Group Blog
 
All blogs
 

โกรท แฟคเตอร์ (Growth Factor) สวยบนความเสี่ยง



สวยจากภายใน ปลอดภัยกว่า เรื่อง ของความสวย ความงาม กับผู้หญิง ดูเหมือนจะเป็นของคู่กันมาแต่โบราณกาล จากแต่ก่อนที่เคยปรุงโฉมด้วยดอกไม้จากธรรมชาติ อย่างกุหลาบ บุหงารำไป ดินสอพอง และสมุนไพรให้ใบหน้าและผิวพรรณผ่องใส ก็กลับกลายมาใช้วิทยาการสมัยใหม่ที่ทำให้สวยได้ทันใจนึก โดยที่ไม่มีใครสะกิดใจสักนิดเลยว่า วิทยากรสุดล้ำอาจนำภัยมาถึงตัว!

ล่าสุดกับเทคโนโลยี โกรท แฟคเตอร์ (Growth Factor) ที่เป็นการดูดเลือดจากแขนในปริมาณ 10 ซีซี จากนั้นก็นำเอาเลือดที่ได้ไปปั่น ทำให้เลือดเกิดการแยกออกเป็น 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นที่เป็นน้ำใสๆ ชั้นที่เป็นเกล็ดเลือด และชั้นที่เป็นเม็ดเลือด จากนั้นก็ดูดส่วนใช้งานที่เป็นเกล็ดเลือดแล้วนำมาผสมกับวิตามินซี จากนั้นก็ฉีดกลับใบหน้าถึง 22 จุด!!

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้มีสัญญาณเตือนออกมาจาก พญ.พรทิพย์ ภูวบัณฑิตศิลป กรรมการสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ที่บอกว่า โดยปกติแล้ว ทางการแพทย์จะนำเกล็ดเลือด ซึ่งมีโกรทแฟคเตอร์อยู่ นำไปฉีดให้คนไข้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ เพื่อเสริมเกล็ดเลือดให้คนไข้ หรือนำส่วนที่มีเม็ดเลือดเยอะๆ ไปให้คนไข้ที่เสียเลือดมาก จากอุบัติเหตุ แต่ปัจจุบัน กลับพบว่า มีนักการตลาดด้านความสวยหัวใสนำโกรท แฟคเตอร์ ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เซลล์ทำงานเป็นปกติ มาฉีดบนใบหน้า ด้วยเชื่อว่าจะสามารถช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ทั้งที่ความจริงแล้วกระบวนการนี้ ยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นไปตามมาตรฐานการรักษาของแพทย์ผิวหนัง และไม่มีงานวิจัยที่ดำเนินการทดสอบกับจำนวนคนที่มากพอจนเป็นที่ยอมรับ จึงมีความเสี่ยงในเรื่องของการติดเชื้อ ความสะอาดและความปลอดภัย


ไม่เพียงจะต้องเสี่ยงต่อการติดเชื้อแล้ว ยังต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย ดังจะเห็นได้จากข้อมูลที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่ระบุเป็นเสียงเดียว กันว่า การใช้บริการโกรท แฟคเตอร์ 1 คอร์ส จำนวน 5 ครั้ง ต้องใช้เงินเป็นจำนวนกว่าสองหมื่นบาท ในขณะที่บางแห่งราคาสูงถึงหกหรือเจ็ดหมื่นบาทกันเลยทีเดียว ทั้งๆ ที่การฉีดโกรท แฟคเตอร์ อาจจะไม่ส่งผลใดๆ ต่อใบหน้าเลย มิหนำซ้ำผู้ใช้บริการอาจเจ็บตัวฟรี เสียเวลาและเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์...จึงเป็นเรื่องที่น่าคิดว่า คุ้มค่าแล้วหรือที่ต้องแขวนความสวยไว้บนความเสี่ยง!

อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ออกมาสั่งระงับการบริการด้วยวิธีดังกล่าวไว้ก่อน จนกว่าแพทยสภาจะมีวินิจฉัยในเรื่องนี้ออกมาว่าถูกต้องตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ คงต้องรอดูกันต่อไปว่า เรื่องนี้จะจบลงอย่างไร

แต่ว่าก็ว่าเถอะ!คน จะงามงามที่ใจ ใช่ใบหน้า...บางครั้งความสวยงามของคนเราก็ไม่ได้อยู่ที่ใบหน้าเสมอไป การที่จะสุขภาพใบหน้าที่ดี แบบไม่เสียสตางค์ก็มีออกเกลื่อนให้เราได้เลือกทำกัน แถมยังมีให้เลือกหลายหนทางอีกด้วย แต่ของบางอย่างมันขึ้นอยู่กับราศรีของแต่ละคนด้วย บางคนรูปร่างหน้าตาภายนอกมองแล้วไม่ค่อยสะค่อยสวยซักเท่าไหร่ แต่กลับมีราศีดี หน้าตาดูผ่องแผ้ว เห็นกี่ทีๆ ก็ไม่มีวันเบื่อ แต่กลับบางคนหน้าตาสะสวยแต่ไม่มีราศรี ก็ทำให้มัวหมองลงไปได้เหมือนกัน

เมื่อพูดถึงสง่าราศรีนึกถึงคำโบราณที่เคยทิ้งปริศนาคำคมเอาไว้ให้มนุษย์รู้จักที่จะบำรุงรักษาตัวเองว่า เช้าราศรีอยู่ที่ไหน เที่ยงราศรีอยู่ที่ไหน และตอนค่ำราศรีเรานั่นอยู่ที่ไหน ซึ่งคำเฉลยก็อยู่ที่ร่างกายของมนุษย์นั้นเอง โดยเวลาเช้าราศีอยู่ที่หน้า...เพราะ หลังจากที่เรานอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่มาตลอดทั้งคืน ก็ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อชำระล้างเหงื่อไคลที่เกาะติดอยู่ตามใบหน้าให้ออกไป โดยการล้างนั้นก็ควรทำอย่างเบามือ ไม่ถูผิวหน้าแรงๆ เพราะจะทำให้เกิดริ้วรอยย่นก่อนวัย ซึ่งการทำความสะอาดผิวหน้า ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าเราล้างทำความสะอาดหน้าได้ไม่ดีพอ ก็จะเป็นสาเหตุให้เกิดสิว ฝ้า และจุดด่างดำได้

ส่วนเวลาเที่ยงราศรีอยู่ที่อก...มนุษย์ จึงต้องปะพรมน้ำหรือเครื่องผอมที่อกของตน เพราะอากาศในตอนเที่ยงนั้นค่อนข้างร้อน ทำให้มีเหงื่อออกมาก คนเราจึงต้องหาน้ำหรือเครื่องหอม มาเพื่อปะพรมให้ร่างกายเกิดความสดชื่นแจ่มใสอยู่เสมอ และสุดท้ายตอนค่ำนั้นราศรีอยู่ที่เท้า...เพราะเราใช้งานเท้าอย่างหนักหน่วงมาตลอดทั้งวัน ทำให้เท้าดำ เต็มไปด้วยฝุ่น ผง ละอองต่างๆ มนุษย์จึงต้องล้างเท้าก่อนนอน

ไม่เพียงเท่านี้ การสร้างเสริมราศีให้กับร่างกาย ด้วยการนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อยวันละ 15-30 นาที และการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็ช่วยเสริมราศีให้กับเราได้มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมทำจิตใจให้สบายด้วย เพราะราศรีของคนจะอยู่แค่ที่หน้าตา ร่างกาย หรือเสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นคงไม่พอ ลองสังเกตดูว่า เวลาที่เราเครียด โกรธ โมโห จิตใจก็จะขุ่นมัว แต่หากทำใจให้สบาย และมองโลกในมุมบวก หน้าตาเราก็จะสดชื่นผ่องใสได้ตลอดทั้งวัน ไม่เชื่อต้องลองดู!!

เรียกได้ว่า สวยจากภายใน ก็น่าจะดีกว่า เพราะทั้งประหยัดและปลอดภัย ดีกว่าไปแขวนความสวยไว้บนวิทยาการที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง คุณว่าไหม


ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2553 15:30:44 น.
Counter : 499 Pageviews.  

10 สิ่งที่ควรมีในกระเป๋าเครื่องสำอาง


สาวๆ ที่ไม่อยากหยุดสวย อาจจะเคยรู้สึกว่าอุปกรณ์แต่งหน้าเป็นสิ่งที่รกกระเป๋าซะเหลือเกิน เลยพกเครื่องสำอางใส่กระเป๋าแค่เล็กๆ น้อยๆ พอ แต่เคยเป็นเหมือนกันไหมคะ ที่พอถึงกลางวันทีไร ก็มักจะรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เอานู่นเอานี่มาบ่อยครั้งเลยสิน่า

พัฟตบแป้ง
แป้งอัดแข็งเป็นเครื่องสำอางที่สามารถช่วยชีวิตผู้หญิงเราไว้ได้เมื่อยามจำ เป็น คุณสามารถใช้มันทุกครั้งที่แป้งบนใบหน้าลบเลือน และยังใช้ได้ดีกับบริเวณที่ลงเครื่องสำอางหนักเกินไป เช่น แก้มแดง หรือ อายแชโดว์สีเข้มเกินไป พัฟจะช่วยทำให้สีอ่อนลงได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้พัฟเติมแป้งให้หน้าดูเนียนขึ้นได้อีกด้วยแน่ะ

ฟองน้ำสำหรับเกลี่ยรองพื้น เชื่อว่าสาวๆ หลายคนชอบใช้พัฟในการเกลี่ยรองพื้น แต่รู้ไหมคะว่า คุณควรใช้ฟองน้ำที่มีฟองอากาศ ค่อยๆ เกลี่ยรองพื้นบนใบหน้า จะทำให้หน้าดูเนียนเรียบกว่า แถมไม่เปลืองรองพื้นอีกด้วย เพราะฟองน้ำจะไม่ซับเนื้อรองพื้นเหมือนพัฟค่ะ

พู่กันคอนซีลเลอร์
เพราะคอนซีลเลอร์ไม่ใช่เครื่องสำอางที่คุณจะต้องถูมันลงบนใบหน้า เพียงแค่แต้มมันลงในบริเวณที่ต้องการปกปิดเล็กน้อย แล้วค่อยๆ เกลี่ยเบาๆ ด้วยพู่กันคอนซีลเลอร์ โดยพยายามอย่าลงน้ำหนักแรงนะคะ เพราะจะทำให้เนื้อคอนซีลเลอร์บนใบหน้าบางลง และไม่สามารถปกปิดรอยด่างดำนั้นได้

พู่กันฟองน้ำ
อันนี้จำเป็นมากมายค่ะ เพราะเอาไว้ใช้สำหรับเกลี่ยอายแชโดว์บนเปลือกตา อ๊ะๆ อย่าบอกว่าใช้นิ้วมือแทนก็ได้ เพราะเนื้ออายแชโดว์ที่เกลี่ยลงไปเนียนได้ไม่เท่ากับใช้พู่กันฟองน้ำหรอกค่ะ

พู่กันอายไลเนอร์
พู่กันขนาดเล็กนี้ใช้ในการลงสีอายไลเนอร์ทั้งขอบตาบนและขอบตาล่าง ขาดไม่ได้เหมือนกันนะคะอันนี้ เพราะไม่รู้ว่าจะใช้อะไรแทนเลยทีเดียวล่ะ

ที่ดัดขนตา อีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นในกระเป๋าเครื่องสำอาง ที่ช่วยให้ขนตาคุณงอนขึ้นได้อย่างง่ายๆ เป็นกุญแจที่ทำให้ดวงตาคุณโดดเด่นเลยนะนี่

แปรงปัดขนคิ้วและขนตา
ดวงตาคุณจะเนี๊ยบที่สุด หากคุณหวีมันให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แปรงจะช่วยหวีขนตาคุณไม่ให้มาสคาราจับตัวกันเป็นก้อน ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

พู่กันทาปาก
หากคุณใช้แค่ลิปกลอสก็คงจะไม่จำเป็นนัก แต่หากคุณต้องใช้ลิปสติกเพิ่มสีสันให้เรียวปากคุณแล้ว พู่กันทาปากถือเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในกระเป๋าเครื่องสำอางเลยล่ะค่ะ

สำลีแผ่น
ในการเช็ดเครื่องสำอางออกจากใบหน้า ไม่มีอะไรจะเหมาะสมเท่ากับการใช้สำลีแผ่นเช็ดเครื่องสำอางออกเบาๆ แล้วล่ะค่ะ สำลีแผ่นสามารถใช้ได้ดีในเรื่องของการชุบโทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดใบหน้า

คอตตอนบัด จำเป็นและจำเป็นมาก ๆ ค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณลบรอยเปื้อนของเครื่องสำอางเล็กๆ น้อยๆ ได้อย่างไม่ยากเย็น

เมื่ออุปกรณ์การแต่งหน้ามีเยอะแยะมากมาย จนไม่รู้จะเอาอะไรติดกระเป๋าไปบ้างดี สาวๆ สามารถเลือกหยิบไปได้จากความจำเป็นที่จะต้องใช้ ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไป แต่ยังไงก็เถอะ เพื่อความชัวร์ เราไปดูกันดีกว่าว่า มีอุปกรณ์แต่งหน้าชนิดใดบ้างที่ควรจะอยู่ในกระเป๋าเครื่องสำอางของคุณ


ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 22 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2553 13:10:01 น.
Counter : 1704 Pageviews.  

กลูตาไธโอน



กลูตาไธโอน (อังกฤษ: glutathione) เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ปกติแพทย์จะใช้ในปริมาณเพียง 200 มิลลิกรัมต่อครั้ง มีกลุ่มคลินิกเสริมความงาม เป็นสารอ้างว่าใช้ผสมกับวิตามินซี ฉีดทำดีท็อกซ์ผิวขาว

กลูตาไธโอน เป็น tripeptides ของกรดอะมิโน 3 ตัว คือ ซิสทีน (cysteine), กรดกลูตามิค (glutamic acid) และไกลซีน (glycine) ซึ่งร่างกายสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ และมีในอาหาร เช่น นม ไข่ ผลอะโวคาโด สตรอเบอร์รี มะเขือเทศ ผักบรอคโคลี ส้มเกรปฟรุต และผักโขม

กลูตาไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ช่วยให้ตับขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และยังนำมารักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ข้ออักเสบ โรคพาร์กินสัน โรคตับ โรคไต โรคเอดส์ ภาวะเป็นหมันในเพศชาย และภาวะหูตึงจากเสียงดัง ผลข้างเคียงทำให้ผิวขาว

สาวอยากสวยอย่าให้เขาหลอก กลูต้าไธโอน ไม่ช่วยผิวขาว

ในหมู่คนรักสวยรักงาม เป็นที่ทราบกันแบบอวดอ้างกล่าวขานกันต่อๆ มาว่า "กลูต้าไธโอน (glutathione)" เป็นสารที่ทำให้ผิวขาวผ่องเป็นที่นิยมกันมาก

แม้คุณหมอจะออกมาเตือนว่าผลของการใช้สาร กลูต้าไธโอน มันไม่เป็นอย่างนั้น ถึงขั้นที่ อย.และแพทยสภาออกกฎข้อบังคับห้ามแพทย์นำ กลูต้าไธโอน มาฉีด เพราะเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีใครอยากฟัง กลูต้าไธโอน กลับยิ่งแพร่ระบาดมากขึ้น

นายแพทย์ชลทิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย กล่าวให้ข้อคิดกับสาวที่อยากสวยด้วย กลูต้าไธโอน ว่า ขอให้ยึดหลักสำคัญว่าการฉีดสาร กลูต้าไธโอน หรือสิ่งต่างๆ เข้าร่างกายนั้นมีหลักสำคัญข้อเดียวคือ นำเข้าสู่ร่างกายก็ต้องสามารถเอาออกได้ ถ้าเอาเข้าแล้วเอาออกไม่ได้ หรือไม่สลายตัวไปเองถือว่าไม่ปลอดภัยทั้งสิ้น เพราะเป็นสิ่งแปลกปลอม

ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในเรื่อง "กลูต้าไธโอน (glutathione)" นั้น นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย บอกว่า เท่าที่ทราบมีการขาย กลูต้าไธโอน เกลื่อนตามเว็บไซต์ ราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงเป็นหมื่นบาท ที่น่ากลัวคือมีการแนะนำวิธีฉีด กลูต้าไธโอน และอวดอ้างสรรพคุณจนทำให้คนที่อยากขาวเกิดความสนใจ และซื้อหาสาร กลูต้าไธโอน ไปทดลองทั้งฉีดและกินเพื่อให้ตัวขาว ก็ขอแจ้งให้ทราบว่าไม่เป็นความจริง

นายแพทย์ชลทิศ บอกว่า ความจริงแล้วปกติร่างกายจะสร้าง กลูต้าไธโอน ได้เอง จากสารอาหารธรรมชาติที่รับประทานเข้าไป เช่น เนื้อสัตว์ ผักสีเขียว รวมทั้งสมุนไพรอย่างอบเชย เป็นต้น เนื่องจากมันมีหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ หรือสารพิษต่างๆ จากร่างกาย นอกจากนี้ ยังป้องกันความเสื่อมและเพิ่มภูมิต้านทานในร่างกายอีกด้วย

ถึงแม้การฉีด กลูต้าไธโอน จะไม่ส่งผลอันตรายโดยตรงกับร่างกาย แต่การใช้เข็มฉีดเข้าตัวเองกันอย่างแพร่หลาย โดยไม่ระมัดระวังและคำนึงถึงสุขอนามัยแล้ว อาจทำให้เกิดการติดเชื้อและปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกนับไม่ถ้วน

นั่นก็เป็นคำกล่าวเตือนจากคุณหมอในแวดวงความสวยงามโดยตรง รู้แล้วก็อย่าปล่อยให้โดนหลอกขายสาร กลูต้าไธโอน ต่อไปโดยไม่จำเป็น

Credit : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2553 11:01:50 น.
Counter : 489 Pageviews.  

เคล็ดลับลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย


ปัญหาริ้วรอยแห่งวัย เป็นเรื่องผู้หญิงทุกคนต้องประสบพบเจอ ยิ่งปัจจุบันแสงแดดที่นับวันทวีความรุนแรงมากขึ้น ยังเป็นตัวการสำคัญที่เร่งให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย

บู๊ทส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงาม จากประเทศอังกฤษ จึงเชิญ 3 สาวตัวแทน สาว 3 วัย 20, 30 และ 40 อัพ ได้แก่ "นก" ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ นางสาวไทยปี 2541 "ดี้" ชนานา นุตาคม และ พลอย จินดาโชติ มาเผยเคล็ดลับลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย

เริ่มจาก "นก" ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ นางสาวไทย 2541 เจ้าของพ็อกเก็ตบุ๊กเพื่อสุขภาพและความงามหลายเล่ม เผยว่า เธอเป็นคนที่ให้ความสำคัญเรื่องของอาหารการกิน ยิ่งหากปลอดสารพิษได้จะดีมาก รวมถึงการพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าให้เหมาะสม และหากมีส่วนผสมป้องกันแสงแดดได้จะดีมาก เพราะทราบว่าแสงแดดเป็นตัวที่ทำลายผิวอันดับหนึ่ง จึงทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย

ด้าน พลอย จินดาโชติ บอกเคล็ดลับส่วนตัวว่า แม้จะต้องเดินทางบ่อย แต่การดูแลผิวพรรณพลอยให้ความสำคัญตลอด เพราะคุณแม่บอกให้ดูแลตั้งแต่เด็กๆ โดยบอกว่าดูแลตั้งแต่ตอนนี้ จะได้ไม่ลำบากเมื่ออายุมากขึ้น โดยพลอยจะให้ความสำคัญเรื่องของความงามจากภายในสู่ภายนอก ไม่ว่าเรื่องอาหาร จะทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และที่สำคัญอารมณ์ ที่จะต้องแจ่มใสอยู่เสมอ ยิ่งตอนนี้พลอยต้องตอนเดินทางไปต่างประเทศบ่อย จะสังเกตได้ค่ะว่าผิวจะค่อนข้างแห้ง จึงต้องทานน้ำเยอะ



www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2553 15:45:19 น.
Counter : 578 Pageviews.  

รู้ก่อนใช้ ความหมาย 'ศัพท์' ในส่วนผสม 'เครื่องสำอาง'



อยากสวย อยากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำให้ผิวดูดี แต่เวลาอ่านฉลาก skincare หรือ makeup ก็เล่นเอาคิ้วผูกโบว์ เพราะไม่ทราบความหมาย จะถามก็ไม่กล้า กลัวเขาว่า สวยแต่ไม่ฉลาด สุดท้ายเลยต้องเดาเอาจากศัพท์ที่เคยคุ้นว่าใช้อย่างไร ถ้าโชคร้าย เดาผิดใช้ไม่ถูก ผิวสวยๆ พาลเสี่ยงเสียไปง่ายๆ ...เอาล่ะ เลิกกังวลกันได้แล้ว เพราะวันนี้ มีความหมายของศัพท์ที่มักพบในผลิตภัณฑ์เพื่อความงามมาบอก...

::: Abrasive/Scrub :::
ส่วนผสมนี้ใช้ขัดผิว กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป อาจจะหมายถึง เม็ดพลาสติก หรือ เมล็ดพืชบดละเอียด รวมถึงเปลือกหอย และหินบดละเอียดด้วย ซึ่งเม็ดพลาสติกประเภทกลมๆ จะมีประสิทธิภาพต่ำ (ไม่สามารถขูดผิวที่ตายแล้วออกไปได้) ถ้าเป็นเม็ดพลาสติกแบบเหลี่ยม จะมีประสิทธิภาพสูงกกว่า ส่วนพวกเมล็ดหรือเปลือกผลไม้ รวมไปถึงเปลือกหอย และหินบด จะขัดผิวได้ดีกว่า แต่หากหยาบไปก็จะเป็นอันตรายต่อผิวได้

::: Absorbent :::
เป็นส่วนผสมที่อยู่ในทั้ง skincare และ makeup ช่วยดูดซับความมัน เช่น talc, silicates (magnesium aluminum silicate), clay, silicone บางชนิด เช่น cyclomethicone หรือ phenyl trimethicone, nylon-12 ประสิทธิภาพการดูดซับความมันเร็ว-ช้า ต่างกันออกไป โดยส่วนผสมบางประเภท เช่น แป้งข้าวจ้าว (rice starch) และ แป้งข้าวโพด (corn starch) ที่มักผสมอยู่ใน skincare และ แป้ง อาจจะก่อให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน ดังนั้น คนผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรระวังส่วนผสมพวกนี้ไว้บ้าง

::: AHA (Alpha Hydroxy Acid) :::
เป็นกรดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว หากใช้ในความเข้มข้นที่พอเหมาะ ซึ่ง AHA มีหลายตัวด้วยกัน เช่น glycolic acid สกัดมาจากอ้อย lactic acid สกัดมาจากนม citric acid สกัดมาจาก citrus หรือจะเป็น malic acid สกัดมาจากแอบเปิ้ล และ ลูกแพร์ และ tartaric acid สกัดมาจากองุ่น

::: Anti-aging :::
ส่วนผสมที่มีส่วนช่วยกำจัดริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้าง collagen ซึ่งต้องใช้ติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ ในความเข้มข้นที่มากพอ

::: Anti-bacteria :::
ส่วนผสมที่ช่วยกำจัดแบคทีเรีย เช่น triclosan หรือ triclocarban แต่มีข้อควรระวังในการใช้สารกำจัดแบคทีเรีย หากใช้บ่อย จะทำแบคทีเรียเกิดอาการดื้อยา จนใช้แล้วไม่ได้ผลอีก ดังนั้น ควรใช้เท่าที่จำเป็นจะดีกว่า

::: Anti-irritant :::
ส่วนผสมนี้ใส่เข้าไปในผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยลดการระคายเคือง อย่างเช่น vitamin c product บางตัวก็ใส่ส่วนผสม บางชนิดเข้าไปเพื่อลดอาการแสบไหม้ หรือช่วยบรรเทาให้สบายผิวมากขึ้น ส่วนผสมพวกนี้ก็เช่น bisabolol, allantonin, burdock root, aloe, licorice root, green tea, willow herb เป็นต้น

::: Antioxidant แก้เกม free radicals :::
สำหรับ Free radicals เป็นตัวทำลายโมเลกุลต่างๆ ของผิว ทั้งโปรตีน ไขมัน ผนังเซลล์ และ DNA ด้วย free radicals เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเพิ่มปริมาณ oxygen เช่นการออกกำลังกาย มลพิษ ควันบุหรึ่ ความร้อน รังสี ดื่มแอลกอฮอล์ กินธาตุเหล็กมากเกินไป กินอาหารที่มีไขมันมากเกินไป
สาร antioxidant คือ สารที่มีความสามารถในการช่วยลดผลกระทบจาก free radicals เหล่านี้นั่นเอง ตัวอย่างสาร antioxidant ก็เช่น selenium, vitamin A, vitamin C, beta-glucan, vitamin E, grapeseed extract, green tea, coenzyme Q10 เป็นต้น
ดังนั้น การใช้ครีม กินไวตามิน และกินอาหารที่มีสาร anti-oxidant จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ทั้งนี้ การออกกำลังกายมากเกินไปก็ทำให้แก่เร็วได้ แต่หากออกกำลังกายแล้วกินอาหารที่มี anti-oxidant ควบคู่ไปด้วยก็ช่วยได้

::: BHA (Beta Hydroxy Acid) :::
Salicylic acid ส่วนมากจะถูกเรียกว่า BHA แต่ในรายละเอียดส่วนผสมที่เราเห็นจะไม่เขียนว่า BHA เพราะนิยมเขียนว่า salicylic acid ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยผลัดผิว ลดสิวอุดตัน ลดการอักเสบของสิว ลบรอยสิว แต่ถ้าพบ BHA ที่เห็นในส่วนผสมนั้นไม่ได้หมายถึง salicylic acid แต่จะหมายถึง Butylated HydroxyAnisole ซึ่งมีคุณสมบัติ เรื่อง antioxidant ไม่ได้มีคุณสมบัติเหมือน salicylic acid

::: Emollient :::
สารที่มีลักษณะคล้ายๆ แวกซ์ ทำหน้าที่ช่วย หล่อลื่น แล้วก็ยังช่วยให้เนื้อผลิตภัณฑ์ หรือ Texture ข้นขึ้นด้วย แถมช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำ และทำให้ผิวรู้สึกนุ่ม และผ่อนคลายผิว เช่น non-fragrant plant oils, mineral oil, cetearyl alcohol, isopropyl myristate, triglycerides, myristic acid, palmatic acid, PEG-60 hydrogenated castor oil, glyceryl linoleate, cyclomethicone, dimethicone, hexyl laurate, isohexadecane, methyl glucose sequioleate, decyl oleate, stearic acid, octyldocecanol เป็นต้น

::: Essential Oil :::
คือ น้ำมันพืชต่างๆ ที่มีน้ำมันหอมระเหยในปริมาณสูง ส่วนใหญ่จะก่อให้เกิดการระคายเคืองสูงมาก แต่การใช้พวก essential oil อาจจะมีส่วนช่วยเรื่อง antioxidant ได้บ้าง สำหรับคนที่ผิวระคายเคืองง่ายควรระวังไว้ให้ดี เช่น clove, peppermint, citrus, ylang-ylang, cinnamon, coriander, lavender เป็นต้น

::: Film-Foaming Agent :::
คือ ส่วนผสมที่ใช้ทำให้เกิดฟิล์ม มักผสมอยู่ใน skincare และ makeup ส่วนใหญ่ทำหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื้นให้อยู่ในผิว ไม่ระเหยออกมา

::: Fragrance :::
เป็นน้ำหอม อาจจะมาจากสารสกัดธรรมชาติ เสี่ยงระคายเคืองสูง หรือ สังเคราะห์ ที่ระคายเคืองน้อยกว่า การสังเกต ปริมาณน้ำหอมใน skincare จะเป็นตัวบ่งชี้ได้ดี เพราะส่วนมาก น้ำหอมในผลิตภัณฑ์ แม้ฉุนแค่ไหนก็ไม่ควรจะมีมากมายถึง 5-10%

::: Humectant :::
เป็นสารที่ดึงดูดน้ำเข้าสู่ผิว เมื่อน้ำเข้าสู่ผิวแล้วก็จำเป็นต้องมี water-binding ช่วยกักเก็บน้ำไว้ได้ จึงจะมีประโยชน์กับผิว เมื่อผิวมีความชุ่มชื้น จะทำให้การบำรุงผิวมีประสิทธิภาพสูง

::: Lubricant :::
สารหล่อลื่น ส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายๆ แวกซ์ เช่นพวก น้ำมันบางประเภท และซิลิโคนบางประเภท

::: Plant Extract :::
สารสกัดจากพืช บางตัวมีคุณสมบัติในเรื่อง antioxidant ลดการทำลายโมเลกุลผิว, anti-irritant ลดการระคายเคือง หรือแม้กระทั่ง anti-bacterial กำจัดแบคทีเรียด้วย แต่หลายๆ ตัวก็อาจจะไม่ได้มีประโยชน์กับผิวเลยก็เป็นได้ และอาจจะทำให้ระคายเคืองผิวด้วยซ้ำ

::: Plant Oil (non-fragrant) :::
คือ น้ำมันพืช ที่ไม่ใช่น้ำมันหอมระเหย ส่วนใหญ่จะมีประโยชน์กับผิวโดยทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันการสูญเสียน้ำและเพื่อหล่อลื่น เช่น emu, sunflower, olive, canola, jojoba เป็นต้น น้ำมันเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะมีคุณสมบัติ antioxidant ในตัวด้วย

::: Preservative :::
หรือวัตถุกันเสียนั่นเอง ซึ่งหลายๆ ตัวก็ทำให้ระคายผิว เช่น methyldibromo glutaronitrile, diazolidinyl urea, imidazolidinyl urea, dmdm hydantoin, quaternium-15, 2-bromo-2-nitropane-1, 3-diol (bronopol)

::: Slip Agent :::
เป็นตัวที่ช่วยให้ส่วนผสมต่างๆ ซึมเข้าผิวได้ง่ายขึ้น และเกลี่ยได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ slip agent ยังช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้ด้วย ตัวอย่างสาร slip agent ก็เช่น propylene glycol, butylene glycol, hexylene glycol, methyl gluceth-10, polysorbates, glycerin เป็นต้น

::: Silicone :::
เป็นสารเคมีที่มีลักษณะคล้ายๆ น้ำมัน แต่ไม่ใช่น้ำมัน จะช่วยให้ผิวรู้สึกเนียน เรียบ ลื่น แต่ไม่ได้ช่วยบำรุงผิว silicone บางตัวมีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำมัน ก็อาจจะทำให้ผิวแห้งตึงได้

::: Surfacant :::
ส่วนผสมที่ใช้ทำความสะอาด ลดหรือกำจัดความมันออกจากผิว ซึ่งจะผสมอยู่ในพวก cleansers ที่เรียกว่า detergent-based cleansers ส่วนผสมพวกนี้ก็เช่น cocoamidopropyl betaine, sodium laureth sulfate, TEA-lauryl sulfate, cocamide DEA, ammonium laureth sulfate, ammonium lauryl sulfate
ส่วนผสมที่แรง อาจจะทำให้ผิวแห้งตึงได้ง่าย และควรหลีกเลี่ยง เช่น sodium lauryl sulfate, TEA-lauryl sulfate, sodium C14-16 olefin sulfate

::: Thickening Agent :::
ส่วนผสมที่ทำให้ความหนืดเพิ่มขึ้น หรือทำให้เนื้อของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดข้นขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เกลี่ยง่ายมากขึ้น

::: Water-Binding Agent :::
ส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ และทำให้เซลล์ผิวคงรูปเดิมที่สมบูรณ์ เมื่อผิวมีความชุ่มชื้น จะช่วยให้สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพ การบำรุงผิวก็จะมีประสิทธิภาพสูงด้วย แต่สารพวกนี้จะดึงดูดน้ำด้วยตัวเองไม่ได้ เราจำเป็นจะต้องอาศัยสารที่เรียกว่า humectants ช่วยดึงดูดน้ำให้

ทราบความหมายของศัพท์แสงควรรู้ในส่วนผสมของ skincare หรือ makeup กันแล้ว หวังว่าสาว ๆ คงจะชอปผลิตภัณฑ์ความงามมาประทินผิวกันได้ง่าย ซื้อไปก็ใช้คล่องขึ้น.


ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 11 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2553 13:46:17 น.
Counter : 565 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  

YangJing
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







Friends' blogs
[Add YangJing's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.