|
ม๊อป นปก
ม็อบ นปก. กระตุกหนวด คมช.!! บุกเดี่ยวปราศรัยในรั้วกองทัพบก โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 8 กรกฎาคม 2550 06:19 น.
เด็ก นปก. บุกเดี่ยวปราศรัยโจมตี คมช.ถึงในรั้ว บก.ทบ.เรียกร้องปล่อยตัว บก.ลายจุด แกนนำกลุ่มต้านทหารที่เชียงราย หมอเหวงพาลิ่วล้อตามสมทบปะทะตำรวจหวิดจลาจล สุดท้าย ตัวป่วนโดนรวบดำเนินคดีฐานบุกรุกสถานที่ราชการยังหัวหมอแจ้งความกลับทหารกักขังหน่วง เหนี่ยว
วันนี้ ( 7 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนินนอก ว่าเมื่อเวลา 18.00 น.นายสุชาติ นาคบางไทร แกนนำกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ และแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ได้อาศัยช่วงเวลาที่ฝนกำลังตกหนักขับรถยนต์กระบะ ฟอร์ดเรนเจอร์ สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน ศศ 167 กทม. ย้อนศรจากด้านหน้าอาคารองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) บุกเดี่ยวเข้าไปในรั้วบก.ทบ. ก่อนปีนขึ้นไปบนหลังคารถ แล้วเปิดฉากปราศรัยโจมตีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และเรียกร้องให้ปล่อยตัว นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด หรือหนูหริ่งประธานกรรมการมูลนิธิกระจกเงา ซึ่งถูกควบคุมตัวหลังเปิดเวทีโจมตีรัฐบาลและคมช.ที่บริเวณสถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย วานนี้ (6 ก.ค.)
ทั้งนี้ระหว่างที่ นายสุชาติ ทำการปราศรัยอยู่ภายในรั้ว บก.ทบ.กลุ่ม นปก.อีกประมาณ 100 คน นำโดย น.พ.เหวง โตจิราการ ได้เดินทางมาสมทบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเพิ่มกำลัง อีกประมาณ 1 กองร้อย เพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมนำแผงเหล็กมากั้นให้กลุ่มผู้ชุมนุมออก ห่างจากรั้ว บก.ทบ ขณะเดียวกันก็พยายามเจรจาเกลี่ยกล่อมให้นายสุชาติยุติการปราศรัย
อย่างไรก็ดี ภายหลังจากพยายามเจรจานานกว่า 30 นาที แต่นายสุชาติไม่ยอมหยุด ปราศรัยเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร จึงต้องปีนขึ้นไปควบคุมตัวนายสุชาติลงจากหลังคารถ และนำไปสงบสติอารมณ์ภายในกองอำนวยการด้านหน้า บก.ทบ โดยเมื่อเห็นนายสุชาติ ถูกควบคุมตัวกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านนอกได้พยายามที่จะพังแผงเหล็กกั้นและบุกเข้า ไปภายใน บก.ทบ.เพื่อเข้าช่วยเหลือ ขณะเดียวกันกำลังเจ้าหน้าที่ก็พยายาม ป้องกันอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวายจนหวิดจะเกิดการจลาจลก่อน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ในที่สุด
เมื่อไม่สามารถบุกเข้าไปภายใน บก.ทบ.ได้ กลุ่ม นปก. นำโดย น.พ.เหวง จึงปักหลักปราศรัยโจมตี คมช.ที่บริเวณด้านหน้า บก.ทบ.พร้อมยื่นข้อเสนอให้ปล่อยตัว นายสมบัติ โดยไม่มีข้อแม้จึงจะเลิกชุมนุม
เบื้องต้น พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ ผบก.น.1 ได้เข้าเจรจากับแกนนำผู้ชุมนุม โดยยืนยันจะปล่อยตัวนายสมบัติ แต่จะต้องนำตัวไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา บุกรุกสถานที่ราชการในยามวิกาล ขณะที่นายสมบัติ ได้แจ้งความกลับเพื่อดำเนินคดี กับสารวัตรทหารที่ควบคุมตัวในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว และทำร้ายร่างกาย เช่นกัน
หลังจากที่ พ.ต.อ.ศรัณยู ชำนาญราช ผกก.สน.นางเลิ้ง และ พ.ต.อ.ฉันทวิทย์ รามสูตร รอง ผบก.น.8 ร่วมสอบปากคำนายสุชาติ บนชั้น 2 สน.นางเลิ้ง เป็นเวลา ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ได้ให้นายสุชาติลงชื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยนายสุชาติ ได้ยื่นหลักทรัพย์จำนวน 1 แสนบาท ขอประกันตัวออกไป
ทั้งนี้นายสุชาติ ยังออกมากล่าวว่าจะทำการแจ้งความดำเนินคดีกลับ กับกองทัพบก ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว และทำร้ายร่างกาย พร้อมทั้งโชว์รอยขีดข่วนที่อ้างว่าเกิดจาก การถูกทหารรักษาการทำร้ายให้ดูอีกด้วย
ส่วนบรรยากาศบริเวณทางเข้า สน.นางเลิ้งตำรวจต้องนำแผงรั้วเหล็กมากั้นปิดกั้น ทางเข้าไว้ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 50 นายมาคุมสถานการณ์ เนื่องจากมี กลุ่มผู้ชุมนุมที่เดินทางมากดดันเพื่อให้ตำรวจปล่อยตัวนายสุชาติ โดยประกาศตัวว่าจะไม่ ยอมเดินทางกลับจนกว่าจะมีการปล่อยตัวนายสุชาติ
Create Date : 08 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 8 กรกฎาคม 2550 21:31:20 น. |
|
0 comments
|
Counter : 449 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
กตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติจากพระครรภ์พระมารดาแล้ว ในที่สุดองค์สมเด็จพระประทีปแก้วใกล้จะถึงวาระที่จะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เพราะองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงบำเพ็ญบารมีมาครบ ๔ อสงไขยกับแสนกัป ควรจะได้เป็นพระพุทธเจ้า
ในวันหนึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสด็จประพาสพระราชอุทยาน ก็ทรงพบเด็กเกิดใหม่ วันต่อมาทรงพบคนแก่ คนป่วย แล้วก็คนตาย วันสุดท้ายทรงพบสมณะ
ความจริงเวลานั้นพระที่แต่งตัวแบบนี้ ไม่มีในโลก แต่ว่าเทวทูตทั้ง ๕ ที่เรียกกว่า เทวทูต คือ เด็กก็ดี คนแก่ก็ดี คนป่วยก็ดี คนตายก็ดี พระก็ดี ที่ปรากฏกับสายพระเนตรขององค์สมเด็จพระชินสีห์ เมื่อยังเป็นสิทธัตถะราชกุมาร ท่านบอกว่า เวลานั้นเทวดาแสดงขึ้นให้ปรากฏ ครั้นเมื่อองค์สมเด็จพระบรมสุคตเห็นคนเกิดยังเด็กเล็ก แล้วต่อมาพบคนแก่ แล้วก็พบคนป่วย แล้วก็พบคนตาย น้ำพระทัยขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาตรัสว่า
"โลกนี้ทุกข์หนอ ไม่มีอะไรเป็นสุข หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้"
ต่อมาวันสุดท้าย องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงเห็นสมณะวิสัยก็เข้าใจว่าทางนิพพานมีอยู่ ทางนี้เป็นทางสิ้นทุกข์ เหตุฉะนั้นองค์สมเด็จพระบรมครูจึงได้ตัดสินพระทัยออกบวช นี่ขอเล่าลัดๆ นะ แต่ความจริงเรื่องนี้ยาวมาก
|
|
|
|
|
|
|