และเป็นมิตรกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นนิสิต อาจารย์ด้วยกัน บุคลากรในคณะ เพื่อนร่วมงานนอกคณะ ฯลฯ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าท่านเป็นคนที่มีสุขภาพจิตดีมาก ซึ่งท่านเองก็บอกว่าถ้าท่านไม่วิ่งออกกำลังกายทุกวันท่านคงสุขภาพแย่แน่นอน
นิสัยส่วนตัวของอาจารย์วิทิต ท่านเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ใจกว้างและเป็นมิตร ไม่หยิ่ง ไม่วางท่า ทั้ง ๆ ที่ท่านเป็นถึงศาสตราจารย์เป็นที่นับหน้าถือตามากมายแต่ท่านก็ยังคงเป็นมิตรกับทุกคนใจกว้าง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ยิ่งกว่านั้นท่านยังเป็นคนที่ใจเย็น ไม่ค่อยโกรธ ไม่ค่อยแสดงโทสะ เวลาท่านอารมณ์ไม่ดีท่านก็จะเฉย ๆ ไม่แสดงอารมณ์ซึ่งผมว่าคนที่ควบคุมอารมณ์ได้ดีขนาดนี้หาได้ยากมาก เท่าที่ผมเจอมาในชีวิตก็มีแม่ผมกับอาจารย์วิทิตนี่แหละครับ
ส่วนแรงบันดาลใจในการที่ท่านได้มาทำงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนนั้นท่านบอกว่าเกิดขึ้นตอนสมัยท่านยังเด็ก ๆ ตอนนั้นท่านยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนประจำในประเทศอังกฤษ ท่านเล่าให้ฟังในระหว่างที่ท่านกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวานว่าตอนปิดเทอมท่านได้รับจ้างเช็ดกระจกหน้าต่างให้หญิงชราที่เป็นม่ายคนหนึ่ง อาจารย์วิทิตบอกว่า หลังจากเช็ดกระจกเสร็จ หญิงชราคนนั้นได้ให้ค่าตอบแทนเป็นขนมปังกรอบ 2 แผ่นเพราะไม่มีเงิน ท่านจึงรู้สึกสงสารผู้หญิงคนนั้นมาก แต่ด้วยความที่ท่านยังเด็ก ท่านไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ท่านจึงหวนกลับมาคิดได้ว่า ยังมีคนยากจน คนที่ประสบความยากลำบาก เป็นผู้ด้อยโอกาสอยู่มากบนโลกใบนี้ ทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศที่กำลังพัฒนา ซึ่งคนเหล่านี้กำลังรอความช่วยเหลืออยู่ท่านจึงตั้งเป้าไว้ว่าท่านจะช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อลดการเอารัดเอาเปรียบ การล่วงละเมิดสิทธิซึ่งกันและกัน อันนำมาสู่ความขัดแย้งนานาประการอันก่อความทุกข์ยากต่อเพื่อนมนุษย์
ยิ่งกว่านั้นท่านยังได้กล่าวเสริมทิ้งท้ายในสุนทรพจน์ครั้งนี้ว่าท่านจะนำเงิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือ 400,000 บาทที่ได้มาจากการรับรางวัลนี้ไปมอบให้แก่มูลนิธิเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อเอดส์ทางภาคเหนือ ซึ่งผมรู้สึกดีใจที่ท่านทำทุกอย่างในชีวิตท่านเพื่อสังคมของเรา ทำให้ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ทำงานกับคนดีอย่างท่าน ซึ่งความเก่งของท่านนั้นไม่ต้องพูดถึง แต่สำหรับผมแล้ว ผมไม่ค่อยสนใจในเรื่องของความสามารถมากเท่ากับการอุทิศเพื่อส่วนรวมจากใจจริง ซึ่งหลังจากที่ท่านกล่าวเสร็จแล้ว ผมก็นึกถึงคำกล่าวหนึ่งที่ว่า
"อย่าคาดหวังว่าสังคมจะให้อะไรกับเรา เราควรถามตัวเองก่อนเสมอว่าเราได้ให้อะไรแก่สังคมบ้าง"
นั่นแหละครับ ศาสตราจารย์วิทิต มันตาภรณ์ ผู้ที่ทำงานทุกอย่างเพื่อสังคม โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เป็นคนดีที่หาได้ยากยิ่งในสังคมยุคโลกาภิวัตน์นี้
Create Date : 24 มีนาคม 2548 |
Last Update : 24 มีนาคม 2548 20:51:47 น. |
|
11 comments
|
Counter : 1235 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เจไอ วันที่: 24 มีนาคม 2548 เวลา:20:55:02 น. |
|
|
|
โดย: Mu_in_love วันที่: 25 มีนาคม 2548 เวลา:0:08:55 น. |
|
|
|
โดย: makinball IP: 58.8.250.73 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:07:47 น. |
|
|
|
โดย: Zantha วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:7:25:47 น. |
|
|
|
โดย: tawan IP: 203.157.100.22 วันที่: 30 มกราคม 2549 เวลา:18:03:11 น. |
|
|
|
โดย: น.ส. พิมล แซ่เหลี่ยง ม.4/1 ร.ร พิทยาลงกรณ์พิทยาคม ก.ท.ม. IP: 203.113.20.180 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:19:58 น. |
|
|
|
โดย: เธเธเธเธต IP: 117.47.227.55 วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:18:43:21 น. |
|
|
|
โดย: คนดี IP: 117.47.227.55 วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:18:44:11 น. |
|
|
|
โดย: เธเธเธเธต IP: 117.47.227.55 วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:19:22:59 น. |
|
|
|
| |
|
|