|
ตะวันถอดสี (กลอน-สังคม)
๑. แดดจางๆ ฟ้าราง น้ำค้างเช้า เกาะใบพราว ราวเพชร เม็ดส่องสาย ตะวันทาง กลางเขา เข้าเรียงราย ทอดเลื่อมพราย ขยายเขต เจตตะวัน
๒. วันสั้นยาว เซา๑แสง แล้งแรงฉาย ตะวันถ่าย ว่ายวัฎ ผลัดเปลี่ยนผัน ยังส่องสี มณีแสง แรงดุจกัน วิถีวัน มั่นคง ตรงทางธาร
๓. ตะวันแดง เปรียบแรง แสงชีวิต ส่องลิขิต ขีดเส้น เช่นสงสาร* หมุนเวียนเปลี่ยน เพียรธรรม แต่บรรพกาล ฤดูผ่าน สานพบ สบพอเพียง
๔. สมัยทุน หมุนเข้า เงาแทนทาบ ตะวันคาบ* ปรับหน จนขาดเที่ยง* ดุจนกเขา เอามา รักษาเคียง* เฝ้าฟังเสียง เลี้ยงดู อยู่เพียงกรง
๕. ธรรมชาติ ขาดดุล ทุนไม่แท้ ฐานอ่อนแอ แปรตาม ความประสงค์ ที่ไฟไม่ ใส่ฝอย หิ่งห้อยตรง* ไปขืนคง ลงความ ตามกันไป
๖. ตะวันถอด สอดสี คลี่ความเศร้า ชั่วโมงยาว เงาสั้น ผันผลักไส คล้ำเคลือบแคลง หรี่แสง อ่อนแรงใจ คงวอดวาย กลายยุค ทุกหย่อมธาร
๗. เงาหมองหมาง ฟ้าคราง น้ำค้างแห้ง ต้นไม้แล้ง แท้งใบ ไร้อาหาร ตะวันเลือน เลื่อนยาม ตามเคยทำ โอ้เอ๋ยกรรม ความคน ผลถึงกัน
๑. เซา = เพลาลง, เบาลง ๒. สงสาร = การเวียนว่ายตายเกิด ๓. คาบ = ช่วงเวลา, ระยะเวลาเวียนรอบ ๔. ขาดเที่ยง = ขาดความแน่นอน ๕. นกเขาเอามาเลี้ยง = การคิดไปเองว่านกเขาขันเพราะมีความสุขทั้งที่อยู่ในกรง (คำบรรยายอุปมาอุปไมย โดยหลวงพ่อชา สุภัทโท) ๖ ที่ไฟไม่ใส่ฝอย ที่หิ่งห้อยไปขืนดัง = ไม่รู้ว่าอะไรเป็นประโยชน์ อะไรไม่เป็นประโยชน์ ก็ไปถือเอาสิ่งไม่เป็นประโยชน์ว่าเป็นประโยชน์, สิ่งดีๆไม่ถือเอาๆแต่สิ่งที่ชั่วเหมือนคนต้องการไฟแต่ไม่ใส่เชื้อหรือขี้กุมฝอยเข้าไปในที่มีไฟปะทะกรุ่นอยู่ กลับจะไปเอาไฟที่หิ่งห้อยมาใส่ จึงไม่ได้ประโยชน์ตามหวังตามต้องการ (มัวแต่ชื่นชมสิ่งที่ตัวเองไม่มี, ไม่แข็งแรง, ไม่ตรงตามพื้นฐานของตัว*) (
*)ในวงเล็บเป็นเจตคติของผู้แต่ง
* งานชุดนี้ผู้แต่งลงไว้แล้วที่ mblog ภายใต้นามปากกา "เรือนธาร" และ "เงาธาร" ที่ผู้แต่งเป็นสมาชิกอยู่..แต่ด้วยอยากรวบรวมงานกวีไว้ในที่เดียวกันจึงนำมาลงรวมกันไว้กับบทกวีที่แต่งใหม่..สนใจกรุณาหาดูเพิ่มเติมได้ที่นั่นครับ..
//weblog.manager.co.th/publichome/fishmonger/
Create Date : 10 กันยายน 2548 |
Last Update : 13 ธันวาคม 2548 20:03:46 น. |
|
1 comments
|
Counter : 332 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ปลาจิงโกะ IP: 61.91.22.47 วันที่: 12 กันยายน 2548 เวลา:16:25:11 น. |
|
|
|
|
ดวงสมร |
|
|
|
|