จงพอใจในสิ่งที่มีและยินดีกับสิ่งที่ได้
 
เพื่อนแนะนำให้ฉันไปทำ......"เสน่ห์ยาแฝด".......


เพื่อนแนะนำให้ฉันไปทำ......"เสน่ห์ยาแฝด".......


> ฉันกับแฟนคบกันมา 4 ปี มีโครงการจะแต่งงานกันสิ้นปีนี้ แต่แล้วจู่ ๆ
> เค้าก็มาบอกว่า “เราเลิกกัน” “เค้าไม่ได้รักฉันแล้ว ตอนนี้เค้าพบคนใหม่
> ตลอดเวลาเค้าหลอกฉันมาตลอดว่ารัก เค้าจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่สิ้นปีนี้”

> ฉันทำทุกวิถีทางเพื่อจะฉุดรั้งเค้ากลับมา ฉันถามว่าฉันผิดตรงไหน ไม่ดีตรงไหน
> ฉันจะปรับปรุงตัวใหม่ เค้าต้องการอะไรฉันทำให้ได้ทุกอย่างและยอมทุกอย่าง
> ขอเพียงแค่ “กลับมาเหมือนเดิม”
> แต่สิ่งที่ฉันได้รับคือความเฉยชา,หงุดหงิด,รำคาญ ทำอะไรก็ผิดไปหมด

> “เพื่อน” แนะนำฉันให้ “ไปทำเสน่ห์”
> ปกติฉันเป็นคนที่กลัวเรื่องพวกนี้ไม่อยากยุ่งเกี่ยว ไม่อยากเข้าใกล้
> แต่....ณ จุดจุดนี้ ไม่ได้แล้ว ความรักบังตาฉันยอมทุกอย่าง
> ขอเพียงได้เค้ากลับคืน อะไรก็ได้สำหรับฉัน ณ ตอนนี้

> “ปู่ฤาษี” คือผู้ที่เพื่อนฉันพาไปหา เพื่อนบอกว่า “ท่านเก่ง ญาติของเพื่อน
> สามีหนีไปอยู่กับเมียน้อยท่านก็เป็นคนเรียกกลับมา
> ทุกวันนี้ทั้งรักทั้งหลงภรรยา ไม่ไปมีใหม่อีกเลย”

> บ้านปูนชั้นเดียว มีลานจอดรถที่พอจอดรถยนต์ได้ประมาณ 10 คัน
> วันแรกที่ฉันไปมีรถยนต์จอดอยู่ 3 คัน
> มองเข้าไปในบ้านมีคนนั่งจนล้นออกมาข้างนอกมีเสียงหัวเราะดังออกมาเป็นระยะ
> เพื่อนพาฉันเข้าไป ภาพที่ฉันเห็น “ชายหนุ่มอายุน่าจะประมาณ 28 – 29 ปี
> ผมยาวมีลายสักเต็มตัว นัยต์ตาหวานเยิ้ม มือคีบบุหรี่พูดไป ยิ้มไป
> ปล่อยมุกสนุกสนาน ทำให้ผู้ที่เข้ามาหาหัวเราะเป็นระยะ ๆ นุ่งชุดลายเสือ
> ดูดีมีเสน่ห์ “ คนนี้เรอะที่เพื่อนบอกว่าเป็นปู่ฤาษี ทำไมยังหนุ่ม แต่ ณ
> วินาทีนั้นความรักบังตาไม่ได้คิดอะไร เพื่อนบอกว่าดี
> ฉันก็เชื่อโดยที่ไม่ได้คิดถึงเหตุการณ์ในวันข้างหน้าเลย

> เราสองคนนั่งรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง คนที่เข้ามาล็อคแรกก็ออกไป
> ถึงคิวของฉัน เพื่อนแต่งขันธ์ห้า (ดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่) พร้อมเงิน 100 บาท
> ให้ฉันเขียนชื่อ-นามสกุล พร้อมที่อยู่ ของฉันและของแฟน ยื่นให้ปู่ฤาษี


> “.........(เอ่ยชื่อฉัน) ดวงไม่ดี จะถูกแย่งของรัก ....... (เอ่ยชื่อแฟน)
> คนนี้เป็นแฟนใช่มั๊ย” ฉันตอบ “ใช่ค่ะ” มีอะไรจะถาม”ท่านถามฉัน
> ......เงียบ ......ฉันก็ไม่รู้จะถามอะไร
> เพื่อนหันมาสะกิด “ตอบไปซิ” ก็ไม่รู้จะตอบอะไร..........
> ท่านนั่งหลับตาสวดคาถาประมาณ 5-10 คำ แล้วหันมาถาม

> “ รักเค้ามาก ตอนนี้ใจเศร้าหมอง มีแต่คิดจะฆ่าตัวตาย .........อยากได้เค้ากลับมามั๊ย”
> ท่านหันมาถาม
> “อยากได้ค่ะ” ฉันตอบ
> “ถ้าอยากได้คืน จะช่วย แต่จะต้องจ้างน่ะ มีเงินเท่าไหร่”
> “สองพันค่ะ”
> ท่านหลับตาสักพัก “ไม่ใช่หรอก ในกระเป๋าตังค์มีเงิน ห้าพันบาท
> ในสมุดบัญชีมีเงินอีก 3 หมื่น”
> ฉันตกใจ ท่านรู้ได้อย่างไง
> “ถ้าอยากได้คืน ปู่คิดค่าจ้าง 3 หมื่น”
> “ตกลงค่ะ” ฉันตอบตกลง


> “จะบ้าเหรอ.....3 หมื่นน่ะแก ไม่คิดก่อนหรือไง” เพื่อนฉันตกใจรีบหันมาถามฉัน
> แต่สำหรับฉันตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญเท่าการได้แฟนกลับคืนมา
> ปู่ฤาษี มองหน้ายิ้ม ๆ “ให้ไปเอา............ ......... ......... .....”
> ท่านสั่งให้ฉันนำสิ่งของมาเข้าพิธี
> ............ ......... ......... ......... ......



> รุ่งขึ้น เดินทางไปหาปู่ฤาษี ไปถึงก็มีคนมารอท่านเต็มอาศรมไปหมด
> รายแรก....มากันประมาณ 5-6 คน แต่งขันธ์ 5 จานเดียวใส่เงิน 100 บาท
> แต่มีรายชื่อในกระดาษประมาณ 10 ชื่อได้ ท่านรับขันธ์ 5 ไป หลับตาสวดมนต์
> ดูให้ทีละคน การทำนายของท่านแม่นเหมือนตาเห็น
> ท่านจะทักเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยก่อนว่า
> เป็นลักษณะไหนอยู่ตรงไหนมีอะไรเป็นจุดเด่น
> (มาทราบภายหลังว่าท่านไม่ได้ดูจากวันเดือนปีเกิด
> แต่จะส่งจิตไปยังบ้านที่เราอาศัยอยู่เพื่อไปตรวจสอบยังสถานที่
> ท่านจึงต้องถามว่าสถานที่ที่ท่านไปถูกต้องหรือไม่)
> ท่านจะทักแต่ละคนตามรายชื่อที่เขียนไป


> จนกระทั่งไปสะดุดที่ชื่อของลูกสาวของคนที่มาดู “มันหนีออกจากบ้านไปใช่มั๊ย”
> (จริง ๆ แล้วท่านจะพูดเป็นภาษาอีสาน แต่ว่าฉันแปลเป็นภาษาภาคกลางให้เพื่อจะได้เข้าใจ)
> “ใช่จ๊ะ” คนเป็นแม่พูด น้ำตาเริ่มไหล
> ท่านหลับตาสวดมนต์สัก 5-10 คำ “ มันหนีไปกับผู้ชายตอนนี้มันอยู่ กาฬสินธ์ อยู่บ้านเค้า”
> “ปู่ช่วยหน่อย ตามมันกลับมาให้หน่อย” แม่พูดไปพร้อมเช็คน้ำตา
> ฉันเองก็พาลจะน้ำตาไหลตามไปด้วย
> ท่านสวดมนต์สักพัก “เออ....ปู่จะช่วย วันจันทร์มันจะกลับมา
> พอมันมาแล้วให้พามันมาหาปู่……..”
> ท่านพูดปลอบใจเขาสักพักแล้วก็เริ่มสอนให้เข้าใจถึงวิถีชีวิตของมนุษย์เป็นคำสอนตามแบบของศาสนา
> จนพ่อแม่ของน้องผู้หญิงผ่อนคลายหายเศร้าท่านจึงให้กลับ

> รายที่ สอง เป็นชาวบ้านมาประมาณ 4-5 คน รายนี้ภรรยาหนีตามชู้ไป
> ทิ้งสามีกับลูกสองคน สามีเค้ารักภรรยามาก อยากได้ภรรยาคืน
> ฤาษีท่านดูไปแล้วทักว่า ภรรยาของแกหนีตามผู้ชายข้างบ้านไป
> ผู้ชายคนนั้นก็มีภรรยาแล้วใส่เสน่ห์ภรรยาของแกด้วย พอท่านพูดถึงตรงนี้
> ผู้หญิงที่มาด้วยบอกว่าเป็นสามีของแกเอง ปู่จึงหันมาถามว่าจะเอาคืนด้วยหรือ
> ฝ่ายหญิงตอบว่าไม่เอา ปู่จึงหันไปถาม ฝ่ายชายว่าจะเอาคืนจริง ๆ หรือ
> ไม่รังเกียจเค้าหรือที่เค้าทำแบบนี้ โกรธเค้าไหม เกียจเค้ามั๊ย
> ซึ่งฝ่ายชายก็ยืนยันคำเดียวว่าจะเอาคืน ท่านถามซ้ำ 3 ครั้ง
> ฝ่ายชายก็ยังยืนยันคำเดิม ท่านรับปากว่าจะช่วยแล้วให้บูชาของสิ่งหนึ่งไป เรียกเก็บเงิน 500 บาท

> ฉันเริ่มสงสัย เอ...ทำไมของฉัน 3 หมื่น ส่วนของคนนี้แค่ 500 บาท
> แต่ก็ยังไม่ได้ถามตอนนั้น

> รายที่ 3 เป็นคุณยาย พาหลานสาวมากราบท่าน
> บอกว่าเป็นคนนี้ที่หนีออกจากบ้านแล้วให้ท่านตามมาให้
> กลับมาแล้วตามที่ท่านบอก ท่านเรียกน้องผู้หญิง (อายุประมาณ 16-17 ปี)
> เข้ามานั่งต่อหน้าท่านแล้วเริ่มสอน
> ซึ่งคำสอนของท่านฉันฟังแล้วน้ำตาแทบไหล.....
> “เห็นหน้ายายมั๊ย แกเสียใจขนาดไหน เค้าเลี้ยงเรามากี่ปี
> แต่ผู้ชายอีกคนพึ่งเจอกันไม่เท่าไหร่
> ทำไมถึงทุ่มเททุกอย่างให้เค้าได้ขนาดนั้น ยายเค้าเสียใจขนาดไหนเห็นมั๊ย
> (คุณยายเริ่มเช็ดน้ำตา) ที่ปู่ช่วยไม่ได้อยากช่วยเราน่ะ
> ปู่สงสารยายของเราถึงได้ช่วยเรียกกลับมา............ ......... .......”
> ท่านสอนอยู่นานพอควร

> เกือบบ่าย 2 ถึงคิวฉันซะที ท่านหันมายิ้ม “เดี๋ยวจะทำน้ำมนต์ให้อาบ”
> ท่านให้ฉันอาบน้ำมนต์โดยท่านเป็นผู้ปลุกเสก จะมีผู้ชายอีกคนเป็นคนอาบให้
> ในระหว่างที่อาบเค้าก็จะสวดคาถาไปด้วย .....หลังจากอาบน้ำมนต์เสร็จ
> ท่านก็ให้นำของที่เตรียมมาให้ ทำพิธีอยู่ประมาณ 10 นาที
> หลังเสร็จพิธีท่านผูกแขนให้ฉันแล้วสั่งให้ฉันปฏิบัติตามคำสั่ง
> 1. ทุกวันตอนเย็น ให้ฉันเดิน 999 ก้าว โดยให้นับทีละก้าวห้ามนับผิด หากนับผิดหรือไม่แน่ใจให้เริ่มนับใหม่
> 2. ก่อนนอนให้สวดมนต์ 99 จบ
> 3. ให้คุยกับ คุณพ่อหรือคุณแม่ทุกวัน เล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟังให้หมด ห้ามปิดบังและโกหก
> 4. ไม่ให้รับรู้หรือพูดคุยกับแฟนโดยเด็จขาด ภายใน 15 วัน
> หากผิดคำสัญญาจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่จนกว่าจะครบ 15 วัน
> ท่านให้ฉันปฏิบัติอยู่ 15 วันแล้วให้กลับมาหาท่านใหม่ ซึ่งท่านสัญญาว่าภายใน 15 วัน

> หากฉันทำได้ตามคำสั่งแฟนของฉันจะกลับมาหาฉันแน่นอน

> ฉันรับปาก
> และเริ่มปฏิบัติตามที่ท่านสั่งไว้......เวลาเริ่มผ่านไปจากวันที่ 1

> เป็นวันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 วันที่ 5.......วันที่ 15
> วันที่ 15 ครบจำนวนวันที่ท่านสัญญาไว้ ฉันเดินทางไปหาท่านแต่เช้า.......


> “เป็นไง.....รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือเปล่า” ท่านถาม
> “ค่ะ สบายใจขึ้น มากแล้วค่ะ”
> “รักเค้ามากเลยหรือ” ท่านถาม
> “ค่ะ”
> “ได้โทรหาแม่ทุกวันหรือเปล่า”
> “โทรค่ะ”
> “แม่ว่าไง เค้าเสียใจมั๊ย”
> “แม่ไม่ว่าอะไรค่ะ ท่านจะคอยปลอบใจ แล้วท่านก็เสียใจมากค่ะ”
> “แม่เสียใจ แล้วเราเสียใจมั๊ย”
> .....ฉันเงียบ เริ่มคิด “เสียใจค่ะ”
> “ตอนเราร้องไห้ แม่เค้าว่าไง”
> “......แม่เค้าก็ร้องไห้ค่ะ....”
> “รักแม่มั๊ย”
> “รักค่ะ”
> “ใครทำให้เราเสียใจ ใครทำให้เราเป็นแบบนี้ ผู้ชายคนนั้นใช่มั๊ย”
> .......ฉันนั่งนิ่ง น้ำตาเริ่มไหล.......
> “ทำงานมาเคยให้เงินแม่บ้างมั๊ย....เวลาไปตลาดเห็นกับข้าวเคยจำได้มั๊ยว่าแม่ชอบกินอะไร
> จำได้หรือเปล่าว่าตัวเราชอบกินอะไร............

> ...ทุกวันนี้กับข้าวที่ซื้อมากินเป็นที่เราชอบหรือเป็นที่ผู้ชายคนนั้นชอบ........

> ทำไมต้องให้เค้ามามีอิธิพลอยู่เหนือตัวเองขนาดนั้น
> เค้าทิ้งเราไปเพราะอะไร.......ตอบได้มั๊ย”
> “.......เค้าไปมีคนใหม่ค่ะ”
> “ทำไมเค้าไปมีคนใหม่”
> “......ไม่ทราบค่ะ” ฉันตอบไปพลางเช็คน้ำตา

> “เพราะสันดาน......เข้าใจคำว่าสันดานมั๊ย คนดี จะคิดดี ทำดี พูดดี คนไม่ดี
> ความคิดมันก็เลวไปด้วย อยากจะทุกข์ทรมารอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิต
> ก็จะเอามันคืนให้ แต่ถ้าอยากจะมีความสุข ไม่อยากให้แม่เสียใจ มีชีวิตที่ดี
> เจอคนดี ๆ ก็เลิกกับมันซะ ปู่ไม่เคยเห็นใครตายเพราะอกหัก
> แต่ที่คนมันตายก็เพราะมันสิ้นคิด เพราะแพ้ใจตัวเอง ใจอ่อนแอ
> ถ้าไม่คิดไม่นำจิตไปวางไว้กับมัน มันก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง
> บังคับตัวบังคับกายมันทำได้ แต่การบังคับใจถ้าไม่แกร่งจริงมันก็ยาก
> แต่ใจมันเป็นของเราถ้าเรายอมแพ้มัน เราก็จะแพ้ไปตลอดชีวิต
> ถ้าเราเคยเอาชนะมันได้บังคับมันได้ เราก็จะไม่มีทุกข์
> ไม่มีใครช่วยเราได้หรอกหมอที่ไหนก็รักษาให้ไม่ได้

> มีแต่ตัวเรากับเวลาเท่านั้นที่ช่วยตัวเราได้......15 วันผ่านมาเป็นไงบ้าง”
> “ไม่ได้คิดอะไร ก็รู้สึกดีค่ะ”
> “ทำต่อไปน่ะ ตัดใจซะ มันทำไม่ได้ทันทีหรอกแต่มันจะค่อย ๆ ดีขึ้น
> คิดถึงแม่ไว้ให้มาก ๆ ไม่สบายใจอะไรก็เล่าให้เค้าฟัง ให้มีสติ
> อย่าไปจดจ่ออยู่กับมัน 15 วันผ่านมาไม่มีเค้าเราก็อยู่ได้
> ไม่เห็นจะตายไม่ใช่หรือ ตัดใจซะเอาสมาธิไปจดจ่ออยู่กับสิ่งอื่น
> อย่าไปใส่ใจกับมัน คนมันไม่ดีก็ปล่อยมันไปตามวิถีชีวิตของมัน........”
> ปู่ฤาษี หันไปหยิบของในย่าม เป็นเงิน 3 หมื่นบาท ยื่นคืนให้ฉัน
> “เงิน 3 หมื่น ปู่ไม่เอาหรอก ให้เอาไปเก็บไว้ 2 หมื่น เอาให้แม่ 5,000
> อีก 5,000 ไปซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอาง แต่งตัวใหม่ให้ดูดีกว่านี้”

> พูดจบแกก็หัวเราะ
> “จำคำปู่ไว้ อย่าเชื่อใจคน อย่ามองเพียงแค่ภายนอก
> แล้วอย่าไปทำเสน่ห์ที่ไหนอีก ทุกคนมีเสน่ห์อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว
> เพียงแต่เสน่ห์ที่เรามีจะถูกใจใครเท่านั้น พวกนุ่งผ้าเหลือง ผ้าขาว
> บางคนสักแต่เอาผ้ามาห่ม แต่ใจมันไม่ใช่คน เราเป็นผู้หญิงต้องระวังตัวให้ดี
> ถ้าเจอคนดีก็ดีไป ถ้าเจอพวกไม่ดีเราจะเสียทั้งตัว เสียทั้งเงิน เสียทั้งใจ
> จะไปโทษใครบอกใครก็ไม่ได้ เราโง่เอง ...หยุด...ห้ามไปทำเสน่ห์ที่ไหนอีก
> จำคำปู่ไว้ให้ขึ้นใจ วันนี้แฟนเราจะมาหา ก็ตัดสินใจเอาก็แล้วกัน”
> ………………………………….

> ฉันกลับที่พัก เริ่มนั่งคิดทบทวน เรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมา
> ความเจ็บปวดที่เคยมี ทุกครั้งฉันแทบจะทนไม่ได้ถ้าคิดถึงเค้า
> แต่ตอนนี้ทำไมความเจ็บปวดมันลดลง เริ่มมองเห็นสิ่งต่าง ๆที่ผ่านมา
> จิตใจที่เคยอ่อนแอ มันเริ่มแข็งแรงตั้งแต่เมื่อไหร่ฉันไม่รู้
> น้ำตาที่เคยไหลไม่หยุดหากเมื่อไหร่ที่คิดถึงเค้า ทำไมมันหายไปไหน
> คำสอนของปู่ก้องอยู่ในสองหู ฉันตัดสินใจ.....จากนี้ต่อไปฉันต้องเข้มแข็ง

> ...........เสียงเคาะประตูหน้าห้อง.....
> “ใครค่ะ” ฉันถาม
> “เราเอง” เหมือนที่ปู่บอกไว้ไม่ผิด เค้ามาจริง ๆ
> ใจที่เคยเด็จเดี่ยวเมื่อครู่หายไปไหนหมด หัวใจเต้นแรง ใจเริ่มอ่อน
> เริ่มหวั่นไหว........
> “มีธุระอะไร” ฉันไม่ยอมเปิดประตู
> “.....เราคิดถึง.....เปิดประตูให้เราหน่อย”
> .......ฉันเริ่มสับสน น้ำตาเริ่มไหล จะทำไงดี...คิดถึงคำพูดของปู่ฤาษี คิดถึงหน้าแม่.......
> “กลับไปก่อนน่ะ วันนี้เรายังไม่อยากคุย ตอนนี้เราอยู่กับแม่ กลับไปเถอะ”
> ฉันโกหกเพราะรู้ว่าตัวเองยังไม่เข้มแข็งพอ
> หากเจอเค้าวันนี้ฉันต้องใจอ่อนแน่นอน
> ............ ......... ......... ......... ......... ........

> ทุกวันนี้ฉันฝากตัวเป็นศิษย์ของท่าน ปู่ฤาษีคัมภีร์ แสนวัง
> ผู้ให้ชีวิตใหม่แก่ฉัน ถ้าไม่มีท่านฉันก็ไม่รู้ว่าชีวิตของฉันจะต้องพบเจออะไร
> อาจจะเจอสิ่งที่เลวร้าย เจอพวกซาตานในคราบนักบุญ ต้องเสียทั้งตัว เสียทั้งใจ
> จึงอยากจะขอเตือนเพื่อน ๆ ที่คิดจะไปทำเสน่ห์ ให้ไตร่ตรองให้ดี
> ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีเหมือนฉันเสมอไปน่ะค่ะ



Create Date : 23 กันยายน 2550
Last Update : 23 กันยายน 2550 10:14:06 น. 4 comments
Counter : 221 Pageviews.

 
อ่านแล้วซึ้งค่ะ ลูกสาวหนีออกจากบ้านเหมือนกัน


โดย: punch_ppad วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:10:27:10 น.  

 
คุณโชคดีที่ได้คำสอนดีๆ ยินดีด้วยนค่ะ


โดย: homepech วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:15:04:43 น.  

 
สุดยอดเลยครับ
วิธีสอนสุดยอดจริงๆ


โดย: เส้นเล็ก` (Leon-[Z] ) วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:11:50:34 น.  

 
สวัสดีคะ... แวะมาทักทาย
อ่านแล้ว ... ดีมากเลยคะ
แล้วจะแวะมาอ่านอะไรดีๆ ที่บ้านนี้อีกนะคะ


โดย: นางฟ้าตาหวาน วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:16:49:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

มาม๊าฟลุ๊ค
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add มาม๊าฟลุ๊ค's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com