|
วิธีบำรุงเส้นผมแห้งเสีย
เส้นผมที่ต้องโดนแดดเป็นประจำหรืออยู่กลางแจ้งนานๆ อาจทำให้เส้นผมแห้งเสียได้ วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์ มีเคล็ดลับการดูแลเส้นผมมาบอก...
วิธีทำ คือ เตรียมน้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ และไข่ไก่ 1 ฟอง นำส่วนผสมทั้งหมดเทใส่ภาชนะ คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นล้างผมด้วยน้ำสะอาด แล้วนำครีมมาชโลมให้ทั่วเส้นผม นวดเบาๆ และใช้ผ้าขนหนูคลุมผมทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วสระผมตามปกติ แนะว่าควรทำเป็นประจำทุกสัปดาห์
เพียงเท่านี้เส้นผมที่แห้งเสียก็จะค่อยๆดีขึ้น.
Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2553 | | |
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2553 14:44:08 น. |
Counter : 323 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
นวดหน้า==>ใส
เตรียมสองมือให้พร้อมกับวิธีนวดหน้าลดริ้วรอยแบบไม่ต้องพึ่งสปา ง้อสถาบันความงามให้เสียอารมณ์
หลายคนคิดว่าหากต้องการนวดหน้าต้องพึ่งสถาบันความงามเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบันเมื่อมีการพัฒนาการนวดหน้าให้สามารถทำเองได้ เพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ให้ยุ่งยาก คุณ Anastasia Achilleos ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรนนิบัติผิวหน้าชื่อดังจากลอนดอน ประเทศอังกฤษร่วมกับโอเลย์ พัฒนาการนวดหน้าระดับสูง โดยใช้ โอเลย์ รีเจนเนอรีส ไมโครสคัลป์ติ้ง นวดเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ในบริเวณที่ต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษ ได้แก่ รอบดวงตา แนวขากรรไกร และลำคอ วิธีการเริ่มจากการล้างหน้าให้สะอาด แต้มครีมที่ใช้เป็นประจำในปริมาณเท่ากับผลองุ่น วอร์มครีมขึ้นเป็นวงกลม จนเนื้อครีมเริ่มอุ่น แล้วค่อยๆ นวดบน 3 จุดสำคัญบนใบหน้า (ดูรูปภาพประกอบ) เริ่มจากบริเวณจมูกขึ้นไปถึงบริเวณหน้าผาก รอบเบ้าตาและโหนกแก้ม
ประสานมือทั้งสองข้างไว้บริเวณด้านข้างของจมูก เคลื่อนมือขึ้นไปตามแนวด้านข้างจมูกจนถึงสัน จนกระทั่งสันมือวางบนหน้าผาก เคลื่อนมือออกไปผ่านบริเวณคิ้วทั้งสองข้างจนถึงขมับ โดยกดน้ำหนักบนสันมืออย่างต่อเนื่อง และเคลื่อนมือลงไปจนถึงโหนกแก้ม แล้วจึงถ่ายน้ำหนักกลับมาที่ปลายนิ้วชี้อีกครั้ง จนวนกลับมาที่จุดเริ่มต้น ท่าที่ 2 บริเวณแนวขากรรไกร
ทำท่าพนมมือโดยให้ปลายนิ้วอยู่จรดคาง และนิ้วโป้งอยู่บริเวณต้นคอ ค่อยๆ คลายฝ่ามือออกไปตามแนวคางทั้งสองด้าน โดยให้ฝ่ามือทั้งสองข้างกดน้ำหนักลงบนผิวหน้า จากนั้นจึงเคลื่อนมือขึ้นไปตามโครงหน้า ผ่านหางตา จนกระทั่งสันมือแตะกับบริเวณขมับทั้งสองข้าง ท่าสุดท้าย บริเวณลำคอ
หันศีรษะไปทางด้านซ้าย ใช้มือซ้ายวางบนลำคอใช้ฝ่ามือลูบขึ้นจากใต้ลำ คอจนถึงใต้คาง โดยทำติดต่อกัน 2 - 3 ครั้ง ให้ทั่วลำคอ จากนั้นใช้ฝ่ามือลูบลงลงมาจนถึงบริเวณใต้ลำคอ เป็นอันสิ้นสุดขั้นตอน หันศีรษะไปทางขวา ทำตามขั้นตอนดังกล่าวอีกครั้งจนครีมซึมซาบลงสู่ผิวทั้งหมด
ประโยชน์จากการนวดหน้ากระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต มีผลทำให้ออกซิเจนเพิ่มขึ้น ทำให้เซลล์มีความสดขึ้น ผิวหนังมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ จึงเป็นความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้าแบบไม่ต้องย้อนเวลา
นงครัตน์ dailyshopaholic@gmail.com
Create Date : 07 มกราคม 2553 | | |
Last Update : 7 มกราคม 2553 11:40:30 น. |
Counter : 749 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ
เพราะความเครียดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้บางคนมีพฤติกรรมนอนกัดฟันกราม พาลนำอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อกราม ขากรรไกร รวมทั้งอาการปวดศีรษะ หรือไมเกรนกำเริบ... กินดี วันนี้พร้อมเสนอเครื่องดื่มพลังธรรมชาติที่จะช่วยลดความตึงเครียดและผ่อนคลายประสาท จากส่วนผสมของ แอปเปิ้ล บีตรูต และขึ้นฉ่าย
คุณประโยชน์ของ แอปเปิ้ล นั้นจะช่วยลดความตึงเครียด เพราะอุดมไปด้วยโพแทสเซียม กำมะถัน เหล็ก แมกนีเซียม วิตามินบี1 บี2 และบี6 ส่วน บีตรูต ดีต่อตับ ไต และลำไส้ตอนล่าง เพราะช่วยทำความสะอาดและกระตุ้นการทำงานของอวัยวะดังกล่าว รวมทั้งช่วยฟอกเลือด ฟอกไต บำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดง เนื่องจากในผลบีตรูตเปี่ยมไปด้วยวิตามินบี1 บี2 และบี6 กรดโฟลิก แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม และสังกะสี
ขณะที่ ขึ้นฉ่าย มีสรรพคุณบำรุงตับ แก้ร้อนใน ลดความดันโลหิต ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และนอนหลับได้ดีโดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ รับประทานเป็นประจำจะช่วยแก้ปัญหานั้นได้ ในทางตรงกันข้าม หากคุณผู้ชายรับประทานขึ้นฉ่ายจะทำให้อสุจิลดลงไปร้อยละ 50 ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ก่อนการปรุงดื่มควรเตรียมส่วนผสมตามสัดส่วนต่อไปนี้...
+แอปเปิ้ล 1 ถ้วย +บีตรูต 1 ถ้วย +ขึ้นฉ่าย 2 ถ้วย +น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย
สำหรับขั้นตอนการปรุง หั่นแอปเปิ้ลเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ส่วนบีตรูตและขึ้นฉ่ายหั่นพอหยาบ จากนั้นนำส่วนผสมทั้งสามชนิดไปสกัดรวมกันด้วยเครื่องสกัดน้ำผักและผลไม้ ก่อนดื่มสามารถเติมน้ำแข็งป่นเพิ่มความเย็นสดชื่นได้.
takecareDD@gmail.com
Create Date : 25 ธันวาคม 2552 | | |
Last Update : 25 ธันวาคม 2552 10:39:08 น. |
Counter : 278 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เทคนิคการดื่มน้ำ
ความใส่ใจเลือกรับประทานอาหารที่ปราศจากสารพิษ อย่าง ผัก ผลไม้ และอาหารที่ผ่านกรรมวิธีแปรรูปน้อยที่สุด ถือเป็นการดูแลรักษาสุขภาพโดยพึ่งพาธรรมชาติตามรูปแบบของ ดร.ทอม อู๋ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติจากสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับการดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำเปล่า อย่างต่ำ 8 แก้วต่อวัน ซึ่งควรจัดสรรเวลาในการดื่มน้ำให้เหมาะสม และควรดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร 1 ชั่วโมง
สำหรับเทคนิคการดื่มน้ำ ควรเปลี่ยนจากการดื่มเป็นอึก หรือดื่มทีเดียวหมดแก้ว มาเป็นการค่อย ๆ จิบ ค่อย ๆ กลืน เทคนิคดังกล่าว นอกจากจะไม่ทำให้รู้สึกจุกหรือปวดปัสสาวะหลังจากดื่มน้ำแล้ว ยังเป็นการเติมความชุ่มชื้นให้แก่เซลล์ทั่วร่างกาย ถือเป็นการแก้กระหายและบำรุงร่างกายจากภายในสู่ภายนอก
ทั้งนี้ ดร.ทอม อู๋ ยังแนะนำให้ลำดับการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อให้ร่างกายย่อยอาหารได้อย่างสะดวก โดยเริ่มจากการรับประทานผลไม้ก่อน จากนั้นจึงตามด้วยสลัดผักสด ที่จะต้องเคี้ยวคำละ 40 ครั้ง สุดท้ายเป็นอาหารปรุงสุกหรืออาหารจานหลัก
ส่วนเหตุผลที่ให้จัดลำดับการรับประทานอาหารตามคำที่กล่าว เพราะผลไม้เป็นอาหารที่ย่อยง่ายมากกว่าผักสดและเนื้อสัตว์ เพื่อให้ร่างกายได้ย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารที่เป็นประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
ขอบคุณ;takecareDD@gmail.com
Create Date : 25 พฤศจิกายน 2552 | | |
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2552 10:09:44 น. |
Counter : 324 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
การล้างทำความสะอาดจมูก...ฝากให้เข้มนะลูก
สุขภาพของลูกน้อยคือสิ่งสำคัญที่คุณพ่อ คุณแม่ไม่ควรมองข้าม โดยโรคที่พบว่าเด็ก ๆ ป่วยกันบ่อยนั้นคือ โรคหวัด มีน้ำมูก ร่วมกับอาการไอ และมีไข้
อาการที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะลูกน้อยหายใจรับสิ่งสกปรก เชื้อโรคที่มีอยู่ในอากาศเข้าไปในร่างกาย ดังนั้น การทำความสะอาดจมูก จึงเป็นวิธีที่ช่วยป้องกันการป่วย อาทิ โรคหวัด โรคไข้หวัด โรคไซนัสอักเสบ โรคภูมิแพ้ ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก
สำหรับการล้างจมูกนั้น จะใช้น้ำเกลือบริสุทธิ์จากโซเดียม คลอไรด์ ที่ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เพราะมีความเข้มข้นเท่ากับเลือด การล้างจมูกทำได้ในทุกวัย ตั้งแต่เด็กอ่อนไปจนถึงผู้ใหญ่ โดยประโยชน์ของการล้างจมูกนั้นจะช่วยล้างสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง เชื้อโรคที่เกาะติดอยู่ในช่องจมูก เพราะฉะนั้นผู้ที่ล้างจมูกเป็นประจำจะไม่ค่อยมีอาการป่วยจากกลุ่มของโรคที่กล่าวไป
ส่วนปริมาณของน้ำเกลือบริสุทธิ์ที่จะใช้หยอดล้างจมูกนั้นขึ้นอยู่กับวัย อย่างในเด็กเล็ก ๆ อาจใช้หยอดเพียงเล็กน้อยโดยใช้ดรอปเปอร์ ขณะที่เด็กโตหรือผู้ใหญ่ที่คุ้นเคยกับการล้างจมูกให้หยอดโดยใช้ไซริ้งค์ อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรณ์ในเรื่องของปริมาณน้ำเกลือที่เหมาะสม
วิธีการล้างจมูกนั้น เริ่มจากตั้งศีรษะตรง สอดปลายดรอปเปอร์หรือไซริ้งค์เข้าไปในรูจมูก โดยให้ชิดจมูกด้านบน โดยให้หายใจทางปากหรือกลั้นหายใจ หยอดหรือฉีดน้ำเกลืออย่างเบามือ ให้น้ำเกลือไหลลงเข้าจมูก แล้วไหลออกทางปากหรือไหลย้อนออกมาทางรูจมูกอีกข้างหนึ่ง จากนั้นให้สั่งน้ำเกลือออกจากจมูกทั้งสองข้างพร้อม ๆ กัน และบ้วนน้ำเกลือที่ไหลลงลำคอทิ้งไปด้วย.
takecareDD@gmail.com
Create Date : 11 พฤศจิกายน 2552 | | |
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2552 10:00:10 น. |
Counter : 334 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|