อยากไปเรียนแต่งหน้าเค้ก แต่ติดอยู่ที่ไม่มีเงินค่าเรียน ตอนนี้มารู้ว่ามีที่เรียนถูกๆ อยู่บ้างเหมือนกัน ก็ย้ายออกจากบ้านมาซะแระ เช่าบ้านเขาอยู่ ค่าเช่าก็แพงมาก ต้องทำมาหากินก่อนถึงจะแบ่งเวลาไปเรียนได้ ก็ได้แต่ฝึกมือกับเค้กที่ลูกค้าสั่งบ้าง เค้กที่ให้เป็นของขวัญคนนู้นคนนี้บ้าง ลายที่แต่งก็มีอยู่ลายเดียว เพราะเวลาจำกัดจำเขี่ย จะริลองลายอื่นก็กลัวส่งไม่ทัน เฮ้อ ทำไมไม่แยกร่างได้เหมือนนินจานะ แม่จะทำทุกอย่างคนเดียวไม่ต้องง้อใครเลย พับผ่าสิ!
แรกๆ มั่วๆ เอาจากที่เคยเห็นญาติแต่งสมัยเด็กๆ ซื้อหนังสือมาทำตามมั่ง ดูแบบจากอินเตอร์เน็ตมั่ง แต่คนมันไม่มีพรสวรรค์กะเค้า มีแค่พรแสวงกับความพยายามอันน้อยนิด แต่งกี่ทีๆ ก็ไม่เคยสวยเลยสักครั้ง ยังดีที่ลูกอุตส่าห์ชมว่าแม่ทำสวยมากมาย แต่พอเห็นแบบพวกตุ๊กตาบาร์บี้เท่านั้น ของแม่ขี้เหร่ทันที เด็กนะเด็ก
อันแรกจริงๆ หาไฟล์ภาพไม่เจอ น่าจะอยู่อีกเครื่องหนึ่ง ซึ่งเราใช้อยู่ แต่เปิดใช้ไม่ได้มา 2 เดือนแระ คุณสามีไม่ทำให้สักที จะทำเองก็คืนความรู้เรื่องคอมไปหมดแระ มารื้อตอนนี้คงใช้เวลาน่าดู ไหนจะต้องเตรียมขายของอีก เห็นจะไม่ทัน ทิ้งมันไว้งั้นก่อน(อีกแล้ว) ก็จัดบ้านยังไม่เสร็จเลยนะ มะรืนนี้จะขายของแล้ว พรุ่งนี้ต้องเตรียมของให้เสร็จ วันนี้จะจัดบ้าน แต่ขอพักเขียนบล็อก นิดนึง คลายเครียดเนอะ
อันแรก ทำเค้กเนยสูตรคุณจ้ำจี้ ทำเป็นเค้กวันเกิดลูกสาว อีกอันทำสปันจ์เค้กสูตร อ.นวรัตน์ ทำเป็นเค้กวันเกิดลูกสาวเหมือนกัน วันเดียวทำสองสูตรเลย อร่อยทั้งสองสูตรเลย แต่งหน้าแบบมั่วๆ เป็นครั้งแรก
อันแรกสำหรับลูกค้า คุณหมวยสั่งเพราะเคยชิมเนื้อเค้กแล้วชอบ เราบอกแต่งหน้าเค้กไม่เป็นนะ คุณหมวยก็ใจดี ไม่เป็นไร เอารสชาติก่อน สั่ง 2 ปอนด์ แต่งหน้าขี้เหร่ได้ใจมากเป็นรูปอะไรไม่รู้ แต่เค้าชิมแล้วโทรมาบอกว่า "เนื้อเค้กอร่อยมาก ครีมก็ใช้ได้เลย อร่อยกว่า xxxx(เค้กแบรนด์ดัง) อีก ยังงี้ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ทำเค้กส่งร้านกาแฟ ให้พ่อขับรถไปส่งให้" ยังทิ้งท้ายอีกว่า "พี่ไม่ชอบชมใครนะ เพราะมันไร้สาระ แต่นี่พูดจริงๆ" โหย...ไม่ต้องว่าอร่อยขนาดนั้นหรอก แค่กินแล้วไม่ด่า หนูก็ดีใจแล้ว
อันที่สองเป็นเค้กหน้าแยม หมอนวดที่นวดประจำสั่งมา ใช้เค้กสูตรเดียวกับที่ทำวันเกิดลูก แต่ทดลองผสมมาร์การีนไปครึ่งส่วน เค้าบอกว่าอร่อยดี แต่เนื้อหยาบไปนิด ต่อมาไม่กล้าทำเค้กใส่มาร์การีนเลย(ยกเว้นบัตเตอร์เค้กที่ลองผสมมาร์การีนดู ลูกค้าหลายคนก็บอกว่าอร่อยดี แต่บางคนที่คงลิ้นไวเหมือนเรา เค้าบอกรสมันไม่เหมือนเดิม) และเราก็สรุปว่าใช้เนยสดล้วนๆ อร่อยกว่าแยะ สะดวกด้วย เพิ่มทุนอีกนิด แต่อร่อยขึ้นเป็นกอง กำไรน้อยลง ก็ไม่เห็นเป็นไร ถ้าลูกค้าบอกว่าอร่อย มันก็กำไรแล้วล่ะ เนอะ...
เค้กหน้าแยมก็แต่งมั่วๆ แต่ก็ออกมาน่ารักพอได้ มันแต่งง่ายกว่าบัตเตอร์ครีมแยะเลย
หลังจากนั้นคุณหมวยก็สั่งเค้ก 3 ปอนด์ 2 ก้อน แต่ด้วยความเหนื่อยและเพลียมาก อบเค้กเสร็จออกมาสวยมาก แต่เค้กไม่หอม มานึกได้ว่าลืมใส่นมสด เนื้อเค้กจะกระด้างไปนิด แฟนชิมบอกไม่เห็นเป็นไร รสเหมือนที่เค้าขายกันทั่วไป แต่คนทำไม่ปลื้ม เก็บใส่ถุงไปโยนให้ปลาทั้ง 6 ปอนด์ ตัดใจทำใหม่ยอมไม่หลับไม่นอนอีกคืน ได้เค้กหน้าตาขี้เหร่อีก 2 ก้อน เพราะตีบัตเตอร์ครีมเหลวไป เนื่องจากใช้เนยสดมากกว่าเนยขาวและคงตีนานไป บีบกุหลาบโคตรยาก พ่อบอกพอไปส่งลูกค้ากุหลาบก็ล้มระเนระนาด แย่ชะมัดเลย
ต่อมาเป็นเค้กวันเกิดคุณสามี ตรงกับวันสงกรานต์พอดี ซึ่งต้องเดินทางไป จ.กำแพงเพชร บ้านพ่อแม่เราเอง จะแต่งหน้าเค้กไปเลยก็กลัวเละ เพราะหนทางสุดยอดมาก เลยอบแต่ตัวเค้ก แล้วเตรียมเนยไป พร้อมเครื่องตีและหัวบีบ พอจะทำจริงๆ เออ...เอาเครื่องไปนะ แต่ไม่ได้เอาหัวตีไป เอาไงล่ะทีนี้ ตะกร้อมือก็ไม่มี ที่บ้านแม่มีที่ตีไข่แบบสปริงลองเอามาตี โห มันนิ่มค่อดๆ อย่าว่าแต่เนยเลย ไข่ยังไม่รู้ว่าจะใช้เจ้านี่ตีได้เลย ทีนี้ก็เหลือแต่ช้อนกับส้อม ตีครีมได้เท่าที่เห็น แป้นหมุนก็ไม่มี ยังดีที่แม่มีจานใบใหญ่พอดีขนาดเค้ก 4 ปอนด์ สวยด้วยนะ จานเขาน่ะ หัวบีบที่เอามาก็ไม่กี่หัว ที่เตรียมไว้ว่าจะเอามาก็ลืมซะงั้น โดยเฉพาะหัวใบไม้ ซึ่งจริงๆ ใช้กรรไกรตัดเอาก็ได้ แต่ตอนนั้นตัดไม่เป็น ก็เลยใช้หัวทำต้นหญ้าบีบแทน ได้เค้กหน้าตาพิลึกกึกกือดี หัวกลมไม่มีตัดถุงเอา แต่ตัดไม่เก่ง ได้องุ่นเบี้ยวๆ มา น่ากินไหม
เจ้าเค้กก้อนนี้มันใหญ่มาก 4 ปอนด์เชียวนะ ตัดแบ่งเค้าไปทั่วเลย กินกันในบ้านไม่หมด เอาไปแจกวงไพ่ เสียดายที่ย่าป่วย กินอะไรไม่ได้เลยนอกจากแบรนด์ขวดกับน้ำเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แฟนบอกเค้กก้อนนี้ทำไมเนื้อเค้กอร่อยกว่าที่เคยทำไปให้เพื่อนที่แบงค์กิน จะเป็นเพราะเราลดเกลือไปครึ่งส่วนรึเปล่านะ หรือว่าเพราะ....
กลับบ้านสงกรานต์คราวนี้ได้อยู่ยาวเพราะรอไปเยี่ยมยายกับแม่ ให้คุณสามีมารับที่พิษณุโลก ยังไม่ทันเช้า แม่โทรมาบอกว่าย่าเสียแล้ว น้าอาสาขับรถมาส่ง กะว่าพอเปิดร้านแล้วเข้าที่เข้าทางจะพาย่ามาเที่ยว แต่ย่าไม่รอแล้ว รีบไปสวรรค์เสียก่อน ไม่ทันได้ลา ยังดีที่สงกรานต์นี้ได้รดน้ำย่าอีกครั้ง ย่าเป็นผู้หญิงเก่งคนหนึ่งในดวงใจ ป่วยมาหลายปี แต่ลูกหลานไม่เคยรู้เลย จนกระทั่งครึ่งปีสุดท้ายของชีวิต ที่เปิดโอกาสให้ลูกหลานได้ทดแทนเศษเสี้ยวของพระคุณ ย่าจ๋า...หนูตั้งชื่อร้านของหนูว่า SHU CHU SWEET .....SHU มาจาก ชู ชื่อของย่านะ หนูตั้งก่อนที่ย่าจะเสียไม่นานนัก แต่ย่ายังอยู่ในลมหายใจของหนูเสมอ