Group Blog
 
All Blogs
 

ความร้อนในร่างกายเอามาผลิตไฟฟ้า



ร่างกายของมนุษย์สามารถสร้างพลังงานได้มากมายแต่พลังงานเหล่านั้นถูกปล่อย ให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ตอนนี้เค้ากำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ช่วยเก็บเกี่ยวพลังงานไฟฟ้าจากการเคลื่อนไหวของมนุษย์อยู่ค่ะ


เทคโนโลยีมีชื่อว่า Power Felt มันถูกพัฒนาขึ้นโดย Corey Hewitt นักศึกษาปริญญาเอกสาขา Center of Nanotechnology and Molecular Materials จาก Wake Forest University ด้วยการใช้วิธีง่ายๆในการสร้างพลังงาน thermoelectric จากร่างกายของคน

เึค้าได้ผลิตวัสดุแบบใหม่ด้วย nanotubes สอดเข้าไปใน plastic fibers โดยการใช้ความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิในการสร้างพลังงานไฟฟ้า วัสดุแบบใหม่นี้มีความยืดหยุ่นสูงซึ่งอาจนำไปประยุกต์ใช้ทำเสื้อผ้าและใช้ ความร้อนจากร่างกายเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หรืออาจจะนำมาทำชั้นที่คั่นระหว่างฉนวนกันความร้อนและหลังคาบ้าน หรือใช้ทำเป็นที่หุ้มเบาะรถยนต์ เพื่อเก็บเกี่ยวความร้อนจากแสงอาทิตย์มาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า


ข้อดีของวิธีการเก็บเกี่ยวไฟฟ้าด้วยวิธี thermoelectrics มีหลายข้อด้วยกัน ประการแรก มันไม่ต้องใช้สารประกอบราคาแพง อย่าง bismuth telluride เพื่อ นำมาใส่ลงไปในอุปกรณ์ นอกจากนี้แผ่นผ้ายังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นด้วยการเพิ่มจำนวน nanotubes ที่ใส่เข้าไปในเส้นใยไฟเบอร์ให้มากขึ้น ทำให้ในระยะยาวปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้ก็ยิ่งมากขึ้นตามเทคโนโลยีการผลิตที่ พัฒนาขึ้นด้วย เพราะมันเป็นแผ่นผ้าบางๆการผลิตจำนวนมากจึงทำได้ง่าย และทำให้ค่าใช้จ่ายในการผลิตลดลงไปด้วยถ้าคนนิยมใช้กันเยอะๆ


ถ้าบริษัทผลิตเสื้อผ้าหันมาเลือกใช้ Power Felt อย่างแรกที่เราน่าจะได้ใช้กันก็คือ รองเท้าที่ฝังเทคโนโลยี piezoelectric เอาไว้ข้างใน นอกจากออกจากบ้านโดยไม่ต้องพกที่ชาร์จแล้ว มันยังเป็นการส่งเสริมให้เราเดินหรือออกกำลังกายมากขึ้นด้วย


Garmin GPSMAP 620 Waterproof Car/Marine GPS and ChartplotterProForm 710 E EllipticalCallaway Golf Solaire 14-Piece Complete Club SetEotech EXPS3-0 Holographic Weapon SiteTAG Heuer Men's WAJ2110.BA0870 Aquaracer Automatic 500M Calibre 5 Watch Livestrong? LS6.0R Recumbent BikeProform 18.0 RE EllipticalConcept2 Model E Indoor Rowing MachineProForm 510 E EllipticalLivestrong? LS10.0T Treadmill NiteRider Pro 3000 LED LightBody Solid SDRS550 5-50-Pound Rubber Hex Dumbbell SetTAG Heuer Men's CAH1010.FT6026 Formula 1 Grande Date Black Dial WatchStiga STS410Q Table Tennis TableMesa Safe Company MBF7236E 22.9 Cubic Foot 32 Rifle Gun Safe Ben Roethlisberger Autographed Pittsburgh Steelers Home White Authentic JerseyXMark Fitness Commercial Heavy Bag Speed Bag StandGoal Zero 39002 Silver/Black Large Extreme 350 Adventure KitSuunto Elementum Terra Altimeter WatchWaterRower Natural Rowing Machine in Ash Wood




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 12 พฤษภาคม 2555 3:10:37 น.
Counter : 593 Pageviews.  

ทำเค้กด้วยไมโครเวฟ (เพียง 2 นาทีครึ่งเท่านั้น)



ทำเค้กด้วยไมโครเวฟ (เพียง 2 นาทีครึ่งเท่านั้น)

ส่วนผสม

แป้งเค้ก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลป่น 2 ช้อนโต๊ะ
ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ
กาแฟผง 1 ช้อนชา
ไข่ไก่ฟองเล็ก 1 ฟอง
นม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันทานตะวัน 1 ช้อนโต๊ะ
ชอคโกแลคสับหยาบ

วิธีทำ

1. ใช้ถ้วยกาแฟใบใหญ่
2. ผสมแป้งเค้ก น้ำตาลป่น ผงโกโก้ และผงกาแฟ คนให้เข้ากัน
3. ตอกไข่ใส่และใช้ส้อมคนจนเข้ากัน
4. เติมนม น้ำมันทานตะวัน คนให้เข้ากัน
5. เติมชอคโกแลตสับหยาบหรือชอคโกแลตชิป
6. ใส่ไมโครเวฟ ใช้ไฟสูงสุด 2 1/2 นาที
7. หลังจากเอาออกจากไมโครเวฟ พักไว้ 1 นาที และเสิร์ฟพร้อมครีมหรือไอศกรีม


Acog 4 X 32 Scope Dual Illuminated Chevron .223 Ballistic ReticleArchie, Peyton, and Eli Manning Signed Steiner Football-OfficialProForm Le Tour De France Indoor Cycling Bike Gen 2Marcy Diamond Elite Smith SystemTAG Heuer Men's CV2014.FT6014 Carrera Automatic Chronograph Watch Casio Pathfinder Titanium Black Dial Men's Watch - PRW5100YT-1Swarovski Optik EL Swarovision Binocular, 8.5x42 mmTAG Heuer Men's CV2A10.BA0796 Carrera Automatic Chronograph WatchDahon Speed D7 Folding BikeArcteryx Alpha SV Jacket - Men's Schwinn Airdyne Evo Comp Exercise BikeChase-Durer Men's 246.4BB7-XL-BR Special Forces 1000XL Black Ionic-Plated Underwater Demolition Team WatchBodyCraft F430 Power RackSuunto Ambit HR WatchCallaway RAZR X HL Iron Set Diamondback 2012 Overdrive Comp 29'er Mountain BikeCanon 4624A002 Is All Weather BinocularsDiamondback 2012 Response Sport Mountain BikeTAG Heuer Men's CAP2110.BA0833 Aquaracer Black Chronograph Dial WatchGarmin GPSMAP 541s 5-Inch Waterproof Marine GPS and Chartplotter




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 12 พฤษภาคม 2555 3:07:47 น.
Counter : 961 Pageviews.  

10 พฤติกรรมสุดทนของผู้ชายในสายตาสาว ๆ



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

เคยไหมที่อยู่ ๆ แฟนของคุณก็เกิดโมโหโดยที่คุณไม่รู้สาเหตุ และพอกลับมานั่งคิดเงียบ ๆ ก็ยังคงคิดไม่ออกอยู่ดี ว่าเธอโกรธคุณเรื่องอะไร จนไม่รู้จะง้อหรือเอาใจเธออย่างไรดี หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่เคยเจอเรื่องแบบนี้ ลองมาอ่าน 10 พฤติกรรมที่สาว ๆ เกลียดในตัวผู้ชายที่เรานำมาฝากกันวันนี้ดู อาจช่วยให้คุณได้เรียรู้มากขึ้น เพื่อที่จะไม่เผลอทำให้ธอไม่พอใจโดยไม่รู้ตัว

1. เอามือล้วงเข้าไปในกางเกง

          รู้ไว้เลยว่าสาว ๆ รู้สึกว่ามันน่ารังเกียจและสกปรกมาก ๆ เวลาที่คุณเอามือเข้าไปในกางเกงเพื่อทำอะไรก็แล้วแต่ในที่สาธารณะ นอกจากนี้ มันยังทำให้คุณกลายเป็นเป้าสายตาของคนรอบข้างได้ง่าย ๆ จนทำให้เธอรู้สึกอับอายอีกด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็ควรแอบไปทำในห้องน้ำ แล้วล้างมือให้สะอาดเรียบร้อยจะดีกว่า

2. แกล้งทำเป็นฟังที่เธอพูด

          ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ชายจะแยกสมาธิได้ไม่ดีเท่าผู้หญิง เพราะฉะนั้น เวลาที่พวกเธอเข้ามาคุยด้วยตอนที่เราดูโทรทัศน์หรือเล่มเกมอยู่ เราจึงแทบจะไม่รู้เรื่องเลยว่าเธอกำลังพูดอะไรอยู่ ได้แต่พยักหน้าทำเป็นฟังไปตามเรื่อง อย่างไรก็ตาม ถ้าเธอจับได้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจฟังเธอเลย มีแต่จะทำให้เธอโกรธจนกลายเป็นเรื่องใหญ่เสียเปล่า ๆ ดังนั้นถ้าคุณไม่ว่างฟังเธอพูด ก็บอกเธอตรง ๆ จะดีกว่า จะได้ไม่ต้องทะเลาะกันให้ปวดหัว

3. ผายลมหน้าตาเฉย

          ถ้าคบกันไปนาน ๆ แล้วคุณเผลอผายลมออกมานาน ๆ ครั้งก็พอรับได้ แต่ถ้าเจอกันไม่ทันไร คุณก็ผายลมแบบไม่เกรงใจเธอซะแล้ว ก็คงไม่มีผู้หญิงคนไหนรับได้หรอก เพราะมันแสดงถึงความไม่มีมารยาทเอาซะเลย ลองคิดกลับกันดูสิ ถ้าช่วงที่คบกันแรก ๆ อยู่ ๆ เธอก็ผายลมหน้าตาเฉยบ้าง คุณจะประทับใจไหมล่ะ

4. ไม่ดูแลตัวเองเวลาไม่สบาย

          ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่เวลาป่วยคุณจะรู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากทำอะไร นอกจากนอนทิ้งตัวลงเฉย ๆ แต่บางครั้ง คุณก็ควรดูแลตัวเองด้วยการทานยาให้ครบตามที่หมอสั่งบ้าง ไม่ใช่คอยแต่จะให้เธอมาดูแลคุณอย่างเดียว ถ้าขนาดตัวคุณเองยังไม่รู้จักดูแลตัวเอง แล้วจะไปดูแลคนอื่นได้หรือ ลองถามตัวเองดูสิว่า เวลาที่คุณป่วย เธอคอยมาดูแลคุณบ่อยแค่ไหน แล้วเวลาที่เธอไม่สบาย คุณเคยไปดูแลเธอบ้างหรือเปล่า

5. ทำท่าสนใจคนอื่นออกนอกหน้า

          ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ชอบมองคนหน้าตาดีด้วยกันทั้งนั้นแหละ แต่มันก็ต้องมีขอบเขตกันบ้าง คุณควรเกรงใจแฟนของคุณด้วย อย่ามองสาวอื่นเหลียวหลังต่อหน้าเธอ หรือพูดว่าคนนั้นสวยน่ารักอย่างโน้นอย่างนี้ให้เธอฟัง เพราะมันแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้สนใจความรู้สึกของเธอเลย และถ้าเธอทำแบบเดียวกันบ้าง คุณก็คงไม่พอใจเหมือนกันนั่นแหละ 

6. พูดถึงแฟนเก่าอยู่เรื่อย

          การหยิบเอาเรื่องแฟนเก่ามาพูดอยู่บ่อย ๆ จะทำให้เธออดน้อยใจไม่ได้ว่าคุณยังคงรักแฟนเก่าอยู่ แต่ไม่ได้รักเธอเลยสักนิด แถมยังคิดเปรียบเทียบเธอกับคนเก่าอีกด้วย เพราะฉะนั้น ถ้ารู้ตัวว่าเรื่องแฟนเก่ากำลังจะทำให้คุณต้องทะเลาะกับแฟนใหม่ ก็พยายามเลี่ยงเรื่องนี้ไปซะ พูดถึงเธอให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

7. ชมแม่ของคุณให้เธอฟังเป็นประจำ

          คุณอาจคิดว่าการพูดถึงแม่ตัวเองบ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร แต่จริง ๆ แล้วผู้หญิงรู้สึกกดดันมาก ๆ เวลาที่คุณพูดถึงแม่ เพราะเธอจะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองถูกเปรียบเทียบกับแม่ของคุณอยู่ตลอดเวลา และแม่กับแฟนสาวของคุณ ก็มักจะมีอคติต่อกันไว้ก่อนอยู่แล้วด้วย เพราะแฟนของคุณก็กลัวว่าแม่จะเข้ามาคอยบงการชีวิตเธอ ในขณะที่แม่ของคุณก็กลัวว่าแฟนของคุณจะมาแย่งความรักของคุณไปจากเธอเช่นกัน ดังนั้น ควรพยายามทำตัวเป็นสื่อกลางที่ดี และให้พวกเขาได้เจอกันบ่อย ๆ เพื่อรู้จักสนิทสนมกันมากขึ้น จะได้ไม่มีปัญหาภายหลังจะดีกว่า

8. คิดแต่เรื่องเซ็กส์ตลอดเวลา

          สมองส่วนที่ใช้คิดเรื่องทางเพศของผู้ชายนั้น มีขนาดใหญ่กว่าผู้หญิงถึง 2.5 เท่า เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าผู้ชายจะสนใจเรื่องพวกนี้มากกว่าผู้หญิง อย่างไรก็ตาม การที่คุณคิดถึงแต่เรื่องเซ็กส์จนละเลยความโรแมนติก และไม่ใส่ใความรู้สึกขอเธอบ้างเลย จะทำให้ผู้หญิงไม่พอใจได้ง่าย ๆ ดังนั้น ไม่ควรมองว่าเซ็กส์เป็นแค่เรื่องสนุก แต่ควรให้ความสำคัญกับความรู้สึกของเธอด้วย

9. ขี้โม้น่ารำคาญ

          บางเรื่องที่อาจทำให้คุณดูเท่เวลาเล่าให้กลุ่มเพื่อนผู้ชายฟัง เช่น เคยควงนางแบบสุดฮอตมาก่อน หรือได้รางวัลเหรียญทองมาบ้าง อาจไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ผู้หญิงประทับใจเสมอไป หากคุณเล่าเพียงเล็กน้อย พอให้เธอชื่นชมคุณบ้าง ก็ไม่เสียหายอะไรหรอก แต่ถ้าคุณพล่ามเรื่องความเพอร์เฟ็คของตัวเองตลอดเวลาไม่ยอมหยุดนี่สิ เธอจะรู้สึกเบื่อหน่ายและมองว่าคุณเป็นผู้ชายขี้โม้หลงตัวเองทันที ฉะนั้น ฟังเธอพูดบ้าง อย่าพูดถึงแต่เรื่องของตัวเอง

10. ไม่เคยจำอะไรเกี่ยวกับเธอได้เลย

          ผู้หญิงทุกคนพร้อมจะวีนแตกทั้งนั้น หากแฟนของเธอลืมเรื่องสำคัญ ๆ เช่น เดทที่นัดกันเอาไว้หรือวันครบรอบต่าง ๆ ในทางกลับกัน เธอจะรู้สึกประทับใจมากขึ้นเป็นเท่าตัว ถ้าคุณจำได้เอง โดยที่เธอไม่ต้องคอยบอกคอยเตือน แม้แต่ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เธอไม่คิดว่าคุณจะจำได้ เช่น สีหรืออาหารที่ชอบ ฉะนั้นใส่ใจเธอให้มากหน่อย และหัดจำสิ่งที่เธอชอบเอาไว้บ้าง

หากคุณเคยเผลอทำข้อใดก็แล้วแต่ใน 10 ข้อนี้ ก็พยายามเลิก ๆ ไปบ้าง เพื่อที่แฟนของคุณจะได้ไม่โกรธจนต้องมาทะเลาะกันให้ปวดหัวอีกนะคร้าบ




 

Create Date : 07 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 7 พฤษภาคม 2555 22:31:15 น.
Counter : 507 Pageviews.  

ฮือฮา! จีนเปลี่ยนหลุมขยะยักษ์ เป็นโรงแรมใต้ดิน




สื่อจีนรายงานว่า กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีน ได้เปิดตัวโครงการเซี่ยงไฮ้ ซื่อเม่า วันเดอร์แลนด์ โรงแรม 5 ดาว พร้อมสวนสนุกใต้ดิน โดยสร้างขึ้นบนพื้นที่ซึ่งเคยเป็นหลุมขยะขนาดใหญ่ ในภูเขาเทียนหม่า เขตซงเจียง ของมหานครเซี่ยงไฮ้


รายงานระบุว่าพื้นที่ในภูเขาเทียนหม่าดังกล่าว อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลราว 65 เมตร เดิมทีในช่วงทศวรรษที่ 1950 ถูกใช้เป็นแหล่งสกัดหิน จากนั้นภายหลังปี ค.ศ.2000 ก็ถูกปิดร้าง โดยชาวบ้านดัดแปลงใช้เป็นหลุมขยะขนาดใหญ่ กระทั่งเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ซื่อเม่า ได้ออกมาประกาศว่าโครงการเซี่ยงไฮ้ ซื่อเม่า วันเดอร์แลนด์ (Shanghai Shimao Wonderland) จะเปิดให้บริการได้ภายในช่วงปลายปี 2014 หรือต้นปี 2558 2015 โดยมีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 428,000 ตารางเมตร





บริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ เปิดเผยว่า โรงแรมจะมีความสูงทั้งสิ้น 19 ชั้นโดย 3 ชั้นจะอยู่เหนือพื้นดิน ขณะที่ 16 ชั้น จะอยู่ลึกลงไปในหลุม โดยในส่วนที่อยู่ใต้ดินจะมีภัตตาคารใต้น้ำประกอบอยู่ด้วย และมีห้องพักรวม 380 ห้อง ทั้งนี้ราคาห้องพักจะเริ่มต้นที่ราว 2,000 หยวน หรือราว 10,000 บาทต่อคืน


โดยรายงานล่าสุดระบุว่า กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ซื่อเม่า ได้ทุ่มเงินกับโครงการดังกล่าวไปแล้วกว่า 3,500 ล้านหยวน หรือราว 17,500 ล้านบาท


ภาพปัจจุบัน













 

Create Date : 07 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 7 พฤษภาคม 2555 22:30:21 น.
Counter : 581 Pageviews.  

ย้อนวันวานงานพระเมรุ : บอกเล่าความงามของวัฒนธรรมไทย




คติการสร้างพระเมรุ ณ ท้องสนามหลวง เพื่อใช้เป็นที่พระราชทานเพลิงพระศพ เป็นวัฒนธรรมที่สังคมไทยรับอิทธิพลมาจากการปกครองแบบเทวนิยม เชื่อกันว่าวาระสุดท้ายของพระชนมชีพจะเสด็จคืนสู่สวรรค์ ณ ดินแดนเขาพระสุเมรุ จึงต้องจัดสถานที่สำหรับพระราชทานเพลิงให้มีลักษณะอย่างเขาพระสุเมรุ ขึ้นใจกลางพระนคร


พระเมรุงามกลางมณฑลพิธีท้องสนามหลวง จัดสร้างตามลักษณะผังเขาพระสุเมรุ ที่เชื่อกันว่าเป็นศูนย์กลางจักรวาล ทิพยวิมานที่สถิตย์ของเทพยดา รายล้อม ด้วยเขาสัตตบริภัณฑ์ ทั้ง 7 และมหานทีสีทันดร มีป่าหิมพานต์ ที่อยู่ของสัตว์นานาชนิด นี่คือสถานที่จำลองแดนสวรรค์ในโลกมนุษย์ที่ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย


ธรรมเนียมการสร้างพระเมรุ และพระเมรุมาศ มีหลักฐานมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ที่เรียกสถานที่ในพระราชพิธีนี้ว่าทุ่งพระเมรุ จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ยังคงสืบทอดโบราณราชประเพณีนี้


ราวปีพุทธศักราช 2339 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 โปรดให้ถวายพระเพลิงพระบรมอัฐิของพระชนกนาถเป็นครั้งแรก ความยิ่งใหญ่ของพระเมรุสมัยต้นกรุง สะท้อนผ่านภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดพระแก้วตอนถวายพระเพลิงพระศพทศกัณฑ์ ที่เน้นความโอ่อ่า และยิ่งใหญ่ด้วยงานมหรสพ อันคงแบบแผนเรื่อยมาจนถึงงานพระเมรุมาศพระบรมศพรัชกาลที่ 4 ความยิ่งใหญ่ของพระเมรุไม่เพียงเป็นการถวายพระเกียรติ แต่ยังแฝงคติทางการปกครอง และสะท้อนความมั่นคงของบ้านเมือง


โดยนางเด่นดาว  ศิลปานนท์ ภัณฑารักษ์ชำนาญการพิเศษ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กล่าวว่า การสร้างพระเมรุมาศ เป็นการถวายพระเกียรติยศที่พระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ถวายแด่พระมหากษัตริย์ ที่เสด็จสวรรคตล่วงแล้ว ยังเป็นการประกาศความมั่นคงของบ้านเมือง ด้วยเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแผ่นดินใหม่ โดยแสดงพระบรมเดชานุภาพให้เห็นว่าจะทรงปกครองแผ่นดินให้ผาสุกร่มเย็น


นายวัฒนะ บุญจับ นักวิชาการสำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร ระบุว่า การทำพระเมรุมาศและพระเมรุเจ้านายสมัยก่อนเป็นการเกณฑ์ทั้งกำลังคนและ ทรัพยากรถ้าการที่สร้างได้ยิ่งใหญ่มาก ก็หมายถึงความสามารถในการคุมขุมพลังและความจงรักภักดี


นอกจากความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของพระเมรุแล้ว ตามความเชื่อเรื่องการเสด็จสู่สรวงสวรรค์ พระเมรุจึงเปรียบเหมือนเขาพระสุเมรุซึ่งเป็นที่อยู่ของเทพยดา คติความเชื่อนี้ก็มีมาตั้งแต่อดีตและยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน และสะท้อนผ่านพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเล็กน้อยตามยุคสมัย


ทั้งนี้ในอดีตงานพระเมรุใช้กำลังคนและทรัพยากรมหาศาล โดยต้องสร้างพระเมรุถึง 2 ชั้น คือพระเมรุทองชั้นใน สร้างครอบด้วยพระเมรุขนาดใหญ่ชั้นนอก ในสมัยรัชกาลที่ 5 ไทยปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมหลายอย่างให้สอดคล้องกับยุคสมัย โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสเปลี่ยนแปลงพระเมรุให้มีขนาดเล็กลง เหลือเพียงพระเมรุชั้นในอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ขณะที่วัสดุก่อสร้างในยุคหลัง โดยเฉพาะในงานพระเมรุของสมเด็จฯ เจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ มีการประยุกต์ใช้เหล็กและผ้าใบ แทนวัสดุธรรมชาติหายาก หากยังคงแนวคิดจากคัมภีร์ไตรภูมิตามโบราณราชประเพณีอย่างครบถ้วน ด้วยการประดับรูปเทวดาและสัตว์หิมพานต์สื่อถึงเขาพระสุเมรุศูนย์กลางของ จักรวาล และใช้พื้นสีฟ้าแทนมหานทีสีทันดร สะท้อนพัฒนาการของราชประเพณี ที่มีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย


นักวิชาการสำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า  พระเมรุมาศ และพระเมรุ เป็นภาพสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของสังคมได้อย่างดี เพราะเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมของยุคสมัย


พื้นที่ใจกลางกรุงของท้องสนามหลวงกว่า 70 ไร่ ในวันนี้จึงถูกปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ อีกครั้ง ไม่เพียงเป็นภาพสะท้อนคติความเชื่อ หากงานออกพระเมรุยังเป็นพระราชพิธี ที่รวบรวมฝีมือเชิงช่างและศิลปะชั้นสูง บอกเล่าถึงความมั่งคั่งทางวัฒนธรรมที่ยังคงได้รับการสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้













 

Create Date : 07 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 7 พฤษภาคม 2555 22:29:06 น.
Counter : 1624 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

donmaikoom
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add donmaikoom's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.