Group Blog
 
All blogs
 

ดั้งจมูกเด้ง!!! โดยไม่พึ่งศัลยกรรม

ดั้งจมูกเด้ง!!! โดยไม่พึ่งศัลยกรรม




     ใครที่กำลังกลุ้มใจอยากมีดั้งจมูกเด้งดั่งชาวตะวันตก โดยไม่อยากเจ็บเนื้อเจ็บตัว และไม่เสียเงินมากโดยใช่เหตุ จงฟังทางนี้ นักประดิษฐ์หัวใจแดนปลาดิบได้คิดค้น "เครื่องยืดดั้งจมูก" ผลที่ได้ยังไม่มีการรับรอง แต่รับประกันว่าสาวๆ ญี่ปุ่นปลื้มสั่งซื้อกระจาย!!!





     เทรนด์ศัลยกรรมกำลังมาแรงแซงทางโค้ง ผู้หญิงส่วนใหญ่รวมถึงผู้ชายจำนวนไม่น้อยพึ่งพาการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อพัฒนา หน้าตาให้ดูดีเปรียบดั่งดาราที่เห็นตามโทรทัศน์ แต่เชื่อแน่ว่ามีหลายคนอยากทำ แต่กลัวเจ็บ กลัวไม่สวย และกลัวเสียเงิน โดยการศัลยกรรมที่ผู้คนส่วนใหญ่เลือกจะทำอันดับแรกหนีไม่พ้น "ดั้งจมูก" ดังนั้น ไทยรัฐออนไลน์ จึงขอนำเสนอ "เครื่องยืดดั้งจมูก" ราคาไม่แพง อีกทั้งดูดีมีประสิทธิภาพ






     เจ้าเครื่องยืดดั้งจมูกมีลักษณะอย่างในภาพ มีที่ยึดปีกจมูก และดั้งจมูก ซึ่งการทำงานก็แค่กดสวิตช์ เครื่องหนีบก็จะสั่นเบาๆ กระตุ้นที่กล้ามเนื้อบริเวณจมูก แม้ผลการทดลองเครื่องมือดังกล่าวจะยังไม่มีการรับประกันผลลัทธ์ที่ได้ แต่ยอดขายเจ้าเครื่องยืดดั้งให้เด้งนี้ก็ดีเกินคาด ครองใจสาวๆ แดนปลาดิบกันยกใหญ่ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะราคาไม่แพงเกินไป เพียงแค่ 2,600 บาทโดยประมาณ ซึ่งถ้าเทียบกับการต้องเจ็บตัวเสียเงินเป็นหมื่นเพื่อให้สวยโดยพึ่งมีดหมอ ลองใช้เครื่องมือนี้ดูก่อนก็ไม่เสียหาย.







ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 25 มกราคม 2555    
Last Update : 25 มกราคม 2555 16:09:31 น.
Counter : 790 Pageviews.  

12 เรื่องจำให้ดี ไปถึงปีหน้า...ถ้าอยากสวยไม่สร่าง

12 เรื่องจำให้ดี ไปถึงปีหน้า...ถ้าอยากสวยไม่สร่าง




     กฎกติกาในการดูแลความงามมีอยู่มากมาย หลายเรื่อง หลายเรื่องอาจมองข้ามไปเสียบ้างก็ได้ แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่ ต้องใส่ใจจำและทำ...หากอยากสวยเสมอ เรามารวบรวมให้แล้วว่า อะไรที่คุณควรใส่ใจจำและทำ หรืออย่าทำ ถ้าอยากจะสวยพร้อมรับปีใหม่...และสวยเรื่อยไปอีกหลายๆ ปี






4 เรื่อง "อย่าทำ" และ "ต้องระวัง"

     1.อย่าทำความสะอาดผิวจนรู้สึกฝืด การทำความสะอาดผิวให้สะอาดหมดจดเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างแน่นอน แต่การทำความสะอาดผิวพร้อมกับการขัดถูผิวอย่างรุนแรงเกินไป การล้างหน้าวันละหลายครั้ง การใช้เคลนเซอร์ที่ "ทำความสะอาดอย่างล้ำลึก" อาจทำให้ผิวของคุณแห้งตึงหรือแตกลอกได้ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังบอกว่าการทำความสะอาดผิวมากเกินไปอาจทำให้ผิวที่มีแนวโน้มจะ เป็นสิวได้ง่ายแย่ลงไปอีก เนื่องจากต่อมน้ำมันในผิวถูกกระตุ้นให้ทำงานหนักขึ้นเพื่อชดเชยกับน้ำมันที่ ถูกกำจัดออกไป ผลก็คือผิวที่มันขึ้นและอุดตันรูขุมขนมากขึ้น




     2.อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดเอเอชเอมากเกินไป เอเอชเออาจทำสิ่งดีๆ ให้ผิว แต่ก็อาจย้อนกลับมาทำร้ายคุณได้ถ้าใช้มากจนเกินไป ผู้หญิงที่ใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีกรดเอเอชเอความเข้มข้นสูงๆ เสี่ยงต่อการเกิดอาการระคายเคืองต่อผิว และยังทำให้ผิวไวต่อการไหม้แดดมากขึ้นด้วย ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเอเอชเอต่ำๆ อย่างเช่น 2 เปอร์เซ็นต์ จะปลอดภัยมากกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเอเอชเอสูงถึง 4 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่านั้น ถ้าคุณยังใหม่ต่อการใช้เอเอชเอ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเอเอชเอเพียงชิ้นเดียว และใช้เพียงวันละครั้ง และอย่าลืมใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวทุกครั้งด้วย




     3.อย่าขัดผิวมากเกินไป การขัดลอกผิวเพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิว อาจเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผิวของคุณดูสดใสขึ้น แต่การใช้สครับที่มีเม็ดขัดหยาบกร้านหรือการใช้ใยบวบเพื่อขัดหน้า รวมถึงการใช้สครับที่ใช้สำหรับผิวกายกับผิวหน้า มีแต่จะทำให้ผิวของคุณแย่ลง และถ้าคุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอยู่แล้ว เช่น เรติโนอิดส์หรือเอเอชเอ ก็ยิ่งจะต้องระวังมากขึ้นไปอีก เพราะมันอาจขัดลอกผิวที่มากจนเกินไปและทำให้ผิวระคายเคืองได้ สครับแบบมีเม็ดขัดควรใช้เพียงหนึ่ง หรือสองครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น และไม่ควรใช้อย่างยิ่ง ถ้าคุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเอเอชเออยู่แล้ว




     4.อย่าพึ่งพาเพียงแค่สารกันแดดในเครื่องสำอาง เดี๋ยวนี้เครื่องสำอางหลายชนิดต่างผสมสารกันแดดลงไปด้วย จนทำให้ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่เลือกใช้เครื่องสำอางแบบนี้ งดการใช้ครีมกันแดดไปโดยปริยาย แต่ในความเป็นจริง คุณสามารถไว้ใจในประสิทธิภาพของรองพื้นที่มีสารกันแดดเพื่อปกป้องผิวของคุณ จากแสงแดดได้ราวสองชั่วโมง จากนั้น ประสิทธิภาพของมันก็จะเริ่มลดลงแล้ว โดยจากการศึกษาของ American Acedemy of Dermatology พบว่าหลังจากสองชั่วโมง อณูของออกไซด์ที่ใช้ป้องกันแสงแดดซึ่งจับอยู่กับเม็ดสีของรองพื้นจะซึมเข้า ไปในริ้วรอยเล็กๆ และรูขุมขน และทำให้การปกป้องแสงแดดหายไปด้วย ผู้หญิงจึงควรทามอยสเจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด ภายใต้เมกอัพอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มการปกป้องให้มากขึ้น




3 วิธีผ่อนคลายสลายพิษ

     ความเครียดและ สารพิษเป็นศัตรูสำคัญของความงาม เพราะฉะนั้น อย่าแค่ดูแลผิวจากภายนอก แต่ต้องใส่ใจในการผ่อนคลายความเครียด และการขจัดสารพิษที่จะทำให้ร่างกายของคุณร่วงโรยเร็วกว่าปกติด้วยนะ




   5.เพิ่มพลังวังชา การดีท็อกซ์แบบง่ายๆ ต่อไปนี้ จะช่วยปลุกระบบร่างกายของคุณให้ตื่นตัวขึ้น



     ขัดผิว การนวดร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยสครับอุ่น ๆ เป็นขั้นตอนที่เพิ่มความตื่นตัวและดีต่อสุขภาพ เลือกสครับแบบเกลือ ซึ่งจะมีประโยชน์ในการช่วยดูดซับของเสียและสารพิษจากผิวได้ด้วย



     ชโลมน้ำมัน น้ำมันมีความเข้มข้นกว่าครีมทาตัวหรือบาล์ม และใช้เพื่อเพิ่มระดับพลังงานได้เร็วกว่า ลองหยดน้ำมันหอมระเหยลงไปเล็กน้อย อย่างเช่น สะระแหน่ ตะไคร้ หรือจูนิเปอร์ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยในการกระตุ้นเลือดลม และทำให้อารมณ์คุณดีขึ้นด้วย




   6.ดีท็อกซ์ความเครียด ลองใช้การบำรุงบำเรอตัวเองต่อไปนี้เพื่อขจัดความเครียดให้หมดไป



     แช่น้ำละลายความเครียด การแช่น้ำอุ่นในอ่างให้ความรู้สึกสบาย และการหยดน้ำมันหอมระเหยลงไปในน้ำอาบเล็กน้อย ช่วยทั้งบำรุงผิว และให้กลิ่นที่ช่วยคลายเครียดได้ด้วย



     นวดทั่วเรือนร่าง การนวดเบาๆ ที่แขน ขา และหน้าด้วยมือ ของคุณหรือด้วยแปรงนุ่มๆ ช่วยคลายความเครียดได้อย่างมหาศาลใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของกุหลาบ ลาเวนเดอร์ หรือแซนดัลวูด ที่จะเพิ่มสรรพคุณในการลดความเครียด นวดให้ทั่วร่างกาย ตั้งแต่เท้าจนถึงใบหน้า และอย่าลืมหนังศีรษะด้วย หายใจเข้าลึกๆ และนวดในทิศทางที่เข้าหาหัวใจ ส่วนหน้าท้องให้นวดตามเข็มนาฬิกา



   7.ละระดับสารพิษ คุณมีอาการบวมน้ำ ปวดหัว เหนื่อยอ่อน และผิวหมองคล้ำหรือเปล่า ถ้าคำตอบคือใช่ แสดงว่าคุณมีระดับสารพิษในร่างกายมากเกินไป ลองใช้วิธีการต่อไปนี้ที่ช่วยทำความสะอาดและขจัดสารพิษตกค้างในร่างกาย เพื่อให้คุณรู้สึกสดชื่น และดูสดใสขึ้นด้วย




     ผุดผ่องทั่วร่าง ใช้สครับแบบเกลือหรือน้ำตาลทรายผสมกับ น้ำมันหอมระเหย นวดให้ทั่วเรือนร่าง หรือใช้น้ำมันถั่วเหลืองผสมกับ น้ำส้มคั้นหนึ่งซีก เกลือทะเล แล้วลงไปแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน ผิวคุณจะผุดผ่องขึ้นหลังจากได้ขับเอาเหงื่อและของเสียออกมา



     มาส์ก ทำความสะอาดรูขุมขนแบบล้ำลึกและกำจัดสิ่งสกปรกจากสิ่งรอบตัวด้วยการใช้มาส์ก แบบเข้มข้น เลือกชนิดที่เหมาะกับผิวของคุณ มาส์กแบบโคลนยังอาจช่วยดูดชับของเสียออกจากผิวได้ด้วย

 



     Extra Tip : เพิ่มระดับการเผาผลาญพลังงาน หาเวลาหนึ่งวันที่คุณจะดื่มแต่ของเหลว จะเป็นน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ก็ได้ และควรเพิ่มเครื่องดื่มสำหรับดีท็อกซ์เข้าไปเป็นระยะ สูตรเครื่องดื่มสำหรับดีท็อกซ์แบบง่ายๆ ก็คือ น้ำมะนาวหนึ่งผล น้ำเชื่อมเมเปิลหนึ่งช้อนชา ผสมกับน้ำร้อน และใส่พริกป่นฝรั่งลงไปหนึ่งช้อนชา มันจะช่วยเพิ่มระดับการเผาผลาญพลังงาน และทำความสะอาดระบบร่างกายของคุณ




กฎการดูแลผิว 5 ข้อที่ต้องใส่ใจจำ

     กฎง่ายๆ ในการดูแลผิวต่อไปนี้ จะทำให้คุณเป็นเจ้าของผิวสุขภาพดี ที่จะเปล่งประกายความงามออกมาได้อย่างยาวนาน



     8.ปรับเปลี่ยนไปกับฤดูกาล ถ้าคุณคิดว่าผลิตภัณฑ์อย่างเดียวจะได้ผลสำหรับคุณตลอดทั้งปี ก็ลองคิดดูใหม่ได้แล้วคุณต้องทำความเข้าใจผิวของตัวเอง และดูว่ามันเปลี่ยนแปลงไป อย่างไร และปรับกิจวัตรประจำวันของคุณในเวลาที่จำเป็น ตัวอย่างเช่นในหน้าหนาวที่อากาศแห้งกว่าปกติ คุณก็ควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้มันสักหน่อย และอาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่เบาบางลงในหน้าร้อนที่มีความขึ้นในอากาศค่อนข้างสูง

 



     9.ลงทุนกับการดูแลผิวพรรณ สกินแคร์เป็นเหมือนน้ำมันที่ทำให้เครื่องยนต์เดินเครื่องได้ และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่างๆ ก็ดีวันดีคืนขึ้นด้วย เราเคยต้องใช้เวลากว่า 12 สัปดาห์กว่าจะเห็นผลในการใช้ผลิตภัณฑ์ แต่ตอนนี้เราจะเห็นผลแบบเดียวกันในเวลา 4-8 สัปดาห์ เท่านั้น แต่เพื่อให้เห็นผลที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คุณต้องทำตามกิจวัตรการดูแลผิวของคุณอย่างเคร่งครัด และต่อเนื่อง ก็เหมือนกับการออกกำลังนั่นแหละ การออกกำลังเพียง แค่หนึ่งหรือสองครั้งไม่อาจทำให้คุณแข็งแรงได้ฉันใด การดูแลผิวก็เช่นกัน มันต้องให้เวลาและการทุ่มเทอย่างสม่ำเสมอกับมัน




     10.กินให้ดี ถ้าคุณใช้เงินมากมายไปกับครีมบำรุงผิว แต่ไม่ใส่ใจในสิ่งที่คุณกินเข้าไป คุณก็อาจต่อสู้กับสงครามที่มีแต่จะพ่ายแพ้ เรามักลืมกันไปว่า ลักษณะของผิวพรรณนั้น ส่วนใหญ่แล้วถูกกำหนดมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายของเรา นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำว่าเราควรระวังปริมาณแคลอรีที่กินเข้าไปด้วย เนื่องจากเริ่มมีการค้นพบจากงานศึกษาวิจัยหลายชิ้นว่าการกินมากเกินไป ไม่เพียงแต่จะมีผลในแง่ลบต่อร่างกาย แต่ยังมีผลต่อผิวพรรณของเราด้วย




     11.รู้เท่ากันผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกส์ การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นกระแสที่มาแรง แต่ผลิตภัณฑ์จากธรรมชิตดีกว่าสำหรับผิวของคุณจริง ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องของประสิทธิภาพ แต่เป็นเรื่องของการเลือกของ แต่ละคน และอย่าคิดว่าเพราะมันมีส่วนผสมจากธรรมชาติแล้ว จะแปลว่ามันจะอ่อนโยนกว่า เพราะคนบางคนมีปฏิกิริยาต่อส่วนผสมบางอย่าง ไม่ว่ามันจะเป็นออร์แกนิกส์หรือไม่ก็ตาม




     12.อย่าเพิ่งฉีดโบท็อกซ์เร็วเกินไปนัก ตอนนี้การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาว่า มันอาจเร่งให้ผิวแก่ก่อนวัยได้หรือเปล่า เนื่องจากความก้าวหน้าล่าสุดในเรื่องการศึกษาระบบประสาทได้แสดงให้เห็นว่า มันเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่ปลายประสาทจะต้องทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อทำให้ผิวคงความอ่อนเยาว์เอาไว้ ถ้าโบท็อกซ์ทำงานด้วยการทำให้ปลายประสาทหยุดปล่อยสารเคมี ที่ส่งผลให้มีการเกร็งของกล้ามเนื้อก็ไม่ต้องสงสัยว่ามันจะทำให้ปลายประสาท อ่อนแอลง เราคงยังต้องความหาคำตัดสินกันอยู่ต่อไป แต่ถ้าคุณกำลังคิดจะฉีดโบท็อกซ์ ก็ควรยั้งใจไว้สักหน่อย เพราะการฉีดโบท็อกซ์เป็นประจำอาจทำให้เกิดอาการ "ดื้อยา" ได้ การเร่งฉีดโบท็อกซ์เร็วเกินไปจึงเป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์




ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 20 มกราคม 2555    
Last Update : 20 มกราคม 2555 10:48:13 น.
Counter : 484 Pageviews.  

เทคนิคไม่ลับ ปรับผิวใต้วงแขน

เทคนิคไม่ลับ ปรับผิวใต้วงแขน




     สาวๆ คงกล้าเปิดเผยผิวใต้วงแขนได้อย่างมั่นยิ่งขึ้น หากกำจัดขนรักแร้ รูขุมขน และความหมองคล้ำภายใต้วงแขนออกไปได้แล้วคุณก็จะไม่ต้องฝังตัวเองอยู่ภายใต้ เสื้อมีแขนตลอดเวลา






สาเหตุของผิวใต้วงแขนหมองคล้ำ

     สีผิว คนที่มีสีผิวค่อนข้างคล้ำย่อมทำให้ผิวตรงส่วนข้อพับต่างๆ รวมทั้งรักแร้หมองคล้ำตามไปด้วย



     การระคายเคือง จากการเสียดสีเมื่อโกนหรือถอนขนรักแร้เป็นประจำก็จะทำให้รูขุมขนกว้าง และมีลักษณะคล้ายหนังไก่ได้ นอกจากนี้ สำหรับบางคนที่ชอบใช้ลูกกลิ้ง โรลออน น้ำหอม หรือสเปรย์ ระงับกลิ่นกาย ก็อาจมีการระคายเคืองได้เช่นกัน



Fast-Fix


     Long Pulsed Nd : YAG เลเซอร์ที่ทั้งกำจัดขนและช่วยปรับผิวใต้วงแขนให้ขาวขึ้นได้โดยการส่ง ผ่านพลังงาน ความร้อนและแสงเลเซอร์ไปที่รากขน ซึ่งเมลานิน (เซลล์เม็ดสี) ที่รากขนจะดูดซับพลังงานแสง ทำให้เซลล์เม็ดสี และรากขนถูกทำลายอย่างรวดเร็ว และยังช่วยชะลอการงอกของเส้นขนชุดใหม่ให้ช้าลงด้วย ส่วนเส้นขนที่งอกขึ้นมาใหม่ก็จะบางและมีสีอ่อนลงโดยปกติคอร์สหนึ่งๆ จะต้องทำประมาณ 5-8 ครั้ง ทุกๆ 1-2 เดือนก็จะเห็นผลว่าผิวดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น ราคาเริ่มที่ประมาณ 15,000 บาท

 



     Soft Peel Laser เทคนิคใหม่ที่ใช้รักษาผิวที่หมองคล้ำมากเป็นพิเศษโดยใช้คาร์บอนโลชั่นปรับ ความสว่างของสีผิวร่วมกับกระชับรูขุมขน ควบคุมความมันใต้ผิว ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น และทำให้ผิวคงความเต่งตึงไปด้วย มักใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการรักษา หลังการรักษาอาจเกิดรอยแดงนานหลายชั่วโมง หรืออาจรู้สึกว่าผิวลอกอยู่หลายวัน และต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง 5 ครั้งขึ้นไป แต่เมื่อทำครบ 3 ครั้งก็ควรจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ในบางคนอาจต้องทำการรักษามากกว่า 5 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยขจัดเซลล์ผิวคล้ำได้เร็วขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องปรึกษาแพทย์ให้ดีเสียก่อน เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะกับคุณที่สุด เพราะแต่ละคนย่อมได้รับผลจากการรักษาที่แตกต่างกัน




ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 17 มกราคม 2555    
Last Update : 17 มกราคม 2555 9:46:57 น.
Counter : 744 Pageviews.  

มาสคาร่าดึงเสน่ห์สวยแห่งดวงตา

มาสคาร่าดึงเสน่ห์สวยแห่งดวงตา




     คุณสาวๆ ทราบไหมคะว่าในกระบวนการของการแต่งหน้า ‘ดวงตา’ นับเป็นส่วนสำคัญที่สุด และเป็นการดึงเสน่ห์แห่งความโดดเด่นให้ฉายบนใบหน้า และทำให้ใบหน้าดูคมสวยน่ามองมากยิ่งขึ้น และอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ก็คือ มาสคาร่า เพราะจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ดวงตาของคุณดูสวยขึ้น เพราะดวงตาเป็นจุดสนใจแรกของใบหน้า





     มาสคาร่า มีความสามารถพิเศษ ช่วยให้ขนตาดูดกดำ ยาวงอนเป็นระเบียบ ทำให้ดวงตาดูโต และเน้นให้ตาดูคมชัดขึ้น มาสคาร่ามี 2 แบบ คือ แบบธรรมดา และแบบกันน้ำได้ มีให้เราเลือกใช้ 2 ประเภทใหญ่ๆ แบบแรกใช้สำหรับเพิ่มความยาวให้กับขนตา และอีกแบบเพื่อเพิ่มความหนาของขนตา เพื่อให้ได้ขนตาที่ดูยาวงอนเป็นธรรมชาติ




     การเลือกใช้มาสคาร่า ควรเลือกที่สีก่อน สีธรรมชาติของมาสคาร่าคือ สีดำ และสีน้ำตาล ส่วนสาวๆ ที่มีเทคนิคการแต่งหน้าพิเศษอาจจะเลือกใช้สีมาสคาร่าสีอื่นๆ ได้ เช่นสีฟ้า สีเขียว สีม่วง เช่นเดียวกับสีของอายแชโดว์ หรือสีของเสื้อผ้าที่ใส่ นอกจากสีของมาสคาร่าแล้ว ด้ามจับของมาสคาร่าก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ควรมีขนาดพอดี ไม่สั้น ไม่ยาวเกินไป เวลาใช้ควรให้ความรู้สึกถนัดมือมากที่สุด




     นอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับการเลือกใช้มาสคาร่ามาฝากกันค่ะ




     มาสคาร่าสีดำ เหมาะกับการแต่งหน้าในตอนกลางคืน เพราะทำให้ดวงตาคุณโดดเด่นมากกว่าที่จะเลือกใช้สีอื่นๆ
     มาสคาร่าสีน้ำตาล เหมาะกับการแต่งหน้าในตอนกลางวัน ทำให้การแต่งหน้าและดวงตาของคุณดูเป็นธรรมชาติ
     มาสคาร่าสำหรับขนตาบาง เลือกใช้มาสคาร่าที่ช่วยเพิ่มความยาว และเพิ่มความหนา หากคุณใช้แบบเพิ่มความยาวอย่างเดียวขนตาของคุณยิ่งดูบางลง ต้องปัดทับด้วยแบบเพิ่มความหนา จะทำให้ดูหนาและยาวขึ้น
     มาสคาร่าสำหรับขนตาสั้น เลือกมาสคาร่าแบบเพิ่มความหนาและเพิ่มความยาว ปัดมาสคาร่าแบบเพิ่มความหนาก่อน แล้วปัดแบบเพิ่มความยาวทับอีกครั้ง จะช่วยเพิ่มความยาวและช่วยแยกเส้นขนตาออกเพื่อไม่ให้ดูหนาจนเกินไป
     และการทำความสะอาดขนตาที่ถูกต้อง ควรทำความสะอาดด้วยการใช้อายเมกอัพรีมูฟเวอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงความระคายเคืองของผิว และลบรอยมาสคาร่าได้อย่างหมดจด




     เมื่อรู้จักมาสคาร่า อุปกรณ์สำคัญเพื่อความสวยของทุกๆ เทรนด์แล้ว ไม่ว่าเทรนด์จะเปลี่ยนไปอย่างไร ดวงตาและขนตาคุณก็จะสวยเสมอ โดดเด่นไม่มีตกเทรนด์อย่างแน่นอน ด้วยเคล็ดลับง่ายๆ เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้มาสคาร่าที่เหมาะกับดวงตาของคุณแล้วละค่ะคุณสาวๆ ทั้งหลาย




ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 12 มกราคม 2555    
Last Update : 12 มกราคม 2555 10:16:54 น.
Counter : 465 Pageviews.  

เตือนฉีดกลูต้าไธโอนให้ผิวขาวเสี่ยงมะเร็ง

เตือนฉีดกลูต้าไธโอนให้ผิวขาวเสี่ยงมะเร็ง




     กระทรวงสาธารณสุข เตือนวัยรุ่นนิยมรับประทาน-ฉีด "กลูต้าไธโอน"ให้ผิวขาวเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้ง่าย

     นพ.จิโรจ สินธวานนท์ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ปัจจุบันพบวัยรุ่นไทยทั้งชายและหญิงนิยมฉีดผิวด้วยกลูต้าไธโอนกันแพร่หลาย มากขึ้นโดยเฉพาะการทำผิวให้ขาว เหมือนดาราเกาหลี แม้ว่าจะมีการเตือนถึงอันตรายจากผลที่เกิดตามมาแต่ก็ยังมีวัยรุ่นนิยมฉีดและ รับประทานกลูต้าไธโอนจำนวนมาก





     ทั้งนี้ประเด็นที่น่าวิตกคือปริมาณการฉีดเข้าร่างกายที่เกินขนาด 2-3 เท่าตัว ซึ่งจะทำให้เกิดผลเสียกับสุขภาพ คือจะทำให้เม็ดสีผิวลดลง ซึ่งเม็ดสีผิวของคนเราสร้างมาจากเซลล์สร้างเม็ดสี (เมลาโนไซท์) ในผิวหนัง มีประโยชน์ เหมือนแผ่นกรองแสง ทำหน้าที่จับอนุมูลอิสระ หากใช้ไปมากๆและใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เม็ดสีผิวลดลง ภูมิต้านทานของผิวจะลดลง เกิดการระคายเคืองแพ้แสงแดดได้ง่ายขึ้นเสี่ยงต่อการ เป็นมะเร็งผิวหน้าได้




     นอกจากนี้ยังอาจเกิดผลกระทบต่อจอตาโดยตรง ทำให้จอประสาทตาอักเสบได้ง่าย ถ้าอักเสบบ่อยๆอาจถึงขั้นตาบอด ที่สำคัญสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แพทยสภา ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ ยังไม่รับรองความปลอดภัยของการฉีดกลูต้าไธโอน เพื่อทำให้ผิวขาว เนื่องจากต้องคำนึงถึงผลเสียในระยะยาวที่ยังไม่มีการประเมินได้ชัดเจน




     ส่วนกลูต้าไธโอนชนิดใช้รับประทานนั้นขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและ ยาได้ ขึ้นทะเบียนรับรองโดยอนุญาตให้ใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซึ่ง มีผลต่อสุขภาพน้อยกว่า แต่หากกินนานๆก็อาจรบกวนการทำงานของไตได้เช่นกัน




     นพ.จิโรจกล่าวว่า สีผิวของคนเราแตกต่างกัน คนที่มีสีผิวเข้มจะมีแคปซูลของเม็ดสีเมลานินมาก คนที่มีผิวขาวจะมีแคปซูลของเมลานินน้อย การใช้สารเพื่อทำให้ผิวขาวจะมีผลเพียงชั่วระยะหนึ่งเท่านั้นเมื่อสารหมด ฤทธิ์ผิวก็จะกลับมามีสีเหมือนเดิมอีก




     ดังนั้นจึงขอฝากความห่วงใยไปยังวัยรุ่นไทย ขอให้พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ให้มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่หลงตามกระแสดังกล่าวให้เกิดผลเสียกับสุขภาพ เลือกใช้จ่ายในด้านการศึกษาให้เกิดประโยชน์สูงสุดจะดีกว่า




ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 11 มกราคม 2555    
Last Update : 11 มกราคม 2555 9:23:00 น.
Counter : 426 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  

YangJing
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







Friends' blogs
[Add YangJing's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.