Group Blog
 
All blogs
 

ขาโก่ง...ปัญหาของสาวอยากสวย

ขาโก่ง...ปัญหาของสาวอยากสวย




     สาวๆ ที่มีปัญหาขาโก่ง มักมีปัญหากับการตามเทรนด์แฟชั่น นุ่งกางเกงก็เห็นขาโก่งชัดเจน นุ่งกระโปรงสั้นก็อวดขาโก่ง อีกแหละ ปัญหานี้คงมีบางคนที่คิดอยากแก้ไข แต่จะแก้ไขได้หรือไม่นั้นต้องสอบถาม นพ.กรกฎ พานิช ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ และเวชศาสตร์การกีฬา วิทยาลัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะมาไขปัญหาให้คนขาโก่งหายข้องใจ ซึ่งคุณหมอกกรกฎอธิบายว่า "ขาโก่งในเด็ก และวัยหนุ่มสาวส่วนใหญ่เกิดจากพันธุกรรม ซึ่งมีทั้งขาโก่งแบบเป็นโรคและขาโก่งแบบธรรมชาติ"






ขาโก่งตามธรรมชาติ

     ขามักจะโก่งทั้งสองข้าง องศาของการโก่งไม่มากนัก และความโก่งของขาทั้งสองข้างใกล้เคียงกัน มักสังเกตเห็นตอนอายุน้อยกว่า 2 ขวบ ต่อมาความโก่งจะเริ่มลดลงและรูปร่างเข่าจะดูปกติเมื่ออายุประมาณ 3 ขวบ สำหรับบางคนขาอาจจะโก่งตั้งแต่เด็กจนโตเป็นผู้ใหญ่แต่ไม่มีอาการผิดปกติ




ขาโก่งแบบเป็นโรค

     ในกรณีของเด็กเกิดจากการมีพยาธิสภาพของกระดูกบริเวณรอบหัวเข่า มักเป็นที่เข่าข้างใดข้างหนึ่ง ทำให้โครงสร้างของเข่าทั้งสองข้างมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด หรืออาจเป็นทั้ง 2 ข้าง แต่มีองศาของความโก่งมากและทำให้การเจริญเติบโตของกระดูกขาผิดปกติ อาจรุนแรงถึงขั้นทำให้การเดินมีความผิดปกติ ส่วนผู้ใหญ่หรือคนสูงอายุเกิดจากการใช้งาน (ความเสื่อม) หรืออาจเกิดจากการได้รับอุบัติเหตุบริเวณขา หรือเข่า




ขาโก่งรักษาได้ไหม

     การรักษาขาโก่งได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะการโก่ง ในเด็กแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่โก่งแบบเป็นโรคกับกลุ่มที่โก่งแบบธรรมชาติ

     กลุ่มที่โก่งแบบธรรมชาติ อาจจะรักษาด้วยการสังเกตอาการ และแก้ไขเมื่อมีองศาที่ผิดปกติมากเกินไป

     กลุ่มที่โก่งแบบเป็นโรค อาจจะรักษาด้วย การใช้อุปกรณ์ประคองเข่าในกรณีที่ความโก่งไม่มาก และอาจแก้ไขด้วยการผ่าตัดในกรณีที่มีความโก่งมากหรือมีอาการปวด




ขาโก่งกับคอสเมติก

     การรักษาขาโก่งเพื่อความสวยงามในผู้ใหญ่ (ในกรณีที่ไม่มีความเจ็บปวดจากการใช้ชีวิตประจำวัน) การผ่าตัดทำได้แต่ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก เพราะการผ่าตัดอาจเสี่ยงกับภาวะแทรกซ้อน (บางครั้งอาจอันตรายถึงชีวิต) ในเมืองไทยมีการผ่าตัดรักษาขาโก่งเพื่อความสวยงามไม่มากนัก แต่ในต่างประเทศมีการผ่าตัดรักษาขาโก่งเพื่อความสวยงามพอสมควร เช่น ประเทศรัสเซียและยูเครน ส่วนการผ่าตัดขาโก่งในคนไทยนั้น มักเป็นการรักษาคนสูงอายุหรือคนวัยกลางคนที่มีอาการขาโก่งจากการใช้งาน จากอุบัติเหตุ หรือจากการใช้ชีวิตประจำวัน จนส่งผลให้ขาโก่งและมีความเจ็บปวดร่วมด้วย ก็จะมีการผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาขาโก่ง พร้อมกับแก้ปัญหาความปวดด้วย




การรักษาแบบไม่ผ่าตัด

     มักเน้นเรื่องการบริหารกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เพื่อให้เนื้อช่วยประคองเข่า อาจไม่ได้ช่วยให้ขาหายโก่ง แต่อาจทำให้อาการปวดลดลง




แบบผ่าตัด

     ในกลุ่มที่ผิดรูปมากจนการลงน้ำหนักแล้วเสียสมดุลจนเกิดความปวด จะผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนแนวแกนกระดูก ทั้งนี้การเปลี่ยนแนวแกนกระดูกจะทำให้ขาที่เคยโก่ง (เข่าห่าง) หลังผ่าตัดจะทำให้เข่าชิดกันมากขึ้น




สาวๆ อยากรักษาขาโก่ง?

     สามารถผ่าตัดรักษาได้ ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อนก็ถือว่าโชคดี กรณีที่ผ่าตัดเพื่อความสวยงามศัลยแพทย์กระดูกอาจต้องคุยกับคนใช้ให้ละเอียด เพื่อชั่งน้ำหนักความคุ้มค่าของการผ่าตัด เพราะการผ่าตัดมีความเสี่ยงในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ก่อนผ่าตัด การเตรียมตัวระหว่างผ่าตัดและหลังผ่าตัด



     ระยะเวลาพักฟื้น อาจต้องทำทั้งสองข้าง โดยผ่าตัดทีละข้าง หลังผ่าตัดในช่วงแรกยังเดินลงน้ำหนักได้ไม่เต็มที่ การยืนและเดินจะใช้ไม้ค้ำหรือใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงการเดิน ประมาณ 1 ½-2 เดือน จากนั้นจะประเมินกระดูกที่ผ่าตัด ถ้ามีการเชื่อมตัวกันแล้วก็สามารถเพิ่มการลงน้ำหนัก และเพิ่มการใช้งานได้



     ความเสี่ยง ที่อันตรายที่สุดคือ การเสียชีวิต แม้จะมีเปอร์เซ็นต์ต่ำ บางครั้งขาอาจไม่ได้องศาตามที่ต้องการ อาจมีแผล มีการติดเชื้อและมีการอักเสบ รวมทั้งการหลวมของโลหะที่ดาม นอกจากนี้ก็จะมีแผลเป็นบริเวณใต้เข่าด้านใน ประมาณ 5 เซนติเมตร หรืออาจเกิดแผลคีลอยด์ในบางคน



     การดูแล หลังผ่าตัดการดูแลไม่ต่างจากภาวะกระดูกหัก ในช่วงแรกยังลงน้ำหนักไม่ได้เพราะว่าการผ่าตัดเป็นการตัด ทำให้กระดูกที่ปกติขาดออกจากกัน (ไม่ได้ตัดทิ้ง) จากนั้นจะดัดแนวกระดูกใหม่และเสริมความแข็งแรงด้วยแผ่นโลหะตามกระดูก อาจจะมีความไม่คล่องตัวในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด




Tip :

     ขาโก่งเกิดจากการใช้งานมาก หรือเข่าเสื่อม ถ้าสามารถบริหารให้เนื้อเยื่อมีความยืดหยุ่น และแข็งแรง จะช่วยเรื่องบรรเทาอาการปวดได้ และอาจทำให้อัตราการโก่งช้าลง แต่ไม่สามารถทำให้ขาหายโก่ง

     ในประเทศรัสเซียหรือยูเครน นิยมผ่าตัดรักษาขาโก่งโดยการตัด ตัดกระดูก และเจาะกระดูกเพื่อวางโครงเหล็กตามกระดูกไว้นอกผิวหนัง (external fixation) ส่วนในเมืองไทยนิยมใช้โลหะตามกระดูกไว้ใต้ผิวหนัง (internal fixation)





ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 05 ตุลาคม 2554    
Last Update : 5 ตุลาคม 2554 13:06:37 น.
Counter : 601 Pageviews.  

เทคนิคการแต่งตาที่แมตช์ได้กับหลายลุค

เทคนิคการแต่งตาที่แมตช์ได้กับหลายลุค




     สาวมือใหม่หัดแต่ง (หน้า) ขั้นตอนที่เสียเวลานานที่สุดก็คงจะเป็นขั้นตอนการแต่งตา เรามีวิธีง่ายๆ ที่จะเนรมิตดวงตาของสาวๆ ให้ดูสวยจนน่าทึ่งได้ภายใน 3 นาที เพียงแค่มี คอนชีลเลอร์ อายไลเนอร์ อายแชโดว์ และมาสคาร่า





     Concealer : หลังจากตกแต่งคิ้วให้ได้รูปทรงแล้ว ทาคอนซีลเลอร์ ไพรเมอร์ หรือรองพื้นที่เหมาะสำหรับพื้นที่รอบดวงตา แต่ควรเลือกให้เหมาะกับโทนสีผิวของแต่ละคน เพื่อปกปิดริ้วรอย ขอบตาคล้ำ ได้อย่างแนบเนียน เมคอัพอาร์ติสต์ชื่อดัง อย่าง Pati Dubroff บอกว่า สิ่งที่เป็นความผิดพลาดอย่างยิ่งของสาวๆ (มือใหม่) บางคนก็คือ การโปะคอนซีลเลอร์หนาๆ เพื่อที่จะปกปิดขอบตาดำคล้ำแบบแพนด้า และริ้วรอยยับบนใบหน้า แต่การทาคอนซีลเลอร์นั้นเหมาะกับบริเวณข้างจมูกและการปกปิดริ้วรอย สิว หรือแผลเป็นมากกว่า เธอแนะนำว่า ควรจะลง Foundation ก่อน และดูว่ามันปกปิดได้เรียบเนียนหรือเปล่า และควรจะทาคอนซีลเลอร์กลบทับอีกครั้งไหม




     Eyeshadow : ให้เลือกอายแชโดว์เฉดสีที่ดูเป็นกลางๆ เหมาะกับทุกโอกาส อย่าง สีดำเมทัลลิก สีเทาดำ สีน้ำตาล และสามารถแมตช์ได้กับทุกชุด ทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นลุคของสาวเซ็กซี่ หรือลุคแบบลำลอง ใช้แปรงปัดขนาดเล็กแต้มอายแชโดว์ การใช้แปรงปัดอายแชโดว์นั้นจะทำให้ได้สีที่เรียบขึ้น ทาที่เปลือกตาตามแนวขนตา สังเกตง่ายๆ คือให้ทาจากรอยพับที่เป็นชั้นตา ทาจากหัวตาไปตามเส้นแนวขนตา ต่อมาปัด luminescent shade แชโดว์สีซอฟต์ๆ สว่างๆ เป็นขั้นสุดท้าย ปัดไปจนถึงแนวคิ้ว ควรเลือกตัวแปรงที่มีขนแปรงนุ่ม จะได้ไม่สร้างริ้วรอยให้กับดวงตา




     Eyeliner : เลือกใช้อายไลเนอร์แบบดินสอ เพราะเขียนง่ายและสะดวกในการเขียนขอบตา เริ่มเขียนจากมุมด้านในของหัวตาไปด้านนอก แล้วเขียนซ้ำสัก 2-3 ครั้ง เพื่อให้ติดทน ดวงตาดูมีมิติมากขึ้น หลังจากนั้นดัดขนตาและปัดมาสคาร่า 2 ครั้ง แค่นี้เราก็ได้ดวงตาที่สวยมีเสน่ห์แล้วล่ะ




     Tip : หากใครมีปัญหาใต้ตามีรอยคล้ำเป็นหมีแพนค้า จะปกปิดอย่างไรก็ยังไม่หายซะที ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังแนะนำให้ใช้ครีมรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของ Retinol และ Peptides เพื่อช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการอักเสบ บวม ของดวงตา เช่น ชาเขียว และว่านหางจระเข้





ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 04 ตุลาคม 2554    
Last Update : 4 ตุลาคม 2554 11:34:01 น.
Counter : 483 Pageviews.  

จุดซ่อนเร้น...อย่าปล่อยให้ซ่อนปัญหา

จุดซ่อนเร้น...อย่าปล่อยให้ซ่อนปัญหา




ปัญหาที่ผู้ภายนอกของร่างกายสิ่งที่เราเห็นได้ เราก็สามารถแก้ไขได้อย่างสะดวกง่ายดาย แต่ในทางกลับกันถ้าสิ่งที่อยู่ในจุดซ่อนเร้นหรือสิ่งที่อยู่ภายในร่างกายที่ เราไม่สามารถจะมองเห็นได้เมื่อมันเจ็บป่วยเราจะมีวิธีการดูแลกันอย่างไรเรา ไปดูกันค่ะ






คุณกำลังเป็นกังวลกับปัญหาเหล่านี้อยู่หรือไม่?

     -  ปัญหาช่องคลอดหย่อนยานหรือกว้างผิดปกติ ทำให้คุณและคนรักมีความรู้สึกไม่กระชับขณะมีเพศสัมพันธ์



     -  ปัญหามดลูกเคลื่อนย้อยลงมาในช่องคลอดจนทำให้ปวดท้องน้อยเวลามีเพศสัมพันธ์



     -  ปัญหากลั้นปัสสาวะไม่อยู่หรือปัสสาวะเล็ด ราด ทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณจุดซ่อนเร้น มีเชื้อรา ปัญหาของกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์



     -  ลักษณะของปากช่องคลอดไม่สวย มีรอยย่น ฉีกขาด หรือผิดรูปจากการคลอดบุตร ปัญหาแคมเล็กหรือแคมใหญ่ หย่อนยาน ยื่นยาวผิดปกติทำให้เจ็บเวลาสวมเสื้อผ้ารัดรูป เป็นต้น ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ มักทำให้คุณผู้หญิงสูญเสียความมั่นใจ วิตกกังวล มีเพศสัมพันธ์แย่ลง ทำให้กิจกรรมที่เคยทำอยู่เป็นประจำต้องงดไปและผู้หญิงหลายคนมักจะอายหากพูด หรือถามถึงเรื่องเหล่านี้ เช่น ไม่กล้าถามเกี่ยวกับการทำผ่าตัดรีแพร์ (Repair) จากอาการช่องคลอดไม่กระชับหรือผิดปกติ หรือการสูญเสียความพึงพอใจทางเพศกับคู่สมรส



     โชคดีที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการทำ "ศัลยกรรมตกแต่งทางนรีเวช" เพื่อแก้ไขปัญหาของจุดซ่อนเร้นดังกล่าว เริ่มเป็นที่นิยม และได้รับการยอมรับจากสังคมมากขึ้น ปัจจุบันการผ่าตัดได้มีการพัฒนาเทคนิควิธีการที่ทันสมัยมากขึ้น และยังได้มีการนำ เลเซอร์ มาช่วยในการผ่าตัด ทำให้อันตรายและการเกิดภาวะแทรกซ้อนในการทำมีน้อย ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจยิ่งขึ้น




ปัญหาของจุดซ่อนเร้น...แก้ไขได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

     >> ตกแต่งช่องคลอด (Posterior Vaginal Repair)
     >> แก้ไขช่องคลอดหย่อนยาน หรือกระบังลมหย่อน (Anterior and Posterior Vaginal Repair)
     >> แก้ไขช่องคลอดหย่อนยาน หรือกระบังลมหย่อน โดยใช้แผ่นพยุง (Anterior and Posterior Vaginal Repair with Prosima Mesh)
     >> ตกแต่งปากช่องคลอด (Perineoplasty)
     >> ตกแต่งเยื่อพรหมจารี (Hymenoplasty)
     >> ตกแต่งช่องคลอดในคนที่ไม่เคยมีบุตร (Vaginoplasty หรือ VG)
     >> ตกแต่งรอยย่นที่ผิวหนังระหว่างปากช่องคลอดถึงทวารหนัก (Perineal Plasty)
     >> ตกแต่งแคมเล็ก (Labia Minora Reduction)
     >> ตกแต่งหนังคลุมคลิตอริส (Clitoral Hood Reduction)
     >> ตกแต่งแคมใหญ่ หรือ แก้ไขแคมใหญ่ผิดรูปจากการฉีดซิลิโคน (Labia Majora Reduction (Labia Lift) or Labia Majora Reconstruction)
     >> ผ่าตัดยกมดลูก (Suprapubic uterine Suspension)
     >> ผ่าตัดแก้ไขปัสสาวะเล็ด (TVT-O/TOT/ Single Incision Sling) เป็นเทคนิคใหม่ในการรักษาภาวะปัสสาวะเล็ดโดยใช้แผ่นเทปพิเศษที่ไม่ละลาย คล้องพยุงท่อปัสสาวะไม่ให้หย่อนคล้อยอาการจะดีขึ้นทันทีมากกว่า 90%
     >> เสริมบริเวณจี-สปอตให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจทางเพศ (G-Spot Augmentation)
     >> ฉีดไขมันอวัยวะเพศหญิง (Labia Lipofilling)




ล้วงลึก...เทคนิคการรักษาบริเวณจุดซ่อนเร้นที่คุณอยากรู้แต่ไม่กล้าถาม

     ผ่าตัดกระชับช่องคลอด (Vaginoplasty / Posterior Vaginal Repair) การผ่าตัดกระชับช่องคลอด หรือการผ่าตัดตกแต่งช่องคลอด มีวัตถุประสงค์ เพื่อกระชับกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่หย่อนยานในช่องคลอด พร้อมทั้งตัดผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดออกเพื่อให้ขนาดหรือเส้นผ่านศูนย์กลาง ของช่องคลอดเล็กลง ส่งผลให้ช่องคลอดเล็กลงและกระชับมากขึ้น




     การผ่าตัดกระชับช่องคลอด เป็นการผ่าตัดในรายที่มีการหย่อนของผนังช่องคลอดส่วนหลัง หรือการหย่อนของผนังช่องคลอดส่วนหน้า ซึ่งมีสาเหตุการเกิดเช่นเดียวกัน ได้แก่ การคลอดบุตร ไอเรื้อรัง ท้องผูกเป็นเวลานาน และโรคอ้วน อาการที่เกิดขึ้น ได้แก่ อาการปวดหน่วงในอุ้งเชิงกราน ท้องผูกมีลมในช่องคลอด หรือมีอาการไม่กระชับขณะมีเพศสัมพันธ์ รอยนูนภายในช่องคลอดอาจเกิดจากการหย่อนคล้อยของผนังช่องคลอดส่วนหน้าหรือ ส่วนหลัง หรือทั้งสองส่วนพร้อมกรัม การผ่าตัดต้องอาศัยการเย็บติดเพื่อรวบเนื้อเยื่อเข้าด้วยกัน โดยมีการใช้แผ่นพยุงตาข่ายพิเศษร่วมด้วย ซึ่งพบว่าประสบความสำเร็จในการแก้ไขภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนสูงถึง 95%





ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 03 ตุลาคม 2554    
Last Update : 3 ตุลาคม 2554 12:14:15 น.
Counter : 579 Pageviews.  

เทคโนโลยี ช่วยคุณกำจัดเนื้อปลิ้นๆ ให้คุณได้

เทคโนโลยี ช่วยคุณกำจัดเนื้อปลิ้นๆ ให้คุณได้




     คงจะเป็นปัญหาใหญ่เลยใช่ไหมค่ะสำหรับสาวๆ ที่ถ้าเกิดหากว่าคุณใส่ชุดชั้นในแล้วเนื้อแทบจะปลิ้นออกมาเลย คงจะแย่ใช่ไหมถ้าเกิดมันเป็นแบบนั้น คงจะต้องหาวิธีการจัดการเนื้อปลิ้นๆ เหล่านี้ให้สิ้นซาก วันนี้เราจะพาไปดูเหล่าเทคนิคที่ใช้จัดการเนื้อปลิ้นๆ เหล่านี้กันค่ะ






สาเหตุ

     เราอาจเห็นว่าบางคนมีรูปร่างสมส่วนดีเมื่อมองจากภายนอก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะผอมเพรียวไร้ไขมัน เพราะ สำหรับบางคนนั้นพบว่า มีเนื้อปลิ้นที่แผ่นหลัง และบั้นเอวที่สังเกตได้ชัดเจนเมื่อสวมใส่ชุดชั้นใน แทนที่จะเป็นกล้ามเนื้อกระชับ เข้ารูป ซึ่งเป็นปัญหาเมื่อคุณต้องอวดหุ่นในชุดว่ายน้ำ รวมทั้งความเสื่อมของคอลลาเจนและอิลาสติน ด้วยปัจจัยของอายุที่ทำให้ ผิวหย่อนคล้อย การออกกำลัง เพื่อกระชับสัดส่วนอาจเป็นวิธีที่ต้องใช้เวลานาน แต่ก็ให้ผลที่ค่อนข้างแน่นอนและดีกับสุขภาพ แต่หากใครคิดว่าเกินเยียวยา ก็มีวิธีลัดในการขจัดปัญหานี้




นวัตกรรมใหม่ๆ ในการสลายไขมันใต้ผิวกายและยกกระชับผิว

     Zerona เป็นเลเซอร์ที่อุณหภูมิไม่สูง จึงรู้สึกสบายขึ้นในระหว่างทำ ทำงานโดยส่งพลังงานเข้าหลอมละลายไขมันภาย ใต้ชั้นผิวหนัง จากการที่เซลล์ไขมันยากต่อการทำลาย เพราะมีผนังเซลล์ปิดกั้นไม่ให้ไขมันถูกปลดปล่อยออกมา เพื่อเข้าสู่ระบบ หมุนเวียน และขับเป็นของเสียออกจากร่างกายการ จะดูดไขมันออกก็ยังจะต้องใช้เลเซอร์เจาะเข้าไปทำลายผนังเซลล์ไขมัน เพื่อให้มันกลายเป็นของเหลว และสามารถดูดออกมาได้ วิธีการใหม่นี้ ไม่ต้องเจาะ แต่ใช้พลังงานเลเซอร์ที่ออกแบบมาเฉพาะ ฉายผ่านผิวหนังลงไปทำลายผนังเซลล์ไขมัน และทำให้ไขมันกลายสภาพเป็นของเหลวด้วยการหลอมละลายเซลล์ไขมัน เมื่อ เซลล์ไขมันกลายเป็นของเหลว ก็จะถูกดูดซึมและขับออกจากร่างกายในรูปของของเสียได้อย่างง่ายดาย




     ราคาเริ่มต้นประมาณ 50,000 บาท/6 ครั้ง




     Tri-Polar เป็นการนำเทคโนโลยีของ Uni-Polar และ Bi-Polar มารวมกันเป็น Tri-Poalar เพื่อให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่า ทำให้สามารถกระตุ้นเซลล์ได้ลึกถึง 2 ระดับชั้น ทั้งชั้นหนังแท้และชั้นไขมัน ใช้คลื่นวิทยุ Radio Frequency (RF ในการปรับ ฟื้นฟูสภาพผิว ที่ส่งกระแสไฟฟ้าคลื่นความถี่วิทยุเข้าไปกระตุ้นเซลล์ เพื่อให้คอลลาเจนใต้ผิวเรียงตัวกันใหม่ ซึ่งทำให้ผิวหนังมี ความแข็งแรงและยืดหยุ่นดีขึ้น ความหย่อยคล้อยและริ้วรอยลดลง วิธีนี้มักจะรักษาทุกสัปดาห์ติดต่อกัน 8 ครั้ง และรักษาซ้ำ เดือนละครั้งอีกประมาณ 3 ครั้งก็จะเริ่มเห็นผล



     ราคาคอร์สละประมาณ 30,000 บาท





ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 29 กันยายน 2554    
Last Update : 29 กันยายน 2554 11:10:41 น.
Counter : 635 Pageviews.  

สวยทั่วเรือนร่างหลังเผชิญแดดวันพักร้อนสิ้นปี

สวยทั่วเรือนร่างหลังเผชิญแดดวันพักร้อนสิ้นปี




     กลับมาจากพักร้อนทั้งที ไม่ต้องกังวลใจกับผิวหน้า ผิวกาย และผมที่ตรากตรำแสงแดดมาเต็มที่คุณสามารถดูแลผิวให้กลับมาสวยเช้งได้ไม่ยาก แล้วคราวนี้ไม่ว่าจะร้อนครั้งหน้าหรือครั้งไหนๆ คุณก็พร้อมสนุกได้เต็มที่กับซัมเมอร์แล้ว






ใบหน้า

     เรียกคืนความชุ่มชื้น

          หลังจากผิวหน้าต้องเจอกับทั้งแดด ลม และความร้อน ผิวก็จะเสียความชุ่มชื้นไปมาก จึงควรเติมความชุ่มชื้นเพื่อฟื้นฟูผิวด้วยการมาส์กหน้า ลองเลือกมาส์กที่มีส่วนผสมของน้ำ แร่ธาตุจากทะเล หรืออะโลเวร่า รวมทั้งส่วนผสมของสมุนไพรที่มีส่วนช่วยด้านริ้วรอย เช่น รากจากหัวมัน หรือสารสกัดจากทับทิม ที่จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นที่หายไปและกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิว ขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวกระชับขึ้น และเพื่อการบำรุงอย่างเต็มที่ควรมาส์กหน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ซึ่งการมาส์กหน้าก่อนใช้ครีมบำรุงผิวตอนกลางคืนจะช่วยให้ผิวนุ่มและซึมซับ สารอาหารจากสกินแคร์ได้ดีและล้ำลึกยิ่งขึ้น



     ปราบริ้วรอยและอนุมูลอิสระ

          ผิวที่บอบบางบริเวณใต้ตานั้นจะสังเกตเห็นความหมองคล้ำจากแสงแดด ได้อย่าง ชัดเจนกว่าส่วนอื่นๆ ซึ่งนอกจากรอยหมองคล้ำแล้ว ยังเกิดริ้วรอยได้ง่าย มันจึงต้องการการบำรุงพิเศษด้วยอายครีมที่จะเติมเต็มความชุ่มชื้นจากส่วนผสม ของกรดไฮยาลูรอนิก สารสกัดจากสาหร่ายที่ให้ความเย็นแก่ผิว หรือสารสกัดอื่นๆ เพื่อบรรเทาเซลล์ผิวส่วนที่โดนแสงแดดทำร้ายและควบคุมให้เซลล์ผิวภายในเป็น ปกติ สำหรับผิวที่เกิดอาการต่อต้านแสงแดดจนเกิดเป็นรอยแดง ลองใช้สเปรย์ Thermal Water ที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากพืช โอเมก้า-3 และกรดไขมันที่ช่วยให้เกราะคุ้มกันผิวมั่นคงขึ้น สำหรับการบำรุงประจำวัน สกินแคร์เนื้อฟลูอิดเหลวๆ นั้นเหมาะที่ใช้จะกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว และฟื้นฟูเซลล์ผิวที่โดนแดด สำหรับสกินแคร์ต่อต้านริ้วรอยแบบที่มีสารต้านอนุมูลอิสระนั้นจะช่วยกระตุ้น การสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้เช่นกัน จึงควรทาครีมทั้งตอนเช้าและก่อนนอน เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอย




ผิวกาย

     ผิวสีแทนแสนเซ็กซี่ และผิวคล้ำแดดกลับมาสดใสได้อีกครั้ง

          สำหรับสาวที่นิยมผิวสีแทนช่วงซัมเมอร์ เพราะทำให้ผิวดูเปล่งประกายและสุขภาพดี ถ้าหากไม่อยากให้ผิวสีแทนจากคุณเร็วเกินไป คุณก็สามารถรักษาผิวสีแทนเอาไว้ได้ โดยระหว่างการอาบน้ำไม่ควรแช่น้ำนานๆ หรือใช้ครีมอาบน้ำเข้มข้นซึ่งจะเป็นการชะล้างให้ผิวชั้นนอกสุดแห้งลงไปอย่าง รวดเร็ว แต่ควรใช้สบู่เหลวที่เป็นสูตรอ่อนโยนหรือแบบเจลอาบน้ำ ที่จะไม่ชะล้างไขมันไลปิดออกไปจากผิวชั้นนอก รวมทั้งไม่อาบน้ำ อุณหภูมิสูง และเลี่ยงการอาบน้ำนานๆ ดังนั้น สำหรับสาวที่อยากจะชะล้างสีแทนออกไปเพื่อให้ผิวกลับมาขาวใสดังเดิม ก็ลองใช้วิธีตรงกันข้ามด้วยการอาบน้ำนานๆ และขัดผิวด้วยสครับ อย่างเช่น สครับจากนมสดหรือมะขามเปียกดูสิ



     ผิวนุ่มชุ่มชื่นกลับคืนมา

          สิ่งที่ผิวสูญเสียไปเมื่อโดนแดดในช่วงซัมเมอร์ก็คือความชุ่มชื้น แสงแดดทำให้น้ำในผิวระเหยไป ดังนั้น ครีมหรือโลชั่นจึงจำเป็นมาก รวมทั้งคนที่อยากให้ผิวดูเป็นสีแทนก็ต้องรักษาความชุ่มชื้นไว้ด้วยการทาครีม หลังจากอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ลงไปบนผิวที่ยังชุ่มชื่น โดยโลชั่นที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุจากทะเล เช่น คาเลียมและแมกนีเซียม จะช่วยเพิ่มระดับความชุ่มชื้นในผิวได้ ส่วนสารอื่นๆ เช่น ยูเรียและคาร์นิทินจะช่วยเติมน้ำให้แก่ผิว รวมทั้งรักษาระดับไลปิดในผิวเอาไว้ อะโลเวร่าหรือว่านหางจระเข้ น้ำมันดอกทานตะวัน และน้ำมันอัลมอนด์ ก็เป็นส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมในการทำหน้าที่เป็นมอยสเจอไรเซอร์ด้วย




ผม

     ฉายประกายเงางามได้อีกครั้ง

          ทั้งสายลม แสงแดดแผดจ้า และน้ำจากทะเลหรือสระว่ายน้ำ ซึ่งมีคลอรีน ล้วนเป็นปัจจัยให้ผมไม่ได้พักร้อนเหมือนอย่างที่คุณได้พักร้อน ผมจึงอาจกระด้างและขาดความเงางามได้ ดังนั้น คุณจึงควรเริ่มบำรุงผมอย่างพิถีพิถันและระวังทั้งการสระผม เป่าผม หรือการแต่งทรง ซึ่งควรให้ผมได้พักบ้าง ไม่ควรทำมากเกินไป เพราะผมจะยิ่งแห้งเสีย ในการหวีผมควรใช้หวีซี่ห่างๆ สางผมเพื่อคลายปมที่พันกัน โดยเริ่มหวีจากด้านล่างขึ้นมาด้านบนศีรษะ และเลี่ยงการหวีแรงๆ เพื่อไม่ให้ผมขาดส่วนแปรงแต่งผมไม่ควรใช้แปรงที่เป็นโลหะหรือวัสดุที่แข็ง และหยาบกระด้าง แปรงที่เหมาะควรเป็นเส้นใยธรรมชาติ ผสมกับเส้นใยสังเคราะห์ และหากคุณจะใช้ไดร์เป่าผมให้ใช้ที่อุณหภูมิต่ำๆ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดปล่อยให้ผมแห้งเองดีกว่า



     ดูแลรักษาผมแห้ง

          แชมพูสูตรอ่อนโยนแต่อุดมด้วยคุณค่าการบำรุงเส้นผมนั้นจำเป็นอย่าง มาก ซึ่งผมทำสีควรใช้แชมพูสำหรับบำรุงผมทำสีโดยเฉพาะ เพื่อบำรุงสีผมให้ติดทนนานและไม่ซีดจาง แชมพูที่มีชิมเมอร์เพิ่มพิกเมนต์ให้สีผมจะช่วยให้สีผมเปล่งประกายเงางามได้ สำหรับผู้มีรังแค ปัญหาอาจบานปลายขึ้นได้เมื่อกลับจากพักร้อน เพราะหนังศีรษะจะแห้งจนเกิดความแปรปรวนขึ้น ดังนั้น นอกจากบำรุงผมแล้วแชมพูที่ใช้ยังต้องมีประสิทธิภาพในการกำจัดรังแคด้วย



     บำรุงแม้ยามหลับ

          ทุกๆ การสระผม 3-4 ครั้ง แทนที่จะใช้ครีมนวด ให้ใช้มาส์กบำรุงผมเข้มข้นที่จะช่วยปิดช่องเกล็ดผมเล็กๆ ที่ถูกเปิดออก เพื่อให้เกล็ดผมเรียงตัวแน่นสวยและเงางามยิ่งขึ้น และควรหมักผมเป็นประจำทุกสัปดาห์ อาจใช้สเปรย์หรือซีรั่มสูตรเข้มข้นซึ่งสามารถชโลมทิ้งไว้ข้ามคืนฉีดเส้นผม ให้ทั่ว แล้วล้างออกในตอนเช้า ซึ่งครีมหมักผมก็สามารถหมักทิ้งไว้ข้ามคืนได้เช่นกัน และช่วงปลายผมคือส่วนที่บอบบางเพราะมีอายุมากที่สุด จึงควรนวดบำรุงอย่างเบามือทุกครั้ง





ที่มา : www.doctorskinhouse.com




 

Create Date : 28 กันยายน 2554    
Last Update : 28 กันยายน 2554 11:07:26 น.
Counter : 448 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  

YangJing
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







Friends' blogs
[Add YangJing's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.