สร้างไร่ความรู้ออนไลน์
 
 

เพลง i'm yours ของ Jason Mraz ฟังที่ไรก็ไพเพราะ

บทความเนื้อเพลงสากล แปลเพลงสากล



เนื้อเพลง i'm yours - Jason Mraz พร้อมแปล


Well you done done me and you bet I felt it
คุณทำให้ผมรัก และผมก็รักคุณเข้าอย่างจัง

I tried to be chill but you’re so hot that I melted
ผมพยายามจะเมินเฉยกับคุณ แต่คุณก็มีเสน่ห์จนผมใจละลาย

I fell right through the cracks
ผมรู้สึกเหมือนอยู่ในภาวะจิตเสื่อม

and now I’m trying to get back
และตอนนี้ผมพยายามทำตัวให้เป็นปกติ

Before the cool done run out
ก่อนที่สิ่งดีๆกำลังจะหมดไป

I’ll be giving it my bestest
ผมจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดของผมให้กับคุณ

Nothing’s going to stop me but divine intervention
ไม่มีอะไรที่จะหยุดผมได้ แต่การแทรกแซงของพระเจ้านั้น

I reckon it’s again my turn to win some or learn some
ผมจึงกลับมาคิดอีกที ว่าผมจะต้องรู้จักถึงการชนะบ้าง และเรียนรู้บ้าง

I won’t hesitate no more, no more
ผมจะไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว ไม่ลังเลอีกแล้ว

It cannot wait, I’m yours
ผมไม่สามารถทนรอได้ ผมเป็นของคุณ

* Well open up your mind and see like me
ช่วยเปิดใจของคุณ และมองมาที่ผมหน่อย

Open up your plans and damn you’re free
ช่วยเปิดแผนชีวิตของคุณ และทำลายมันซะ ปล่อยตัวคุณให้เป็นอิสระ

Look into your heart and you’ll find love love love
ลองมองเข้าไปในหัวใจ และคุณก็จะพบแต่คำว่า รัก รัก รัก

Listen to the music of the moment maybe sing with me
ฟังเสียงเพลงในตอนนี้ดูสิ คุณจะร้องเพลงนี้พร้อมผมก็ได้นะ ถ้าเป็นไปได้

Ah la peaceful melody
บทเพลงแห่งสันติภาพไง

It’s your God-forsaken right to be loved love loved love loved
เทพเจ้าแห่งความโชคร้ายของคุณ ยังพูดคำว่า รัก รัก รัก รักกัน

** So I won’t hesitate no more, no more
ดังนั้นผมจะไม่ลังเลอีกต่อไปแล้ว ไม่ลังเลอีกแล้ว

It cannot wait I’m sure
ผมไม่สามารถทนรอได้ ผมมั่นใจ

There’s no need to complicate
มันไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนเลยนะ

Our time is short
เวลาของพวกเราแสนสั้น

This is our fate, I’m yours
สิ่งนี้คือพรมลิขิต ผมเป็นของคุณ

I’ve been spending way too long checking my tongue in the mirror
ผมใช้เวลาไปมากมายกับการสำรวจลิ้นของตัวเองอยู่หน้ากระจก

And bending over backwards just to try to see it clearer
แลบลิ้นเข้าๆออกๆเพื่อดูว่ามันสะอาดแล้ว (จะทำไปทำไม??? อิอิ)

My breath fogged up the glass
ลมหายใจของผมเป็นไอเกาะบนกระจก

And so I drew a new face and laughed
และผมก็วาดรูป

I guess what i’ma saying is there ain’t no better reason
ผมก็เข้าใจนะว่าสิ่งที่ผมพูดออกไปนั้น เหตุผลคงไม่ดีพอ

To rid yourself of vanity and just go with the seasons
ขอให้คุณช่วยสละทิฐิของตัวเองทิ้งไป และก้าวไปในช่วงเวลาของเรา

It’s what we aim to do
ว่าอะไรคือเป้าหมายของเรา

Our name is our virtue
และพวกเราจะจารึกชื่อของเราไว้

*/**/*

No please, don’t hesitate
ได้โปรด อย่าลังเลใจอีกเลย

no more, no more
อย่าเลยนะ อย่าเลย

It cannot wait
ผมรอต่อไปไม่ได้แล้ว

The sky is your’s!
ขนาดท้องฟ้าก็ยังเป็นคุณ
-------------------------------------------------------------------------------




 

Create Date : 19 เมษายน 2555   
Last Update : 19 เมษายน 2555 23:15:12 น.   
Counter : 1764 Pageviews.  


มะเร็งปากมดลูกต้นเหตุการเสียชีวิตผู้หญิงไทยปีละกว่า 5,000 ราย

มะเร็งปากมดลูก เป็นต้นเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของผู้หญิงไทยปีละกว่า 5,000 ราย ป่วยรายใหม่เพิ่มปีละ 10,000 ราย สธ. เตรียมเสนอฉีดวัคซีนป้องกัน เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อประกาศเป็นนโยบายใหม่ของชาติ ในการควบคุมป้องกันโรคระยะยาว เบื้องต้นใช้งบลงทุน 600 ล้านบาท โดยฉีดให้เด็กหญิงชั้นป. 6 ทุกคน คนละ 3 เข็ม มีผลป้องกันโรคมะเร็งชนิดนี้ได้ตลอดชีวิต มั่นใจเป็นการลงทุนคุ้มค่า เพราะถูกกว่าค่ารักษา 17 เท่าตัว คาดภายใน 5-10 ปี จำนวนผู้ป่วยจะลดลงร้อยละ70 
       วันนี้ (7 เม.ย.) นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ และโรงพยาบาลนครราชสีมาหรือโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาแห่งที่2 จังหวัดนครราชสีมา ว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงสุขภาพของหญิงไทย เนื่องจากในแต่ละปี มีผู้หญิงเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกประมาณ 5,216 ราย มากเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม ส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ60 พบในกลุ่มอายุ 15-59 ปี และพบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่เพิ่มปีละประมาณ 10,000 ราย ในขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ปัญหานี้ลดลงอย่างชัดเจน แต่ในประเทศที่กำลังพัฒนา ยังพบโรคนี้เป็นสาเหตุการป่วยและการเสียชีวิตที่สำคัญของผู้หญิง องค์การอนามัยโลกรายงานทั่วโลกมีผู้หญิงเสียชีวิตจากโรคมะเร็งปากมดลูกปีละ 275,000 ราย สาเหตุของมะเร็งชนิดนี้ ร้อยละ 80 เกิดมาจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่าเอชพีวี (HPV: Human Papilloma virus ) ที่ติดจากการมีเพศสัมพันธ์
       ที่ผ่านมาอัตราการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกครอบคลุม ผู้หญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปที่มีประมาณ 10 ล้านคนได้ร้อยละ 70 ทำให้การควบคุมป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกของไทย ยังได้ผลดีไม่เท่าที่ควร เนื่องจากส่วนหนึ่งเกิดจากประเพณีความเชื่อ และความเขินอายของผู้หญิง จึงไม่กล้าพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขมีแนวคิดจะนำวัคซีนป้องกันไวรัสเอชพีวี (HPV: Human Papilloma vaccine ) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ทางการแพทย์ นำมาฉีดป้องกันในเด็กหญิงไทยอายุ 12 ปีที่กำลังเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (ป.6) และยังไม่มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งทั่วประเทศมีปีละประมาณ 400,000 คน ฉีดคนละ 3 เข็ม จะป้องกันได้โรคมะเร็งปากมดลูกได้ตลอดชีวิต ซึ่งจะลดการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ และลดการเสียชีวิตในระยะยาวอย่างได้ผล ขณะนี้มีหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่นอังกฤษ อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ปานามา รวมถึงประเทศมาเลเซียด้วย ได้บรรจุการฉีดวัคซีนดังกล่าวเป็นนโยบายวัคซีนแห่งชาติ และฉีดให้เด็กหญิงอายุ 12-13 ปีทุกคน พบว่าได้ผลดี ทำให้โรคลดลงอย่างชัดเจน
       นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ให้กรมอนามัยจัดทำโครงการดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณ 600 ล้านบาท เฉลี่ยรายละ 1,500 บาท จะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเร็วๆนี้ เพื่อกำหนดเป็นนโยบายใหม่ของชาติ ซึ่งจะเป็นการพลิกโฉมระบบการประกันสุขภาพของประเทศไทย และเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่า เพราะหากป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก 1 ราย จะต้องใช้เวลารักษาติดต่อกัน 4-5 ปี ค่ารักษาประมาณ 1 ล้านบาทต่อราย โดยหากมีผู้ป่วย 10,000 ราย จะต้องใช้งบรักษามากถึง 10,000 ล้านบาท และบางรายอาจไม่ได้ผล เพราะรักษาเมื่อเซลล์มะเร็งลุกลามแล้ว แต่หากลงทุนโดยฉีดวัคซีนป้องกัน จะถูกกว่ากันถึง 17 เท่าตัว
       ทั้งนี้ แนวคิดการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก6 องค์กรวิชาชีพทางการแพทย์ ได้แก่ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย สมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย และสมาคมอนามัยเจริญพันธุ์(ไทย) อย่างไรก็ตาม วัคซีนดังกล่าวขณะนี้ราคาประมาณเข็มละ 1,000 บาท แต่หากใช้ในปริมาณมาก ราคาน่าจะจะถูกลงเข็มละประมาณ 500 บาท 
       นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าวต่ออีกว่า อัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงไทยจะพบมากที่สุดในอายุ 40-45 ปี หลังจากติดเชื้อไวรัสเอชพีวี จะใช้เวลาก่อโรคมะเร็งอย่างค่อยเป็นค่อยไปประมาณ 10-15 ปี และปัจจุบันนี้อายุการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกของหญิงไทยน้อยลงเรื่อยๆ ความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้จะสูง โดยวัคซีนที่จะนำมาฉีดป้องกันไวรัสมะเร็งปากมดลูกในไทยครั้งนี้จะป้องกันได้ 2 สายพันธุ์คือสายพันธุ์ที่ 16 และ 18 ซึ่งเป็นไวรัสที่พบเป็นต้นเหตุมะเร็งปากมดลูกหญิงไทยมากถึงร้อยละ 70 ของมะเร็งปากมดลูกที่พบทั้งหมด โดยในระยะแรกจะทำควบคู่กับการตรวจคัดกรองหามะเร็งปากมดลูกในกลุ่มหญิงอายุ 30 ปีขึ้นไปด้วยวิธีแปปสเมียร์ (Pap smear) และวีไอเอ ซึ่งยังมีความจำเป็น ทำให้ได้ผลคุ้มค่าขึ้น เพราะเป็นวิธีที่จะตรวจพบความผิดปกติได้รวดเร็วและให้การรักษาเร็วก่อนที่เซลล์มะเร็งจะลุกลาม โอกาสหายขาดจะมีสูงขึ้น มั่นใจว่าภายใน 5-10 ปีข้างหน้า เราจะสามารถลดปัญหาโรคมะเร็งปากมดลูกได้ร้อยละ70 นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าว

ที่มา manager.co.th




 

Create Date : 09 เมษายน 2555   
Last Update : 9 เมษายน 2555 2:23:02 น.   
Counter : 458 Pageviews.  


เพลง BABY ONE MORE TIME เนื้อเพลงและคำแปล


เอาเนื้อเพลงแปลมาฝากครับ

เพลง BABY ONE MORE TIME พร้อมคำแปลไทย

ศิลปิน Britney Spears


Britney Spears..Oh baby baby
..Oh baby baby
.
Oh baby baby                              
How was I supposed to know        
That something wasn't right here    
Oh baby baby                            
I shouldn't have let you go                
And now you're out of sight, yeah  
Show me,                                      
how you want it to be                      
Tell me baby                                  
'Cause I need to know
Now what we've got 
ได้โปรดเถอะ ที่รัก
ฉันจะรู้ได้อย่างไรล่ะ 
ว่าได้ทำสิ่งใดผิดพลาดไป 
โธ่ที่รัก 
ฉันไม่น่าจะปล่อยเธอไปเลย 
แล้วเธอก็ไปแล้ว
ไหนบอกฉันมาซิว่า
เธออยากไหนความรักของเราเป็นยังไง
บอกมาซิ ที่รัก
เพราะฉันจำเป็นต้องรู้ว่าเรารักกันมากแค่ไหน

[Chorus]
My loneliness is killing me
I must confess,
I still believe [still believe]
When I'm not with you
I lose my mind
Give me a sign
Hit me baby one more time 
ความอ้างว้างกำลังทรมานฉัน
ฉันต้องขอสารภาพ
เมื่อฉันไม่มีเธออยู่ด้วย 
ฉันเสียสติไปเลย
บอกฉันหน่อยซิ
มารักฉันอีกครั้งเถอะ

Oh baby baby
The reason I breathe is you
Boy you got me blinded
Oh baby baby
There's nothing
that I wouldn't do
That's not the way I planned it
Show me, how you want it to be
Tell me baby
'Cause I need to know
Now what we've got 
นะที่รัก
เหตุผลที่ฉันมีชีวิตอยู่ก็เพราะเธอนั่นแหละ
ที่รัก เธอทำให้ฉันตาบอด
โธ่ ที่รัก
ฉันจะทำทุกสิ่ง (ความหมายเดียวกับ ไม่มีสิ่งใดที่ฉันจะไม่ทำนั่นเอง)
และไม่เป็นไปตามที่ฉันวางแผนไว้ด้วย (ทำนองว่า ฉันจะไม่ทำตามที่ฉันคิด ฉันวางแผน แต่ฉันจะทำตามเธอ บอกมาเลย) 
บอกฉันมาซิ อยากให้ฉันทำประการใดหรือ
บอกฉันหน่อยเถอะ ที่รัก
เพราะฉันอยากรู้ว่าเรายังรักกันมากแค่ไหนนะ

My loneliness is killing me
I must confess,
I still believe [still believe]
When I'm not with you
I lose my mind
Give me a sign
Hit me baby one more time 
ความอ้างว้างกำลังทรมานฉัน
ฉันต้องขอสารภาพ
เมื่อฉันไม่มีเธออยู่ด้วย 
ฉันเสียสติไปเลย
บอกฉันหน่อยซิ
มารักฉันอีกครั้งเถอะ

Oh baby baby
Oh baby baby
Ah, yeah yeah
Oh baby baby
How was I supposed to know
......
Oh pretty baby
I shouldn't have let you go
I must confess
that my loneliness
Is killing me now
Don't you know I still believe
That you will be here
And give me a sign
Hit me baby one more time 
ฉันไม่น่าปล่อยให้เธอจากฉันไปเลย
ฉันต้องขอสารภาพว่า ความเหงานั้น
มันกำลังทรมานฉันเหลือเกิน
เธอไม่รู้หรือว่า ฉันยังเชื่อมั่นว่า
เธอจะยังอยู่ตรงนี้
และส่งสัญญาณรักให้ฉันรู้
รักฉันอีกครั้งเถอะนะ

My loneliness is killing me
I must confess,
I still believe [still believe]
When I'm not with you
I lose my mind
Give me a sign
Hit me baby one more time 
I must confess
that my loneliness
Is killing me now
Don't you know I still believe
That you will be here
and give me a sign
Hit me baby one more time

ที่มา : //musicinthai.blogspot.com/




 

Create Date : 01 เมษายน 2555   
Last Update : 1 เมษายน 2555 23:51:46 น.   
Counter : 1772 Pageviews.  


ไปดูบี้เดอะสตาร์พาน้องๆ The star 8 เต้นเพลง ณ บัด NOW



ดูคลิปทั้งหมด




 

Create Date : 06 มีนาคม 2555   
Last Update : 6 มีนาคม 2555 13:26:09 น.   
Counter : 574 Pageviews.  


รู้จักยาลดความอ้วนกันเถอะ

ความอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อการเกิดโรคหลายชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดผิดปกติ โรคหัวใจ โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคทางระบบเดินหายใจ (sleep apnea, pickwickian syndrome) โรคข้อเสื่อม โรคเกาท์ และโรคมะเร็งหลายชนิด การลดน้ำหนักเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยโรคอ้วนเพื่อป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนดังกล่าว

สำหรับการรักษาโรคอ้วนนั้นมีหลายวิธี ได้แก่

การควบคุมอาหาร
การออกกำลังกาย
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต
การใช้ยาลดน้ำหนัก
การผ่าตัดดูดไขมัน

ผู้ป่วยบางรายสามารถที่จะลดน้ำหนักได้ดีโดยการควบคุมอาหาร ออกกำลังกายและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเท่านั้น อย่างไรก็ตามมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถควบคุมด้วยวิธีการดังกล่าว จึงมีความจำเป็นที่ ผู้ป่วยอาจต้องมีการใช้ยาลดน้ำหนักร่วมด้วยหรือได้รับการผ่าตัดในบางราย

สำหรับการใช้ยาลดน้ำหนักในปัจจุบันมีข้อถกเถียงกันมากทั้งในแง่ของประสิทธิภาพของยา ระยะเวลาที่ให้การรักษาและผลข้างเคียงของยา นอกจากนี้การใช้ยายังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอในปัจจุบันมีแนวคิดที่จะใช้ยาในระยะยาวเพื่อทำให้ควบคุมน้ำหนักได้เป็นระยะเวลานานมากขึ้น แต่คงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยาร่วมด้วย 1

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับยาลดน้ำหนัก

1. การใช้ยาลดน้ำหนักนั้น ยาเพียงแต่ช่วยควบคุมน้ำหนักให้ลดลงและคงที่ แต่ยาไม่ได้รักษาโรคอ้วนให้หายไป เช่นเดียวกับโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูงการให้ยาเพียงแต่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตลดลง ดังนั้นการหยุดยาลดน้ำหนักอาจจะทำให้น้ำหนัก เพิ่มใหม่ได้

2. การใช้ยาลดน้ำหนักจะได้ผลดีต้องใช้ร่วมกับการควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยยาอาจช่วยควบคุมน้ำหนักโดยทำให้ผู้ป่วยปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหาร การออกกำลังกายได้ถูกต้องยิ่งขึ้น

3. การใช้ยาลดน้ำหนัก ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ แต่พบว่าแพทย์จำนวนไม่น้อยใช้ยาลดน้ำหนักโดยที่ผู้ป่วยไม่มีข้อบ่งชี้ที่เหมาะสมทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะแทรกซ้อน ในบางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้

4. การใช้ยาในระยะยาว ควรพิจารณาเป็นราย ๆ ควรคำนึงถึงความปลอดภัย และผลที่ได้จากการใช้ยา ปัจจุบันเริ่มมียาใหม่ซึ่งมีข้อมูลในการใช้รักษาในระยะยาวมากขึ้น

ควรใช้ยาลดน้ำหนักเมื่อใด

การเลือกใช้ยาลดน้ำหนักในการรักษาโรคอ้วนนั้น ผู้ป่วยทุกรายควรได้รับการประเมินปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการรักษา ความคุ้มและประโยชน์ที่ได้รับจากการรักษาด้วยยา ตรวจดูว่าผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นหรือไม่ ตรวจวัดระดับดัชนีมวลกายโดยคำนวณจากอัตราส่วนระหว่างน้ำหนักตัวหน่วยเป็นกิโลกรัมต่อความสูงหน่วยเป็นเมตรยกกำลังสอง สำหรับข้อแนะนำ ในการตัดสินใจรักษาด้วยยามีดังนี้

1. เมื่อดัชนีมวลกายมากกว่าหรือเท่ากับ 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตร โดยที่ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยการควบคุมอาหาร ออกกำลังกายและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วไม่สามารถลดน้ำหนักได้จนถึงเป้าหมาย

2. เมื่อดัชนีมวลกายมากกว่าหรือเท่ากับ 27 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ร่วมกับมีปัจจัยเสี่ยง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูงหรือไขมันในเลือดผิดปกติโดยที่ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยการ ควบคุมอาหาร การออกกำลังกายและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วไม่สามารถลดน้ำหนักได้

ควรลดน้ำหนักเท่าไรจึงจะดี

ในการลดน้ำหนักในผู้ป่วยโรคอ้วนนั้นพบว่าการที่จะลดน้ำหนักลงให้เท่ากับน้ำหนักผู้ป่วยควรจะเป็น (ideal body weigh) นั้นกระทำได้ยากและอาจไม่มีความจำเป็น จากการศึกษาพบว่า การที่สามารถลดน้ำหนักได้เพียงร้อยละ 5-10 ของน้ำหนักเริ่มต้นก่อนการรักษาจะช่วยลดการเกิดโรคแทรกซ้อนจากโรคอ้วนและลดอัตราตายได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการที่ผู้ป่วยควบคุม น้ำหนักให้คงที่ไม่ให้เพิ่มขึ้นเนื่องจากข้อมูลโดยส่วนใหญ่พบว่าผู้ป่วยมักจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจนถึงระดับเดิมก่อนการรักษาภายหลังการหยุดยา

ชนิดของยาลดน้ำหนัก

สามารถแบ่งได้เป็น 4 กลุ่มดังนี้

1. Appetite suppressants: เป็นยากลุ่มที่ออกฤทธิ์ที่ระบบประสาทส่วนกลางเพื่อควบคุมความหิว ทำให้รู้สึกอิ่ม ยาในกลุ่มนี้ยังแบ่งย่อยได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1.1 Noradrenergic agents : Phentermine, Diethylpropion, Phenylpropanolamine, Benzphetamine, Mazindol และPhendimetrazine

1.2 Serotoninergic agents : Dexfexfluramine, Fenfluramine และ Fluoxetine ปัจจุบันยา Dexfexfluramine และ Fenfluramine ได้ยกเลิกการจำหน่ายจากท้องตลาดเนื่องจาก ผลข้างเคียงทำให้เกิดลิ้นหัวใจผิดปกติ และเกิด pulmonary hypertension ทั้งในกรณีที่ใช้ตัวเดียวหรือร่วมกับ Phentermine

1.3 Noradernergic / serotoninergic agents : Sibutramine

2. Thermogenic agents: เป็นยากลุ่มที่ช่วยทำให้ความอยากอาหารลดลงร่วมกับการเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ยากลุ่มนี้ได้แก่

2.1 Adrenergic agents : ephedrine-caffeine

2.2 b3 – adrenergic receptor agonist

3. Digestion inhibitors : ยาที่ช่วยยับยั้งการดูดซึมโดยเฉพาะอาหารพวกไขมัน ได้แก่ lipase inhibitor (Orlistat)

4. Hormonal manipulation เป็นยาใหม่ที่เริ่มนำมาใช้ในการรักษาเพื่อลดน้ำหนัก

ได้แก่ leptin analogue, Neuropeptide Y antagonist, cholecystokinin, glucagon และ glucagon-like peptide-1

หลักการใช้ยาลดน้ำหนัก

1. ก่อนที่จะเริ่มใช้ยาลดน้ำหนัก ควรจะให้การรักษาด้วยการควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน ในกรณีที่ให้การรักษาดังกล่าวแล้วน้ำหนักลดเกินร้อยละ 10 การใช้ยาลดน้ำหนักอาจไม่มีความจำเป็นในผู้ป่วยกลุ่มนี้

2. ในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับยาลดน้ำหนักเป็นระยะเวลา 3 เดือนแล้ว ถ้าน้ำหนักลดลงน้อยกว่าร้อยละ 5-10 ของน้ำหนักตัวก่อนเริ่มใช้ยา ควรพิจารณาเลิกใช้ยาดังกล่าวเนื่องจากมีการศึกษาพบว่าถ้าใช้ยาต่อไปจะไม่ได้ผลและอาจเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงของยาได้

3. ในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับยาลดน้ำหนักเป็นระยะเวลา 3 เดือน ถ้าน้ำหนักลดลงมากกว่า ร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัวก่อนเริ่มใช้ยา แสดงว่าการใช้ยาได้ผล อย่างไรก็ตามควรต้องติดตามผู้ป่วยทุกเดือน ในกรณีที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 กิโลกรัม ขณะได้รับยาลดน้ำหนักอยู่ควรพิจารณาเลิกการใช้ยาดังกล่าวเช่นกัน ส่วนในกรณีที่ยังควบคุมน้ำหนักได้ดี จะต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพของยารวมทั้งผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ในการใช้ยาระยะยาวและควรติดตามผู้ป่วยตลอดการใช้ยา

ข้อห้ามใช้ของยาลดน้ำหนัก

1. อายุน้อยกว่า 18 ปี เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับผลของยาต่อ puberty และเด็กในวัยเจริญเติบโต

2. สตรีตั้งครรภ์

3. ดัชนีมวลกายไม่ถึงเกณฑ์ (ดัชนีมวลกายมากกว่า 30 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ยกเว้นมีปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูงหรือไขมันในเลือดผิดปกติให้ใช้ค่าดัชนีมวลกาย น้อยกว่า 27 กิโลกรัมต่อตารางเมตร

ลดความอ้วน


วิธีลดน้ำหนัก



ที่มา: ชมรมลดความอ้วน.blogspot.com/2012/02/1.html




 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2555   
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2555 0:58:36 น.   
Counter : 676 Pageviews.  


1  2  3  4  

wirojanakose
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จะเอาหลังสู้ฟ้า เอาหน้าสู้ดิน จนกว่าจะสิ้นชีวา
[Add wirojanakose's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com