Life goes on. เมื่อเราชนะ อย่าลืมมองหาผู้พ่ายแพ้ และอย่าได้เหยียบย่ำไปมากกว่านั้น และเมื่อเราแพ้ จงมองหาผู้ชนะ เคารพ และเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
Group Blog
 
All Blogs
 
เรื่อง NP Faster ลงหนังสือพิมพ์

ช่วยเผยแพร่ละกันครับเรื่องกรณี NP Faster

วันที่ 07 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4138 ประชาชาติธุรกิจ


ขัดจังหวะ

คอลัมน์ เก็บตกเทคโนโลยี

โดย ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา



อีกแล้ว ประหยัดน้ำมัน มาจากไหนไม่รู้ จะไปไหนยัง ไม่รู้เลย

เป็นเรื่องมาจากอินเทอร์เน็ต ที่จะต้องพิสูจน์กันอย่างเต็มๆ เสียแล้วละครับ ก็เลยต้องยกเรื่องราวของน้ำมันเครื่องไปรอไว้ก่อน

จากอินเทอร์เน็ตสังคมดังที่สุดของเมืองไทยแห่งหนึ่ง เก่าแก่ที่สุดของเมืองไทยละกระมัง เว็บไซต์พันทิป ดอทคอม ห้องหว้ากอ หรือ //www.pantip.com/cafe/wahkor/ อันเป็นสังคมออนไลน์ในยุคแรกของพันทิป ที่มุ่งเน้นเรื่องวิทยาศาสตร์ ที่บางคราวก็ผสมผเสไปด้วยความเฮฮาจากอารมณ์ขันของคนในห้อง

แต่คราวนี้ ไม่ค่อยจะขำขันกันนัก ด้วยว่าสมาชิกคนหนึ่งในห้อง กำลังจะถูกฟ้องร้องด้วยผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า ที่ผมอยากจะเรียกว่า ไม่น่าเชื่อถือแก่ประชาชน

ซึ่งง่ายๆ ครับ หากการฟ้องร้องนั้นดำเนินไปจนฝ่ายผู้ผลิตสินค้านั้นได้ชัยชนะแล้วละก็นะ เมืองไทยก็คงต้องเลิกสอนวิชาวิทยาศาสตร์ และเลิกผลิตวิศวกรนานาประดามีออกมาได้ทั้งหมด หันไปทำอะไรแผลงๆ แล้วอวดอ้างอิทธิฤทธิ์กันให้ครื้นเครงไปเสียเลยจะดีกว่า

อุปกรณ์อย่างที่ว่านี่ ผู้ผลิตชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไร ผมยังขี้เกียจค้นหามาแสดง แต่เดาเอาว่าน่าจะเป็นบุคคลบนพื้นที่สูงของภาคเหนือ แล้วนำไปให้อาจารย์มหาวิทยาลัยหนึ่งรับรอง ที่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ใบรับรองนั้นเป็นของแท้ถูกต้องหรือไม่ แต่ไม่ใช่การรับรองโดยสถาบันแน่นอน เป็นแค่การรับรองของอาจารย์ท่านนั้นเพียงผู้เดียว

ที่ตลกร้ายกาจ ก็คืออุปกรณ์ที่ว่านั้น ทำขึ้นมาจากสายไฟฟ้าไม่กี่เส้น ทรานซิสเตอร์ตัวหนึ่ง ตัวเก็บประจุไฟฟ้าตัวหนึ่ง ต่อขาลอยไว้ข้างหนึ่ง ไม่รู้ต่อไว้อย่างนั้นทำไม แล้วก็ตัวต้านทานอีกสักตัวเห็นจะได้ละกระมัง เอามาใส่กล่องเล็กๆ ใช้เสียบขากล่องนั่นเข้ากับที่จุดบุหรี่ประจำรถยนต์

จากนั้น เมื่อคุณติดเครื่องยนต์รถ และขับเคลื่อนออกไป สิ่งมหัศจรรย์พันลึกก็จะบังเกิดขึ้น โดยมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า

ก็ได้ยินได้ทราบจากการอ้างอิงต่างต่างนานาของผู้ผลิตนะครับ ว่าอุปกรณ์นี้ จะสร้างสนามแม่เหล็ก ไปตัดกับสนามแม่เหล็กโลก เพื่อให้น้ำหนักของรถยนต์เบาขึ้น เปิดกรวยขึ้นหน้ารถ ให้เป็นโพรงอากาศแหลมออกไปข้างหน้า เพื่อตัดแหวกอากาศให้รถมีรูปทรงคล้ายอากาศยาน หัวแหลม ว่าอย่างนั้นก็ได้

และความที่เมื่อรถมีน้ำหนักเบาขึ้นเพราะกระแสแม่เหล็กภายใต้อิทธิพลของอุปกรณ์นี้ ไปตัดกับกระแสแม่เหล็กโลกที่ดึงดูดรถเอาไว้บนถนน ก็จะทำให้เครื่องยนต์ไม่ต้องออกแรงมากในการขับเคลื่อนรถออกจากที่ หรือเดินทางไปไหนต่อไหน

เป็นผลให้อาจารย์ท่านออกมาประกาศเปรี้ยงปร้างออกไปเลยว่า ประหยัดเชื้อเพลิงได้ 9-15%

ทุกผู้ทุกนามในห้องหว้ากอ ต่างก็พากันอุทานด้วยความตื่นเต้นตื้นตันใจ อู้ฮู เอ้อเฮอโว้ย เออโว้ย แหม ช่างเก่งเสียจริงๆ เชียวแหละแฮะ เก่งกว่า NASA ของสหรัฐอเมริกาเป็นไหนๆ เพราะ NASA นั้นพยายามหาอุปกรณ์ลดแรงโน้มถ่วงหรือแรงดึงดูดของโลกมานานนักหนา ยังคิดไม่ออกเลยว่า ทำเพียงแค่นี้ก็ได้แล้ว

อย่างนี้ ถ้าเอาไปเสนอ NASA ให้ห่อติดกันเป็นพวงแบบลูกโป่งสวรรค์ เอาผูกเข้ากับหัวยานอวกาศ วางเอาไว้กลางลาน เปิดไฟป้อนเข้าไปในเครื่อง ไอ้หัวยานอวกาศนั่นก็ย่อมจะลอยเคว้งคว้างขึ้นสู่สรวงสวรรค์ในทันใด แบบไม่ต้องเสียพลังงานแม้แต่บาทเดียว

แล้วเด็กชายคนหนึ่ง เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยในเชียงใหม่นั่นแหละ ก็หาทุนจำนวนสองพันห้าร้อยบาท จากการเรี่ยไรใน ห้องหว้ากอ เอาไปซื้ออุปกรณ์ตัวนี้มาเพื่อทดลอง

แต่จะทดลองหรือยังนี่ ผมไม่ทราบนะครับ ได้ความแต่ว่า เอามาผ่าดูภายใน และพบอย่างในภาพนี่เท่านั้นแหละครับ

ส่วนที่ว่า จะทดสอบว่า อุปกรณ์ทำอะไรได้อย่างไรหรือไม่นี่ ผู้ผลิตเขาขัดข้องครับ ด้วยว่าเขาอ้างว่าต้องทดสอบตามที่เขาทดสอบด้วยการใช้งานจริงกับรถยนต์จริงเท่านั้น จึงจะเห็นผล

ใครจะมาให้หลักการวิทยาศาสตร์ระดับใดๆ ที่ไหนมาชี้แจง มาคัดง้างเขา ไม่ได้ ไม่ถูกต้อง เพราะเขาทดสอบแค่การใช้งานจริง และประหยัดจริงๆ ท่านอาจารย์ท่านนั้นก็ทดสอบแบบใช้งานจริง เมื่อเห็นผลประหยัดแล้ว ท่านจึงมาพูดเชิงวิชาการให้ทุกท่านงุนงงไปเองเท่านั้นแหละกระมัง

เอาละครับ ผม ในฐานะนักทดสอบรถยนต์คนหนึ่งของเมืองไทย ก็จะขึ้นไปเชียงใหม่ เพื่อพิสูจน์เจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ ในแบบที่บริษัทอ้างว่า ได้ให้อาจารย์ท่านที่ว่านั่นพิสูจน์แล้วในแบบเดียวกัน

แต่นั่นเป็นเรื่องรองลงไปครับ

ผมอยากไปเพื่อไปพบกับเด็กหนุ่มนักศึกษา ของวิทยาลัยที่สอนให้นักศึกษาได้รู้จักพิสูจน์ก่อนเชื่อถืออะไร

เพื่อไปยืนยันกับชายหนุ่มท่านนั้นว่า ท่านไม่ได้อยู่คนเดียว ท่านก็มีผมเป็นหนึ่งในกลุ่ม Wall Paper ให้ท่านเอาหลังพิงไว้กับเขาด้วย

ถ้าฟ้องมา และตำรวจบ้าจี้ มาเชิญท่านไปดำเนินคดีจริง ผมจะประกันตัวท่านออกมาเอง ด้วยทุนทรัพย์ของผมเอง

และตำรวจคนนั้นจะต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ ว่าท่านนักศึกษาของผมทำอะไรผิดในสายตาและสายงานตำรวจ

รวมทั้งสู้คดี ให้เป็นที่สนุกสนานกันไป จากนั้น ก็ฟ้องกลับ เรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับท่านนักศึกษาของผม

ส่วนจะเสียหายรวมไปถึงประชาชนที่เสียเงินซื้อ เพราะโฆษณาไม่เป็นจริงของผู้จำหน่ายหรือไม่นั้น เอาไว้ทีหลังครับ

จาก //www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02car09070952§ionid=0210&day=2009-09-07


Create Date : 08 กันยายน 2552
Last Update : 8 กันยายน 2552 13:49:22 น. 0 comments
Counter : 334 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Dr-Zeratul
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีผู้เยี่ยมชมทุกท่าน
หวังว่าในนี้จะให้ประโยชน์/ความเพลิดเพลิน/ อะไรก็ได้ กับท่านผู้เยี่ยมชม

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นดีๆ นะครับ
Friends' blogs
[Add Dr-Zeratul's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.